ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HaeEun | "We Got Married" แต่งงานกันไหมผู้ชายของผม!

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 6 : กล้อง

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ย. 55


    © Tenpoints!
     

     

     

     

     

     

     



     

    Chapter 6

    กล้อง

     

     



     

     

    กล้องพร้อมแล้ว นักแสดงรับเชิญทุกท่านเชิญเข้าประจำที่ด้วยครับ

    “MC อีทึกพร้อมนะครับ?

    พร้อมแล้วครับ ร่างโปร่งขานตอบก่อนจะอ่านทวนสคริปท์ในมืออีกครั้งขณะที่ใครบางคนกำลังยืนกอดอกมองเขาอยู่ห่างๆ การเป็น MC หลักในรายการสตาร์คิงทำให้อีทึกต้องพยายามมากขึ้นเป็นเท่าตัวอีกทั้งฮยอกแจก็ไม่ได้เป็น MC ร่วมกับเขาแล้ว ตอนนี้ที่มีงานคู่กันก็แค่จัดรายการวิทยุกับสตรองฮาร์ทเท่านั้น คิ้วหนาขมวดเข้าหากันพร้อมกับขยับปากอ่านตามสคริปท์อย่างตั้งใจ

    นี่คุณ

    อีทึกเงยหน้าขึ้นก่อนจะเบะปากเมื่อเห็นใบหน้าของผู้จัดการส่วนตัวอีทงเฮ...ใช่แล้วล่ะ วันนี้อีทงเฮก็มาเป็นแขกรับเชิญในรายการด้วย

    นึกว่าถูกผีหลอก ถ้าเกิดผมช็อคตายน้ำลายฟูมปากขึ้นมานี่ยุ่งกันทั้งห้องส่งเลยนะคุณ อีทึกกลอกตา นั่นทำให้คนที่ยืนมองอยู่เส้นกระตุกนิดๆ

    ดีเจอึนฮยอกไม่ได้เป็น MC ที่นี่แล้วหรือไง?

    เลิกไปสักพักแล้ว พอดีว่าหมอนั่นก็งานยุ่งส่วนผมก็ย้ายมาแทนพี่โฮดง...ว่าแต่มีอะไรกับน้องผม คงไม่ได้มาหาเรื่องมันหรอกนะ? ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แต่อีกฝ่ายกลับยืนกอดอกนิ่ง อีทึกยิ้มเมื่อถูกมองด้วยสายตาเยือกเย็น

    เมื่อวานโกซึงจีทำกองถ่ายปั่นป่วนไปหมด

    หือ...ใครคือโกซึงจี?

    ก็อีทงเฮนั่นแหละ พอหมอนั่นได้รับข้อความก็โวยวายขอให้เริ่มถ่ายทำกันต่อทั้งที่ทุกคนอยู่ในเวลาพัก

    อ้อ...อย่างนี้นี่เอง อีทึกพยักหน้า

    เพราะดีเจอึนฮยอกใช่ไหม?

    หืม? ว่าไงนะ? อีทึกก้มหน้าอ่านสคริปท์ต่อนั่นเรียกน้ำโหจนฮีชอลต้องแย่งไปถือไว้เอง เขาเลิกคิ้วมองอีกฝ่ายอย่างงงๆ ก่อนจะถอนหายใจแล้วแบมือมาตรงหน้า

    ผมต้องแสตนด์บายแล้วนะคุณ เอาคืนมา

    ผมถามน่ะไม่ได้ยินเหรอ?

    ถ้าใช่แล้วจะทำไม สามีภรรยาเขาจะติดต่อกันบ้างมันก็เป็นเรื่องปกตินี่...

    แล้วตอนนั้นมันใช่เวลาไหม? เขาควรจะรู้จักกาลเทศะมากกว่านี้สิ แล้วอีกอย่าง...พูดผิดพูดใหม่ได้นะดีเจอีทึก

    พูดอะไร

    สามีภรรยาอะไรกัน นั่นมันก็แค่การแสดง สองคนนั้นจะเป็นคู่รักกันก็ต่อเมื่อกล้องจับภาพอยู่เท่านั้น

    อื้อหือ...นี่ปากคุณเหรอ...ฟังไม่ได้เลยนะคำพูดแต่ละคำเนี่ย อีทึกทำท่าไล่กลิ่นพลางปัดจมูกเบาๆ เมื่อได้ยินประโยคแสลงหู คิมฮีชอลก็เป็นซะอย่างนี้ จริงจังกับทุกเรื่องจนไม่รู้ว่าอะไรควรตลกอะไรควรคิดจริง

    ผมไม่ได้อยากให้คุณฟัง แต่คุณต้องหัดเตือนน้องคุณบ้าง อีทงเฮไม่ใช่ไอดอลว่างงานที่จะได้เที่ยวส่งข้อความหาคนอื่นในเวลางานแบบนี้นะ

    น้องผมก็งานยุ่งเถอะคุณ ถึงเจ้านั่นจะเป็นแค่ดีเจแต่ถ้ามันเอาจริงๆ ก็เดบิวท์เป็นดารานักร้องได้เหมือนกันนั่นแหละ แล้วทงเฮบ่นสักคำหรือยังคุณถึงได้ออกตัวเป็นเดือดเป็นร้อนแทนแบบนี้น่ะ เป็นพ่อเขาป่ะ...ก็ไม่? อีทึกทำหน้าเหยเกใส่อีกฝ่ายเชิงกวนประสาท คิมฮีชอลเบือนหน้าหลบไปอีกทางแล้วหันกลับมามองหน้าร่างโปร่งอีกครั้ง

    ยังไงมันก็เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องเตือนเขา หรือว่าจะให้ผมเป็นคนพูดเอง?

    คุณรู้เรื่องลึกตื้นมากแค่ไหนถึงได้เอาแต่ว่าน้องผมไม่หยุดเลยน่ะ ผมถามหน่อยเถอะ...ถ้าเกิดคนที่ส่งข้อความไปไม่ใช่ฮยอกแจล่ะ?

    ถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะเป็นใครอีก ก็เจ้าเด็กนั่นกระตือรือร้นทุกทีที่ได้ยินเรื่องของดีเจอึนฮยอกนี่

    อ้อเหรอ... อีทึกอุทานออกมาเบาๆ ในขณะที่คิมฮีชอลเพิ่งรู้ตัวว่าได้พลาดหลุดปากพูดออกไป แบบนี้ไม่วายไอ้หมอนี่คงคิดว่าเขาเผด็จการทั้งที่อีทงเฮก็สนใจดีเจอึนฮยอกอยู่แน่ๆ

    ไม่ใช่ฮยอกแจหรอก

    .................

    คนที่ส่งไปน่ะผมเองแหละ อีทึกพูดเสียงเรียบก่อนจะแย่งสคริปท์จากมือเรียวกลับมา ร่างโปร่งเดินไปข้างหน้าได้สามก้าวก็เอี้ยวตัวหันกลับมามองใครอีกคนที่แสดงสีหน้าไม่พอใจเงียบๆ

    น้องผมไม่ใช่คนที่ชอบสร้างความเดือดร้อนให้ใครนอกจากตัวเอง เพราะฉะนั้นอย่าพูดจาเอาแต่ใจแบบนั้นให้ผมได้ยินอีก ฮีชอลยืนนิ่งพลางมองตามแผ่นหลังของอีกคนที่กำลังเดินเข้าไปในห้องส่ง...

     

    เสียงหัวเราะของนักแสดงรับเชิญดังไปทั่วห้องส่งเพราะ MC เจ้าของฉายารอยยิ้มนางฟ้ากำลังเล่นมุขตลก ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มต่างกับสีหน้านิ่งเฉยเมื่อครู่ที่มีให้เขานั้นบ่งบอกถึงความเป็นมืออาชีพ ทั้งที่อายุเท่ากันแต่เขากลับเป็นฝ่ายมองอีทึกตั้งแต่เข้าวงการใหม่ๆ ตั้งแต่อีทึกยังมีสไตล์การแต่งตัวแบบบ้านๆ ไร้รสนิยมไปจนถึงการแต่งหน้าทำผม...นานมากแล้วที่คิมฮีชอลมองการเติบโตของผู้ชายคนนี้

    มีปัญหาอะไรกับ MC อีทึกหรือเปล่าครับคุณฮีชอล? สตาฟหนุ่มคนหนึ่งเดินมาถามเมื่อเห็นทั้งคู่มีปากเสียงกันเมื่อก่อนหน้านี้ ถึงแม้จะไม่ได้ยินว่าทะเลาะอะไรกันแต่ก็เข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง

    เปล่าครับ เราแค่ทักทายตามประสาคนรู้จักกันมานานน่ะ

    ร่างบางหันไปยิ้มก่อนจะมองเข้าไปในห้องส่ง...มองคนในความดูแลที่กำลังหัวเราะไปกับรายการที่อีทึกพยายามเอ็นเตอร์เทรนด์อยู่ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดรับ

    สวัสดีครับ

    ...ว่าไงนะครับ?

    ครับ...แล้วผมจะรีบไปให้เร็วที่สุด พอวางสายแล้วก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับเรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ เขาเก็บมือถือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วพยายามสงบสติอารมณ์

    จนได้สินะ... พึมพำกับตัวเองแล้วมองไปยังคนในดูแลที่กำลังหัวเราะจะเป็นจะตายกับการแสดงของแขกรับเชิญ

     

     

    โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าหายนะกำลังมาเยือนเขากับดีเจอึนฮยอกแล้ว...

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    ฮยอกแจ

    อี...ฮยอกแจ

     

    ร่างบางค่อยๆ ลืมตาขึ้นก่อนจะยกมือบังแสงแดดที่ส่องเข้ามาในตัวห้อง หันไปมองข้างๆ ก็พบกับเพื่อนสนิทที่กำลังรูดผ้าม่านออกพร้อมกับรอยยิ้ม

    บ่ายสองแล้ว นายคิดจะนอนไปถึงเมื่อไหร่น่ะ ร่างบางเบิกตาโพลงก่อนจะดีดตัวลุกขึ้นนั่งแต่ก็ต้องกุมขมับทันทีกับอาการปวดจี๊ดขึ้นสมอง รู้สึกหน่วงๆ อย่างบอกไม่ถูก

    เบี้ยวนัดฉันแล้วไปดื่มกับพี่อีทึกแบบนี้ฉันควรงอนนายกี่วันดีล่ะหื้ม? ซองมินนั่งลงบนขอบเตียงพร้อมกับจ้องหน้าคนที่นั่งหัวฟูอยู่ ฮยอกแจชำเลืองมองคนข้างๆ แล้วเม้มริมฝีปากเล็กน้อย

    ถ้าฉันเป็นนายฉันจะงอนแค่หนึ่งนาที ฮยอกแจพูดเบาๆ ก่อนจะหัวเราะลั่นห้องเมื่อถูกอีกคนผลักให้ลงไปนอนบนเตียงพร้อมกับรัวจี้เอวไม่หยุด

    ฮ่าๆ ยอมแล้วๆ ซองมินอ่า~ ขอร้องล่ะหยุดเถอะ ฮ่าๆ

    ก็ได้ แต่คืนนี้นายต้องเลี้ยงมื้อดึกฉันนะ

    หือ...มื้อดึก...นายจะรอจนฉันจัดรายการเสร็จเลยเหรอ? ฮยอกแจเอี้ยวหน้าหันกลับไปมองคนที่นอนกอดเขาจากข้างหลัง ซองมินพยักหน้าหงึกพร้อมกับกระชับกอดเพื่อนสนิท

    อ้วนตัวจะแตกตายอยู่แล้วยังจะกินมื้อดึกอีก ลดน้ำหนักบ้างสิ ฮยอกแจยิ้มบางๆ แล้วหันหน้ากลับมาอีกครั้งก่อนที่รอยยิ้มบนใบหน้าจะจางหายไปเมื่อพบว่าที่นอนข้างๆ นั้นว่างอยู่

     

    ภาพเมื่อคืนมันค่อยๆ ฉายมาเป็นฉากๆ แววตาคู่นั้น...รอยยิ้ม...เสียงหัวเราะ...กอด...จูบ

     

     

    อีฮยอกแจรู้ตัวดีว่าเมื่อคืนเขาทำอะไรลงไป...เพราะต่อให้เมามากแค่ไหนเขาก็จำได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับทงเฮ แต่เขาก็เลือกที่จะปล่อยให้มันเป็นไปตามความรู้สึกเบื้องลึกของหัวใจ บางทีเขาอาจจะเหนื่อยล้าที่จะวิ่งหนีความรู้สึกนี้แล้วก็ได้...เหนื่อยจนลืมคิดไปว่าถ้าตื่นขึ้นมาแล้วจะเป็นยังไง ทงเฮจะมองหน้าเขาได้เหมือนปกติหรือเปล่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน

     

    ฮยอกแจ

    อื้ม

    นายต้องเล่นรายการนี้ไปอีกนานแค่ไหน

    ...ไม่รู้สิ อาจจะสามสี่เดือนล่ะมั้ง

    งั้นเหรอ

    มีอะไรหรือเปล่า

    เปล่า ฉันก็แค่เป็นห่วงนาย...คงอึดอัดแย่ที่ต้องมีกล้องคอยจับภาพอยู่ตลอดไม่ว่าจะไปที่ไหน

    ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก ตอนแรกก็มีเกร็งๆ บ้างแต่หลังๆ ก็เริ่มชินแล้วล่ะ ฮยอกแจพลิกตัวเข้าหาอีกคนพร้อมกับจ้องหน้า ซองมินยิ้มบางๆ แล้วขยี้หัวเพื่อนสนิท

    ว่าแต่นายเข้ามาได้ยังไง

    เดินสวนกับอีทงเฮพอดีน่ะ เขาเลยกลับมาเปิดประตูให้ฉัน

    แล้ว...นายมานานหรือยัง ฮยอกแจถาม จริงๆ ไม่ได้อยากรู้เรื่องของซองมิน เขาก็แค่อยากรู้ว่าทงเฮออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่เท่านั้น

    สักเก้าโมงเห็นจะได้

    ...อ้อ พอนึกถึงใครอีกคนแล้วจู่ๆ ก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา เพียงแค่คิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากันอีกครั้ง จนถึงตอนนี้แล้วเขาคงไม่ต้องคิดหาข้อแก้ตัวเพราะสิ่งที่ทำลงไปนั้นมัน...

    นายนั่งรอฉันตั้งแต่เช้าเลยเหรอ คงเบื่อแย่เลยสิ ที่นี่ไม่มีเกมให้เล่นซะด้วย

    ช่างมันเถอะ ว่าแต่นายน่ะ

    หื้ม...ว่าไง

    ทำไมถึงเมาขนาดนั้น คำถามนี้ทำเอาร่างบางชะงัก มันก็ไม่แปลกที่ซองมินจะสงสัยเพราะตั้งแต่รู้จักกันมาเขาก็ใช่ว่าจะเป็นคนชอบดื่มเสียเมื่อไหร่ หนำซ้ำยังปฏิเสธคนอื่นเวลาถูกชวนไปสังสรรค์อีกด้วย

    อ๋อ...ก็

    หืม? ซองมินเพ่งมองคนตรงหน้าเค้นเอาคำตอบ เขาไม่สนหรอกว่ามันจะทำให้ฮยอกแจอึดอัดกับคำถามนี่หรือไม่

    .................. พูดไม่ออก ไม่อยากโกหกเพื่อนแต่ก็ไม่อยากพูดความจริงเหมือนกัน เพราะดูแล้วซองมินก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ถ้าเขาจะชอบอีทงเฮ ขืนบอกไปคงโดนบ่นไปดาวเสาร์แน่

    นายดูมึนๆ นะ...ยังปวดหัวอยู่เหรอไง? โอบใบหน้าเพื่อนสนิทเอาไว้แล้วส่ายหน้าไปมาก่อนจะดึงแก้มให้ยืดออกทั้งสองข้าง ฮยอกแจโอดครวญแล้วตีมืออีกคนให้คลายออก

    เจ็บนะ

    นายจะได้ตื่นสักทีไง ไปอาบน้ำเถอะวันนี้เรามีหลายที่ๆ จะต้องไปด้วยกัน

    เอ๋? ไปไหน? ฮยอกแจกระพริบตาปริบๆ พร้อมกับลุกขึ้นยืนตามแรงดึงของซองมิน ริมฝีปากได้รูปยิ้มบางๆ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อไหมพรมสีครีมมาทาบตัวให้อีกคน

     

     

     

    ไปที่ๆ มีแต่ฉันกับนาย

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    สนุกไหม? ซองมินถามพลางหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังเหม่อลอยอยู่ ฮยอกแจเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เริ่มออกมาจากคอนโด วันนี้เขาคะยั้นคะยอถามฮยอกแจไปไม่รู้กี่รอบเกี่ยวกับเรื่องเมื่อคืนแต่เจ้านี่ก็เอาแต่บ่ายเบี่ยงไปเรื่องอื่นตลอด แต่ถ้าจะให้เดา...ก็พอจะเดาออก

    สนุกสิ ดูหนังฟรีซะอย่าง ฮยอกแจยิ้มบางๆ แล้วหยิบมือถือขึ้นมาดูไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ ตอนนี้รอยยิ้มบนใบหน้าของซองมินกำลังค่อยๆ เลือนหายไปทีละนิด

     

     

    ทั้งที่เพิ่งมีเวลาได้อยู่ด้วยกันสองคนแต่ฮยอกแจกลับเอาแต่คิดถึงคนอื่น...

     

     

    เรื่องทงเฮใช่ไหม

    .................. เรียวขาหยุดชะงักนั่นทำให้ซองมินเอี้ยวตัวหันกลับไปมองเพื่อนสนิทที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น

     

    กะแล้วไม่มีผิด...

     

    นายคงเห็นฉันเป็นคนอื่น ถึงได้ปิดบังกันแบบนี้ ฮยอกแจเบิกตาโพลงก่อนจะรีบเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ ซองมินพร้อมกับจับแขนอีกฝ่ายเอาไว้

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะ ฉันไม่ได้อยากปิดบังอะไรนายเลยสักนิด

    แล้วนี่มันอะไรกันล่ะ นายเล่นไม่พูด เหม่อไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ นายทำให้ฉันรู้สึกว่ากำลังฝืนใจให้นายมาเที่ยวด้วยกัน

    ฮยอกแจงอหน้าพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ตัวว่าเขาผิดปกติจนซองมินสังเกตได้ แต่เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนั่นแหละที่ทำให้เขาต้องมาปวดหัวแบบนี้

     

    คือว่าฉัน...

     

    RRRRrrrrr!!!

    ยังไม่ทันได้เล่าอะไรมือถือในกระเป๋ากางเกงก็ดังเสียก่อน ฮยอกแจหยิบมันขึ้นมาแล้วก็พบว่าปลายสายคืออีทึก มือเรียวกดรับพลางมองหน้าซองมินที่ยืนกอดอกรอคำตอบจากเขาแล้วเอานิ้วจิ้มแก้มนิ่มอีกคนเบาๆ

     

    ( ฮยอกแจ แกอยู่ไหนน่ะ? )

    ผมเพิ่งดูหนังกับซองมินเสร็จน่ะ พี่มีอะไรหรือเปล่า?

    ( มีสิ ท่าทางจะเรื่องใหญ่ซะด้วย )

    เรื่องใหญ่?

     

    ( ฉันได้ยินสตาฟแอบคุยกันว่าทงเฮถูกพีดีเรียกไปที่ตึกเอสบีเอส )

    ...................

    ( ตอนแรกก็คิดว่าคงถูกเรียกไปเรื่องภารกิจ แต่พอฟังดีๆ แล้วเหมือนจะเกิดเรื่องกับหมอนั่นเมื่อคืนนะ ฉันก็ไม่รู้ว่าเจ้าพวกนั้นมันไปเอาข่าวนี้มาจากไหน แต่ฉันแนะนำให้แกโทรถามทงเฮจะดีที่สุด )

     

     

    เกิดเรื่อง...เมื่อคืน...?

    ถ้าเกิดเรื่องทางต้นสังกัดก็ต้องเรียกทงเฮไปสิ ไม่ใช่พีดีรายการ WGM

     

     

    โอเค...ขอบคุณมากนะพี่

    ( เออ ฉันก็เริ่มเอะใจตั้งแต่เห็นคิมฮีชอลเข้ามาลากตัวทงเฮออกจากห้องส่งตั้งแต่อัดรายการเสร็จแล้ว ยังไงก็รีบโทรหาหมอนั่นแล้วกัน )

    ครับ

     

     

    ฮยอกแจวางสายแล้วก็กดโทรออกหาทงเฮในทันที ซองมินปรามมืออีกคนลงพลางจ้องหน้าด้วยแววตาจริงจัง

    เกิดเรื่องอะไรขึ้น

    ไม่ใช่ตอนนี้ซองมิน ฉันต้องโทรหาทงเฮก่อนร่างบางแกะมืออีกคนออกแล้วกดโทรหาทงเฮใหม่ ระหว่างรอสายก็คิดไปต่างๆ นานา ว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อคืนนี้ทงเฮมีถ่ายละคร...เขาจำได้

    รอสายอยู่นานแต่ทงเฮก็ไม่รับสักที ซองมินเบิกตากว้างเมื่อจู่ๆ ฮยอกแจก็วิ่งออกไปจากตรงนั้น เขาวิ่งตามร่างบางไปจนถึงชั้นล่าง ฮยอกแจโบกแท็กซี่แล้วรีบขึ้นไปนั่งในขณะที่ซองมินวิ่งเข้ามาทุบกระจกหวังจะให้อีกฝ่ายเปิดประตูแต่ฮยอกแจก็แสดงสีหน้าขอโทษขอโพยเขาก่อนที่แท๊กซี่จะออกตัวไป

    ให้ตายเถอะ...” ซองมินอุทานอย่างหัวเสีย เขาพยายามไม่แสดงออกแล้วนะว่าวันนี้เขารู้สึกแย่แค่ไหนที่ฮยอกแจเป็นแบบนี้

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    ( ฮัลโหล )

    ทงเฮ! นายอยู่ไหน?

    ( นี่ไม่ใช่อีทงเฮ )

    ...พี่ฮีชอล

    ( โทรมาก็ดีแล้วล่ะ ฉันกำลังจะโทรหานายอยู่พอดี )

    ...................

    ( ฉันจะบอกนายว่าทงเฮจะบินไปญี่ปุ่นก่อนกำหนดสามวัน เขามีถ่ายแบบที่นั่นนายคงรู้ใช่ไหม? )

    ครับ ผมรู้...แล้วเรื่องถ่ายละครล่ะครับ...

    ( ฉันเพิ่งเคลียร์เสร็จไปเมื่อกี้ แต่นายไม่ต้องห่วงหรอกทุกอย่างเรียบร้อยดี ส่วนเรื่องถ่ายทำรายการของนายสองคนก็คงเลื่อนไปก่อน )

    ตอนนี้ทงเฮอยู่ไหนเหรอครับ ผมอยากคุยกับเขา ฮยอกแจลดน้ำเสียงลงราวกับรู้คำตอบในอีกไม่ช้า ร่างบางจ่ายเงินค่าแท็กซี่ก่อนจะลงมาจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าไป แต่ยังไม่ทันเข้าถึงตึกเอสบีเอสก็ต้องพบกับแฟนคลับของทงเฮจำนวนหนึ่งยืนดักรออยู่จำนวนหนึ่ง

    ( เขาไม่ว่าง )

    ประโยคนี้ทำให้ขาเรียวหยุดยืนอยู่กับที่ แต่สิ่งที่เรียกสติเขากลับคืนมานั่นก็คือเสียงรถตู้สีดำที่กำลังเคลื่อนตัวออกมาท่ามกลางเสียงแฟนคลับที่กรีดร้องเรียกชื่อทงเฮ นัยน์ตาเรียวมองตามรถตู้ที่กำลังขับผ่านไปหากแต่ไม่สามารถมองเห็นคนที่อยู่ในนั้นได้

     

    ทงเฮโอป้า!”

    โอป้า!!!”

     

     

    ร่างบางค่อยๆ ลดมือลง ในตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่าคนในปลายสายกำลังพูดอะไรอยู่ ฮยอกแจก้าวไปข้างหน้าแล้วเอนหลังพิงกำแพง ตอนนี้แฟนคลับกลุ่มนั้นยังไม่เห็นเขาและถ้าเห็นก็คงถูกเข้ามารุมสาดคำถามใส่แน่ๆ

     

    ฉันไม่เชื่อหรอก เมื่อคืนพี่สาวฉันบอกว่าทงเฮโอป้าไปถ่ายละครตั้งแต่สิบโมงเช้าจนถึงดึกเลย เขาจะเอาเวลาไปไหนเดทกับแฟนสาวกันล่ะ?

    ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน ถ้าเธอมีตัวตนก็ต้องมีคนรู้จักสิ...หรือว่าจะเป็นคนนอกวงการล่ะ?

    แล้วถ้ามีคนเห็นจูบกันจริงๆ ก็ต้องมีคนปล่อยรูปออกมาแล้ว

    เราจะเชื่อได้แค่ไหนว่าข่าวนี้เป็นเรื่องจริง ช่วงนี้พวกแอนตี้แฟนยิ่งชอบปั่นกระแสอยู่ด้วย

    ฉันไม่รู้แหละ แต่ฉันไม่ยอมให้ทงเฮโอป้าไปจูบกับผู้หญิงที่ไหนแน่!”

     

     

    จูบ...กับผู้หญิง?

     

     

    ขอโทษนะคะ ทงเฮโอป้าจูบกับใครเหรอ? ฮยอกแจหันไปมองตามเสียงนั้นเมื่อนั่นคือคำถามเดียวกับที่เขาอยากรู้ เด็กสาวคนหนึ่งที่เพิ่งจะเลิกเรียนกำลังเข้าไปถามแฟนคลับกลุ่มนั้น

    ก็จะอะไรซะอีกล่ะ เมื่อตอนสายมีคนปล่อยข่าวมาว่าทงเฮโอป้าถ่ายละครเสร็จแล้วก็ไปรับผู้หญิงคนหนึ่ง

    เขาจูบเธอด้วย

    จูบ?!”

    ใช่...จากข่าววงในน่ะ

    ไม่นะ ทงเฮโอป้าของฉัน! แค่เป็นข่าวกับโบอาออนนี่ตอนนั้นฉันก็จะเป็นบ้าตายอยู่แล้ว ไม่เอานะ!”

     

     

    ถ่ายละครเสร็จแล้วไปรับผู้หญิง...

    จูบ...

    ตึกเอสบีเอส...

     

     

    อ๊ะ! นั่นอึนฮยอกโอป้านี่! อึนฮยอกโอป้าคะ อย่าเพิ่งไป!!”

    เสียงตะโกนเรียกชื่อไล่ตามหลังขณะที่ฮยอกแจกำลังวิ่งเข้าไปในตึกเอสบีเอส เขาไม่รู้ว่าเรื่องนั้นจะจริงหรือไม่...แต่เขารู้อย่างเดียวว่าคนที่อยู่กับทงเฮเมื่อคืนและคนที่จูบทงเฮก็คือ...

     

     

    เขา...

     

    อึนฮยอกโอป้า!”

    ไม่จริงหรอกครับ!” ฮยอกแจหยุดยืนอยู่หน้าประตูทางเข้าพร้อมกับหันไปบอกแฟนคลับที่กำลังวิ่งเข้ามา

    ดูเหมือนว่าทุกคนจะได้ยินอะไรมาผิดๆ แล้วล่ะ... ฮยอกแจมองไปยังกลุ่มแฟนคลับสาวที่กำลังยืนฟังเขาอยู่

    เอ๋...

    ยังไงน่ะ...

    เพราะเมื่อคืนทงเฮมารับผมกลับคอนโดด้วยกันทันทีที่เขาถ่ายละครเสร็จแล้ว...เพราะฉะนั้นเขาคงไม่มีเวลาไหนไปเดทกับผู้หญิงหรอกครับ ฮยอกแจยิ้มเพื่อให้แฟนคลับกลุ่มนั้นสบายใจ ตอนนี้เขากำลังพยายามปกป้องทงเฮทุกวิถีทางเพราะเขาเริ่มจะมั่นใจแล้วล่ะว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น...

     

     

    มันเป็นเพราะใคร...

     

     

    เอ๋?

    เออจริงด้วย! มีคนอัพข่าวแล้วว่าเมื่อคืนเจอทงเฮโอป้าที่ร้านเนื้อย่าง เด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังง่วนอยู่กับมือถือพูดขึ้นมา

    ไปกับอึนฮยอกโอป้าแล้วก็อีทึกโอป้าด้วย

    โหยให้ตายเถอะ ใครเป็นคนปล่อยข่าวบ้าๆ เนี่ย!”

     

    ประเด็นถกเถียงและเสียงฮือฮาของแฟนคลับทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าฮยอกแจเริ่มจางหายไป เขาโค้งให้กับแฟนคลับกลุ่มนั้นก่อนจะเข้าไปในตึกเอสบีเอส อยากรู้เหมือนกันว่าทงเฮคุยอะไรกับพีดีนิมก่อนออกไป

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    พีดีคะ ดีเจอึนฮยอกมาหาค่ะ

    อ้าว มาถึงนี่เลยเหรอดีเจอึนฮยอก พีดียิ้มพร้อมกับผายมือให้ฮยอกแจนั่งบนโซฟาฝั่งตรงข้ามขณะที่เขากำลังนั่งจิบชาร้อนยามเย็น

    ผมเร่งแอร์ให้นะ เห็นร่างบางเหงื่อโทรมกายแบบนี้แล้วเขาก็พอเข้าใจอะไรขึ้นมา เขาลุกขึ้นเดินไปรินน้ำเย็นก่อนจะเอามาวางให้กับฮยอกแจ

    ขอบคุณครับ

    อืม... พีดีมองเด็กหนุ่มที่กำลังดื่มน้ำพร้อมกับยิ้มบางๆ

    ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นคนสลายม๊อบคนจับปลาข้างล่างนั่น เขาพูดติดตลก ฮยอกแจหัวเราะน้อยๆ แล้วหลุบสายตาลง

    ที่ผมมาที่นี่...

    เรื่องทงเฮใช่ไหม?

    ฮยอกแจช้อนตามองอีกฝ่ายก่อนจะพยักหน้าช้าๆ เป็นคำตอบ ร่างสูงใหญ่เอนตัวพิงกับพนักโซฟาแล้วประสานมือไว้บนตัก

    ผมควรบอกคุณหรือเปล่า...

    .................

    ผมลำบากใจเรื่องนี้มาก ถ้าเกิดบอกคุณไปเกรงว่ามันจะเสียผู้ใหญ่

    ต้องบอกครับ

    คุณกำลังทำให้ผมเป็นนกสองหัวนะดีเจอึนฮยอก

    ทำไมถึงพูดแบบนั้นล่ะครับ ผมก็แค่อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับทงเฮ ทำไมเขาถึงต้องบินไปญี่ปุ่นล่วงหน้าสามวัน

    ทางต้นสังกัดเขาบอกมาแบบนี้ ตารางงานของทงเฮรวนไปหมดเพราะถูกเปลี่ยนกระทันหัน พีดีลดสีหน้าลง เขาถอนหายใจเล็กน้อยเมื่อนึกถึงหน้าเด็กซนๆ คนหนึ่งที่เขาเอ็นดู

    เกิดอะไรขึ้นกับเขาเหรอครับพีดี... ฮยอกแจถามเสียงแผ่ว เริ่มใจไม่ดีแล้ว กลัวว่าสิ่งที่จะได้ยินในอีกไม่ช้ามันจะทำให้เขาต้องโทษตัวเองไปมากกว่านี้

    เพราะ...

    ......................

    ...เรื่องที่คุณจูบกับเขาเมื่อคืน

    ......................

     

     

     

    รู้สึกวูบตรงหน้าอกข้างซ้ายเมื่อเขาพยายามทบทวนกับประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่ ทำไมพีดีถึงรู้ว่าเขาจูบกับทงเฮ เท่าที่จำได้เขากับทงเฮจูบกันที่...

     

     

    คอนโด...

    ที่มีกล้อง...จับภาพอยู่...

     

     

     

    บ้าจริง... ฮยอกแจสบถพร้อมกับก้มหน้าลงกุมขมับราวกับคนคิดไม่ตก กะแล้วว่าต้องเป็นเพราะเขา เรื่องนี้มันเป็นเพราะเขา ทงเฮกำลังจะเดือดร้อนเพราะความงี่เง่าของเขา...

    ถ้าผมเห็นคนเดียวเรื่องราวมันคงไม่เป็นแบบนี้แต่ก็อย่างว่า...สตาฟที่เช็คกล้องก็มีหลายคน ตอนแรกที่รู้ผมก็สั่งกำชับแล้วว่าอย่าแพร่ข่าวนี้ที่ไหนเพราะมันจะทำให้คุณกับทงเฮเดือดร้อนกันได้

    .....................

    ผู้จัดการฮีชอลบอกผมว่าเขายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับทางต้นสังกัด เขาย้ำให้ผมเหยียบเรื่องนี้เอาไว้และขอเลื่อนเวลาถ่ายทำไปสักพัก

    ผม...

    อย่าโทษตัวเองเลย เพราะทงเฮเขาคงไม่อยากให้คุณต้องรู้สึกแย่เหมือนกัน ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายด้วยความประหลาดใจ

    อะไรนะครับ?

    เขากำชับผมว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับคุณโดยเด็ดขาด ถ้าเกิดผมบอก...เขาจะยกเลิกถ่ายทำ WGM อย่างถาวร

     

     

    ทงเฮ ฉันเตือนนายแล้วใช่ไหม?

    ครับ ผมฟังประโยคนี้มานับไม่ถ้วนแล้ว

    แล้วยังไง เห็นไหมว่าเดือดร้อนกันหมด อนาคตของนายมันดับลงได้ง่ายๆ เลยนะ!’

    แต่ตอนนี้ผมยังไม่ดับนี่ครับ เทปถูกลบแล้วพี่ก็ได้ยินที่พีดีพูดไม่ใช่เหรอ และต่อให้มีคนกู้ขึ้นมาได้ผมก็มีทางเอาตัวรอดอยู่ดี ถ้ามันได้ออกอากาศจริงๆ ก็ให้ทางรายการเมคขึ้นมาก็ได้ว่าเป็นจูบกุ๊ดไนท์คิส

    กุ๊ดไนท์บ้าอะไรนัวเนียกันขนาดนั้น

    ทงเฮสไตล์ครับ

    อย่ามาปั้นหน้ากวนประสาทใส่ฉันนะ...นี่ฉันต้องขอบคุณนายใช่ไหมที่ไม่เผลอทำเรื่องอย่างว่าลงไป?

    ก็เกือบแล้วล่ะแต่ผมชั่งใจไว้ได้ทัน

    อีทงเฮ!’

    โอเค โอเค อยู่ใกล้กันแค่นี้จะเสียงดังไปไหน เห็นหรือเปล่าว่าพีดีนิมเขานั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้

    ค่อยๆ พูดกันนะผู้จัดการคิม อย่างน้อยตอนนี้ผมก็สั่งสตาฟทุกคนแล้วว่าห้ามให้คลิปหลุดออกไป และถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดจริงๆ ผมจะเป็นคนรับผิดชอบเอง

    ไม่ต้องหรอกครับ เพราะสิ่งที่ผมอยากให้พีดีนิมรับผิดชอบมีอยู่อย่างเดียว ทงเฮพูดพร้อมกับจ้องหน้าเขา

    หืม?

    อย่าบอกเรื่องนี้กับดีเจอึนฮยอกก็พอ ผมอยากให้มันเป็นความลับไปตลอดชีวิต

    เหอะ ความลับงั้นเหรอ? ฮีชอลแค่นหัวเราะ

    เพราะถ้าเขารู้เขาต้องคิดมากแล้วก็โทษตัวเองแน่ๆ

    มันก็สมควรแล้วนี่ ทำผิดก็ต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป นั่นคือสิ่งที่มนุษย์ควรจะทำ

    รับปากผมสิ

    ฉันไม่อนุญาตให้นายไปเจอหน้าดีเจอึนฮยอกตลอดสองอาทิตย์จนกว่าฉันจะแน่ใจว่าข่าวนี้ซาไปแล้วจริงๆ

     

     

    ...................

    ผมจะไม่ถามเรื่องระหว่างคุณสองคน และถ้าจะมีคนผิดคนๆ นั้นคงไม่ใช่ใครนอกจากคนที่จับคุณสองคนมาคู่กันซึ่งมันก็คือผมเอง พีดียิ้มบางๆ ฮยอกแจเริ่มทำอะไรไม่ถูก จนถึงตอนนี้เขาก็ยังคิดว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นเพราะเขา

    ผม...

    เจ้าเด็กนั่นเป็นห่วงคุณมากนะดีเจอึนฮยอก เพราะฉะนั้นอย่าโทษตัวเองอีกเลย

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    แกร๊ง!

    เสียงทัพพีกระทบกับกระทะพร้อมกับไฟที่ลุกโชนขึ้นมาจนพ่อครัวจำเป็นต้องผละตัวออกห่างๆ ร่างหนาชะเง้อหน้าดูไข่เจียวในกระทะที่เขาลงมือทอดเป็นจานที่สามแล้วก็ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะพลิกมันกลับแล้วก็พบว่าไข่ข้างล่างไหม้เกรียมไปแล้ว

    โธ่...ข้างบนกำลังสวยเลย พึมพำกับตัวเองแล้วก้มลงไปผ่อนแก๊ซลง จริงๆ ก็มีเตาแก๊ซไฟฟ้าแต่เขาไม่ใช้ เหตุผลเพราะมันไม่สะใจ

    ตอนนึ้คงไม่มีอะไรทำให้อีทงเฮสงบได้นอกจากการทำอาหารแล้ว เมนูสารพัดอย่างที่ทำด้วยไข่ถูกจัดเรียงไว้บนโต๊ะอาหารในคอนโดกว้างที่มีเพียงหนึ่งชีวิตที่อาศัยอยู่

    ผู้จัดการส่วนตัวกลับไปแล้ว กว่าจะได้พักหูก็นั่งแหง่กไปเกือบสามชั่วโมงไม่รู้บ่นอะไรนักหนา ก็เข้าใจว่าเป็นห่วงเรื่องอนาคตของเขาแต่ใครจะไปนึกถึงกล้องที่ติดอยู่ในห้องนอนกันล่ะ ป่านนี้ไม่รู้อึนฮยอกจะเป็นยังไงบ้าง มือถือก็ถูกพี่ฮีชอลยึดไปแล้วด้วย...

     

     

    หืม...แต่เขายังมีอินเตอร์เนตนี่!

     

     

    ว่าแล้วก็ปิดเตาแก๊สแล้ววิ่งไปเปิดโน๊ตบุ้คเพื่อใช้อินเตอร์เนต ล็อคอินเข้าทวีตเตอร์แล้วดีเอ็มหาซีวอนทันที

     

     

    D siwon407 ขอเบอร์ยอโบหน่อย

     

     

    เคาะนิ้วชี้ลงบนโต๊ะระหว่างรออีกฝ่ายตอบกลับมาแต่ดูเหมือนว่าจะไร้วี่แวว เขาเริ่มอยู่ไม่สุขเมื่อความกังวลเริ่มประดีประดังเข้ามา ซีวอนมันจะเห็น DM หรือยังนะ ถ้ามันยังไม่เห็นก็พอจะเข้าใจเพราะงานมันยุ่งมาก แต่กลัวมันจะเห็นแล้วแกล้งทำเป็นไม่เห็นนี่สิ...

     

     

    ไม่ได้การ...เห็นทีว่าเขาจะรอความหวังกับไอ้หมอนั่นคนเดียวไม่ได้แล้ว

     

     

    D GaemGyu คยูฮยอนจ๋า...ขอเบอร์ดีเจอึนฮยอกหน่อย~

    D Special1004 พี่ทึกจ๋า...ขอเบอร์ดีเจอึนฮยอกหน่อย~

    D shfly3424 พี่เยซองจ๋า...ขอเบอร์ดีเจอึนฮยอกหน่อย~

    D ShinsFriends พี่ชินดงจ๋า...ขอเบอร์ดีเจอึนฮยอกหน่อย~

    D ryeong9 รยออุคจ๋า...ขอเบอร์ดีเจอึนฮยอกหน่อย~

     

     

     

    ก๊อบแปะ ก๊อบแปะจนครบทุกคนที่สนิทกับอึนฮยอกแล้วแต่ขาดอยู่คนเดียวคือซองมิน เขาก็อยากจะ DM หาหรอกนะแต่ติดที่ว่าซองมินไม่ได้ฟอลเขากลับนี่สิ จะเมนชั่นไปถามก็กลัวแฟนคลับเห็นอีก ถ้าจะสมัครแอคใหม่ซองมินก็คงไม่เชื่อ ชีวิตอีทงเฮมันช่างยากเหลือเกิน...

     

    shfly3424 ซื้อแว่นก่อนแล้วจะบอก

    D shfly3424 บาย!!!

     

    ทำไมคนที่ตอบคนแรกต้องเป็นคนที่พูดจาภาษาคนไม่รู้เรื่องด้วยวะเนี่ย ทงเฮเกาหัวอย่างหงุดหงิดก่อนจะขมวดคิ้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จอ เมื่อเห็นคนๆ หนึ่งตอบ DM กลับมา

     

    GaemGyu แย่มากนะที่กล้ามาขอเบอร์ผู้ชายคนอื่นกับผม

    D GaemGyu ไม่เอาน่า!!!! ไม่หาเรื่องงอนพี่นะจุ๊บ!!!^^

    GaemGyu -_-

    D GaemGyu ขอเบอร์ดีเจอึนฮยอกหน่อยน๊า~~~~^^

    GaemGyu ผมเกลียดพี่ ลาก่อน 82499061755xx

    D GaemGyu น่ารักมากเดี๋ยวเจอกันแล้วจะให้หอมแก้มทีนึงเลย

    GaemGyu ไปตายเถอะครับ

    D GaemGyu โอเคจุ๊บ!!!

     

     

    ริมฝีปากหยักยิ้มกว้างแล้วก้มหน้าก้มตาจดเบอร์ใส่โพสอิทที่วางอยู่ข้างๆ ก่อนจะถีบโต๊ะเพื่อเลื่อนเก้าอี้โซฟาไปหาโทรศัพท์บ้านที่วางอยู่ข้างทีวีจอใหญ่ เอาหูแนบโทรศัพท์ไว้กับหัวไหล่พลางกดเบอร์โทรทีละตัวอย่างตั้งใจ แต่ทันใดนั้นเสียงออดตรงประตูก็ดังขึ้น เขารีบวางสายก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าประตู

    เกาหัวอย่างหงุดหงิดเมื่อนึกถึงหน้าใครอีกคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามประตูห้อง ใบหน้าบูดบึ้งของคิมฮีชอลที่พบเจอมาทั้งวันทำให้เขาเริ่มเอียนจนไม่อยากทนฟังเสียงบ่นด่าของผู้จัดการส่วนตัวคนนี้อีกแล้ว

     

    พี่ลืมของ...เหรอ...

     

    ทันทีที่ประตูเปิดออกนัยน์ตาคมก็เบิกกว้างอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อเห็นอึนฮยอกยืนอยู่ตรงหน้าเขา ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครเอ่ยพูดอะไรออกมาแม้แต่คำทักทายก็ยังไม่มี

    อ...อ้าว...อันนยอง!” เป็นทงเฮที่ตั้งหลักได้ก่อน เขายิ้มพร้อมกับโบกมือทักทายหากแต่คนตรงหน้านั้นกลับยืนนิ่งเฉย ทงเฮชะเง้อหน้ามองออกไปข้างนอกดูว่ามีใครตามอึนฮยอกมาหรือเปล่าก่อนจะลดสีหน้าลง

    เข้ามาข้างในก่อน ทงเฮคว้าข้อมือเล็กเอาไว้แล้วพาอึนฮยอกเข้ามาในห้อง ทันทีที่ประตูปิดลงเขาก็ถอนหายใจออกมาจนแทบหมดปอด ไม่อยากจะเชื่อว่าร่างบางจะมาหาเขาที่นี่

    นายมาที่นี่ได้ยังไง? ไม่มีท่าทีคนขี้เล่นเหมือนอย่างเคย เขามองอึนฮยอกที่กำลังยืนหันหลังให้กับเขาอยู่แล้วก็เริ่มเอะใจ

    ผมนั่งแท็กซี่มาน่ะ

    โอเค...เข้าไปนั่งข้างในก่อนสิ เดี๋ยวผมเอาน้ำมาให้ดื่ม ยังไม่ทันก้าวออกไปไหนไกลเขาก็ต้องหยุดชะงักเมื่อถูกอีกฝ่ายคว้าข้อมือเอาไว้ ทงเฮหันไปมองอึนฮยอกที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่แล้วก็ไม่อยากจะคิดไปเองเลยว่าคนตรงหน้าเขากำลังเป็นอะไร

     

    1.ที่มาเพราะอยากเคลียร์เรื่องจูบเมื่อคืน

    2.มาเพราะได้ยินเรื่องเขาจากปากพีดี

     

    ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะกลับแล้ว

    ......................

    บอกตรงๆ ว่าเขาไม่ชินเลยสักนิดกับเหตุการณ์อึดอัดแบบนี้ เพราะเวลาที่เขาทั้งคู่อยู่ด้วยกันมักจะมีแต่เสียงหัวเราะและเสียงบ่นของอึนฮยอกตลอด

    ทานข้าวกันไหม ผมทำไว้เยอะแยะเลยนะ ทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นราวกับคิดค้นเมนูระดับโลกที่เชฟกระทะเหล็กยังคิดไม่ได้ เขาเดินเข้าไปในครัวพร้อมบ่นพึมพำกับสิ่งที่เขาทำทิ้งไว้

    ฮยอกแจบีบมือตัวเองแน่นไม่รู้จะเริ่มพูดอะไรก่อนดี เขาควรขอโทษที่จูบทงเฮเมื่อคืน แล้วก็ขอโทษที่ทำให้ตารางงานของทงเฮวุ่นวาย สีหน้าทงเฮตอนที่เจอเขามันไม่เหมือนกับทุกครั้ง บางทีทงเฮอาจจะรำคาญที่เขาก่อปัญหาให้ก็ได้...

    ขณะที่กำลังนั่งรอใครอีกคนที่กำลังตบตีกับเครื่องครัวอยู่ก็พลันหันไปเห็นโน๊ตบุ้คที่เปิดค้างไว้ และไม่รู้ว่าอะไรดลใจทำให้ร่างบางเดินไปดูมัน คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันก่อนจะเพ่งมองจอเมื่อเห็นบทสนทนาระหว่างทงเฮกับคยูฮยอน...

     

    ทงเฮ...ขอเบอร์เขางั้นเหรอ...

     

    พอปิดหน้าจอนี้ไปก็พบว่าไม่ใช่แค่กับคยูฮยอน อีทงเฮยังไล่เที่ยวขอเบอร์เขากับคนอื่นอีกด้วย ในตอนนี้อีฮยอกแจกำลังรู้สึกสับสนไปหมด ทั้งที่กำลังรู้สึกแย่เพราะการกระทำของตัวเองแต่จู่ๆ ก็รู้สึกดีขึ้นมาได้กับเรื่องแค่นี้...

     

    ย๊าห์!!!” ทงเฮรีบวิ่งมาปิดฝาโน๊ตบุ้คลงพร้อมกับจ้องหน้าเขาตาปริบๆ ฮยอกแจผงะเล็กน้อยก่อนจะค่อยๆ ชูมือขึ้นระดับหัวไหล่ทั้งสองข้างเพื่อบอกเป็นนัยๆ ว่าเขาเปล่าทำอะไร

    โน๊ตบุ้คผมมันใกล้จะพังแล้ว ถ้าเอานิ้วแตะจอนี่ช็อตทันทีเลยล่ะ

    โอเค...ผมจะไม่แตะมัน ฮยอกแจยิ้มแห้งๆ ก่อนจะถอยหลังกลับไปที่โซฟาแล้วก็พบว่าเมนูไข่สารพัดได้ถูกวางไว้ตรงนั้นแล้ว

    ...............

    ...............

    ทันทีที่เห็นสภาพไข่เจียวแล้วอีฮยอกแจถึงกับพูดไม่ออก ร่างบางเงยหน้ามองเชฟกระทะไหม้สลับกับเมนูไข่แล้วก็เครียด

     

    จะมีใครมาหานายหรือเปล่า

    ไม่มีหรอก ทำไมเหรอ

    เห็นนายทำซะเยอะแยะเลยคิดว่าจะมีคนมากินด้วยซะอีก

    โธ่ ของแค่นี้ผมกินคนเดียวยังหมดเลยยอโบ ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมาเมื่อได้ยินอีกฝ่ายเอ่ยเรียกเขาด้วยศัพท์นามเดิม ทงเฮเดินมานั่งข้างๆ เขาพร้อมกับรินน้ำให้

    มาก็ดีเหมือนกัน ฝีมือผมพัฒนาขึ้นเยอะแล้วนะ ดูสิ ทงเฮยิ้มพร้อมกับใช้ตะเกียบคีบไข่เจียวขึ้นมาให้ดู

    ผมขอโทษ มือหนาหยุดชะงักเมื่ออีกฝ่ายตอบผิดประเด็น ใบหน้าคมค่อยๆ หันไปมองอีกฝ่ายแล้วก็หัวเราะออกมา

    ไม่เป็นไรน่า ถึงยอโบจะเคยบ่นเรื่องฝีมือการทำอาหาร...

    ผมหมายถึงเรื่องจูบ

    ...................

    ที่ผม...จูบนาย ไข่เจียวร่วงลงจากตะเกียบทันที

    จูบ!!!!!!!! ว่าไงนะ!!!!!!!!!!” ทงเฮหันเข้าหาอีกฝ่ายพร้อมกับจับหัวไหล่บางทั้งสองข้างด้วยสีหน้าเกินจริง

    ..................

    ใครจูบใคร?!!!”

    ทงเฮ...ผมไม่ตลก

    แน่นอนอยู่แล้ว ถึงผมจะอยากเป็นนักแสดงตลกแต่ใช่ว่าผมจะเป็นคนตลกนะ ทงเฮเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย

    ผมจูบนายเมื่อคืน...ชัดไหม? ฮยอกแจยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ ทำให้เจ้าตัวกลอกตาไปมาเป็นเชิงกวนประสาท

    จูบ? เมื่อไหร่กัน นี่ยอโบฝันไปหรือเปล่า... ทงเฮมองคนตรงหน้าด้วยสายตาหวาดๆ ฮยอกแจถอนหายใจแล้วแกะมือหนาออกจากไหล่ตัวเอง

    อย่ามาทำไขสืออีทงเฮ ผมกำลังจริงจังอยู่นะ เพราะเรื่องนี้มันอาจทำให้นายต้องเสียชื่อเสียงเพราะผมได้ถ้าเกิดมีคลิปหลุดออกไป

    คลิปหลุดอะไรกันพีดีนิมย้ำกับผมแล้วว่าจะจัดการให้ แต่เดี๋ยวนะ...ยอโบไปรู้เรื่องนี้มาจากไหน?ทงเฮขมวดคิ้วพร้อมกับชี้หน้าร่างบาง ฮยอกแจเบือนหน้าหลบไปอีกทางแล้วกอดอก

    เฮ้! ตาลุงนั่นคงไม่ได้...?

    ความจำกลับคืนมาแล้วเหรอไง? ฮยอกแจมองไอ้คนชอบแถด้วยสายตาเอือมระอา

    โธ่เอ๊ย...อุตส่าห์ย้ำแล้วย้ำอีกว่าอย่าบอกๆ ตบหน้าผากตัวเองแล้วเอนหลังพิงกับพนักโซฟา

    อย่าโกรธพีดีเลย ถ้าผมไม่ดันทุรังคาดคั้นเอาคำตอบจากเขาผมก็คงไม่รู้เรื่องอะไรเลยไง? ฮยอกแจแค่นยิ้ม

    ใช่ นายไม่ควรไปคาดคั้นเขา ทงเฮชี้หน้าร่างบางพร้อมกับเพ่งมอง ฮยอกแจปัดมืออีกฝ่ายออกอย่างรำคาญแล้วหันตัวเข้าหาร่างหนา

    แล้วยังไง ผมเป็นคนก่อเรื่องนี้ขึ้นมานะ จะให้ผมเป็นไอ้โง่ที่ไม่รับรู้ปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นผมทำไม่ได้หรอก

    ผมจัดการได้น่า ทงเฮกอดอกแล้วมองตรงไปข้างหน้า

    ไม่ได้

    ได้

    ก็บอกว่าไม่ได้ไง มันเป็นความผิดของผม ถ้าผมไม่จูบนายเรื่องราวมันก็คงไม่เป็นแบบนี้!”

    พูดจบริมฝีปากอิ่มก็ถูกปิดด้วยริมฝีปากของใครอีกคน ฮยอกแจเบิกตากว้างเมื่อถูกคุกคามโดยไม่ทันตั้งตัว ทงเฮผละตัวออกแล้วจ้องหน้าเขาเขม็ง

    ทีนี้ก็เสมอกันแล้วนะ

    ..................

    อะไร ทำหน้าแบบนั้นแสดงว่าอยากจูบอีกใช่ไหม -.-

    อีทงเฮ!!!” และแล้วปรอดความอดทนของฮยอกแจก็ระเบิดออกมา ร่างบางผลักคนตรงหน้าแล้วเข้าไปจิกหัวพร้อมกับโขกลงกับโซฟานั่นราวกับผีเข้า

    อะ...โอ๊ยยย ยอโบ!! หัวผม!!”

    ปัญหาเก่ายังไม่ทันแก้ก็หาเรื่องใหม่ใส่ตัวอีกแล้วเหรอ! ถ้าเกิดมีกล้องติดอยู่ในห้องนายจะทำยังไงห๊า!” ทั้งบ่นด่าทั้งจิกหัวทงเฮโขกกับโซฟาไม่หยุด

    มันไม่มีหรอกน่า! ถึงมีจริงๆ เขาก็คงได้ยินตอนที่นายสารภาพว่าจูบผมแล้ว...โอ๊ยยย!!”

    ฮยอกแจปล่อยมือออกทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้น เออ...ถูกของหมอนี่...

    คนอะไรรุนแรงชะมัด... ทงเฮบ่นงุบงิบพลางจัดเผ้าผมที่กระเซอะกระเซิงให้เข้าที่ ฮยอกแจหายเข้าใจลึกๆ แล้วคว้าแก้วน้ำมาดื่มดับอารมณ์

    ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็คงดี อีฮยอกแจขอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ประมาทจนเกิดเรื่องแบบนี้อีก แต่ถ้าคลิปนั้นหลุดออกมาจริงๆ เขาก็ทำใจไว้แล้วว่าถ้าจะมีคนดับเพราะเรื่องแบบนี้ก็ต้องไม่ใช่อีทงเฮ

    ถ้าผมจะต้องแย่เพราะเรื่องแบบนี้

    ฮยอกแจหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังง่วนอยู่กับไข่เจียวในจานพร้อมกับพยายามลอกส่วนที่ไหม้ออกแล้วหันมายิ้มกว้างก่อนจะป้อนให้กับเขา

     

     





     

     

    นาย...ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูผมไปตลอดชีวิตด้วย

     

     

     

     

     


     

     

     

    TALK

     

    กล้าอัพ

    ปล.เหตุเกิดจากตู้พูริคุระใน SS4 DVD Japan

    บาย

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×