ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] WonKyu ft.Donghae | "BLACK SWAN"

    ลำดับตอนที่ #7 : PART 6 : Jealous

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ค. 55


      

     

     

     

     

     

    PART 6

    ต่อให้ต้องแลกด้วยอะไร ต่อให้ต้องเจ็บปวดสักแค่ไหน

    แต่ผมบอกกับตัวเองแล้วว่า...ผมจะไม่มีทางยอมแพ้เกมนี้แน่

     

     

     

     

     

    สิ่งสำคัญที่นายไม่ควรลืมอีกข้อนั่นก็คือไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามถ้าเกิดหมอนั่นรู้ว่านายตายไปแล้ว...เกมนี้ก็จะจบลงทันที

     

     

    คุณได้รับข้อความจาก...

    ซีวอน

    [ อึนซอ...ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องรอนาน...ขอโทษนะครับ ]

     

    คุณกำลังส่งข้อความถึง...

    ซีวอน

    [ ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้โกรธคุณ ]

     

    วางมือถือลงที่โต๊ะข้างเตียงแล้วปิดโคมไฟ ถึงจะบอกว่าไม่ได้โกรธยังไงแต่ก็รู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่ไม่น้อยแต่อย่างซนอึนซอน่ะหรือจะพูดอะไรออกไปให้คนรักไม่สบายใจ ถ้าจะต้องมีใครสักคนรู้สึกแย่ สู้ให้เธอรับมันไว้คนเดียวเสียยังจะดีกว่า ร่างบางเอนลงนอนบนเตียงพลางถอนหายใจออกมา กว่าจะได้รับข้อความจากคนรักก็เวลาผ่านไปเกือบห้าชั่วโมง...ถ้าเกิดว่าเธอไม่โทรหาฮีชอลก็คงได้นั่งรอซีวอนต่อไปเรื่อยๆ

    ซีวอนใช่ว่าจะชอบออกนอกลู่นอกทางบ่อยเหมือนอย่างตอนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พยายามปลอบใจตัวเองว่าช่วงนี้ที่เขาเปลี่ยนไปคงไม่ใช่เพราะเรื่องผู้หญิง ตั้งแต่เข้าทำงานที่บริษัทซีวอนก็ทำให้เธอเชื่อใจในตัวเขามากขึ้นจนยากที่จะมีเรื่องผู้หญิงมาให้คิดมาก ไหนจะงานแต่งงานที่ใกล้เข้ามาถึงนี้ซีวอนคงไม่คิดทำเรื่องแบบนั้นแน่ๆ แต่ก็ได้แค่หวังว่าซีวอนจะอธิบายเรื่องที่เธอค้างคาใจอยู่ให้ได้ฟังบ้างสักครั้งโดยที่ไม่ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยถามเอง...

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    “Good Morning~”

    เช้าแล้วเหรอ?

    “YES ตอนนี้นายไม่ได้อยู่ในนรกนะที่จะได้ไม่รู้เดือนรู้ตะวันเลยน่ะ

    ตอนนี้กี่โมงแล้ว...

    บ่ายโมง

    บางทีคุณก็น่าจะตั้งใจเรียนตอนที่ยังมีชีวิตอยู่นะทงเฮ พูดจบก็ลืมตาขึ้นเผยให้เห็นใครอีกคนนอนอยู่ข้างๆ พร้อมกับรอยยิ้มทะเล้นเฉกเช่นเคย คยูฮยอนถอนหายใจก่อนจะพลิกตัวหันหลังหนี

    นายคงลืมไปแล้วว่าตอนที่ฉันมีชีวิตอยู่ภาษาอังกฤษยังไม่เข้าถึงเกาหลี ไหนจะพวกเทคโนโลยีล้ำสมัย เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มยังอยู่ในยุคสงครามโลกอยู่เลย น่าอิจฉามนุษย์ยุคนี้ชะมัด พูดพร้อมกับขยับเข้าไปนอนกอดอีกคนจากทางด้านหลัง คยูฮยอนแกะมือหนาออกอย่างรำคาญ

    งั้นคุณก็เรียนรู้เร็วดีนะ พูดจิกกัดมัจจุราชหนุ่มที่ทำตัวตามยุคตามสมัยได้ดีต่างจากยมทูตนายอื่นที่เขาได้รู้จักตอนที่ยังทำงานขัดดอกให้กับทงเฮในนรก

    ฉันฉลาดกว่าที่นายคิดนะโจคยูฮยอน

    หึ ผมเพิ่งรู้ก็วันนี้

    ไปอาบน้ำหน่อยไหม ตัวนายมีแต่กลิ่นสุราเมรัย มันคลุ้งไปทั่วทั้งห้องแล้ว พูดพร้อมกับซุกหน้าลงกับไหล่ร่างโปร่ง คยูฮยอนหยัดตัวลุกขึ้นแล้วเดินไปนั่งบนโซฟา

    เวอร์น่ะ วันนี้ว่างหรือไง?

    ฉันอยากว่าง ลุกขึ้นบิดขี้เกียจพลางป้องปากหาว บางทีคยูฮยอนก็นึกหมั่นไส้ยมทูตนายนี้ที่ชอบทำเกินตัว ร่างกายของเขาทั้งคู่ไม่จำเป็นต้องได้รับการพักผ่อน ถึงไม่ได้นอนพวกเขาก็ยังมีพลังงานใช้ต่างจากมนุษย์อย่างสิ้นเชิงแต่ที่คยูฮยอนนอนก็เพราะว่าอยากซึมซับของการเป็นมนุษย์อย่างที่เคยเป็นก็เท่านั้น...

    ทำหน้าแบบนั้นอีกแล้ว ทีตอนอยู่กับหมอนั่นเห็นยิ้มไม่หุบเลยนี่

    เลิกพูดสักที คยูฮยอนแสดงสีหน้าไม่พอใจเมื่อถูกจับได้ ตอนนี้เขากำลังเซ็งจนอยากหาอะไรทำสักอย่างเพื่อที่จะได้ไม่ฟุ้งซ่านอย่างที่เป็นอยู่

     

     

    อะไรก็ได้...

     

     

    มัจจุราชหนุ่มเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังร่างโปร่งที่นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับนวดไหล่ให้เบาๆ ก่อนจะโน้มหน้าลงไปกระซิบข้างใบหูคนที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด

    อยู่เฉยๆ แบบนี้ก็ปล่อยเวลาผ่านไปให้เสียดายเปล่าๆ ยังมีเรื่องสนุกให้นายได้ทำอีกเยอะน่าโจคยูฮยอน...

    ..............

    ไปสิ...ลุกขึ้นไปแต่งตัว นายจะมัวนั่งอยู่เฉยๆ แบบนี้ทั้งที่มีอะไรน่าตื่นเต้นรออยู่อย่างนั้นหรือ? ปลายนิ้วเกลี่ยไปตามพวงแก้มขาวซีด คยูฮยอนหลับตาลงตามนิมิตรจินตนาการที่มัจจุราชหนุ่มจงใจให้เขาได้เห็น...

     

     

    ซีวอน...กำลังจะไปเลือกแหวนแต่งงานกับอึนซอ...

     

     

    ไปทักทายว่าที่เจ้าสาวหมอนั่นหน่อยเป็นไง หืม? เสียงหัวเราะในลำคอที่พร่ำกระซิบอยู่ข้างหู...คยูฮยอนลืมตาขึ้นก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก

     

     

     

     

    ถึงเวลาที่เราต้องทำความรู้จักกันสักทีสินะ...ซนอึนซอ

     

     

     

     

     

     

    ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมืองซึ่งจะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากครอบครัวชเว พาแฟนสาวเดินช๊อปปิ้งให้อารมณ์ดี ซึ่งมันก็ได้ผลถึงแม้ว่าจริงๆ แล้วรอยยิ้มบนใบหน้าสวยนั่นไม่ได้เกิดจากของแบรนด์เนมที่ถืออยู่...แต่มันเกิดขึ้นได้เพราะคนข้างๆ ที่มาด้วยกันต่างหาก ร่างสูงหันไปยิ้มให้กับคนรักที่กุมมือเดินไปด้วยกันส่วนมืออีกข้างก็ถือกระเป๋าให้กับเธอ ใครเดินผ่านก็ต่างยิ้มในความเหมาะสมของทั้งคู่

     

    หิวหรือยังครับ?

    ยังเลยค่ะ ฉันอยากไปดูแหวนก่อน

    อืม...งั้นเราไปดูแหวนกันเลยดีไหม?

    ร่างบางยิ้มกว้าง...รอยยิ้มที่มีแต่ความสุข สุขจนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เคยจิตตกกับเรื่องซีวอนมากแค่ไหน ความกลัวทุกอย่างพลันหายไปหมดสิ้นเพียงแค่ซีวอนกลับมาใส่ใจเธอเหมือนเดิม

    ซีวอนชอบวงไหนคะ?

    ผมยังไงก็ได้ว่าแต่คุณน่ะชอบแบบไหน วงนั้นดีไหม? ชี้ไปที่แหวนเกลี้ยงไร้เพชร อัญมณีเหมือนวงอื่นๆ อึนซอทำหน้าคิดเมื่อใจไม่ตรงกันกับคนรัก

    ฉันชอบวงนี้น่ะค่ะ แต่มันคงไม่เหมาะกับนิ้วของคุณ ร่างบางหยิบแหวนที่พนักงานขายเอาขึ้นมาวางไว้บนตู้กระจกให้คนรักดูใกล้ๆ ซีวอนพลิกดูอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเห็นใครอีกคนเดินมาหยุดอยู่ข้างๆ อึนซอพร้อมกับยื่นถุงกระดาษแบรนด์ของร้านให้กับพนักงานขาย

    ผมขอเปลี่ยนไซส์ได้ไหมครับ ดูเหมือนว่าอีกวงมันจะเล็กเกินไป อึนซอหันหลังกลับไปมองอีกคนเมื่อเห็นว่าสายตาคนรักนั้นไม่ได้จดจ้องอยู่ที่แหวนในมือเหมือนในทีแรก

    ได้ครับ รอสักครู่นะครับ

    ขอบคุณมากครับ...อ้าว...สวัสดีครับซีวอน คยูฮยอนยิ้มให้ร่างสูงที่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ไม่คิดว่าจะได้เจอคยูฮยอนที่นี่ มันจะบังเอิญเกินไปแล้ว

    เพื่อนคุณเหรอคะซีวอน?

    อ่า...คือ...

    ในที่สุดสิ่งที่เขาไม่ต้องการให้เกิดมันก็เกิดขึ้นจนได้...ยากที่จะตอบออกไปว่าเป็นแค่ เพื่อนกันเพราะตัวเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่แค่นั้น ซีวอนและคยูฮยอนยังคงจ้องหน้ากันอยู่ เคยคิดที่จะบอกเรื่องนี้ให้คยูฮยอนอรู้...บอกว่าเขากำลังจะแต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่เพราะด้วยเหตุผลอะไรกันนะที่มันทำให้เขาไม่กล้าพูดเรื่องนี้ออกไป

    อาจเป็นเพราะซีวอนแคร์ความรู้สึกของคยูฮยอน มันก็ใช่...เขาแคร์คยูฮยอนมากในระดับหนึ่ง บางทีคยูฮยอนอาจจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะมีใครอยู่ข้างหลัง

     

     

    เพราะว่าผม...ยังไม่รู้สถานะของเราทั้งคู่เลยด้วยซ้ำ...

     

     

     

     

    สวัสดีครับ ผมโจคยูฮยอน เป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมของซีวอน ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ยื่นมือไปตรงหน้าร่างบาง อึนซอยิ้มก่อนจะจับมือทักทายกับคยูฮยอน ร่างสูงมองคนที่โกหกได้หน้าตายแถมยังผูกมิตรกับว่าที่ภรรยาของเขาอีกด้วย

    ฉันซนอึนซอค่ะ

    มาเลือกแหวนแต่งงานกันเหรอครับ? 

    ค่ะ... ใบหน้าแดงระเรื่อ อึนซอหันไปมองหน้าคนรักที่ไม่มีท่าทีดีใจเลยสักนิดที่ได้พบปะเพื่อนเก่าสมัยเรียน

    ยินดีด้วยนะครับ คุณสองคน... เว้นระยะไว้ช่วงหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาช่างดูเหมาะสมกัน

    คุณมาทำอะไรที่นี่เหรอคยูฮยอน ซีวอนถาม

    ผมเอาของมาเปลี่ยนน่ะ ดูเหมือนว่าอีกวงมันจะเล็กเกินไปผมกลัวว่าเขาจะใส่ไม่ได้

    คุณก็จะแต่งงานเหมือนกันเหรอคะคยูฮยอน

    เปล่าครับ ผมแค่ซื้อให้ใครคนหนึ่งน่ะแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าคงไม่จำเป็นแล้ว พูดกับอึนซอแต่สายตาจ้องมองไปยังร่างสูง คยูฮยอนยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปรับของที่พนักงานกำลังยื่นให้

    ขอบคุณครับเปิดกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินพร้อมกับหยิบแหวนเงินเกลี้ยงขึ้นมาลองกับนิ้วกลางแล้วยิ้มพอใจ

    ยินดีครับผม ถ้าเกิดว่าไซส์นี้มันใหญ่เกินกว่าขนาดนิ้วคนรักของคุณก็เอากลับมาเปลี่ยนได้อีกนะครับ

    อ่อ...ไม่หรอกครับ ผมคิดว่ามันน่าจะพอดี อีกอย่าง...เขาไม่ใช่คนรักของผมหรอกครับ คยูฮยอนหัวเราะเมื่อพนักงานพูดถึง คนรัก ที่ว่านั่น ซีวอนลดสีหน้าลงพลางเบือนหน้าหลบไปอีกทาง ในใจก็อยากรู้ว่าคยูฮยอนซื้อแหวนคู่นั่นไปให้ใครแต่อีกใจก็อึดอัดที่ต้องมาเจอสถานการณ์แบบนี้

    แน่ใจนะคะว่าไม่ใช่คนรัก เห็นคุณดูใส่ใจกับรายระเอียดของมันน่าดูเลย

    มันก็แค่แหวนเกลี้ยงที่ไม่มีลวดลาย ไม่มีอะไรน่าสนใจเหมือนกับแหวนเพชรวงอื่นๆ จริงไหมครับซีวอน?

    ร่างสูงฝืนยิ้มออกมา ตอนนี้เขาคิดว่าบางทีคยูฮยอนอาจจะกำลังแกล้งปั่นหัวเขาอยู่ก็ได้ ไหนจะครั้งล่าสุดที่เจอกันเขานั้นก็ทำให้คยูฮยอนไม่พอใจอีกด้วย

    แต่เหมือนกับวงที่คุณเพิ่งชี้ให้ฉันดูเมื่อกี้เลยนะคะ ว่าไหม? อึนซอสะกิดคนรักให้ดูแหวนที่คยูฮยอนลองใส่เมื่อครู่ ร่างโปร่งถอดมันออกแล้วเก็บเข้าไปในกล่องกำมะหยี่เช่นเดิม

    เห็นทีผมคงต้องไปแล้ว ถ้ามีโอกาส...เราคงได้เจอกันอีกนะครับ

    ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคยูฮยอน

    เช่นกันครับอึนซอ

     

    ร่างบางยิ้มพลางมองตามแผ่นหลังของใครอีกคนที่เดินออกจากร้านไปก่อนจะเอี้ยวตัวหันกลับเข้าหาคนรักที่ยังคงมองตามเพื่อนเก่าไม่ละสายตา

    ไม่เห็นคุณบอกลาคยูฮยอนเลย ไม่ดีใจเหรอคะ?

    ...หืม? ดีใจสิ แต่ผมไม่รู้จะพูดอะไรกับเขาน่ะ...เลือกแหวนกันต่อเถอะ เราจะได้ไปหาอะไรอร่อยๆ ทานกัน

    ก็ได้ค่ะ

     

     

    แม้ว่าตัวผมจะอยู่กับอึนซอแต่ใจของผมมันกำลังอยู่ที่ใครคนหนึ่ง

    คนที่มักจะทำให้ผมตั้งคำถามให้กับตัวเองอยู่บ่อยครั้ง...

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    ...............

    เป็นยังไงบ้าง ละสายตาออกจากเกมทีวีก่อนจะหันหน้ากลับไปควบคุมจอยคอนโทรลเลอร์อีกครั้ง

    เธอเป็นคนดีกว่าที่คิด ถอนหายใจแล้วเดินลงไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาข้างๆ มัจจุราชหนุ่มที่ยังคงเอาแต่หมกมุ่นกับเกมที่เล่นอยู่

    ทำไมล่ะ ถ้าซนอึนซอเป็นคนดีแล้วนายจะเปลี่ยนใจไม่ฆ่าซีวอนหรือ? กัดริมฝีปากล่าง คิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะลุกขึ้นยืนกำหมัดแน่นเมื่อบรรลุภารกิจในเกมที่เล่น

    เปล่า

    เธอสวยมากใช่ไหมล่ะ

    ใช่

    สีหน้าหมอนั่นดูไม่จืดเลยนะตอนที่เห็นนายน่ะ เขาช่างโง่เขลาไม่รู้จักวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเอาเสียเลย วางจอยเกมไว้บนโต๊ะกระจกก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาพลางยืดแขนทั้งสองข้างขึ้นบิดขี้เกียจ

     

     

    เดี๋ยวก็รู้...ว่าเขาจะแก้ปัญหานี้ยังไง

    หว่า~ เป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะโจคยูฮยอน...

     

     

    ตั้งแต่อยู่กับคุณ

     

     

     

    อีทงเฮหัวเราะเมื่อเห็นสีหน้าที่มีแต่ความอาฆาตแค้นของร่างโปร่ง นับวันโจคยูฮยอนยิ่งร้ายเข้าไปทุกที...ร้ายจนไม่เหลือคราบเด็กแว่นที่เคยถูกกดขี่ข่มเหงเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่...

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    แหล่งบันเทิงเริงรมย์ยามค่ำคืน วัยรุ่นมากมายต่างมาสังสรรค์กันในที่แคบๆ แห่งนี้นั่นก็รวมถึงเขาด้วย...ชายหนุ่มที่พบกับความผิดหวังที่คิดว่าน้ำเมานั้นจะช่วยทุเลาความเจ็บปวดนี้ไปจากหัวใจได้...

     

     

    ทำไมล่ะ...ทำไมถึงได้ทิ้งกันไปแบบนี้

     

     

    แจจุง...

    ทำไม...ทำไมถึงทำกับผมแบบนี้?

    เด็กหนุ่มในชุดนักศึกษาสวมแว่นตาหนาเตอะดูมอมแมมแมม เสื้อที่เมื่อก่อนเคยขาวสะอาดตอนนี้มีทั้งคราบเลือดและฝุ่นดินบ้างเป็นบางจุดอีกทั้งริมฝีปากที่บวมช้ำและบาดแผลตามใบหน้า

     

     

    ไม่เคยรู้ตัวเลยหรือไงชางมิน ว่าตลอดที่ผ่านมาฉันก็แค่หลอกนายเล่นๆ

    ต้องขอบคุณเงินทุกวอนของแกเลยนะ ที่ทำให้พวกฉันเมาได้ทุกวี่ทุกวันไม่รู้จักเบื่อ

    โง่ให้ถูกหลอกเอง ดูตัวเองบ้างสิ? หน้าตาแบบนี้ใครจะไปรักลง

    นี่เป็นบทเรียน...ถ้าแกยังไม่เลิกยุ่งกับแจจุงอีก ฉันจะฆ่าแกแน่ไอ้หน้าเห่ย

     

     

    ทุกอย่างมันเป็นแค่เรื่องโกหก...ตลอดเวลาหกเดือนที่ผ่านมาคิมแจจุงไม่เคยมีคำว่ารักให้กับเขาเลยแม้แต่น้อย ก็แค่หลอกใช้ หลอกให้รัก บางทีสิ่งที่แจจุงรักมากที่สุดก็อาจจะเป็นเงินในกระเป๋าเขาก็ได้...

    กระดกจนหมดแก้วพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่หยุด...ร่างโปร่งหยัดตัวนั่งลงข้างๆ คนที่กำลังจมดิ่งอยู่กับความเศร้าแล้วสั่งเครื่องดื่มกับบาร์เทนเดอร์ หันไปมองใครอีกคนที่ดูแล้วทำให้ย้อนนึกถึงตัวเอง...

     

     

     

    ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่...

     

     

    แกมันก็แค่ขยะนั่นแหละ...มันชื่ออะไรนะ...อ้อ...โจคยูฮยอน

     

     

     

    คุณ

    ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองคนข้างๆ ที่กำลังจ้องมองเขาอยู่ นัยน์ตาของเขาดำสนิทหากแต่รอยยิ้มบางๆ ที่แต่งแต้มบนใบหน้านั้นทำให้เขาหยุดร้องไห้ไปครู่หนึ่ง

    ..............

    แว่นคุณ... ร่างโปร่งชี้ไปยังแว่นของอีกคนที่กำลังเมาได้ที่ ร่างสูงขมวดคิ้วปรือตามองคนตรงหน้า แว่นเหรอ...แว่นเขามันทำไม...

    กำลังจะถอดแว่นออกมาดูแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมือเรียวได้เอื้อมมาถอดให้ ไหนจะใบหน้าที่ห่างกันไม่เท่าไหร่ ถึงชิมชางมินจะสายตาสั้นมากจนแทบเรียกได้ว่าตาบอดแต่เขาก็สามารถเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายได้อย่างชัดเจน

     

     

    มีเสน่ห์...

     

     

    มันมัวน่ะ ยิ้มแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋ากางเกงออกมาเช็ดแว่นให้ ร่างสูงอึ้งไม่พูดอะไรออกมาอีก คนๆ นี้เป็นใคร ทำไมจู่ๆ ถึงเข้ามาทักทายเขา

    ขอบคุณครับ...

    เมาแบบนี้จะกลับไหวเหรอ

    ...ผมยังไหว ร่างสูงก้มหน้าลง ตราบใดที่เงินของเขายังไม่หมดกระเป๋า...เขาก็จะดื่มมันต่อไป

    ความรักก็แบบนี้...เจ็บปวด จนบางครั้งก็ทำให้คนเรารู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น

    .............. สะอึกเบาๆ พลางหันไปมองใบหน้าเรียวที่สีหน้าดูเศร้าหมองต่างไปจากเมื่อครู่ ชางมินค่อยๆ หมุนเก้าอี้หันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย

    คุณจะมาสนใจผมทำไม จะหลอกผมอีกคนเหรอไง เอาเลยสิ ผมมีเงินนะ แถมโง่ให้หลอกได้ง่ายๆ อีกด้วย ฮะๆ

    น้ำเมาเปลี่ยนนิสัย...ใช่ว่าชิมชางมินจะเป็นคนแบบนี้ แต่เขาก็ไม่จำเป็นต้องแคร์ใครอีกแล้วในเมื่อใครๆ ก็ไม่คิดจะแคร์ความรู้สึกของเขา ชิมชางมินก็เป็นตัวตลกมาแต่ไหนแต่ไร ไม่มีใครรัก ไม่มีเพื่อน อยู่ตัวคนเดียวมาตลอดชนเคยชิน

    กระทั่งคิมแจจุงเข้ามาในชีวิตหยิบยื่นสิ่งที่เรียกว่าความรักให้จนเขายอมเปิดใจรับใครสักคนเข้ามา...ทุกอย่างราบรื่นดีแต่วันหนึ่งหัวใจเขาก็ต้องแตกสลาย...เมื่อพบว่าทุกอย่างมันเป็นแค่เรื่องโกหก

     

     

    คิมแจจุงก็แค่หลอกเขาเท่านั้น...

     

     

    ผมไม่คิดว่าคุณจะมีค่าพอที่จะให้ผมหลอก ชางมินแค่นเสียงหัวเราะเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูด ใช่...เขารู้ตัวดีว่าเขามันไม่มีค่า

    แล้วเข้ามายุ่งกับผมทำไม...อึ่ก...

    ก็แค่ทนเห็นคนขี้แพ้อย่างคุณไม่ได้ มันน่าสมเพช...ไม่รู้เหรอ?

    ................

    ปล่อยให้คนมาดูถูก มาทำร้ายซ้ำๆ ซากๆ อยู่ได้...ชีวิตคุณมันก็ไม่ต่างไปจากคนตายเลยสักนิด

    ชางมินแทบจุกกับประโยคที่ตอกย้ำเขาให้จมดินลงไป มันก็จริงอย่างที่ร่างโปร่งพูด ชีวิตของเขามันดูไร้ค่า...ไม่ต่างไปจากคนที่ตายแล้วสักนิด

    ผม...ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้ว...

    ทำสิ...ทำในสิ่งที่จิตใต้สำนึกของคุณมันสั่ง

    ................ จ้องเข้าไปยังนัยน์ตาที่แน่วแน่ของร่างโปร่ง ไม่ว่าคนๆ นี้จะเป็นใครแต่เขากำลังทำให้ความท้อแท้ สิ้นหวังนั้นค่อยๆ เลือนหายไป

    ทำในสิ่ง...ที่จิตใต้สำนึก...สั่งงั้น...เหรอ

    ใช่

    สิ่งที่ผมควรทำในตอนนี้... กลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก จ้องใบหน้าขาวที่อยู่ในระดับเดียวกันก่อนจะก้มลงมองมืออีกฝ่ายที่กำลังลูบไปตามหน้าขาของเขา

     

     

     

     

     

    จูบผมสิ

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    คุณกำลังส่งข้อความถึง...

    คยูฮยอน

    [ คุณปิดมือถือมาทั้งวัน จงใจหนีผมเหรอครับ? ]

     

    กดส่งข้อความหาคนที่ทำให้เขาต้องเป็นกังวลจนต้องกลับมาเหยียบผับนี่อีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้มานาน คิดว่าคงได้เจอคยูฮยอนที่นี่เพราะถ้าจะให้ไปหาที่คอนโดก็ไม่ได้อีก เขาเป็นคนพูดกับปากเองว่าจะไม่ไปที่นั่นถ้าเกิดว่าคยูฮยอนไม่เรียกร้องหาเขา

    เข้าไปในผับที่ได้เจอกับคยูฮยอนครั้งแรก เขาคงนอนไม่หลับถ้าวันนี้ไม่ได้คุยกัน ถ้าเกิดสิ่งที่คยูฮยอนทำไปทุกอย่างมันเป็นเพราะโกรธที่เขาไม่ได้บอกรัก? มันจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ น่ะเหรอ คนอย่างคยูฮยอนไม่น่าจะเก็บเรื่องแบบนั้นมาคิดเล็กคิดน้อยแต่ถ้าจะให้คิดไปเองว่ามันคงไม่ใช่ก็ไม่ได้อีก

     

    เพราะงั้นซีวอนถึงได้ออกมาตามหาคยูฮยอนแบบนี้ไงล่ะ...

     

    มองหาร่างโปร่งอยู่นานก่อนจะเห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยของชายชุดดำที่นั่งอยู่เคาน์เตอร์บาร์ ร่างสูงยิ้มเมื่อในที่สุดก็ตามตัวคยูฮยอนเจอจนได้ เดินเข้าไปหวังจะทักทายแต่ก็ต้องชะงักหยุดอยู่กับที่เมื่อใครอีกคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าร่างโปร่ง...

     

     

     

    กำลังโน้มใบหน้าลงไปจูบคยูฮยอนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TALK

    (หัวเราะลั่น)

    มาแบบติดๆ งงเลยดิแบบนี้

    ตอนนี้ดูไม่ค่อยมีอะไรอ่ะ  ไม่มีอะไรเลยจริงๆ นอกจากตัวละครใหม่ที่เพิ่มเติมมา

    คยูฮยอนกำลังจะทำอะไร! จะทำให้พี่วอนหึงใช่ไหม!

    ชิมชางมินที่ทำให้คยูฮยอนนึกถึงตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ อาห์...

    ในที่สุดคยูฮยอนก็ได้เจอกับอึนซอแล้วด้วย

    เดากันดีไหม ว่าตอนต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น -.-

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×