คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : PART 6 : Virus or Anti - Virus
PART 5
VIRUS OR ANTI-VIRUS
ครืด...ครืด...
ร่างสูงหยุดเดินพลางก้มลงมองวิทยุสื่อสารที่อยู่ตรงสนับขา ยังไม่ทันจะหยิบมันขึ้นมาก็ต้องผงะแทบหงายหลังเมื่อคนที่แบกมาด้วยดันสะดุ้งตื่นสุดตัวจนตกลงไปกระแทกกับพื้นซีเมนต์อย่างแรง
“ช่วยด้วย!!! ช่วยผมด้วย นั่น มันอยู่นั้น มันอยู่ในส้วม!!!”
ซีวอนถอนหายใจพร้อมกับมองเด็กเมื่อวานซืนที่กำลังลุกลี้ลุกลนอยู่บนพื้น ตื่นขึ้นมาก็สร้างเรื่องเลยนะ...
“ทราบแล้วเปลี่ยน”
มองคยูฮยอนที่กำลังนั่งเรียบเรียงสติพร้อมกับกดรับการสื่อสาร วิทยุถูกนำมาจ่อไม่ห่างจากริมฝีปากก่อนจะยื่นมือให้เด็กหนุ่ม คยูฮยอนยกมือทาบอกถอนหายใจออกมา เขาไม่ได้โดนกัด และตอนนี้ยังมีชีวิตอยู่ เงยหน้าขึ้นก็พบกับคนคุ้นหน้า พอเรียบเรียงเหตุการณ์แล้วก็พอจะเดาออกว่าซีวอนเป็นคนช่วยเขาจากไอ้สัตว์ประหลาดในห้องน้ำนั่นแน่ๆ
‘สวัสดีคุณตำรวจ’
“นั่นใคร?” ร่างสูงขมวดคิ้วขณะดึงเด็กหนุ่มให้หยัดตัวลุกขึ้น คยูฮยอนเดินเข้าไปชิดอีกฝ่ายด้วยความสนใจเมื่อได้รับการติดต่อจากบุคคลปริศนา
‘เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ พอดีว่าตอนนี้ผมดันโชคร้ายติดต่อคุณได้ เพราะฉะนั้นเรากำลังลงเรือลำเดียวกันแล้ว’
“คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?”
‘คุณคือตำรวจหน่วย S.T.A.R.S. ผมพูดถูกไหม?’
“...................” ร่างสูงกวาดสายตามองไปรอบๆ เพื่อหากล้องวงจรปิด คนๆ นี้คงไม่ใช่คนธรรมดาแน่
‘ระแวงอะไรอยู่เหรอไง ผมไม่มีเวลาอธิบายให้คุณฟังทั้งวันหรอกนะเพราะนิวเคลียร์จะระเบิดกรุงโซลในอีกสองชั่วโมงข้างหน้านี้ เพราะฉะนั้นคุณต้องฟังผม’
“ทำไมผมต้องทำแบบนั้น?”
“ใช่ ทำไมพวกเราต้องทำแบบนั้นด้วย” คยูฮยอนยื่นหน้าเข้าไปใกล้วิทยุแต่ก็ถูกซีวอนเอามือดันหน้าออกไปให้พ้นทาง
‘เพราะถ้าคุณไม่อยากตาย คุณก็ควรร่วมมือกับผม’
“เขาไม่ร่วมมือกับคุณหรอก เขาต้องตามหาทีมของเขาซะก่อน” คยูฮยอนพูดแทรกขึ้นมาอีกครั้งนั่นทำให้ซีวอนคิ้วกระตุกเล็กน้อย ร่างสูงหันไปมองคาดโทษเด็กน้อยที่กำลังยุ่งไม่เข้าเรื่องหากแต่เจ้าตัวกลับทำหน้าตาเฉย
‘ทีมงั้นเหรอ...อ่า...เราเจอหน่วยสตาร์ของแท้เข้าแล้วล่ะ’ ได้ยินเสียงเบาลงคาดว่าอีกฝ่ายคงไม่ได้อยู่เพียงลำพัง จะอะไรก็ตามแต่ ตอนนี้เขาชักเอะใจแล้วว่าบุคคลปริศนาที่ติดต่อมาคงมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องราวทั้งหมดนี้แน่
‘ผมแนะแนวทางให้คุณแล้วนะ จะรอกลายเป็นซากขี้เถ้าข้างล่างนี่ก็ไม่เป็นไร ยังมีตำรวจอีกกลุ่มหนึ่งที่ผมยังไม่ได้ติดต่อไป’
“ตำรวจงั้นเหรอ?”
‘ใช่...’
ตำรวจกลุ่มนั้น...
หรือว่าจะเป็นกลุ่มของยุนโฮ...?
ถ้าเกิดร่วมมือกับเขามันคงง่ายต่อการติดต่อยุนโฮหรือเปล่า?
และถ้าเกิดลองดู บางทีเขาอาจจะได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็ได้...
‘ว่าไงคุณตำรวจ...’
“..................”
‘ถ้าตัดสินใจช้ากว่านี้...ระวัง ‘มัน’ จะตามตัวคุณเจอนะ คุณรู้ใช่ไหมว่าผมหมายถึงใคร?’
...ไอ้สัตว์ประหลาดตัวนั้น
“ตกลง...ผมต้องทำยังไง?” คยูฮยอนเงยหน้ามองคนข้างๆ ที่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนหน้านี้ยังเห็นซีวอนตั้งมั่นจะตามหาทีมของเขาอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วไหงจู่ๆ ถึงตัดสินใจร่วมมือกับคนที่เขาไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนด้วยล่ะ?
‘เข้ามาในสถานีตำรวจ ตรงข้างทางลงมีก้อนอิฐบล็อกที่แตกต่างอยู่สี่ห้าอัน คุณสามารถใช้เป็นทางลัดลอดผ่านเข้ามาจากตรงนั้นได้’
“แล้วยังไงต่อ?”
‘พอเข้ามาคุณจะพบกับชั้นจอดรถใต้ดิน พยายามเดินเลียบมาทางซ้ายอย่างเงียบที่สุด เพราะข้างล่างนั่นผีดิบค่อนข้างเยอะเอาเรื่องเลยล่ะ พอเดินไปสุดทางคุณจะเจอกับประตูสีแดง เข้ามาทางนั้นให้ได้แล้วผมจะติดต่อคุณไปอีกที’
“ผมมีเวลาเท่าไหร่”
‘สิบนาทีคงมากเกินไปด้วยซ้ำ’
“...................”
ร่างสูงถอนหายใจพลางลดวิทยุสื่อสารลง คยูฮยอนมองอีกฝ่ายหวังจะได้รับคำตอบที่ลื่นหูบ้าง ซีวอนมองนาฬิกาข้อมือสีดำพร้อมกับกดจับเวลาก่อนจะเก็บวิทยุให้เข้าที่แล้วหันไปสบตาคนข้างๆ
“ผมอยากรู้ว่าหมอนั่นเป็นใคร บางทีเขาอาจจะเกี่ยวพันกับเรื่องนี้ก็ได้”
“แล้วทีมคุณล่ะ?”
“ผมเชื่อว่าเขาต้องติดต่อหาทีมผมด้วย ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว ไม่เคยได้ยินเหรอไง?”
“อู้หู...คุณนี่ฉลาดสุดๆ ไปเลยนะ สมแล้วที่ผมติดสอยห้อยตามคุณมา ว่าแต่เขาไม่ได้บอกเรานี่นาว่าไปถึงแล้วจะให้ทำอะไร คุณไม่คิดบ้างเหรอว่าเขาอาจจะหลอกเราไปฆ่าก็ได้” คยูฮยอนพูดจ้อขณะเดินตามหลังอีกคนมาติดๆ ร่างสูงเล็งปืนไปรอบๆ ตัวอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเมื่อไหร่...ก้าวเดียวเขาก็พลาดไปไม่ได้
“ถ้าเขาจะฆ่าเรา มันคงไม่ยากอะไร ส่วนคุณ...รูดซิปปากไว้ซะ เพราะเสียงของคุณมันทำให้พวกผีดิบตื่นตัว” ถึงแม้ว่าเหล่าซอมบี้บางตัวจะเชื่องช้า แต่พวกมันก็มีเยอะมากพอที่จะดักทางไม่ให้พวกเขาหนีไปไหนได้ คยูฮยอนทำท่ารูดซิปปากตามคำสั่งคุณตำรวจหน้าหล่อแล้วถือปืนเดินตามมา อีกไม่ไกลนักเขาทั้งคู่ก็จะถึงสถานีตำรวจแล้ว
ถัดมาสองบล็อกคยูฮยอนก็ต้องอ้าปากหวอเมื่อภาพตรงหน้ามันคือโศกอนาถกรรมที่น่าสยดสยอง ทะเลเพลิงพร้อมกับผีดิบไฟท่วมตัวกำลังเดินลากขาไปมาอย่างไร้จุดหมาย บ้างก็รุมกัดกินเนื้อซากไร้วิญญาณของนายทหาร บ้างก็ลำตัวขาดครึ่งคลานทุรนทุรายอยู่บนพื้น
“นี่มันเรื่องใหญ่โตขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...”
“ไวรัสแพร่กระจายเร็วมากจนผมก็ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกัน คุณก็ระวังตัวให้ดี พยายามเดินตามหลังผมไว้ เข้าใจนะ?”
“อื้อ!” คยูฮยอนพยักหน้าหงึก ทำหลังค่อมพร้อมกับหรี่ตามองไปรอบๆ ถ้าเกิดมีไอ้หน้าวอกไหนโผล่ออกมาพ่อจะยิงให้ไส้ปลิ้น
.
.
“ถ้าเป็นไปได้พยายามอย่าใช้ปืน” พอมาถึงที่หมายแล้วก็เดินสำรวจก้อนอิฐตามที่บุคคลปริศนาบอกมา ใช้ไฟฉายหลอดเล็กที่เหน็บอยู่กับแขนเสื้อส่องไปตามกำแพงแล้วก็พบความแตกต่าง
“ไม่ให้ใช้ปืนแล้วจะให้ใช้อะไรล่ะครับคุณ วิ่งเข้าไปหนุมานถวายแหวนเหมือนจีจ้าเหรอ” คุณตำรวจนี่ก็พูดไป มีเพชฌฆาตอยู่ในมือแล้วยังจะลังเลอะไรอีก
“แค่เสียงคุณเหยียบเศษกระจกมันก็เป็นการแจกบัตรเชิญให้พวกมันแล้ว อยากลงแข่งวิ่งโอลิมปิกชิงแชมป์โลกหรือไง...เอาล่ะ ถือนี่ไว้” พูดพร้อมกับยื่นไฟฉายให้อีกคนถือ
“โอเคทราบ ไม่เห็นต้องประชดกันเลยนี่” คยูฮยอนพึมพำพลางมองอีกฝ่ายด้วยหางตา พลันหันไปมองรอบข้างแล้วก็ขนลุกซู่ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก บรรยากาศชวนขนลุก เสียงร้องโหยหวนของร่างไร้วิญญาณ ถ้าเกิดมีตัวห่าอะไรสักอย่างพุ่งมากินเขาตอนนี้คงตายไม่รู้ตัวแหงแซะ
“ถือดีๆ ได้ไหม?” ซีวอนขมวดคิ้วมองคาดโทษคนที่ส่ายไฟฉายไปมา ทั้งที่มีเวลาเพียงน้อยนิดแต่คยูฮยอนกลับไม่ให้ความช่วยเหลือเลย เด็กหนุ่มเบะปากแล้วลงไปนั่งข้างๆ จงใจส่องไฟฉายในระยะใกล้เป็นเชิงประชดบ้าง สุดท้ายซีวอนก็เอาอิฐบล็อกส่วนหนึ่งออกจนได้ มันกว้างพอที่จะให้เขาทั้งคู่ลอดเข้าไปข้างใน
“ผมจะลงไปก่อน”
“ถ้าคุณลงไปก่อนแล้วมีตัวอะไรโผล่มาผมจะทำยังไงล่ะ?” คยูฮยอนแย้งขึ้นนั่นทำให้ซีวอนแทบจะประสาทกิน
“หรือว่าคุณจะลงไปก่อนล่ะ ข้างล่างนี่มีตัวอะไรบ้างก็ไม่รู้ คุณไม่ได้ยินที่เขาบอกหรือไง...ว่ามีผีดิบอยู่เต็มไปหมด”
“แต่ผมกลัวนี่ จะตรงไหนมันก็เสี่ยงตายเหมือนกันนั่นแหละ”
“รอแค่สิบวินาทีคงไม่มีตัวอะไรโผล่มาทำร้ายคุณหรอกโจคยูฮยอน”
“ผมจะลงไปก่อน ยังไงผมก็มีปืนนะ ปังปัง!” พูดเสียงประกอบพร้อมกับทำท่าเล็งปืน
“......................” ซีวอนถอนหายใจออกจนแทบหมดปอด พอคยูฮยอนเห็นอย่างนั้นแล้วก็นอยแดกตาม
“ผมไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้นี่ ถ้าเกิดมีกากอยล์* โผล่มาโฉบตัวผมไปจะทำยังไงอ่ะ?” คยูฮยอนสาธยายความปอดแหกให้อีกคนฟัง ซีวอนพยายามหายใจเข้าลึกๆ กับความเอาแต่ใจอีกฝ่าย
(กากอยล์ คือสัตว์เทพในตำนาน รูปร่างเหมือนนกมีปีกขาดๆ คนโบราณเชื่อว่าเป็นมังกร มักจะพบได้ในเกมออนไลน์)
“ก็ได้...งั้นคุณลงไปก่อน พยายามลงไปให้เบาที่สุดเท่าที่จะเบาได้”
“โอเค”
“แล้วถ้าเกิดมีเหตุสุดวิสัย...พยายามตั้งสติให้มั่นแล้วยิงมันเข้าที่หัว เข้าใจนะ?”
“ชัดเจนแจ่มแจ้ง ผมนี่แหละเกมคยูแชมป์ CS ทีม Psychosis” คยูฮยอนว่าพร้อมกับแทรกตัวเข้าไปในช่องทางที่ไม่แคบเกินไปและก็ไม่กว้างเกินไป แต่มันก็สร้างความลำบากให้กับเขามากเลยทีเดียว
“โห...ทำไมคุณไม่เอาออกอีกสักอันสองอันเนี่ย เห็นไหมว่ามันติดกระเป๋าผมอ่ะ”
“ก็ถอดกระเป๋าออกก่อนสิ” ซีวอนขมวดคิ้วพร้อมกับถอดกระเป๋าเป้ให้เด็กหนุ่มที่เพิ่งแทรกตัวเข้าไปได้ยังไม่ถึงครึ่งตัวอย่างนึกรำคาญ
คยูฮยอนหยุดการเคลื่อนไหวแล้วก็ต้องอ้าปากค้างอีกครั้งเมื่อเห็นเหล่าผีดิบเดินป้วนเปี้ยนอยู่หลายตัว พอมองลงไปข้างล่างก็พบกับรถหลากหลายยี่ห้อจอดอยู่ เขาจะต้องลงไปเหยียบหลังคารถนี่ก่อนจะลงไปถึงพื้นสินะ แล้วจะทำยังไงถึงจะไม่ให้เกิดเสียงล่ะ
“คุณ”
“อะไร?”
“รถมันจอดอยู่ข้างล่าง ถ้าผมตกลงไปมันต้องเสียงดังแน่ๆ”
“งั้นผมจะจับขาคุณไว้ พอใกล้ถึงพื้นหลังคารถคุณก็ใช้มือยันเอาไว้แล้วกระโดดลงไปบนพื้นนะ”
“นี่คุณเห็นผมเป็นเฉินหลงหรือไงเล่า?”
“เชื่อฟังผมสักครั้งได้ไหมโจคยูฮยอน ถ้ามันมีวิธีที่ดีกว่านั้นก็บอกผมมาสิ”
“โอเค ก็ได้ๆ จับขาผมไว้ดีๆ นะ ผมยิ่งเจ็บข้อเท้าเพราะไอ้เวรในห้องน้ำนั่นอยู่” คยูฮยอนบ่นอุบอิบพร้อมกับขยับตัวลงมาเรื่อยๆ ตอนนี้เขาไม่ต่างอะไรจากสปายที่กำลังห้อยหัวลงมาขโมยเพชรท่ามกลางแสงเลเซอร์ในหนังเลย (โคตรเท่)
ในที่สุดมือเขาก็แตะถึงหลังคารถ คยูฮยอนทาบมือลงตั้งหลังก่อนจะส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายปล่อยขาเขา และโจคยูฮยอนก็ฉลาดพอที่จะหาพิกัดลงเพื่อไม่ให้เกิดเสียง มือเรียวปัดแปะๆ ไล่เศษฝุ่นออกแล้วเงยหน้าขึ้นมองช่องทางที่เขาเพิ่งลอดเข้ามา
“ลงมาได้แล้วคุณ...”
ซีวอนลอดตัวตามมาอย่างชำนาญ ใช้เวลาน้อยกว่าคยูฮยอนเกือบเท่าตัว ร่างโปร่งชักสีหน้าเมื่อเห็นความคล่องตัวของอีกฝ่าย ทั้งที่เป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ซีวอนกลับดูแมนกว่าเขาจนน่าอิจฉา
ปังๆๆๆ!!
ร่างสูงหยุดชะงักเมื่อหันไปเห็นใครคนหนึ่งที่กำลังเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูสีแดงโดยไม่มีท่าทีว่าจะเกรงกลัวกับเหล่าซอมบี้ที่มีมากมาย คยูฮยอนค่อยๆ เอี้ยวหน้าหันกลับไปมองใครคนหนึ่งที่เล็งปืนอย่างใจเย็นและมันก็เข้าที่กลางขมับของผีดิบเหล่านั้นได้ไม่พลาดเลยสักนัดเดียว ชายหนุ่มร่างผอมโปร่งในชุดกราวน์คาดว่าน่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ปลดแม๊กกระสุนออกแล้วใส่เข้าไปใหม่ เมื่อเห็นร่างไร้วิญญาณนอนแน่นิ่งอาบกองเลือดบนพื้นแล้วก็กระตุกริมฝีปากอย่างเลือดเย็นก่อนจะหันหลังกลับไปหมุนลูกบิดประตู...ซีวอนขมวดคิ้วมองนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังจะเดินเข้าไป อยากจะรู้นักว่าเขาเป็นใคร ยังไม่ทันจะเปิดประตูออกใบหน้าได้รูปก็หันกลับมาสบตากับตำรวจหนุ่มที่ยังติดอยู่กับช่องทางแคบ รอยยิ้มที่เยือกเย็นนั่นทำให้เขาคาดเดาความคิดอีกฝ่ายไม่ได้เลย
ซีวอนพยายามอ่านริมฝีปากอิ่มที่กำลังขยับพูดอะไรบางอย่าง...พอจะจับใจความได้ว่า...
‘ขอ-ให้-สนุก’
“S.T.A.R.S....”
คยูฮยอนเบิกตากว้างเมื่อเห็นไอ้สัตว์ประหลาดร่างยักษ์เจ้าเก่าที่เขาคิดว่ามันน่าจะตายห่าไปตั้งแต่ตอนอยู่ในอุโมงค์รถไฟใต้ดินนั่นแล้ว แต่มันกลับเดินออกมาจากรูไหนก็ไม่รู้ และที่สำคัญ...ในมือมันมีบาซูก้าขนาดย่อมที่พร้อมจะระเบิดทุกอย่างได้อีกต่างหาก...ซีวอนเองก็เช่นกัน เขาแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเลยเมื่อมันยังมีสภาพร่างกายสมบูรณ์แบบ ปกติดีราวกับไม่เคยได้รับบาดแผลใดๆ มาก่อน
สัตว์ประหลาดนามว่าเนเมซิสตั้งปืนขึ้นระดับไหล่พร้อมกับเล็งไปยังตำรวจหนุ่มที่ยังคงลอดเข้ามาได้เพียงครึ่งตัว คยูฮยอนหันไปมองซีวอนที่ยังคงตระหนกกับภาพที่เห็นก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าหายนะกำลังมาเยือนเขาทั้งคู่แล้ว...
“S.T.A.R.S....”
‘สัตว์ประหลาดตัวนั้น...มันไล่ล้างหน่วย S.T.A.R.S...ผมเห็นมันฆ่าตำรวจเหล่านั้นมากับตา...’
“ซีวอน! คุณรีบหนีไปเร็วเข้า!!”
“...............!!!” ก้มลงมองเด็กหนุ่มที่อยู่ข้างล่างสลับกับสัตว์ประหลาดยักษ์ที่กำลังเล็งพิกัดมาที่เขา...คยูฮยอนรู้ เขารู้...ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเบื้องหน้านี้
“เร็วเข้าสิ หนีไป!! ไม่ต้องห่วงผม!!”
“คุณจะบ้าเหรอ! จะไม่ให้ผมห่วงคุณได้ยังไงกัน!!”
“อยากตายหรือไงเล่า!! รีบถอยกลับไปซะ คุณก็รู้ว่ามันไม่ฆ่าผมหรอก!!”
ร่างสูงหลับตาลงพลางกำหมัดแน่น บ้าจริง! เขาแทบจะไม่เหลือเวลาแล้วนะ...
“คุณรีบหาที่ซ่อนตัวซะคยูฮยอน...บ้าเอ๊ย!” ซีวอนเบิกตากว้างเมื่อกระสุนบาซูก้ากำลังพุ่งมาที่เขา...ร่างสูงถอยตัวออกด้วยความเร็วก่อนจะกระโดดหลบได้อย่างเฉียดฉิว อุโมงค์ทางลอดแคบๆ เมื่อครู่ได้เปิดกว้างเป็นเท่าตัวเพราะกระสุนนั่น มือแกร่งกุมหัวไหล่ตัวเองที่เพิ่งกระแทกกับพื้นซีเมนต์เมื่อครู่พลางหยัดตัวลุกขึ้นไปหยิบปืนพกที่กระเด็นไปไม่ไกลนัก
มือใหญ่ลดปืนลงเมื่อเป้าหมายหลุดพิกัดไปแล้ว...เสียงคำรามโทสะดังก้องไปทั่วชั้นใต้ดินจนเด็กหนุ่มต้องนั่งขดตัวหลบอยู่ซอกหลืบพร้อมกับเอามืออุดหูตัวเองไว้ ได้แต่คร่ำครวญภาวนาถึงพ่อจ๋าแม่จ๋าที่ให้กำเนิดลูกมา นึกถึงวันแรกที่หัดปั่นจักรยาน นึกถึงครั้งแรกที่หัดเล่นเกม นึกถึงครั้งแรกที่เปิดดูเวปโป๊...ลูกยังใช้ชีวิตไม่คุ้มเลยนะครับ...อย่าเพิ่งให้ลูกตายแบบนี้สิ
“.........................”
เสียงปืนเงียบไปแล้ว...เสียงไอ้บึ้มนั่นก็หายไปแล้วด้วย...คยูฮยอนชะเง้อหน้าออกไปมองอย่างกล้าๆ กลัวๆ ก็พบเพียงความว่างเปล่า...ซอมบี้ที่เคยเดินเพ่นพ่านก่อนหน้านี้ก็โดนผู้ชายชุดกราวน์คนนั้นยิงหัวแบะไปหมดแล้ว ส่วนไอ้บึ้มนั่นก็ไม่ยืนยิ้มอยู่ตรงนั้นแล้วด้วย...
“ซีวอน...”
“ซีวอน...” คยูฮยอนเรียกตำรวจหนุ่มที่เพิ่งถูกโจมตีด้วยกระสุนบาซูก้าเมื่อครู่พร้อมกับหันไปมองรอบข้างอย่างหวาดระแวง
“คุณอย่าเงียบแบบนี้ดิ...ผมใจไม่ดีนะ” คยูฮยอนขึ้นไปเหยียบบนกระโปรงรถแล้วเขย่งขามองตำรวจหนุ่มที่ไม่ขานตอบเขา
“ซีวอนอ่า... T_T”
ไม่เอาแบบนี้นะ...ถึงซีวอนจะขี้บ่นมากขนาดไหนแต่เขาก็ไม่อยากสูญเสียใครไปอีกแล้ว ถึงซีวอนจะนิสัยเหมือนกับ...
กับ...
‘เมื่อไหร่จะหยุดพูดสักที ผีเจาะปากนายมาเหรอไง?’
‘ไอ้เด็กนี่...’
“ชู่ว์...” เด็กหนุ่มสะดุ้งหลุดจากความคิด พลางเงยหน้ามองใครอีกคนที่โผล่หน้าเข้ามาเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากอิ่มยิ้มกว้างเมื่อเห็นคนตรงหน้าปลอดภัยถึงแม้ว่าร่างสูงจะมีบาดแผลอยู่บ้างตามตัว
“คิดว่าผมตายไปแล้วหรือไง?”
“ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง...ถูกป่ะ ฮ่ะๆ” คยูฮยอนหัวเราะพลางมองตำรวจหนุ่มที่กำลังปีนลงมาข้างล่างอย่างง่ายดาย หัวไหล่ของซีวอนถลอกจนเสื้อขาดหากแต่เขานั้นยังคงทำตัวเหมือนปกติ
“ผมช่วยชีวิตคุณไว้นะ” คยูฮยอนพูดพร้อมกับกระโดดลงมาจากกระโปรงรถ
“.................” ซีวอนหันไปมองคนข้างๆ ที่กำลังยิ้มกว้างแล้วก็หัวเราะออกมา...ถูกอย่างที่คยูฮยอนพูด...
ถ้าเจ้าเด็กนี่ไม่เอาแต่ใจ...บางทีเขาอาจจะตายเพราะลงมาก่อนคยูฮยอนก็ได้...
.
.
“อ๊า...จริงๆ เลย...ดูเหมือนว่าสองคนนั้นจะเพิ่งได้พบเพื่อนเก่ามานะ” ดร.จงอุนสบถเมื่อเขาเพิ่งแทรกกล้องวงจรปิดตรงชั้นใต้ดินติดหลังจากที่สัญญาณขาดหายไปเมื่อครู่เพราะถูกใครบางคนแทรกเข้ามาตัดระบบ ซึ่งเขารู้ว่าว่าเป็นใคร พลันหมุนกล้องไปรอบๆ ก็พบร่องรอยของการต่อสู้ ซึ่งตอนแรกก็ทำให้เขาหวั่นใจอยู่แต่สุดท้ายก็ไม่ถึงกับแย่ทั้งหมด
“เนเมซิสน่ะเหรอ?” จองซูถามพร้อมกับเท้ามือลงบนโต๊ะ สายตามองไปยังจอมอนิเตอร์ที่กำลังฉายไปรอบๆ เผยให้เห็นซากศพนอนแน่นิ่งไม่ไหวติงกับร่องรอยตรงกำแพงที่แหวกกว้างขนาดที่ลอดออกมาพร้อมกันได้ถึงสี่คน
“ใช่ แต่ตำรวจคนนั้นฝีมือคงไม่ใช่เล่น น่าทึ่งจริงๆ” ดร.จงอุนลูบคางพลางเลื่อนเก้าอี้ไปที่แล็ปท็อปตัวข้างๆ นิ้วเรียวพิมพ์แป้นคีบอร์ดรัวเพื่อค้นหาบุคคลที่รอดชีวิตแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมา เมื่อตำรวจกลุ่มใหญ่เมื่อครู่นั้นเหลืออยู่เพียงแค่ไม่กี่คน
นัยน์ตาเรียวปรือตาขึ้นมองใครอีกคนที่กำลังจ้องเขาอยู่ แววตาแห่งความสิ้นหวังนั่นเขารู้สึกได้ 2611 หรืออีฮยอกแจค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้นก่อนที่อีทงเฮจะถลาเข้ามาช่วยประคอง แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่มองหน้าร่างบางเลยสักนิด
“......................”
“แผลคุณหายไป”
“ว่าไงนะ?” จองซูกับดร.จงอุนได้ยินทงเฮพูดกับ 2611 แล้วก็หมุนเก้าอี้หันกลับมา ตำรวจหนุ่มเดินมาหยุดข้างเตียงก่อนที่น้องชายของเขาจะถลกเสื้อตัวบางขึ้นพร้อมกับมองไปยังแผงอกของใครอีกคนที่ไม่มีแม้แต่รอยบาดแผลใดๆ
“ตอนแรกเขาถูกยิงเข้าตรงนี้...ก่อนที่เราจะกระโดดลงมาจากน้ำตกนั่น ผมเห็นมันกับตา” ทงเฮหันไปมอง ดร.จงอุนหวังเอาคำตอบ ดร.หนุ่มหัวเราะในลำคอพลางนั่งไขว่ห้าง
“กระสุนแค่นั้นฆ่า 2611 ไม่ได้หรอก”
“....................”
“บาดแผลของเขาจะค่อยๆ สมานเองจนหายเป็นปกติ ถึงจะเจ็บปวดแต่มันก็แค่ช่วงแรกเท่านั้นแหละ...รหัส 2597 เคยโดนรัวปืนกลใส่ยังยืนอยู่ได้เลย”
“คุณหมายความว่าฮยอกแจจะไม่มีวันตายงั้นเหรอ?”
“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ในเมื่อมีจุดแข็ง...ก็ต้องมีจุดอ่อน” ดร.จงอุนจ้องมองใบหน้าเรียวที่กำลังเม้มริมฝีปากแน่น ทงเฮได้เพียงแค่ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ได้ยินถึงแม้ว่าเขาจะยังรับมันไม่ได้ เขาไม่อยากเชื่ออะไรทั้งนั้น ไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าจะไม่ใช่มนุษย์
อีฮยอกแจ...มีความรู้สึก...เขาสัมผัสได้...
“อะ...อั่ก...” ร่างหนาทรุดลงไปกับพื้นจนคนรอบข้างต่างตกใจกับสิ่งที่เห็น จองซูรีบเข้าไปประคองน้องชายที่กำลังดิ้นพล่านบนพื้นอย่างทุรนทุรายก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ดร. ที่กำลังเข้ามาดูอาการ โดยมีฮยอกแจยืนมองอยู่ห่างๆ
“ทงเฮ ทงเฮ!!”
“อ...อ๊ากกก...” ทงเฮบิดตัวเร่าพร้อมกับกระชากเสื้อตัวเองออกเผยให้เห็นแผงอกแกร่งที่มีบางอย่างวิ่งพล่านภายใต้เนื้อผิวนั่น จองซูเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็นจนทำอะไรไม่ถูก
“ล็อกแขนเขาเอาไว้” ทำตามคำสั่งของอีกคนหากแต่น้องชายเขายังคงไม่หยุดดิ้น ทงเฮทุรนทุรายราวกับจะสิ้นใจเดี๋ยวนั้น ดร.จงอุนรีบวิ่งไปควานหาอะไรบางอย่างก่อนจะวิ่งกลับมา
“จองซู...น้องชายคุณติดเชื้อ”
“ว่าไงนะ?”
“ถลกขากางเกงเขาขึ้นสิ ตรวจดูว่ามีรอยกัดไหม?” เพราะดูจากท่อนบนแล้วก็ไม่พบรอยกัดอะไรเลย
“......................” ฮยอกแจได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ค่อยๆ หยัดตัวนั่งคุกเข่าตรงปลายเท้าทงเฮ เงยหน้าขึ้นก็พบกับใครอีกคนที่กำลังกระวนกระวายเพียงเพราะรู้ว่าน้องชายของเขาติดเชื้อ
“ทงเฮ หายใจเข้าลึกๆ นะ ได้ยินพี่ไหม...”
“อ...อึ่ก...จ...จอง...ซู”
“ฮยอกแจ...ตรวจดูแผลเขา” ดร.จงอุนย้ำกับอีกฝ่าย ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นโคลนนิ่งและเข้าใจในสิ่งที่มนุษย์พูด แต่บางครั้งร่างกายของเขามันก็ขัดแย้งกับคำสั่งบางอย่าง
“เขาไม่ได้โดนกัด”
“...................” ทั้งคู่หันกลับมามองร่างบางที่แสดงสีหน้านิ่งทั้งที่ยังไม่ได้ถลกขากางเกงทงเฮขึ้นเลยด้วยซ้ำ
“เขา...ได้รับเชื้อ...โดยตรง...”
“......................”
“ผมรู้สึกได้...ว่าเขามีอะไรเหมือนผม” ฮยอกแจพูดพร้อมกับมองทงเฮที่นอนแน่นิ่งไปแล้ว จองซูกับ ดร.จงอุนรีบหิ้วปีกคนที่หมดสติขึ้นไปนอนบนเตียงเหล็ก จองซูช่วยซับหยาดเหงื่อให้กับน้องชายด้วยความเป็นห่วงก่อนที่ ดร.จงอุนจะเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฮยอกแจ
“คุณรู้”
“...ผมรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมเจอเขา”
“หมายความว่าเขาติดเชื้อตั้งแต่ก่อนเจอคุณแล้วอย่างนั้นเหรอ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน?”
“ผมไม่รู้...ผมลืมตาขึ้นก็เห็นเขาเป็นคนแรก...ในห้องแบบนี้”
“........................”
“ผมไม่รู้...ไม่รู้อะไรเลย...”
“ให้ตายเถอะ...” ดร.จงอุนสางผมขึ้นอย่างหัวเสียก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าแผงควบคุมเพื่อสงบสติอารมณ์เมื่อนึกถึงใครอีกคนที่ไม่เคยคิดที่จะ ‘หยุด’
“ฮยอกแจ...ฝากดูทงเฮหน่อยนะ” พูดพร้อมกับยื่นผ้าผืนบางใส่มือเล็กก่อนจะเดินไปหา ดร.จงอุน ฮยอกแจพยักหน้าเล็กน้อยพลางหันไปมองคนที่นอนหมดสติอยู่...
ครืดครืด...
“เดินตรงเข้ามาตามทางเรื่อยๆ ตรงนั้นจะมีพวกหมาจรจัดอยู่สี่ห้าตัว กำจัดมันซะแล้วขึ้นลิฟท์มาหาผม”
จองซูมองใครอีกคนที่เพิ่งตัดสายวิทยุสื่อสารพร้อมกับวางมือลงบนไหล่ ดร.จงอุนเอี้ยวหน้าหันมามองเพียงนิดก่อนจะหันมาเผชิญหน้ากับร่างโปร่ง
“เกิดอะไรขึ้นกับน้องชายผม”
“.......................”
“บอกผมมา ดร.จงอุน” สายตาที่แน่วแน่ทำให้ ดร.จงอุนเลี่ยงที่จะพูดความจริงไปไม่ได้
“น้องชายคุณถูกฉีดไวรัสเข้าไปในร่างกาย...”
“..........................”
“ซึ่งผมยังไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนทำ แต่คงไม่ต้องเดาให้ยาก...”
“..........................”
“อีอึนฮยอก...”
“ผมจะฆ่าเขา!” จองซูขบกรามพร้อมกับเอี้ยวตัวกลับทำท่าจะออกไปข้างนอกแต่ก็ถูก ดร.จงอุนล็อคแขนเอาไว้เสียก่อน ใบหน้าเรียวส่ายเล็กน้อยเป็นเชิงห้าม...
“คุณไม่มีทางรู้หรอกว่า ดร.อีอึนฮยอกอยู่ที่ไหน”
“..........................”
“ผมว่าเขาคงคิดจะฝังไวรัสไว้กับตัวน้องชายคุณ ตัวอ่อนจะค่อยๆ พัฒนาขึ้น...และเมื่อกี้มันเป็นแค่อาการแรกเริ่มเท่านั้น”
“คุณรู้ได้ยังไง บางทีน้องชายผมอาจจะถูกกัดก็ได้ ฮยอกแจเขายังไม่ทันตรวจดูขาทงเฮเลยด้วยซ้ำนะ” จองซูยังรั้นต่อไป เขาไม่อยากเชื่อในสิ่งที่คนตรงหน้าพูด ดร.จงอุนได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาเท่านั้น
“ถูกกัดกับติดเชื้อโดยตรงมันต่างกันตรงไหนเหรอจองซู? คุณก็ได้ยินที่ทงเฮพูดนี่...ว่าเขาเจอ 2611 ที่ห้องแลป...ถ้าเขาตื่นมาก็ลองถามดูสิ ว่าเขาไปที่นั่นได้ยังไง?”
“.....................”
“เพราะถ้าน้องชายคุณไม่มีรหัส...เขาก็ไม่มีทางเข้าไปข้างในนั้นได้หรอกนะ” จองซูกำหมัดแน่น นึกโกรธทุกอย่าง...โกรธไอ้ ดร.นั่นที่ทำกับน้องชายเขาแบบนี้ โกรธตัวเองที่ดูแลทงเฮไม่ได้...
“แล้วมีทางรักษาไหม...” จองซูถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง...ฮยอกแจที่กำลังซับเหงื่อบนใบหน้าอีกคนได้เพียงแค่ฟังเรื่องราวทุกอย่างเท่านั้น เขาไม่มีสิทธิ์พูดอะไร ไม่มีสิทธิ์...แม้กระทั่งมีชีวิตอยู่
“อาจจะ...แต่แอนตี้ไวรัสตัวล่าสุดยังไม่เคยทดลองใช้อย่างจริงจังมาก่อน ผมไม่รู้ว่ามันจะได้ผลเท่าไหร่ เพราะระยะเวลาการติดเชื้อมันก็มีผลเหมือนกัน ถ้าน้องคุณติดเชื้อมานานเกินไป...มันก็ยากที่จะแก้ไข”
“แต่ก็ยังมีหนทาง...”
ครืด....ครืด....
‘ผมมาถึงแล้ว’
“พวกเขามาแล้ว” ดร.จงอุนเดินไปเปิดประตูห้องทดลองพร้อมกับเล็งปืนลูกซองไปตรงหน้าแล้วก็ต้องลดมือลงเมื่อผู้มาใหม่คือนายตำรวจกับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง
“ขอโทษที่เลยเวลาไปห้านาที”
“โว้วๆ ข้างในนี่เท่ชะมัดเลย” คยูฮยอนพูดพลางกวาดสายตาไปรอบๆ จองซูมองทั้งคู่ที่กำลังเดินเข้ามาแล้วก็ก้มหน้าลงสงบสติอารมณ์ ในตอนนี้ในหัวเขามีแต่คำว่า ‘จะต้องหาแอนตี้ไวรัสมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้’
“รอดมาถึงที่นี่ได้แสดงว่าคุณสองคนคงไม่ธรรมดา ผม ดร.คิมจงอุน”
“ผมชเวซีวอน ส่วนนี่โจคยูฮยอน”
“นั่นคือปาร์คจองซู ส่วนที่นอนอยู่นั่นคืออีทงเฮแล้วก็...”
“เขากำลังจะกลายเป็นซอมบี้ใช่ไหม คุณเก็บเขาไว้ทำไม ยิงทิ้งเลยสิ” คยูฮยอนพูดพร้อมกับสะกิดไหล่ตำรวจหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ แต่ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีใครอีกคนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมกับเอามือปิดปากเขา
“เขาไม่ได้โดนกัด ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ห้ามยิงน้องชายผม” จองซูพูดเสียงเรียบก่อนจะเงยหน้ามองตำรวจร่างสูงตรงหน้า
“คุณก็เป็นหน่วยสตาร์งั้นเหรอ?” ซีวอนถาม
“จะเรียกอย่างนั้นก็คงได้...แต่ผมยังไม่ทันได้เข้าไปทำงานก็โดนรับน้องซะก่อน” จองซูพูดพร้อมกับแค่นเสียงหัวเราะ
“ซีวอน...นั่น!”
“.........................” ทั้งคู่ชี้ไปที่เด็กหนุ่มผมสีบรอนด์ที่ยืนอยู่ข้างขอบเตียงเหล็กด้วยความตกใจ
“ใช่ไหม คนนั้นน่ะ”
“อะไรเหรอ?” ดร.จงอุนถามด้วยความสงสัย
“ผมเห็นคนๆ นี้ยิงซอมบี้เป็นสิบตัวตรงลานจอดรถใต้ดิน แต่ตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ชุดนี้นี่” ทุกคนต่างประหลาดใจกับสิ่งที่ได้ยินนั่นก็รวมถึงฮยอกแจด้วย ร่างบางกำผ้าขนหนูในมือไว้แน่นเมื่อจู่ๆ ภาพของใครบางคนก็ลอยเข้ามาในหัว
‘ฮยอกแจ...อดทนอีกหน่อยนะ...พี่จะช่วยนายเอง’
‘ฮยอกแจ...อย่าจากพี่ไป...’
“...................”
“ไม่ใช่เขาหรอก” ดร.จงอุนพูดพร้อมกับเดินไปนั่งบนเก้าอี้
“คนที่พวกคุณเห็น...เขามีผมสีดำใช่ไหม?”
“ใช่ แต่หน้าตาแบบนี้เป๊ะๆ เลยนะ” คยูฮยอนพูดฉะฉาน
“อืม...”
“คุณกำลังจะบอกอะไรพวกเรางั้นเหรอ?” ซีวอนถามพลางมองไปยังร่างบางที่กำลังเดินไปนั่งอยู่เงียบๆ ตรงมุมห้อง
“ผมกำลังจะบอกคุณว่าผู้ชายคนนั้น...อีฮยอกแจหรือ 2611 คือร่างโคลนนิ่งของผู้ชายผมดำที่คุณเห็น”
“ห๊า!!!”
“.....................”
“เรื่องมันยาวน่ะ ไว้ถ้ามีเวลาแล้วผมจะเล่าให้คุณฟัง ว่าแต่ตอนนี้...” หันไปมองจองซูที่ยืนกระวนกระวายอยู่แล้วก็ตัดสินใจแหกกฎตัวเอง...
“เราต้องหาทางเอาแอนตี้ไวรัสมาให้ได้ก่อนที่จะออกจากเมืองนี้...”
.
.
“เกือบปีแล้วที่ผมกับอีอึนฮยอกซุ่มทดลองเชื้อไวรัส แต่สุดท้ายผมก็ขอถอนตัวเพราะอึนฮยอกเริ่มจะทำเกินข้อตกลงของเรา เชื้อไวรัสตัวนี้มันอันตรายเกินไป ถึงแม้ว่าจะทำให้คนพิการกลับมาเดินได้เหมือนปกติ แต่มันก็มีผลเสีย...คนพวกนั้นต้องฉีดเชื้อตัวนี้เป็นประจำเหมือนยาเสพย์ติด ถ้าพวกเขาหยุดเมื่อไหร่...พวกเขาก็จะกลายเป็นผีดิบทันที”
“นั่นแสดงว่ามีคนทดลองใช้ยาตัวนี้แล้วอย่างนั้นเหรอ?” ซีวอนถาม
“เพราะตัวยายังไม่สมบูรณ์แบบพวกเราเลยทดลองกับสัตว์ก่อน ผมเคยตกลงกับอึนฮยอกไว้ว่าถ้าตัวยามันทำให้คนหายขาดได้จริงๆ เมื่อไหร่ค่อยทดลองใช้กับมนุษย์”
“.....................”
“ตอนที่เริ่มทดลองเชื้อไวรัส T ตอนนั้นอาการน้องชายของอึนฮยอกกำลังโคม่า เขาไม่มีทางเลือกนอกจากฉีดเชื้อไวรัสเข้าไปในเส้นเลือดฮยอกแจก่อนจะฉีดแอนตี้ไวรัสตามเข้าไป ซึ่งตัวแอนตี้ไวรัสก็ยังไม่สมบูรณ์แบบดี”
“.....................”
“แต่สุดท้ายฮยอกแจก็ฟื้นตัวขึ้นมาในสภาพผีดิบ...เขากินทุกอย่างที่ขวางหน้าแม้กระทั่งสัตว์ที่ยังมีชีวิตอยู่ อึนฮยอกเลี้ยงน้องชายเขาไว้ในห้องทดลองและให้อาหารวันละหกมื้อซึ่งนั่นมันก็มากเกินปกติแล้วและมันก็เริ่มมากขึ้นจากหกเป็นเจ็ด...จากเจ็ดเป็นแปด...จนหลังๆ เขาแทบจะไม่มีเวลาทำอะไรนอกจากหาอาหารไปให้น้องชายของเขา”
“แล้วยังไงต่อ ตอนนี้น้องชายเขาของเขาคงไม่ได้ป้วนเปี้ยนอยู่แถวนี้หรอกนะ?”
“อึนฮยอกทำใจอยู่นานกว่าจะ” ตัดสินใจยิงฮยอกแจทิ้ง ตอนนั้นฮยอกแจกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดไปแล้ว
“.....................”
“อึนฮยอกเศร้าอยู่เป็นอาทิตย์ แต่สุดท้ายเขาก็กลับเข้าแผงควบคุมอีกครั้ง จนวันหนึ่งผมถึงได้รู้ความลับว่าเขากำลังแอบทำโคลนนิ่งอยู่ ซึ่งใช้ DNA ของเขากับฮยอกแจผสมกัน เปลี่ยนแปลงพัฒนาไปเรื่อยนับพันครั้งจนกลายเป็น 2611 ที่สมบูรณ์แบบที่สุดในตอนนี้น่ะนะ...เขามีความรู้สึกของอีฮยอกแจอยู่เกือบ 20% และมีความทรงจำของอีอึนฮยอกอยู่ถึง 7%”
“แล้วส่วนที่เหลือล่ะ?”
“ว่างเปล่า...รอการเติมเต็ม...” พูดพร้อมกับมองไปยังร่างบางที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น
“เอาล่ะ...ผมจะหาทางติดต่อทีมคุณ แต่ต้องมีคนออกไปหาแอนตี้ไวรัสเหมือนกันไม่อย่างนั้นมันคงสายเกินไปที่จะรักษาเขา”
“แล้วต้องทำยังไงบ้าง?” จองซูถาม เขาพร้อมที่จะเสนอตัวเป็นคนแรก
“ห้องทดลองของอีอึนฮยอกอยู่ห่างจากนี่ไปอีกยี่สิบชั้น แต่การที่จะเข้าไปได้ก็ต้องใช้รหัส ซึ่งถ้าผมไปด้วยก็จะไม่มีคนดูแลแผงควบคุมที่นี่”
“แล้วใช้รหัสอะไรล่ะ คุณรู้ไม่ใช่เหรอ?” จองซูถามพลางบีบหัวไหล่อีกคนทั้งสองข้าง ดร.จงอุนปัดมือแกร่งออกพร้อมกับเบี่ยงตัวออกมา
“ไม่มีใครรู้รหัสหรอกนั่นก็รวมถึงผมด้วย”
“....................”
“แล้วข้างบนนั่นก็มีสัตว์ประหลาดมากมายหลายชนิด คุณจะได้เจอกับริกเกอร์มนุษย์กลายพันธุ์ กบยักษ์ แมงมุมยักษ์ ฝูงแมลงสาปติดเชื้อในท่อ ซอมบี้นักวิทยาศาสตร์ รากไม้ หมาไซเบอรัสและอะไรอีกสารพัดที่ไม่สามารถนับหมดภายในวันนี้แน่ เราต้องสุ่มรหัสผ่านแล้วแฮ็คระบบเข้าไปก่อนที่ทำเนียบขาวจะส่งมิซไซน์มาถล่มที่นี่...”
“ผมว่าผมน่าจะทำได้นะ” คยูฮยอนก้าวออกมาข้างหน้า ทุกคนต่างมองเด็กหนุ่มที่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์อะไรแล้วก็นึกเสียเวลา
“ผมเคยลองแฮ๊คทำเนียบขาวมาแล้วครั้งหนึ่ง ข้อมูลโรงเรียนด้วย ลองเจาะเล่นมาหมดแล้ว”
“.................”
“โกหกน่า...อย่างนายน่ะเหรอ?” ดร.จงอุนมองอีกฝ่ายหัวจรดเท้า
“มันจะไปยากอะไร” เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับเดินไปหยัดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ประจำของ ดร.จงอุน ทุกคนเดินมารุมล้อมคยูฮยอนก่อนจะทึ่งกับความอัจฉริยะของเขา ตอนนี้คยูฮยอนกำลังพยายามแฮ็คเข้าระบบทำเนียบขาวซึ่งมันต้องใช้เวลา
“ผมเคยลองขำๆ แต่ไม่เคยเจาะเข้าลึกอะไรขนาดนั้น...ไม่รู้นะว่าจะได้ผลมากน้อยแค่ไหน”
“นายเป็นใครกันแน่ ไปเรียนรู้เรื่องนี้มาจากไหน?” ซีวอนถามเด็กหนุ่มด้วยความสงสัย
“พ่อผมเอง”
TBC*
TALk
พระเอกไม่มีบทบาทเลยจ้า สงสัยมั้ยทงเฮติดเชื้อได้ยังไง? สงสัยลองกลับไปอ่านใหม่ดูนะ 555555555555555555555555555 (คนอ่านบอกกูลืมหมดแล้วค่ะพี่ขำ)
เรื่องปมมันมีไม่เยอะหรอก กำลังจะค่อยๆ คลี่คลายออกทีละนิด ตัวละครมันเยอะ ค่อยๆ ออกมาทีละตอนยังไงก็อย่าเพิ่งเบื่อที่เค้ามาอัพช้านะตะเองงงงงงงง *ขูบ*
- ใครจะขึ้นไปหาแอนตี้ไวรัสกับพี่ทึก พี่เย่หรือคยู
- ทงเฮจะตายห่าไหม (ไม่ต้องเดาหรอก ไรเตอร์ลำเอียง)
ลองเดากันดูเล่นๆ นะคะ ฉากต่อไปนี่เจ้มจ้นมาก (ปรบมือให้ตัวเองที่กล้ามาลงต่อจนได้)
ความคิดเห็น