ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HaeEun ft.HenBer | My...friend "แฟนฉัน"

    ลำดับตอนที่ #7 : ตำราบทที่ 6 : กระตุกหนวดเสือ..

    • อัปเดตล่าสุด 23 พ.ย. 54


     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่มีคำว่า ผิดที่ ผิดเวลา

    ในพจนานุกรมของ ชเว ซีวอนผู้นี้ครับ (เดือด)

     

     

     

    สิ้นเสียงประตูปิดลงมือแกร่งไม่ลืมที่จะล็อคกลอนก่อนจะเอี้ยวตัวหันมามองคนรักที่ยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หลับตาลงพลางหายใจเข้าลึกๆ ข่มใจไว้ซีวอนเอ๋ย...ต่อให้ยอดรักจะทำผิดแค่ไหนขอเพียงแค่เข้ามากอด มาออดอ้อนพูดแก้ตัวกับเขา...เขาก็พร้อมจะให้อภัยได้เสมอต่อให้สิ่งที่เขาคิดนั้นจะไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งก็ตาม OTL

     

     

    ......................

     

     

    นั่น...ยังจะมายืนทำนิ่งใส่อีกนะครับคนเรา....ถลาเข้ามากอดเขาสิ...บอกเขาว่าไอ้เควี่ยชางมินมันปลุกปล้ำขืนใจอะไรก็ว่าไป ซีวอนที่รักผู้นี้จะได้รีบออกไปกระทืบไอ้หล่อนั่นให้จมตีน ริอาจฮึกเหิมกระตุกหนวดเสืออย่างนั้นหรือ...หึ...มึงจะแฮ่ดเกินไปแล้ว....

     

     

     

    มึงเข้ามาทำไม

     

    (())

     

     

     

    อื้อหือ...คำถามนี้แทบอยากยกมือขอตัวช่วยถ้าอยู่ในรายการเกมส์เศรษฐี ถ้าคำถามนี้หลุดออกมาจากปากฮยอกแจ แน่ว่าร้อยทั้งร้อยคงโดนเขาดีดหน้าผากให้หายโง่...แต่ติดอยู่ที่ว่าคนตรงหน้านั้นมียศศักดิ์ยิ่งกว่าอะไรใดๆ ในโลก...อาจจะไม่เหนือเท่าพ่อแม่...อาจจะไม่เท่าน้องสาวที่รัก...แต่โจคยูฮยอนก็เป็นมายเอเวรี่ติ้งที่ชเวซีวอนยกให้อยู่เหนือธรรมชาติเสมอ

     

     

    เมื่อกี้ได้ยินนะ...

    ห๊ะ

    โดนมันทำอะไรมาบ้างรีบบอกกูมาเลย! เดี๋ยวกูจะลบรอยมันให้มึงเอง!” ถลาเข้าไปรวบคนรักเข้ามากอดแน่นพร้อมกับกดหัวทุยให้ซุกลงกับอกแกร่ง คยูฮยอนดิ้นพล่านในอ้อมกอดแถมก่นด่าสามภาษาพร้อมกัน สเปน ฝรั่งเศส เกาหลี...เดี๋ยวมึงเดี๋ยว...พูดไม่ฟังเดี๋ยวมีตบจูบแบบพิศาล

     

    ยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่ครู่หนึ่ง ซีวอนเริ่มงิดหนักเข้าไปทุกทีเมื่อได้กลิ่นแปลกๆ ติดอยู่ตามตัวคนรัก กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายสมุนไพร ถ้าหลับตานี่คงคิดว่ากำลังเดินตีนเปล่าอยู่ในป่าที่มีเสียงนกร้องพืชพรรณนาๆ และน้ำตก...อืม...กลิ่นมันซอฟมาก...

     

     

     

     

     

    เฮ้!! แต่นี่มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมของคิยู!!

     

     

     

     

     

     

     

    พลั๊ก!!!

     

     

     

    อุ๊บ!!!!!”

     

    ร่างสูงกุมเป้าตัวเองพลางตาเหลือกก่อนจะค่อยๆ เซล้มลงไปนอนบนเตียงอย่างทรมานแสนสาหัสเมื่อเจอเข่าลอยแม่ไม้มวยไทยของพ่อยอดขมองอิ่มอันเป็นที่รักเข้าให้...ความรู้สึกวิ้งๆ ประหนึ่งโดนเตะบอลอัดเข้าเป้าในเช้าวันแดดจ้า...ภาพทุกอย่างเลือนราง เห็นเพียงแค่ร่างของคนรักที่ยืนมองเขาด้วยสายตาเอือมระอา...

     

    ล่าสุดที่ลิ้มรสความรู้สึกแบบนี้ก็ตอน ม.3 นู่นล่ะครับ...จำได้ว่าช่วงนั้นมันตอนกีฬาสีหลังจากนั้นผมก็ไม่ลงฟุตบอลอีกต่อไป (เดี๋ยวสูญพันธุ์แล้วคิยูจะหม้ายเอา ไม่ดีๆ)

     

    คยูฮยอนหยัดตัวนั่งลงบนขอบเตียงพลางจ้องมองใบหน้าคมที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บ ไม่ต้องเดาให้ยาก...คาดว่าไอ้เชี่ยนี่คงเข้าใจผิดคิดว่าเขาทำเรื่องอย่างว่ากับชางมินอยู่แน่ไม่ต้องสืบ

    ซีวอนขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อเห็นคนรักโยนกระปุกสีน้ำตาลมาตรงหน้า เพ่งสายตามองก็ต้องมึนตาแตก...ก็นี่มันภาษาไทยชัดๆ

     

     

     

    สมุนไพรนวดแผนโบราณ พ่อกูได้มาจากประเทศไทย

    อ่อ...เคยได้ยินมาบ้างว่านวดแผนไทยนี่เจ๋งมาก

     

    สรรพคุณคือช่วยคลายกล้ามเนื้อและทำให้หลับสบาย

    อืม...สรรพคุณใช้ได้

     

    และเมื่อกี้กูก็นวดขาให้ชางมินเพราะเส้นมันยึ๊ก

    ห๊า! นวดเรอะ?

     

     

     

     

    แค่นวดเหรอ?

    เออดิ กูคงไม่ชวนมันย่างเนื้อแดกในห้องนี้หรอกมั้ง

    แน่ใจนะว่าแค่นวดอย่างเดียว...มึงอย่ามาโกหกซะให้ยาก! กูได้ยินนะที่เมื่อกี้แม่งบอกกลิ่นอะไรหอมๆ ....หึ...มีใช้ทิชชู่เช็ดมือด้วยนี่...คงทำให้แม่งจนเสร็จเลยดิ เบะปากมองคนรักด้วยสายตาเกรี้ยวกราด กูโมโหมากนะครับไม่ได้พูดเล่นด้วย

     

    เอ้านี่ ดมซะ พูดพร้อมกับโยนทิชชู่ที่พึ่งเช็ดไปเมื่อครู่ใส่คนรักที่ยังคงนอนกุมเป้าอยู่บนเตียง ซีวอนทำท่าขยะแขยงเล็กน้อย แม่งคงไม่ได้โยนทิชชู่ที่มีลูกนับล้านของไอ้เชี่ยชางมินมาให้กูดมหรอกนะ

     

    ดม!” ตะคอกอีก...สัดเอ๊ย...ถ้าไม่รักนะกูจะเข้าไปตบกระโหลกให้สักที

     

    สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือออกจากกล่องดวงใจออกมาข้างหนึ่งพลางใช้สองนิ้วจีบมันขึ้นมาอย่างรังเกียจ ไม่มีเวลาให้ชั่งใจก็ต้องยื่นจมูกเข้าไปดมใกล้ๆ เพราะเห็นสายตาพิฆาตของยอดรัก

     

     

     

    เดี๋ยวนะ...กลิ่นมันคุ้นๆ

    เหมือนกลิ่นที่ติดตัวคิยูเมื่อกี้เลย

     

     

     

    มือเรียวหมุนฝากระปุกออกพร้อมกับยื่นไปตรงหน้าร่างสูง ซีวอนมองดวงหน้าหวานครู่หนึ่งก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปดมใกล้ๆ

     

     

     

    กลิ่นเดียวกันกับในทิชชู่และตัวคิยูเป๊ะ....

     

     

     

     

    กูขอถามมึง

    ต้องตอบไหม

    ไม่ตอบโดนตีน

    โอเค งั้นแค่คำถามเดียวนะ

    กูจะถามเท่าไหร่ก็ได้ มึงไม่มีสิทธิ์ต่อรอง

    .................. ณ จุดนี้เหมือนอมนิ้วตีนไว้ในปาก รู้สึกกล้ำกลืนอย่างบอกไม่ถูก...

     

     

     

    นี่หรือชีวิตยอดชายที่ใครๆ ต่างก็หลงไหลแต่ดันถูกเมียข่มเหงยิ่งกว่าขี้ข้า...

     

     

     

    หนึ่งปกติเวลามึงนวดตีนให้กูก่อนนอน มึงใช้อะไรนวด

    .....มือตอบเสียงแผ่วประหนึ่งมีใครสักคนมาลด Volume ลง

    สอง...ถ้ากูจะนวดให้ไอ้ลูกคุณหนูที่วันๆ เอาแต่กินๆ นอนๆ แล้วต้องมาเดินทางไกลแบบไม่คาดฝันเลยเส้นยึ๊กเข้า และกูซึ่งเป็นรูมเมทของมันเพราะเสือกจับสลากได้นอนห้องเดียวกับแฟนเก่า....ขอถามว่ากูต้องใช้ตีนหรือมือนวดให้มันดีล่ะ?

     

     

    แม่งมาเป็นโจทย์แก๊ทแพท...ถ้ามี 6-7 ช๊อยส์กูคงหลับตาจิ้มข้อสอบแบบไม่ต้องคิด...และมีสิทธิ์แป๊ก มศว. โดยไม่ต้องสืบเป็นแน่...

     

     

    มือจ๊ะ... ถ้ากวนตีนตอบข้อแรกไปคงโดนกระทืบอย่างไม่ต้องคิด เห็นหน้านิ่งๆ แบบนั้นแม่งแรงหนักใช่ย่อยนะครับ โมโหผมแต่ละทีนี่หูอื้อตลอด มือไวกว่าเสียงบ้องหูทีได้ยินแค่เสียงวิ้งๆ

     

     

    เจ็บไหม ถามได้...ถ้าตอบว่าไม่มึงคงกระโดดทิ้งศอกใส่กูซ้ำสินะครับที่รัก

    มานี่ เดี๋ยวดูให้ ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นนั่งในทันทีพลางถอยหลังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนรักทำท่าจะเข้ามาปลดกางเกงนอนของเขา ไม่ใช่ว่ากลัวหรือรังเกียจอะไรนะครับ.......

     

     

     

    เพราะถ้าคยูฮยอนพูดว่า จะดูให้ น่ะ........

     

     

     

     

    นี่มึงหนีกูเหรอซีวอน? นั่น...ยังมาทำเสียงโหดใส่อีก...

    มะ...ไม่ได้หนีจ๊ะทูนหัว

    ทีเมื่อกี้ละแฮ่ดเหลือเกิน ไม่พูดเปล่า คยูฮยอนผลักหัวซีวอนเบาๆ ประหนึ่งคนตรงหน้าเป็นทาสในเรือนเบี้ย ซีวอนได้เพียงแค่นั่งหงอ หัวเอนไปตามแรงผลักของอีกฝ่าย

    ตอนแรกกูพกมากะว่าจะเอาไว้ทาให้มึง แต่เห็นชางมินมันเห่าหอนอยู่ได้ว่าปวดจะเป็นจะตาย เกิดมาไม่เคยลำบากแบบนี้ กูเห็นแล้วสงสารแล้วก็ไม่คิดว่ามึงจะโผล่หนังหน้ามาตอนนี้ ได้ฟังเหตุผลแล้วก็ใจเย็นลงบ้าง คยูฮยอนขยับตัวขึ้นไปนั่งใกล้ๆ ก่อนจะดึงแขนอีกฝ่ายลงมานอนบนตักตัวเอง

     

    ทำไมถึงพกมันมาด้วยล่ะ เงยหน้าขึ้นถาม อยากรู้ครับถ้าจะบอกว่าเดินทางไกลแล้วต้องเมื่อยขาคงเป็นไปไม่ได้เพราะไอ้เดินทางไกลฮีชอลซอนแซงนิมมาเปลี่ยนกระทันหันตอนก่อนออกเดินทางนี่

    ก็เมื่อวานมึงซ้อมบาสมาไม่ใช่ไง?

     

    อ๊อ...ใช่...เมื่อวานเขาซ้อมบาสจนสามทุ่มเพราะช่วงนี้ใกล้กีฬาสีแล้ว เลยไม่ได้ไปส่งคยูฮยอนกลับบ้านเหมือนทุกวัน

     

     

    หือ...

    นี่ที่รักสังเกตผมด้วยเหรอเนี่ย?

     

     

    พ่อบอกว่าถ้านวดตอนหลังอาบน้ำเสร็จแล้วจะรู้สึกสบายตัวมากกว่า พูดพร้อมกับก้มลงสบตากับคนรักที่นอนอมยิ้มอยู่ เห็นท่าทางออดอ้อนแล้วก็นึกหมั่นไส้อยากจะเอากระปุกสมนุไพรตีหัวเข้าให้สักที

     

     

    แล้วนี่มึงอาบน้ำรึยัง

     

     

    สิ้นสุดคำถามร่างสูงก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งพลางจ้องมองคนรักที่ใบหน้ามนห่างกันไม่ถึงคืบ มือแกร่งเอื้อมขึ้นมาลูบพวงแก้มขาวก่อนจะไล้นิ้วหัวแม่มือลงบนกลีบปากบาง นัยน์ตาเรียวมองใบหน้าคมที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้มพลางตีสีหน้านิ่งเฉกเช่นเคย

     

     

     

     

     

     

    ช่างเรื่องนั้นเถอะ....ตอนนี้อยากนวดใจจะขาดแล้ว

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    คนที่โง่ที่สุด...

    คือคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดและอยู่เหนือคนอื่นเสมอ...และนั่นไม่ใช่ผมครับ (เสยผม)

     

     

     

     

    สตาร์บั้คชั้นล็อบบี้มีใครคนหนึ่งกำลังนั่งเพลิดเพลินไปกับการอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่บนโซฟาสีเข้มพร้อมกับแก้วโกโก้ร้อนที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกสี่เหลี่ยม...ยกจิบบ้างเป็นบางครั้งหากแต่สายตานั้นยังคงจับจ้องอยู่กับเนื้อหาในหนังสือ ขยับแว่นเล็กน้อยก่อนจะเปิดหน้าถัดไปกะว่าอ่านจบบทนี้แล้วก็จะขึ้นไปอาบน้ำนอนสักหน่อย มานอนต่างถิ่นแบบนี้เลยต้องใช้หนังสือเป็นตัวช่วยกล่อม

     

    นัยน์ตาเรียวเรด้าจับความโมเอ้ของเป้าหมายได้อย่างชัดเจน โผล่หน้าออกมาจากมุมกำแพงเพียงแค่เสี้ยวหนึ่ง เมมความอ้อยของครูสอนชีวะไว้ตาไม่กระพริบ....ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะหาเวลาอยู่กับอาจารย์จองซู...และอาจารย์เย่เค็ดก็ไม่โผล่หัวออกมาทำตัวเป็นมารผจญแบบนี้...เสร็จโก๋... คึคึ...

     

    ครูสอนพละสะดุ้งเล็กน้อยพลางหลบกลับเข้ามุมเมื่อคนที่คลั่งไคล้หลงใหลตั้งแต่วันแรกที่พบนั้นเก็บหนังสือพลางเดินออกมาข้างนอกร้าน

     

     

    คุณรู้ไหม?

    บุพเพเดสตินี่อะไรนั่นมันไม่มีอยู่จริงหรอก...ของแบบนี้มันต้องสร้างขึ้นเอง!

     

     

     

    ข้อแรก...สร้างความบังเอิญ

     

     

     

     

    ผลั่ก!!

     

    อ่ะ!”

    โอ๊ยยยยยย~” สำออยล้มลงไปกองกับพื้นจนอีกฝ่ายรีบก้มลงมาดูอาการ มือเรียวยกขึ้นกุมหน้าผากแสดงสีหน้าเจ็บปวดจนครูสอนชีวะรู้สึกผิด

    ผมขอโทษครับอาจารย์ฮีชอล....เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ? ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย มือแกร่งวางหนังลือลงข้างตัวก่อนจะยกขึ้นหวังแตะลงบนหน้าผากอีกฝ่ายเพื่อดูอาการแต่ก็กลัวจะเสียมารยาท ภายใต้แว่นกรอบหนานั้นมีดวงตาสวยสุกสะกาวที่กำลังทอประกายวาววับกระแทกใจดวงโตๆ ของคิมฮีชอลผู้นี้จนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้...

     

     

    ยิ่งเห็นชัดๆ แล้วยิ่งอยากเข้าไปฟัดแก้มแรงๆ! ฮึ่ย!! -////////-

     

     

    ไม่เป็นไรครับ ผมเดินไม่ระวังเอง ปากบอกอย่างนั้นแต่กลับจับมือเรียวมาทาบแก้มตัวเองโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว จองซูถอนหายใจพลางพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน ซุ่มซ่ามจริงๆ ปาร์คจองซู!

    คือ...ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ...

    ไม่เป็นไรครับอย่าคิดมากสิ...เรื่องแค่นี้เอง

    อ่า...ครับ... ก้มหน้าเล็กน้อย เขาก็เป็นซะอย่างนี้ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสามสิบเป๋อยังไงก็ยังคงเป๋ออย่างนั้น เพราะแบบนี้รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองอยู่บ่อยๆ

     

    ถ้าอาจารย์จองซูรู้สึกผิด.... นัยน์ตาเรียวฉายมองเหยื่อ พยายามเกร็งหน้าให้ดูคนดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เตรียมแผนการมาตั้งแต่ก่อนเข้าค่ายแล้ว...โอกาสทองแบบนี้คิมฮีชอล...มิควรพลาด

     

    ยังไงเหรอครับ?

     

    ไปดื่มเป็นเพื่อนผมสักหน่อย...จะได้ไหมครับ? มองด้วยแววตาหยาดเยิ้มไม่ว่าสาวไหนเห็นก็ต้องหลง...ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยเดินปาดหน้าคณะท่องเที่ยวทีผู้หญิงแทบจะอ้าขารอ..ก็คนมันฮ๊อตให้ทำไง

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

     

    สิ่งที่คุณเห็น...อาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้..

    (หัวเราะเหมือนคนเสียสติ)

     

     

     

    เสียงดนตรีคลาสสิกคลอเบาๆ ในบาร์ของโรงแรม ฝรั่งมากหน้าหลายตาต่างนั่งจิบเบียร์อยู่ตามมุมโต๊ะแต่เขา...คิมฮีชอล...เลือกที่จะนั่งเคาน์เตอร์บาร์กับ เจ้าชายกบ ตามลำพังสองคน

     

     

    ทำไมถึงเรียกว่าเจ้าชายกบอย่างนั้นน่ะเหรอ... (หัวเราะในลำคอแล้วเสยผมขึ้น)

     

     

     

    ก็ครั้งแรกที่พบกันน่ะ...

    อ่า...จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันแรกที่คิมฮีชอลบรรจุเข้าไปเป็นครูสอนพละในโรงเรียนแห่งนี้ ทั้งที่จบบัญชีมาแต่ ผอ.อันเป็นพี่ชายแท้ๆ ดันส่งให้เขาไปสอนวิชาพละทั้งที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด ไอ้หมอนั่นเอาแต่ก่นด่าเช้าเย็นหาว่าเขาทำตัวไร้สาระเรียนจบแล้วไม่รู้จักหางานหาการทำ สุดท้ายก็โดนมันจบเข้ามาเป็นครูสอนพละจนได้...แต่ก็ต้องขอบคุณมันนะ...ที่ทำให้เขาพบกับสิ่งสวยงามที่เรียกว่า เจ้าชายกบ

     

    เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้วนะ...อ้อ! ทำไมถึงเรียกว่า เจ้าชายกบ สินะ...ใช่...วันนั้นฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็นทาง มือเรียวบิดมอเตอร์ไซตากฝนมาที่ลานจอดรถ เสื้อผ้าหน้าผมเปียกโชกไปทั้งตัวพอถอดหมวกกันน็อคออกก็พบกับเขา...

     

     

    อาจารย์จองซู...ที่กำลังนั่งมองกบกระโดดอยู่อย่างตั้งใจ

     

     

     

     

    “…………….”

    ....อ่ะ.... ลักยิ้มละมุนที่ติดอยู่ข้างมุมปากนั้นทำให้หัวใจคิมฮีชอลเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก...รอยยิ้มสวยนั่นเกิดขึ้นได้เพราะแค่เห็นกบกระโดดเข้าไปในสวนดอกไม้ที่นักเรียนปลูกไว้อย่างนั้นหรือ...ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบเจ็ดพึ่งเห็นความแตกต่างระหว่างหญิงชายก็วันนี้

     

    คบผู้หญิงมาถ้าจะให้นั่งนับคงใช้เวลาทั้งวัน แต่บอกได้เลยว่าไม่มีคนไหนที่ทำให้ใจสั่นได้ขนาดนี้...ใบหน้าหวานตัดกับสีเสื้อเชิร์ตสีดำที่สวมใส่...และดูเหมือนเวลาจะหยุดนิ่ง...

     

     

     

     

     

    เมื่อสายตาคู่นั้นจับจ้องมาที่เขา...

     

     

     

     

     

    เจ้าชายกบ

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    ดื่มอะไรดีครับ ฮีชอลถามคนที่นั่งเกร็งอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรขึ้นมา เมื่อกี้ยังเห็นดีๆ อยู่เลย

    เอ่อ...มีน้ำผลไม้รึเปล่าครับ?

    มีแตงโมปั่น ส้มปั่น....... บาร์เทนเดอร์พูดยังไม่ทันจบก็ต้องหยุดชะงักเมื่อใครอีกคนยกมือปรามไว้ก่อน

     

    จุ๊ๆๆ....มาถึงที่นี่แล้วจะดื่มน้ำผลไม้ได้ยังไงกันครับอาจารย์จองซู... หันไปถามคนข้างๆ พร้อมกับรอยยิ้มละไมผิดกับสีหน้าของอาจารย์ชีวะอย่างสิ้นเชิง สีหน้าจองซูดูซีดเผือดเหมือนกลัวอะไรบางอย่างจนอดสงสัยไม่ได้

     

    ผมว่า...ผมไม่ดื่มจะดีกว่าครับ...

    ทำไมล่ะครับ...นิดๆ หน่อยๆ เอง...ดื่มให้ร่างกายอบอุ่นในคืนหนาวแบบนี้ ไม่ต้องถึงกับเมาหรอก

     

     

     

     

    ตอ – แหลนะ – จ๊ะ

     

     

     

    คืนนี้กูจะมอมเจ้าชายกบให้สลบเหมือนเจ้าชายนิทราเลย คริคริ...

     

     

     

    งั้น...ผมดื่มแค่แก้วเดียวพอนะครับ พยายามรักษาน้ำใจของอีกฝ่ายให้มากที่สุด จองซูก็เป็นซะอย่างนี้ ปฏิเสธใครเป็นที่ไหน

     

     

     

     

     

    เพราะสุดท้าย....ก็ตกกระไดพลอยโจรเสมอ

     

     

     

     

     

     

     

     

    โอเคครับ แก้วเดียวก็แก้วเดียว.......

     

     

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    เราจะรู้ได้ยังไง...

    ว่าสิ่งที่เห็นอยู่มันคือความจริง?

     

     

    เสียงหัวเราะระงมไปทั่วทั้งห้องโถงอย่างไม่เกรงใจใคร ขนาดว่ามีคนเข้ามาติเตือนให้เบาเสียงลงก็แล้ว เด็กสาวกลุ่มใหญ่นั่งรุมล้อมเด็กสาวผมสั้นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

     

     

    เธอมีเสน่ห์ต่อผู้หญิงด้วยกัน

     

     

     

    ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแอมเบอร์เคยคบกับแม่นั่น

    อย่าเรียกว่าแม่นั่นสิ วิคตอเรียออกจะน่ารักนะ พูดติดตลก ก็รู้อยู่ว่าสาวๆ ต่างไม่พอใจที่เห็นเธอไปคบหากับดาวห้อง A ที่แสนจะหัวสูง แถมตอนเดินควงแอมเบอร์ก็ส่งสายตาจิกกัดแฟนคลับซะด้วย น่าหมั่นไส้จริงๆ

    ช่างเถอะก็แค่เคยคบเองนี่ ว่าแต่ตอนนี้แอมเบอร์ชอบใครอยู่รึเปล่าน่ะ~” ใบหน้าเรียวขยับเข้ามาใกล้พลางเกาะแขนอีกคนอย่างออดอ้อน ใบหน้าหวานคล้ายเด็กชายชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะผุดยิ้มออกมาอีกครั้ง

     

    ถ้าบอกก็ไม่ตื่นเต้นดิ

    หูย! ได้ไงอ่ะ! คราวนี้จะให้พวกเราเล่นเกมส์ มาเดากันไหม อีกแล้วงั้นสิ?

    ห๊ะ! นี่หมายความว่าเธอกำลังชอบใครอยู่งั้นเหรอ?!”

    ใครกันนะ~ อิจฉาจังเลย TT” เสียงอวดครวญของหญิงสาวทั้งหลายหาได้ทำให้เธอรู้สึกผิด แอมเบอร์ยิ้มพอใจ ฮ่าๆ ก็ลองเดาดูแล้วกัน ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอก

     

    แอมเบอร์หยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะขยิบตาให้ทีหนึ่งท่ามกลางเสียงอู้อี้ของเด็กสาวนับสิบ

     

    ขาเรียวเดินออกมาข้างนอกตัวโรงแรมพลางทอดสายตาออกไปรอบๆ กระแสลมหนาวพัดมาจนต้องกระชับผ้าพันคอพลางสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อฮู๊ดตัวโคร่ง พออยู่เงียบๆ แบบนี้แล้วก็อดคิดถึงบ้านที่จีนไม่ได้ ป่านนี้ป๊ากับม๊าจะทำอะไรอยู่นะ

     

    เห็นหิมะสีขาวที่อยู่บนพื้นแล้วก็เอาเท้าเขี่ยเล่น นึกสนุกก็ก้มลงปั้นมันขนาดพอเหมาะก่อนจะปาออกไปข้างหน้า

     

    โฮม...รัน~” กลีบปากบางคลี่ยิ้มออกมาเมื่อหาอะไรเล่นแก้เบื่อได้แล้ว ลำพังแค่นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มสาวๆ ใช่ว่าจะชอบเสียเมื่อไหร่ บางทีเธอก็อยากทำอะไรในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำบ้าง

    ก้มลงปั้นหิมะขึ้นมาอีกก้อนก่อนจะเล็งไปที่เสาทางด้านขวา เป้าหมายชัดเจนแล้วก็ซัดเข้าไปเต็มแรงแต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมีใครอีกคนเดินมาพอดี

     

    ตายห่า!” สาวชาวจีนอ้าปากหวอรีบวิ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าร่างอวบที่ยกมือบังหน้าตัวเองไว้ จำได้ว่าพี่คนนี้อยู่ปีสามเป็นประธานสีของเธอซะด้วย

    อะ...เอ่อ...พี่ซองมิน....ขอโทษนะพี่...ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ เธอพูดพลางโค้งหัวอย่างมีมารยาท ดวงหน้าหวานหัวเราะน้อยๆ พลางมองไปยังเศษหิมะที่ค่อยๆ ไหลลงตามต้นเสาช้าๆ ถ้าเดินมาเร็วกว่านี้คงโดนหน้าเขาเต็มๆ แหง

    ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เธอทำไมยังไม่ไปนอนอีกล่ะ พูดพลางกระชับผ้าพันคอให้กับคนตรงหน้าสมกับเป็น อีซองมิน ที่ใครๆ ต่างก็หลงรักในความอ่อนโยน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะรู้จักกันเพียงผิวเผินแต่เขาก็เป็นคนเดียวที่ยังเห็นว่าแอมเบอร์ หลิว เป็นผู้หญิง

    นอนไม่หลับอ่ะ ปกติเวลานี้เล่นเกมส์อยู่เลย พูดพร้อมกับเอนหลังพิงเสาแต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายรั้งเธอออกมาจนแทบประทะกับแผงอกอีกคน

     

    มันเปียกนะ...เมื่อกี้เธอพึ่งปาหิมะมา...ดูสิ

     

    แอมเบอร์หัวเราะน้อยๆ เมื่อคนตรงหน้าใส่ใจทุกรายระเอียด...ความเงียบเริ่มเข้าครอบคลุม...ก็ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรต่อดี บางทีเธอก็ควรปล่อยให้รุ่นพี่ที่แสนดีกลับเข้าห้องไปนอนได้แล้ว

     

    พี่ไปนอนแล้วนะ เธอเองก็รีบเข้านอนได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา พูดพร้อมกับถอดถุงมือไหมพรมสีชมพูสวมให้กับคนตัวเล็กกว่า นัยน์ตากลมโตเบิกโพลงพลางเงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ที่กำลังส่งยิ้มให้

     

    ฝันดีนะ มือเรียวขยี้หัวเธอเบาๆ ก่อนจะเดินสวนไป ทิ้งไว้เพียงแค่คำถามคาใจให้กับเธอเท่านั้น

     

     

     

     

     

     

    “....ฝันดี

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

     

    ฉันคิดว่า

    ความรู้สึก...มันเป็นสิ่งที่เข้าใจยากมากที่สุด

     

     

     

     

    “Baby, baby, baby ooh~ Like..

    Baby, baby, baby noo~ Like..

    Baby, baby, baby ohh~

    Thought  you'd always be mine…mine~”

     

     

    ขมวดคิ้วพลางหันไปตามเสียงเพลงที่ดังมาจากทางด้านขวามือ ขาเรียวค่อยๆ ก้าวออกไปตามเสียงอูคูเลเล่ที่คุ้นเคย ยิ่งใกล้ก็ยิ่งแน่ใจ

    ร่างสูงโปร่งนั่งอยู่บนกำแพงทางเดินที่เงียบสงบ สายตาจดจ้องอยู่กับนิ้วเรียวยาวที่กำลังจับคอร์สอูคูเลเล่ ปากอิ่มขับร้องเสียงเพลงออกมาเบาๆ พอให้ได้ยินแค่ตรงนั้น เธอหยุดยืนอยู่กับที่พร้อมกับสายตาใครอีกคนที่กำลังมองมา

     

     

     

    อ้าว...ยังไม่นอนอีกเหรอมึง?

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    เธอหยัดตัวนั่งลงข้างๆ เพื่อนสนิทพลางมองใบหน้าขาวที่ฮัมเพลงไปด้วยเกาอูคูเลเล่ไปด้วย มึงจะอารมณ์สุนทรีเกินไปแล้วขนาดมาเข้าค่ายยังอุตส่าห์หอบมันมาอีกนะ อยู่บ้านห้องติดกันก็รำคาญหูจะแย่ ร้องก็ร้องอยู่เพลงเดียว

     

    เฮนรี่เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่เอาแต่จ้องเขาไม่ห่าง วันนี้ไปแดกอะไรผิดสำแดงมาแน่ๆ

     

    ใบ้แดกไง

    กวนตีน พูดพร้อมกับผลักหัวร่างสูงไปทีหนึ่งพร้อมกับเสียงหัวเราะอยากเคยเมื่อถูกร่างบางทำร้าย ก็เห็นมึงเงียบ ปกติพูดมากจะตายห่า

    นั่นมันมึงต่างหาก

    กูตล๊อด~”

    ....................

     

     

    จู่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรในใจ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเรื่องอะไร...

     

     

    ถุงมือนั่น

    ห๊ะ?

    เหมือนของพี่ซองมินเลย

     

     

    ยอมรับว่าตกใจน้อยๆ เมื่อถูกสังเกต จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตื่นตูมอะไร ก็แค่รุ่นพี่หวังดีให้รุ่นน้องยืมถุงมือเพราะอากาศหนาวเย็นยามดึกก็เท่านั้น แต่พอโดนไอ้หอกนี่จับได้ไหงถึงได้รู้สึกสงสัยอยากถามก็ไม่รู้

     

    ทำไมวะ?

    แค่บังเอิญล่ะมั้ง ตัดความคิดนั่นไปพลางก้มหน้าก้มตาเล่นอูคูเลเล่ แอมเบอร์ขมวดคิ้วก่อนจะมีคำถามผุดขึ้นมาในหัว

     

     

    เชี่ยหลัวมันรู้ได้ยังไงว่าเป็นของพี่ซองมิน?

     

     

    เมื่อกี้บังเอิญเจอกันน่ะ พี่เค้าเลยให้กูยืมมา พูดตามความจริงเพราะไม่รู้ว่าจะโกหกให้ได้อะไรขึ้นมา เฮนรี่หยุดชะงักครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้ามามองคนตัวเล็กกว่า

    อ๋อ..... พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ...แต่กลับสร้างความสงสัยให้กับแอมเบอร์มากขึ้นกว่าเดิม

     

     

    ถ้าเกิดมันพูดมากกว่านี้ก็คงไม่สงสัยอะไรหรอก

     

     

    เมื่อกี้พี่ซองมินเค้าแวะมาคุยกับกู...คือจริงๆ แล้วกูนัดเขามาเองแหละ -.-”

    ................

    พูดแล้วก็เขินว่ะ ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย

    กูอ่ะ...มองพี่เค้ามาสักพักละ เห็นว่าพี่เค้าน่ารักดี ประเด็นสำคัญคือ...ถ้ากูจะชอบพี่เค้ามึงคงไม่มาเป็นมารขวางความรักกูแน่ ยื่นหน้าเข้าไปพร้อมกับยักคิ้วให้ มือเล็กผลักหัวอีกคนออกอย่างแรงจนร่างสูงเซลงไปกับพื้นหากแต่คนถูกทำร้ายจะโกรธเคืองไม่

     

     

    จริงอย่างที่เฮนรี่พูด

    ไม่ว่าเฮนรี่จะชอบผู้หญิงคนไหน คนๆ นั้นก็จะหันไปชอบแอมเบอร์ทุกคน

     

     

    มึงก็เลยหันไปชอบผู้ชายเหมือนพวกไอ้เชี่ยทงเฮสินะ

    เฮ้ย! จะว่างั้นก็ไม่ได้ ทงเฮแม่งได้ทุกอย่างขอแค่มีรูให้เสียบ

    ควาย อัปปรีย์สีกระบาล

    หู้ยยย...แม่คนไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกรับเรื่องใต้สะดือไม่ได้ได้ยินแล้วมันอิ๊อ๊างค์เหลือเกิน~” ดัดเสียงให้ตอแหลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แลดูแล้วมีความสุขเกินหน้าเกินตาประหนึ่งว่าพี่ซองมินรับรักมันแล้วก็ไม่ปาน

     

     

    ก็ไม่แปลกถ้าเชี่ยหลัวมันจะชอบพี่ซองมิน ก็ดูดิอ่อนโยนซะขนาดนั้น

     

     

     

     

     

    คนนี้กูเอาจริงนะเว้ย~”

     

     

     

     

    แอมเบอร์หยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากเพื่อนสนิท ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่เคยเห็นเชี่ยหลัวเอาจริงเอาจังกับใครสักคน เพราะครั้งล่าสุดก็เห็นมันยอมแพ้ไปทุกครั้งเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันมาชอบเธอแทน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เห็นไอ้โง่นี่มีความรัก...

     

     

     

     

     

    แถมคนๆ นั้น...ยังเป็นพี่ซองมินที่แสนดีซะด้วย...

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    อย่า...

    มองคนที่ภายนอก... (หัวเราะ)

     

     

     

     

    ว๊าว! สีเหลืองเหมาะกับชางมินมากเลย

     

    เอ่ยเสียงใสเมื่อมองไปยังเพื่อนร่างสูงที่ยืนโหลดกางเกงนอนลงจนเอวต่ำ ชุดนอนลายการ์ตูนที่ขาเต่อขึ้นมาเลยตาตุ่มนั่นทำให้ชิมชางมินรับสภาพตัวเองในตอนนี้ไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ จะว่าไปแล้วตั้งแต่จำความได้เขาก็โล๊ะชุดนอนลายอนุบาลพวกนี้ไปหมดสิ้นพร้อมกับความทรงจำในวัยเด็ก แต่ถ้าไม่ใส่ชุดนี้ก็ไม่ได้ด้วย...

     

    นายมีชุดของซีวอนไหม...เอ่อ...กางเกงขาสั้นก็ได้ ขอตัวเลือกจากคนตรงหน้าที่ไม่รู้แม้ชื่อเสียงเรียงนามแต่ต้องมาเป็นรูมเมทข้ามคืนกันอย่างไม่ตั้งใจ

    มีนะ แต่อยู่ในกระเป๋านู่นชิมชางมินถอนหายใจพรืดพลางยกมือขึ้นสางผมตัวเองคลายอาการหงุดหงิดเมื่อเห็นสภาพกระเป๋าเดินทางของไอ้ซีวอนที่เสือกล็อคแม่กุญแจเอาไว้ มึงใส่เชื้อ T-Virus ไว้ในนั้นรึไงจะล็อคไว้ทำซอกอะไรกัน

     

    พอใส่ชุดนี้แล้วก็เหมือนกับว่าขังตัวเองไว้ในห้องหมดสิทธิ์เสนอหน้าออกไปเดินหล่อเพราะชุดลูฟี่สุดแหววนี่...ทั้งที่ตอนแรกกะจะเดินออกไปเช็คเรตก่อนนอนสักหน่อยแท้ๆ

     

     

    เราจะออกไปข้างนอก ชางมินอยู่คนเดียวไม่เหงาแน่นะ?

    กูคงเหงาหรอกครับ จะไปไหนก็ไปเถอะ ขอบคุณมาก -_-

     

     

    อืม ไม่เหงาหรอกขอบใจนะ ตอบปัดๆ เพราะขืนหลอกด่าไปหน้าแบบนั้นก็คงไม่รู้เรื่อง เผลอๆ อาจจะหัวเราะชอบใจซะด้วย นี่หรือเพื่อนสนิทของคยูฮยอนอดีตรักของเขา

     

    อยากรู้จริงๆ ว่าสองคนนั้นคุยกันรู้เรื่องไหม คนหนึ่งก็เหมือนเด็กประถม...ไม่สิ...เหมือนตุ๊กตาใส่ถ่านพูดได้มากกว่า...ส่วนอีกคน...ก็ติสม์จนยากที่จะเข้าใจ ไม่รู้ว่าตอนนั้นหลงคยูฮยอนไปได้ยังไง อารมณ์เหมือนคุยกันคนละภาษาไม่มีผิด

     

    เสียงประตูห้องปิดลงร่างสูงก็หลับตาพลางทิ้งตัวนอนบนเตียง ถึงแม้ว่ากางเกงนอนจะใส่ได้พอดีเป๊ะแต่มันก็รู้สึกอึดอัดอยู่ดี คนบ้าที่ไหนจะใส่ชุดฟิตๆ นอนกันวะครับ? พลิกตัวนอนกระสับกระส่ายอยู่พักใหญ่ก่อนจะเห็นแสงแห่งธรรมที่วางอยู่บนหัวเตียง....

     

     

    IPod Touch พร้อม...หูฟัง

     

     

    หยิบลงมาพร้อมกับใส่หูฟังพลางเลือกเพลง เลิกคิ้วมองเล็กน้อยเมื่อประสิทธิภาพของหูฟังนี่ไม่ใช่ขี้ๆ เสียงทุ้มเซอร์ราวประหนึ่งอยู่ในคอนเสิร์ตจริง อื้อหือ...หมอนั่นเห็นเอ๋อๆ แต่รสนิยมดีเหมือนกันนะเนี่ย...ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเคลิ้มจะหลับ...เปลือกตาหนาปรือลงก่อนจะผล็อยหลับไป...

     

     

     

     

    โดยที่ไม่รู้เลยว่า...อีกฝ่ายนั้นลืมคีย์การ์ดไว้บนโต๊ะ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    มอย

     

    ตอนนี้ไม่มีปรี้ทงเฮเลย 5555555555

    เริ่มใส่คู่อื่นเข้าไปแล้ว

    ฟิคห่าไรไม่รู้ประหนึ่งซิทคอม คู่เยอะวุ่นวายมาก ORZ

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×