คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : ตำราบทที่ 6 : กระตุกหนวดเสือ..
ไม่มีคำว่า ‘ผิดที่ ผิดเวลา’
ในพจนานุกรมของ ‘ชเว ซีวอน’ ผู้นี้ครับ (เดือด)
สิ้นเสียงประตูปิดลงมือแกร่งไม่ลืมที่จะล็อคกลอนก่อนจะเอี้ยวตัวหันมามองคนรักที่ยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง หลับตาลงพลางหายใจเข้าลึกๆ ข่มใจไว้ซีวอนเอ๋ย...ต่อให้ยอดรักจะทำผิดแค่ไหนขอเพียงแค่เข้ามากอด มาออดอ้อนพูดแก้ตัวกับเขา...เขาก็พร้อมจะให้อภัยได้เสมอต่อให้สิ่งที่เขาคิดนั้นจะไม่เคยเกิดขึ้นเลยสักครั้งก็ตาม OTL
“......................”
นั่น...ยังจะมายืนทำนิ่งใส่อีกนะครับคนเรา....ถลาเข้ามากอดเขาสิ...บอกเขาว่าไอ้เควี่ยชางมินมันปลุกปล้ำขืนใจอะไรก็ว่าไป ซีวอนที่รักผู้นี้จะได้รีบออกไปกระทืบไอ้หล่อนั่นให้จมตีน ริอาจฮึกเหิมกระตุกหนวดเสืออย่างนั้นหรือ...หึ...มึงจะแฮ่ดเกินไปแล้ว....
“มึงเข้ามาทำไม”
( ̄(エ) ̄)
อื้อหือ...คำถามนี้แทบอยากยกมือขอตัวช่วยถ้าอยู่ในรายการเกมส์เศรษฐี ถ้าคำถามนี้หลุดออกมาจากปากฮยอกแจ แน่ว่าร้อยทั้งร้อยคงโดนเขาดีดหน้าผากให้หายโง่...แต่ติดอยู่ที่ว่าคนตรงหน้านั้นมียศศักดิ์ยิ่งกว่าอะไรใดๆ ในโลก...อาจจะไม่เหนือเท่าพ่อแม่...อาจจะไม่เท่าน้องสาวที่รัก...แต่โจคยูฮยอนก็เป็นมายเอเวรี่ติ้งที่ชเวซีวอนยกให้อยู่เหนือธรรมชาติเสมอ
“เมื่อกี้ได้ยินนะ...”
“ห๊ะ”
“โดนมันทำอะไรมาบ้างรีบบอกกูมาเลย! เดี๋ยวกูจะลบรอยมันให้มึงเอง!” ถลาเข้าไปรวบคนรักเข้ามากอดแน่นพร้อมกับกดหัวทุยให้ซุกลงกับอกแกร่ง คยูฮยอนดิ้นพล่านในอ้อมกอดแถมก่นด่าสามภาษาพร้อมกัน สเปน ฝรั่งเศส เกาหลี...เดี๋ยวมึงเดี๋ยว...พูดไม่ฟังเดี๋ยวมีตบจูบแบบพิศาล
ยื้อกันไปยื้อกันมาอยู่ครู่หนึ่ง ซีวอนเริ่มงิดหนักเข้าไปทุกทีเมื่อได้กลิ่นแปลกๆ ติดอยู่ตามตัวคนรัก กลิ่นหอมอ่อนๆ คล้ายสมุนไพร ถ้าหลับตานี่คงคิดว่ากำลังเดินตีนเปล่าอยู่ในป่าที่มีเสียงนกร้องพืชพรรณนาๆ และน้ำตก...อืม...กลิ่นมันซอฟมาก...
เฮ้!! แต่นี่มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมของคิยู!!
พลั๊ก!!!
“อุ๊บ!!!!!”
ร่างสูงกุมเป้าตัวเองพลางตาเหลือกก่อนจะค่อยๆ เซล้มลงไปนอนบนเตียงอย่างทรมานแสนสาหัสเมื่อเจอเข่าลอยแม่ไม้มวยไทยของพ่อยอดขมองอิ่มอันเป็นที่รักเข้าให้...ความรู้สึกวิ้งๆ ประหนึ่งโดนเตะบอลอัดเข้าเป้าในเช้าวันแดดจ้า...ภาพทุกอย่างเลือนราง เห็นเพียงแค่ร่างของคนรักที่ยืนมองเขาด้วยสายตาเอือมระอา...
ล่าสุดที่ลิ้มรสความรู้สึกแบบนี้ก็ตอน ม.3 นู่นล่ะครับ...จำได้ว่าช่วงนั้นมันตอนกีฬาสีหลังจากนั้นผมก็ไม่ลงฟุตบอลอีกต่อไป (เดี๋ยวสูญพันธุ์แล้วคิยูจะหม้ายเอา ไม่ดีๆ)
คยูฮยอนหยัดตัวนั่งลงบนขอบเตียงพลางจ้องมองใบหน้าคมที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บ ไม่ต้องเดาให้ยาก...คาดว่าไอ้เชี่ยนี่คงเข้าใจผิดคิดว่าเขาทำเรื่องอย่างว่ากับชางมินอยู่แน่ไม่ต้องสืบ
ซีวอนขมวดคิ้วน้อยๆ เมื่อเห็นคนรักโยนกระปุกสีน้ำตาลมาตรงหน้า เพ่งสายตามองก็ต้องมึนตาแตก...ก็นี่มันภาษาไทยชัดๆ
“สมุนไพรนวดแผนโบราณ พ่อกูได้มาจากประเทศไทย”
อ่อ...เคยได้ยินมาบ้างว่านวดแผนไทยนี่เจ๋งมาก
“สรรพคุณคือช่วยคลายกล้ามเนื้อและทำให้หลับสบาย”
อืม...สรรพคุณใช้ได้
“และเมื่อกี้กูก็นวดขาให้ชางมินเพราะเส้นมันยึ๊ก”
ห๊า! นวดเรอะ?
“แค่นวดเหรอ?”
“เออดิ กูคงไม่ชวนมันย่างเนื้อแดกในห้องนี้หรอกมั้ง”
“แน่ใจนะว่าแค่นวดอย่างเดียว...มึงอย่ามาโกหกซะให้ยาก! กูได้ยินนะที่เมื่อกี้แม่งบอกกลิ่นอะไรหอมๆ ....หึ...มีใช้ทิชชู่เช็ดมือด้วยนี่...คงทำให้แม่งจนเสร็จเลยดิ” เบะปากมองคนรักด้วยสายตาเกรี้ยวกราด กูโมโหมากนะครับไม่ได้พูดเล่นด้วย
“เอ้านี่ ดมซะ” พูดพร้อมกับโยนทิชชู่ที่พึ่งเช็ดไปเมื่อครู่ใส่คนรักที่ยังคงนอนกุมเป้าอยู่บนเตียง ซีวอนทำท่าขยะแขยงเล็กน้อย แม่งคงไม่ได้โยนทิชชู่ที่มีลูกนับล้านของไอ้เชี่ยชางมินมาให้กูดมหรอกนะ
“ดม!” ตะคอกอีก...สัดเอ๊ย...ถ้าไม่รักนะกูจะเข้าไปตบกระโหลกให้สักที
สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือออกจากกล่องดวงใจออกมาข้างหนึ่งพลางใช้สองนิ้วจีบมันขึ้นมาอย่างรังเกียจ ไม่มีเวลาให้ชั่งใจก็ต้องยื่นจมูกเข้าไปดมใกล้ๆ เพราะเห็นสายตาพิฆาตของยอดรัก
เดี๋ยวนะ...กลิ่นมันคุ้นๆ
เหมือนกลิ่นที่ติดตัวคิยูเมื่อกี้เลย
มือเรียวหมุนฝากระปุกออกพร้อมกับยื่นไปตรงหน้าร่างสูง ซีวอนมองดวงหน้าหวานครู่หนึ่งก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปดมใกล้ๆ
กลิ่นเดียวกันกับในทิชชู่และตัวคิยูเป๊ะ....
“กูขอถามมึง”
“ต้องตอบไหม”
“ไม่ตอบโดนตีน”
“โอเค งั้นแค่คำถามเดียวนะ”
“กูจะถามเท่าไหร่ก็ได้ มึงไม่มีสิทธิ์ต่อรอง”
“..................” ณ จุดนี้เหมือนอมนิ้วตีนไว้ในปาก รู้สึกกล้ำกลืนอย่างบอกไม่ถูก...
นี่หรือชีวิตยอดชายที่ใครๆ ต่างก็หลงไหลแต่ดันถูกเมียข่มเหงยิ่งกว่าขี้ข้า...
“หนึ่ง
ปกติเวลามึงนวดตีนให้กูก่อนนอน มึงใช้อะไรนวด”
“.....มือ” ตอบเสียงแผ่วประหนึ่งมีใครสักคนมาลด Volume ลง
“สอง...ถ้ากูจะนวดให้ไอ้ลูกคุณหนูที่วันๆ เอาแต่กินๆ นอนๆ แล้วต้องมาเดินทางไกลแบบไม่คาดฝันเลยเส้นยึ๊กเข้า และกูซึ่งเป็นรูมเมทของมันเพราะเสือกจับสลากได้นอนห้องเดียวกับแฟนเก่า....ขอถามว่ากูต้องใช้ตีนหรือมือนวดให้มันดีล่ะ?”
แม่งมาเป็นโจทย์แก๊ทแพท...ถ้ามี 6-7 ช๊อยส์กูคงหลับตาจิ้มข้อสอบแบบไม่ต้องคิด...และมีสิทธิ์แป๊ก มศว. โดยไม่ต้องสืบเป็นแน่...
“มือจ๊ะ...” ถ้ากวนตีนตอบข้อแรกไปคงโดนกระทืบอย่างไม่ต้องคิด เห็นหน้านิ่งๆ แบบนั้นแม่งแรงหนักใช่ย่อยนะครับ โมโหผมแต่ละทีนี่หูอื้อตลอด มือไวกว่าเสียงบ้องหูทีได้ยินแค่เสียงวิ้งๆ
“เจ็บไหม” ถามได้...ถ้าตอบว่าไม่มึงคงกระโดดทิ้งศอกใส่กูซ้ำสินะครับที่รัก
“มานี่ เดี๋ยวดูให้” ร่างสูงดีดตัวลุกขึ้นนั่งในทันทีพลางถอยหลังเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าคนรักทำท่าจะเข้ามาปลดกางเกงนอนของเขา ไม่ใช่ว่ากลัวหรือรังเกียจอะไรนะครับ.......
เพราะถ้าคยูฮยอนพูดว่า ‘จะดูให้’ น่ะ........
“นี่มึงหนีกูเหรอซีวอน?” นั่น...ยังมาทำเสียงโหดใส่อีก...
“มะ...ไม่ได้หนีจ๊ะทูนหัว”
“ทีเมื่อกี้ละแฮ่ดเหลือเกิน” ไม่พูดเปล่า คยูฮยอนผลักหัวซีวอนเบาๆ ประหนึ่งคนตรงหน้าเป็นทาสในเรือนเบี้ย ซีวอนได้เพียงแค่นั่งหงอ หัวเอนไปตามแรงผลักของอีกฝ่าย
“ตอนแรกกูพกมากะว่าจะเอาไว้ทาให้มึง แต่เห็นชางมินมันเห่าหอนอยู่ได้ว่าปวดจะเป็นจะตาย เกิดมาไม่เคยลำบากแบบนี้ กูเห็นแล้วสงสารแล้วก็ไม่คิดว่ามึงจะโผล่หนังหน้ามาตอนนี้” ได้ฟังเหตุผลแล้วก็ใจเย็นลงบ้าง คยูฮยอนขยับตัวขึ้นไปนั่งใกล้ๆ ก่อนจะดึงแขนอีกฝ่ายลงมานอนบนตักตัวเอง
“ทำไมถึงพกมันมาด้วยล่ะ” เงยหน้าขึ้นถาม อยากรู้ครับถ้าจะบอกว่าเดินทางไกลแล้วต้องเมื่อยขาคงเป็นไปไม่ได้เพราะไอ้เดินทางไกลฮีชอลซอนแซงนิมมาเปลี่ยนกระทันหันตอนก่อนออกเดินทางนี่
“ก็เมื่อวานมึงซ้อมบาสมาไม่ใช่ไง?”
อ๊อ...ใช่...เมื่อวานเขาซ้อมบาสจนสามทุ่มเพราะช่วงนี้ใกล้กีฬาสีแล้ว เลยไม่ได้ไปส่งคยูฮยอนกลับบ้านเหมือนทุกวัน
หือ...
นี่ที่รักสังเกตผมด้วยเหรอเนี่ย?
“พ่อบอกว่าถ้านวดตอนหลังอาบน้ำเสร็จแล้วจะรู้สึกสบายตัวมากกว่า” พูดพร้อมกับก้มลงสบตากับคนรักที่นอนอมยิ้มอยู่ เห็นท่าทางออดอ้อนแล้วก็นึกหมั่นไส้อยากจะเอากระปุกสมนุไพรตีหัวเข้าให้สักที
“แล้วนี่มึงอาบน้ำรึยัง”
สิ้นสุดคำถามร่างสูงก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งพลางจ้องมองคนรักที่ใบหน้ามนห่างกันไม่ถึงคืบ มือแกร่งเอื้อมขึ้นมาลูบพวงแก้มขาวก่อนจะไล้นิ้วหัวแม่มือลงบนกลีบปากบาง นัยน์ตาเรียวมองใบหน้าคมที่ฉาบไปด้วยรอยยิ้มพลางตีสีหน้านิ่งเฉกเช่นเคย
“ช่างเรื่องนั้นเถอะ....ตอนนี้อยากนวดใจจะขาดแล้ว”
.
.
คนที่โง่ที่สุด...
คือคนที่คิดว่าตัวเองฉลาดและอยู่เหนือคนอื่นเสมอ...และนั่นไม่ใช่ผมครับ (เสยผม)
สตาร์บั้คชั้นล็อบบี้มีใครคนหนึ่งกำลังนั่งเพลิดเพลินไปกับการอ่านหนังสือเล่มหนาอยู่บนโซฟาสีเข้มพร้อมกับแก้วโกโก้ร้อนที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกสี่เหลี่ยม...ยกจิบบ้างเป็นบางครั้งหากแต่สายตานั้นยังคงจับจ้องอยู่กับเนื้อหาในหนังสือ ขยับแว่นเล็กน้อยก่อนจะเปิดหน้าถัดไปกะว่าอ่านจบบทนี้แล้วก็จะขึ้นไปอาบน้ำนอนสักหน่อย มานอนต่างถิ่นแบบนี้เลยต้องใช้หนังสือเป็นตัวช่วยกล่อม
นัยน์ตาเรียวเรด้าจับความโมเอ้ของเป้าหมายได้อย่างชัดเจน โผล่หน้าออกมาจากมุมกำแพงเพียงแค่เสี้ยวหนึ่ง เมมความอ้อยของครูสอนชีวะไว้ตาไม่กระพริบ....ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีที่จะหาเวลาอยู่กับอาจารย์จองซู...และอาจารย์เย่เค็ดก็ไม่โผล่หัวออกมาทำตัวเป็นมารผจญแบบนี้...เสร็จโก๋... คึคึ...
ครูสอนพละสะดุ้งเล็กน้อยพลางหลบกลับเข้ามุมเมื่อคนที่คลั่งไคล้หลงใหลตั้งแต่วันแรกที่พบนั้นเก็บหนังสือพลางเดินออกมาข้างนอกร้าน
คุณรู้ไหม?
บุพเพเดสตินี่อะไรนั่นมันไม่มีอยู่จริงหรอก...ของแบบนี้มันต้องสร้างขึ้นเอง!
ข้อแรก...สร้างความบังเอิญ
ผลั่ก!!
“อ่ะ!”
“โอ๊ยยยยยย~” สำออยล้มลงไปกองกับพื้นจนอีกฝ่ายรีบก้มลงมาดูอาการ มือเรียวยกขึ้นกุมหน้าผากแสดงสีหน้าเจ็บปวดจนครูสอนชีวะรู้สึกผิด
“ผมขอโทษครับอาจารย์ฮีชอล....เป็นอะไรมากรึเปล่าครับ?” ถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใย มือแกร่งวางหนังลือลงข้างตัวก่อนจะยกขึ้นหวังแตะลงบนหน้าผากอีกฝ่ายเพื่อดูอาการแต่ก็กลัวจะเสียมารยาท ภายใต้แว่นกรอบหนานั้นมีดวงตาสวยสุกสะกาวที่กำลังทอประกายวาววับกระแทกใจดวงโตๆ ของคิมฮีชอลผู้นี้จนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้...
ยิ่งเห็นชัดๆ แล้วยิ่งอยากเข้าไปฟัดแก้มแรงๆ! ฮึ่ย!! -////////-
“ไม่เป็นไรครับ ผมเดินไม่ระวังเอง” ปากบอกอย่างนั้นแต่กลับจับมือเรียวมาทาบแก้มตัวเองโดยที่อีกฝ่ายไม่รู้ตัว จองซูถอนหายใจพลางพยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นยืน ซุ่มซ่ามจริงๆ ปาร์คจองซู!
“คือ...ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ...”
“ไม่เป็นไรครับอย่าคิดมากสิ...เรื่องแค่นี้เอง”
“อ่า...ครับ...” ก้มหน้าเล็กน้อย เขาก็เป็นซะอย่างนี้ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสามสิบเป๋อยังไงก็ยังคงเป๋ออย่างนั้น เพราะแบบนี้รู้สึกหงุดหงิดกับตัวเองอยู่บ่อยๆ
“ถ้าอาจารย์จองซูรู้สึกผิด....” นัยน์ตาเรียวฉายมองเหยื่อ พยายามเกร็งหน้าให้ดูคนดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เตรียมแผนการมาตั้งแต่ก่อนเข้าค่ายแล้ว...โอกาสทองแบบนี้คิมฮีชอล...มิควรพลาด
“ยังไงเหรอครับ?”
“ไปดื่มเป็นเพื่อนผมสักหน่อย...จะได้ไหมครับ?” มองด้วยแววตาหยาดเยิ้มไม่ว่าสาวไหนเห็นก็ต้องหลง...ตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยเดินปาดหน้าคณะท่องเที่ยวทีผู้หญิงแทบจะอ้าขารอ..ก็คนมันฮ๊อตให้ทำไง
.
.
สิ่งที่คุณเห็น...อาจไม่เป็นอย่างที่คุณคิดก็ได้..
(หัวเราะเหมือนคนเสียสติ)
เสียงดนตรีคลาสสิกคลอเบาๆ ในบาร์ของโรงแรม ฝรั่งมากหน้าหลายตาต่างนั่งจิบเบียร์อยู่ตามมุมโต๊ะแต่เขา...คิมฮีชอล...เลือกที่จะนั่งเคาน์เตอร์บาร์กับ ‘เจ้าชายกบ’ ตามลำพังสองคน
ทำไมถึงเรียกว่าเจ้าชายกบอย่างนั้นน่ะเหรอ... (หัวเราะในลำคอแล้วเสยผมขึ้น)
ก็ครั้งแรกที่พบกันน่ะ...
อ่า...จำได้ว่าวันนั้นเป็นวันแรกที่คิมฮีชอลบรรจุเข้าไปเป็นครูสอนพละในโรงเรียนแห่งนี้ ทั้งที่จบบัญชีมาแต่ ผอ.อันเป็นพี่ชายแท้ๆ ดันส่งให้เขาไปสอนวิชาพละทั้งที่ไม่เต็มใจเลยสักนิด ไอ้หมอนั่นเอาแต่ก่นด่าเช้าเย็นหาว่าเขาทำตัวไร้สาระเรียนจบแล้วไม่รู้จักหางานหาการทำ สุดท้ายก็โดนมันจบเข้ามาเป็นครูสอนพละจนได้...แต่ก็ต้องขอบคุณมันนะ...ที่ทำให้เขาพบกับสิ่งสวยงามที่เรียกว่า ‘เจ้าชายกบ’
เมื่อกี้พูดถึงไหนแล้วนะ...อ้อ! ทำไมถึงเรียกว่า ‘เจ้าชายกบ’ สินะ...ใช่...วันนั้นฝนตกหนักจนแทบมองไม่เห็นทาง มือเรียวบิดมอเตอร์ไซตากฝนมาที่ลานจอดรถ เสื้อผ้าหน้าผมเปียกโชกไปทั้งตัวพอถอดหมวกกันน็อคออกก็พบกับเขา...
อาจารย์จองซู...ที่กำลังนั่งมองกบกระโดดอยู่อย่างตั้งใจ
“
.”
“....อ่ะ....” ลักยิ้มละมุนที่ติดอยู่ข้างมุมปากนั้นทำให้หัวใจคิมฮีชอลเต้นแรงอย่างบอกไม่ถูก...รอยยิ้มสวยนั่นเกิดขึ้นได้เพราะแค่เห็นกบกระโดดเข้าไปในสวนดอกไม้ที่นักเรียนปลูกไว้อย่างนั้นหรือ...ตั้งแต่เกิดมาจนอายุยี่สิบเจ็ดพึ่งเห็นความแตกต่างระหว่างหญิงชายก็วันนี้
คบผู้หญิงมาถ้าจะให้นั่งนับคงใช้เวลาทั้งวัน แต่บอกได้เลยว่าไม่มีคนไหนที่ทำให้ใจสั่นได้ขนาดนี้...ใบหน้าหวานตัดกับสีเสื้อเชิร์ตสีดำที่สวมใส่...และดูเหมือนเวลาจะหยุดนิ่ง...
เมื่อสายตาคู่นั้นจับจ้องมาที่เขา...
‘เจ้าชายกบ’
.
.
“ดื่มอะไรดีครับ” ฮีชอลถามคนที่นั่งเกร็งอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรขึ้นมา เมื่อกี้ยังเห็นดีๆ อยู่เลย
“เอ่อ...มีน้ำผลไม้รึเปล่าครับ?”
“มีแตงโมปั่น ส้มปั่น.......” บาร์เทนเดอร์พูดยังไม่ทันจบก็ต้องหยุดชะงักเมื่อใครอีกคนยกมือปรามไว้ก่อน
“จุ๊ๆๆ....มาถึงที่นี่แล้วจะดื่มน้ำผลไม้ได้ยังไงกันครับอาจารย์จองซู...” หันไปถามคนข้างๆ พร้อมกับรอยยิ้มละไมผิดกับสีหน้าของอาจารย์ชีวะอย่างสิ้นเชิง สีหน้าจองซูดูซีดเผือดเหมือนกลัวอะไรบางอย่างจนอดสงสัยไม่ได้
“ผมว่า...ผมไม่ดื่มจะดีกว่าครับ...”
“ทำไมล่ะครับ...นิดๆ หน่อยๆ เอง...ดื่มให้ร่างกายอบอุ่นในคืนหนาวแบบนี้ ไม่ต้องถึงกับเมาหรอก”
ตอ แหล นะ จ๊ะ
คืนนี้กูจะมอมเจ้าชายกบให้สลบเหมือนเจ้าชายนิทราเลย คริคริ...
“งั้น...ผมดื่มแค่แก้วเดียวพอนะครับ” พยายามรักษาน้ำใจของอีกฝ่ายให้มากที่สุด จองซูก็เป็นซะอย่างนี้ ปฏิเสธใครเป็นที่ไหน
เพราะสุดท้าย....ก็ตกกระไดพลอยโจรเสมอ
“โอเคครับ แก้วเดียวก็แก้วเดียว.......”
.
.
เราจะรู้ได้ยังไง...
ว่าสิ่งที่เห็นอยู่มันคือความจริง?
เสียงหัวเราะระงมไปทั่วทั้งห้องโถงอย่างไม่เกรงใจใคร ขนาดว่ามีคนเข้ามาติเตือนให้เบาเสียงลงก็แล้ว เด็กสาวกลุ่มใหญ่นั่งรุมล้อมเด็กสาวผมสั้นที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
เธอมีเสน่ห์ต่อผู้หญิงด้วยกัน
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าแอมเบอร์เคยคบกับแม่นั่น”
“อย่าเรียกว่าแม่นั่นสิ วิคตอเรียออกจะน่ารักนะ” พูดติดตลก ก็รู้อยู่ว่าสาวๆ ต่างไม่พอใจที่เห็นเธอไปคบหากับดาวห้อง A ที่แสนจะหัวสูง แถมตอนเดินควงแอมเบอร์ก็ส่งสายตาจิกกัดแฟนคลับซะด้วย น่าหมั่นไส้จริงๆ
“ช่างเถอะก็แค่เคยคบเองนี่ ว่าแต่ตอนนี้แอมเบอร์ชอบใครอยู่รึเปล่าน่ะ~” ใบหน้าเรียวขยับเข้ามาใกล้พลางเกาะแขนอีกคนอย่างออดอ้อน ใบหน้าหวานคล้ายเด็กชายชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะผุดยิ้มออกมาอีกครั้ง
“ถ้าบอกก็ไม่ตื่นเต้นดิ”
“หูย! ได้ไงอ่ะ! คราวนี้จะให้พวกเราเล่นเกมส์ ‘มาเดากันไหม’ อีกแล้วงั้นสิ?”
“ห๊ะ! นี่หมายความว่าเธอกำลังชอบใครอยู่งั้นเหรอ?!”
“ใครกันนะ~ อิจฉาจังเลย TT” เสียงอวดครวญของหญิงสาวทั้งหลายหาได้ทำให้เธอรู้สึกผิด แอมเบอร์ยิ้มพอใจ “ฮ่าๆ ก็ลองเดาดูแล้วกัน ไม่ใกล้ไม่ไกลหรอก”
แอมเบอร์หยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะขยิบตาให้ทีหนึ่งท่ามกลางเสียงอู้อี้ของเด็กสาวนับสิบ
ขาเรียวเดินออกมาข้างนอกตัวโรงแรมพลางทอดสายตาออกไปรอบๆ กระแสลมหนาวพัดมาจนต้องกระชับผ้าพันคอพลางสอดมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อฮู๊ดตัวโคร่ง พออยู่เงียบๆ แบบนี้แล้วก็อดคิดถึงบ้านที่จีนไม่ได้ ป่านนี้ป๊ากับม๊าจะทำอะไรอยู่นะ
เห็นหิมะสีขาวที่อยู่บนพื้นแล้วก็เอาเท้าเขี่ยเล่น นึกสนุกก็ก้มลงปั้นมันขนาดพอเหมาะก่อนจะปาออกไปข้างหน้า
“โฮม...รัน~” กลีบปากบางคลี่ยิ้มออกมาเมื่อหาอะไรเล่นแก้เบื่อได้แล้ว ลำพังแค่นั่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มสาวๆ ใช่ว่าจะชอบเสียเมื่อไหร่ บางทีเธอก็อยากทำอะไรในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำบ้าง
ก้มลงปั้นหิมะขึ้นมาอีกก้อนก่อนจะเล็งไปที่เสาทางด้านขวา เป้าหมายชัดเจนแล้วก็ซัดเข้าไปเต็มแรงแต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อมีใครอีกคนเดินมาพอดี
“ตายห่า!” สาวชาวจีนอ้าปากหวอรีบวิ่งเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าร่างอวบที่ยกมือบังหน้าตัวเองไว้ จำได้ว่าพี่คนนี้อยู่ปีสามเป็นประธานสีของเธอซะด้วย
“อะ...เอ่อ...พี่ซองมิน....ขอโทษนะพี่...ไม่ได้ตั้งใจอ่ะ” เธอพูดพลางโค้งหัวอย่างมีมารยาท ดวงหน้าหวานหัวเราะน้อยๆ พลางมองไปยังเศษหิมะที่ค่อยๆ ไหลลงตามต้นเสาช้าๆ ถ้าเดินมาเร็วกว่านี้คงโดนหน้าเขาเต็มๆ แหง
“ไม่เป็นไรหรอก ว่าแต่เธอทำไมยังไม่ไปนอนอีกล่ะ” พูดพลางกระชับผ้าพันคอให้กับคนตรงหน้าสมกับเป็น ‘อีซองมิน’ ที่ใครๆ ต่างก็หลงรักในความอ่อนโยน ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะรู้จักกันเพียงผิวเผินแต่เขาก็เป็นคนเดียวที่ยังเห็นว่า ‘แอมเบอร์ หลิว’ เป็นผู้หญิง
“นอนไม่หลับอ่ะ ปกติเวลานี้เล่นเกมส์อยู่เลย” พูดพร้อมกับเอนหลังพิงเสาแต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่ออีกฝ่ายรั้งเธอออกมาจนแทบประทะกับแผงอกอีกคน
“มันเปียกนะ...เมื่อกี้เธอพึ่งปาหิมะมา...ดูสิ”
แอมเบอร์หัวเราะน้อยๆ เมื่อคนตรงหน้าใส่ใจทุกรายระเอียด...ความเงียบเริ่มเข้าครอบคลุม...ก็ไม่รู้ว่าจะชวนคุยอะไรต่อดี บางทีเธอก็ควรปล่อยให้รุ่นพี่ที่แสนดีกลับเข้าห้องไปนอนได้แล้ว
“พี่ไปนอนแล้วนะ เธอเองก็รีบเข้านอนได้แล้ว เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” พูดพร้อมกับถอดถุงมือไหมพรมสีชมพูสวมให้กับคนตัวเล็กกว่า นัยน์ตากลมโตเบิกโพลงพลางเงยหน้าขึ้นมองรุ่นพี่ที่กำลังส่งยิ้มให้
“ฝันดีนะ” มือเรียวขยี้หัวเธอเบาๆ ก่อนจะเดินสวนไป ทิ้งไว้เพียงแค่คำถามคาใจให้กับเธอเท่านั้น
“....ฝันดี”
.
.
ฉันคิดว่า
ความรู้สึก...มันเป็นสิ่งที่เข้าใจยากมากที่สุด
“Baby, baby, baby ooh~ Like..
Baby, baby, baby noo~ Like..
Baby, baby, baby ohh~
Thought you'd always be mine
mine~”
ขมวดคิ้วพลางหันไปตามเสียงเพลงที่ดังมาจากทางด้านขวามือ ขาเรียวค่อยๆ ก้าวออกไปตามเสียงอูคูเลเล่ที่คุ้นเคย ยิ่งใกล้ก็ยิ่งแน่ใจ
ร่างสูงโปร่งนั่งอยู่บนกำแพงทางเดินที่เงียบสงบ สายตาจดจ้องอยู่กับนิ้วเรียวยาวที่กำลังจับคอร์สอูคูเลเล่ ปากอิ่มขับร้องเสียงเพลงออกมาเบาๆ พอให้ได้ยินแค่ตรงนั้น เธอหยุดยืนอยู่กับที่พร้อมกับสายตาใครอีกคนที่กำลังมองมา
“อ้าว...ยังไม่นอนอีกเหรอมึง?”
.
.
เธอหยัดตัวนั่งลงข้างๆ เพื่อนสนิทพลางมองใบหน้าขาวที่ฮัมเพลงไปด้วยเกาอูคูเลเล่ไปด้วย มึงจะอารมณ์สุนทรีเกินไปแล้วขนาดมาเข้าค่ายยังอุตส่าห์หอบมันมาอีกนะ อยู่บ้านห้องติดกันก็รำคาญหูจะแย่ ร้องก็ร้องอยู่เพลงเดียว
เฮนรี่เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายที่เอาแต่จ้องเขาไม่ห่าง วันนี้ไปแดกอะไรผิดสำแดงมาแน่ๆ
“ใบ้แดกไง”
“กวนตีน” พูดพร้อมกับผลักหัวร่างสูงไปทีหนึ่งพร้อมกับเสียงหัวเราะอยากเคยเมื่อถูกร่างบางทำร้าย “ก็เห็นมึงเงียบ ปกติพูดมากจะตายห่า”
“นั่นมันมึงต่างหาก”
“กูตล๊อด~”
“....................”
จู่ๆ ก็รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรในใจ แต่ก็คิดไม่ออกว่าเรื่องอะไร...
“ถุงมือนั่น”
“ห๊ะ?”
“เหมือนของพี่ซองมินเลย”
ยอมรับว่าตกใจน้อยๆ เมื่อถูกสังเกต จริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะตื่นตูมอะไร ก็แค่รุ่นพี่หวังดีให้รุ่นน้องยืมถุงมือเพราะอากาศหนาวเย็นยามดึกก็เท่านั้น แต่พอโดนไอ้หอกนี่จับได้ไหงถึงได้รู้สึกสงสัยอยากถามก็ไม่รู้
“ทำไมวะ?”
“แค่บังเอิญล่ะมั้ง” ตัดความคิดนั่นไปพลางก้มหน้าก้มตาเล่นอูคูเลเล่ แอมเบอร์ขมวดคิ้วก่อนจะมีคำถามผุดขึ้นมาในหัว
เชี่ยหลัวมันรู้ได้ยังไงว่าเป็นของพี่ซองมิน?
“เมื่อกี้บังเอิญเจอกันน่ะ พี่เค้าเลยให้กูยืมมา” พูดตามความจริงเพราะไม่รู้ว่าจะโกหกให้ได้อะไรขึ้นมา เฮนรี่หยุดชะงักครู่หนึ่งก่อนจะหันหน้ามามองคนตัวเล็กกว่า
“อ๋อ.....” พยักหน้าน้อยๆ เป็นคำตอบ...แต่กลับสร้างความสงสัยให้กับแอมเบอร์มากขึ้นกว่าเดิม
ถ้าเกิดมันพูดมากกว่านี้ก็คงไม่สงสัยอะไรหรอก
“เมื่อกี้พี่ซองมินเค้าแวะมาคุยกับกู...คือจริงๆ แล้วกูนัดเขามาเองแหละ -.-”
“................”
“พูดแล้วก็เขินว่ะ ไม่เคยเป็นแบบนี้เลย”
“กูอ่ะ...มองพี่เค้ามาสักพักละ เห็นว่าพี่เค้าน่ารักดี ประเด็นสำคัญคือ...ถ้ากูจะชอบพี่เค้ามึงคงไม่มาเป็นมารขวางความรักกูแน่” ยื่นหน้าเข้าไปพร้อมกับยักคิ้วให้ มือเล็กผลักหัวอีกคนออกอย่างแรงจนร่างสูงเซลงไปกับพื้นหากแต่คนถูกทำร้ายจะโกรธเคืองไม่
จริงอย่างที่เฮนรี่พูด
ไม่ว่าเฮนรี่จะชอบผู้หญิงคนไหน คนๆ นั้นก็จะหันไปชอบแอมเบอร์ทุกคน
“มึงก็เลยหันไปชอบผู้ชายเหมือนพวกไอ้เชี่ยทงเฮสินะ”
“เฮ้ย! จะว่างั้นก็ไม่ได้ ทงเฮแม่งได้ทุกอย่างขอแค่มีรูให้เสียบ”
“ควาย อัปปรีย์สีกระบาล”
“หู้ยยย...แม่คนไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกรับเรื่องใต้สะดือไม่ได้ได้ยินแล้วมันอิ๊อ๊างค์เหลือเกิน~” ดัดเสียงให้ตอแหลที่สุดเท่าที่จะทำได้ แลดูแล้วมีความสุขเกินหน้าเกินตาประหนึ่งว่าพี่ซองมินรับรักมันแล้วก็ไม่ปาน
ก็ไม่แปลกถ้าเชี่ยหลัวมันจะชอบพี่ซองมิน ก็ดูดิอ่อนโยนซะขนาดนั้น
“คนนี้กูเอาจริงนะเว้ย~”
แอมเบอร์หยุดชะงักเมื่อได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากเพื่อนสนิท ตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาไม่เคยเห็นเชี่ยหลัวเอาจริงเอาจังกับใครสักคน เพราะครั้งล่าสุดก็เห็นมันยอมแพ้ไปทุกครั้งเมื่อผู้หญิงคนนั้นหันมาชอบเธอแทน นานแค่ไหนแล้วที่ไม่เห็นไอ้โง่นี่มีความรัก...
แถมคนๆ นั้น...ยังเป็นพี่ซองมินที่แสนดีซะด้วย...
.
.
อย่า...
มองคนที่ภายนอก... (หัวเราะ)
“ว๊าว! สีเหลืองเหมาะกับชางมินมากเลย”
เอ่ยเสียงใสเมื่อมองไปยังเพื่อนร่างสูงที่ยืนโหลดกางเกงนอนลงจนเอวต่ำ ชุดนอนลายการ์ตูนที่ขาเต่อขึ้นมาเลยตาตุ่มนั่นทำให้ชิมชางมินรับสภาพตัวเองในตอนนี้ไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ จะว่าไปแล้วตั้งแต่จำความได้เขาก็โล๊ะชุดนอนลายอนุบาลพวกนี้ไปหมดสิ้นพร้อมกับความทรงจำในวัยเด็ก แต่ถ้าไม่ใส่ชุดนี้ก็ไม่ได้ด้วย...
“นายมีชุดของซีวอนไหม...เอ่อ...กางเกงขาสั้นก็ได้” ขอตัวเลือกจากคนตรงหน้าที่ไม่รู้แม้ชื่อเสียงเรียงนามแต่ต้องมาเป็นรูมเมทข้ามคืนกันอย่างไม่ตั้งใจ
“มีนะ แต่อยู่ในกระเป๋านู่น” ชิมชางมินถอนหายใจพรืดพลางยกมือขึ้นสางผมตัวเองคลายอาการหงุดหงิดเมื่อเห็นสภาพกระเป๋าเดินทางของไอ้ซีวอนที่เสือกล็อคแม่กุญแจเอาไว้ มึงใส่เชื้อ T-Virus ไว้ในนั้นรึไงจะล็อคไว้ทำซอกอะไรกัน
พอใส่ชุดนี้แล้วก็เหมือนกับว่าขังตัวเองไว้ในห้องหมดสิทธิ์เสนอหน้าออกไปเดินหล่อเพราะชุดลูฟี่สุดแหววนี่...ทั้งที่ตอนแรกกะจะเดินออกไปเช็คเรตก่อนนอนสักหน่อยแท้ๆ
“เราจะออกไปข้างนอก ชางมินอยู่คนเดียวไม่เหงาแน่นะ?”
กูคงเหงาหรอกครับ จะไปไหนก็ไปเถอะ ขอบคุณมาก -_-
“อืม ไม่เหงาหรอกขอบใจนะ” ตอบปัดๆ เพราะขืนหลอกด่าไปหน้าแบบนั้นก็คงไม่รู้เรื่อง เผลอๆ อาจจะหัวเราะชอบใจซะด้วย นี่หรือเพื่อนสนิทของคยูฮยอนอดีตรักของเขา
อยากรู้จริงๆ ว่าสองคนนั้นคุยกันรู้เรื่องไหม คนหนึ่งก็เหมือนเด็กประถม...ไม่สิ...เหมือนตุ๊กตาใส่ถ่านพูดได้มากกว่า...ส่วนอีกคน...ก็ติสม์จนยากที่จะเข้าใจ ไม่รู้ว่าตอนนั้นหลงคยูฮยอนไปได้ยังไง อารมณ์เหมือนคุยกันคนละภาษาไม่มีผิด
เสียงประตูห้องปิดลงร่างสูงก็หลับตาพลางทิ้งตัวนอนบนเตียง ถึงแม้ว่ากางเกงนอนจะใส่ได้พอดีเป๊ะแต่มันก็รู้สึกอึดอัดอยู่ดี คนบ้าที่ไหนจะใส่ชุดฟิตๆ นอนกันวะครับ? พลิกตัวนอนกระสับกระส่ายอยู่พักใหญ่ก่อนจะเห็นแสงแห่งธรรมที่วางอยู่บนหัวเตียง....
IPod Touch พร้อม...หูฟัง
หยิบลงมาพร้อมกับใส่หูฟังพลางเลือกเพลง เลิกคิ้วมองเล็กน้อยเมื่อประสิทธิภาพของหูฟังนี่ไม่ใช่ขี้ๆ เสียงทุ้มเซอร์ราวประหนึ่งอยู่ในคอนเสิร์ตจริง อื้อหือ...หมอนั่นเห็นเอ๋อๆ แต่รสนิยมดีเหมือนกันนะเนี่ย...ฟังเพลงไปเรื่อยๆ ก็เริ่มเคลิ้มจะหลับ...เปลือกตาหนาปรือลงก่อนจะผล็อยหลับไป...
โดยที่ไม่รู้เลยว่า...อีกฝ่ายนั้นลืมคีย์การ์ดไว้บนโต๊ะ...
มอย
ตอนนี้ไม่มีปรี้ทงเฮเลย 5555555555
เริ่มใส่คู่อื่นเข้าไปแล้ว
ฟิคห่าไรไม่รู้ประหนึ่งซิทคอม คู่เยอะวุ่นวายมาก ORZ
ความคิดเห็น