ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HaeEun | "We Got Married" แต่งงานกันไหมผู้ชายของผม!

    ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 5 : ว้าวุ่น

    • อัปเดตล่าสุด 22 ก.ย. 55


    © Tenpoints!
     

     

     

     

    Chapter 5

    ว้าวุ่น

     

     



     

     

    เงียบ...

    เงียบ...

     

     
     

    จ้องหน้าผมทำไม

    ชดเชยเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เราไม่ได้เจอกันไง ยอโบก็ควรมองหน้าผมนานๆ เหมือนกันนะรู้ไหม พูดจบก็หัวเราะชอบใจ ฮยอกแจผลักหน้าอีกคนออกขณะที่เขาทั้งคู่กำลังพยายามข่มตาหลับในค่ำคืนที่เงียบสงบแต่คงเป็นเขาคนเดียวมากกว่าที่พยายามจะหลับ -_- สถานที่ๆ ไม่คุ้นเคย บังกะโลริมหาดระแวกนั้นที่เขาทั้งสองเดินหากันร่วมชั่วโมง เพราะกว่าจะเคลียร์มื้อเย็นที่ทงเฮทำมาลงท้องจนหมดฟ้าก็มืดซะแล้ว  พอตั้งท่าว่าจะกลับคอนโดก็ได้รับภารกิจเพิ่มอีก เปิดดูข้างในแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเจอประโยคที่ทำให้เขาแทบลมจับ

     

     
     

    ฟ้ามืดแล้ว คู่รักปลาน้อยหาที่พักค้างคืนให้คุ้มค่ากับเดทอันแสนสุขเถอะนะ

     

     
     

    สุขกับผีอะไรล่ะ ที่นี่หนาวจะตายชัก คงมีแต่อีทงเฮล่ะมั้งที่เพลิดเพลินไปกับเดทนี่ หนำซ้ำยังไม่มีแววว่าจะมีที่พักอาศัยอยู่ระแวกนี้ด้วย โชคดีที่หาที่พักได้ไม่อย่างนั้นเขาทั้งคู่คงไปนอนบนรถเมล์จนกว่าจะเช้าแน่

    ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เราไม่ได้เจอกัน สิ่งแรกที่ยอโบทำตอนตื่นนอนคืออะไร ทำหน้าจริงจังพร้อมกับขยับเข้าหาคุณภรรยาก่อนจะเบรคกระทันหันเพราะถูกมือเรียวดันหน้าเอาไว้

    หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ

    อะไรกันเล่า~”

    ก็หยิบมือถือมาดู เช็คทวีตเตอร์ เล่นไลน์ แล้วก็ลุกไปอาบน้ำ

    โหยทำไมตอบแบบนี้เนี่ย ตามบทยอโบต้องตอบว่าคิดถึงผมเป็นสิ่งแรกทันทีที่หันไปมองที่นอนข้างๆ แล้วไม่เจอผมนะ

    แล้วทำไมผมต้องพูดในสิ่งที่ผมไม่ได้คิดด้วย อย่าเพ้อได้ไหมอีทงเฮ ฮยอกแจมองหน่ายๆ ทงเฮทำแก้มอมลมเหมือนเด็กๆ ซึ่งมันอาจจะน่ารักในสายตาแฟนคลับแต่สำหรับอีฮยอกแจคนนี้ไม่ใช่ เห็นแล้วอยากจะหยิกแก้มแรงๆ เอาให้แดงกันไปข้าง

    แล้วนายล่ะทำอะไร

    ผมตื่นมาปิดนาฬิกาปลุกแล้วนอนต่อ

    เห็นไหม นายเองก็ไม่ได้คิดถึงผมเหมือนกันนั่นแหละ ฮยอกแจแค่นเสียงหัวเราะ ทีงี้แล้วอยากให้เขาคิดถึงงั้นเหรอ -_-

    ยอโบอยากให้ผมคิดถึงก็บอกมาตรงๆ เถอะ -.-

    ผมพูดแบบนั้นเหรอไง? ฮยอกแจหรี่ตามองคนหลงตัวเองแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมาเป็นภาษารัสเซีย

    ผมพูด แต่ยอโบน่ะคิด~”

    ไปห่างๆ เลยไป

    พอผมหายไปเดี๋ยวคนบางคนก็จะคิดถึงอีกนั่นแหละ เอาแต่มองมือถืออยู่ตลอดเวลา...เสียงานเสียการหมดแล้ว~” พูดขึ้นมาลอยๆ แต่ก็ทำให้อีกคนสตั้นได้ ฮยอกแจเบิกตาโพลงด้วยความสงสัย อีทงเฮรู้ได้ยังไงว่าเขาเอาแต่ดูมือถือ

    งงล่ะสิว่าผมรู้ได้ยังไง ทงเฮหรี่ตามองคนข้างๆ แล้วยิ้มกริ่ม ท่าทางมีชัยแบบนี้เห็นแล้วก็อยากจะลืมๆ เรื่องที่ได้ยินเมื่อครู่ไปซะ มาทำให้เขาอยากรู้แล้วก็เล่นตัว -_-

    ถึงเราจะไม่ได้เจอกัน แต่ผมก็ดูยอโบจัดรายการวิทยุเกือบทุกวันเลยนะ ถึงจะไม่ได้ดูจนจบก็เถอะ

    ทำเป็นพูดดี ฮยอกแจพึมพำเบาๆ รู้สึกดีที่ได้ยินคำตอบแบบนั้นถึงเขาจะไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือโกหก บางทีอีทงเฮอาจจะโมเมเอาเองก็ได้ว่าดูเขาจัดรายการ เพราะเวลาจะหลับนอนของหมอนี่ในแต่ละวันก็ใช่ว่าจะมีมากมายขนาดนั้นแล้วประสาอะไรกับเจียดเวลามาดูเขาจัดรายการวิทยุ

    ก็ผมต้องถ่ายละครนี่

    ช่างเถอะ...ว่าแต่เราจำเป็นต้องค้างคืนด้วยเหรอ

    พอนึกถึงสถานภาพปัจจุบันแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ เขาทั้งคู่เป็นเพียงแค่ Special Couple มันก็จริงที่คู่ของเขาเรียกเรตติ้งได้ดีแต่มันจำเป็นเรอะที่ต้องค้างนอกสถานที่ด้วยกัน ตอนนี้กระแส Yaoi มาแรงจนสังคมส่วนใหญ่ก็เปิดใจยอมรับบ้างแล้วแต่ฮยอกแจก็ยังคงเกร็งทุกครั้งที่กล้องจับภาพมา กลัวว่าจะทำอะไรพลาดไปจนทำลายชื่อเสียงของเขาทั้งคู่

    จำเป็นอยู่แล้ว มาเดทกันทั้งทีจะให้มานั่งกินข้าวแล้วกลับเลยก็ยังไงๆ อยู่นะยอโบ

    มันยังไงๆ ตั้งแต่ให้ผู้ชายสองคนมานั่งกินข้าวด้วยกันแล้วล่ะ ไหนจะต้องมานอนจ้องหน้ากันท่ามกลางแสงไฟนีออนแบบนี้อีก

    ผมว่าโรแมนติกดีออก หน้ายอโบตอนกระทบกับแสงสีส้มน่ามองจะตายไป ทงเฮยิ้มกว้างก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกหมอนอัดหน้าเข้าให้ มือหนาดึงหมอนใบเล็กออกก็พบว่าใครอีกคนพลิกตัวนอนหันหลังให้เขาเสียแล้ว เห็นอย่างนั้นคนทะเล้นก็เลยหันกลับไปมองกล้องแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะสวมกอดเอวอีกฝ่ายจากข้างหลังแล้วจี้ที่เอวบางเข้าให้

    เฮ้!!”

    “I’m Mr.Simple!”

    ทงเฮพูดต่อขณะที่ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่งมองคาดโทษเขา ร่างหนาลุกขึ้นพร้อมกับยิ้มขำเมื่อเห็นท่าทางบ้าจี้ของคุณภรรยา...ฮยอกแจกุมขมับ คาดว่าคืนนี้เขาคงไม่ได้หลับไม่ได้นอนง่ายๆ แน่ จริงอยู่ที่เขาสองคนใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาสักพักแล้วแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะคุ้นชินกับการนอนเตียงเดียวกับเจ้าลิงนี่สักหน่อย วันดีคืนดีก็นอนกอดเขาแน่นประหนึ่งเขาเป็นน้องปันปันหมอนกอดน้ำลายบูดนั่น บางวันก็เอาหน้ามาใกล้แก้มเขาจนตื่นมาแทบสะดุ้งตกเตียง

    เราควรนอนนะทงเฮ

    ผมนอนไม่หลับ แบบว่ามันไม่คุ้นที่ครับยอโบ

    อย่ามาอ้าง ตอนย้ายเข้าเรือนหอวันแรกผมเห็นนายหลับเป็นตาย ฮยอกแจเอานิ้วชี้หน้าอีกฝ่ายแต่ก็ต้องรีบชักกลับเมื่อคนทะเล้นทำท่าจะงับมันเข้า

    วันนั้นผมเหนื่อยผมเลยหลับได้ พออยู่ไปนานๆ แล้วก็เริ่มชิน แต่วันนี้ผมไม่เหนื่อยผมก็เลยไม่ชินไง

    งั้นก็นอนนับแกะไปจนกว่าจะง่วงแล้วกัน ราตรีสวัสดิ์ ผมจะนอนแล้ว ฮยอกแจทิ้งตัวลงนอนแต่ก็ถูกทงเฮดึงแขนให้ลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง ร่างบางทึ้งหัวตัวเองพลางมองคนข้างๆ ที่กำลังแสดงสีหน้าเอาแต่ใจใส่เขา

    ไม่ได้นะ ผมนอนไม่หลับยอโบจะทิ้งให้ผมตาค้างแบบนี้ได้ลงคอเชียวเหรอ

    ลง ฮยอกแจจิ๊ปากแล้วทำท่าจะเหนี่ยวคนตรงหน้า มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่ทั้งคู่จะกัดกันให้กล้องได้จับภาพ และดูเหมือนทงเฮจะชอบให้อีกฝ่ายแสดงออกแบบนี้กับเขามากกว่าตอนที่ฮยอกแจนิ่งเงียบไม่พูดอะไร

    หาเกมเล่นกันเถอะ

    เมื่อกี้ผมเพิ่งบอกนายไปว่าผมง่วงงงงงงงงงงงงงงงงง ไม่เข้าใจเหรอไงห๊า~~~~” ฮยอกแจลากเสียงยาวแต่ก็ถูกอีกคนเอานิ้วป้ายลิ้นเข้าให้

    ผ่าง!”

    ย๊าห์! อีทงเฮ!” แทบเลือดขึ้นหน้าเมื่อลิ้นได้สัมผัสนิ้วเค็มๆ ของไอ้บ้าที่เอาแต่กวนประสาทเขาไม่หยุด ทำตัวน่ารักได้ไม่นานเป็นต้องสร้างเรื่องปวดหัวให้เขาอยู่เรื่อย ทำตัวดีๆ แล้วมันจะตายยย

    โอ๊ะ!” เจ้าตัวแสบเห็นท่าไม่ดี รีบดีดตัวลุกขึ้นแล้วทำท่าจะวิ่งหนี ยึกยักอยู่ข้างเตียงครู่หนึ่งก่อนจะคว้าหมอนที่อีกคนรัวปาใส่เขาเอาไว้ รับได้บ้าง โดนหน้าเต็มๆ บ้าง แต่อีทงเฮก็ยังหัวเราะชอบใจกับท่าทางของฮยอกแจที่นั่งอยู่บนเตียง

    คืนนี้นอนข้างนอกเลยนะ

    จริงอ่ะ

    ..................... พอได้ยินถามกลับแบบนั้นแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด ทั้งที่ถูกเขาไล่ให้ไปนอนข้างนอกแต่อีทงเฮก็ยังคงยิ้มร่าอยู่อย่างนั้น

     

     


     

    [ ตัดฉากไปตอนสัมภาษณ์ ]

     

    อึนฮยอก: มันเหลืออดจริงๆ ครับ นี่ผมกำลังเล่นรายการ  WGM หรือ Hello Baby กันแน่?

    ทงเฮ: ผมชอบที่สุดคือตอนที่อึนฮยอกเขาโมโหครับ ผมรู้สึกได้ว่าเขาจะเป็นตัวของตัวเองที่สุดในเวลาแบบนั้น

    ทงเฮ: ผมกำลังพยายามลบช่องว่างระหว่างเราอยู่ต่างหากล่ะ (หัวเราะ)

     

    [ ตัดฉาก ]

     

     



     

    .

    .

     

     

     

    ไค ไบ โบ!”

    ไค ไบ โบ!”

    ฮ่าๆ ผมชนะอีกแล้วล่ะยอโบจ๋า... ฮยอกแจถอนหายใจพรืดก่อนจะลืมตามองคนตรงหน้าที่กำลังลูบมือเตรียมพร้อมที่จะระเบิดหน้าผากเขาอีกครั้งหลังจากที่เล่นเกมเป่ายิ้งฉุบดีดหน้าผากกันมาครึ่งชั่วโมงเพื่อกล่อมทงเฮให้ง่วงซึ่งอีฮยอกแจก็ไม่เข้าใจว่าวิธีนี้มันช่วยได้ตรงไหน อีทงเฮไม่เห็นจะมีท่าทีว่าจะง่วงเลยสักนิดหนำซ้ำยังทำตาใสยิ่งกว่าในทีแรกอีก ตอนนี้เขาเริ่มแสบร้อนตรงหน้าผากจนคิดว่ามันคงแดงเถือกเพราะแรงดีดของไอ้บ้านี่ไปแล้ว

    รอบนี้ผมจะไม่ดีดเหม่งยอโบแล้วก็ได้

    พูดจริง? ฮยอกแจมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อสายตา ทงเฮกอดอกพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ร่างบางหรี่ตามองคนตรงหน้า...คนอย่างอีทงเฮน่ะเหรอจะยอมง่ายๆ

    จะให้เล่นดีดเหม่งแบบนี้มันก็น่าเบื่อเกินไป เอาเป็นว่าถ้าเกิดใครแพ้ก็ต้องยอมทำตามที่คนชนะสั่ง

    ผมนอนละ ราตรีสวัสดิ์

    ถ้ายอโบนอนคงรู้นะว่าผมจะทำอะไร คราวนี้ฮยอกแจยังไม่ทันเอนตัวลงนอนก็ต้องสต็อปค้างท่านั้นเมื่อได้ยินประโยคชวนผวา พอเอี้ยวหน้าหันกลับมาก็พบกับหน้าปลาๆ ของอีทงเฮกำลังยักคิ้วใส่ อะไรกัน! ทำไมหมอนี่ต้องดูเหนือเขาไปซะทุกเรื่องเลยล่ะ!

    จ้ำจี้ มะเขือเปาะแปะ -.-”

    เอาตามเนื้อเรื่องตามบทนะอีทงเฮ อย่างที่ว่านายเป็นสามี ผมเป็นภรรยา นายควรยอมผมบ้างอะไรบ้าง

    ผมไม่ยอมยอโบตรงไหน...ผมยอมหมดทุกอย่างเลยนะ ถ้ายอโบจะกระทำชำเราร่างกายผมจนถึงเช้าผมก็ไม่ขัดขืนหรอก

    เงียบปากซะ ฮยอกแจผลักหัวคนที่กำลังหัวเราะร่าจนหัวทุยเอนลงมานอนตักเขา นัยน์ตาเรียวเหลือบไปเห็นตากล้องที่ยังคงจับภาพเขาทั้งคู่อยู่ เพราะอีทงเฮแท้ๆ ถ้าเกิดหมอนี่ยอมหลับยอมนอน ตากล้องเขาคงไม่ต้องถ่างตาถ่ายจนถึงตอนนี้หรอก

    งั้นเกมเมื่อกี้ไม่นับก็ได้ เล่นกันใหม่นะ

    นายควรง่วงได้แล้วนะอีทงเฮ พรุ่งนี้มีถ่ายละครตอนบ่ายไม่ใช่เหรอไง กว่าเราจะกลับไปถึงก็สายแล้ว ไหนจะเวลาแต่งหน้าแต่งตัวของนายอีก

    ยอโบรู้ด้วยเหรอว่าพรุ่งนี้ผมมีถ่ายละคร?

    .................... พูดไม่ออกเมื่อถูกถามกลับ ฮยอกแจกลอกตาก่อนจะโพล่งหัวเราะออกมาหน้าตาเฉย

    จะเล่นต่อไม่ใช่เหรอ เอาล่ะคราวนี้ผมจะเอาจริงแล้ว ไค ไบ...

    บอกมาเลยนะ ว่าไปรู้เรื่องตารางงานผมมาจากไหน ทงเฮยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ หวังเค้นคำตอบจากคนปากแข็ง ริมฝีปากหยักอมยิ้มขณะกุมมือคนที่กำลังตั้งท่าจะเล่นเกมเป่ายิ้งฉุบเอาไว้

    อะ...อะไรเล่า...

    ถามพี่ฮีชอลมาเหรอ

    คิดว่าผมมีความกล้ามากพอที่จะเข้าหาผู้จัดการส่วนตัวนายเหรอไง ฮยอกแจพูดขณะที่ใบหน้าของเขาทั้งคู่ห่างกันไม่เท่าไหร่

    งั้นบอกผมมาสิว่ายอโบรู้ได้ยังไง

    มันสำคัญเหรอว่าผมจะรู้มาจากไหน ยังไงมันเป็นหน้าที่ๆ ผมควรจะรู้ไว้บ้างว่านายมีงานอะไรในแต่ละวัน ใบหน้าเรียวเบือนหลบไปอีกทาง เลี่ยงการสบตากับคนตรงหน้า ทงเฮเห็นอย่างนั้นแล้วก็อมยิ้มพอใจ เอนตัวลงไปนอนบนตักภรรยาอีกครั้งแล้วเอามือฮยอกแจมากุมบนอกตัวเอง

    สำคัญสิ ถ้าเรื่องของผมมันอยู่ในหัวของยอโบแบบนี้บ่อยๆ ก็คงดี

    เรื่องอะไรผมจะต้องคิดถึงนายบ่อยๆ ด้วย ฮยอกแจก้มลงมองคนที่นอนหลับตายิ้มอยู่บนตักเขาแล้วก็อดที่จะเขินไม่ได้

     

    ที่เป็นแบบนี้เพราะไม่เคยมีใครมาทำแบบนี้กับเขา อาการใจเต้นแรง เขิน ประหม่า ทุกอย่างก็เพราะว่าอีทงเฮคนเดียว...

     

    เพราะผมเป็นสามีของนาย...อึนฮยอก พูดพร้อมกับลืมตาขึ้นมาสบตากับอีกฝ่าย ถึงแม้จะเป็นเพียงชื่อในวงการแต่ก็ทำให้ฮยอกแจหน้าขึ้นสีได้ไม่ยากกับสีหน้าจริงจังแบบนั้น ทั้งคู่เงียบไปทั้งที่ยังสบตากันอยู่จนกระทั่งเสียงพวงกุญแจของตากล้องตกลงพื้นฮยอกแจถึงได้ผละตัวออกแล้วเดินหนีไปเข้าห้องน้ำ

     

     

     

     

     

    [ ตัดไปตอนสัมภาษณ์ ]

     

    ทงเฮ: (นิ่งไปเกือบครึ่งนาทีก่อนจะเอามือป้องปากแล้วหัวเราะออกมา)

    ทงเฮ: ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าพูดแบบนั้นออกไปได้ยังไง

    ทงเฮ: ผมก็เขินเหมือนกันครับ จริงๆ นะ ~

     

    [ ตัดฉาก ]

     

     

     

     

     

     

    ปัง...

    แผ่นหลังบางเอนพิงประตูห้องน้ำพร้อมกับหลับตาลง ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเขกหัวตัวเองรัวๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่

    อีฮยอกแจ เป็นบ้าอะไรของแกเนี่ย เขาไม่ได้หมายความอย่างที่แกคิดหรอกนะ

    แล้วเดินหนีออกมาแบบนี้หมอนั่นจะคิดยังไงล่ะ โธ่เอ๊ย...

    เม้มริมฝีปากแน่นแล้วลืมตาขึ้นหลังจากพยายามสงบสติอารมณ์ มันเป็นแบบนี้มาตลอดหลังจากจบคอนเสิร์ตในวันนั้น เขาพยายามทำตัวเหมือนปกติทั้งที่ความรู้สึกของเขาที่มีต่ออีทงเฮมันก็ไม่ปกติมาสักพักใหญ่ๆ แล้ว และถ้าเขาแสดงอาการมากเกินไปก็กลัวจะถูกมองแปลกๆ เพราะบางทีหมอนั่นก็อาจจะแค่เช็คเรตติ้งรายการหรือไม่ก็แค่ขำๆ กับเขาเท่านั้น มันก็จริงที่เขาคิดจะเริ่มต้นใหม่กับทงเฮ แต่นั่นเขาหมายความว่าจะพยายามทำดีด้วยเผื่อว่ามันจะทดแทนในส่วนที่ทงเฮขาดหายไปได้บ้าง ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอีทงเฮขาดเหลืออะไรตรงไหน ความอบอุ่นเหรอ...คงไม่มั้ง...ถ้าจะให้ทดแทนในส่วนของพ่อก็คงแทนกันไม่ได้อีก

     

     

     

    ถ้าเกิดวันหนึ่งทงเฮรู้ว่าเขาคิดยังไง...

     

     

    อย่าบอกนะ...ว่านายชอบผมเข้าจริงๆ น่ะ?

    อึนฮยอกครับ ที่ผมทำไปก็แค่เรียกเรตติ้งรายการ นายคิดว่าผมจะชอบนายจริงๆ เหรอ?

     

     

    โว๊ยยย!!!” ทึ้งหัวตัวเองแล้วเดินไปหยุดหน้าอ่างล้างมือ จ้องมองใบหน้าตัวเองที่กำลังมุ่ยเหมือนอะไรสักอย่างที่น่าเกลียดไม่น่ามอง กวักน้ำขึ้นมาล้างหน้าแล้วปล่อยให้หยดน้ำไหลลงไปหวังให้ความเย็นเรียกสติของเขากลับมา  

     


     

    นับวัน...เขาก็ยิ่งรู้สึกดีกับอีทงเฮมากขึ้นเรื่อยๆ

    แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือ...ยิ่งเขารู้สึกดีมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งวิ่งหนีมากขึ้นเท่านั้น...

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

     

     

    วันนี้ไม่มีงานเหรอลูก?

    วันนี้มีจัดรายการวิทยุอย่างเดียว พ่อไม่อยู่เหรอครับ? ฮยอกแจถามขณะที่กวาดสายตาไปรอบๆ คอนโดกว้างที่เพิ่งซื้อให้เป็นของขวัญให้กับพ่อแม่เมื่อไม่นานมานี้

    ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาก่อนจะเอื้อมไปหยิบรีโมททีวีมากดเปิดเล่นแก้เซ็ง จริงๆ วันนี้เขามีนัดกับซองมินแต่ก็โทรไปแคนเซิลกระทันหัน ไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย ไอ้ความรู้สึกกระวนกระวาย หดหู่ เพียงแค่รู้ตัวว่ากำลังชอบอีทงเฮจนถอนตัวไม่ขึ้น...เขาจะทำยังไงกับความรู้สึกตัวเองในตอนนี้ดี จะต้องฝืนพยายามแสดงออกไปให้เป็นปกติเหมือนกับทุกครั้งอีกนานแค่ไหนกันนะ ต้องเป็นดีเจอึนฮยอกคนปากแข็งที่ไม่สนใจใยดีอีทงเฮแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่

    ฮยอกแจ

    ครับ ฮยอกแจยิ้มเมื่อคนเป็นแม่หยัดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันกับเขา ร่างบางลุกขึ้นแล้วพลิกตัวไปนอนตักคนเป็นแม่อย่างออดอ้อน นัยน์ตาเรียวหลับลงพร้อมกับกุมมืออุ่นๆ นี่เอาไว้

    เหนื่อยเหรอลูก

    นิดหน่อยครับ แต่ไม่เป็นไรหรอก...ได้นอนตักแม่ผมก็หายแล้ว

    แน่ใจนะ แม่เป็นห่วงมากเลยกับรายการวีก๊อตแมรี่นั่นน่ะ ลูกคงไม่ได้ถูกมองเป็นตัวประหลาดในวงการหรอกใช่ไหม?

    หืม...แม่ดูด้วยเหรอครับ?

    แม่ก็ได้ดูบ้าง ก็มีแต่พ่อของลูกนั่นแหละนั่งดูทุกตอนเลย พอดูจบก็กลัวว่าลูกจะถูกแอนตี้ถึงกับยอมนั่งปวดหัวกับอินเตอร์เน็ตเป็นชั่วโมงเพื่อเข้าไปอ่านข่าว ดูว่าลูกของเราโดนโจมตีบ้างไหม?

    มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียดเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วครับแม่~ ผมกับทงเฮเราเป็นสีสันเพิ่มให้กับรายการ ถึงจะมีแฟนคลับบางกลุ่มไม่ชอบแต่ก็ยังมีแฟนคลับที่ยังสนับสนุนเราอยู่

    ถ้าลูกโอเคแม่ก็โอเค อย่าฝืนตัวเองนักนะ

    ครับ~” ฮยอกแจยิ้มพร้อมกับเอามือเรียวมาทาบแก้มตัวเอง อย่างน้อยมืออุ่นๆ ของแม่ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาได้บ้าง เขาไม่ควรฟุ้งซ่านกับเรื่องอีทงเฮจนเสียความเป็นตัวของตัวเองไปแบบนี้

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    นอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟาแล้วก็ถอนหายใจ นึกหงุดหงิดกับตัวเองที่มีอาการงี่เง่าแบบนี้ไม่สิ้นสุด เมื่อไหร่นะ เมื่อไหร่ความรู้สึกบ้าๆ นี่จะหายไปสักที...ไอ้ความรู้สึกที่เข้าใจแต่ทำไม่ได้แบบนี้น่ะ...สไลด์มือถืออ่านข่าวในทวีตเตอร์หวังว่าจะทำให้รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วก็สะดุดตากับข่าวหนึ่งจากแอคเคาน์ที่เขาลิสต์เอาไว้แทนที่จะฟอลโล่วเพราะถ้าเกิดฟอลเมื่อไหร่ก็กลัวจะถูกมองว่าที่ฟอลก็เพราะอยากตามข่าวสามีล่ะสิ?

     

     

    ครับ...มันคือแอคเคาน์ละครของทงเฮที่กำลังออกอากาศอยู่

     


     

     

    [ ตัดไปตอนสัมภาษณ์ ]

     

    อึนฮยอก: ผมก็ดูผ่านๆ นะครับ ถ้ามีเวลาว่างก็เปิดไปดูบ้าง

    อึนฮยอก: เขาไม่เหมาะกับการเป็นพระเอกเลยสักนิดเดียว

     

    [ ตัดฉาก ]

     

     



     

    ถามว่าอีฮยอกแจติดตามละครที่สามีตัวเองเล่นบ้างไหม อีฮยอกแจก็จะตอบทันทีเลยว่า...

     

     

    ดูมันแทบทุกตอน - -

     

    แอบดูในมือถือย้อนหลังนี่แหละคนอื่นจะได้ไม่รู้ไม่เห็น แล้วเขาก็ไม่คิดที่จะบอกให้ใครรู้เรื่องนี้ด้วย มันจะเป็นความลับไปตลอดชีวิต พอกดลิงค์ย่อยเข้าไปก็พบกับรูปๆ หนึ่งที่ทำให้เขาต้องดีดตัวลุกขึ้นนั่ง...รูปที่ทำให้เขาเสียสติยิ่งกว่าที่เคยเป็นอยู่...

     

     

     

     

     

    อีทงเฮจูบกับนางเอก...

    อีทงเฮจูบกับนางเอก...

    อีทงเฮจูบกับนางเอก...

    อีทงเฮจูบกับนางเอก...

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจ เป็นอะไรเหรอลูก? คนเป็นแม่เดินมาหาลูกชายพร้อมกับวางมือลงบนไหล่บาง มือเรียวซุกมือถือลงกับโซฟาก่อนจะหันไปฉีกยิ้มให้อีกคน มันช่างเป็นรอยยิ้มที่ตลกที่สุดถ้าเกิดอีฮยอกแจได้มีโอกาสเดินไปส่องกระจกดูหน้าตัวเองในตอนนี้

    อ...อ้อ...เปล่านี่ครับ

    แม่ก็คิดว่าหลับแล้วซะอีก ไม่ไปนอนในห้องดีๆ ล่ะลูก

    ไม่ล่ะครับ เพราะเดี๋ยวอีกสักพักผมจะออกไปหาพี่อีทึกแล้วล่ะ

    อ้าว ไม่อยู่กินมื้อเย็นด้วยกันเหรอ?

    พอดีพี่อีทึกเค้าติดเลี้ยงเนื้อย่างผมไว้ตั้งแต่คราวนู้น~ เขาบอกว่าถ้าไม่มากินวันนี้ผมก็อด เพราะงั้นจะเบี้ยวก็ยังไงอยู่ แม่ก็รู้ว่าพี่อีทึกเขาขี้ตืดแค่ไหน

    อ่า นั่นสินะ พอนึกถึงรุ่นพี่ที่ทำงานกับลูกชายแล้วก็หลุดขำออกมา

    แต่ผมจะกินแอปเปิ้ลที่แม่ปอกให้จนหมดก่อนแล้วค่อยไปแล้วกันนะครับ~” กอดเอวแม่พลางซบหน้าลงกับหน้าท้องอย่างออดอ้อน คนเป็นแม่เห็นอย่างนั้นแล้วก็ลูบหัวลูกชายเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในครัว

    พอแม่ลับสายตาไปแล้วฮยอกแจก็หยิบมือถือขึ้นมาดูอีกครั้ง เขาพยายามไม่มองภาพนั้นแล้วเลื่อนทามไลน์ลงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมีข้อความเข้ามาในกล่องเมนชั่น กดดูแล้วก็หัวเราะออกมาเมื่อเหล่าแฟนคลับของเขากับแฟนคลับของทงเฮกำลังสติแตกเพราะรูปนั้น

     
     

     

     

    โอป้าคะ ฉันอยู่ข้างโอป้าเสมอนะ

    มันเป็นงานนะ โอป้าต้องเข้าใจปลาน้อยของพวกเรา

    คืนนี้จัดหนักเลยนะ บังอาจนอกใจฮยอกแจของฉันได้ยังไง

     

     
     

     

    โอ้โห...ทำไมทุกคนต้องคิดว่าเราจะเป็นจะตายกับเรื่องแค่นี้ด้วยนะ พึมพำแล้วก็ต้องเงยหน้าขึ้นไปมองทีวีเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู โฆษณาคอนแทกเลนส์ที่มีคนหน้าปลาๆ นั่นเป็นพรีเซนเตอร์...

    ฮึ่ย!” กดรีโมทเปลี่ยนช่องแล้วถอนหายใจออกมา ไม่ได้ถึงขั้นจะเป็นจะตายอะไรหรอก ก็แค่หมั่นไส้จนไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับหมอนั่นอีกแล้ว ตามมาหลอกหลอนกันถึงที่นี่เลยเหรอ จะเฮี้ยนเกินไปแล้วนะอีทงเฮ! ยังไม่ทันจะทิ้งตัวนอนก็สะดุ้งอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงโฆษณาเชิญชวนให้ไปบริจาคเลือด เสียงที่คุ้นเคยนั่นมัน...

    นี่นายเป็นหุ้นส่วนกับทุกช่องเลยหรือไงนะ บ้าเอ๊ย... พึมพำแล้วกดเปลี่ยนช่องอีกครั้งแล้วก็พบกับโฆษณาละครที่อีทงเฮเล่น หนำซ้ำยังพรีวิวตอนต่อไปที่ทำให้เขาต้องจุกอีก...ฉากจูบแบบเคลื่อนไหว...

     

     

     

    ชัดเต็มสองตา 1080p [HD] ซะด้วย... - -

     

     

     

    พรึ่บ!

    กดปิดทีวีแล้วค้างอยู่ท่านั้น ริมฝีปากอิ่มกระตุกยิ้มราวกับผู้ชนะ ดูซิ...จะโผล่ออกมาจากทางไหนอีก วันนี้มันวันอะไรนะ เพราะว่างงานใช่ไหมเขาถึงมีเวลาคิดถึง...ไม่สิ...มีเวลานึกถึงหน้าอีทงเฮได้ทั้งวันแบบนี้ พอสักทีเถอะน่า...ทีวีก็ปิดแล้วไงฮยอกแจ นายไม่ต้องเห็นหน้า ไม่ต้องรับรู้ข่าวของหมอนั่นอีกแล้ว

     

    ติ๊ง~

    เสียงเมนชั่นทวีตเตอร์เด้งขึ้นมาทำให้เขาหลุดออกจากความคิด ทั้งที่ปิดเสียงเอาไว้ตลอดแต่ไหงจู่ๆ มันถึงดังขึ้นมาล่ะเนี่ย วันหนึ่งคนเมนชั่นหาเขาสองสามคนเสียเมื่อไหร่ถ้าเกิดไม่ปิดไว้มือถือเขาคงส่งเสียงดังตลอดเวลาแน่ๆ แต่พอกดเข้าไปก็พบกับภาพ Gif แบบในทีวีเป๊ะๆ ที่แอนตี้แฟนส่งมาให้ มือเรียวกดล็อคเอาท์ออกจากทวีตเตอร์แล้วเก็บมันใส่กระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นยืนเกาหัวตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์

     

     

    ไม่หรอก...ตอนนี้เขาไม่ได้โมโห...

    แต่เขากำลังฟุ้งซ่าน สติแตก เพราะรูปนั้นต่างหาก...

     

     

    จะไปแล้วเหรอลูก?

    ครับ เมื่อกี้พี่อีทึกส่งข้อความมาเร่งแล้ว

    แบบนี้แอปเปิ้ลของแม่ก็เป็นหมันแล้วล่ะสิ

    พี่โซราเธอกินหมดอยู่แล้ว แม่เชื่อผมสิ ฮยอกแจพูดกลั้วหัวเราะก่อนจะเข้าไปสวมกอดแม่แน่นๆ แล้วหอมแก้มฟอดใหญ่

    แล้วผมจะแวะมาหาบ่อยๆ นะครับ

    จ๊ะ ดูแลตัวเองดีๆ นะลูก

     

     

     

     

    .

    .

     


     

     

    อดอยากมาจากไหนวะ?

    อีทึกถามพร้อมกับปรายตามองคนที่นั่งกินเนื้อย่างไม่หยุดปากอยู่ฝั่งตรงข้าม ยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มแล้วถอนหายใจ จู่ๆ ฮยอกแจชวนออกมาหาอะไรกินหลังจากจัดรายการวิทยุเสร็จ มันน่าประหลาดใจตั้งแต่ก่อนเริ่มจัดรายการแล้ว เจ้าเด็กนี่เอาแต่นั่งเหม่ออยู่ตลอดแท้ๆ

    ค่อยๆ กินก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอตายหรอก

    พี่ก็กินบ้างสิ ผมไม่ได้เลี้ยงพี่บ่อยๆ หรอกนะ

    ก็เพราะว่าแกเป็นคนจ่ายไงฉันถึงบอกให้แกค่อยๆ กิน

    พอได้ยินอย่างนั้นร่างบางก็หยุดคีบเนื้อเข้าปาก อีทึกมองคนตรงหน้าอย่างสมเพช นานแค่ไหนแล้วที่ฮยอกแจมันไม่เป็นแบบนี้ ดูสิ...แก้มบวมป่องเพราะเอาแต่ยัดอะไรต่อมิอะไรเข้าไปนั้นสารพัดอย่าง มันก็น่าอิจฉาตรงนี้แหละมันกินเยอะกว่าคนอื่นหลายเท่าแต่ไม่ยักจะอ้วน

    ทะเลาะกับซองมินมาเหรอไง เห็นมันบอกว่าวันนี้แกเบี้ยวนัดมัน ฮยอกแจส่ายหน้าแล้วกินต่อ อีทึกทำหน้าเซ็งแล้วก็หยิบตะเกียบขึ้นมาบ้าง นาทีนี้จะนอยไปก็เท่านั้น ต้องปล่อยให้มันกินสงบสติอารมณ์ก่อนอีกสักพักเดี๋ยวมันก็พ่นความในใจออกมาจนหมดเองนั่นแหละ

    อย่าดื่มเยอะ ฉันขี้เกียจลากแกไปส่งที่เรือนหอ

    ใครบอกว่าผมจะกลับที่นั่น

    เอ้า...ไม่กลับเรือนหอแล้วจะกลับที่ไหนล่ะครับ จะไปนอนกับไอ้ซองมินเหรอ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่ามันงอนแกมาก ชนิดที่ว่าเอาของกินง้อก็ไม่หายหรอก

    ใช่ ผมจะไปนอนกับมันนั่นแหละ

    หรือว่าแกจะทะเลาะกับสามีมา?

    ....................... กำลังซดเบียร์อยู่ก็ต้องหยุดชะงักมือ ราวกับถูกแทงใจดำ ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่อีทึกพูดแต่สถานะความรู้สึกของอีฮยอกแจคนนี้มันเป็นอย่างนั้นแหละ -_-

    งอนไรกันมาล่ะ...

    พี่เลิกถามงี่เง่าสักทีเถอะน่า กินๆ เข้าไปสิ ผมคีบให้ตั้งเยอะแล้ว

    เฮ้ย ที่ถามเพราะเป็นห่วงนะเนี่ย... พอรู้ว่าสองคนนี้ทะเลาะกันแล้วหูตาก็สว่างทันที จากง่วงๆ ตอนแรกมันก็มลายหายไปในพริบตา อีทึกยิ้มกริ่มพร้อมกับรินเบียร์ให้คนตรงหน้า

    ฮยอกแจวางตะเกียบลงเสียงดังจนโต๊ะข้างๆ หันมามอง อีทึกสะดุ้งก่อนจะหัวเราะแห้งๆ แล้วโค้งหัวขอโทษขอโพยคนรอบข้าง พอหันกลับมาก็เห็นรุ่นน้องทำหน้าบึ้งตึงเหมือนคนแบกภาระทั้งโลกนี้เอาไว้คนเดียว...ทั้งที่ควรจะสงสารแต่อีทึกกลับนึกสนุก

    เบียร์มันไม่เมาหรอกน้องรัก...ป้าครับ! โซจูสองขวด~”

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     
     

    ชอบ...เอาแต่ใจ

    เผด็จการสารพัดอ่ะ...

    ไหนจะส่งข้อความหา...วันละสามเวลา...อึ่ก...

    แล้วก็ชอบมาเกาะแกะแบบเนี้ยๆพูดพร้อมกับดึงแขนรุ่นพี่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามจนเจ้าตัวต้องลุกขึ้นคุกเข่า อีทึกเบิกตาโพลงเมื่อสภาพเขาตอนนี้แทบจะหน้าคะมำลงไปกับกระทะอยู่แล้วเพราะไอ้ขี้เมานี่

     

     

    มันจะรีบเมาไปไหนวะ...

    ก็รู้หรอกว่าฮยอกแจมันคออ่อน เพราะงั้นถึงได้จงใจมอม แต่ก็แค่ขวดเดียวเองนะ

    อ้อ...สงสัยเป็นเพราะดื่มเบียร์ไปก่อนหน้านี้ด้วย

     

     

    อือ...

    ป้าครับๆ คิดเงินด้วย อีทึกใช้มือข้างที่ว่างอยู่กวักมือเรียกป้าเจ้าของร้านขณะที่มืออีกข้างยังถูกใครอีกคนกุมเอาไว้ทั้งที่หัวของเจ้าเด็กนั่นจะโขกกับเหลี่ยมโต๊ะอยู่รอมร่อแล้ว

    อีทึกก้มลงมองมือถือตัวเองแล้วก็ชะเง้อหน้าออกไปข้างนอกร้านเป็นระยะเมื่อเขาแอบส่งข้อความหาทงเฮไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว คงไม่ต้องเดาก็น่าจะรู้ว่ารุ่นน้องของเขากำลังประสบปัญหาอันใหญ่หลวงเรื่องหัวใจ เพราะฉะนั้นในฐานะรุ่นพี่ที่ดีเขาก็ควรจะทำอะไรสักอย่าง

     

     

    โถฮยอกแจ...แกแอ๊บไม่ไหวแล้วสินะน้องรัก...

     


    อึนฮยอก!” คนที่ถูกคนเมาพันธนาการแขนเอาไว้ยิ้มออกมาเหมือนพระเจ้าทรงโปรด อีทึกโบกมือเรียกคุณสามีของฮยอกแจที่วิ่งหอบมาหยุดอยู่ข้างๆ โต๊ะเขาทั้งที่อยู่ในสภาพชุดถ่ายละคร

    ช่วยแกะมือเจ้านี่ออกทีสิ ตะคริวจะกินแขนพี่อยู่แล้ว ทงเฮพยักหน้าพร้อมกับเข้าไปแกะมือฮยอกแจออก คนเมาแทบจะทิ้งตัวลงไปบนพื้นไม้ถ้าทงเฮไม่คว้าเอาไว้เสียก่อน ท่ามกลางสายตาผู้คนที่จับจ้องมา อีทึกแก้สถานการณ์โดยการโบกมือไปรอบๆ ข้างพร้อมกับพูดว่า เราถ่ายรายการกันอยู่ครับ

    อือ...เอาเหล้ามาอีก...

    เหล้าบ้าอะไรของแกล่ะ กลับบ้านไปนอนซะ อีทึกผลักหัวคนที่ยืนเซหน้าเซหลังด้วยความหมั่นไส้จนฮยอกแจเซล้มไปอยู่ในอ้อมกอดทงเฮ

    ขอบคุณมากนะครับพี่อีทึกทงเฮโค้งหัวขอบคุณก่อนจะจับแขนฮยอกแจขึ้นมาพาดกับคอตัวเองข้างหนึ่ง อีทึกพยักหน้าส่งๆ พลางกระชับเสื้อสูทแฟชั่น

    ไหวหรือเปล่า ให้พี่ช่วยไหม

    ไม่เป็นไรครับ รถผมจอดอยู่ตรงนั้นเอง

    แล้วนี่ถ่ายละครเสร็จแล้วเหรอ พี่กวนนายหรือเปล่าเนี่ย?

    เรียบร้อยแล้วล่ะ ยังไงก็ขอบคุณพี่อีกครั้งนะครับ ทงเฮยิ้มพลางก้มหน้าลงมองคนข้างๆ ที่ยืนอ่อนเปลี้ยไม่ได้สติ

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

     

    ประคองร่างคุณภรรยาไปถึงเตียงอย่างทุลักทุเล ทงเฮโกยอากาศเข้าปอดก่อนจะก้มลงมองดวงหน้าหวานที่กำลังขึ้นสีระเรื่อแล้วก็สงสัยว่าทำไมอึนฮยอกถึงได้เมาขนาดนี้ หยัดตัวนั่งลงบนขอบเตียงแล้วยิ้มบางๆ ยังไงก็ยังขอยืนยันว่าอีทงเฮชอบมองเวลาอึนฮยอกหลับมากที่สุด เพราะมันคงเป็นช่วงเวลาเดียวที่เขาจะได้อยู่ใกล้ชิดกันโดยที่ไม่ต้องหาข้ออ้างใดๆ

    ดื่มไปเยอะเลยสิถึงได้ตัวหนักขนาดนี้ ทงเฮพูดพร้อมกับอมยิ้ม เปลือกตาบางค่อยๆ ปรือขึ้นนั่นทำให้คนที่นั่งมองอยู่เลิกคิ้วมอง ตื่นแล้วเหรอ?

    เห็นผมหลับอยู่หรือเปล่าล่ะ...อึ่ก...

     

     
     

    เอาแล้วสิ...เขากำลังคุยกับคนเมาอยู่ล่ะ

     

     
     

    นายกำลังหลับอยู่ต่างหาก

    หลับบ้าไรเล่า... งึมงำแล้วควานหาผ้าห่มแต่ก็คว้าถูกมือหนาเข้าให้ ทงเฮอมยิ้มเมื่อเห็นอึนฮยอกกอดแขนเขาไว้แน่นจนอดไม่ได้ที่จะขยับขึ้นไปนั่งพิงกับหัวเตียง

    ง่วงก็หลับสิ

    ผมอยากหลับ...หลับนานๆ เลย... คนเมายังคงงึมงำต่อไปจนคนฟังต้องก้มหน้าลงไปมองด้วยความสงสัย ทงเฮประคองหัวทุยขึ้นมาให้นอนลงบนตักเขา ซึ่งฮยอกแจก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือผลักไสเหมือนที่เคย

    ดื่มน้ำไหม

    ไม่...อยากดื่มก็ดื่มเองสิ...

    ยอโบอ่า...อย่าดื้อ ทงเฮอมยิ้มกับท่าทางเอาแต่ใจของอีกฝ่าย เพิ่งเคยเห็นอึนฮยอกในมุมแบบนี้ เพราะปกติแล้วจะเป็นเขาเสียมากกว่าที่เป็นฝ่ายเอาแต่ใจ

    ทำไม...ผมก็อยากจะดื้อกับนายบ้าง ร่างบางพยายามยันตัวลุกขึ้นนั่งมาถกเถียงกับคนที่นั่งพิงหัวเตียงอยู่ ทงเฮเลิกคิ้วมองแล้วก็ขำออกมา ทั้งที่ทรงตัวยังแทบจะไม่ไหวแต่อึนฮยอกก็ยังพยายามที่จะลุกขึ้นมาเถียงกับเขา

    งั้นก็ดื้อให้พอเลยนะ เพราะถ้ายอโบสร่างเมาเมื่อไหร่ผมจะไม่ให้ดื้อแล้ว...หืม? พูดจบก็ก้มลงมองใครอีกคนที่เพิ่งล้มตัวลงซบกับแผงอกเขา มือเรียวกำเสื้อเชฟสีขาวเอาไว้แน่นพร้อมกับซบหน้าลงไป

    ยอโบ...เอ่ยเรียกเพียงเบาๆ หากแต่ไร้ซึ่งเสียงตอบรับ มือหนาที่วางอยู่ข้างตัวค่อยๆ เอื้อมขึ้นมาโอบกอดภรรยาไว้เพียงหลวมๆ ก่อนที่ใบหน้าเรียวจะเงยขึ้นสบตากับเขาทั้งที่ตาจะลืมไม่ขึ้นอยู่แล้ว

    อีทงเฮ...

    หืม?

    ก่อนหน้านี้นายเคยขอให้ผมเรียกนายว่าอะไรนะ... ร่างบางขมวดคิ้วเพ่งมองคนตรงหน้า คนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีจำเป็น ตอนนี้เขาไม่รู้หรอกว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จิตใต้สำนึกสั่งให้ทำอะไรเขาก็แสดงออกมาจนหมด

    เรียก...?

    ช่าย...ผมเป็นยอโบ...นายเป็น...เป็นอะไรน้า... ฮยอกแจหัวเราะตามประสาคนเมาจนทงเฮหลุดหัวเราะตาม

    ผมก็เป็นที่รักของยอโบไง อาจจะดูเหมือนคนบ้าที่เขากำลังพูดคุยกับคนเมาอยู่ แทนที่จะไปหาผ้าขนหนูชุบน้ำมาเช็ดตัวให้แต่เขาก็เลือกที่จะอยู่แบบนี้ ร่างบางพยักหน้าเข้าใจแล้วหลับตายิ้ม

    อ๋อ...ผมต้องเรียกนายว่าที่รัก

    ใช่ ต่อไปก็เรียกให้ติดปากด้วยนะรู้ไหม? ฮยอกแจขมวดคิ้วอีกครั้งแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ

    นายน่ะมั่ว...

    หืม?

    จริงๆ แล้วผมต้องเรียกนายว่านัมพยอน...ส่วนนายก็ต้องเรียกผมว่าบูอินสิถึงจะถูก...สามีภรรยาใครๆ เขาก็เรียกกันแบบนั้นทั้งนั้นแหละ...อึ่ก...

    อ่า...อย่างนั้นเหรอ... ทงเฮพยักหน้าเข้าใจคล้อยตามกับประโยคที่คนเมากำลังสาธยาย

    แล้วยอโบอยากให้ผมเรียกแบบไหนล่ะ

    ..................... ร่างบางสะอึกพลางช้อนตามองอีกฝ่าย เลื่อนมือขึ้นมากำคอเสื้อเชฟอีกคนเอาไว้แล้วทำหน้าจริงจัง

     

     

    อะไรก็ได้...ที่ไม่ซ้ำกับที่นายเรียกคนอื่น...

     

     

    ทงเฮชะงักไปครู่หนึ่งกับประโยคที่อึนฮยอกพูดกับเขา ทั้งที่รู้ว่าเป็นประโยคของคนเมาที่ไม่รู้ว่าตื่นมาแล้วจะจำได้หรือเปล่า...แต่เขาก็ไม่คิดว่าอึนฮยอกจะเป็นฝ่ายพูดแบบนี้ คนที่ทำท่าเหมือนรำคาญเขาอยู่ตลอดเวลา จู่ๆ กลับทำเหมือนว่าต้องการเป็นคนพิเศษของเขาเพียงคนเดียว

     

    แบบนี้...มันเหมือนคนอื่นแล้ว พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปจุ๊บปากอีกคนแล้วผละออก แต่นั่นก็สร้างความตกใจให้กับเขาเป็นอย่างมาก ทงเฮเบิกตากว้างพร้อมกับจ้องดวงหน้าหวานที่กำลังหัวเราะอยู่

    ใครๆ ก็ทำแบบนี้กับนายได้ใช่ไหมล่ะ ฮ่า~” ฮยอกแจหัวเราะแล้วทำท่าจะลงไปนอนซบแผงอกแกร่งอีกครั้งแต่ทงเฮประคองใบหน้าเรียวเอาไว้ซะก่อน

    อึนฮยอก ร่างบางปรือตาขึ้นมองอีกฝ่ายที่กำลังโอบใบหน้าเขาเอาไว้

    อือ...

    รู้ตัวไหมว่าทำอะไรลงไป น้ำเสียงจริงจังต่างไปจากทีแรกนั่นคนเมาอย่างอีฮยอกแจไม่สามารถรู้สึกได้ ร่างบางพยักหน้าหงึกพร้อมกับยิ้มกว้าง

    จุ๊บไง...จุ๊บจุ๊บ...

    ......................

    ทำไม...ไม่ได้เหรอ? บอกกับตัวเองว่าเป็นเพราะร่างบางกำลังเมาอยู่ถึงได้เป็นแบบนี้

    เปล่า... ยิ้มบางๆ พลางเลื่อนใบหน้าเข้าไปใกล้ ประคองร่างอีกฝ่ายให้อยู่ในอ้อมกอดแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือลูบริมฝีปากอิ่มเบาๆ

    งั้นขอแบบเมื่อกี้อีกทีได้ไหม? ถามทั้งที่ใบหน้าห่างกันเพียงน้อยนิด ฮยอกแจหัวเราะแล้วจ้องหน้าอีกฝ่ายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขา...จะเป็นฝ่ายเข้าไปจูบทงเฮอีกครั้ง

    มือหนาประคองให้ร่างบางนอนราบลงไปกับผืนเตียงขณะที่ริมฝีปากของทั้งคู่ยังไม่ละห่างจากกัน ลิ้นร้อนแทรกเข้าไปในโพรงปากที่มีกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆ ขบเม้มริมฝีปากสีเชอรี่อย่างหลงใหล วงแขนเรียวโอบกอดอีกฝ่ายมันเริ่มแน่นไปตามรสจูบที่ทั้งคู่มอบให้กัน

    ...อาจจะเป็นความต้องการเบื้องลึกที่เขาจงใจซ่อนมันเอาไว้

    ...อาจจะเป็นความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่าย ที่มันมากขึ้นทุกวันๆ เพราะฉะนั้น

     

     

     

     

    ...อีฮยอกแจจะขอให้หัวใจสั่งการแทนสมองดูสักครั้งคงไม่เป็นไรใช่ไหม?

     

     

     





     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     




     

     

    TALK

     

    อีฮยอกแจสติแตกแล้ว . _.

    เราก็จะสติแตกเหมือนกัน เพราะปรับอารมณ์ตามทงเฮไม่ถูก 555555555

    เดี๋ยวงอแง เดี๋ยวหล่อ เง้อ~

    เราเขียนไม่ถึงตอนไปเยี่ยมบ้านอ่ะ คงเป็นตอนหน้าแล้วล่ะ คุคุ~

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×