ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] WonKyu ft.Donghae | "BLACK SWAN"

    ลำดับตอนที่ #6 : PART 5 : HATE

    • อัปเดตล่าสุด 7 พ.ค. 55


      

     

     

     

     

     

    PART 5

    เขาว่ากันว่าถ้าเป็นเนื้อคู่กันแล้วจะมีด้ายแดงบางๆ ผูกไว้ที่ปลายนิ้วของคนทั้งสอง...

    เอ...แล้วถ้าด้ายเส้นนั้นมันขาดลงโดยที่ผมไม่ต้องลงมือเองล่ะ?

     

     

     

     

    อึนซอ

    คะแม่

    เมื่อไหร่ซีวอนจะมารับลูกล่ะ แม่เห็นหนูนั่งรอมาเป็นชั่วโมงแล้วนะ ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาลูบหัวลูกสาวที่นั่งรอคนรักอยู่ตรงม้านั่งในสวนทั้งที่อากาศหนาวเย็นแบบนี้ จัดแจงผ้าคลุมไหล่ให้กับลูกสาวอันเป็นที่รัก ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มบางๆ ก่อนจะหันไปมองประตูบ้านที่ยังคงปิดสนิทเหมือนเดิม ไม่กล้าโทรตาม ไม่กล้าถามว่าอยู่ไหน ไม่อยากให้ซีวอนมองว่าเธอเป็นผู้หญิงจู้จี้น่ารำคาญเหมือนอย่างที่เขาเคยบ่นเมื่อตอนที่เริ่มคบกัน

    เขาคงงานยุ่งน่ะค่ะ

    เป็นอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้ทะเลาะกันเหรอลูกสาวของแม่ถึงได้ซึมขนาดนี้น่ะหืม? หยัดตัวนั่งลงข้างๆ พร้อมกับเกลี่ยไรผมนุ่มของอีกฝ่าย อึนซอยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น ไม่อยากให้แม่คิดมากเหมือนกับที่เธอเป็นอยู่ในตอนนี้

    เปล่าค่ะ หนูก็แค่คิดไปเรื่อยเปื่อยว่าชีวิตหลังแต่งงานจะเป็นยังไง...ไม่ได้โกหก แค่เลี่ยงที่จะพูดความในใจออกไป

    แม่ก็เคยเป็นเหมือนกัน ทั้งประหม่า ทั้งกลัว แต่ทุกอย่างจะต้องออกมาดีแน่แม่เชื่อว่าซีวอนจะต้องดูแลลูกได้จ๊ะ

    ขอบคุณนะคะแม่ โผเข้ากอดผู้เป็นแม่ราวกับจะให้อ้อมกอดนี้บรรเทาความทุกข์ที่สุมอยู่ภายในใจ พยายามบอกตัวเองว่ามันไม่มีอะไร แต่ความรู้สึกที่มันอัดอั้นอยู่นี่มันคืออะไร...

     

    ทำไมถึงได้รู้สึกโหวงๆ แบบนี้?

     


    นั่นไง...พูดถึงก็มาเลย หันไปมองตามเสียงรถที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามา ริมฝีปากอิ่มยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัวเพียงแค่เห็นคนรัก

    ยิ้มสวยๆ หน่อยสิคนดีของแม่

    ค่ะ

     

    ร่างสูงเดินลงจากรถหันซ้ายหันขวาก่อนจะยิ้มให้คนทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาหา

    สวัสดีครับคุณแม่

    สวัสดีจ๊ะ พักนี้งานยุ่งเหรอซีวอน? คำถามนี้ทำให้เจ้าตัวหน้าเจื่อนไปในทันที ซีวอนหัวเราะเนือยๆ พอจะเข้าใจคำถามของแม่อึนซอ

    แม่คะ หนูไปแล้วนะคะอึนซอหันไปมองผู้เป็นแม่ก่อนจะเดินเข้าไปกุมมือคนรักเอาไว้ ไม่อยากให้ซีวอนอึดอัดกับคำถามของแม่เธอ

    แล้วผมจะรีบมาส่งอึนซอนะครับ

     

    .

    .

     

    บางครั้งผมก็ไม่รู้...

    ว่าสิ่งที่ทำอยู่...มันคือความรักหรือหน้าที่...

     

     

    วันนี้อยากทานอะไรครับ

    ฉันอยากทานอาหารญี่ปุ่นค่ะ ซีวอนคิดว่าไงคะ? หันไปถามคนขับที่ทอดสายตามองไปข้างหน้า ทั้งที่อยู่ด้วยกันแบบนี้...แต่ทำไมกลับรู้สึกว่าอยู่ห่างไกลกันเหลือเกิน

     


    จับมือฉันไว้ได้ไหมซีวอน...ช่วยลบความรู้สึกหวาดกลัวโดยไร้เหตุผลนี่ไปจากใจฉันเสียที...



    ผมยังไงก็ได้ ตามใจคุณเลย หันไปยิ้มให้คนข้างๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนนอีกครั้ง

    อึนซอเงียบไปครู่หนึ่งก้มลงมองมือแกร่งที่วางอยู่บนหน้าขาแล้วเอื้อมไปกุมมืออีกฝ่ายเอาไว้...ซีวอนมองคนรักด้วยความสงสัยในขณะที่อีกฝ่ายนั้นยิ้มบางๆ ให้กับเขา มือเรียวเล็กคลึงหลังมือแกร่งเบาๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสอดประสานเอาไว้โดยที่ร่างสูงเองก็ไม่ได้ปฏิเสธหรือพูดอะไรออกมา

     

     

    อาจจะเป็นเพราะอากาศหนาว...

    อาจเป็นเพราะเธอกำลังฟุ้งซ่านอยู่ก็ได้...

    มือซีวอนถึงได้ไม่อุ่นเหมือนเมื่อก่อนแบบนี้...

     

     

    ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่งใจกลางเมือง ท้องฟ้าเริ่มมืดครึ้มไปตามกาลเวลา คู่รักหลายคู่เดินจูงมือกันไปตามริมฟุตปาธเพื่อเติมเต็มความอบอุ่นให้กันและกันในช่วงฤดูหนาวแบบนี้และเขากับอึนซอก็เป็นหนึ่งในนั้น ภายนอกดูเหมาะสมกันใครเห็นเป็นต้องอิจฉา ซีวอนเคยคิดอย่างนั้นมาตลอดจนกระทั่งได้เจอกับโจคยูฮยอน...

     


    ถึงได้รู้ว่าทุกอย่าง...มันไม่ใช่อย่างที่เขาคิด

     


    สั่งอะไรดีคะ

    ตามใจคุณเลย

     

     

     

    ตามใจ...ตามใจ...ตามใจ...

     

     

     

    บางครั้งเธอก็แค่อยากให้ซีวอนมีส่วนร่วมด้วยกันบ้างก็เท่านั้น...

     

    ขณะที่นั่งรออึนซอสั่งเมนูอาหารร่างสูงก็เอนหลังพิงพนักที่นั่งรู้สึกผ่อนคลายกับบรรยากาศในร้านที่ตกแต่งอย่างปราณีต จู่ๆ ก็หันไปสะดุดตากับโต๊ะฝั่งตรงข้ามด้านในสุด เห็นใครคนหนึ่งกำลังนั่งจิบช้าร้อนเงียบๆ อยู่คนเดียว มันจะบังเอิญเกินไปหรือเปล่า? เขาไม่ได้ตาฝาดไปใช่ไหมว่านั่นคือคยูฮยอน

    ร่างโปร่งคว้าเสื้อโค้ทตัวนอกขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วพาดเสื้อไว้บนแขน ซีวอนยังคงมองคยูฮยอนอย่างใจจดใจจ่อโดยที่ไม่ได้ฟังเสียงคนรักพูดเลยแม้แต่น้อย คยูฮยอนกำลังเดินมาทางนี้ มันใกล้...ใกล้จนมั่นใจว่าคยูฮยอนต้องเห็นเขาเข้าแน่ๆ

    อยากเอ่ยทักทายแต่ในสถานการณ์ตอนนี้มันคงไม่ดีสักเท่าไหร่...

    แต่สุดท้ายคยูฮยอนก็เดินผ่านเขาไปเสียอย่างนั้นโดยที่ไม่รู้เลยว่าเขานั่งอยู่ตรงนี้ อึนซอมองอย่างไม่เข้าใจเมื่อเห็นคนรักทำตัวเลิกลั่กหันไปมองซ้ายขวาไม่ได้สนใจในสิ่งที่เธอกำลังพูดอยู่เลย

     

    ซี...

    เดี๋ยวผมมานะอึนซอ

    สุดท้ายก็กลายเป็นเขาที่ทนปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้ ร่างสูงรีบหยัดตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกร้านในทันที...

     

    โดยที่ไม่รอฟังเลยว่า...อึนซอกำลังจะพูดอะไร

     

     

     

     

    ตึกๆๆ

    เสียงฝีเท้าย่ำไปตามริมฟุตปาธ ร่างสูงวิ่งไปดักหน้าใครอีกคนพร้อมกับหยุดยืนหอบ คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นสบตากับร่างสูงที่ปลายจมูกแดงรั้นพร้อมกับไอร้อนที่พ่นออกมาจากริมฝีปากตามจังหวะการหายใจ

    สวัสดีครับ

    เอ่ยทักทายพร้อมกับยิ้มบางๆ ซีวอนหันไปมองรอบข้างก่อนจะหัวเราะออกมา นี่เขาบ้าวิ่งตามคยูฮยอนออกมาได้ไกลขนาดนี้เลยเหรอ?

    บังเอิญจังเลยนะ มองไปยังใบหน้าขาวของคนตรงหน้า คยูฮยอนหัวเราะออกมาก่อนจะเลิกคิ้วมองเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็ถอดเสื้อโค้ทมาคลุมไหล่ให้กับเขา

    อากาศหนาวแบบนี้ แต่ดูเสื้อผ้าที่คุณใส่สิ ไม่หนาวหรือไงหืม?

     

    หนาวเหรอ?

    โจคยูฮยอนแทบจำไม่ได้แล้วว่าความรู้สึกเหล่านั้นเป็นยังไง ร่างกายของเขาอุณหภูมิคงที่แบบนี้มาตลอดตั้งแต่เขาตายไปแต่ชเวซีวอนคงมีแต่กิเลสตัณหา ถึงได้ไม่สังเกตเห็นเลยว่าคยูฮยอนน่ะต่างจากคนทั่วไปมากแค่ไหน

     

    แล้วคุณไม่หนาวเหรอครับ

    ถ้าผมหนาว...คุณจะทำให้ผมอุ่นหรือไงครับ” เอื้อมมือขึ้นมาลูบใบหน้าที่เย็นเยียบ ซึ่งปรกติมันก็เย็นอยู่แล้วแต่พอออกมาเจอกับอากาศแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง

    อืม...

    ทำหน้าคิดตามประโยคติดทะเล้นของร่างสูง ซีวอนยิ้มพอใจกับท่าทางของคนตรงหน้าจนลืมใครอีกคนที่ทิ้งไว้ร้านอาหารเมื่อครู่ คยูฮยอนระบายยิ้มออกมาก่อนจะเอาเสื้อที่ร่างสูงคลุมไหล่ให้เมื่อครู่ใส่คืนให้กับเจ้าของ

     

     

     

     

     

     

    เห็นทีตอนนี้คุณต้องเป็นฝ่ายทำให้ตัวผมอุ่นแล้วล่ะมั้งครับ...ซีวอน

     

     

     

     

    ####

     

    นั่งมองรายการอาหารที่บริกรจัดแจงวางบนโต๊ะ อาหารหลากหลายเมนูที่ซีวอนชอบวางอยู่หลายอย่างจนเธอคิดว่าเธอกับซีวอนคงทานมันไม่หมดแน่ ตะเกียบยังคงวางอยู่ที่เดิมหากแต่ใครอีกคนที่เคยนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นยังไม่กลับมาสักที...เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว นั่งมองนาฬิกาแทบทุกนาที เป็นห่วงกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนรักทำไมถึงได้หายไปนานขนาดนี้

     


    หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...

     


    เม้มริมฝีปากแน่นท่ามกลางสายตาผู้คนที่เดินเข้าเดินออก ถ้าเกิดซีวอนติดต่อมาบ้างก็คงดี...เธอจะได้ไม่ต้องเป็นกังวลอยู่แบบนี้

    เฮ้

    ใบหน้าเรียวเงยขึ้นมองผู้มาใหม่ที่นั่งลงฝั่งตรงข้าม รู้สึกผิดหวังอยู่เล็กน้อยที่คนตรงหน้านั้นไม่ใช่ซีวอน ฮีชอลเซทผมเผ้าให้เข้าที่ก่อนจะเอนหลังพิงพนักพลางมองร่างบางที่อาการดูไม่จืดสักเท่าไหร่

    อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ ฉันก็อยู่นี่แล้วไง

    อื้อ...

    ไม่ให้อื้อ ดูสิอาหารที่สั่งมาแห้งหยาบหมดแล้ว ให้ตายเถอะ ขอให้พนักงานเอาไปอุ่นให้ได้ไหมเนี่ย ใช้ตะเกียบคีบเทมปุระขึ้นมางับดูแล้วก็ต้องผละออกทันที นี่อึนซอปล่อยให้มันอยู่ในสภาพแบบนี้โดยที่ไม่แตะต้องอะไรเลยหรือไงกัน

    ซีวอนหายไปไหนกันนะ...

    ..............

    ฉันโทรหาเขาไม่ติดเลย...กุญแจรถเขายังอยู่ตรงนี้ ไม่รู้ว่ารีบวิ่งออกไปไหน

    ฮีชอลค่อยๆ วางตะเกียบลงเมื่อได้ยินสิ่งที่อึนซอพูด ถอนหายใจออกมาเบาๆ เขาพอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว นึกโกรธซีวอนอยู่ในใจ ทำไมถึงได้ปล่อยให้อึนซอนั่งรอแบบนี้โดยที่ไม่ติดต่ออะไรกลับมาเลย

    กินกันเถอะ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอกลับบ้านเอง

    แล้วซีวอนล่ะ

    หมอนั่นไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อฉันสักครั้งได้ไหม?

    ได้ยินแบบนั้นแล้วก็เถียงอะไรไม่ออกอีก ฮีชอลไม่ค่อยเผด็จการกับเธอสักเท่าไหร่ปรกติแล้วจะตามใจเธอเสียมากกว่า ร่างบางมองคนตรงหน้าที่เอาแต่คีบนั่นคีบนี่ให้แล้วก็ยิ่งเศร้าเมื่อหันไปเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางนิ่งอยู่ข้างๆ

     

     

     

    ซีวอน...คุณหายไปไหนคะ

     

     

     

     

     

    ####

     

     

    บรรยากาศให้ห้องอุณหภูมิเริ่มคงที่เมื่อกิจกรรมบนเตียงได้จบลง ทั้งคู่หอบหายใจประสานกันกับเกมรักที่พึ่งจบไปเมื่อครู่ ร่างสูงไล่ฝังจูบลงบนแผ่นหลังอีกฝ่ายไปทั่วก่อนจะหยุดที่ลาดไหล่กดจูบอยู่ซ้ำๆ แสดงความเป็นเจ้าของแต่ไม่คิดที่จะฝากรอยไว้ให้ คยูฮยอนหัวเราะในลำคอก่อนจะพลิกตัวหันเข้าเข้าหาอีกฝ่ายที่ยังคงเล่นไม่เลิก

     

    ว่าไงครับ

    คยูฮยอนยิ้มขำกับคำถามหน้าตายของคนตรงหน้า มือแกร่งรวบตัวเขาเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากมน ความเงียบก่อตัวขึ้นจนทำให้เขาต้องทบทวนตัวเอง

     

    ว่าในตอนนี้ชเวซีวอนกำลังหลงโจคยูฮยอนจนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้ว...

     

    ทั้งที่เมื่อก่อนเคยพูดได้อย่างเต็มปากว่าเกลียดอะไรที่เป็นแบบนี้ เขาไม่มีทางที่จะหวั่นไหวกับผู้ชายด้วยกันแน่ๆ แต่...คนที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้กำลังเปลี่ยนความคิดของเขาใหม่ ในตอนนี้มันไม่ใช่ความรักแต่ในอนาคตเขาเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน บางทีมันอาจจะเป็นแค่ความลุ่มหลง ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ ก็คงดี...เพราะตัวเขานั้นยังมีใครอีกคนที่อยู่ข้างหลัง

     


    ใครอีกคน...ที่เขาเรียกว่าคนรัก

     

     


    ซีวอน

    ครับ

    คุณรักผมไหม

    ชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อได้ยินคำถามนี้ ซีวอนหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะผละตัวออกมาจ้องหน้าอีกฝ่าย นัยน์ตาของคยูฮยอนนั้นเต็มไปด้วยคำถามและเขาคิดว่าคยูฮยอนคงต้องการคำตอบที่ฟังแล้วลื่นหู

    ซีวอนไม่ใช่เด็กมัธยมที่จะพูดคำว่ารักออกมาได้ง่ายๆ เพียงเพราะว่ามีความสัมพันธ์ทางกายกับอีกฝ่ายหรือเพราะแค่รู้สึกชอบ ถ้าเป็นเมื่อก่อนมันอาจจะใช่ เขาคงตอบไปเพื่อเอาใจอีกฝ่ายทันทีเลยว่ารัก

     

    คุณอยากให้ผมรักคุณงั้นเหรอ

     

    คยูฮยอนแค่นยิ้มออกมาเมื่อได้ยินคำตอบ ร่างโปร่งลุกขึ้นเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวเอาไว้โดยที่ไม่หันหน้ากลับมามองใครอีกคนที่นอนอยู่บนเตียงอีกเลย ซีวอนหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพิงกับหมอนพลางมองตามคยูฮยอนที่กำลังเดินไปเข้าห้องน้ำ ร่างสูงถอนหายใจออกมาเมื่อรู้สึกว่ากำลังทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ นั่งนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อพึ่งนึกได้ว่าตัวเองได้ทำความผิดพลาดอันใหญ่หลวงลงไป

     

    แย่แล้ว อึนซอ!”

     

    รีบคว้าเสื้อผ้าขึ้นมาสวมอย่างลวกๆ พร้อมกับกดมือถือหวังจะโทรหาอึนซอแต่โชคนั้นไม่เข้าข้างชเวซีวอนเอาเสียเลย แบตมาหมดอะไรเอาตอนนี้นะ?

    มองไปยังประตูห้องน้ำที่ยังคงปิดสนิทอยู่ ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเขียนข้อความทิ้งไว้ให้คยูฮยอนแล้วรีบออกไปจากโรงแรมให้เร็วที่สุด ทันทีที่ประตูห้องปิดลง...ร่างโปร่งเดินออกมาพร้อมกับสายตาที่ว่างเปล่า ริมฝีปากอิ่มสั่นระริก ความโกรธเคืองเพิ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นข้อความที่ร่างสูงทิ้งเอาไว้...

     

    คยูฮยอน ผมมีธุระจะต้องไป

    ผมรู้ว่าคุณกำลังโกรธ แต่ผมอยากให้คุณรู้อะไรไว้อย่าง...

    ว่าผมน่ะแคร์คุณมากนะคยูฮยอน

     

    หึ... แค่นเสียงหัวเราะพร้อมกับขยำกระดาษจนแหลกคามือ แคร์งั้นเหรอ?

     

    ทำไมถึงได้ทำตัวน่าสมเพชแบบนี้นะโจคยูฮยอน~”

    เสียงปริศนามาพร้อมกับร่างที่ค่อยๆ ปรากฏบนเตียง มัจจุราชหนุ่มนอนขาไขว่ห้างพลางผิวปากอารมณ์ดี ซึ่งผิดกับใครอีกคนที่อารมณ์ขุ่นมัวหนักยิ่งกว่าที่เป็นอยู่

    .............

    แผนทุกอย่างของนายมันเกือบจะไปได้ดีแล้วนะ แต่ว่าหมอนั่นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดแฮะ

    จะไปไหนก็ไป พูดจบก็เดินไปสวมเสื้อผ้าหน้ากระจก มัจจุราชหนุ่มได้ยินอย่างนั้นแล้วก็เลิกคิ้วมอง

    ฉันคิดว่านายเป็นคนใจเย็นมากกว่านี้เสียอีก...ทำไมรีบนักล่ะหืม? ร่างหนาเดินมาประชิดหลังคนที่กำลังสวมเสื้อเชิร์ตสีดำก่อนจะสอดมือเข้ามาตรงช่วงเอวแล้วช่วยติดกระดุมให้ คยูฮยอนยืนนิ่งปล่อยให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจโดยที่ไม่แย้งอะไร

    ผมเกลียดเขา

    ฉันรู้

    ผมเกลียดทุกคำพูดที่เขาพูดกับผม

    ฮะๆ นายกำลังคิดว่าหมอนั่นหน้าด้านสิ้นดีสินะ...อืม...ตอนนี้หมอนั่นกำลังวิ่งหัวซุกหัวซุนกลับไปหาคนรักที่ทิ้งไว้ตามลำพังเป็นชั่วโมง เข้าใจแบ่งเวลาเหมือนกันนะเนี่ย ทั้งนายทั้งแฟน เซอร์วิสได้ทั่วถึงจริงๆ พูดติดตลกหากแต่ไม่ได้สร้างความบันเทิงให้กับคยูฮยอนเลยแม้แต่น้อย ร่างโปร่งเดินสวนออกมา ก้มลงหยิบเสื้อโค้ทที่ก่อนหน้านี้มันถูกถอดออกโดยใครอีกคน

     


     

    ใครคนนั้น...ที่ทั้งรัก...ทั้งเกลียด

     

     

    ผมอยากให้เขาตายไปเสียตั้งแต่ตอนนี้...

    ...ก็เลยถามคำถามโง่ๆ ออกไปแบบนั้นสินะ

     

     

     

     

    คุณรักผมไหม

     

     

     

     

    ใช่...

     

     

    .

    .

     

    ผมจำได้...ครั้งแรกที่ผมตกลงกับเขาคนนั้น

    คนที่เรียกตัวเองว่า ความตาย



    ในที่ๆ มืดสนิท...มีเสียงกรีดร้องโหยหวนของสิ่งที่เรียกว่า ปีศาจและวิญญาณ มัจจุราชหนุ่มนำพาวิญญาณเร่ร่อนอย่างโจคยูฮยอนมาถึงที่นี่แล้ว ที่ๆ เขาเรียกกันว่าดินแดนแห่งความเจ็บปวด...

     

    คุณจะพาผมไปไหน? เด็กหนุ่มถามเมื่อเห็นอีกฝ่ายปลดปล่อยสิ่งที่พันธนาการมือเขาออกไป

    นายอยากไปไหนล่ะ

    ...ผมมีสิทธิ์เลือกด้วยหรือไง

    แน่นอนอยู่แล้ว เมื่อกี้ฉันเพิ่งให้สิทธิ์นายได้เล่นเกมกับฉัน จำไม่ได้หรือ?

    ผมไม่เข้าใจ

    ก่อนอื่นฉันต้องอธิบายกติกาให้นายได้ฟังก่อน... พูดพร้อมกับเดินผ่านเหล่าวิญญาณที่ถูกยมทูตลงโทษ บ้างก็ถึงขึงไว้กับเสาแล้วถูกทรมานด้วยปีศาจ บ้างก็ถูกเฆี่ยนจนมีบาดแผลฉกรรจ์เต็มตัว คยูฮยอนหลุบตาลงเมื่อรู้สึกว่าทนดูต่อไปไม่ไหว

    เอาง่ายๆ คือฉันเป็นยมทูตภาคสนาม รับส่งวิญญาณให้กับนรก  หน้าที่ของฉันคือสะสมแต้ม สะสมไปเรื่อยๆ จนได้เลื่อนขั้น ฟังดูอลังการดีใช่ไหมล่ะ?

    สะสมแต้ม?

    ใช่ อย่างนายน่ะเขาเรียกแต้มพิเศษ เป็นวิญญาณเร่ร่อนที่ตายก่อนเวลากำหนด จริงๆ แล้วยมทูตที่มีสิทธิ์ขึ้นไปบนโลกมนุษย์นั้นก็คือพวกที่ได้รับคำสั่งมอบหมายให้ไปรับวิญญาณนั้นๆ วิญญาณที่มีชื่ออยู่ในบัญชีความตาย...แต่นายมันไม่มี

    ............... ร่างโปร่งรู้สึกกลัวเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องที่อีกฝ่ายพูด ยิ่งเดินเข้าไปความกลัวยิ่งทวีคูณมากขึ้น จากความมืดเปลี่ยนเป็นแสงสว่างสีแดงจ้า...ไฟ...ข้างในนั้นมีแต่ไฟเต็มไปหมด

    แต้มพิเศษก็คือวิญญาณฟรีที่คะแนนสูงกว่าวิญญาณปรกติทั่วไป ฟังแล้วดูมีระดับขึ้นจม ขอบอกนะว่าวิญญาณของนายมันไม่ธรรมดา ยมทูตนายไหนต่างก็อยากได้ทั้งนั้น ฮ่าๆ เสียงหัวเราะของมัจจุราชหนุ่มไม่ได้บรรเทาความกลัวให้กับคยูฮยอนเลยสักนิดเดียว เขายังเดินไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ ไม่รู้เลยว่าจะต้องเจออะไรข้างหน้า และต้องได้รับบทลงโทษแบบไหนในขุมนรกนี่...

    กลัวใช่ไหม

    ...คุณก็อ่านใจผมออกนี่

    ไม่มีใครไม่กลัวหรอก ต่อให้เก่งมาจากฟากฟ้าไหนก็ตาม บทลงโทษในที่แห่งนี้มันทรมานจนยากที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด

    คุณเคยลองแล้วเหรอ?

    ไม่ได้ลอง...แต่ฉันได้รับบทลงโทษนั้นเต็มๆ เลยล่ะ...ตลอดเวลาสองร้อยปีที่ต้องทนทุกข์อยู่แบบนั้น ความเจ็บปวดตอนที่ยังมีชีวิตอยู่มันเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้เลย คยูฮยอนมองแผ่นหลังของอีกฝ่ายที่ดูอ้างว้างต่างไปจากทีแรก รู้สึกเหมือนว่าอีทงเฮนั้นมีอะไรอยู่ในใจแต่ว่าไม่สามารถระบายมันออกมาให้ใครฟังได้

    ผมก็ต้องเป็นแบบนั้นใช่ไหม?

    มัจจุราชหนุ่มเอี้ยวตัวหันกลับมาพลางหันไปมองรอบข้าง ใบหน้าคมยิ้มทะเล้นก่อนจะเอานิ้วแตะปลายจมูกเขาเบาๆ

    ฉันไม่ปล่อยให้นายต้องเจ็บปวดแบบนั้นหรอก

    ...................

    ฉันมีทางเลือกให้นาย

    ทางเลือก?

    ใช่ นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าไม่อยากตาย

    คุณกำลังทำให้ผมสับสนนะ

    เกมที่ฉันเคยบอกนายเอาไว้ก็คือ...ชีวิตแลกด้วยชีวิต

    เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหูทำให้คยูฮยอนขนลุกซู่ มัจจุราชหนุ่มกระตุกยิ้มก่อนจะดึงขนนกสีดำออกมาแล้วเป่ามันให้ลอยไปในอากาศ...

    ถ้าทำได้ นายก็จะกลับไปมีชีวิตได้อีกครั้ง...แล้วคนที่ต้องมารับบทลงโทษในขุมนรกแห่งนี้ก็คือชเวซีวอน

    คุณจะฝ่าฝืนกฎงั้นเหรอ?

    อย่าพูดแบบนั้นสิ วิญญาณเร่ร่อนมันปรับเปลี่ยนกันได้ในเมื่อไม่มีรายชื่อในบัญชีความตาย กติกาแบบนี้ใช่ว่าทุกคนจะรู้หรอกนะ

    คุณทำแบบนี้บ่อยหรือไง

    เอาจริงๆ ก็นายนี่แหละคนแรก แต่ถ้าฉันคิดได้เร็วกว่านี้...

    ร่างหนาชะงักไปครู่หนึ่ง คยูฮยอนจ้องหน้าอีกฝ่ายหวังรอคำตอบหากแต่มัจจุราชหนุ่มกลับหัวเราะออกมา

     

     

    ไม่มีอะไร

     

     

    ความลับเยอะ...

    คยูฮยอนรู้สึกได้

     

     

    คุณกำลังจะบอกว่า ถ้าผมเล่นเกมนี้ชนะผมจะได้กลับไปใช้ชีวิตเป็นคนอีกครั้ง...แต่ซีวอนจะต้องตายแทนผมงั้นเหรอ

    ปิ๊งป่อง!”

    ทำไมต้องเป็นเขา

    เฮ้ๆๆ ~ เกมแบบนี้ผู้ร่วมสนุกจากทางบ้านจะเป็นใครไม่ได้อีกแล้วนอกจากหมอนั่นนะ นายก็รู้ดีนี่

    คยูฮยอนยืนนิ่งเมื่อได้ยินชื่อของคนๆ นั้น...คนที่ทำให้หัวใจของเขาแหลกสลายไม่มีชิ้นดี ภาพต่างๆ ที่ชเวซีวอนได้ทำกับคยูฮยอนมันฉายขึ้นมาเป็นฉากๆ ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นก่อนชีวิตเขาจะจบลงมันทำให้คยูฮยอนตัดสินใจได้แล้วว่า...

     

     

    ผมตกลงเล่นเกมกับคุณ

     

     

    ยอดเยี่ยมที่สุด แต่นายจะไม่ฟังข้อแม้หน่อยเหรอ เผื่อนายอยากจะเปลี่ยนใจอะไรทำนองนั้นน่ะ

    ..................

    อีทงเฮโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้อีกฝ่ายพลางจ้องเข้าไปยังนัยน์ตาที่มีแต่ความสิ้นหวัง มือหนาค่อยๆ ถอดแว่นสายตาที่แตกร้าวออกพร้อมกับจุมพิตที่ข้างริมฝีปากร่างโปร่งเบาๆ

     

     

    แต่ถ้าทำไม่สำเร็จ...นายก็ต้องเป็นยมทูตรับใช้ฉันไปชั่วชีวิต...ไม่มีสิทธิ์ไปผุดไปเกิดอีกต่อไป

     

     

    เปลือกตาปิดลงรับชะตากรรมที่จะได้รับ คนอย่างโจคยูฮยอนไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้วอย่างน้อยก็ขอให้ได้กลับไปแก้แค้นคนพรรค์นั้นก็ยังดี เอาให้สาสมและเจ็บปวดยิ่งกว่าที่เขาเคยเป็น...

    เกมของเรามันไม่ยากหรอก...

    ...................

    แค่ทำให้เขาบอกรักนายได้ภายในเก้าสิบเก้าวัน...ทุกอย่างก็จบ เห็นไหม? ง่ายนิดเดียว

     

    จะต้องทำให้คนที่เคยปฏิเสธมาบอกรัก...นี่มันกติกาบ้าอะไรกัน?!

     

     

    อย่าพึ่งโมโหสิ นายคิดว่าหมอนั่นจำหน้านายได้อย่างนั้นหรือ?

    หมายความว่าไง...

    หมอนั่นแทบไม่เห็นนายอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่เป็นเรื่องตลกในกลุ่มเพื่อนแต่ถ้าจะให้นึกหน้าก็คงนึกไม่ออก ไม่ได้จะหักหานน้ำใจว่านายหน้าเห่ยหรอกนะโจคยูฮยอน

     

    แต่เขาไม่ชอบผู้ชาย ขืนเล่นเกมนี้ไปก็แพ้เปล่าๆ

     

    ยังไม่ลองแล้วจะรู้ได้ยังไง ฉันคงไม่ใจร้ายให้นายกลับไปในสภาพแบบนี้หรอกน่า พูดพร้อมกับมองเรือนร่างของเด็กหนุ่มตรงหน้า

    ...............

    นายกลับไปตอนนี้คงยังไม่มีผลอะไร ฉันว่านายกลับไปตอนที่หมอนั่นกำลังจะแต่งงานดีกว่า...

     

     

    แต่งงาน...

     

     

    อีกห้าปีข้างหน้าชเวซีวอนจะแต่งงานกับซนอึนซอ

    คุณรู้...?

    มันแปลกหรือไง?

    งั้นคุณก็ต้องรู้สิว่าผลจะออกมาเป็นยังไง

    อา...บอกไปเกมนี้ก็ไม่สนุกสิ...มัจจุราชอีทงเฮหัวเราะก่อนจะกอดคอคยูฮยอนเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆ

    เวลาห้าปีต่อไปนี้...นายต้องมาทำงานขัดดอกโดยการนำวิญญาณเร่ร่อนมาให้ฉัน

    ผมจะทำอย่างนั้นได้ยังไงกัน?

    พลังของฉันมากพอที่จะแบ่งให้นายได้ อ่ะๆๆ ไม่ต้องสงสัยไป...ฉันไม่ได้ใจดีขนาดจะแบ่งพลังให้นายฟรีๆ หรอกนะ...ก็แค่อยากได้แต้มมากกว่ายมทูตนายอื่นก็เท่านั้น

    ..............

     

     

    เพราะยิ่งเก็บแต้มได้มากเท่าไหร่...ความสมบูรณ์แบบทางร่างกายของนายก็จะยิ่งเหมือนมนุษย์มากขึ้นเท่านั้น ทั้งดูดีขึ้น มีเสน่ห์ นายคงไม่อยากกลับไปหาเขาทั้งที่สภาพเป็นศพแบบนี้หรอกใช่ไหม?

     

     

     

    นั่นมันคือจุดเริ่มต้น...ของการแก้แค้นของผม

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TALK

    เราบอกแล้วใช่ไหมว่าเอาแน่เอานอนกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ 5555555 คิดจะอัพก็อัพอ่ะ

    งงกันป่ะ เอาจริงๆ แล้วเราก็ไม่รู้จะเขียนยังไงนะ อยากเขียนให้มันเวิ่นๆ แนวแฟนตาซีอ่ะ นรกเป็นยังไงไม่รู้ ขอมโนเอาแล้วกันว่ามันเป็นแบบนี้ นรกของปรี้ทงเฮ -///////////-

    คืออ่านแล้วก็คงงงแหละ ถ้าใครอ่านแล้วไม่เข้าใจให้อ่านข้างล่างก่อนแล้วค่อยขึ้นไปอ่านข้างบนนะ แล้วจะรู้ว่าทำไมน้องคิยูถามพี่ซีวอนแบบนั้น

    ก็เพราะว่าน้องอยากให้พี่วอนตายตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะหมั่นไส้อ่ะ แม่งทำเป็นหลงอยู่ได้ทีตอนกูยังไม่ตายล่ะขยาดกูจัง #อะไรทำนองนั้น

    คิยูเลยเฟลมากที่ซีวอนไม่ยอมบอกรัก #แป๊กแล้วหนู

    ตอนต่อไปจะเป็นยังไง........

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×