คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Friend's II - Broken
ที่ไม่มอง..ที่ทำเป็นไม่สนใจ..ไม่ใช่ว่าไม่รู้..
แต่เพราะรู้..ถึงได้ทำเป็นไม่สนใจ
เสียงหัวเราะหยอกเอินก้องอยู่ในโสตประสาทถึงแม้ว่าจะอยู่ในที่สาธารณะแต่ทั้งคู่กลับไม่ได้สนใจ..ยังคงสร้างโลกสีชมพูท่ามกลางกลุ่มเพื่อนที่มองด้วยแววตาริษยาและหนึ่งในนั้นคือเฮนรี่
ใครๆ ก็อยากได้แฟนสาวเป็นดาวคณะทั้งนั้นแหละ..แน่นอนว่าอีทงเฮพอใจกับสิ่งที่ทำอยู่
สายตาทอดมองออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย..พยายามปลอบใจตัวเองว่าเดี๋ยวคงทำใจได้และกลับไปเป็นเหมือนเดิม..ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่เดินผ่านเข้ามา..แล้วก็เดินจากไปเหมือนกับคนอื่นๆ
“แท่นแท๊น~” มือหนาหยิบถุงพลาสติกที่มีแบรนด์ยี่ห้อชื่อดังขึ้นมาตรงหน้าก่อนที่ร่างบางจะเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
“เปิดดูสิครับ”
พูดพร้อมกับจ้องมองดวงหน้าหวานของคนรักที่กำลังหยิบกระเป๋าแบรนด์ราคาแพงออกมา ไม่ใช่ว่าเป็นคนเห็นแก่ได้
แต่ผู้หญิงน่ะ..ชอบให้ผู้ชายเซอร์ไพร์ซ
“ว๊าว~ สวยจังเลยค่ะ”
“ชอบไหม”
“อื้อ~” ร่างบางช้อนตามองคนตรงหน้าพลางเม้มริมฝีปาก ทงเฮโรแมนติก..แถมยังชอบเอาใจแบบนี้เสมอ ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาก็เป็นสิ่งพิสูจน์ได้แล้วว่าทงเฮรักยูอีมากแค่ไหน..
“มึงว่าใบไหนดีวะ..ใบนี้..หรือใบนี้..” ถามพร้อมกับหยิบกระเป๋าขึ้นมาสองใบ ฮยอกแจมองคนตรงหน้านึกรำคาญอยู่ไม่น้อย.. นี่เขาต้องมายืนเลือกกระเป๋าช่วยทงเฮ เพราะอ้างว่าอยากให้เธอประทับใจอย่างนั้นน่ะเหรอ
แต่พอมาคิดๆ ดูแล้ว..ที่ทงเฮทำแบบนี้ก็ไม่ต่างจากผู้ชายไร้สมองที่ใช้เงิน ใช้สิ่งของปรนเปรอผู้หญิงไม่มีผิด
“แล้วมึงชอบใบไหนล่ะ”
“กูว่าใบนี้น่าจะเหมาะกับยูอี” กระเป๋าสีขาวอยู่ในมือขวายื่นไปตรงหน้าร่างโปร่ง ใบนี้แหละเหมาะกับยูอีที่สุดแล้ว
“แต่กูว่าใบนั้นสวยกว่า ข้างหลังมึงน่ะ” ชี้ไปที่กระเป๋าหนังสีน้ำตาลที่วางอยู่ข้างหลัง
“เออว่ะ..ใบนั้นก็สวยดี..” ทงเฮชั่งใจอยู่เล็กน้อย คิ้วขมวดพลางมองกระเป๋าสองใบสลับกันไปมา
พฤติกรรมของทงเฮ..บางทีมันก็น่าหงุดหงิด..
ไม่สิ..ไม่ใช่ ‘บางที’ แต่เป็น ‘ทุกครั้ง’ เวลาหมอนี่เริ่มเติมโปรโมชั่นให้ผู้หญิงต่างหาก
“โอเค กูเชื่อมึง งั้นเอาใบนี้”
“งั้นขอรางวัลให้ชื่นใจหน่อยสิครับ~” พูดพร้อมกับอมลมไว้ในแก้มพลางเอานิ้วจิ้มแก้มตัวเองเบาๆ ดวงหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อพลางหันไปมองรอบๆ ข้างที่มีนักศึกษานั่งทานข้าวกันอยู่ มือเล็กฟาดลงบนต้นแขนแกร่งเบาๆ กับความทะเล้นของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างนั้นยูอีก็ยังหอมแก้มเป็นรางวัลให้กับคนรักอยู่ดี
“ชื่นใจจัง~”
“บ้า..”
“อะไรนะ~ เมื่อกี้ยูอีบอกรักผมเหรอ ไม่ได้ยินเลย~” เงี่ยหูฟัง แกล้งให้ร่างบางเขินไปยิ่งกว่าเก่า
ฮยอกแจคว้าแก้วโกโก้เย็นขึ้นมาก่อนจะสะพายกระเป๋าเป้เรียกความสนใจจากคนที่กำลังพลอดรักให้หันมามอง
“จะไปไหนวะ”
“กูจะไปดรอว์อิ้ง”
“ไปทำไร”
“เทรนด์น้องรหัส กูไปนะ” พูดพร้อมกับโบกมือให้เพื่อนสนิทก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ใครอีกคน
ก็แค่..ยิ้มพอเป็นพิธีเท่านั้นแหละ
.
.
อะไรที่ทำให้เราเจ็บปวด..
เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงสินะ..
“..........”
“..........”
ร่างโปร่งหันมาสบตาเพื่อนสนิทอีกคนที่พึ่งเดินเข้ามาในห้อง.. คยูฮยอนนั่งลงเก้าอี้ข้างๆ ก่อนจะมองใบหน้ามนที่หันไปจดจ่อกับโต๊ะดราฟท์
มาที่นี่..ก็เพราะฮยอกแจโทรหา
“อาการหนักแล้วสินะ” คยูฮยอนพูด
“อืม..กูไม่พระเอกพอที่จะทนดูเขารักกัน”
“รักเพื่อนมันก็ดี แต่มึงไม่จำเป็นต้องตามใจมันทุกอย่างหรอก”
“................”
“เดี๋ยวทงเฮมันก็เบื่อ..ไม่เกินอาทิตย์หน้า..เชื่อกูดิ”
“ไม่..”
“................”
“กูไม่อยากให้ทงเฮมันทำกับยูอีเหมือนคนอื่นๆ” พูดพร้อมกับเก็บอุปกรณ์ใส่กระเป๋าก่อนจะลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนสนิท.. คยูฮยอนเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่ฉายแววตาสิ้นหวังก่อนจะถอนหายใจเบาๆ
“มึงเลิกโง่สักทีเถอะฮยอกแจ..”
“................”
“มึงเองก็รู้สันดานทงเฮดีกว่าใครๆ”
“................”
“ถอยออกมาได้แล้ว ตอนนี้มึงยังไม่ถลำลึก..แต่ถ้านานไปกว่านี้..มึงนั่นแหละที่จะต้องเจ็บ”
เจ็บเหรอ.. ยังมีอะไรให้ผมต้องเจ็บมากไปกว่านี้อีกเหรอ..
ที่ทนฝืนทำเป็นเฉยเวลาทั้งคู่พลอดรักกัน ต้องทำเป็นไม่รู้สึกอะไรมาตลอดมันแย่มากเขารู้.. แต่ถ้าจะโทษทงเฮก็ไม่ได้..ไม่สิ..เรื่องนี้น่ะโทษใครไม่ได้ทั้งนั้นนั่นแหละ..
ผู้หญิงชอบผู้ชายอย่างทงเฮมากกว่าเขา..มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร..
ทงเฮมีรถ มีฐานะ หน้าตาดี มีทุกอย่าง..แล้วเขามีอะไรบ้าง..
ที่ผิดหวังแบบนี้..ก็เพราะว่าคิดไปเองทั้งนั้น..ที่ยูอีทำดีด้วยไม่ใช่ว่ามีใจ..ก็แค่ทำไปเพราะเห็นเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่ง..
หรืออาจจะให้ความหวังเล่นๆ ก็เท่านั้น
.
.
ข้อแรกที่ผู้ชายไม่เคยรู้..
ว่าผู้หญิง..ไม่ชอบตกเป็นประเด็นบทสนทนาในกลุ่มเพื่อน
“ช่วงนี้ไม่เห็นคุณอีทงเฮควงแฟนสาวสุดที่รักมาเลยนะครับ” เฮนรี่เอ่ยถามขณะที่คนอื่นๆ กำลังนั่งกินมื้อเที่ยงก่อนจะเข้าเรียนคาบบ่ายที่แสนทรหด..
คาบเซรามิกส์ของอาจารย์ชเวซีวอน..
“ไม่อ่ะ” ตอบแบบไม่ยี่หระก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อไป นั่นทำให้เฮนรี่ อีทึกถึงกับอ้าปากค้าง..
ก็จะอะไรซะอีก ก่อนหน้านี้เห็นตัวติดกันเป็นเกลียว เอะอะ ยูอีอย่างนู้น ยูอีอย่างนี้ จะไปส่งยูอี จะพายูอีไปกินข้าว จะพายูอีไปโยนโบว์ลิ่ง ไปส่งยูอีที่สปา เดินควงปาดหน้าคณะให้คนอื่นอิจฉาเล่นอยู่ตลอด
“จากการคาดเดาของศาสตร์ตราจารย์อีทึกแล้ว..กูว่าไอ้เชี่ยทงเฮกำลังจะหมดโปร..”
“เยด..ดูโอ้กูแม่ง..ฉลาดเป็นตดเลย” พูดพร้อมกับปรบมือแปะๆ
ฮยอกแจได้แต่หันไปมองคนข้างๆ ที่ไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดของเพื่อนทั้งสองเลยแม้แต่น้อย มือหนาคีบลูกชิ้นปลาของโปรดใส่ชามเพื่อนสนิทก่อนจะหันมายิ้มให้
RRRrrrr
.
แบล๊กเบอรี่เครื่องสีดำที่วางอยู่ตรงหน้าสั่นพร้อมกับภาพคนรักที่ฉายบนหน้าจอก่อนที่รอยยิ้มเมื่อครู่จะค่อยๆ เลือนหายไป..ทงเฮจ้องมองมือถือพลางถอนหายใจแล้วหยิบขึ้นมากดรับ
“ว่าไงครับ”
‘ทงเฮอยู่ไหนคะ’
“ผมอยู่กับเพื่อนน่ะ ยูอีมีอะไรรึเปล่า?” น้ำเสียงเย็นชาและคำถามที่ดูห่างเหินจนคนรอบข้างได้ยินแล้วยังรู้สึกเจ็บแทน
‘ก็เปล่าค่ะ ถ้าไม่มีธุระยูอีโทรไม่ได้เหรอ’
“ได้สิครับ แต่ผมไม่ว่างรับสายทั้งวันหรอกนะ”
‘.............’ ปลายสายถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเจอประโยคที่ฟังแล้วต้องจุก กี่วันแล้วที่ทงเฮละเลย..กี่วันแล้วที่ทงเฮไม่เหมือนเดิม..
“มีอะไรอีกไหมครับ?”
‘..ก็ปกติทงเฮจะมารับยูอีไปทานข้าวแล้ว..’
“ผมก็ต้องมีเวลาส่วนตัวกับเพื่อนบ้างสิ..ผมอยู่กับยูอีตลอดเวลาไม่ได้หรอกนะ”
‘..ยูอีรู้ค่ะ..แต่ทงเฮน่าจะโทรบอกกันบ้าง..’
“ผมไม่ว่างน่ะ ไหนจะปั่นรายงาน ไหนจะปั้นเซรามิกส์อีก” พูดพร้อมกับหันไปยักคิ้วให้เพื่อนๆ ที่นั่งฟังอยู่
ข่มแฟนตัวเองต่อหน้าเพื่อนนี่แหละสันดานของผู้ชาย.. ทำทุกอย่างเพื่อให้คนอื่นได้เห็นว่าตัวเองนั้นอยู่เหนือคนรัก จะพูดจะทำอะไรก็ได้
“ไอ้เหี้ยทงเฮแม่ง..”
“ชั่วสัด..เอาเครื่องประหารหัวสุนัขมา!!”
“5555555555555555555”
‘ทงเฮคะ..แล้วเย็นนี้..’
“กลับเองแล้วกันนะครับ วันนี้ผมไม่ว่าง”
“โอ๊ยไอ้เหี้ย! แม่งเลวมากจ้า 55555555555555” หัวเราะประสานเสียงกันจนคนปลายสายถึงกับหยุดชะงัก..ริมฝีปากบางเม้มแน่น รู้สึกแย่.. นี่เธอกลายเป็นตัวตลกไปแล้วเหรอ..
“ทงเฮมึงพอเถอะ” ร่างโปร่งหันไปปรามคนข้างๆ ที่ชักจะเอาใหญ่ ถึงแม้ทงเฮจะทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนเวลารู้สึกเบื่อ รู้สึกรำคาญหรืออยากเลิก..แต่กับยูอี..ฮยอกแจยอมไม่ได้จริงๆ
‘...........โอเคค่ะ..ยูอีเข้าใจแล้ว’
“ครับ แค่นี้ก่อนนะ มื้อเที่ยงของผมกร่อยหมดแล้ว”
เสียงหัวเราะดังขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้ากวนประสาทของทงเฮ ปลายสายรีบกดวางในทันทีก่อนที่น้ำตาจะใหลออกมาซะก่อน..
มือหนากดปิดเครื่องมือสื่อสารก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง
ทั้งที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน.. แต่ความรู้สึกกลับต่างกันอย่างลิบลับ..
หนึ่งคนไม่คิดอะไร..ก็แค่ปล่อยให้เวลาผ่านไปเดี๋ยวก็เลิกกัน
อีกหนึ่งคนเป็นกังวล..ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไรได้บ้าง..ในตอนนี้เป็นห่วงยูอี..
“กินดิ ของชอบมึงไม่ใช่เหรอ”
“
.”
“กู ให้ มึง หมด เลย” พูดพร้อมกับยิ้มกว้าง ร่างโปร่งจ้องมองใบหน้าคมก่อนจะหลุดปากถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
“มึงเบื่อยูอีแล้วเหรอ”
“เออ”
“
.
.”
รู้อยู่เต็มอกแต่ก็ยังเลือกที่จะถามออกไป ทั้งที่ยังไม่ถึงสองอาทิตย์เลยด้วยซ้ำ..จะว่าเร็วเกินไปก็..
ไม่หรอก..นี่ก็ถือว่านานแล้วสำหรับทงเฮ
ก่อนหน้านี้ฮยอกแจพยายามทำตัวออกห่างตามที่คยูฮยอนบอกแล้ว.. แต่สุดท้ายก็อดเป็นห่วงยูอีไม่ได้..
“แล้วหมาตัวไหนพูด คนนี้เอาจริงวะ.. คว๊าย”
“ตอนแรกกูก็คิดอย่างงั้นแหละ แต่พอคบไปแล้วมันไม่ใช่อ่ะ”
“ไม่ใช่ตลอด ขอให้เอดส์แดกแม่งตายทีเถอะ” เฮนรี่พูดก่อนจะหันไปหัวเราะกับดูโอ้ แต่คนถูกว่ากลับไม่รู้สึกสะทกสะท้านเลยสักนิด
.
.
ศิลปะ..
คือสิ่งสวยงาม..
เครื่องปั้นยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องในขณะที่ชายหนุ่มร่างสูงไล้ปลายนิ้วไปตามก้อนดินเหนียว.. มือแกร่งคอยแตะน้ำอยู่ไม่ห่างพยายามทำให้มือเปียกน้ำอยู่ตลอดเพื่อไม่ให้ดินติดมือ
"เมื่อไหร่ที่มือคุณแห้ง ดินเหนียวจะติดมือคุณเหมือนกับเล่นปั้นดินน้ำมัน นั่นหมายความว่างานของคุณจะไม่สามารถเป็นรูปเป็นร่างได้"
ดวงตาคมจดจ่ออยู่กับก้อนดินเหนียวที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างอย่างสวยงาม.. นักศึกษาเกือบสามสิบคนทึ่งกับความสามารถของอาจารย์ผู้สอน ทั้งหน้าตาดี เก่ง มีพรสวรรค์แบบนี้..
“โคตรเจ๋งเลยว่ะ กูก็อยากทำแบบนั้นได้บ้าง..”
“อย่างมึงแค่ไม่ให้ดินเละคามือก็บุญแล้ว..”
เสียงซุบซิบเบาๆ ของนักศึกษาหากแต่ใครบางคนกำลังจดจ้องไปยังร่างสูงที่ยังคงใส่ใจกับงานปั้นอยู่อย่างนั้นด้วยความชื่นชม..
“จ้องขนาดนั้น..จะเก็บรายระเอียดให้ครบเลยเหรอวะ” ฮยอกแจเอ่ยถามคนคนข้างๆ ที่สายตายังคงไม่ละห่างไปไหน
“อืม..”
ทั้งคู่ยังคงยืนมองอาจารย์ผู้สอนอยู่อย่างนั้น ‘ปลื้ม’ ..คยูฮยอนปลื้มอาจารย์ซีวอน.. ไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกอย่างนี้บ้างรึเปล่า..ซีวอนเป็นเหมือนกับไอดอลที่คอยทำผลงานออกมาให้ได้ชื่นชมอยู่เสมอ..และคยูฮยอนก็เป็นหนึ่งในนั้นที่อยากก้าวไปอยู่จุดเดียวกันกับเขา..ไม่เคยคิดอยากเข้าไปตีสนิท สำหรับเขาแล้วถ้ารู้สึกปราบปลื้มใครสักคนก็แค่อยากจะลองคุยด้วยสักครั้งหนึ่งในชีวิต..
แค่สักครั้งหนึ่งก็ยังดี..
.
.
คนที่เรารัก..กับคนที่รักเรา..
คุณจะเลือกอะไร?
‘กูจะแวะไปโต๊ะบอลว่ะ’
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ฮยอกแจได้ยินจากปากทงเฮ.. แมนยู เวสต์บรอม ทงเฮไม่พลาดทีมโปรดอยู่แล้ว.. ร่างโปร่งเดินมาถึงป้ายรถเมล์เหมือนกับทุกวันก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นใครอีกคนยืนมองเขาอยู่ตรงนั้น..
ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มหากแต่ดวงตาคู่สวยกลับมีหยาดน้ำใสคลอหน่วง..ฮยอกแจเดินไปหยุดตรงหน้าร่างบาง.. ทำตัวไม่ถูกเมื่อเห็นสีหน้าเจ็บปวดของเธอแบบนี้..
“..บังเอิญเจอกันที่นี่อีกแล้วเนอะ..” และแล้วน้ำตาที่กลั้นไว้ก็ไหลลงมาจนได้.. ฮยอกแจเบือนหน้าหลบไปอีกข้าง..บางทีน้ำตาของเธอนั้น..ก็ทำให้คนมองอย่างเขาเจ็บปวดได้เหมือนกัน..
“เรา..นั่งรอรถเมล์มาชั่วโมงนึงแล้ว..แต่..แต่เราไม่รู้ว่าต้องขึ้นสายไหน..โง่ชะมัดเลยว่าไหม..” ดวงหน้าหวานงุดลง รู้สึกโล่งใจที่เจอฮยอกแจที่นี่..เพราะป้ายรถเมล์หน้ามหาลัยตอนสองทุ่มมันช่างเงียบเหงาจนน่ากลัว
“เดี๋ยวเราไปส่ง” พูดพร้อมกับกุมข้อมือเล็กเอาไว้แล้วเดินไปขึ้นรถเมล์ที่กำลังจอดอยู่ตรงหน้า..ร่างบางเบิกตากว้างพลางก้มลงมองข้อมือที่ถูกใครอีกคนพันธนาการไว้ก่อนจะเม้มริมฝีปากแน่น
“กลับเองแล้วกันนะครับ วันนี้ผมไม่ว่าง”
ทงเฮทำเกินไป..ใช่..หมอนั่นจะทำเกินไปแล้ว..
.
.
ร่างบางเลือกที่จะนั่งติดหน้าต่าง บางทีวิวข้างทางอาจจะช่วยทำให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง ดวงตาคู่สวยทอดมองออกไปข้างนอกกระจก..ริมฝีปากอิ่มสั่นระริกเมื่อนึกถึงคำพูดของคนรัก..
“ผมมีนัดกับเพื่อนแล้ว..เมื่อตอนกลางวันพูดไม่รู้เรื่องเหรอครับ?”
“ยูอีครับ..ถ้าพูดไม่รู้เรื่องผมจะวางแล้วนะ”
ฮยอกแจได้แต่นั่งอยู่เงียบๆ ไม่ได้เข้าไปปลอบร่างบางอย่างที่คิด..แต่จู่ๆ ก็รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นๆ ที่หลังมือ.. ร่างโปร่งหันไปมองคนข้างๆ ที่กุมมือตัวเองไว้หลวมๆ ก่อนจะเอนหัวซบไหล่..
และเสียงสะอื้นนั่น..ทำให้ผมรู้ว่าคงปล่อยให้เธออยู่ตามลำพังไม่ได้..
รถเมล์จอดถึงหน้าหมู่บ้านก่อนที่ทั้งคู่จะเดินเข้าไปตามถนนที่เงียบสงบ..ฝีเท้าหยุดชะงักเมื่อใครอีกคนไม่เดินตามมา.. ฮยอกแจหันกลับไปมองร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับเดินเข้าไปหา
“เป็นอะไรไป”
“...............”
“จะถึงบ้านเธออยู่แล้ว”
“................”
“................” ฮยอกแจไม่รู้จะทำยังไง ก็อีกฝ่ายเล่นไม่พูดไม่จาแบบนี้ เอาแต่ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา รู้ไหมว่าเขาเองก็รู้สึกแย่ไม่แพ้กันหรอก..
“ทงเฮ..”
“..
”
“ทงเฮเค้า..โกรธเราใช่ไหม..”
โกรธงั้นเหรอ?
“เรางี่เง่า..เอาแต่โทรหาทงเฮทั้งวัน..ทงเฮจะรำคาญรึเปล่า..เขาจะเบื่อเราไหมฮยอกแจ..” มือเล็กกุมมืออีกฝ่ายไว้.. ฮยอกแจสนิทกับทงเฮที่สุด..เขาต้องช่วยเธอได้แน่ๆ
“
.”
“เราพยายามแล้วนะ พยายามไม่วุ่นวายแล้ว..แต่..แต่เรา..ก็ทำให้ทงเฮรู้สึกแย่..”
รู้สึกแย่งั้นเหรอ?
“ฮยอกแจช่วยเราหน่อยได้ไหม..เราอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับทงเฮ..นะ..” ส่งสายตาอ้อนวอนต่อคนตรงหน้า.. ฮยอกแจได้แต่เบือนหน้าหลบไปทางอื่นเพราะคำพูดแต่ละคำของเธอมันช่างกรีดแทงใจเขาเหลือเกิน.. ต้องช่วยเหรอ? ต้องช่วยให้คนที่ตัวเองชอบสมหวังกับคนอื่นงั้นใช่ไหม?
เขาไม่ใช่ผู้ชายที่แสนดีขนาดนั้นหรอกนะ..
“..................”
“..................”
“..แล้วจะพยายาม”
ตอบไปอย่างนั้นเพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ..ต่อให้เขาพยายามช่วยสักแค่ไหน แต่ถ้าใจทงเฮมันไม่อยู่กับยูอีแล้วก็เปล่าประโยชน์..
อย่างมาก..ก็แค่ยืดเวลาออกไปก็เท่านั้น..
.
.
ร่างโปร่งเปิดประตูเข้ามาในห้องพักก่อนจะเลิกคิ้วมอง เมื่อเห็นเพื่อนตัวดีที่กำลังนอนดูทีวีอยู่บนเตียงของเขา ห้องแคบๆ ของผู้ชายตัวคนเดียวที่มีเพียงแค่เตียง ทีวี โต๊ะอาหารเล็กๆ ตู้เสื้อผ้า โต๊ะดราฟท์และพื้นที่ทำครัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ไปไหนมาเนี่ย กูนอนรอมึงเกือบชั่วโมงแล้ว” ทงเฮถามพลางกดปิดทีวีก่อนจะมองตามเพื่อนสนิทที่เดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมอาบน้ำ
“ไม่ได้ไปไหน..แล้วมึงไม่ไปร้านพี่ฮีชอลเหรอไง?”
“กูแวะมาบังคับมึงกินข้าวกินยาก่อนแล้วค่อยไป กว่าบอลจะมาก็ตั้งตีหนึ่ง” พูดพร้อมกับเปิดลิ้นชักตรงหัวเตียงก่อนจะเอาถุงยาสีขาวออกมาแยกก่อนหลังอาหารเหมือนกับทุกครั้ง
“...............” ฮยอกแจไม่ได้พูดอะไรอีก ได้แต่หันกลับไปมองเพื่อนสนิทที่เดินฮัมเพลงไปหยิบจานและกล่องข้าวที่ซื้อมาแกะบนโต๊ะอาหารเล็กๆ
ทงเฮอารมณ์ดี..
ในขณะที่ยูอีกำลังร้องไห้..
“ทงเฮ”
“ว่าไง”
“มึงคิดยังไงกับยูอี” หันไปมองแผ่นหลังกว้างที่ยืนอยู่หน้าโต๊ะอาหาร
“หืม..นึกไงมาถามกู” ไม่เอะใจหรืออะไรทั้งสิ้น ทงเฮยังคงง่วนกับมื้อเย็นตอนเกือบห้าทุ่มอยู่ ก็แค่ผู้หญิงที่กำลังจะเลิกก็เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสนใจอะไรนี่..
“ไหนมึงบอกว่าจะจริงจัง”
“ก็จริงจังแล้วไง ตั้งอาทิตย์กว่าเลยนะ” พูดพร้อมกับวางช้อนลงบนโต๊ะก่อนจะเงยหน้ามองเพื่อนสนิทที่ทำหน้าจริงจังไปกว่าทุกครั้ง
“มึงเป็นไรเนี่ย” พูดกลั้วหัวเราะก่อนจะขยี้หัวร่างโปร่งที่ทำหน้านิ่งจนประหลาดใจ
“มึงไปง้อยูอีเถอะ กูเห็นเธอร้องไห้”
“ร้องไห้ก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ทำไมวะ ทีคนอื่นๆ กูไม่เห็นมึงพูดแบบนี้บ้างเลย”
“................”
“กินข้าวเถอะ”
“กูสงสารเค้า วันนี้มึงก็พูดแรงเกินไป..อย่างน้อยเค้าก็เป็นผู้หญิง จะทำอะไรก็นึกถึงตอนที่พึ่งจีบเค้าบ้าง” เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย หวังให้เพื่อนสนิทคิดได้บ้าง..
ถึงจะไม่ใช่คนรักกัน..แต่เขาก็ไม่ต้องการให้เธอต้องเจ็บปวด..
“นี่มึงโกรธกูแทนยูอีเหรอไง? ฮ่าๆ”
“.....................” จ้องมองใบหน้าคมอย่างเหลืออด ช่วยสำนึกผิดสักนิดบ้างจะได้ไหม?
“เออ~~~~ รู้แล้วๆ กูจะไปง้อเลยพรุ่งนี้เลย พาไปดูหนังด้วยเป็นไง? โอเคป่ะ?” ไม่รู้หรอกว่าฮยอกแจเป็นอะไร แต่เขาไม่ชอบที่จะเห็นฮยอกแจนอยด์นานๆ หรอก ไอ้หมอนี่เลือดคนดีมันแรง..รู้งี้ไม่น่าพายูอีไปเจอเพื่อนบ่อยๆ เลย
.
.
ยิ่งฝืน..ก็ยิ่งเหนื่อย..
เมื่อไหร่จะหยุดวิ่งตามความว่างเปล่าสักที..
ใบหน้าหวานยิ้มกว้างตลอดทางหลังจากที่ทงเฮมาง้อด้วยดอกไม้ช่อใหญ่พร้อมกับตั๋วหนังสามใบ.. ถึงแม้จะรู้สึกแปลกๆ ที่ทงเฮพาฮยอกแจมาด้วย แต่ก็ยังดีกว่าการถูกเมินไปเฉยๆ แขนเล็กกอดแขนของคนรักไว้พลางเอนหัวซบไหล่กว้าง..ดีใจ..ที่ทงเฮมาง้อ..
ร่างโปร่งเดินตามหลังคู่รักที่ดูเหมือนว่าทงเฮจะไม่เต็มใจมาดูหนังสักเท่าไหร่ แต่ที่มาในวันนี้ก็เพราะฮยอกแจขอให้ทำก็เท่านั้น..
ฮยอกแจก็เคยไม่คิดว่าทงเฮจะลากเขามาเป็นก้างขวางคอแบบนี้ เขาคงเบื่อยูอีเต็มทีแล้วสินะ จากที่ผ่านมาทงเฮไม่เคยดึงเพื่อนเข้ามาอยู่ในวงโคจรชีวิตรักของเขาเลยสักครั้ง..แต่ครั้งนี้ถึงกับลากฮยอกแจมาเอี่ยวด้วยแบบนี้แสดงว่าทงเฮคงไม่ต้องการเธออีกต่อไปแล้ว
อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เราไม่สามารถรับรู้ได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น.. แต่สำหรับผมแล้ว..
ผมรู้ดี..ว่ายูอีคงยื้อได้อีกไม่นานหรอก..
ในโรงหนังถึงแม้ว่ายูอีจะไม่ชอบหนังแนวสงครามแต่ร่างหนาก็เลือกที่จะดูเรื่องนี้ เหตุผลเพราะทงเฮจำได้ว่าฮยอกแจเคยบอกว่าอยากดู
ระหว่างหนังฉายจู่ๆ ไอ้หมาบ้ามันดันลุกพรวดขึ้นมาแล้วบอกว่า ‘มีธุระด่วนต้องรีบไป ฝากไปส่งยูอีด้วยนะ’ หน้าด้านๆ ทิ้งเธอไว้กับเขาตามลำพัง ไม่นึกถึงความรู้สึกคนรักเลยว่าเธอจะเสียใจแค่ไหน
เพราะต่อให้มีธุระสำคัญแค่ไหน..ก็ไม่ควรทิ้งเธอไว้แบบนี้..
สุดท้าย..หนังเรื่องนั้นก็ดูไปแค่สี่สิบนาทีเท่านั้น ไม่มีรอยยิ้มแต่งแต้มอยู่บนดวงหน้าหวานอีกหลังจากที่ทงเฮก้าวออกไปจากโรงหนัง..ฮยอกแจต้องไปส่งเธอที่บ้านสินะ..ใช่..นั่นคือสิ่งที่เขาควรจะทำ
“เรายังไม่อยากกลับ”
“............”
“เรา..ไปนั่งเล่นหอของฮยอกแจได้ไหม?”
.
.
สุดท้ายผมก็พาเธอกลับมาที่ห้องจนได้ หลังจากพาเดินช็อปปิ้งสารพัด..ผู้หญิงนี่ยังไงกันนะ..เวลาเครียดชอบหาเรื่องผลาญเงินกันแบบนี้ทุกคนรึเปล่า.. ผมได้แต่เดินตามเธอต้อยๆ ดูเธอหยิบจับเครื่องสำอางเสื้อผ้าไม่หยุด ถุงกระดาษยี่ห้อแบรนด์เนมเริ่มล้นมือผมแล้วถ้าเกิดเธอไม่หันกลับมามองล่ะก็..
ผมคงต้องใช้ปากคาบถุงแทนแล้วล่ะ
ร่างบางทิ้งตัวลงนอนบนเตียงพลางหลับตาลง..ช็อปปิ้งก็ช่วยแค่ให้สบายใจชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นแหละ..แต่หลังจากนั้นก็ต้องกลับมาคิดเรื่องของคนรักอีกอยู่ดี.. ฮยอกแจวางของลงบนโต๊ะก่อนจะเดินไปรินน้ำให้ใครอีกคนที่เอาแต่ถอนหายใจอยู่อย่างนั้น
“ขอบคุณนะ”
“...ไม่เป็นไร”
“ถ้าไม่ได้ฮยอกแจ..เราคงร้องไห้กลางโรงหนังแน่เลย” ร่างบางแค่นเสียงหัวเราะก่อนจะเดินไปหยิบถุงใบหนึ่งมา ถุงใบนั้นมีน้ำยาทาเล็บสารพัดสีที่เธอเล่นกวาดมาแบบไม่คิด
“ฮยอกแจว่าสีไหนเหมาะกับเรา” ถามพร้อมกับวางเรียงน้ำยาทาเล็บลงบนเตียง ร่างโปร่งนั่งลงฝั่งตรงข้ามก่อนจะเพ่งมองอย่างชั่งใจ..ก็ในสายตาฮยอกแจแล้วสีไหนมันก็เหมาะกับยูอีทั้งนั้นแหละ
“ถ้าฮยอกแจเป็นทงเฮ ฮยอกแจจะเลือกสีไหน”
ถ้าเป็นทงเฮน่ะเหรอ..
นึกแล้วก็น่าขำ.. มันไม่มีทางเป็นไปได้อยู่แล้วที่เขาจะเป็นทงเฮ.. แต่ถ้าถามมาอย่างนั้น..
“สีส้มอันนี้ก็สวยดีนะ”
“อ๋า..อันนี้เหรอ..” หยิบขึ้นมาเทียบดูกับมือตัวเองก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
“ไหนๆ ก็ซื้อมาแล้ว..ก็ลองทาดูสิ” รอยยิ้มเริ่มแต่งเติมบนใบหน้าสวยอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว พอเห็นอย่างนั้นแล้วฮยอกแจก็อดที่จะยิ้มตามไม่ได้..
ถ้าเป็นทงเฮน่ะเหรอ.. ถ้าผมเป็นทงเฮผมจะไม่มีทางปล่อยให้เธอร้องไห้..และจะไม่มีทางพูดจาบั่นทอนจิตใจเธอแบบนี้แน่..
“เราช่วย” พูดพร้อมกับเอาสำลีชุ่มน้ำยา ล้างเล็บให้กับคนตรงหน้า ร่างบางเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะยิ้มบางๆ
ฮยอกแจอบอุ่น..และเข้าใจเธอ..จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเกิดเป็นทงเฮทำแบบนี้บ้าง..เธอคงจะมีความสุขไม่น้อย..
ดวงตาคู่สวยจ้องมองไปยังร่างโปร่งที่ตั้งหน้าตั้งตาล้างเล็บให้ด้วยท่าทางเก้ๆ กังๆ ดูก็รู้ว่าไม่เคยไปทำแบบนี้กับใครมาก่อน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็น่ารักในสายตาร่างบางอยู่ดี
ฮยอกแจเป็นคนน่ารัก..
เคยถามตัวเองอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงได้ตกลงคบกับทงเฮง่ายๆ ทั้งที่ก็รู้อยู่เต็มอกว่าฮยอกแจคิดยังไง.. แต่คนเราก็แบบนี้.. ชอบอะไรที่มันชัดเจนมากกว่า..
“ฮยอกแจ”
“อื้ม”
“ทำไมถึงไม่มีแฟนล่ะ” คำถามนี้ทำเอาคนที่นั่งก้มหน้าก้มตาอยู่หยุดชะงัก ใบหน้ามนเงยขึ้นมองอีกฝ่ายก่อนจะก้มหน้าลงไปอีกครั้ง
“มันต้องมีคำตอบด้วยเหรอว่าทำไมเราถึงไม่มี”
“เปล่า..เราแค่อยากรู้ ฮยอกแจเป็นคนดีแบบนี้ คนที่เป็นแฟนฮยอกแจต้องเป็นผู้หญิงที่โชคดีที่สุดแน่เลย”
...คนดี?
“งั้นเหรอ” ใบหน้าหวานมองคนตรงหน้าหวังรอคำตอบ
“อื้อ~”
“..รู้รึเปล่าล่ะ..ว่าผู้หญิงน่ะ”
“ชอบคนดี..แต่เลือกที่จะรักคนเลว”
รอยยิ้มบนใบหน้าหวานหายไปในทันทีเมื่อได้ยินประโยคแทงใจ..ไม่รู้หรอกว่าฮยอกแจแฝงความนัยอะไรรึเปล่า..แต่ที่ฮยอกแจพูดก็ถูก..ทั้งที่รู้ว่าเขาร้ายแค่ไหน..แต่หัวใจก็ยังคงรัก..ผิดกับอีกคนที่ทำดีมาตลอด..แต่ก็ให้ได้แค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น
.
.
คนเรามักจะรู้สึกอ่อนไหวกับใครสักคน..
ก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าไม่เหลือใคร..
“เห็นป่ะ กูบอกแล้วว่าคยูฮยอนแม่งต้องมา”
“ไรวะแม่ง..” อีทึกถอนหายใจก่อนจะควักเงินออกมาวางลงบนมือร่างสูง หนุ่มตาตี่ยิ้มกว้างพลางนับเงินในขณะที่คยูฮยอนและฮยอกแจนั่งลงฝั่งตรงข้าม
“อะไรของพวกมึง”
“เปล่า~ กูแค่เล่นกันนิดๆ หน่อยๆ ไอ้พี่ทึกมันบอกว่าคืนนี้มึงจะไม่มาเว้ย” เฮนรี่พูดพร้อมกับคีบน้ำแข็งใส่แก้วใบใสให้กับเพื่อนทั้งสองที่พึ่งนั่งลงเมื่อครู่ก่อนจะเทโค้กให้กับคยูฮยอน ส่วนฮยอกแจน่ะ..เหล้าบางๆ ผสมโค้กก็พอ
คยูฮยอนไม่ชอบดื่มเหล้า..แต่ที่มาก็เพราะวันนี้มีแขกไม่ได้รับเชิญไปที่บ้าน..
ไม่นานนักเฮนรี่ก็ทำหน้าตกใจเมื่อเห็นใครอีกคนยืนอยู่ข้างหลังฮยอกแจ..ทุกสายตาหันกลับไปมองร่างเพรียวบางที่ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น..
ตามลำพัง..
“ยูอี..”
“เอ่อ..ทงเฮล่ะจ๊ะ..” ดวงหน้าหวานยิ้มเจื่อน เมื่อมาถึงที่หมายแล้วกลับไม่เห็นคนรักอยู่ที่นี่ นี่เธอมาเร็วเกินกว่าเวลานัดเหรอ? ก็ไม่นี่..
“ทงเฮมันยังไม่มาหรอก เชิญนั่งก่อนนะครับคนสวย..” เป็นอีทึกที่เดินเข้าไปผายมือให้ร่างบาง ยูอีเลือกที่จะนั่งข้างฮยอกแจเพราะรู้สึกกลัวสายตาที่ดูไม่บริสุทธิ์ใจของอีทึกและเฮนรี่
“ทงเฮจะมาเมื่อไหร่เหรอฮยอกแจ..” หันไปถามคนข้างๆ หากแต่คนมองอย่างคยูฮยอนได้แต่ถอนหายใจเมื่อเห็นมือเล็กวางทาบทับบนหลังมือร่างโปร่ง
“...............”
“เดี๋ยวเราโทรตามให้..รอก่อนนะ” ฮยอกแจยิ้มบางๆ ก่อนจะลุกออกไปหน้าร้านเพื่อหาที่สงบโทรหาเพื่อนสนิทที่วางระเบิดชิ้นใหญ่ไว้ให้..
เมื่อฮยอกแจเดินออกไป..ร่างบางก็ไม่รู้ว่าควรทำตัวยังไงในขณะที่ตกเป็นเป้าสายตาในกลุ่มเพื่อนของคนรัก..ดวงตาคู่สวยหันไปมองใครอีกคนที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอก..เมื่อไหร่จคุยเสร็จ..รู้สึกอึดอัดจนไม่อยากอยู่ที่นี่ต่อไปแล้วนะ..
‘คืนนี้เหรอ ผมจะไปร้านพี่ฮีชอลน่ะ’
‘งั้นยูอีไปหาได้ไหมคะ?’
‘ก็ตามใจ’
ร่างบางตัดสินใจลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำและไม่ลืมที่จะถือกระเป๋าใบเล็กติดมือไปด้วย.. ก็รู้ว่ากำลังหลอกตัวเอง รู้ว่ากำลังฝืน.. ตอนนี้ทงเฮไม่ใช่คนเดิมที่เธอรู้จักแล้ว..ใบหน้าสวยเงยขึ้นมองกระจกบานใหญ่ก่อนจะใช้ทิชชู่ซับน้ำตาอย่างเบามือ..จะให้ทงเฮมาเห็นในสภาพแบบนี้ไม่ได้..
เรียวขาเล็กเดินออกมาจากห้องน้ำก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นใครอีกคนยืนรออยู่.. ร่างโปร่งเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้า ใบหน้าเรียวเงยขึ้นสบตากับอีกฝ่ายที่กำลังฉายแววตานิ่งเฉยเหมือนกับทุกครั้ง
คนๆ นี้..โจคยูฮยอน..
“คิดจะทำอะไร”
“...คะ?”
“เล่นกับความรู้สึกฮยอกแจหรือไง”
“..............” ร่างบางเบือนหน้าหลบ ไม่กล้าสู้หน้ากับคนๆ นี้.. แต่ไหนแต่ไรแล้วโจคยูฮยอนไม่เคยยิ้มให้กับเธอเลยสักครั้ง ไม่เคยได้คุยกันอีกหลังจากที่ติดลิฟท์ด้วยกันตั้งแต่วันนั้น..
“ปฏิเสธสิ..ว่าไม่เคยรู้เลยว่าฮยอกแจมันคิดยังไงกับเธอ” ดวงหน้าหวานหันกลับมามองคนตรงหน้าด้วยความตกใจ.. มันก็ใช่อย่างที่เขาพูด..ยูอีรู้มาตลอดว่าฮยอกแจคิดยังไง..
แต่เพราะรู้ทุกอย่าง ถึงได้แกล้งโง่.. เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้เธอรู้สึกว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว..เธอยังคงมีฮยอกแจคอยดูแลอยู่ข้างๆ
ไม่ใช่เธอคนเดียวสักหน่อยที่เห็นแก่ตัว..เป็นใครก็ต้องทำแบบนี้ทั้งนั้น..
ความรู้สึกที่ไม่ได้รัก..แต่ก็ไม่อยากสูญเสียคนๆ นี้ไป..
“ฉันเคยคิดว่าเธอจะชอบฮยอกแจซะอีก..เล่นให้ความหวังซะขนาดนั้น..พาไปที่บ้านเหรอ? ขอเบอร์เหรอ? เช็ดผมให้เหรอ?”
“..................”
ที่ทำไป..ก็ทำตามความรู้สึกทั้งนั้น..ถึงรู้ว่าเป็นการให้ความหวัง..แต่แล้วยังไงล่ะ..ยูอีก็มีความสุขกับการที่มีฮยอกแจอยู่ข้างๆ แบบนี้.. แต่เธอจะไม่มีความสุขแน่..ถ้าเกิดสูญเสียทงเฮไป
“อีฮยอกแจเป็นเพื่อนสนิทของแฟนเธอ..”
“...................”
“คงรู้นะ..ว่าต้องทำยังไงกับเรื่องนี้..”
.
.
“ไอ้เชี่ยทงเฮ..กูขอเดาว่ามันจะมาตอนเที่ยงคืนครึ่ง..” ดวงตารีเล็กหรี่มองนาฬิกาดิจิตอลสีดำก่อนที่อีกคนจะชะเง้อหน้ามอง ตอนนี้ก็ห้าทุ่มแล้วสินะ..
“งั้นกูเดาว่าห้าทุ่มห้าสิบแล้วกัน” วางเงินลงบนโต๊ะก่อนที่อีกฝ่ายจะหัวเราะลั่น การพนันนี่แหละเป็นเรื่องโปรดของเขาทั้งคู่
หลังจากคุยกับคยูฮยอนเสร็จแล้วร่างบางก็เอาแต่นั่งเงียบไม่พูดไม่จา ร่างโปร่งหันมามองคนข้างๆ อย่างเป็นห่วงเป็นใยเมื่อร่างบางเอาแต่ยกแก้วกระดกไม่ยั้งจนคนทั้งโต๊ะถึงกับพูดไม่ออก..
เมื่อไหร่ทงเฮจะมาสักที..
“พอได้แล้ว..” มือเรียวรั้งข้อมือเล็กเอาไว้ก่อนจะถือกระเป๋าใบเล็กให้พร้อมกับดึงร่างบางให้ลุกขึ้นยืน.. คยูฮยอนถอนหายใจอย่างหัวเสียเมื่อเห็นเพื่อนสนิททำตัวเป็นควายไม่จบไม่สิ้น ต้องรอให้เรื่องราวมันบานปลายก่อนใช่ไหมถึงจะหยุด?
“อื้อ..ทงเฮอยู่ไหน..”
“กูจะไปส่งเธอที่บ้าน ถ้าไอ้ทงเฮมาบอกให้มันโทรหากูด้วย” ฮยอกแจว่าพร้อมกับโอบไหล่บางไว้ แล้วค่อยๆ พยุงคนตัวเล็กกว่าออกจากร้านไปเรียกแท็กซี่ขณะที่ใครอีกคนยังมองตามอยู่ไม่ห่าง
.
.
ร่างโปร่งก้าวเท้าไปตามถนนที่เงียบสงบในเวลาเกือบตีหนึ่ง..เสียงต่อว่าของผู้เป็นพ่อของยูอียังคงดังก้องอยู่ในหัวเมื่อฮยอกแจพาลูกสาวเพียงคนเดียวของเขากลับไปในสภาพเมาไม่รู้เรื่องแบบนั้น..หมดความไว้ใจทุกอย่างที่เคยมีให้..ฮยอกแจไม่รู้จะอธิบายยังไงให้พ่อของร่างบางเข้าใจ..นอกจากก้มหัวขอโทษขอโพยก่อนจะถูกปิดประตูบ้านใส่
ขาเรียวเตะก้อนหินที่อยู่ตรงหน้าเต็มแรงจนไปโดนหัวใครอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาหาเขา ก่อนจะส่งเสียงร้องโอดครวญ
“โอ๊ยยยยยยยยยยย อะไรของมึงเนี่ย มาถึงก็เจ็บเลยกู..”
ฮยอกแจมองร่างหนาที่ยืนกุมหัวตัวเองอยู่ตรงหน้าก่อนจะหันไปมองข้างถนนที่มีรถคู่ใจของเพื่อนสนิทจอดอยู่ริมฟุตบาทพร้อมกับหญิงสาวตัวเล็กยืนรออยู่ตรงนั้น
ที่ปลีกตัวมาที่นี่ก็เพราะไอ้เฮนรี่บอกว่าฮยอกแจมีเรื่องจะคุยด้วยให้รีบโทรหา..แต่เรื่องมันคงไม่ใหญ่โตเท่ากับหญิงสาวหุ่นตัวเล็กน่าฟัดที่พึ่งเกี่ยวมาได้จากผับย่านใจกลางเมืองหรอกมั้ง
“มึงหายหัวไปไหนมา” ตวาดเสียงเย็นก่อนที่ร่างหนาจะเงยหน้าขึ้นสบตาเพื่อนสนิทพร้อมกับทำหน้างง ก็ไปเที่ยวมาไง..
“มึง......”
“อะไรเล่า มึงโกรธอะไรกูเนี่ยฮยอกแจ..” ทงเฮเดินเข้ามาทำท่าจะกอดร่างโปร่งหากแต่ถูกอีกฝ่ายผลักไหล่ออกอย่างไร้เยื่อใย
“มึงนัดเค้าไว้แล้วทำไมมึงไม่ไป” ร่างหนาลดหน้าสีลง พอจะเข้าใจอะไรขึ้นมาบ้างแล้ว ที่ฮยอกแจเป็นแบบนี้ก็เพราะเรื่องที่เขาเบี้ยวนัดยูอีสินะ
“ก็กูไม่อยากไปเจอ..”
“แล้วนัดเค้าหาพ่อมึงเหรอ” ร่างโปร่งสวนกลับไปทันที ทำเอาอีกฝ่ายรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม
ที่รู้สึกผิด..ไม่ใช่เพราะเรื่องผิดนัดกับยูอี..แต่ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะไม่อยากให้ฮยอกแจอารมณ์เสีย แต่ทำไมต้องเดือดร้อนกับเรื่องแค่นี้ด้วยล่ะ?
“มึงอยากไปไหนก็ไปเหอะสัด” พูดพร้อมกับเดินสวนไป ทิ้งไว้เพียงคำถามคาใจให้อีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น.. นี่เขาทำผิดมากขนาดนที่ฮยอกแจต้องโกรธขนาดนี้เลยรึไงวะ?
.
.
คนเรามีเหตุผลในตัวเองทั้งนั้น..
แต่อยู่ที่ว่า..คุณจะเลือกใช้เหตุผลในสถานการณ์แบบไหนก็เท่านั้น
เสียงเคาะประตูในช่วงบ่ายของวันหยุดทำให้ร่างโปร่งฝืนหยัดตัวลุกขึ้นจากเตียงพลางเดินเกาหัวไปเปิดประตูให้ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ..
ยูอี..
ท่ามกลางความเงียบที่ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมา ร่างโปร่งนั่งลงบนเก้าอี้ในขณะที่อีกคนนั่งนิ่งอยู่บนเตียง ดวงตาคู่สวยบวมเป่งอีกทั้งใบหน้าขาวที่ซีดเซียวจนร่างโปร่งนึกสงสาร..
เมื่อคืนทงเฮไปกับผู้หญิงอื่น..เรื่องนี้จะบอกเธอไม่ได้..
“สร่างเมาแล้วเหรอ”
“อื้อ..ขอบคุณมากนะที่ไปส่งเราเมื่อคืนนี้..”
“ไม่เป็นไร..”
“แล้วก็..ขอโทษแทนพ่อเราด้วย..”
“อืม..ไม่เป็นไรหรอก..”
“ฮยอกแจอย่าเอาแต่พูดว่าไม่เป็นไรสิ..ต่อว่าเราบ้างก็ได้..” ร่างบางหันมามองอีกคนพร้อมกับดวงตาคู่สวยที่คลอไปด้วยน้ำตา ฮยอกแจเบือนหน้าหนีทุกครั้งที่เห็นน้ำตาของเธอ ไม่อยากเห็น..
“.............”
“ยังไม่ทานมื้อเที่ยงใช่ไหม..เดี๋ยวเราทำให้ทานนะ..” ร่างโปร่งพูดพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เย็นก่อนจะจัดเตรียมเมนูมื้อเที่ยงง่ายๆ ให้ร่างบาง.. ไม่ต้องบอกก็รู้..สภาพแบบนี้คงไม่ยอมกินอะไรตั้งแต่เมื่อวานแน่ๆ
“
..” มือเรียวหยุดชะงักเมื่อถูกใครอีกคนสวมกอดจากทางด้านหลัง.. ใบหน้าหวานซบลงกับแผ่นหลังบางก่อนจะได้ยินเสียงสะอื้นเบาๆ
“
”
“ฮึก...ฮือ...”
“..ปล่อยเถอะ..เราทำอาหารไม่ถนัดนะ..”
“ข..ขอโทษ..” วงแขนเล็กโอบกอดเอวอีกฝ่ายแน่นยิ่งขึ้น หยาดน้ำตาอุ่นๆ ไหลซึมไปทั่วเสื้อของร่างโปร่งหากแต่อีกฝ่ายกลับไม่ขัดขืน..
“ขอโทษที่ไม่เลือกฮยอกแจตั้งแต่แรก...ขอโทษนะ...”
“..............” ดวงตากลมหลุบลงมองมือเล็กที่กอดรัดตัวเองไว้ก่อนจะค่อยๆ เอี้ยวตัวกลับไปสบตากับดวงหน้าหวาน
“ก็บอกแล้วไง..ว่าไม่เป็นไร..” ฮยอกแจยิ้มบางๆ หวังให้คนตรงหน้าสบายใจขึ้น.. ที่พูด..ก็เพราะว่ารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ
ไม่เป็นไรหรอก..ขอแค่เธอไม่ร้องไห้ก็พอแล้ว..
มือเล็กทาบทับลงบนอกบางก่อนจะช้อนตามองอีกฝ่าย..ไล่มือไปตามโครงหน้าเรียวพร้อมกับลูบเบาๆ ดวงตากลมจ้องดวงหน้าหวานที่กำลังจ้องมองเขา แววตาดูต่างไปจากทุกครั้ง..และไม่รู้ว่าเมื่อไหร่..
ที่ริมฝีปากของเธอ..ประทับลงบนริมฝีปากของผม..
สมองขาวโพลนไปหมด..ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาทุกอย่าง..ความผิดชอบชั่วดีเลือนหายไปเพียงเพราะต้องการปลอบประโลมคนตรงหน้าให้รู้สึกดีขึ้น.. กลีบปากอิ่มจูบลงซ้ำๆ ที่ริมฝีปากของเขา..ร่างโปร่งตอบรับการกระทำของคนตรงหน้าอย่างเก้ๆ กังๆ ไม่ใช่ว่าไม่เคย..
แต่เพราะว่ามีใบหน้าของใครอีกคนลอยเข้ามาในโสตประสาทต่างหาก..และนั่นทำให้เขาคิดว่าควรหยุดการกระทำทุกอย่างซะ ก่อนที่เรื่องราวมันจะเลยเถิดไปจนไม่สามารถแก้ไขได้..
“อือ..ฮยอกแจ..”
ขณะที่ภาพแห่งความผูกพันมันเด่นชัดในหัว..หากแต่ร่างกายก็ยังคงกอดอีกฝ่ายไว้อยู่อย่างนั้น..ห้ามใจตัวเองไม่ได้เหรออีฮยอกแจ..แค่เธอส่งเสียงเรียกชื่อเท่านั้นก็ใจอ่อนยอมให้ทุกอย่างมันเป็นไปแล้วอย่างนั้นหรือ..?
.
.
จะดีหรือชั่ว..วัดกันยังไง?
ร่างหนาก้าวลงมาจากรถก่อนจะเดินไปคว้าถุงพลาสติกนับสิบที่ไปหาซื้อมาง้อเพื่อนสนิทที่เบาะหลัง ข้างในเป็นของโปรดฮยอกแจทั้งนั้น หมอนั่นแค่ใช้ของกินง้อหน่อยเดียวก็หายแล้ว เพราะอย่างนี้เมื่อคืนถึงได้ปล่อยให้กลับไปก่อนยังไงล่ะ..
ริมฝีปากหนาผิวปากอย่างมีความสุขก่อนจะหันกลับไปกดรีโมทปิดรถแล้วเดินขึ้นบันไดไปยังหอพักที่มาเยือนเป็นประจำ..
พวงกุญแจที่มีเชือกเส้นสีแดงผูกอยู่ถูกหยิบขึ้นมามองก่อนจะอมยิ้ม.. เชือกเส้นนี้เป็นเชือกของฮยอกแจที่ได้มาในวันรับน้อง..และกุญแจดอกนี้ฮยอกแจก็เป็นคนให้เขาไว้ เวลาขี้เกียจเข้าเรียนทงเฮก็จะมางีบที่นี่อยู่บ่อยๆ
มือหนาเคาะประตูเบาๆ สองครั้งพอให้อีกฝ่ายรู้ว่ามาถึงแล้วก่อนจะไขกุญแจเข้าไปเหมือนกับทุกครั้ง.. ร่างหนาเดินเข้าไปในห้องที่เงียบสงบก่อนจะหันไปเห็นใครอีกคนนั่งอยู่บนเตียง..
ร่างบางที่อยู่ในสภาพผมยุ่งเหยิงเล็กน้อยพร้อมกับเสื้อผ้าที่ดูแล้วผิดปกติ.. ดวงหน้าหวานหันมามองคนรักก่อนจะหลุบตาลงราวกับกลัวอะไรบางอย่าง..คำถามแรกที่ขึ้นมาในหัวคือ..
ยูอีมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
“ยูอี”
“...........”
“มาอยู่ที่นี่...?”
เสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างผอมบางของเพื่อนสนิท..
ที่ไม่ใส่เสื้อ..
ฮยอกแจกลืนน้ำลายอย่างลำบาก..ไม่กล้าสบตาคนที่ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น.. เรียวขาเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าร่างบางที่ยังคงนั่งนิ่งก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นกระดุมเสื้อเม็ดที่สอง..
“.........”
“.........”
“ติดกระดุมผิดเม็ดน่ะ..” มือหนาเอื้อมไปติดกระดุมให้คนรักใหม่พร้อมกับกัดฟันกรอดจนคนได้ยินรู้สึกกลัวจนพูดไม่ออก..
“กลับ”
ข้อมือเล็กถูกกระชากให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปหยุดที่หน้าประตู..ไม่มองแม้แต่ใบหน้าของเพื่อนสนิทที่ตั้งใจจะมาง้อ..
“ส่วนมึง...รอกูอยู่ที่นี่..อย่าเสือกหนีไปไหนล่ะ”
- มอย -
เง้อ พาร์ทนี้ชายหญิงเยอะ หวังว่าสาว Y ทั้งหลายคงไม่เบื่อกันหรอกใช่ไหมคะ
เนื้อเรื่องตอน 3 จะเข้มข้นมากกกกกกก
จะเป็นยังไงต่อไป เมื่อทงเฮถูกฮยอกแจหักหลัง?
เห็นหลายๆ คนเดาว่าเรื่องนี้ทงเฮต้องแอบตัดหน้าเพราะชอบฮยอก
(แต่เปล่าเลย 55555)
เรื่องนี้เน้นความเป็นจริงนะคะ คือเป็นฟิควายนั่นแหละ แต่มันยังอยู่ในความเป็นจริงตรงที่ ทงเฮมันก็เหมือนกับผู้ชายทั่วไป ฟันผู้หญิง ติดเพื่อน แทงบอล อะไรทำนองนี้
*ตื่นเต้นกับตอนหน้า* เวรกรรม เขียนเองตื่นเต้นเองอีกกรู -.-
ความคิดเห็น