ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HAEEUN | "Illusion Secret" หลอกหลอนรัก

    ลำดับตอนที่ #14 : - Special 1 :: Back to beginning

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.ย. 56


     

     

    Special [1]

    Back to beginning

     

     

     

     

    นายจำได้ไหม?

    ว่าจุดเริ่มต้นระหว่างเราสองคน...มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

     

     

     

    ในห้องโสตกว้างที่มีนักศึกษาทั้งชายและหญิงนั่งจับกลุ่มกันเป็นจุด ๆ  มันคงไม่น่าแปลกอะไรที่พวกเขาจะคุยกันถูกคอทั้งที่เพิ่งเข้าปีหนึ่งกันมาหยก ๆ สิ่งที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกลุ่มนี้ได้ดีก็คือกิจกรรมช่วงรับน้อง แต่กลับมีคน ๆ หนึ่งที่เลือกนั่งอยู่กลางห้องตามลำพัง เขาไม่ได้ดูเหงาหรือต้องการเข้ากลุ่มกับใคร เขาก็แค่อยากนั่งตรงนี้เพราะมันมองเห็นจอมอนิเตอร์ได้ในระดับพอดีก็เท่านั้น

     

    ทงเฮ! ทางนี้!”

     

    สองสาวหน้าตาน่ารักลุกขึ้นโบกมือเรียกชายหนุ่มที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องนั้นเรียกความสนใจจากคนที่นั่งอยู่เงียบ ๆ ได้เป็นอย่างดี ใช่ว่าเขาจะสนใจรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อของผู้ชายที่เพิ่งมาใหม่คนนั้นหรอกนะ แต่เป็นเพราะสองสาวที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาตะโกนซะเสียงดังต่างหากมันเลยทำให้เขาต้องหันไปมองอย่างปฏิเสธไม่ได้

    ทำไมวันนี้มาเช้าจังเลยล่ะ

    ยูอีโทรปลุกน่ะสิ ว่าแต่ยัยนั่นยังไม่มาเหรอเจ้าของชื่อทงเฮ หันไปมองหาคนที่พูดถึง สองสาวส่ายหน้าพรืดพร้อมกันก่อนที่ผู้หญิงตัวเล็กผมยาวเป็นลอนจะลุกขึ้นเว้นที่ว่างตรงกลางไว้เพื่อให้เขานั่ง

    ยัยนั่นดีแต่โทรปลุกคนอื่นแต่ตัวเองก็สายตลอดแหละ

    ฮ่า ๆ ผู้หญิงนี่แปลกจริง ๆ เขาหัวเราะก่อนจะหันกลับไปมองข้างหลังแล้วก็พบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังมองหน้าเขาด้วยแววตาเหม่อ ๆ พอรู้ตัวว่าเผลอสบตากับทงเฮเขาก็รีบงุดหน้าลงแล้วเปิดหนังสือไม่หยุด ร่างหนาเลิกคิ้วมองงง ๆ ก่อนที่หญิงสาวคนข้าง ๆ จะดึงให้เขาหันหน้ากลับมา

    อย่าไปยุ่งกับเขาเลย

    อ้าว ทำไม

    เล่าสิฮยอนอา เธอเป็นคนที่เจอเรื่องนั้นมากับตัวนี่ ทงเฮหันไปมองสองสาวสลับกัน เขาดูสนใจกับบทสนทนาในครั้งนี้มากกว่าครั้งไหน ๆ ถ้าเป็นเรื่องปกติมีหรืออีทงเฮจะนั่งฟังผู้หญิงคุยกัน คิมฮยอนอาถอนหายใจน้อย ๆ แล้วหันไปมองคนข้างหลังตาขวาง

    หมอนั่นชื่ออีฮยอกแจ ฉันเคยสนิทกับเขาช่วงนึงตอนรับน้อง

    อ๋อ...ฮยอกแจ เขาทวนชื่อพร้อมกับยิ้มพอใจ

    แรก ๆ ก็โอเคหรอกนะ ก็คุยกันตามประสาคนที่นั่งใกล้ ๆ กัน เรียนเซกเดียวกันไรงี้ พอเรียนเสร็จก็ไปกินข้าวด้วยกัน จะเรียกว่าสนิทไหมก็คงแค่เกือบ ๆ แหละ...พวกเธอจำได้ไหมช่วงเพิ่งเปิดเทอมที่เจอเซอร์ไพร์สรายงานคู่วิชาจิตวิทยาอ่ะ ฉันเลยจับคู่กับเขาเพราะตอนนั้นแลจะสนิทกันที่สุด พอดีวันนั้นเลิกเรียนเร็วฉันเลยขอไปทำรายงานที่บ้านหมอนั่นเพราะเห็นว่าบ้านอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่

    อ้าว ให้ท่านี่ ทงเฮชี้หน้าแต่ก็ถูกร่างเล็กปัดมือออกแรง ๆ

    ไม่ใช่สักหน่อย!”

    ระดับคิมฮยอนอาต้องผู้ชายรวย ๆ เท่านั้นนะจ๊ะหล่อนถึงจะให้ท่า โบราเสริม

    ทั้งสามคนคุยกันอย่างออกรส แต่ในสายตาของฮยอกแจภาพตรงหน้ามันก็คงไม่ต่างอะไรกับการสุมหัวนินทาเขา อีทงเฮก็คงจะเป็นอีกคนที่มองเขาด้วยแววตาแปลก ๆ หลังจากคุยเรื่องของเขากับผู้หญิงกลุ่มนี้

    เล่าต่อสิ ฉันฟังอยู่

    เออ แต่ทำรายงานไปได้ไม่ถึงไหนฉันก็ต้องรีบหอบของกลับบ้าน

    เธอปวดอึสินะ...โอ๊ย!” ทงเฮผงะเล็กน้อยเมื่อถูกมือเล็กฟาดเข้าให้ ฮยอนอามองคนตรงหน้าตาขวางแล้วชี้หน้าคาดโทษ

    จะฟังต่อไหมไอ้บ้า

    ฟังสิ แต่มันตลกอ่ะ ขอขำก่อนไม่ได้เหรอ? ร่างหนากลั้นขำจนตัวสั่น

    ไม่เล่าแล้วดีไหม หมดอารมณ์ ฮยอนอาย่นจมูก เธอรู้สึกหงุดหงิดจริง ๆ เวลาถูกขัดจังหวะตอนกำลังเล่าอย่างออกรสเนี่ย

    เล่าเถอะ คำพูดแต่ละคำมันยืนต่อแถวรอออกจากปากเธอรอมร่อแล้ว

    เอ๊ะ?

    อ๊ะ? ทงเฮย้อนตามแถมยังทำสีหน้าทะเล้นอีก โบราต้องคอยเป็นคนห้ามให้ทั้งคู่สงบศึกก่อนที่เรื่องจะออกทะเลไปมากกว่านี้

    เล่าต่อเถอะน่า

    ก็ที่ต้องกลับก็เพราะทนคนที่บ้านของเขาไม่ไหวไงล่ะยะ

    ทำไมล่ะ พ่อแม่เขาโหดเหรอ?

    เปล่า แต่พ่อของหมอนั่นน่ะ...เป็นโรคจิต ฮยอนอาป้องปากกระซิบหากแต่ประโยคนี้กลับทำให้คนที่นั่งอยู่ข้างหลังได้ยินชัดเจน ทงเฮขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางหันไปมองคนข้าง ๆ

    โรคจิต?

    ใช่ พ่อของหมอนั่นแอบจับก้นตอนที่ฉันไปเข้าห้องน้ำด้วย

    อี๋ ขนลุก โบราลูบแขนป้อย ๆ

    ตอนแรกฉันก็คิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุ แต่ตอนฉันจะกลับเขาก็มาจับ ๆ ตัวฉันอีกแล้วพูดว่าให้ลุงไปส่งไหม กลับคนเดียวอันตรายนะคือฉันอยากจะบอกว่าอยู่กับแกอันตรายกว่าอีกย่ะ!” พูดจบเสียงหัวเราะจากหญิงสาวอีกคนก็ดังขึ้น

    เขาอาจจะเป็นห่วงเธอก็ได้ คิดมากนะเราอ่ะ เข้าข้างตัวเองไปหรือเปล่า... ทงเฮมองอีกคนหวาด ๆ แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อโดนฟาด

    ถ้าไม่เชื่อก็ไปถามยัยนานะที่อยู่ข้างหน้าดูได้เลย ยัยนั่นก็โดนมาเหมือนกัน โดนตั้งแต่สมัยเรียนม.ปลายแล้วด้วย

    ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่ มันสมควรแล้วหรือไงที่พวกเธอจะเมินเขาเพราะเรื่องครอบครัวน่ะทงเฮถามด้วยความไม่เข้าใจ

    แต่มีคนบอกว่าอีฮยอกแจเขาไม่ค่อยปกติจริง ๆ นะทงเฮ โบราพูด

    ถ้าอยู่ด้วยกันสักอาทิตย์นายจะรู้

    ไม่ปกติยังไง

    คนปกติเขาไม่ทำตัวโลกแคบแบบนั้นหรอก พฤติกรรมบางอย่างของเขาน่าขนลุกจะตาย แต่นายอยู่สายรหัสเดียวกับเขานี่ เดี๋ยวสักวันก็คงรู้

    แค่สายรหัสเดียวกันเอง อย่างมากก็แค่ไปเลี้ยงสายด้วยกันแค่นั้นแหละ นายอย่าไปตีซี้อะไรเขานักล่ะ ตอนที่ฉันพยายามตีตัวออกห่างนะ เขาตามฉันแจเลยล่ะ ฮยอนอาพูดด้วยท่าทีรำคาญ

    เขาอาจจะชอบเธอก็ได้นะฮยอนอา?โบราทำตาปริบ ๆ

    ไม่จริงอ่ะ ฉันว่าไม่น่าจะใช่ ฮยอนอาขมวดคิ้วมอง จากที่รู้จักกันมาอีฮยอกแจไม่เคยมีท่าทีว่าจะชอบเธอเลยด้วยซ้ำ

    ฮยอกแจอยู่สายรหัสเดียวกับฉันจริงเหรอ? ทงเฮทำตาโต สองสาวมองหน้ากันก่อนจะหันกลับมามองทงเฮที่เอี้ยวหน้าหันกลับไปหาฮยอกแจอีกครั้ง

    หวัดดี!”

    ...

    ไร้เสียงตอบรับแม้ว่าคนตรงหน้าจะหยิบยื่นมิตรภาพมาให้ ร่างหนาดูช็อคนิด ๆ ที่อีกคนไม่สนใจ แต่เขาก็ยังค้างอยู่ในท่านั้น

    ฉันชื่อทงเฮนะ อี-ทง-เฮ

    ...

    นายชื่ออะไรอ่ะ?เขาถามแม้จะรู้อยู่เต็มอกว่าคนตรงหน้าชื่ออะไร ฮยอกแจมองอีกฝ่ายด้วยความสงสัยแต่ยังคงเก็บอาการไว้ได้ดี สีหน้าเรียบเฉยที่ดูเหมือนจะเป็นคำตอบว่าเขาไม่ต้องการเจรจากับคนตรงหน้านั่นอีทงเฮรู้สึกได้ แต่เขากลับไม่หยุดอยู่แค่นั้น

    หน้าตาแบบนี้ต้องชื่อฮยอกแจแน่ ๆ เลย น้ำเสียงทะเล้นที่มาพร้อมกับรอยยิ้มนั่นทำให้สองสาวขมวดคิ้วอ้าปากหวอ

    อีทงเฮ!” ฮยอนอาเขย่าแขนคนข้าง ๆ ที่เริ่มล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว ที่เธอเล่าให้ฟังเพราะอยากเตือน ไม่ใช่ให้เขาเข้าไปทำความรู้จักกับอีฮยอกแจสักหน่อย!

    นี่ฮยอกแจ เราอยู่สายรหัสเดียวกันด้วยนะ บังเอิญจริง ๆ นะว่าป่ะ? ทงเฮยังคงยิ้มกว้างแม้ว่าคนตรงหน้าจะไม่มีปฏิกิริยาตอบรับ เอ...หรือจะเรียกว่าพรหมลิขิตดีนะ

    ...

    ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ อารมณ์ไม่ดีเหรอ?

    ...

    สนีกเกอร์ไหม? คนทะเล้นถามพร้อมกับชูขนมช็อคโกแลตขึ้นบังตาข้างซ้ายตัวเองเอาไว้ ฮยอกแจเลิกคิ้วมองน้อย ๆ เพราะอึ้งกับความบ้าบอของอีกฝ่าย พอไม่เห็นร่างบางตอบรับเจ้าตัวก็ถือวิสาสะยัดขนมใส่มือเรียวเสียดื้อ ๆ ฮยอกแจขมวดคิ้วมุ่น เขาพยายามจะชักมือกลับแต่ทงเฮดันจับมือเขาไว้ซะแน่น

     

     

     

    ฉันชื่ออีทงเฮ จำไว้ให้ขึ้นใจนะ

     

     

     

    .

    .

     

     

    ฉันล่ะเชื่อเขาเลย เธอต้องเห็นสีหน้าทงเฮตอนที่คุยกับอีฮยอกแจนะ ปากนี่แทบจะฉีกถึงใบหู ฮยอนอาพูดพร้อมกับทำท่าประกอบให้สาวร่างระหงที่เพิ่งเข้าเรียนช่วงสิบห้านาทีสุดท้ายฟังขณะที่พวกเธอกำลังเดินออกมาจากตึกบริหาร

    ทำไมเหรอ?

    ไม่รู้อ่ะ ไม่ชอบ ฮยอนอาย้ำ เธอหันไปมองคนอารมณ์ดีที่กำลังผิวปากเดินตามพวกเธอต้อย ๆ ราวกับตามมาคุมแฟน แต่มันใช่อย่างนั้นซะที่ไหน

    อย่าบอกนะว่านายชอบหมอนั่น? ยูอีเบิกตากว้างแล้วหันไปถามคนที่เดินตามหลังอยู่ ทงเฮหยุดชะงักแล้วชี้หน้าตัวเองก่อนจะถอดหูฟังออกข้างหนึ่ง

    เมื่อกี้พูดกับฉันป่ะ?

    ใช่ ฉันถามว่านายชอบอีฮยอกแจเหรอ?

    พอได้ยินคำถามร่างหนาก็อมยิ้มน้อย ๆ ท่าทางแบบนี้คงเป็นคำตอบให้เธอทั้งสามเข้าใจได้ง่าย ๆ แต่คงมีแค่คิมฮยอนอาที่ดูจะรับไม่ได้มากที่สุดเพราะเธอรู้สึกไม่โอเคเวลาเพื่อนของเธอไปยุ่งเกี่ยวกับคนที่เธอไม่ถูกชะตาด้วย

    ให้ฉันเดานะ ยูอีพูดด้วยน้ำเสียงไม่ยี่ระ เธอเอี้ยวตัวหันกลับแล้วเดินตรงไปข้างหน้าฉันว่าทงเฮก็แค่ตื่นเต้นกับของแปลกใหม่

    ว๊าย เจ้าหญิงรู้ดีนะคะ โบราเสริม

    อีกไม่กี่วันเดี๋ยวก็เลิกเห่อไปเองแหละ พวกเธอก็รู้ว่าอีฮยอกแจเป็นคนยังไง พอเจอทีเด็ดเดี๋ยวก็วิ่งแจ้นกลับมาหาพวกเราแทบไม่ทัน

    แหม ว่าได้เหรอจ๊ะ ก็คนของเราเขาอยากตีสนิทกับคนไม่ปกตินี่ ฮยอนอาพูดลอย ๆ หากแต่ทงเฮกลับไม่สะทกสะท้าน เขาเข้าใจว่าเธอทั้งสามคนไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่ที่พูดแบบนั้นมันคงเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง (ล่ะมั้ง)

    พอเดินเข้าไปในแคนทีนทั้งสี่คนก็เดินหาที่นั่งทานมื้อกลางวันในช่วงสิบเอ็ดโมงเช้า แต่แทนที่จะมองหาที่นั่งว่างแต่เขากลับมองเห็นใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ตรงทางเดินออกประตูอีกด้านเสียก่อน ใครคนนั้นที่เขาให้ความสนใจไปตั้งแต่แรกเห็นกำลังยืนถือกล่องรับบริจาคอยู่กับผู้ชายหน้าหวานอีกคน แต่ที่ทำให้เขาหัวเราะก็คือสีหน้าฝืนยิ้มของฮยอกแจขณะโค้งหัวขอบคุณคนที่หย่อนเงินบริจาคใส่กล่องต่างหาก...

    ช่วยบริจาคให้เด็กยากไร้ที่คังวอนโดด้วยนะครับ ร้อยวอน พันวอน แล้วแต่สะดวกเลยครับ~” หนุ่มหน้าหวานที่ยืนข้าง ๆ ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ มันน่าแปลกนะ...ที่อีฮยอกแจมายืนอยู่ตรงนั้นทั้งที่เป็นคนไม่ค่อยเข้าสังคม

     ทงเฮ ทางนี้!” โบราโบกมือเรียกสติคนที่ยืนเหม่ออยู่ข้างหลัง ทงเฮหันไปพยักหน้าสองสามครั้งแล้วเดินตามไป แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังไม่อยากละสายตาจากร่างบางไปไหน...

     

     

    ถ้าฉันหันไปมองตรงนั้นอีกครั้งแล้วนายยังอยู่

    ฉันจะถือว่ามันคือพรหมลิขิต...

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    กินเสร็จแล้วไปไหนต่อ?

    ไปดูหนังกับแฟนจ๊ะ ยูอียิ้มก่อนจะหยิบแป้งพับขึ้นมาตบหลังจากที่ดมสลัดเรียบร้อยแล้ว

    โหย อิจฉาคนมีความรัก

    ก็ช่วงบ่ายไม่มีเรียนนี่ แล้วนายล่ะทงเฮ?

    คงกลับไปนอนหออีกตามเคยล่ะมั้ง หมอนี่น่ะ...นอกจากนอนแล้วก็ไม่เก่งอะไรอีกเลย ฮยอนอาเหล่มองคนข้าง ๆ ทงเฮยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ เพราะเขาเป็นอย่างนั้นจริง ๆ

    แหม ชีวิตหนุ่มโสดมันช่างเหงาหงอยจริง ๆ เนอะ ยูอีแตะปลายนิ้วชี้ลงบนแก้มทงเฮ เจ้าตัวยิ้มทะเล้นแล้วหันไปจ้องหน้าคนสวยข้าง ๆ

     

     

    เดี๋ยวจะไม่โสดแล้ว รอดูได้เลย

     

     

     

     

    ...

    ...

    ...

    พูดจบเจ้าตัวก็หยัดตัวลุกขึ้นสะพายเป้เดินไปหยุดที่ร้านขายน้ำก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับน้ำหลากหลายสีในถาดรอง สามสาวเบะปากออกมาพร้อมกันอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อพบว่าเพื่อนของเขากำลังเดินตรงไปที่สองหนุ่มหน้าหวานที่ยืนอยู่ตรงนั้น

     

     

    เหนื่อยไหม ฉันซื้อน้ำมาให้

    ทงเฮยิ้มให้อย่างเป็นมิตรหากแต่คนตรงหน้ากลับยืนนิ่งเพราะพูดไม่ออก จริง ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไรในสถานการณ์แบบนี้ดี ก็หมอนี่ทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่เช้าแล้ว...

    นี่เพื่อนนายเหรอฮยอกแจ? หนุ่มหน้าหวานคนข้าง ๆ หันมากระซิบ แต่พอเห็นร่างบางส่ายหน้าทงเฮก็ยิ้มเก้อไปชั่วขณะหากแต่ริมฝีปากหยักก็ยังไม่ผ่อนรอยยิ้มออกไป

    ฉันชื่อทงเฮ ตอนนี้ยังไม่ใช่เพื่อนแต่เรียนอยู่คณะเดียวกับฮยอกแจ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ทงเฮหันไปกล่าวทักทาย หนุ่มหน้าหวานหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินประโยคแนะนำตัวที่แปลกประหลาดนั่น

    อีซองมิน มนุษย์ศาสตร์ปีหนึ่ง เป็นเพื่อนรักเพื่อนหวงที่สุดของฮยอกแจแต่ดันแอดติดคนละคณะ...ว่าแต่นายสนใจบริจาคให้น้อง ๆ ไหม? ว่าแล้วก็ใช้โอกาสทำตาแป๋วเรียกความเห็นใจ ซองมินทำตาปริบ ๆ แล้วชี้กล่องที่ฮยอกแจถือไว้

    ก็อยากจะบริจาคอยู่หรอกนะ แต่ว่า... ทงเฮหลุบตาลงมองแก้วน้ำที่อยู่ในถาดรองราวกับกดดันร่างบาง

    มีน้ำส้ม โคล่า นมสด นมชมพู ชาเย็น แล้วก็น้ำเปล่า...คือฉันไม่รู้ว่านายชอบดื่มอะไรก็เลยซื้อมาหมดเลย แต่ถ้าอยากดื่มกาแฟหรือโกโก้ฉันเดินไปซื้อให้ได้นะ ร้านตรงหัวมุมเข้มข้นมาก แต่ดื่มแล้วดีดถึงเที่ยงพรุ่งนี้เลยล่ะ... ประโยคหลังเจ้าตัวหรี่เสียงลงเล่าสรรพคุณให้ฟังจนซองมินแอบยิ้ม ยิ่งเห็นท่าทีฮยอกแจที่ไม่เล่นด้วยแบบนี้แล้วยิ่งดูออก...

     

     

    ว่าผู้ชายที่ชื่ออีทงเฮกำลังสนใจเพื่อนเขาอยู่สินะ~

     

     

    แต่ขอเดาเลยว่าอย่างนายต้องชอบนมชมพูแน่ ๆ ทงเฮขมวดคิ้วมองร่างบาง ฮยอกแจส่ายหน้าเป็นคำตอบนั่นทำให้เขาเหวอเล็กน้อย

    ไม่ใช่เหรอ? โอเค...เมื่อกี้แซมเปิ้ลนะ คราวนี้...

    น้ำเปล่าก็ได้ ซองมินพูดตัดบทขึ้นมาเมื่อเห็นเพื่อนสนิททำท่ากระอักกระอ่วนเต็มที ทงเฮเงิบอีกครั้งแต่ก็ยังยิ้มได้อยู่ ร่างบางยื่นกล่องให้ซองมินถือแล้วหยิบน้ำเปล่ามาขวดนึง บิดฝาเปิดออกปักหลอดแล้วยื่นให้ซองมินดื่มก่อน

     

     

    น่ารักอีกแล้ว...

     

     

    ขอบใจนะ ซองมินยิ้มจนตาปิด ฮยอกแจพยักหน้าน้อย ๆ แล้วหันมาชะงักเมื่อพบว่าทงเฮกำลังยืนยิ้มตาลอยอยู่

    ...

    จ๋า? อ้อใช่...นี่เดินมาเพื่อกะบริจาคเลยนะเนี่ย ทงเฮพูดก่อนจะวางถาดลงบนโต๊ะที่อยู่ใกล้ ๆ แล้วควักกระเป๋าเงินออกมากรีดแบงค์โชว์ ซองมินทำตาโตเมื่อเห็นทงเฮควักแบงค์หมื่นวอนออกมาเป็นตับ ๆ

    ทงเฮจะทำทั้งหมดเลยเหรอ?!”

    เปล่า จะบอกว่าทั้งหมดนี่มันคือเงินที่ต้องใช้ทั้งเดือนน่ะ... พูดจบก็ควักเงินหมื่นวอนขึ้นมาภาวนาเหนือหัว พึมพำงึมงำขอพรอยู่พักนึงนั่นทำให้คนหน้านิ่งแอบลอบยิ้มขำน้อย ๆ

     

     

    แต่ไม่มีทางหรอกที่เขาจะให้ทงเฮรู้ตัว...

     

     

    บริจาคให้น้องวันนี้แลกกับรอยยิ้มพี่ฮยอกแจในวันหน้านะครับ ร่างหนาพูดกับกล่องที่ซองมินถืออยู่ก่อนจะเหล่มองคนข้าง ๆ ที่ยืนถือขวดน้ำเปล่าเอาไว้

     

     

    ไม่ว่าจะยังไง...ฉันก็อยากอยู่ใกล้ ๆ นายอยู่ดี

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    หลายคนวิ่งตามหาความรัก

    แต่ผม...กลับวิ่งหนีมัน

     

     

    หลังจากวันนั้นเขาก็ไม่ได้เจอฮยอกแจอีกเลย อาจเป็นเพราะวิชาเรียนที่ลงไม่ตรงกัน เขาถึงได้เอาแต่นั่งหงิดเพราะคิดถึงฮยอกแจฝ่ายเดียวแบบนี้

     

    ซ่า...

    ฝนตกอีกแล้ว นี่ดีนะที่ฉันเอาร่มมาด้วย ฮยอนอาชูร่มสีชมพูหวานแหววที่เพิ่งซื้อใหม่ขึ้นมาโชว์

    เซ็งจริง ๆ ทีวันที่ฉันพกล่ะไม่ตก ยูอีหายใจฟึดฟัดเมื่อเห็นสายฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

    ก็ไม่ยอมพกใส่กระเป๋ามาเองนี่ ทนหนักหน่อยก็ไม่ได้ โบราหันไปบ่น

    หนักกว่านี้คงไม่ได้แล้วมั้ง ในกระเป๋ายัยนี่มีแต่เครื่องสำอางอยู่เต็มไปหมด ทงเฮพูดพลางชี้ไปยังกระเป๋าหลุยส์ของหญิงสาวร่างระหง ยูอีหรี่ตามองผู้ชายเพียงคนเดียวในกลุ่มแล้วก็อย่างจะเพ่นกระบาลเข้าให้ ถ้าไม่ติดว่าหล่อนะจะฟาดให้หลังหักเลย

    อยู่ดี ๆ แล้วเคยหงายหลังไหมทงเฮ

    โหดจัง

    ไอ้บ้านี่ -_-”

    แล้วนายจะไปไหนต่อ

    เดี๋ยวไปเลี้ยงสายรหัสน่ะ พี่รหัสนัดที่ร้านนมหน้า ม. ตอนห้าโมง

    นี่เพิ่งสี่โมงเอง ยังไงก็กางร่มไปส่งฉันที่คณะนิเทศหน่อยสิ แฟนฉันยังไม่เลิกเรียนเลย

    เอาสิ ทงเฮตอบรับอย่างว่าง่าย ถ้าถามว่าทำไมอีทงเฮถึงไม่ไปเข้ากลุ่มกับพวกผู้ชาย คำตอบคือเขาก็แค่ชอบอยู่กับผู้หญิงสวย ๆ ก็เท่านั้น มีความสุขดี

    ทั้งสี่คนกางร่มออกเตรียมเดินฝ่าสายฝนไปยังจุดหมาย ร่างหนาหยุดฝีเท้าเมื่อเห็นใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้ ใครคนนั้นที่กำลังเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คน ๆ นั้น...ที่อยู่ในหัวเขามาตลอดหลายวัน

    อะไรอีกล่ะ? ฮยอนอาเหล่มองคนข้าง ๆ ที่จ้องมองอีฮยอกแจราวกับต้องมนต์สะกด ตั้งแต่วันนั้นแล้วนะที่ทงเฮทำตัวแปลก ๆ หลังจากเสนอหน้าไปทำความรู้จักกับหมอนั่น

    ฮยอกแจไม่มีร่ม

    ก็เรื่องของเขาสิยูอีกอดอกพูด

    เธอก็ไม่มีร่ม ทงเฮหันไปพูดกับยูอี

    แล้วไง

    งั้นก็เรื่องของเธอสิ

    อีทงเฮ -_-”

    ทงเฮยิ้มขำก่อนจะยัดร่มใส่มือยูอี นัยน์ตาคมหันไปมองร่างบางอีกครั้ง เขาไม่คิดจะละสายตาไปไหนจนกระทั่งฮยอกแจตัดสินใจวิ่งผ่าสายฝนไป พอเห็นอย่างนั้นสามสาวถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นว่าเพื่อนผู้ชายคนเดียวในกลุ่มของเธอรีบถอดเสื้อนอกออกแล้ววิ่งตามไปประกบข้าง ๆ ฮยอกแจก่อนจะกางเสื้อบังฝนให้...ใบหน้าคมที่อยู่ไม่ห่างทำให้ร่างบางตกใจ ฮยอกแจหยุดยืนอยู่กับที่ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา

    เฮ้ ทำไมหยุดวิ่งล่ะ นี่ฝนตกอยู่นะ ทงเฮถามคนที่ยืนห่อไหล่มองเขาด้วยความตกใจอยู่ข้าง ๆ

    นี่นายทำอะไร ไม่เห็นเหรอว่าฝนตกอยู่? เป็นประโยคแรกที่หลุดออกมาจากปากฮยอกแจ ทงเฮอ้าปากเหวอเล็กน้อยราวกับไม่เชื่อหูตัวเอง

    พูดได้ด้วยอ่ะ...

    ...

    ฮึ... คนทะเล้นยิ้มออกมาเมื่อเห็นสีหน้ามึน ๆ ของร่างบาง

    ทงเฮถือวิสาสะดันฮยอกแจให้เดินไปข้างหน้าก่อนที่ทั้งคู่จะเปลี่ยนเป็นเร่งฝีเท้าจนกระทั่งวิ่งข้ามถนนมาอีกฝั่ง ฮยอกแจถอยออกมาทางด้านข้างโดยไม่หันหน้าไปมองใครอีกคนเลยสักนิด ทงเฮเหล่มองคนข้าง ๆ ก่อนจะเอาเสื้อคลุมตัวนอกที่เปียกชุ่มมาคลุมไหล่ตัวเองเอาไว้แก้เก้อ

    มาเลี้ยงสายรหัสเหมือนกันเหรอ?

    ...

    ฮยอกแจ

    เลิกยุ่งกับฉันได้แล้ว ร่างบางพูดก่อนจะก้มหน้าเดินสวนออกมาแต่ทงเฮคว้าไว้ได้ทัน

    ทำไมไม่ให้ยุ่ง ไหนบอกเหตุผลมาซิ ผมที่เคยเซ็ทไว้มาอย่างดีตอนนี้เปียกลู่ตกลงมาเข้ากับรูปหน้าหล่อเพราะน้ำฝน ฮยอกแจยังคงหลบตาอยู่อย่างนั้นจนกระทั่งทงเฮเอาเสื้อมาคลุมไหล่ให้

    ถ้าเหตุผลไม่น่าฟัง ฉันก็ไม่เลิกยุ่งกับนายหรอก คนตรงหน้ายิ้มทะเล้น ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ

    คนพวกนั้นบอกให้นายมาทำอะไรงั้นเหรอ?

    หืม? ทำ? ทำอะไร? ทงเฮเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัยเมื่อได้ยินร่างบางถามแบบนั้น

    เขาบอกให้นายมาพิสูจน์ความไม่ปกติของฉันใช่ไหม?

    ...

    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ก็ไม่ต้องพิสูจน์อะไรหรอก ฮยอกแจพูดเบา ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่ายเพราะฉันมันเป็นคนไม่ปกติที่ไม่มีใครอยากเป็นเพื่อนด้วยจริง ๆ

    ...

    พูดจบก็เอาเสื้อคลุมออกจากไหล่แล้วยัดใส่มือคนตรงหน้าก่อนจะเดินเข้าไปในร้านนมที่มีรุ่นพี่และเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่งรออยู่แล้ว ทงเฮยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เขาเอาแต่ถามตัวเองว่าทำไม?

     

     

    ทำไมฮยอกแจถึงปิดกั้นตัวเองถึงขนาดนี้?

     

     

    .

    .

     

     

    คนเราก็แบบนี้

    ทำได้ทุกอย่างเพื่อสิ่งที่ต้องการ

     

     

    อ้าวทงเฮ ทำไมรีบมาจังวะ พี่รหัสแกยังไม่โผล่หัวมาเลย

    อ๋อ ผมมากับฮยอกแจอ่ะพี่ ทงเฮว่าก่อนจะถือวิสาสะนั่งลงที่ว่างข้าง ๆ เจ้าของชื่อ เขารู้ว่าฮยอกแจไม่ได้สนใจการมาของเขา แต่เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะเอาเสื้อคลุมไหล่ให้อีกครั้ง

    ...

    ถ้าไม่ยอมใส่ ฉันจะตามตื้อไปถึงบ้านเลยลองดูสิ ทงเฮกระซิบเบา ๆ ท่าทางฮยอกแจจะรำคาญเขาน่าดู

     

    เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง เขาเห็นคนข้าง ๆ นั่งเอามือซุกตรงระหว่างขาเพราะความหนาวเย็นของแอร์ในร้านมาสักพักใหญ่ ๆ แล้ว ดวงหน้าหวานที่ซีดเผือดนั่นทำให้เขาตัดสินใจลุกขึ้นยืน

    พี่ฮีชอล ยืมร่มหน่อยนะ

    ไปซื้อบุหรี่เหรอ ฝากด้วยดิ

    เออ ตังค์มา ทงเฮแบมือมาตรงหน้าก่อนที่รุ่นพี่จะวางเงินให้ เขาเดินไปหยิบร่มที่แขวนตากไว้ตรงข้าง ๆ ประตูร้านแล้วเดินออกไป ฮยอกแจมองตามคนช่างตื้อไปจนลับสายตา สงสัยจังว่าหมอนั่นไปไหนกันนะ?

    ไม่นานนักทงเฮก็กลับมาพร้อมกับถุงหิ้วสีขาว เขาเดินกลับมานั่งที่เดิมแล้วส่งบุหรี่ให้ฮีชอล ฮยอกแจมองคนข้าง ๆ ที่กำลังง่วนอยู่กับของในถุงแต่พอมือหนาหยิบอะไรบางอย่างออกมาเท่านั้นแหละ...

    จัดเลยสองเม็ด รับรองไม่เจ็บไม่ป่วย ทงเฮพูดเป็นนกแก้วนกขุนทองขณะที่เขากำลังฉีกแผงซองยาแล้ววางลงบนมือร่างบาง ฮยอกแจเลิกคิ้วมองด้วยความสงสัยจนกระทั่งทงเฮยื่นแก้วน้ำให้

    กินเร็ว เดี๋ยวไม่สบาย

    ...

    เร็ว

    ทำไมไม่กินเองล่ะ นายก็ตากฝนมาเหมือนกัน ฮยอกแจพูดเสียงเรียบ ทงเฮย่นจมูกมองคนตรงหน้าที่เอาแต่ขัดใจเขาอยู่ได้

    เฮ้ยสองคนนั้นมันอะไรกันวะ งุ้งงิ้งกันอยู่สองคน เสียงรุ่นพี่คนนึงดังขึ้น เรียกความสนใจจากทุกคนในโต๊ะ ทุกสายตาหันมามองทงเฮที่ค้างอยู่ในท่ายื่นแก้วให้ฮยอกแจ

    ฮั่นแน่...กูก็สงสัยว่ามันออกไปไหน ที่แท้ออกไปซื้อยามาให้น้องอึนนี่เอง

    น้องอึน? เออว่ะ น้องคนนั้นน้องใครวะ ทำไมกูไม่คุ้นหน้าเลย

    น้องกูเองชื่ออีฮยอกแจ ที่ไม่คุ้นหน้าเพราะน้องเขาไม่เข้ารับน้องไง แล้วมึงครับ...น้องอึนห่าไร เดี๋ยวกูถีบคว่ำ รุ่นพี่หน้านิ่งคนนึงพูดขึ้นเหมือนจะปกป้องน้องรหัส แต่เอาจริง ๆ แล้วเขากับฮยอกแจแทบจะไม่ได้คุยอะไรกันไปมากกว่าคำว่าสวัสดี,เรียนหนักไหม เลยด้วยซ้ำ

    เปล่า กูเห็นน้องเขาชอบทำหน้าอึน ๆ ไงโถ่...

    มึงไม่ดูแลน้องอ่ะ ดูดิ น้องตากฝนมาเปียก ๆ คนเป็นพี่เสือกนั่งแดกลาเต้ปั่นจนหมดแก้วแล้วปล่อยคนอื่นไปซื้อยาให้

    มึงไปว่ายุนโฮแบบนั้นก็ไม่ถูกนะ พี่รหัสหรือจะสู้เพื่อนรู้ใจวะ จริงป่ะทงเฮ 5555

    อะไรพี่ ผมซื้อมากินเองหรอกโถ่... ทงเฮพูดแล้วหยิบยาจากมือฮยอกแจมาใส่ปากก่อนจะกระดกน้ำตามหน้าตาเฉยเรียกเสียงหัวเราะเฮฮาจากทุกคนในโต๊ะได้เป็นอย่างดี

    สีหน้าพะอืดพะอมหลังกินยาของร่างหนานั้นทำเอาคนข้าง ๆ ลอบยิ้มออกมาอย่างไม่ตั้งใจ พอเห็นอย่างนั้นทงเฮเลยลดสีหน้าลง เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าฮยอกแจกำลังหัวเราะเพราะเขา

    ...

    ...

    มองอะไร

    หัวเราะเป็นด้วย...

    ...

    น่ารัก

    พอถูกทักรอยยิ้มบนใบหน้าก็จางหายไปในทันทีแต่กลับเป็นใครอีกคนที่ยิ้มแป้นแทนเขา ฮยอกแจหันหน้ากลับไปในวงสนทนาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย แต่ยังไม่ทันไรก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกได้ถึงความร้อนตรงช่วงขา พอก้มลงมองก็เห็นว่าทงเฮแอบเอากระป๋องโกโก้ร้อนมาทาบขาเขาอยู่

    อุ่นไหม?

    ...

    เห็นนั่งสั่นมาตั้งนานแล้ว ถือไว้สิ

    ร่างหนาวางกระป๋องโกโก้ร้อนที่เพิ่งไปกดมาจากตู้เมื่อครู่ใส่มืออีกคน คนขี้เล่นทำท่ากอดกระป๋องโกโก้ร้อนเอาไว้แนบอกเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายเป็นเชิงบอกให้ร่างบางทำตาม ฮยอกแจมองใบหน้าคมที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั่นด้วยความไม่เข้าใจ...ทำไม...ทำไมคน ๆ นี้ถึงได้พยายามที่จะเข้าหาเขานัก

     

     

     

    ฉันกินยาแล้ว คราวนี้ถึงตานายล่ะนะ

     

     

     

     

     

     

    …To be continued...

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

    Talk

    พี่ทงเรื่องหลักกับในสเปนี่คนละเรื่องเนาะ

    555+ ไม่มีฉากหลอนหรอกค่ะ ไม่ต้องขมิบดากอ่านกันแล้ว (กอดปลอบ)

    ค่อยเป็นค่อยไปนะคะ 





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×