ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] WonKyu ft.HaeEun | He's mine "Teacher"

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 11 : สมการ

    • อัปเดตล่าสุด 22 มิ.ย. 55


      

     





     

     

    Chapter 11

    ครูเป็นสิ่งมีชีวิตที่...น่าสนใจกว่าวรรณคดีบางเรื่องอีกครับ...

     



     

     

     

    คุณได้รับข้อความจาก...

    ครูพี่ซีวอน’ <- แอบเปลี่ยนเมื่อคืนตอนก่อนนอน (ระหว่างพยายามหลับน่ะครับ)

    [ วันนี้สอนเสร็จแล้วครูว่าจะแวะไปทำธุระสักหน่อย นายอยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า? ]

     


    ผมอ่านเสร็จก็ขมวดคิ้วคิดเมนูอาหารที่อยากกิน...ของแบบนี้ไม่ต้องคิดนานครับ เมนูผุดขึ้นมาเป็นสไลด์ประหนึ่งกำลังจะรายงานหน้าห้องเลยล่ะ ผมจิ้มส่งข้อความกลับไปว่าไก่ตุ๋นโสมดีไหมครับครูแล้ววางมือถือไว้บนโต๊ะจ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่งแล้วก็ยิ้มออกมาเฉยเลยครับ ผมว่าตัวเองนี่ชักจะอาการหนักเข้าไปทุกวันๆ แล้วล่ะ (กุมขมับ)

    ผมเลคเชอร์คำศัพท์ภาษาอังกฤษลงในสมุดโน๊ตเพื่อเอาไว้อ่าน วันนี้ผมอยู่บ้านคนเดียว อย่างที่รู้ๆ กันว่าสอบหนึ่งวันก็หยุดหนึ่งวันอ่านหนังสือ ตอนนี้ได้ยินเพียงแค่เสียงดินสอที่ขีดเขียนลงบนกระดาษแต่เขียนไปเยอะสักแค่ไหนคำศัพท์ก็ย่อยลงตามกระเพาะผมไปเท่านั้น พรุ่งนี้ผมมีสอบภาษาอังกฤษช่วงเย็น โชคดีที่ครูเขามีน้ำใจให้ผมสอบย้อนหลังได้ วิชาคณิตศาสตร์ที่ต้องสอบวันพรุ่งนี้เก็บไว้ทบทวนตอนหัวค่ำแล้วกันครับ ผมไม่ค่อยซีเรียสกับวิชานี้สักเท่าไหร่แต่จะประมาทเลยก็ไม่ได้ (คนเราผิดพลาดกันอยู่บ่อยๆ เพราะชอบประมาทเลินเล่อเนี่ยแหละครับ)

    ผมกังวลกลัวว่าจะสอบตกภาษาอังกฤษเข้าให้ ถ้าเป็นอย่างนั้นครูคงผิดหวังในตัวผมมากเลยล่ะ ผมยังจำสีหน้าครูวันนั้นได้ดี ประโยคที่ทิ่มแทงทำร้ายจิตใจผมครั้งนั้นแต่ผมรู้ว่าครูคงไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร ทุกคำพูดมันเต็มไปด้วยความหวังดีทั้งนั้น

     


    ปิ๊งป่อง...

    เสียงกริ่งหน้าบ้านดังขึ้นทำให้ผมนึกประหลาดใจอยู่ไม่น้อย จะเป็นบุรุษไปรษณีย์หรือคนขายแอมเวย์ก็ไม่รู้สิครับ ผมเดินไปเปิดประตูบ้านเผยให้เห็นฮยอกแจ มินโฮ จงฮยอนและซึงยอนกำลังยืนหน้าหลากอารมณ์กันอยู่

    อ้าวทุกคน มาได้ไงครับเนี่ย

    แท็กซี่/หัวใจ/โดนลากมาด้วย/...” คำตอบประสานเสียงกันทำให้ผมทำหน้าอึน ยิ่งสีหน้าของมินโฮที่ดูเหมือนคนเพิ่งตื่นแล้วผมก็พอใจเข้าใจว่าเขาคงไม่ได้อยากมาด้วยสักเท่าไหร่ ส่วนซึงยอนนี่สิครับมากับเขาได้ยังไง เพราะปรกติเห็นผมเห็นเธอกัดกับฮยอกแจบ่อยยิ่งกว่าอะไรอีก

    รบกวนด้วยนะคะ~” ซึงยอนเดินแหวกผมเข้าไปในตัวบ้าน ส่วนผมได้แต่ยืนทำหน้าเอ๋อเพราะนี่มันใช่บ้านผมไงครับ ถ้าเกิดครูกลับมาเห็นคงไม่พอใจผมแน่เลย

    ย่าห์! ยัยขี้เหร่ ใครอนุญาตให้เธอเข้าไปข้างในกัน เห็นไหมว่าเจ้าของบ้านเค้ายืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ ที่ของเธอคือพื้นหญ้าในสวนนั่นต่างหาก ออกมาเลยนะ!” ฮยอกแจชี้หน้าซึงยอนที่ยืนแลบลิ้นอยู่ตรงประตูบ้านด้านในก่อนจะกรูเข้าไปหาเธอโดยมีมินโฮและจงฮยอนเดินตามเข้าไปด้วย

     



    แย่แล้วสิครับ...ผมหวังว่าพวกเขาคงจะกลับก่อนที่ครูจะกลับมานะ...

     





    .

    .

     

     



    นี่คยูฮยอน~ ฉันช่วยติวให้เอาไหม ภาษาอังกฤษฉันได้ A เลยนะ

    จริงเหรอครับ? ผมเลิกคิ้วมองซึงยอนที่นั่งเท้าคางมองผมอยู่ข้างๆ ในขณะที่ฮยอกแจกำลังนั่งเคี้ยวขนมที่ซื้อมาด้วยอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่วนมินโฮเขานอนอยู่บนโซฟาและจงฮยอนที่เลือกมุมอ่านหนังสือตามลำพัง

    ตอนแรกเห็นบอกจะให้คยูฮยอนช่วยติวคณิตศาสตร์ไม่ใช่เหรอไง มาทำตัวเป็นแม่พระอะไรตอนนี้ล่ะ” <- ฮยอกแจ

    “-_- แล้วนายมาทำตัวเป็นมารผจญอะไรตอนนี้ล่ะอีฮยอกแจ

    ก็นั่นมันที่รักของฉัน ฮยอกแจเลิกคิ้วมองขณะที่เคี้ยวขนมไม่ขาดปาก

    งั้นเราติวคณิตศาสตร์กันก่อนก็ได้ คยูฮยอนอา...ถ้านายอยากให้ฉันช่วยติวภาษาอังกฤษแบบตัวต่อตัวเมื่อไหร่ก็บอกฉันได้เลยนะ ตอนนี้ฉันรู้จักบ้านนายแล้วต่อไปคงไม่ลำบากที่จะมาหา

    แต่ที่นี่คือบ้านครูซีวอนว่ะฮันซึงยอน

    ฉันรู้แล้วย่ะอีฮยอกแจ -_-”

    ผมก็ไม่อยากขัดจังหวะหรอกนะครับ แต่ว่าถ้าจะมาที่นี่ให้ผมออกไปหาดีกว่าไหมคือผมเกรงใจครูน่ะ ผมพูดพลางหัวเราะแห้งๆ รู้สึกผิดทั้งสองทางเลยครับ ทั้งเรื่องที่ปฏิเสธเพื่อนๆ แบบนี้แต่ถ้าไม่พูดออกไปก็จะลำบากใจเพราะสร้างภาระให้ครู ผมจะพาเพื่อนมาเที่ยวที่บ้านตามใจชอบไม่ได้

    ครูเขาไม่ว่านายหร้อก ฮยอกแจพูดพร้อมกับโยนขนมเข้าปากอย่างไม่ยี่หระ

    ครับ?

    เชื่อฉันเถอะน่า

     

     


    .

    .

     

     


    ผมเอาจานมาล้างในครัวหลังจากเพื่อนๆ กินขนมกันเสร็จแล้ว เสียงหัวเราะเฮฮาดังขึ้นอย่างน่าประหลาดเมื่อฮันซึงยอนที่ผมคิดว่าน่าจะเข้ากับผู้ชายได้ยากกลับคุยกับมินโฮและจงฮยอนได้ออกรสขนาดนั้น นี่สินะครับนักเรียนที่กำลังจะสอบในวันพรุ่งนี้ ผมส่ายหัวน้อยๆ แล้วล้างจานต่อแต่ก็ต้องผงะถอยออกเล็กน้อยเมื่อฮยอกแจมายืนอยู่ข้างๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้

    มาก็ให้สุ้มให้เสียงกันบ้างสิครับฮยอกแจ - -

    นี่

    ครับ

    คืองี้นะ ฉันมีเรื่องสงสัยอยู่นิ๊ดหน่อย...มันค้างคาอยู่ในใจฉันมาเกือบสองวันแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ถามนายสักที

    อะไรเหรอครับ ผมถามขณะที่ยังล้างจานไปด้วย ฮยอกแจก็เป็นอย่างนี้เสมอล่ะครับ สงสัยทุกเรื่องบนโลกใบนี้ยกเว้นเรื่องตัวเอง

    คือ... ฮยอกแจเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ ก่อนจะมองซ้ายขวาสังเกตการณ์ว่ามีใครอยู่แถวนั้นหรือเปล่านายกับครูซีวอนน่ะ ฮู้จุ๊กกรู กันแล้วสินะ

    จานเซรามิกซ์ในมือผมร่วงลงไปกระแทกกับซิงค์ทันที ผมลุกลี้ลุกลนคว้าจานที่มีแต่ฟองน้ำยาล้างจานขึ้นมาดูว่ามันแตกหรือเปล่าแต่ถือว่าโชคยังเข้าข้างผมอยู่ครับ มันยังอยู่ในสภาพดี

     

     

    ไอ้ฮู้จุ๊กกรูที่ฮยอกแจว่านั่นมันคงไม่ใช่เรื่อง...

     

     

    นายเข้าใจไม่ผิดหรอก ฉันหมายถึงเรื่องนั้นนั่นแหละ ฮยอกแจว่าพลางเอามือทั้งสองข้างมาประกบกันแล้วทำป๊าบๆ ใหญ่เลย

    เปล่านะครับ เรายังไม่ถึงขั้นนั้นกันหรอก... ผมพูดเสียงเบาลงเพราะกลัวว่าเพื่อนที่อยู่ข้างนอกจะมาได้ยินเข้า ฮยอกแจนี่ยังไงกันนะครับชอบถามอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อยเลย

     

    อย่างมากก็แค่เกือบ เท่านั้นแหละครับ...

     

    จริงเหรอ? ฉันคิดว่าครูเขาน่าจะจัดการนายตั้งแต่ตอนอยู่ปูซานแล้วซะอีก โห้ย...นี่ฉันพลาดอีกแล้วสินะ

    ทำไมเหรอครับฮยอกแจ

    เปล่าๆ ถ้าเขายังไม่ได้ทำอะไรก็ดีแล้วล่ะถึงฉันจะเดาพลาดไปนิดแต่นั่นก็ทำให้ฉันรู้ว่าครูซีวอนยังมีความเป็นสุภาพบุรุษมากกว่าอีทงเฮเยอะ...อา...เขาคงทะนุถนอมนายเอามากๆ เลยสินะ

    ...อย่างนั้นเหรอครับ

    นายนี่มันน่าอิจฉาจังเลยที่รัก ฮยอกแจยิ้มกว้างพร้อมกับหยิกแก้มผมอย่างหมั่นเขี้ยว ผมมองเขาอย่างงงๆ ก่อนจะยิ้มแห้งๆ ผมได้แต่คิดตามในสิ่งที่ฮยอกแจพูดออกมา...ถ้าเป็นอย่างที่ฮยอกแจพูดก็คงดีสินะครับ...

     

     

    สวัสดีครับ/ค่ะครู เสียงของเพื่อนที่อยู่ด้านนอกเรียกความสนใจจากผมและฮยอกแจได้เป็นอย่างดี

    แย่แล้วสิครับ ครูจะดุผมหรือเปล่าเนี่ย... ผมพึมพำอยู่คนเดียวแล้วรีบล้างจาน ไม่รู้ว่าข้างนอกจะเละเทะแค่ไหน คิดสภาพดูสิครับว่าครูที่แสนเจ้าระเบียบมาเห็นสภาพแบบห้องนั่งเล่นแบบนั้นแล้วจะเป็นยังไง

    เขาไม่ดุนายหรอกน่า

    ฮยอกแจแน่ใจได้ยังไงครับ ขณะที่ผมกำลังลนลานอยู่ฮยอกแจก็เข้ามากระซิบข้างหูผมเบาๆ

     

     



    ก็เขาเป็นคนบอกอีทงเฮให้ฉันพาเจ้าพวกนั้นมาติวหนังสือเป็นเพื่อนนายเองนี่

     

     




     

    .

    .

     

     



    ผมยืนโบกมือให้เพื่อนๆ ที่กำลังขึ้นรถแท็กซี่กลับบ้านไปแล้วก็นึกถึงคำพูดของฮยอกแจเมื่อครู่...ที่ครูให้พวกฮยอกแจมาที่นี่เพราะกลัวผมเหงาหรือกลัวว่าผมจะอ่านหนังสือคนเดียวไม่รู้เรื่องกันแน่นะครับ

    คยูฮยอน

    อะ...ครับ หันไปมองครูที่ยืนพิงประตูอยู่ทางด้านใน ผมเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้วก็งุดหน้าน้อยๆ

    ทำไมทำหน้าแบบนั้น

    เปล่าครับเปล่า ผมต้องกลืนความสงสัยพวกนั้นลงคอไปให้หมด ถ้าเกิดถามออกไปว่าครูครับ ครูให้พวกเพื่อนๆ มาที่บ้านเพราะกลัวผมเหงาเหรอครับ แบบนั้นมันก็ฟังดูเข้าข้างตัวเองจนเกินไป

    หิวหรือยังหืม?

    ยังครับ

    เมื่อตอนกลางวันทานอะไรไปน่ะ

    บะหมี่สำเร็จรูป...โอ๊ย!” ผมกุมหน้าผากตัวเองพลางช้อนตามองคนตรงหน้าที่ยืนมองผมหน้าตาเฉยหลังจากดีดหน้าผากผมไป

    ครูดีดหน้าผากผมทำไมครับ

    ของพวกนั้นมันไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำไมไม่หาอย่างอื่นทาน ปากก็บอกว่ามันไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายแต่คนที่ซื้อมันมาเก็บไว้นั่นก็ครูไม่ใช่เหรอครับ - -...

    ผมต้องอ่านหนังสือนี่ครับ...

    ยอมสละเวลาสักสิบห้ายี่สิบนาทีเพื่อทำอาหารบำรุงสมองคงไม่เสียหายอะไรหรอก ดูสิครับ...ขนาดตอนที่ว่าผมอยู่ยังมาปั้นหน้าหล่ออีก...

    ต่อให้กินบัวหิมะเทียนซัวจากเทือกเขาหิมาลัยก็ช่วยให้ผมจำคำศัพท์ได้ไม่หมดหรอกครับ... ผมงึมงำอยู่คนเดียวก่อนจะสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงหื้ม?

    เปล่าครับ...

    ครูจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้นในขณะที่ผมได้เพียงแค่ก้มหน้ามองดูรองเท้าสลิปเปอร์ของครู กะอีแค่เรื่องกินบะหมี่สำเร็จรูปเองนะครับเล่นบ่นซะยาวเลย

    เอ...นั่นอะไรน่ะ? ครูพูดพร้อมกับชี้ไปทางข้างหลัง ผมหันไปดูตามที่ครูบอกก่อนจะหันกลับมาเมื่อไม่เจออะไรสักอย่าง ไม่เห็นมี... ยังพูดไม่จบก็หยุดชะงักเมื่อครูยื่นซองสีน้ำตาลมาอยู่ตรงระดับใบหน้า ผมรับมันมาถือเอาไว้พร้อมกับมองมันสลับกับใบหน้าครูไปมาด้วยความสงสัย

    ให้ผมเหรอครับ ครูพยักหน้าน้อยๆ ครูนี่ชอบทำหล่อตลอดเลยครับจะยื่นให้แบบคนปรกติทั่วไปก็ไม่ได้

    เปิดดูสิ ผมเม้มปากก่อนจะค่อยๆ แกะซองกระดาษออกอย่างเบามือ คลี่ซองออกเพียงเล็กน้อยแล้วชะเง้อหน้ามองเข้าไปข้างในอย่างลุ้นๆ

    ................ ผมอ้าปากค้างเมื่อของที่อยู่ข้างในนั้นมันคือรูปถ่ายตอนที่เราไปเที่ยวสวนสนุกกัน ผมสลับดูทีละรูป...ทีละรูปก่อนจะหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว

    โอ๊ะ...นี่ครูแอบถ่ายตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะครับ ผมถามเมื่อมีรูปผมตอนหลุดๆ ติดมาด้วย

    โห...เยอะแยะไปหมดเลย... ผมยิ้มพอใจเมื่อรูปทุกรูปที่ผมถ่ายครูก็ล้างมาให้หมดเลย ที่สำคัญคือมันมีรูปคู่ของเราด้วยครับ ผมเงยหน้าขึ้นอมยิ้มให้กับคนตรงหน้าแล้วโค้งหัวน้อยๆ

    ขอบคุณมากนะครับครู...

    ครูไม่พูดอะไรเอาแต่จ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมกระพริบตาปริบๆ เมื่อไม่ได้ยินคำตอบซึ่งปรกติครูน่าจะตอบกลับมาว่า ไม่เป็นไร (ยิ้ม) แบบนี้สิครับ

    ขอบคุณครับ... พูดซ้ำอีกรอบเบาๆ เมื่อใครอีกคนโน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ แล้วทำแก้มพองลมข้างหนึ่ง ผมยืนห่อไหล่หน้าขึ้นสีเล็กน้อย นิ้วชี้ของครูจิ้มลงตรงแก้มตัวเองเชิงบังคับ

    อะไรเหรอครับครู... การแกล้งโง่มันคงไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ กับเด็กน้อยอย่างผม ครูหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะหันมาจ้องหน้าผม

    แทนคำขอบคุณไง

    แต่ผมก็พูดขอบคุณครูไปแล้วนี่ครับ... ผมงุดหน้าลงเล็กน้อยพลางช้อนตามองครูอย่างเขินๆ สิ่งที่ทำให้ผมตายได้ง่ายที่สุดก็คือสายตาของครูนี่แหละครับ...



    ไปอาบน้ำสิ เดี๋ยวครูเตรียมมื้อเย็นรอ

    ผมเงยหน้าขึ้นมองใครครูทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น ถึงแม้ว่าริมฝีปากของครูจะยังยิ้มอยู่แต่ก็ทำให้ผมรู้สึกผิดได้ไม่น้อย หรือว่าครูจะเซ็งที่ผมลีลายึกยักกันนะ...

    ไม่ต้องการลูกมือเหรอครับ พูดจบครูก็โน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ เห็นแบบนั้นผมก็รีบเอามือปิดหน้าผากทันทีเลยครับกลัวว่าครูจะดีดหน้าผากผมอีก

    เดี๋ยววันนี้เชฟจะโชว์ฝีมือให้ดู เราน่ะไปอาบน้ำได้แล้ว

    ช่วยกันทำจะได้เสร็จเร็วๆ ไงครับ...โอเค...ผมจะไปอาบเดี๋ยวนี้ ผมต้องตามใจครูแล้วล่ะครับเมื่อเห็นสายตากึ่งบังคับแบบนั้น (เผด็จการมากๆ)

     

     

     


    .

    .

     


     

    ใช้เวลาไม่นานในการอาบน้ำ พอใส่เสื้อผ้าเสร็จผมก็เอาผ้าขนหนูแปะไว้บนหัวแล้วเดินไปเปิดซองสีน้ำตาลอีกครั้ง เอารูปทั้งหมดออกมาวางเรียงกันไว้บนโต๊ะก่อนจะคัดเลือกรูปที่ชอบออกมาวางไว้ต่างหาก รูปนี้จะเอาไปใส่กรอบ...รูปนี้จะเก็บใส่ระเป๋าเงิน...แล้วก็รูปพวกนี้ผมจะเอาไว้ติดบนผนังครับ เวลาทำการบ้านเสร็จเงยหน้าขึ้นก็จะเห็นรูปคู่ของเรา ผมว่ามันเป็นกำลังใจอย่างดีเลยล่ะ

    เอาสก๊อตเทปแปะรูปไว้บนผนัง ผมเลือกที่จะใช้สก๊อตเทปใสเพราะไม่กล้าใช้กาวสองหน้า มันจะทำให้ผนังเป็นรอยน่าเกลียด (แต่สก๊อตเทปใสก็เป็นรอยเหมือนกันแต่น้อยกว่า) ไม่สิ...ไม่ได้...ผมจะทำให้บ้านของครูเป็นรอยตำหนิไม่ได้ครับ เพราะงั้นพรุ่งนี้สอบเสร็จแล้วผมจะไปหาซื้อราวเชือกกับกิ๊ฟหนีบผ้าแบบไม้มาห้อยแทนดีกว่า...

     

    ผมเดินย่องออกมาแล้วชะเง้อหน้าเข้าไปในห้องครัวเมื่อได้กลิ่นหอมๆ โชยออกมาถึงข้างนอก เพียงแค่มองแผ่นหลังของครูแล้วผมก็ยิ้มออกมา ครูเป็นคนที่ดูเรื่อยๆ และทำเรื่องยากๆ ให้มันง่ายได้ถ้าเทียบกับผมแล้ว ผมเป็นพวกชอบตีตนไปก่อนไข้เสมอ พอเจอปัญหาก็เอาแต่ลนลานทำอะไรไม่ถูก ผมชอบที่ครูนิ่งๆ แบบนี้แหละครับ

     

    อาบน้ำเสร็จแล้วเหรอ?

     

    (())

     

    ผมเดินออกมาจากตรงนั้นแล้วเกาหัวแกร่กๆ ครูรู้ได้ยังไงว่าผมแอบอยู่ตรงนั้นหรือว่าครูจะมีตาดวงที่สามซ่อนอยู่ข้างหลัง

     

    หอมจังเลยครับ

    อร่อยด้วย

    โห...ทำเองชมเองแบบนี้ก็มีด้วย ผมเลิกคิ้วมองครู วันนี้ครูชักจะแปลกๆ ครับปรกติผมเห็นมีอยู่สองหน้าคือหน้านิ่ง กับหน้ายิ้ม -> ^_^ ไม่เคยเห็นหลงตัวเองแบบนี้

    งั้นก็ลองชิมดูสิ

    ถ้าไม่อร่อยล่ะครับ

    นายก็ต้องทานให้หมดอยู่ดี ครูพูดแล้วตักซุปขึ้นมาให้ชิม ผมหรี่ตามองครูแล้วจิบเพียงเล็กน้อย...ไม่เถียงก็ได้ครับ...มันก็อร่อยจริงๆ นั่นแหละ

    มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ

    ช่วยทานให้หมดก็พอ ครูพูดขณะที่ยกถ้วยไก่ตุ๋นโสมไปวางไว้บนโต๊ะ เฮ้...วันนี้ครูชักจะกวนผมเกินไปแล้วนะครับ

    ผมขยับปากบ่นอุบอิบ (แบบไม่มีเสียง) แล้วหันไปเห็นซิ้งค์ล้างจานที่มีหม้อและถ้วยกองอยู่แล้วก็อดไม่ได้ต้องเข้าไปล้าง ยังไงตอนนี้ครูก็กำลังจัดโต๊ะอยู่จะให้ผมไปนั่งรอกินอย่างเดียวมันก็น่าเกลียดจนเกินไปไงครับ ล้างหม้อใบแรกยังไม่ทันเสร็จก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมือแกร่งกำลังสางหัวผมเล่นอยู่ ผมเงยหน้าขึ้นพยายามมองมือที่กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นหัวผมอยู่แล้วก็นะ - -

    ครับครู

    กลิ่นแชมพูหอมดีนะ

    เอ๋...เราก็ใช้ขวดเดียวกันทุกวันนี่ครับผมเอี้ยวหน้าหันไปมองใครอีกคนที่กำลังดมกลิ่นผมของผมอยู่ (ยิ่งเล่ายิ่งงงครับ)

    อืม...ก็ครูไม่เคยได้กลิ่นมันเลยนี่

    นั่นก็เพราะว่าครูไม่เคยดมกลิ่นผมตัวเองต่างหากล่ะครับ...ครูนี่ยังไงนะครับ บทจะมาทำให้ใจเต้นก็เล่นเอาตั้งหลักไม่ทัน ผมดิ้นยุ๊กยิ๊กพยายามเบี่ยงตัวหลบแต่สุดท้ายก็โดนรวบกอดเอาไว้จนได้ - -

    ครูครับ ผมยังล้างจานไม่เสร็จเลย

    งั้นก็อย่าเพิ่งล้างสิ

    ทำไมวันนี้ครูเอาแต่ใจจังเลยครับ ผมได้แค่มองหน้าครูที่กำลังยิ้มอยู่อย่างนั้น สุดท้ายไม่รู้ว่าผีผลักหรืออะไรดลใจให้ผมเขย่งขาขึ้นไปหอมแก้มครู อาจจะเป็นเพราะรู้สึกผิดที่ก่อนหน้านี้ผมลีลาจัดเยอะไปหน่อย พอผละใบหน้าออกมาเท่านั้นแหละครับถึงได้รู้ตัวว่าทำอะไรลงไป T_T



    #รู้ตัวเมื่อสาย

     

    ผมเบิกตาโพลง ได้ตาจ้องหน้าครูอยู่อย่างนั้น บ้าไปแล้วโจคยูฮยอน นายมันบ้าไปแล้ว เมื่อกี้ทำอะไรลงป๊ายยยยยยยยยยย TAT

     

    ใบหน้าคมค่อยๆ หันมามองหน้าผม...ไม่สิ...ครูกำลังจ้องหน้าผมอยู่ต่างหากล่ะครับ...ผมได้แต่หัวเราะแห้งๆ ก่อนจะเบือนหน้าหลบทำท่าจะล้างจานต่อแต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็ถูกครูโอบใบหน้าเข้าไปจูบซะแล้ว...มือของผมที่มีแต่ฟองน้ำยาล้างจาน มันขยับไปไหนไม่ได้...เปลือกตาผมค่อยๆ ปิดลง ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองชักจะนิสัยไม่ดีเข้าไปทุกวันๆ ผมเริ่มเสพย์ติดจูบของครูเป็นกิจวัตรไปแล้ว ผมจะทำยังไงกับหัวใจตัวเองดีครับ...ผมจะทำยังไงดี...

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    พอกินข้าวเสร็จผมก็กลับไปนั่งอ่านหนังสือต่อ ก่อนเปิดหนังสือผมก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อารมณ์เหมือนคุณกำลังพยายามอ่านนิยายแปลทั้งที่อ่านภาษานั้นไม่รู้เรื่องแหละครับ อารมณ์เดียวกันเลย ทันใดนั้นผมก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อเห็นครูเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังพร้อมกับคร่อมตัวลงมา สองมือของเขาวางลงบนโต๊ะพร้อมกับมองหนังสือที่วางอยู่ตรงหน้า แก้มของครูนี่ติดหัวผมแล้วครับ

    ไม่เข้าใจตรงไหน เดี๋ยวครูช่วยติวให้

    ทุกตรงเลยครับครู ตอบแบบซื่อๆ ไปตามตรง คือผมไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยล่ะครับ ยิ่งไอ้ไดอะล็อคที่ยาวเป็นพรืดนี่อีก บรรยายถึงอะไรผมก็แปลได้บ้างไม่ได้บ้างงูๆ ปลาๆ สุดท้ายแล้วผมก็ได้ครูสอนคณิตศาสตร์นี่แหละครับมาติวภาษาอังกฤษให้ ติวกันอยู่ร่วมสามชั่วโมงกว่าผมจะซึมซับเข้าหัวสมองบ้าง

     

     

    พอผมเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาแล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่า...

     

     

    ผมยังไม่ได้ติวคณิตศาสตร์เลยสักตัว...




    เงยหน้ามองครูแล้วก็กระพริบตาปริบๆ กลัวครูจะงอนว่าผมเอาแต่สนใจวิชาภาษาอังกฤษจนลืมวิชาของครูจังเลยครับ ผมคว้าหนังสือกับสมุดมาเปิดๆ แล้วก็ช้อนตามองครูอีกครั้ง อย่าทำหน้าแบบนั้นสิครับครู ผมกำลังจะแก้สมการให้ดูเดี๋ยวนี้แหละ (เหมือนพวกปิดทองหลังพระไม่มีผิดเลยนะโจคยูฮยอน)

    ครูไม่ง่วงเหรอครับ... ไปนอนเลยก็ได้นะครับเดี๋ยวผมติวต่อเองก็ได้ การที่มีคนมานั่งจ้องหน้าเวลาอ่านหนังสือแบบมันก็เกร็งใช้ได้เหมือนกันนะครับ คือก่อนหน้านี้ครูเขาช่วยติวให้ผมไง ผมเลยไม่รู้สึกเกร็งแบบนี้

    ครูรู้ว่านายทำได้ ริมฝีปากหยักยิ้มบางๆ ก่อนจะหยิบสมุดที่อยู่ตรงหน้าผมไป ครูขีดๆ เขียนๆ อะไรลงบางอย่างก่อนจะดันสมุดคืนมาให้ผม

    ทำความเข้าใจกับคำตอบด้วยนะ พูดจบครูก็หัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ผมขมวดคิ้วพลางมองตามจนประตูห้องปิดลงแล้วหันมาสนใจกับโจทย์ที่ครูทิ้งไว้ให้เมื่อครู่

    9x – 7i > 3 (3x-7u)

    โจทย์ที่ครูให้มามันไม่ดูธรรมดาไปหน่อยเหรอครับผมคิดว่าเด็ก ม.ต้น ยังทำสมการข้อนี้ได้เลย นี่ครูอยากจะลองเชิงผมสินะ หันหลังกลับไปมองประตูอีกครั้งแล้วกลับมาแก้สมการต่อ ผมไม่ต้องใช้เวลาคิดนานเพราะโจทย์ที่ครูให้มามันก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไร

     

     


    แต่ผมว่ามันเริ่มซับซ้อนก็ตอนนี้ล่ะครับ...

     

     

    “7i < 21u”

    “i < (21/7)u”

    “i...”

    “i <...”

    “i <3...”

     

    ปากกาจรดอยู่ที่เลขสาม หัวใจผมเต้นตึกตัก...ตึกตัก...มือผมมันขยับต่อไม่ได้เพียงแค่ชำเลืองมองบรรทัดด้านบน มันอาจจะเป็นโจทย์สมการธรรมดาๆ ข้อหนึ่งที่ใครๆ ก็คงทำได้เหมือนที่ผมพูด แต่ยิ่งหาคำตอบผมก็ได้แค่เม้มริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะเขียนตัวสุดท้ายลงไป...

     

     




    คำตอบของสมการข้อนี้ที่ครูให้มาคือ...

     

     





     

    “i <3 u”

     

     

     

     

     






     

    TALK

     

    เหยดเขร้ มาแบบสั้นๆ นะคะตอนนี้

    กลัวไม่ฟินกันจังเลยอ่ะ แบบเขียนเสร็จตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วละ แต่ว่าไม่กล้าเอาลง

    เพราะคิดว่าตอนนี้มันเฉื่อยๆ ไม่สนุกอ่ะ T^T

    เหมือนกับว่าเราเขียนอะไรที่มันหวานเกินไปอย่างต่อเนื่องแล้วมันถึงจุดที่หวานต่อไม่ได้ 55555

    (เลยหลบไปดราม่ากับบราเทอร์มา เข้าใจเราแล้วใช่ไหม)

     ปล.สมการนี้ลูกชายเคยเอาให้เราแก้ตอนเพิ่งคบกัน ตอนแก้อ่ะเขินมาก แล้วน้องค่อยบอกที่มาว่าได้สมการนี้มาจาก Love Question จ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×