ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HAEEUN | "Illusion Secret" หลอกหลอนรัก

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 10 :: Embrace

    • อัปเดตล่าสุด 26 ส.ค. 56


     

     


     

    Chapter 10

    Embrace

     

     

     

     

    ปัง...

    ทันทีที่เสียงประตูห้องปิดลงร่างบางก็ทรุดหมดสติในอ้อมกอดร่างหนา อีทงเฮประคองร่างอีกคนเอาไว้แนบอกพลางจ้องดวงหน้าหวานที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา เขาจับข้อมือเล็กที่เต็มไปด้วยคราบเลือดขึ้นมาดูก่อนจะอุ้มร่างที่หมดสติไปนอนพักบนเตียงที่เต็มไปด้วยเลือด

    ...

    ชายหนุ่มไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่ยืนมองร่างผอมบางที่ยังคงน้ำตาไหลออกมาอย่างต่อเนื่องก่อนจะเบือนหน้าหลบไปอีกทางแล้วคว้าโทรศัพท์บ้านขึ้นมากดโทรออก

     

     
     

    เข้ามาในห้องผมตอนนี้เลยครับหมอจงอุน

     

     
     

     

    .

    .

     

     

    หลายครั้งที่ผมอยากจมอยู่กับความฝัน

    เพราะมันสวยงามเกินกว่าที่จะตื่นมาพบกับความเป็นจริง

    และครั้งนี้ก็เช่นกัน...

     

     
     

    อาการของเขาเป็นยังไงบ้าง?

    ปลอดภัยแล้วครับ เป็นเพราะเสียเลือดมากและไม่ได้ทานอะไรมาทั้งวัน คงไม่แปลกถ้าจะหมดสติไปทั้งอย่างนั้น...แต่ผมว่าคุณอย่าทำแบบนี้อีกดีกว่า ถ้าเกิดผมมาช้ากว่านี้เขาคงเลือดไหลไม่หยุดจนตายแน่ ๆ

     

     

     

    ผมได้ยินเสียง...ใครกำลังคุยกัน...

     

     

     

    เรื่องนั้นผมรู้ แต่คุณก็มาทันนี่ครับ จะพูดไปให้ได้อะไรขึ้นมา?

    หยุดเถอะคุณทงเฮ...คุณมาไกลเกินไปแล้ว

    มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณที่จะต้องมาสั่งสอนผม ถ้าเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เชิญ

    แล้วผู้ชายคนนั้น...

    หืม?

    ผู้ชายคนที่คุณซีวอนเพิ่งพามา...ผมเข้าไปทำแผลให้เขาได้หรือเปล่า?

    นี่คุณหมอจงอุนครับ

    ผมรู้ว่าคุณจะเอาเรื่องครอบครัวมาขู่ผมอีก แต่เขาบาดเจ็บมาก แค่ให้ผมเข้าไปห้ามเลือดให้ก็พอ

    ...

    แล้วผมจะกลับไปอยู่ห้องคยูฮยอนเหมือนเดิม

    ใจบุญเสียจริงนะ...

     

     

    ผมไม่ได้ลืมตาขึ้นแม้ว่าจะตื่นเต็มตาแล้ว ผมแกล้งหลับแล้วฟังเขาคุยกันจนกระทั่งเสียงประตูปิดลง เสียงฝีเท้าเดินกลับเข้ามาภายในห้องนั่นทำให้ผมรู้ว่าอีทงเฮไม่ได้ไปกับคุณหมอคนนั้น

    จากบทสนทนาที่คุยกัน...แสดงว่าคุณคิบอมยังไม่ตายใช่ไหม?

     

     

    แล้วผมจะกลับไปอยู่ห้องคยูฮยอนเหมือนเดิม

     

     

    ประโยคนี้ทำให้ผมพอจะจับต้นชนปลายได้บ้าง ถ้าเดาไม่ผิดที่ ๆ ผมอยู่ในตอนนี้คงเป็นบ้านหลังที่ผมเคยแอบปีนเข้ามา ถ้างั้นแสดงว่าหมอคยูฮยอนต้องอยู่อีกห้องนึงภายในบ้านหลังนี้แน่

    ถึงจะแกล้งหลับแต่ผมก็ปรือตาหรี่ตามองแล้วก็พบว่าอีทงเฮได้เดินมานั่งข้าง ๆ เตียง ผมเห็นแผ่นหลังกว้างอยู่ตรงหน้า ทำไมผมถึงรู้สึกว่าเขากำลังดูอ้างว้าง โดดเดี่ยวกันนะ?

    ...

    ผมมั่นใจว่านั่นคือเสียงถอนหายใจ มันทำให้ผมประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่คนอย่างอีทงเฮจะรู้สึกคิดไม่ตกกับอะไรสักอย่างจนต้องลอบถอนหายใจอยู่เงียบ ๆ

    ผมคิดมาตลอดว่าคนโรคจิตอย่างเขาคงไม่เคยรู้สึกกังวลเรื่องใด ๆ ในโลกนี้หรอก แต่พอเห็นแบบนี้แล้วเห็นทีผมต้องคิดใหม่ ผมว่าคนอย่างอีทงเฮคงมีอะไรในใจมากจนทำให้เขาเสียสติกลายเป็นคนโรคจิต ฆาตรกรฆ่าคนตายแบบนี้

    ผมยังคงนอนนิ่งแม้ว่าเขาจะเอี้ยวหน้าหันกลับมามองทางนี้ มือหนาเอื้อมมาลูบหัวผมเบา ๆ ราวกับกลัวว่าผมจะตื่นจากการหลับใหลเพราะสัมผัสนั่น

    หลับนานไปแล้วนะครับ

    เสียงกระซิบมาก่อนปลายจมูกที่กดลงตรงแก้มผม เตียงนุ่มยวบลงตามแรงกดทับเมื่อเขาแทรกตัวเข้ามาในผ้าห่มที่ผมนอนอยู่ก่อนจะสอดแขนเข้ามาใต้คอเพื่อประคองให้ผมนอนทับแขนเขาแทนหมอน ผมยังคงแกล้งหลับต่อและไม่คิดจะลืมตาขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขา ผมไม่รู้ว่าอีทงเฮจะกลายเป็นคนละคนหรือเปล่าถ้าผมลืมตาขึ้น

    ร่างของผมถูกรั้งเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอุ่น ๆ นั่น กลิ่นหอมที่ตัวเขาทำให้ผมนึกถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ ไม่มีกลิ่นคาวเลือดอย่างที่ควรจะเป็น ผมคิดว่าอีทงเฮคงเปลี่ยนผ้าปูที่นอนเสร็จสรรพตอนที่ผมหมดสติไป

    ผมแทบจมหายเข้าไปในอ้อมกอดนั่นเพราะถูกกดหัวให้ซบลงกับแผงอกแกร่ง ริมฝีปากอุ่นกดจูบลงที่กลางศีรษะผมก่อนจะกระชับกอดแน่นยิ่งขึ้นราวกับกลัวว่าผมจะหนีไปไหน ผมไม่เข้าใจว่าทำไมอีทงเฮถึงแสดงออกทางร่างกายกับผมแบบนี้ทั้งที่เราก็ไม่ใช่คนรักกัน วูบหนึ่งผมคิดไปว่าอาจจะเป็นเพราะเขาเป็นคนโรคจิต เขาถึงไม่สนว่าคนตรงหน้าจะเป็นใคร

     

     
     

    เพราะบางทีเขาอาจจะเห็นผมเป็นตัวแทนของหมอคยูฮยอนก็ได้

     
     

     

    ...

    ความคิดของผมหยุดลงเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นจากคนที่กำลังกอดผมอยู่ ไม่จริงน่ะ...คนอย่างอีทงเฮน่ะเหรอจะร้องไห้?

    เสียงสะอื้นเบา ๆ นั่นทำให้ผมรู้ว่าเจ้าตัวคงพยายามกลั้นมันไว้เต็มที ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูกแต่ก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับอีทงเฮทำไมเขาถึงได้ร้องไห้หนักขึ้นเรื่อย ๆ แบบนี้ ร่างของผมถูกกอดแน่นยิ่งขึ้นราวกับว่าเขาต้องการที่พักพิง

     

     
     

    อย่าทิ้งผมไป...

     

     
     

    ...

    ทั้งชีวิตผมไม่เหลือใครแล้ว...นอกจากคุณ...

    ...

     
     

     

    ยอมรับว่าประโยคนี้ทำให้หัวใจผมหล่นวูบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ประโยคร้องขอนั่นที่ผมไม่รู้ว่าเขาอยากสื่อถึงใครระหว่างผมหรือหมอคยูฮยอน อีทงเฮตัวสั่นไม่หยุด ผมรู้สึกได้ถึงน้ำตาอุ่น ๆ ที่หยดลงบนหน้าผากตัวเอง ผมควรรู้สึกสมเพชเวทนาและสมน้ำหน้าด้วยซ้ำที่เขาเป็นแบบนี้ แต่ทำไม...ผมถึงกลับเอื้อมมือไปกอดตอบเขาพร้อมกับลูบหลังปลอบใจ...

     

     
     

    ทำไมล่ะฮยอกแจ?

    ทำไมถึงต้องสงสาร เห็นใจ คนโรคจิตที่ทำร้ายคนที่นายรักแบบนี้ด้วย?

     
     

     

    ...

    อีทงเฮคงรู้ว่าผมตื่นอยู่แต่เขากลับไม่คิดที่จะผละตัวออกแล้วตบหน้าผมอย่างที่ควรจะเป็น หนำซ้ำเขายังกอดผมแน่นยิ่งขึ้น ผมไม่รู้ว่าก่อนที่ผมได้เจออีทงเฮเขาเจออะไรมาก่อนมันถึงได้ทำให้เขาเป็นคนจิตไม่ปกติทำลายทุกอย่างแบบนี้ หรือเพราะโดยธรรมชาติมนุษย์ทุกคนต้องการความรักความอบอุ่นใช่ไหม? แม้แต่คนโรคจิตอย่างอีทงเฮที่ผมเคยคิดว่าเขาเลือดเย็น ไร้ความรู้สึกถึงได้มีอาการแบบนี้

     

     
     

    อะไร...ที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้กันนะ?

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    เวลาผ่านไปนาน ผมคิดว่ามันน่าจะราว ๆ  ชั่วโมงเศษ ๆ คนที่เคยกอดผมตัวสั่นนั้นหลับไปแล้ว ตอนนี้ได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจที่ผ่อนเข้าออกอย่างเป็นจังหวะเท่านั้น นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงไม่ลังเลที่จะลุกขึ้นไปหาอะไรมาใช้เป็นอาวุธเพื่อฆ่าเขาให้นอนตายจมกองเลือดตรงนี้แน่

     

     

    แต่ผม...

     

     

    ผมค่อย ๆ แกะมือที่พาดเอวผมออกโดยไม่ให้คนหลับอยู่รู้ตัว ผมลุกขึ้นนั่งให้เบาเสียงที่สุดเท่าที่จะเบาได้ ผมยืนมองเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองรอบ ๆ ข้างแล้วก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่งสิบห้านาที ความคิดในหัวผมมันตีกันไปหมด เหมือนมีคนหลายคนคอยกระซิบข้างหูผมให้ทำอย่างนั้นอย่างนี้

     

     

    นายเห็นเก้าอี้ไม้ตัวนั้นไหม? เดินไปเอามันมาแล้วฟาดไอ้เลวที่นอนอยู่ตรงนั้นซะ

    อย่าเสี่ยงดีกว่า ถ้าทำแบบนั้นแล้วเกิดอีทงเฮไม่ตายล่ะ? ทางที่ดีนายควรชิงหนีเอาตัวรอดออกไปซะตั้งแต่ตอนนี้ นายไม่อยากรู้เหรอว่าตอนนี้อีซองมินเพื่อนของนายเป็นอยู่ยังไง?

    ถ้านายหนีไป แล้วคุณคิบอมล่ะ? เขาช่วยนายจนต้องมาตกที่นั่งลำบาก ถ้ากล้าหนีเอาตัวรอดคนเดียวก็เชิญเลย

     

     

    ...

    ผมกัดริมฝีปากล่างพลางกำหมัดแน่น ใจหนึ่งผมก็นึกโกรธอีทงเฮที่ทำร้ายร่างกายผมสารพัด อีกทั้งยังคิดฆ่าคนที่ผมรักทุกคนอย่างทารุณอีก แค่นี้มันก็เป็นเหตุผลที่จะให้ผมฆ่าเขาได้แล้ว แต่ทำไมผมต้องชั่งใจเพียงเพราะแค่อ้อมกอดแห่งความกลัวกับน้ำตานั่นด้วย?!

     

     

    ตึก ตึก...

    เสียงฝีเท้าย่ำลงบนพื้นไม้ที่กำลังผ่านหน้าห้องไปเรียกความสนใจจากผมได้เป็นอย่างดี ผมค่อย ๆ เดินถอยหลังไปทีละก้าวและหมุนลูกบิดออกไปช้า ๆ แล้วก็พบกับแสงสว่างจากโคมไฟตรงห้องนั่งเล่น ผมหันกลับไปมองอีทงเฮอีกครั้งคราวนี้ผมเริ่มกลัวขึ้นมาแปลก ๆ ทั้งที่ปกติเขาจะขังผมเอาไว้ไม่ให้ไปไหน และพอเขาปล่อยให้ผมเดินเหินได้อย่างสะดวกก็เป็นอย่างที่เคยเห็น...เขาจะมีแผนอะไรอยู่หรือเปล่านะ?

    แต่ยังไงก็ตาม ผมก็ยังเลือกที่จะออกไปข้างนอกแทนที่จะให้อีทงเฮนอนกอดนิ่ง ๆ ไปจนกว่าเขาจะตื่น ถึงแม้ว่าภาพเลือดบนที่นอนและกลิ่นคาวเหล่านั้นจะเป็นสิ่งย้ำเตือนให้ผมไม่ควรทำแบบนี้ก็ตาม

    ผมเดินออกไปหยุดยืนอยู่ตรงห้องนั่งเล่นและพบหมอจงอุนที่นั่งดื่มบรั่นดีอยู่เงียบ ๆ ตามลำพัง เขาเงยหน้ามองผมขณะที่กำลังจะกระดกแก้วขึ้นดื่ม

    ...

    ...

    เราสองคนต่างไม่พูดอะไร ได้เพียงแค่ใช้สายตาสื่อความหมายเท่านั้น ผมคิดว่าหมอจงอุนคงรู้เรื่องทุกอย่างดีแล้ว ผมเห็นสายตาเขาที่มองผ่านไปข้างหลังผมราวกับกลัวว่าอีทงเฮจะโผล่มาเห็นในเวลานี้

    คุณควรกลับไปนอนพักผ่อนนะครับเขาพูดเสียงเรียบพลางวางแก้วบรั่นดีลงบนโต๊ะไม้หรูข้าง ๆ

    บนเตียงเดียวกับไอ้โรคจิตนั่นน่ะเหรอ?

    ...

    ทำไมคุณถึงช่วยคนพรรค์นั้น?

    ...

    เพราะเขาขู่ว่าจะทำร้ายคนในครอบครัวของคุณเหรอ?

    แล้วเหตุผลนั่นมันไม่พอที่จะทำให้ผมทำแบบนี้เหรอครับ?

    ทำไมคุณไม่... เพียงแค่นึกถึงเรื่องตำรวจคำพูดทุกอย่างก็ถูกกลืนลงคอไปหมด ผมเม้มริมฝีปากก่อนจะมองหน้าเขาอีกครั้ง

    ทำไมคุณถึงทำกับหมอคยูฮยอนได้ลง?

    ผมมีทางเลือกไหม? ถ้ามี...คุณก็บอกมาสิว่าผมควรทำยังไง? เขามองผมด้วยสายตาเรียบเฉย ใบหน้าได้รูปนั่นมีรอยฟกช้ำตรงมุมปากที่ผมคิดว่าอีทงเฮคงเป็นคนทำ

    ผมพยายามช่วยคยูฮยอน...จนผมต้องเป็นแบบนี้ หมอจงอุนพูดพร้อมกับหันหน้าอีกข้างให้เห็น ผมเดินถอยหลังไปสองก้าวเมื่อพบว่าแก้มข้างขวาของเขามีรอยบาดแผลยาวขนาดราว ๆ สามนิ้ว ดูแล้วคงเป็นแผลที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้

    ...  ผมหันหลังกลับไปดูว่ามีใครยืนอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า ถึงอีทงเฮจะหลับแล้วแต่ผมก็เชื่อใจไม่ได้ว่าเขาจะไม่ลุกขึ้นมากลางดึก

    คุณกลับเข้าไปเถอะ ผมไม่อยากเดือดร้อนเพราะความดื้อรั้นของคุณ

    ไม่ ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้นจนกว่าจะได้คำตอบจากคุณ

    ...อยากรู้อะไรจากปากผมงั้นเหรอ?

    บอกผมสิ ว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?

    ...

    ทำไมอีทงเฮถึงทำกับหมอคยูฮยอนได้ถึงขนาดนั้น ทำไมเขาถึงต้องตามไล่ล่าผมแล้วฆ่าคนรอบตัวผมทีละคนแบบนี้?!”

    ... หมอจงอุนได้เพียงแค่มองหน้าผมที่กำลังใส่อารมณ์จนยากที่จะคุมอยู่ เขาผินหน้าไปอีกทางแล้วถอนหายใจเบา ๆ

    ผมรู้จักกับคยูฮยอนมาหลายปี เขาคว้าแก้วบรั่นดีขึ้นมาถือเอาไว้ในมือพลางหลุบสายตาลงมองพื้นพรมสีเข้มเขาเป็นคนน่ารัก มีเสน่ห์ มันคงไม่แปลกถ้าจะมีคนมารุมรักเขา

    ...

    ทงเฮเป็นคนรักของคยูฮยอน ผมได้ยินมาว่าเขาเป็นโรคจิตอ่อน ๆ เขาเป็นคนไข้ของหมอคนหนึ่งที่เป็นรุ่นพี่ของคยูฮยอน

    หมอจองซูใช่ไหม?

    หมอจงอุนพยักหน้า

    เขารู้จักกันตั้งแต่ตอนนั้น ผมคิดว่าความสัมพันธ์ที่มากกว่าหมอกับคนไข้น่าจะสักราว ๆ สองปีได้ ช่วงแรก ๆ คยูฮยอนบอกกับผมว่าเขาจะพยายามรักษาโรคนี้ให้กับทงเฮโดยการให้ความรัก ความอบอุ่นเพราะทงเฮเป็นเด็กกำพร้า ไม่มีครอบครัว ไม่มีใครมาตั้งแต่จำความได้ อยู่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้ามาจนกระทั่งออกมาเผชิญโลกภายนอกด้วยตัวเองตามลำพัง

    “…”

    คนที่ไม่เคยได้รับความรักมาก่อน มันคงไม่แปลกอะไรที่เขาจะหึงหวงในสิ่งที่คิดว่าเป็นของตัว...

    ...

    แต่นานวันไปทงเฮก็ทำเรื่องน่ากลัวมากขึ้นเมื่อเขาเริ่มทำร้ายตัวเอง และนั่นทำให้คยูฮยอนกลัวที่จะอยู่ข้าง ๆ เขา

    ...

    มันเป็นจังหวะเดียวกันกับที่หมอคนหนึ่งที่เข้ามาให้คำปรึกษากับคยูฮยอน จนกระทั่งเขาเผลอมีใจให้กับหมอคนนั้นโดยไม่ตั้งใจ

    ผมยืนนิ่งขณะฟังเรื่องราวจากปากหมอจงอุน ทุกอย่างมันเหมือนจิ๊กซอที่รอชิ้นส่วนมาเติมเต็ม หมอจงอุนกระดกบรั่นดีจนหมดแก้วแล้วกลืนมันลงคอ

     

     

     

    ศพหมอคนนั้นก็ฝังอยู่ที่หลังบ้านหลังนี้นี่เอง...ข้างนอกนั่นน่ะ

     

     

     

    ... หมอจงอุนชี้ไปทางด้านข้าง

    คุณคงรู้นะว่าหมอคนนั้นตายเพราะอะไร?

    ...

    แล้วที่คุณต้องมาตกนรกทั้งเป็นแบบนี้ มันก็ไม่มีที่มาที่ไปอะไรมากมายหรอก

    ...

    ที่เขาต้องการคือให้คุณอยู่ข้าง ๆ ในวันที่ไม่เหลือใคร เขาแค่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ตามลำพังก็เท่านั้น

    แม้ว่าผมจะไม่เต็มใจน่ะเหรอ?

    ...ครับ

    ...

     

    เราทั้งคู่เงียบไปครู่หนึ่ง ผมคิดตามกับสิ่งที่หมอจงอุนพูดแล้วก็นึกได้ว่าควรถามถึงใครอีกคน

     

    แล้ว...คุณคิบอม... ผมถามออกไปทั้งที่กลัวคำตอบ ผมไม่รู้ว่าหมอจงอุนได้เข้าไปช่วยเขาอย่างที่เคยขออีทงเฮไว้หรือไม่

    ถ้าคุณไม่กลัวถูกทงเฮร้าย คุณตำรวจก็อยู่ในห้องนั้น คุณจงอุนชี้ไปข้างหลัง ผมหันไปมองบานประตูไม้อยู่ครู่หนึ่งแล้วหันกลับมา

    คิดดูดี ๆ นะ ว่าถ้าทงเฮรู้ว่าคุณเข้าไปหาตำรวจคนนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้น

    ...

    ถ้าอยากเสี่ยงก็ลองดู

    ผมยืนใช้ความคิดอยู่ตรงนั้น คำเตือนของหมอจงอุนทำให้ผมกลัวสิ่งที่จะเกิดขึ้น ถ้าเกิดผมเข้าไปหาคุณคิบอม อาจจะไม่ใช่แค่ผมที่ถูกทำร้ายก็ได้...

     

     
     

    แต่ผม...ก็อยากเข้าไปดูว่าคุณคิบอมเป็นยังไงบ้าง...

     

     

     

    ขอบคุณที่เตือนผมด้วยความหวังดีนะครับ ผมโค้งหัวขอบคุณคนที่นั่งอยู่ตรงนั้น หมอจงอุนไม่ได้ตอบอะไรกลับมา เขาแค่หันไปสนใจกับบรั่นดีที่เพิ่งเทลงแก้วเมื่อครู่เท่านั้น ผมเดินไปหยุดอยู่หน้าห้องคุณคิบอมพลางเอื้อมมือไปวางไว้กับลูกบิด

    แต่อย่าคิดที่จะพาเขาหนีล่ะ

    ...

     

     

    เพราะต่อให้คุณหนีไปไกลแค่ไหน คุณก็หลบหนีความจริงไม่ได้อยู่ดี

     

     

    แอ๊ด...

    ผมเปิดประตูเข้าไปช้า ๆ ข้างในมืดและรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก ผมคลำผนังที่อยู่ข้าง ๆ แล้วก็เจอสวิทซ์ไฟ แสงสีส้มอ่อน ๆ สว่างขึ้นจนมองเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนพื้นในสภาพถูกมัดและตาของเขาที่ถูกผ้าดำคาดเอาไว้

    รอยฟกช้ำที่อยู่บนใบหน้า อีกทั้งรอยแผลตามแขนนั่นทำให้ผมต้องยกมือป้องปาก ผมเข้าไปนั่งลงตรงหน้าคุณคิบอมแล้วถอดผ้าคาดตาออกให้ทันที

    คุณ...? คุณคิบอมเรียกผมด้วยน้ำเสียงแห้งผาก ผมเม้มปากแน่น น้ำตาไหลออกมาเมื่อเห็นสภาพเขาเป็นแบบนี้

    คุณมาที่นี่ได้ยังไง...? เขาถามขณะมองผมที่กำลังพยายามจะแกะเชือกให้เขา

    แล้วอีทงเฮไปไหน ทำไม..?

    อย่าเพิ่งถามอะไรตอนนี้เลยครับ ผมยังคงพยายามต่อไปแม้ว่าเชือกที่รัดตัวคุณคิบอมมันจะแน่นสักแค่ไหน

    ถ้าช่วยผม...คุณก็ต้องเจ็บตัวอีก...

    ผมไม่เป็นไร ผมพูดทั้งน้ำตา ผมไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาเพราะความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้ามา

    ไม่เป็นไรได้ยังไง...ข้อมือคุณน่ะ... เขาพูดพร้อมกับจ้องมาที่ข้อมือผมที่มีผ้าก็อชสีขาวพันเอาไว้

    ...

    เจ็บมากใช่ไหม?

    ... ผมชะงักมือพลางช้อนตามองคนตรงหน้าที่มองผมด้วยแววตาอ่อนโยน

    ยังมีแผลที่อื่นอีกหรือเปล่าครับ? เขาถามอีกครั้งเมื่อไม่ได้คำตอบจากปากผม

    ไม่มีครับ... ผมหลุบสายตาลงแล้วพยายามแกะเชือกให้เขาต่อ

    ก็ดีแล้ว...

    ผม... ผมเว้นจังหวะไว้ครู่หนึ่งก่อนจะเงยหน้าสบตากับคุณคิบอมอีกครั้งขอโทษนะครับ...ที่ไม่เชื่อใจคุณ คุณคิบอมหัวเราะเบา ๆ เมื่อได้ยินผมพูดแบบนั้น

    มันไม่ใช่ความผิดของคุณหรอกครับ มันอาจจะเป็นเพราะผมที่ทำตัวไม่น่าไว้ใจเอง

    ไม่ครับ...ไม่ใช่อย่างนั้น ผมปัดมือปฏิเสธเมื่อเขากำลังเข้าใจผิด

    ผมก็โง่หลงคิดว่าชเวซีวอนเป็นคนดีมาเป็นปี ๆ เขายิ้มราวกับปลงในเรื่องที่เกิดขึ้น

    คุณไม่โง่หรอก คุณก็แค่ไว้ใจคน ๆ หนึ่งมากก็เท่านั้น

    เรื่องนั้นช่างมันเถอะ...แต่ผมดีใจนะ

    ดีใจ? ผมขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าที่กำลังยิ้มบาง ๆ

     

     

    ผมดีใจ...ที่ได้เจอคุณอีกครั้งครับฮยอกแจ

     

     

     

     

    แอ๊ด...

     

     

     

    คัท! ตัดไปโฆษณาได้

    ผมหันหลังกลับไปมองตามต้นเสียงแล้วก็พบว่าอีทงเฮเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์นัก ผมเบิกตากว้าง รีบลนลานนั่งขวางคุณคิบอมเอาไว้

    โอ้โห...นอกจากจะไม่รีบเข้ามาแก้ตัวแล้วยังจะปกป้องกันอีกด้วย อีทงเฮแค่นยิ้มมองผมที่อ้าแขนออกกว้าง

    ถ้าจะทำอะไรก็ทำฉันคนเดียว คุณคิบอมเขาเจ็บมามากพอแล้ว

    ที่รักรู้ได้ยังไงครับว่าเขาเจ็บมามากพอแล้ว?

    ...

    เฮ้ นายน่ะ ยังไหวหรือเปล่า? เขาตะโกนถามคนที่นั่งอยู่ข้างหลังผม

    หรือว่าหงอจนต้องให้ผู้ชายตัวบาง ๆ อย่างนั้นมาออกหน้ารับแทน? อีทงเฮทำหน้ากวนประสาทนั่นทำให้คุณคิบอมเลือดขึ้นหน้า

    “!!!” เขาพยายามสะบัดตัวออกจากเชือกเส้นใหญ่ผมเลยห้ามเอาไว้

    แค่นี้มีโมโห... อีทงเฮพึมพำเบา ๆ ก่อนจะกะเทาะบุหรี่ออกมาจากซองเพื่อจุดสูบแล้วเดินไปนอนบนโซฟาตรงมุมห้อง ผมสำรวจดูตามตัวเขาว่ามีอาวุธติดมือมาไหม แล้วก็ดูเหมือนว่าเขาจะรู้เลยถลกเสื้อขึ้นให้ผมเห็นปืนที่เหน็บอยู่ตรงหัวกางเกง

    เมื่อกี้ยังนอนกอดผมอยู่ดี ๆ เผลอแป๊ปเดียวแอบหนีมาหาชายชู้ซะแล้ว

    ... ตอนนี้ผมถึงได้รู้ว่าพลาดที่เผลอใจอ่อนกอดปลอบไอ้เลวนี่ไป เขาแค่นหัวเราะแล้วพ่นควันบุหรี่ให้ลอยฟุ้งไปบนอากาศ

    อ้อ! ลืมบอกไปเลย อีทงเฮดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วชี้นิ้วมาที่คุณคิบอม

    หมวดซีวอนที่เคารพลางานให้คุณแล้วนะครับ

    ...

    เอ...ลางานหรือว่าลาออกให้นะผมชักไม่แน่ใจ แต่ผมว่าน่าจะลาออกให้ซะมากกว่าเขายิ้มกว้าง ดูสะใจกับเรื่องที่เพิ่งพูดไป

    แก... คุณคิบอมขบกรามแน่น ผมได้เพียงแค่วางมือไว้บนหน้าขาเพื่อเตือนให้เขาอย่าใจร้อนพูดอะไรให้อีทงเฮไม่พอใจออกไป

    ไม่เป็นไรครับ ถ้าขี้เกียจหางานใหม่ผมจ้างคุณได้นะ อีทงเฮพูดต่อ

    ...

     

     

    มาเป็นหมาบ้านผมสิครับ ผมจะเลี้ยงดูปูเสื่อเป็นอย่างดีเลยล่ะ...

     

     

    เขากระตุกยิ้มมุมปาก คุณคิบอมพยายามดิ้นให้หลุดออกจากเชือกอีกครั้ง ผมคิดว่าคราวนี้คงทำให้เขาโกรธจนถึงขีดสุดแล้ว

    หยุดนะอีทงเฮ!”

    ที่รักตะคอกผมทำไม~ ผมกำลังคุยกับคุณอดีตตำรวจหน้าใหม่อยู่นะ

    ฉันจะกลับห้อง พอใจแล้วใช่ไหม?!”

    พอใจเหรอครับ?

    ...

    ผมเผลอหน่อยไม่ได้รีบแอบมาพลอดรักกันลับหลังผมเชียว

    ...

     ทำไมเหรอครับ ชายชู้เขาทำได้ถึงใจที่รักมากเลยเหรอ? น้ำเสียงเหน็บแนมทำให้ผมรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ผมกำหมัดแน่นแล้วลุกขึ้นยืน

    ฉันจะกลับห้อง

    โอเค อาบน้ำให้ตัวหอม ๆ ด้วยนะครับ ผมจะได้กลับไปนอนกอดต่อ เขาพูดพร้อมกับโบกมือให้

    ก็ตามมาสิ อีทงเฮเลิกคิ้วมองเมื่อไม่คิดว่าจะได้ยินประโยคนั้นจากปากคนอย่างผม

    มาช่วยฉันอาบน้ำ... ประโยคนี้ช่างกระดากปากผมเสียเหลือเกิน ผมไม่กล้าหันไปมองหน้าคุณคิบอมในตอนนี้ แต่ผมก็พอจะเดาออกว่าเขาอยู่ในสีหน้าแบบไหน

    คุณฮยอกแจ?!”

    โอ๊ะโอ...

    ...

    ก็นะ...ในเมื่อที่รักขอมามีหรือผมจะปฏิเสธ อีทงเฮขยี้ก้นบุหรี่แล้วลุกขึ้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าผมพร้อมกับโอบเอวเอาไว้ เขาหันไปมองคนที่นั่งทำหน้าเจ็บใจอยู่บนพื้นแล้วก็ยิ้มกว้าง

    แต่ถ้าคุณสนใจอาชีพนั้นก็บอกผมได้นะ ไว้ผมจะซื้อปลอกคอสวย ๆ มาให้ใส่ แต่ตอนนี้ผมคงอยู่เล่นกับคุณไม่ได้...เพราะเดี๋ยวผมต้อง... เขาพูดพร้อมกับมองร่างกายผมด้วยสายตาโลมเลีย ผมหลุบตาลงไม่แม้แต่จะหันไปมองคุณคิบอมสักนิด...

     

     

     

    เพราะถ้าผมไม่หาวิธีพาอีทงเฮกลับไปด้วย คุณคิบอมคงถูกทรมานอีกแน่...

    เพราะฉะนั้นผมถึงได้...

     

     

     

     

     

    ไปกันเถอะครับ...ผมอยากช่วยที่รักอาบน้ำจะแย่แล้ว

     

     

     

     

     
     

     

     

     

     

    …To be continued...

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

    Talk

     

    คิบอมเป็นพระเอก พี่ทงมันเป็นตัวโกงนี่หว่า กรั่กๆๆๆ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×