ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] HAEEUN | "Illusion Secret" หลอกหลอนรัก

    ลำดับตอนที่ #10 : Chapter 9 :: Bleeding

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 56


       

      

     


     

     

    Chapter 9

    Bleeding

     

     



     

    ...

    ผมลืมตาขึ้นเมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังลอยตัวอยู่ แล้วก็พบว่าใครคนหนึ่งกำลังอุ้มผมเดินไปที่ไหนสักแห่ง...ซึ่งผมรู้สึกเบลอจนไม่รู้ว่ารอบข้างผมคือที่ไหน ใบหน้าหล่อได้รูปสายตาจดจ้องไปยังเบื้องหน้าทำให้ชั่ววูบหนึ่งผมลืมไปว่าเขาเป็นคนโรคจิตที่ผมเกลียดเข้าไส้

     

     
     

    เกลียด...จนอยากฆ่าให้ตาย...

     

     
     

    ผมไม่มีแรงที่จะดีดดิ้นอีก ผมรู้สึกหมดแรงหลังจากที่โดนโปะยาสลบหลังจากที่หันหน้าเข้าหาอีทงเฮ เขาคงเบื่อที่จะต้องกระชากลากดึงผมท่ามกลางฝูงคนเลยตัดปัญหาด้วยวิธีนั้น...อีทงเฮทำให้ผมสำนึกได้ว่าอย่าลองดีกับเขาถ้าไม่อยากให้แม่ผมกลายเป็นเหมือนซองมิน

     

    ตอนนี้เพื่อนผมจะเป็นยังไงบ้าง...ผมได้แต่ภาวนาให้เขากัดฟันอดทนออกมาจากห้องนั้นได้ เผื่อจะโชคดีมีคนมาเห็นแล้วช่วยพาไปส่งโรงพยาบาลได้ และถ้าโชคดี...ผมหวังว่าซองมินจะปลอดภัย

    ร่างของผมถูกโยนลงบนเตียงอย่างแรง ผมนิ่วหน้าเจ็บก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปอีกทางแล้วหยิบซองบุหรี่ที่อยู่บนหัวเตียงขึ้นมาจุดสูบ ควันสีเทาหม่นลอยออกมาจากริมฝีปากได้รูปนั่น มันส่งกลิ่นจนผมกระแอมออกมา

    แค่ก ๆ

    อีทงเฮนั่งลงขอบเตียงพลางจ้องมองผมที่นอนนิ่ง ๆ พร้อมกับพ่นควันบุหรี่ คราบเลือดแห้งกรังที่ขมับเขานั่นทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่าก่อนหน้านี้สร้างเรื่องอะไรเอาไว้ ตอนนี้ผมต้องทำอะไรนะ นอนรอความตาย...หรือว่าต้องนอนรอดูใครตายต่อหน้าผมอีก?

    ถือว่าเก่งนะครับ

    ...

    วิ่งไปไหนต่อไหนได้ทั้งที่ขาอยู่ในสภาพแบบนั้น

    ...

    ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ

    ...

    งอนผมเหรอ?

    ...

    ยังเจ็บแผลอยู่ไหม?

    ...

    ไม่ตอบ... เขาพูดเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนเดี๋ยวผมทำแผลให้นะครับ อีทงเฮเดินหายออกไปข้างนอก ผมไม่สนใจว่าเขาจะเดินไปไหนและจะกลับมาเมื่อไหร่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน

    พอนึกถึงซองมินกับคุณซีวอนแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง ผมหมดหวัง ไม่มีใครมาช่วยผมแล้ว...ทุกคนจะตายไปจากผมทีละคน...ทีละคน

    มาแล้ว...”

    ผมรู้สึกได้ถึงเตียงที่ยวบลงตรงข้างหลัง เขาขยับมาใกล้ ๆ พร้อมกับพลิกตัวผมให้หันไปหาเขา รอยยิ้มละมุนที่มาพร้อมกับมีดในมือนั่นทำให้ผมตกใจกับสิ่งที่เห็น

    ...!!” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วถอยกรูดจนแทบตกเตียงแต่อีทงเฮคว้าเอาไว้ได้ทัน เขาดึงแขนผมให้เข้าไปนั่งตรงระหว่างขาของเขาพร้อมกับกอดเอวผมเอาไว้

    ผมชอบอยู่ในท่านี้มากเลยล่ะ เขาเอาคางเกยไหล่ผมทั้งที่มีดอยู่ในมือ ผมปากสั่นพลางเหล่มองใบหน้าหล่อที่อยู่ใกล้ ๆ

    คุณนั่งตรงนี้...ให้ผมผมกอดจากข้างหลัง กระซิบบอกคำหวาน ๆ ที่ข้างหู โลกใบนี้...มีแค่ผมกับคุณเท่านั้นเขาพูดพร้อมกับรูดซิปเสื้อตัวนอกของผมแล้วค่อย ๆ ถอดออกอย่างช้า ๆ

     

     

    อย่านะ...

     

     

    อ้าว...ไม่ได้ใส่อะไรไว้ข้างในหรอกเหรอครับ~”

    ...

    ก็ดี...จะได้ไม่ต้องเสียเวลาถอดหลายชั้น เขาพูดแล้วโยนเสื้อของผมลงไปข้างล่างเตียง ผมนั่งตัวเกร็งเมื่อมือของเขากำลังเริ่มสัมผัสลูบไล้ร่างกายผม

     

     

    ปืน...อยู่ในกระเป๋าเสื้อ...

     

     

    “…รายต่อไปคือฉันใช่ไหม? ผมถามเสียวแผ่ว เขายิ้มขำแล้วจูบไหล่ผมเบา ๆ

    หมายความว่าไงครับรายต่อไป?

    ก็คนต่อไปที่แกจะฆ่า...” เขากุมมือผมไว้พร้อมกับกระชับกอดให้แน่นขึ้น ถ้าผมเป็นคนรักของเขา และเขาเป็นคนปกติ บางทีผมอาจจะรู้สึกดีกับสัมผัสนี้ก็ได้

    ใครจะไปฆ่าที่รักลงล่ะครับ... เขากระซิบพร้อมกับจับข้อมือผมขึ้นมาลูบอยู่ครู่หนึ่ง

     

     

    ความตายน่ะ...มันเหมาะสำหรับคนทรยศเท่านั้นแหละ

     

     

    อ...อ๊ะ...โอ๊ยยย!!!”

    ผมนิ่วเจ็บเมื่อเขาเอามีดกรีดที่ข้อมืออย่างช้า ๆ ผมชักมือออกตามสัญชาตญาณแต่กลับไม่เป็นผล เขายิ่งบีบข้อมือผมแน่นยิ่งขึ้นอีกและนั่นทำให้เลือดสีสดไหลออกมาอาบแขนจนเป็นทางยาว

    ร้องอีกสิครับ

    อ...ไอ้...ไอ้สารเลว!!! โอ๊ยยย!!!”

    เจ็บเหรอ? ไม่มั้ง...รอยแผลเดิมตรงนี้มันเป็นสิ่งยืนยันได้แล้วว่าคุณคลั่งไคล้การทรมานตัวเองมากแค่ไหนเขาพูดพร้อมกับลูบรอยแผลที่ผมเคยกรีดเอาไว้

    ...อึ่ก

    เก่งไม่ใช่เหรอครับ ทำไมร้องไห้กับเรื่องแค่นี้ล่ะ?

    ไปตายซะ...

    โอ๋เอ๋...ดูสิ...เบะปากอย่างกับเด็กเลยนะครับ

    ...

    ฮ่า ๆ

     

     

     

     

    แพล่ะ...แพล่ะ...

     

     

     

    เลือดสีแดงสดยังคงไหลออกมาจากข้อมือแล้วหยดลงไปบนผ้านวมสีขาว เสียงหัวเราะพอใจดังอยู่ข้าง ๆ หูผมแต่เขากลับไม่หยุดแค่นั้น ผมมือสั่น รู้สึกชาที่ข้อมือและแสบอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งที่ผมเคยทำมันมาแล้วจนนับครั้งไม่ได้

    ผมจะไม่ทำทับรอยเดิมแล้วกันนะครับ ผมอยากให้รอยแผลที่ผมทำอยู่กับที่รักไปตลอดชีวิตจัง เขาหอมซอกคอผมพร้อมกับกรีดข้อมือซ้ำ ๆ โดยที่ไม่มอง ผมได้แต่ร้องโอดครวญเพราะความเจ็บ ในตอนนี้เตียงสีขาวเต็มไปด้วยหยดเลือดสีแดงสดเต็มไปหมด

     

     
     

    เพราะทุกครั้งที่คุณมองมัน...คุณก็จะคิดถึงผม...

     
     

     

    อีทงเฮกระซิบเบา ๆ พร้อมกับบีบข้อมือให้เลือดไหลออกมามากกว่าเดิม น้ำตาผมไหลออกมาไม่หยุดพอ ๆ กับเลือดสีแดงสดนั่น แต่เขากลับไม่รู้สึกสงสารผมเลยสักนิด

    แน่ล่ะ...เขาเป็นคนโรคจิต สิ่งเดียวที่เขาจะรู้สึกสงสารได้ก็คือตัวของเขาเอง อีทงเฮประคองให้ผมเอนหลังพิงกับแผงอกเขาและผมก็ไม่สามารถฝืนอะไรได้อีกเพราะเสียเลือดมาก มือหนาจับข้อมือผมเอาไว้แล้วค่อย ๆ ใช้ลิ้นเลียไปตลอดความยาวของรอยแผล ผมนิ่วหน้าเจ็บตัวสั่นเทิ้มและหอบหายใจหนัก

     

     
     

    ไม่ต้องกลัวแล้วฮยอกแจ...

    ปล่อยให้มันไหลออกไปจนตายเถอะ...

     

     

     

    ต่อไปนี้นายจะไม่ต้องเจ็บปวดและมีชีวิตอยู่อย่างหวาดกลัวอีกต่อไปแล้ว...

    แค่ทนเจ็บอีกนิดเดียวเท่านั้น...

    เดี๋ยวทุกอย่างมันก็จบ...

     

     

     

    ผมปรือตามองอีกคนที่กำลังกระชับผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขา ริมฝีปากที่เต็มไปด้วยคราบเลือดกำลังยิ้มบาง ๆ ก่อนที่เขาจะโน้มใบหน้าลงมาจูบผม กลิ่นคาวเลือดที่คลุ้งเฝื่อนทำให้ผมทนกับสัมผัสนี้ไม่ได้

     

    ไหน ๆ ผมก็จะตายแล้ว...เรื่องอะไรที่ผมจะต้องยอมให้เขาทำอะไรตามอำเภอใจอีก?

     

    ผมเบี่ยงหน้าหลบแล้วใช้แรงทั้งหมดผลักเขาออกไป ผมหยิบมีดที่เขาใช้กรีดข้อมือผมเมื่อครู่ขึ้นมาแล้วชี้หน้าเขาทั้งที่มือสั่นไม่หยุด

    เข้ามาสิ... น้ำเสียงผมแห้งผาก เขานั่งมองผมเฉย ๆ แล้วก็ยิ้มออกมา

    วันนี้ถ้าไม่ใช่ฉัน ก็ต้องเป็นแกที่ต้องตาย... ผมพูดต่อ อีทงเฮยังคงปั้นหน้าเฉยแม้ว่าผมจะชี้มีดไปตรงหน้าเขา

    ผมมีตัวเลือกให้ที่รักอยู่สองข้อ

    ...

    ข้อแรก วางมีดลง แล้วนอนนิ่ง ๆ ให้ผมกอด

    ...

    ส่วนข้อที่สอง...” อีทงเฮเข้ามาหาผมแม้ว่ามีดจะชี้อยู่ตรงหน้าเขา มือหนากำปลายมีดเอาไว้โดยที่ไม่กลัวเลยว่ามันจะบาดมือเขาหรือไม่ แล้วมันก็ใช่อย่างที่คิด...เลือดสีแดงสดค่อย ๆ ไหลออกมาจากมือเขาจนหยดลงบนที่นอนเป็นต่างดวง

    “!!!”

     

     

     

    หรือจะให้ผมใช้มีดนี่ตัดเส้นเอ็นข้อเท้าแล้วปล้ำคุณบนเตียงที่มีแต่กลิ่นคาวเลือดนี่ทั้งวันทั้งคืนดีครับ?

     

     

     

    ปล่อย!”

    ผมพยายามชักมีดกลับแต่อีทงเฮกำไว้แน่นจนผมดึงไม่ออก เขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วโผเข้ามาขึ้นคร่อมทับผมในทันที และนั่นทำให้ผมเสียหลักจนมีดกระเด็นตกลงไปใต้เตียง ผมเบิกตากว้าง พยายามทุรนทุรายคลานไปเอามีดแต่ก็ขยับไม่ได้เพราะถูกอีกคนทับเอาไว้

    ในเมื่อเป็นแบบนี้ผมจะตัดสินเองแล้วกันนะครับว่าที่รักเลือกข้อสองเขากระตุกยิ้มมุมปากแล้วใช้มือข้างที่เต็มไปด้วยเลือดบีบกรามผมไว้แน่น ผมทั้งทุบแขน จิกแขนเขาแต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่สร้างความเจ็บปวดให้เขาสักเท่าไหร่

    เป็นอะไรไปครับ หมดแรงแล้วเหรอหื้ม?

    ...ผมแปะป่ายมือไปทั่ว จ้องมองเขาด้วยความโกรธแค้น

    อย่าเพิ่งหมดแรงสิครับที่รัก ผมยังสนุกอยู่เลยนะพูดจบเขาตบหน้าผมด้วยหลังมือฉาดใหญ่จนผมหน้าหันไปอีกทาง

    โดยรวมแล้วมันกี่ครั้งผมก็จำไม่ได้แต่ที่รู้ตอนนี้คือหน้าของผมชาไปหมด ผมนอนหอบหายใจหนักพลางปรือตามองใครอีกคนที่ยังคงคร่อมทับผมเอาไว้ ใบหน้าคมก้มลงมาใกล้พร้อมกับบีบกรามให้ผมเงยหน้าขึ้นก่อนที่เขาจะประกบริมฝีปากลงมาอย่างถือวิสาสะ

    อ...อื้อ!!!”

    ผมส่งเสียงร้องประท้วงในลำคอ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปหมดจนอยากอาเจียน ยิ่งตอนที่ลิ้นของเขาแทรกเข้ามาในปากผมยิ่งรู้สึกขยะแขยง ผมโกยอากาศเข้าปอดเมื่อเขาผละริมฝีปากออกแต่ก็ต้องนิ่วหน้าเมื่อถูกกัดริมฝีปากอย่างแรง ทันทีที่ลืมตาขึ้นผมก็เห็นหน้าของเขาได้ชัดเจน...สีหน้าที่เต็มไปด้วยความซาดิสม์ โรคจิตในที่เขาเป็น

    น่าหมั่นเขี้ยว...

    เขาพูดก่อนจะก้มลงมากัดริมฝีปากล่างของผมอีกครั้ง ผมผลักตัวเขาออกแต่ครั้งนี้มันไม่ยากเหมือนครั้งก่อน ๆ อีทงเฮผละตัวลุกขึ้นแล้วยิ้มอย่างผู้ชนะ เขามองบาดแผลฉกรรจ์ที่ฝ่ามือตัวเอง มันแผลใหญ่ไม่ต่างจากที่ข้อมือผมเลยแต่เขากลับยังนิ่งเฉยได้

    แสบใช้ได้เลยนะเนี่ย... เขาสะบัดมือตัวเองก่อนจะลุกขึ้นไปค้นเอาผ้าก็อชในกล่องออกมาพันมือตัวเอง ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะตาย...แต่ทำไมความรู้สึกแบบนี้มันทรมานจัง

     

     

    การเข้าใกล้ความตายมันเป็นแบบนี้นี่เองสินะ...

     

     

    ผมเคยคิดว่าการตายมันเป็นเรื่องง่ายมาตลอด แต่ผมก็ได้รู้ว่าตัวเองคิดผิดเมื่อได้รู้จักผู้ชายอย่างอีทงเฮ ผมค่อย ๆ คลานไปตรงขอบเตียงเพื่อหยิบมีดที่ตกอยู่ข้างล่างแต่ผมก็หยุดชะงักเมื่อเห็นเสื้อที่กองอยู่ไม่ไกลจากตรงนั้น

    จะไปไหนครับ ให้ผมอุ้มไหม? เสียงดังมาจากทางด้านหลังนั่นไม่ได้ทำให้ผมเลิกล้มความตั้งใจ ผมค่อย ๆ คลานจนตกลงจากเตียงในที่สุด

    อ๊ะ!”

    อู้ย...ท่าจะเจ็บ น้ำเสียงกวนประสาททำให้ผมกัดฟันกอด ผมคลานไปหยิบเสื้อตัวนั้นแล้วเอามากอดไว้แนบอกก่อนจะหันไปมองอีทงเฮที่กำลังหัวเราะเยาะผมด้วยความสมเพช

    ปิดไปทำไมครับ หน้าอกโตเหมือนนางแบบก็ว่าไปอย่าง

    ...

    ไม่ต้องใส่หรอกครับ เพราะต่อให้ที่รักใส่ใหม่อีกกี่ครั้ง ผมก็ถอดให้อีกอยู่ดี

    ผมค่อย ๆ ล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าเสื้อแล้วกำปืนขนาดเหมาะมือไว้แน่นพลางหยัดตัวลุกขึ้นยืนอย่างอ่อนแรง อีทงเฮยิ้มบาง ๆ ดูทุกการกระทำของผมก่อนจะเลิกคิ้วมองเมื่อผมหยิบปืนออกมาเล็งไปที่เขา

    ...

    มีอะไรจะสั่งเสียก่อนตายไหม... ผมถามพลางกลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ อีทงเฮสบตากับผมไม่ถึงสิบวินาทีเขาก็ขยับตัวขึ้นไปนอนบนโซฟายาว

    ง่วงจัง

    เหอะ...แม้กระทั่งตอนจะตาย แกยังอ้อล้อได้อยู่นะ... ผมแค่นหัวเราะ เขาหันมามองผมแล้วเบะปากน้อย ๆ

     

     

     

    ปัง!!

     

     

    หยุด!!”

    ผมหันไปมองข้างหลังเมื่อพบว่ามีผู้มาใหม่ถีบประตูเข้ามา ผมตกใจกับภาพที่เห็นแต่นั่นก็ทำให้ผมยิ้มออกมาได้อีกครั้ง...เมื่อคนที่กำลังถือปืนเล็งเข้ามาในห้องนี้คือ...

     

     

     

    คุณซีวอน!!”

     

     

     

    หืม?

    อีทงเฮเลิกคิ้วมองตำรวจร่างสูงที่อยู่ในสภาพบาดเจ็บ ผมเห็นเขาโพกผ้าพันแผลตั้งแต่ช่วงไหล่คาดว่านั่นคงเป็นรอยที่คุณคิบอมฝากเอาไว้

    คุณ...ยังไม่ตาย!” ผมรีบกระเผกขาไปหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ในที่สุดพระเจ้าก็ไม่ใจร้ายกับผมจนเกินไป คุณซีวอนหันมายิ้มให้ผมแม้ว่าเขาจะยังเล็งปืนไปที่อีทงเฮอยู่

    ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วซะอีก...คุณซีวอนครับ...หมอโจคยูฮยอนยังไม่ตาย ผมเห็นกับตา

    หมอคยูฮยอนเหรอครับ?คุณซีวอนทวนคำพูดพลางมองไปที่ไอ้โรคจิตนั่น

    ใช่ครับ! แล้วคุณคิบอมก็เป็นพวกเดียวกับมันด้วย ผมชี้อีทงเฮที่กำลังลุกขึ้นนั่งอ้าปากหาวหวอด ๆ  จนถึงตอนนี้แล้วเขาก็ยังไม่สะทกสะท้านอะไรเลยให้ตายเถอะ!!

    เฮ้! อย่ามาใส่ร้ายกันสิครับที่รัก!” อีทงเฮขมวดคิ้วตีหน้าตาย เห็นแบบนั้นผมยิ่งอยากให้คุณซีวอนเข้าไปล็อคคอมันเข้าตารางเสียเดี๋ยวนี้

    ไว้ผมจะเล่าให้ฟังทีหลัง ตอนนี้คุณจัดการกับคนโรคจิตอย่างเขาก่อนเถอะครับ ผมบอกร่างสูงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

    ...

    คุณซีวอนครับ?

     

     

     

    แต่เขา...กลับยืนนิ่ง...

    แล้วหันมามองผม...ด้วยรอยยิ้มแปลก ๆ ...

    พร้อมกับ...

    กระชากหัวผม...แล้วผลักไปที่เตียง...

     

     

     

    อ๊ะ!!!”

    เฮ้ อย่ารุนแรงนักสิ ที่รักของผมขาเจ็บอยู่นะ อีทงเฮพูดพร้อมกับเข้ามาประคองผมให้ลุกขึ้นยืนและไม่ลืมที่จะโอบรอบคอผมไว้จากข้างหลังซึ่งดูแล้วมันเหมือนกับล็อคคอเสียมากกว่า

    ...น...นี่มันอะไรกัน? ผมสับสนไปหมดจากเหตุการณ์เมื่อครู่ ทำไม...อยู่ดี ๆ ...?

     

    คุณซีวอนเก็บปืนเข้าที่ก่อนจะบิดขี้เกียจอยู่สองสามทีท่ามกลางเสียงหัวเราะพอใจของอีทงเฮ...เดี๋ยวสิ...ทำไม...?

     

    คุณซีวอน...

    นายทำให้เขาหุบปากทีได้ไหม คุณซีวอน คุณซีวอนอยู่ได้...น่ารำคาญชะมัด คุณซีวอนพูดพลางเดินไปรินเหล้าใส่แก้วใบเล็กเหมือนว่าเขาคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างดี น้ำตาของผมไหลออกมาอาบแก้มอีกครั้งเมื่อได้รู้ตอนนี้ว่า...

     

     

     

    ผมคิด...มาตลอด...

     

     

     

    อย่าดุฮยอกแจสิ เขาเป็นคนบ่อน้ำตาตื้น เอะอะก็น้ำตาไหลแล้ว ใช่ไหมครับคนดี?

    ฮึก...

    โอ๋เอ๋...ไม่ร้องนะครับอีทงเฮจูบขมับผมอย่างอ่อนโยนแต่นั่นก็ไม่ได้บรรเทาความเจ็บปวดในใจผมไปได้เลย

    คุณ...ก็เป็นพวกเดียวกันกับมัน...เหมือนคุณคิบอม... ผมมองคุณซีวอนด้วยความแค้น นี่ผมไว้ใจคนชั่วมาตลอดโดยที่ไม่รู้อะไรเลยสินะ

    คุณคิบอม คุณคิบอม... คุณซีวอน...ไม่สิ...ไอ้เลวซีวอนทวนคำพูดของผม

    คนนั้นที่ ๆ รักพูดถึงนี่เป็นใครเหรอครับคุณหมวดซีวอน? อีทงเฮถามไอ้ชั่วนั่นด้วยน้ำเสียงกวนประสาท ชเวซีวอนหัวเราะแล้วลุกขึ้นเดินไปหยุดอยู่หน้ากระจก

    ใช่ชายชู้ที่ฆ่าคุณนายฮโยริของฉันหรือเปล่า? ชเวซีวอนดีดนิ้วดังเป๊าะ ในตอนนี้ผมรู้สึกแปลก ๆ และมันอาจจะเป็นอย่างที่ผมคิดว่า...

     

     

     

    ไอ้ตำรวจหน้าใหม่นั่นแหละที่ฆ่าคุณนายฮโยริของแก

     

     

     

    ...

    ว่าไงนะ? ตำรวจหน้าใหม่งั้นเหรอ? ถ้าเจอจะเช็คบิลให้สาสมเลย!” อีทงเฮตะเบ็งเสียงทำเหมือนโกรธเสียเต็มประดา แต่เอาจริง ๆ แล้วผมว่าเขาก็แค่แกล้งทำเป็นโมโหเท่านั้น

    จัดไปครับ ชเวซีวอนพูดพร้อมกับเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้า และสิ่งที่สร้างความตกใจให้ผมมากนั่นก็คือ...ร่างคุณคิบอมที่หมดสติและล้มลงมาในสภาพถูกมัดไว้กับเก้าอี้

     อ๊อ...ไอ้หมอนี่นี่เอง?

    ใช่

    ค...คุณคิบอม... ผมพูดเสียงสั่นเมื่อมองไปยังใครอีกคนที่ยังคงไม่ได้สติ อีกทั้งยังมีรอยฟกช้ำอยู่ตามใบหน้าอีกด้วย

    แล้วเสียงปืนในโทรศัพท์ตอนนั้น?!” ผมเงยหน้าขึ้นมองชเวซีวอน เขายกมือสองข้างขึ้นระดับหัวไหล่ทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้

    เสียงปืน?

    แกสร้างเรื่องขึ้นมาใส่ร้ายเขาใช่ไหม?!” ผมตะโกนเสียงดังด้วยความโทสะพร้อมกับพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดอีทงเฮ

    คนโง่ย่อมตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดนี่ครับ...

    ...

    ไอ้เด็กนี่มันสู่รู้เกินไป ผมก็เลยสร้างเรื่องให้คุณเข้าใจผิดมันนิดหน่อย แต่น่าแปลกที่คุณดันเชื่อซะสนิทใจ

    ...

    ผมเป็นคนบอกให้มันไปรับตัวคุณออกมาจากบ้านทงเฮ หลังจากนั้นก็ทำเป็นชื่นชมว่ามันเก่งเกินตำรวจหน้าใหม่ที่เข้าไปเสี่ยงตายแบบนั้น ผมเป็นคนขอให้คุณไปอาศัยบ้านมันชั่วคราว เป็นคนขอให้มันรับโทรศัพท์คุณแทนแล้วก็โกหกมันว่างานเสร็จแล้วจะรีบตามไปทีหลัง ถ้าคุณฉลาดกว่านี้สักนิด คุณคงถามมันแต่พอดีว่าคุณดันโง่...

    ...

    ส่วนเรื่องถูกยิง ผมก็แค่โทรหาคุณแล้วก็เรียกชื่อมันก่อนจะยิงปืนในสนามฝึกก็เท่านั้น ง่ายจะตายไป

     

     

     

    แล้วคอนโดเพื่อนคุณอยู่แถวไหน ผมจะออกไปรับคุณเดี๋ยวนี้

    ผมรอคิบอมแต่งตัวอยู่น่ะ...อ้าวคิบอมทำไมนาย? ...ปัง!!!!’

     

     

     

    ...

    ถ้ามันไม่ยุ่งเรื่องของชาวบ้าน มันก็ไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้ ชเวซีวอนแกะผ้าพันแผลออกแล้วใช้เท้าเขี่ยคุณคิบอมที่สลบอยู่บนพื้น ผมร้องไห้ออกมาอย่างหนักเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อก่อนหน้านี้ ผมระแวง ผมกลัว ผมทำร้ายร่างกายคุณคิบอมเพราะคิดไปเองทั้งหมด...

    ส่วนปืนในมือน่ะ ก็ปืนของเล่นเด็กเขาแค่นหัวเราะพลางมองมาที่มือผม

    ผมเอาปืนที่เขาเคยให้ขึ้นมาดูก่อนจะเล็งไปที่เขาแม้ว่าอีทงเฮจะกอดผมเอาไว้อยู่

     

     

     

     

     แป่ะ แป่ะ...

     

     

     

    ทันทีที่ผมกดเหนี่ยวไกเสียงปืนหลอกเด็กก็ดังขึ้นมา พอเห็นอย่างนั้นชเวซีวอนก็แกล้งกุมหัวใจไว้ราวกับถูกยิง ผมปล่อยให้ปืนหลอกเด็กนั่นตกลงไปบนพื้นแล้วมองไปข้างหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า

    โอ๊ย...เจ็บจังเลย~”

    ...

     

     

     

    ป...ปืน?’

     

     ‘ใช่ ถ้าเกิดอะไรขึ้นคุณจะได้ป้องกันตัว

     

      

     

     

    ร้องไห้จนตาบวมไปหมดแล้วนะครับคนดี อีทงเฮใช้นิ้วหัวแม่มือไล้น้ำตาออกให้ผมอย่างเบามือ ผมแทบทรุดลงไปกับพื้นเพราะรู้สึกผิดจับใจ

     

     

     

    คุณคิบอม...ผมขอโทษ...ผม...ผมขอโทษ!!!

      

     

     

     

    คุณตำรวจหน้าหล่อจะหลับนานเกินไปแล้ว หมวดช่วยปลุกเขาหน่อยนะครับ นี่มันเรือนหอของผม ไม่ใช่โรงแรม อีทงเฮพูดสุภาพแต่ผมคิดว่ามันคงเป็นคำสั่งเพราะชเวซีวอนก็ทำตามอย่างง่ายดาย

    แค่ครู่เดียวชเวซีวอนก็เดินกลับมาพร้อมกับถังน้ำ เขาสาดมันลงไปใส่ตัวคนที่หมดสติอยู่บนพื้นและมันก็ได้ผล น้ำหนึ่งถังทำให้คุณคิบอมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในทันที

    อึ่ก!!”

    มันเซ~” อีทงเฮจับมือผมข้างหนึ่งไปตบกับมืออีกข้างของเขา ซึ่งผมก็ไม่ได้ขัดขืนอะไรเพราะรู้สึกผิดกับภาพตรงหน้าเหลือเกิน

    คุณฮยอกแจ!”

    คุณคิบอม...ผมขอโทษ...ผมปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก ผมไม่อยากจินตนาการเลยว่าจะเป็นยังไงถ้าเกิดเขาถูกสองคนนี้ฆ่าต่อหน้าผม...

    ... คุณคิบอมลดสีหน้าลงทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากผมไปไหน

    ได้โปรด...ปล่อยเขาไปเถอะ ฉันขอร้อง ผมหันหน้าเข้าหาอีทงเฮ เขาเลิกคิ้วมองผมแล้วทำตาปริบ ๆ

    ที่รักกำลังขอร้องผมอยู่เหรอ?

    ผมไม่ตอบอะไรได้เพียงแค่ยืนสะอื้นตรงนั้นและหวังว่าเขาจะเห็นใจคำขอที่ไม่มีความเป็นไปได้ครั้งนี้ อีทงเฮโอบใบหน้าผมเอาไว้ เขายิ้มบาง ๆ แล้วไล้น้ำตาออกให้

    ตาบวมหมดแล้ว... น้ำเสียงทุ้มนุ่มพูดพร้อมกับริมฝีปากที่จูบลงบนเปลือกตา ผมไม่ได้ปฏิเสธสัมผัสนี้และยินยอมให้เขาทำทุกอย่าง ถ้าเขาจะปล่อยคุณคิบอมไป

    หมวดซีวอนครับ ได้ยินคำขอของฮยอกแจที่รักแล้วใช่ไหม?

    หืม? จะให้ฉันปล่อยไอ้เด็กนี่จริง ๆ น่ะเหรอ?

    โธ่...คนรักที่ดีไม่ควรขัดใจนี่ครับ...อีทงเฮพูดติดตลกแล้วกดหัวผมให้ซบลงกับไหล่เขา

    ขืนปล่อยมันรอดออกไปต้องไม่ดีกับเราทั้งคู่แน่

    ผมคิดผิดมาตลอดเลยสินะว่าพี่เป็นคนดี... ทุกคนเงียบเมื่อได้ยินเสียงคุณคิบอมพูดขึ้น

    พี่ทั้งยิงปืนเก่ง สุขุม เอาการเอางาน เป็นคนที่ผมเคารพและอยากเดินรอยตาม คุณคิบอมพูดทั้งที่ไม่เงยหน้าขึ้นมา

     

     

     

    แต่ถ้ารู้ว่าพี่เป็นคนโรคจิตแบบนี้...ผมว่าผมเดินตามรอยหมาซะยังดีกว่า

     

     

     

    โอ้โห...เหมือนถูกตบหน้า อีทงเฮพูดขณะที่ชเวซีวอนยืนมองคุณคิบอมที่นอนอยู่บนพื้นด้วยแววตาเฉยชา

    ใจเย็น ๆ นะครับหมวด หายใจเข้าลึก ๆ ~” อีทงเฮพูดด้วยน้ำเสียงกวนประสาท ผมว่าเขากำลังยุให้ชเวซีวอนสติแตกแล้วทำร้ายคุณคิบอมเสียมากกว่า

     

     

     

     

    อย่า...คุณคิบอม...หยุดพูดได้แล้ว...

     

     

     

     

    ทงเฮ

    ว้อท?

    ไอ้เด็กนี่น่ะ...ฉันขอแล้วกันนะ ชเวซีวอนพูดพร้อมกับแก้มัดคุณคิบอมให้ออกจากเก้าอี้แล้วกระชากให้ลุกขึ้นยืนจนคุณคิบอมทรงตัวอย่างทุลักทุเล ผมจะออกไปช่วยเขาแต่ก็โดนอีทงเฮรวบตัวไว้ซะก่อน

    เอาสิ ฉันยกให้

    ขอบใจ ชเวซีวอนกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะลากคออีกคนออกไปข้างนอก คุณคิบอมได้แต่หันมามองผมเป็นครั้งสุดท้ายโดยที่ผมทำอะไรไม่ได้เลย...

     

     

     

     

     

     

     

    ไม่นะ...อย่าทำเขา!!! ได้โปรด!!! อย่า!!!!”

     

     

     

     

     

     

     
     

     

    …To be continued...

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

    Talk

     

    คือมีคนเดาถูกหลายคนเลยนะ ที่สงสัยพี่ซีวอนอ่ะ คิคิคิ

    #คิบอมเป็นพระเอกเถอะค่ะ

     



       

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×