คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO
คู่กรรม
โชคชะตากำหนดไว้แล้วว่าผมควรจะเป็นอะไร
และผมก็จะเป็นแบบนั้นต่อไป ไม่ว่าใครหน้าไหนจะขัดขวางผมก็ตาม!
เสียงปรบมือรัวควบคู่มากับเสียงกรีดร้องของนักศึกษาสาวมากมายดังแซงแซ่กันข้ามคณะจนแยกแยะไม่ออกว่าเสียงที่ดังที่สุดมาจากคณะไหนกันแน่ ร่างโปร่งโค้งหัวขอบคุณก่อนจะยืนยิ้มให้กล้องเมื่อได้รับสายสะพายประจำตำแหน่งเดือนคณะสถาปัตย์ ‘โจคยูฮยอน’ แค่นหัวเราะพลางยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ทำนองว่าต่อให้กูหลับตาเดินขึ้นมาบนเวทีเฉยๆ โดยที่ไม่ต้องเกากีตาร์โชว์สาวก็เอาชนะพวกที่เข้าประกวดได้แล้ว มันเป็นอะไรที่พระเจ้ากำหนดไว้อยู่แล้วไงครับว่าตำแหน่งนี้มันต้องเป็นของผม
“ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณทุกๆ คนที่มาให้กำลังใจพวกเราทั้งสิบคนครับ ผมรู้สึกเป็นเกียรติจริงๆ สำหรับตำแหน่งนี้ ผมจะพยายามคว้าตำแหน่งเดือนมหาลัยมาฝากชาวสถาปัตย์ให้ได้ คอยดูนะครับ!” ประโยคโคตรหล่อซึ่งขัดกับสันดานหลุดออกมาทำเอาสาวๆ และเหล่าเคะระทวยกันไปตามๆ กัน รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ถูกส่งไปยังใครอีกคนที่นั่งดูอยู่ข้างหน้าพร้อมกับขยิบตาให้
“น้องคยูฮยอน~~”
“น่าร๊ากกกกกกกกก แอร๊~~~”
ก้าวลงจากบันไดเวทีทำเหมือนไม่สนใจกล้องที่กำลังจับภาพเขาไม่หยุดก่อนที่นักศึกษามากมายจะเริ่มทะยอยออกจากลานกว้างใต้ตึกเหลือเพียงใครคนหนึ่งที่ยืนอยู่รอเขาตรงนั้น ร่างบางอมยิ้มก่อนจะยื่นดอกกุหลาบหนึ่งดอกให้ร่างโปร่ง คยูฮยอนเลิกคิ้วมองคนรักก่อนจะรับมันมาถือไว้
“ว่าไงครับคนดี”
“เมื่อกี้สาวๆ กรี๊ดตรึมเลยนะ”
“ที่รักไม่ชอบเหรอ ถ้าไม่ชอบเดี๋ยวเค้าสละสิทธิ์ให้ไอ้เชี่ยหลัวเป็นแทนก็ได้นะ” พูดกลั้วหัวเราะทำเอาอีกคนหัวเราะตามไปด้วย คยูฮยอนเดินไปกอดคอคนรักพลางหันมองซ้ายขวาสำรวจดูว่ายังมีคนอยู่ไหมก่อนจะกดจูบลงบนขมับอีกคนฟอดใหญ่ให้หายหมั่นเขี้ยว
อีฮยอกแจคนรักของเขาที่สปาร์คกันตอนวันจบการศึกษาระดับชั้น ม.ปลาย ตามจีบมาตั้งนานสุดท้ายฮยอกแจก็ยอมใจอ่อนตกลงปลงใจคบกันกับเขา ที่ยิ่งกว่านั้นคือคยูฮยอนไม่คิดไม่ฝันว่าฮยอกแจจะยอมตามมาเรียนมหาลัยเดียวกัน คือชวนเล่นๆ ไง? จริงอยู่ที่คยูฮยอนกำลังเห่อแฟนคนนี้แต่ถือว่าเป็นความโชคดีที่ร่างบางไม่ลงคณะเดียวกับเขา ไม่งั้นคงซ่าไม่ออกแน่
“ลงทุนมานั่งเชียร์ข้ามคณะแบบนี้รักตายเลย”
“ให้จริงเถอะ ถ้าไม่มานั่งเฝ้าเดี๋ยวตัวเองไปหลีคนอื่นอีก”
“หลีใครอี๊กกก เค้ามีแต่ที่รักคนเดียวนะ ไม่เชื่อค้นมือถือดูได้เลย ถ้าเจอชื่อมีพิรุธยอมให้ตบกระบาลแยกอ่ะ” พูดพร้อมกับยื่นมือถือให้อีกฝ่ายเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่หารู้ไม่ว่ากูลิสต์รายชื่อไว้ในสมุดบันทึกแล้ว จ้างก็หาไม่เจอหรอกลูกเจี๊ยบ -.-
“อย่าเวอร์ได้ป่ะ” ฮยอกแจหรี่ตามองคนข้างๆ ที่พยายามแสดงความบริสุทธิ์ใจจนดูเกินจริง ร่างบางแกะมืออีกคนออกก่อนจะเดินนำไปข้างหน้า
“เอ้า ที่รักจะไปไหนอ่ะครับ?”
“กลับคณะสิ ตอนนี้เขากำลังวัดคะแนนกันอยู่ว่าใครจะได้เป็นเดือน”
“โหย จะไปสนใจผู้ชายคนอื่นทำไม...พ่อยอดขมองอิ่มอยู่นี่ทั้งคนแล้ว” เดินหน้างอเข้าไปกอดคนรักพร้อมกับทำตาปริบๆ ฮยอกแจเห็นอย่างนั้นเลยหมั่นเขี้ยว เอามือดันหน้าออกไปแรงๆ ทีหนึ่ง
“เฮ้ยคยูฮยอนไปเปล่า เด็กวิศวะเหลือสามคนสุดท้ายแล้วนะเว้ย คู่แข่งหมายเลขหนึ่งของมึงก็อยู่ในนั้นด้วย” คยูฮยอนคิ้วกระตุกเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่า ‘คู่แข่งหมายเลขหนึ่ง’ และจะเป็นใครไปไม่ได้เลยคือไอ้มนุษย์ลักยิ้มคนนั้น
ชเวซีวอน...
“ไปด้วยกันไหม?”
“ไม่เอาอ่ะ ตัวเองเห็นเค้าเปล่า เนี่ยอ่ะเนี่ย” แอ่นตัวให้คนรักดูสายสะพายที่พาดอยู่เรือนร่างสุดเพอร์เฟคที่ขาดซิคแพคของเขา ฮยอกแจถอนหายใจก่อนจะส่ายหน้าระอา
“งั้นก็อยู่นี่ไปแล้วกัน”
“ตัวเองจะทิ้งเค้าไปดูไอ้ซีวอนอ่ะดิ?”
“ก็ดูทุกคนที่ลงแข่งนั่นแหละ เค้าเรียนคณะนั้นนะอย่าลืมสิ”
“ก็ได้ งั้นตัวเองไปเลย เดี๋ยวเค้าจะไปกินเหล้ากับเพื่อนละ แล้วก็ไม่ต้องตามไปดูด้วยนะ” คยูฮยอนยืนกอดอกหวังจะให้คนรักเข้าไปง้อ ฮยอกแจมองร่างโปร่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะยักไหล่น้อยๆ แล้วเดินออกไปปล่อยให้ใครอีกคนยืนตาเหลือกอยู่ตรงนั้น
“ฮ...เฮ้! ที่รักจะไม่ง้อเค้าหน่อยเหรอ ฮยอกแจอ่า!” ดูเหมือนว่าอีฮยอกแจจะเริ่มปีกกล้าขาแข็ง ไม่สิ...โจคยูฮยอนน่ะตกเป็นเบี้ยล่างของอีฮยอกแจมาตั้งนานแล้ว โห...คิดว่ากูตามจีบแล้วจะทำยังไงก็ได้สินะครับที่รัก เดี๋ยวมึงเดี๋ยว คืนนี้ล่ะกูจะคั่วน้องซองมินขวัญใจช่างภาพเอาให้ช้ำใจเล่นเลยคอยดู
พอลับสายตาไปแล้วถึงได้รู้ว่าตัวเองยืนง่าวอยู่ตามลำพังท่ามกลางเศษก้านกุหลาบและบรรดาขยะมากมาย มองซ้ายขวาแล้วก็รู้สึกได้ว่า เอ...แล้วกูมัวยืนทำอะไรอยู่ตรงนี้ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงสแลคสีดำแล้วเดินออกไปอย่างภาคภูมิใจพร้อมกับสายสะพาย
“คยูฮยอน!”
“ว่าไง” หันไปหาเพื่อนที่เพิ่งรู้จักกันมาไม่นานนักแต่ก็ถือว่าไอ้เชี่ยนี่แหละสนิทกับเขาที่สุดแล้ว มันชื่อ ‘เฮนรี่ หลัว’ หรือที่ใครๆ ก็เรียกมันว่าไอ้เชี่ยหลัว ไอ้หน้าตี่วิ่งหอบมาหาเขาพร้อมกับชี้ไปยังคณะที่อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้
“เมื่อกี้...เมื่อกี้กู...กูได้ยินว่าอริมึงได้เป็นเดือนว่ะ”
“-_- มึงว่าไงนะ?”
“เออจริงๆ ตอนแรกก็ลุ้นอยู่นานเลย เด็กวิศวะบอกว่าคะแนนสูสีกับเด็กจีนที่ชื่ออู๋ฟานเลยมึง ดุเดือดสูสีชิบหาย นี่กูอุตส่าห์ซื้อกุหลาบไปเป็นช่อเพื่อโหวตให้ไอ้อู๋ฟานแล้วนะ แต่อริมึงก็ยังชนะอยู่ดี”
ได้ยินคนตรงหน้าพูดแบบนั้นแล้วก็กระตุกยิ้มมุมปาก คนอย่างไอ้ซีวอนน่ะเหรอจะเอาตำแหน่งนั้นไปแดกได้ง่ายๆ ได้ข่าวว่าพี่ชายมันเป็นประธานปีสี่ ไหนจะบ้านรวยคงเกณฑ์คนไปเป็นหน้าม้าซื้อดอกไม้ให้แน่ๆ คนอย่างแม่งน่ะนะจะเอาชนะอย่างใสสะอาดได้ ไม่มีทางหรอก
“ไปดูป่ะมึง” เฮนรี่เขย่าแขนอีกคนเบาๆ พลางหันไปมองต้นเสียงที่ดังมาจากตึกวิศวะ ณ จุดนี้จะแดกน้ำลายตัวเองดีหรือไม่ ถ้าไปเหยียบที่นั่นมันก็จะดูเสียฟอร์มไปป่ะครับแบบว่าเป็นเดือนคณะสถาปัตย์ไง ถ้าคนแถวนั้นเห็นคงจะแซะกันเบาๆ ว่า ‘คงมาดูคู่ต่อสู้ล่ะสิ’ อะไรเทือกนั้นมันก็ไม่คือนะ
เพราะฉะนั้นก่อนอื่นกูต้อง...
ผ่าง!
“พับให้เรียบร้อยแล้วเก็บใส่กระเป๋ากูอย่างเป็นระเบียบ กูจะเสด็จไปที่คณะโกโรโกโสนั่น ณ บัดนี้” คยูฮยอนวางสายสะพายที่เพิ่งถอดออกเมื่อครู่ลงบนมือคนที่แบรอรับอยู่แล้ว เฮนรี่รับมาอย่างรู้งานก่อนจะเดินตามร่างโปร่งไปทั้งที่กำลังพับสายสะพายอยู่
“กูจะแสร้งทำเป็นว่าไปตามหาแฟนแล้วกันนะ มึงต้องแสดงละครให้สมจริงด้วยรู้ไหม?” เฮนรี่พยักหน้าหงึกอย่างรู้งาน
“ฮยอกแจ ฮยอกแจอ่า! ลื้ออยู่หนาย~”
“ตะโกนหาพ่องเหรอสัด กูให้มึงแสดงละครตอนถึงหน้าตึกวิศวะโน่นไม่ใช่ตรงนี้!” หันไปขบหัวไอ้เจ๊กตาตี่ที่ทำท่าสะดุ้งราวกับกลัวหมัดลุ่นๆ ของคยูฮยอนจะซัดเข้าที่หน้า
“โอเค ก็ซ้อมบทก่อนงาย...ลื้อก็...”
“เชี่ยนี่...” พึมพำเบาๆ แล้วเอี้ยวตัวหันกลับไปอีกครั้ง
ตอนนี้เขาทั้งคู่เดินเข้ามาในใต้ตึกวิศวะแล้ว คนแม่งจะเยอะไปไหนวะครับ เอาตรงๆ แล้วเด็กคณะอื่นก็แห่มาเชียร์กันซะเยอะ พวกนี้แม่งว่างกันมากไงวะ ทีตอนกูประกวดไปมุดหัวอยู่ไหนกัน
ชะเง้อหน้ามองบนเวทีเผยให้เห็นร่างสูงโปร่งที่กำลังระบายยิ้มไปรอบๆ พร้อมกับสายสะพายและช่อดอกไม้ช่อใหญ่ คยูฮยอนยืนกอดอกเบะปากพร้อมกับกระดิกตีนอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินเสียงกรี๊ดที่ดังขึ้นเรื่อยๆ
“ผมไม่คิดเลยว่าจะได้รางวัลนี้ แต่ก็ต้องขอบคุณทุกคะแนนที่โหวตให้ผมแล้วก็เพื่อนร่วมสถาบันทุกคนที่เข้ามาดูนะครับ”
หล่อตายอ่ะสัด คำพูดตามสคริปท์เหี้ยๆ
“ก่อนอื่นผมต้องขอบอกพี่น้องชาววิศวะก่อนว่าอย่าคาดหวังอะไรในตัวผมนัก ผมเองก็เป็นเพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ได้มากความสามารถอะไร ตำแหน่งเดือนมหาลัยผมคงไม่ได้มาง่ายๆ แน่”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด”
“น้องซีวอนหล่อที่สุดดดดดดดดดดดดดด”
“ถุ้ย” คยูฮยอนยักไหล่ก่อนจะแทรกผู้คนออกจากตรงนั้น ทนดูไม่ได้แล้วครับ จู่ๆ ตาก็เริ่มร้อนขึ้นมาเพียงแค่เห็นว่าคนอื่นเอาแต่สนใจไอ้มนุษย์ลักยิ้มนั่นมากกว่าผม
.
.
คืนวันนั้นก็เป็นอีกวันที่โจคยูฮยอนนัดสังสรรค์กับเพื่อนในคณะและพี่รหัส เสียงเพลงแด๊นซ์ปลุกอารมณ์วาบหวามให้ชายหนุ่มอยากลุกขึ้นไปวาดลวดลายโชว์สาวบนฟลอร์เสียเหลือเกิน วันนี้วันปล่อยผี ฮยอกแจไม่มาด้วยแบบนี้คงหนีบใครกลับหอไปได้สักคนล่ะวะ
“คยูฮยอน~”
“จ๋าจ๊ะ~”
“วันนี้แฟนไม่มาด้วยเหรอคะ~”
“แฟนมี แฟนพี่ต้องมา นี่แฟนไม่มา...”
“ก็เพราะว่าแฟนไม่มี 5555555555555~” ต่อเพลงตามอีกคนก่อนจะหัวเราะลั่น หมดอิมเมจสาวน่ารักแอ๊บแบ๊ว คิมแทยอนดาวคณะมนุษย์ศาสตร์ชนแก้วกับคนตรงหน้าก่อนจะกระดกอึกๆ จนหมดแก้วทำเอาคยูฮยอนหุบยิ้มไปในทันที ถ้าจะแดกเหมือนสามล้อถูกหวยขนาดนี้น่ะนะ วันหลังก็ต่อท่อเข้ารูจมูกเถอะเธอ จริงอยู่ว่าแม่นี่เป็นถึงดาวคณะที่ใครๆ อยากคั่ว แต่เอาตรงๆ ป่ะครับ...รั่วแบบนี้ก็ไม่ไหวนะคือผมกลัวนางจะระเบิดหัวเราะแบบไร้สาเหตุตอนผมกับนางกำลังเก็บเห็ดบนเตียงไง
เดินออกมาข้างนอกหวังจะดูดหรี่สักตัวก็ต้องชะงักเมื่อหันไปเห็นใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ ดูเหมือนว่าคนๆ นั้นจะมองไม่เห็นหัวเขาเลยสักนิด เฮ้ย! ได้ไงวะ!
“ฮยอกแจ!”
“เอ๋? อ้าว...ตัวเองก็มาเหรอ?” นัยน์ตากลมโตที่กรีดอายลายเนอร์มาอย่างงามมองเขาด้วยความสงสัย โหแม่งเมื่อกี้กะจะวิ๊บใส่สักดอกแต่ต้องเปลี่ยนความคิดใหม่แล้ว วันนี้ที่รักโคตรน่ารักเลยนะครับ...นะครับ...
“มาดิ แล้วตัวอ่ะมาได้ไง ไหนบอกว่าไม่กินเหล้า?” คยูฮยอนเลิกคิ้วมองคนรักที่ทำตาปริบๆ อยู่ตรงหน้า อย่าๆ อย่ามาทำหน้าแบ๊วกลบเกลื่อนเลยดีกว่า
“ก็วันนี้พี่รหัสโทรตามให้เค้าออกมาน่ะ ฉลองที่ซีวอนได้เป็นเดือนคณะแล้วตัวเองมานานหรือยัง?”
“นานมาก ดูดหรี่ไปแปดตัวแล้ว” จ้องดวงหน้าหวานพร้อมกับพ่นควันบุหรี่ใส่หน้าอีกคนเป็นเชิงกวนประสาท ฮยอกแจปัดควันออกก่อนจะกระแอมเบาๆ
ก็รู้ครับว่าฮยอกแจไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แต่ขอแกล้งแม่งซักทีเหอะ หมั่นเขี้ยว -.-
“แค่กๆ”
“ฮยอกแจ!” เสียงของใครอีกคนทำให้ทั้งคู่ต้องหันไปมอง เผยให้เห็นผู้ชายคนหนึ่งส่วนสูงก็ไม่ได้ต่างอะไรไปจากฮยอกแจนักกำลังวิ่งเข้ามา ใส่แจ็คเกทสีดำ เซทผมตั้งมึงคิดว่าตัวเองหล่อหรือไงวะ
“อ้าวทงเฮ”
“เรากะแล้วว่าฮยอกแจต้องมาเวลานี้ ว่าแต่ใครสูบบุหรี่นะ...” ไอ้เตี้ยที่ชื่อทงเฮทำท่าปัดๆ จมูกราวกับคนแพ้กลิ่นบุหรี่ คยูฮยอนเห็นอย่างนั้นแล้วก็ขึ้นเล็กน้อยถึงปานกลาง ดูสายตามันที่มองแฟนเขาสิ
“กูเองครับ”
“อ่า...” ทั้งคู่สบตากันก่อนที่คยูฮยอนจะยักคิ้วให้ทีนึง เอาสิครับเตี้ยๆ แบบนี้กูจะทุบให้ยุบไปใต้แกนโลกให้ดู ทำซ่ามายุ่งกับแฟนกูเหรอ
“ทงเฮ นี่คยูฮยอนแฟนเราเอง” นั่นแหละคือสิ่งที่ฮยอกแจควรจะทำมานานแล้ว บอกให้มันตัดใจซะเพราะตีนกูหนักหน่วงมากครับถ้าได้ยันหน้าใครทีนึงคงได้หยอดข้าวต้มไปหลายเดือน
“อ๋อ คนนี้ใช่ไหมที่เป็นเดือนคณะสถาปัตย์น่ะ”
ข้อดีของไอ้เตี้ยนี่ก็มีเหมือนกันเว้ย อย่างน้อยมึงก็หัดศึกษาข้อมูลคนดังในมหาลัยบ้างอะไรบ้าง งั้นกูจะลดโทษให้มึงครึ่งนึงแล้วกัน
“อื้อ แล้วซีวอนมาหรือยัง?”
“มาแล้วล่ะ มันกำลังจอดรถอยู่ เราเข้าไปกันเลยไหมหรือว่าฮยอกแจจะอยู่กับแฟนก่อน”
ไอ้ห่านี่พูดถึงบุรุษที่สามอย่างกูก็ช่วยหันมาสบตากูบ้างเถอะครับ เอาแต่มองหน้าฮยอกแจอยู่นั่น หน้าแฟนกูจะสึกหรอหมดแล้ว
“เราเข้าไปกันเลยก็ได้ เพราะคยูฮยอนคงจะสูบบุหรี่ต่อน่ะ”
ผ่าง!
“เฮ้.....” หันไปมองทั้งคู่ที่กำลังเดินเข้าไปในผับด้วยกันด้วยอาการหน้าแห้ง ได้เพียงแค่กวักมือเรียกไหวๆ แต่พูดอะไรไม่ออก อารมณ์ตอนนี้เหมือนโดนแย่งแฟนอ่ะครับแต่ไม่ใช่ คือแค่แกล้งพ่นควันบุหรี่ใส่แค่นี้ทำงอนเหรอ
“แม่ง” พึมพำก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วพบกับใครคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามาใกล้เขาทุกทีๆ พอเห็นอย่างนั้นแล้วก็อดที่จะมองด้วยหางตาไม่ได้
“โอ๊ยยย อากาศเป็นพิษจริงโว้ยแถวนี้...” พูดขึ้นมาลอยๆ พลางปรายตามองใครอีกคนที่หยุดชะงักตรงนั้น ร่างสูงหันไปมองร่างโปร่งที่ยืนดูดบุหรี่อยู่ใกล้ๆ แล้วก็ยักไหล่ไม่ใส่ใจ
“สงสัยเหม็นกลิ่นปากตัวเอง หัดแปรงซะบ้างนะ...”
“(=_=!!!)”
คยูฮยอนหันควับไปมองไอ้โย่งที่กำลังเดินเข้าไปด้านในแล้วก็ขึ้น เขาทิ้งบุหรี่ที่เพิ่งดูดไปแค่สามคำลงบนพื้นพร้อมกับใช้รองเท้าสนีกเกอร์สีขาวบดขยี้แม่งจนเละเป็นขี้หมาแห้งก่อนจะเดินจ้ำอ้าวเข้าไปทางด้านใน
มึงเป็นใครถึงได้กล้ากวนตีนกูได้ถึงเพียงนี้ชเวซีวอน มึงเบื่อโลกแล้วใช่ไหมสัด
.
.
“คยูฮยอน มานี่ๆ!”
ร่างโปร่งหันไปมองตามเสียงเรียกก่อนจะพบว่าโต๊ะที่เขาเคยนั่งนั้นเป็นคนอื่นไปแล้ว พอหันไปอีกทางก็พบคนคุ้นหน้าคุ้นตาที่ย้ายไปนั่งโต๊ะใหญ่...รวม...กับ...
อีฮยอกแจ
ชเวซีวอน
แล้วก็ไอ้เตี้ยนั่นด้วย
“-_-”
“มานั่งนี่ดิ!” เสียงพี่รหัสทำให้เขาต้องจำใจเดินเข้าไปในโต๊ะรวมนั่นด้วยสีหน้าเซ็งๆ เอาให้แม่งรู้ไปเลยครับว่าเขาไม่พอใจที่จะได้อยู่ร่วมโต๊ะกับคนพวกนั้นแม้กระทั่งที่รักด้วย
“มีบุหรี่ป่าว?” ฮีชอลแบมือขอแล้วคยูฮยอนก็ควักมันออกมาอย่างว่าง่าย ร่างบางยกยิ้มก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับคนอื่นๆ ในโต๊ะ
“รู้จักกันไว้ก็ดีนะ เนี่ยซี้กันเลย”
“เด็กวิดวะกับถาปัดเนี่ยนะสนิทกัน 55555”
“เออ กูกับไอ้เชี่ยทึกเฟรชชี่แปดปีอ่ะเคยเรียน ม.ปลายด้วยกันมาก่อน ตอนนี้กูจะจบก่อนมันแล้วห่า” ฮีชอลระเบิดหัวเราะออกมาเสียงดังก่อนที่น้องๆ จะหัวเราะตาม มีเพียงแค่คยูฮยอนคนเดียวเท่านั้นที่นั่งทำหน้าตูดอยู่เงียบๆ
“เซ็งเว้ย มีแต่คนหล่อๆ รายล้อม” เฮนรี่บ่นลอยๆ ขึ้นมาขณะที่คนอื่นๆ กำลังยกแก้วดื่ม
“คยูฮยอนมึงเป็นไรวะ” ฮีชอลถามน้องรหัสที่ยังคงทำหน้าเซ็งอยู่อย่างนั้น ร่างโปร่งทำเป็นไม่สนใจพลางนั่งพิงโซฟาแล้วกระดกซะหมดแก้ว
“สงสัยมันอยากนั่งข้างแฟนมันมั้งพี่” เป็นเฮนรี่ที่เจาะเข้าประเด็นร่างโปร่ง คยูฮยอนหรี่ตามองคนเป็นเพื่อนก่อนจะเสหันไปมองร่างบางที่นั่งถือแก้วเหล้าอยู่ฝั่งตรงข้าม
“อ๋อ นั่นแฟนมึงเหรอวะ กูนึกว่าแฟนไอ้ทงเฮมัน 55555555555555”
“โหยพี่ เพื่อนกันเถอะ” ไอ้เตี้ยรีบแก้ต่าง ซึ่งน้ำเสียงมันดูไม่ค่อยจริงใจสักเท่าไหร่ เหมือนกับพวกดาราที่ออกมาแก้ตัวกับสื่อว่า ‘แค่เพื่อนกันค่ะ’ อะไรทำนองนั้นแต่จริงๆ ก็เยิ้บกันมาหลายรอบแล้ว
“แค่นั่งข้างกันเฉยๆ ครับ” ฮยอกแจยิ้มบางๆ ก่อนจะหันมาสบตากับเขา ก็ดีไง...นั่งระหว่างกลางไอ้เตี้ยกับไอ้มนุษย์ลักยิ้มนั่นเลย มีผู้ชายหล่อๆ ขนาบข้างทั้งคู่ แฟนเฟินไม่ต้องเห็นหัวมันแล้วสิ
ปั่ก!
“กูขอดื่มให้กับเดือนคณะวิศวะสักแก้ว...” ยกแก้วขึ้นมาแล้วชูไปตรงหน้าหวังจะชนแก้วกับอริที่เคยมีเรื่องเคืองใจกัน ซีวอนเลิกคิ้วมองก่อนจะคว้าแก้วขึ้นมาแล้วชนกับอีกฝ่าย
“คยูฮยอน เดี๋ยวก็เมาหรอก” พอได้ยินฮยอกแจเรียกแบบนี้แล้วยิ่งงิด ปกติเคยเรียกเขาว่า ‘ตัวเอง’ แท้ๆ ทำไม...ต่อหน้าพวกนี้แล้วไม่กล้าเรียกไง?
“เหล้าแค่นี้ทำเค้าเมาไม่ได้หรอก”
“....ฮึ” คยูฮยอนหันควับไปมองร่างสูงที่กำลังพยายามกลั้นขำอยู่ แต่เพียงเสี้ยววินาทีซีวอนก็เก็บอาการได้ มึงขำเหี้ยไรครับ กูจะน่ารักกับแฟนบ้างไม่ได้เหรอ
“เฮ้ยๆ อย่าซีเรียสเซ๊~ แดกๆ” ฮีชอลยกแก้วขึ้นมาก่อนที่คนอื่นๆ จะยกขึ้นมาชนบ้าง คยูฮยอนยกหมดไม่รู้กี่รอบ อาจจะเป็นเพราะสันดานชอบโชว์พาว หรือเพราะหวงแฟนก็ไม่รู้
เวลาผ่านไปไม่รู้นานเท่าไหร่...ตอนนี้สมองของเขาเริ่มทำงานช้าลงเข้าไปทุกทีๆ แล้วล่ะ ภาพทุกอย่างกำลังพร่ามัวแต่แม่งรู้สึกฟินชิบหาย เหมือนกำลังล่องลอยอยู่ในอากาศ...ฮ่า...นี่กูแดกเหล้าหรือดูดปุ้นอยู่วะ
“พอเลยพอ”
“โหยแม่ง ดูดิพี่ เทกระจาดกันทั้งคู่แล้ว”
ได้ยินเสียงไอ้เชี่ยหลัวอยู่ในหูแต่ก็คิดว่ามันคงเป็นความฝัน ปรือตามองไปตรงหน้าก็พบว่าใครอีกคนฟุบหลับคาโซฟาไปแล้ว โถ...ไอ้กระจอกเอ๊ย
“วันหลังอย่าริขุดเกมนั่นมาเล่นอีกนะ”
“ใครจะรู้ว่าพวกมันสองคนจะโง่ขนาดนี้ล่ะ คืองี้นะพี่ เด็กอนุบาลแถวบ้านผมยังเล่นเป็นเลยเกมเนี้ย”
“เออ ช่างแม่งเหอะ มึงไปตามพวกที่ยืนดูดหรี่ข้างนอกมาดิ๊ จะให้พวกมันมาช่วยหิ้วปีกสองตัวนี้กลับบ้าน”
“กลับไหนอ่ะพี่ ผมไม่รู้จักบ้านไอ้คยูนะ”
“มึงเป็นเพื่อนประสาอะไรวะอยู่ด้วยกันมาเป็นเดือนๆ แล้วยังไม่รู้จักบ้านมันอีก แล้วแฟนมันรู้จักไหม...อ้าว...ฮยอกแจไปไหนแล้วล่ะ?” ฮีชอลกวาดสายตามองไปรอบๆ ขณะที่กำลังพยายามหิ้วปีกคยูฮยอนขึ้นมา
“ก็ผู้ชายดีๆ เป็นเกย์หมดแล้วจะไปรออารายยย~~~~” คยูฮยอนหัวเราะร่าพร้อมกับเปล่งเพลงที่เสนอหน้าดัดแปลงให้ต้นฉบับอย่างมีความสุข
“เมื่อกี้ผมเห็นทงเฮบอกว่าจะไปส่งฮยอกแจเพราะเขาปวดหัวว่างั้น”
“มันควรเป็นหน้าที่ไอ้เหี้ยนี่ไม่ใช่เรอะ”
“ไม่รู้แม่งดิพี่ เอาไงอ่ะ”
“ไปนอนบ้านกูไม่ได้ด้วย แม่กูไม่ชอบให้คนแปลกหน้าเข้าบ้าน”
“ไปนอนกับผมไม่ได้เหมือนกันว่ะจ่า เพราะหอในแม่งปิดสี่ทุ่มผมเลยบอกพี่รหัสไว้แล้วว่าคืนนี้จะไปค้างด้วย แล้วพี่เขาอยู่กับเมียไงถ้าจะเอาไอ้คยูไปนอนด้วยผมเกรงใจ”
“แล้วทำไมมึงไม่เกรงใจเขา -_-”
“นั่นดิ แต่ไม่เป็นไรหรอกพี่ เขาอนุญาตแล้วไง”
“แล้วจะเอาไงล่ะทีนี้”
“เอามันไปทิ้งที่หน้าคณะดีไหมพี่?”
“แป๊ะมึงดิไอ้หน้าเจ๊ก ยุงจะได้หามแม่งว่อนทั่วทั้ง ม. สิ”
“ปัญหาใหญ่เลยนะ ผมหมดหนทางแล้ว T_T”
“เอางี้ มึงไปตามไอ้พวกข้างนอกมาก่อน จะได้ช่วยหิ้วพวกแม่งสองตัวไปทิ้งไว้โรงแรมฝั่งตรงข้ามนี่”
“จะดีเหรอพี่ มันสองคนไม่ถูกกันนะ” เฮนรี่พูดขึ้นมาพลางมองไปยังเดือนคณะทั้งสองที่หมดสภาพไม่เหลือชิ้นดี
“เออ ตอนนี้กูไร้หนทางแล้ว ตื่นมาก็ให้มันเคลียร์กันเองแล้วกัน”
และแล้ว...
ชเวซีวอนกับโจคยูฮยอนเดือนคณะทั้งสองก็ถูกหิ้วเข้าไปในโรงแรมเล็กๆ ฝั่งตรงข้ามของผับโดยที่ไม่รู้ตัว ร่างทั้งสองถูกเทกระจาดลงบนเตียงอย่างไร้ความปราณีก่อนที่ชายหนุ่มอีกสี่คนจะยืนมองสำรวจรายระเอียด
“ป่ะ กลับบ้านนอนกัน”
“เมื่อยโว้ย”
“อยากอึ้บสาว...”
เหมือนได้ยินเสียงใครพูดอะไร...แต่ก็ไม่สามารถลุกขึ้นมาตอบโต้ได้ ร่างโปร่งพลิกตัวไปมาอยู่ครู่หนึ่งรู้สึกกระสับกระส่ายก่อนจะรูดซิบกางเกงยีนส์สีเข้มแล้วใช้ตีนหยัดๆ มันลงไปกองที่ข้อเท้าแล้วเกาส่วนนั้นที่อยู่ภายใต้กางเกงในสีขาวทั้งที่ยังหลับตาอยู่อย่างนั้น
ร่างสูงโปร่งที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงเกิดอาการร้อนรุ่มไปทั่วร่างกายราวกับใครเอาไฟมาสุม มือแกร่งปลดกระดุมเสื้อคอโปโลสีขาวออกเพียงเม็ดเดียวก่อนจะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับดึงปกคอเสื้อเอาไว้ก่อนจะเอาหัวมุดออกมาแล้วล้มทับใครอีกคนที่หลับอยู่
“อื้อ!”
เสียงครางประท้วงในลำคอเมื่อรู้สึกหน่วงๆ มันทำให้เขาหายใจลำบาก ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ กระทบจมูกจนเผลอพลิกตัวอีกคนแล้วขึ้นคร่อมตามสัญชาติญาณ มือเรียวลูบไล้ปะป่ายมั่วซั่วไปตามกล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยก่อนจะซุกไซร้จมูกไปทั่วซอกคอ ร่างสูงครางในลำคอเบาๆ ก่อนจะลูบไล้ไปตามต้นขาอีกฝ่ายโดยสัญชาติญาณเช่นกัน
ไล่กดจูบไปทั่วแผงอกแกร่งก่อนจะเลื่อนขึ้นไปจรดที่ริมฝีปากหยัก สุดท้ายทั้งคู่ก็ประกบจูบกันอย่างเร่าร้อนและไม่มีใครยอมใคร นัยน์ตาทั้งคู่ยังคงปิดสนิท สติสัมปชัญญะคืออะไรมันไม่มีตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ลิ้นร้อนกระหวัดหยอกล้อไปทั่วโพรงปากทำให้ร่างสูงรู้สึกอึดอัดตรงช่วงล่างจนต้องปลดเข็มขัดออกอย่างทุลักทุเลแต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากมือเรียวทั้งที่ริมฝีปากยังไม่ละจากกัน
“อื้อ...”
“เร็วสิ...”
“อา...ใจร้อนจริงนะ...”
และทุกอย่างมันก็เริ่มต้นขึ้น...และจบลงโดยที่ไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายนั้นเป็นใคร...
.
.
RRrrrr!!!
“อือ...”
มือเรียวปะป่ายไปทั่วก่อนที่ร่างของเขาจะกลิ้งตกเตียง เปลือกตาบางปรือขึ้นเพียงเล็กน้อยพลางมองเครื่องมือสื่อสารที่อยู่ในมือแล้วกดรับ
“ฮัลโหล”
( ซีวอน มึงอยู่ไหนวะ? )
“ซีวอนไหนวะ โทรผิดแล้ว” คยูฮยอนพูดด้วยน้ำเสียงง่วงๆ ก่อนจะอ้าปากหาวหวอดๆ พ่อแม่กูก็ไม่ได้ตั้งชื่อนี้ให้นะ รีบวางไปซะก่อนที่กูจะขึ้นจะโทรมาทำเชี่ยไรแต่เช้า ช่วยแม่ขายโจ๊กหมูในตลาดไง?
( หืม? นั่นใครพูดอยู่น่ะ )
“ใครจะพูดแล้วเกี่ยวอะไร บอกแล้วว่าที่นี่ไม่มีคนชื่อซีวอน โว๊ะ” น้ำเสียงหงุดหงิดทำให้คนที่นอนหลับอยู่ต้องตื่นจากความฝัน มือแกร่งยกขึ้นป้องระดับสายตาเมื่อแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ร่างสูงในสภาพเปลือยท่อนบนหยัดตัวลุกขึ้นนั่งพลางมองใครอีกคนที่นั่งหันหลังให้เขาอยู่บนพื้นก่อนจะเพ่งมอง
นั่นใครวะ?
( นี่มันเบอร์ซีวอนไม่ใช่เหรอครับ? )
“ขอโทษครับ นี่เบอร์โจคยูฮยอนเดือนคณะสถาปัตย์ถ้าเข้าใจแล้วก็อย่าโทรมาอีก โอเค๊?” พูดจบก็ตัดสายไปก่อนจะทิ้งมือถือลงบนพื้นแล้วหยัดตัวลุกขึ้น แต่ยังไม่ทันสุดความสูงก็ต้องเซเล็กน้อยเมื่อรู้สึกสะท้านไปทั่วสรรพางค์ เหี้ยไรเนี่ย! ทำไมมันปวดตูดแบบนี้!
“โอ๊ยยย...”
“.................” ใครอีกคนที่ยังคงนั่งอยู่บนเตียงได้แค่นั่งตาเหลือก เขาได้ยินประโยคก่อนตัดสายไปอย่างชัดเจน...อย่าบอกนะว่าคนที่อยู่กับเขาในตอนนี้คือ....
“......................”
“......................”
“......................”
“......................”
ชั่วโมงนี้ต้องจุดไข่ปลาแทนความรู้สึกเท่านั้น...
ไม่รู้ว่าพูดไม่ออกหรืออะไร ทั้งซีวอนและคยูฮยอนต่างก็มองหน้าอีกฝ่ายนิ่งไม่ขยับ ค่อยๆ ปรับระดับสายตาลงทีละนิด...มองแผงอกอีกฝ่ายที่เป็นรอยแดงจ้ำไม่รู้กี่จุดต่อกี่จุดแล้วก็ก้มลงมองของตัวเองบ้าง...อืม...มีเหมือนกัน...ก้มลงมองไปข้างล่างจุดยุทธศาสตร์...อืม...ก็เปลือยเหมือนกัน
เดี๋ยว!!!
แล้วทำไมเขาทั้งคู่ถึงได้เปลือยอยู่ล่ะ!!!
“...ม...มึง??”
“อ...อะไร?” ซีวอนเริ่มรู้สึกลางไม่ดี หวังว่าเขาคงไม่ได้ทำอะไรลงไปหรอกนะ
“มึงแก้ผ้าทำไม!”
“กูต่างหากที่ต้องถามแบบนั้น ดูมึงดิ ยืนล่อนจ้อนอนาจารย์อยู่ได้ นี่กูยังมีผ้าห่มปิดอยู่นะ” เป็นซีวอนที่แย้งขึ้นมา จะโบ้ยว่าเป็นความผิดของเขาคนเดียวแบบนี้น่ะเหรอ บ้าไปแล้ว
“จะอะไรก็ช่างแม่งเหอะ แต่สถานการณ์แบบนี้มัน...” คยูฮยอนกัดเล็บแล้วขมวดคิ้วพยายามทบทวนเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น
“อย่าคิดไปในทางนั้นเด็ดขาดนะ อะ...โอย...” ซีวอนหยัดตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอาผ้าห่มคลุมเอวเอาไว้แต่ก็ต้องเซถอยหลังเมื่อรู้สึกเจ็บแปลบตรงสะโพก
“นั่นไง...กูว่าชัดแล้วล่ะ” คยูฮยอนชี้หน้าอีกฝ่ายก่อนจะเดินไปคว้ากางเกงในขึ้นมาสวมลวกๆ แล้วตามด้วยกางเกงยีนส์ตัวเก่ง
“ชัดอะไร”
“เมื่อคืนกูคงเผลอไปเอาตูดมึงเข้า โทษทีนะ กูเมาอ่ะไม่ได้ตั้งใจ” คยูฮยอนพูดอย่างไม่ยี่หระนั่นทำให้ร่างสูงคิ้วกระตุกทันที
“มึงเอาอะไรมาตัดสินว่ากูโดนมึงเอาครับโจคยูฮยอน?” ร่างสูงเดินไปคว้ากางเกงมาสวมบ้างขณะที่ยังมองใครอีกคนไม่ละสายตา
“ก็เมื่อกี้มึงเจ็บตูดไม่ใช่เหรอ โทษทีน้อง ของพี่มันใหญ่ไปนิด -.-”
“หึ...มึงแน่ใจเหรอว่ามึงเป็นฝ่ายเอากู...” ร่างสูงแค่นหัวเราะก่อนจะเดินมาหยุดตรงหน้าใครอีกคนทั้งที่ยังไม่ได้สวมเสื้อ คยูฮยอนเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายไม่มีท่าทีหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย
คือกูค่อนข้างมั่นใจในความเมะตัวเองไงครับ มึงเองก็เจ็บตูดขนาดนั้นแล้วยังจะมาแถอะไรอีก...
ป๊าบ!
“โอ๊ยยยยยยย!!!”
คยูฮยอนแหกปากร้องลั่นเมื่อมือใหญ่ฟาดลงที่สะโพกเขาอย่างแรงจนต้องเอามือทั้งสองข้างกุมเอาไว้ ร่างสูงมองคนตรงหน้าที่กำลังโอดครวญด้วยความทรมานแล้วก็ยิ้มสะใจ
“โทษทีว่ะ บางทีของกูก็อาจจะใหญ่เกินไปสำหรับมึงด้วยเหมือนกัน”
“...มึงหมายความว่ายังไงวะไอ้หน้าเหียก”
“กูหมายความว่า มึงจะมโนเองไม่ได้ว่ากูเป็นฝ่ายโดนมึงเอา เพราะมึงเองก็เจ็บสะโพกเหมือนกัน ไหนจะมีรอยเยอะแยะภายใต้เสื้อยืดนั่นอีกด้วย” พูดพร้อมกับทำท่าจะล้วงมือไปในเสื้ออีกคน นั่นทำให้คยูฮยอนรีบปัดมือแกร่งออกอย่างรำคาญ
“มึงบ้าเปล่า กูอาจจะเมาจนหกล้มก็ได้ เวลาเมาก็งี้แหละ”
“แล้วไง”
“กูไม่มีทางโดนมึงเอาแน่ เพราะกูอ่ะโคตรเมะ มึงอ่านปากกูออกไหม โคตร - เมะ”
“กูล่ะเบื่อพวกไม่ยอมรับความจริง”
“โห...มึงยอมรับตายห่าแหละ กลัวโดนสังคมประนามอ่ะดิว่าโดนเดือนคณะสถาปัตย์เยิ้บตูดมาอ่ะ -.-”
“มึงนี่จังไรทางหน้าตาไม่พอสินะ ปากไปแดกขี้มาเหรอครับหืม?” พูดพร้อมกับบีบคางมนเข้ามาอย่างหมั่นเขี้ยว คยูฮยอนตีมืออีกคนรัวๆ ก่อนจะผลักร่างสูงออกอย่างแรง
“แดกไม่แดก ก็ทำคอมึงเป็นรอยได้ล่ะวะ -.-”
“หึ...”
“ขำไร”
“เรื่องนี้คงตัดสินยากหน่อยนะ เพราะหลักฐานตามร่างกายของกู มึงก็มีเหมือนกันน่ะครับ”
“แล้วไง กูจะเอาไปเล่าให้ใครฟังก็ได้อ่ะว่ากูเยิ้บมึงมาแล้ว”
ซีวอนหลุดหัวเราะออกมาอย่างเวทนาก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ร่างโปร่ง นี่มึงโง่หรือโง่ครับโจคยูฮยอน ไม่รู้จุดยืนตัวเองเลยเหรอไง?
“เอาเลยสิ...มึงคิดว่าคนทั้งมหาลัยจะเชื่อใครมากกว่าล่ะ ระหว่างเมะขี้ก้างอย่างมึง กับสุดยอดเจนเทิลแมนอย่างกูน่ะ?” ร่างสูงยิ้มอย่างผู้มีชัยก่อนที่คยูฮยอนจะเบิกตาโพลงเมื่อได้ยินคำขู่นั่น
ไอ้ชิบหาย กูก็ลืมไปเลยว่าหุ่นมันบึ๊บกว่ากู
ถ้าเกิดเอาไปโพนทะนาคงโดนหาว่าขี้ตู่แน่ๆ
เหี้ยแล้วล่ะ กูจะทำยังไงดี ไม่ได้การล่ะ
“โอเค”
“...................”
“เพราะยังพิสูจน์ไม่ได้ กูจะหยวนให้มึงไปก่อนแล้วกัน” พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกจากประตูห้องไปหน้าตาเฉยก่อนที่ร่างสูงจะรีบคว้าเสื้อมาใส่แล้วเดินตามหลังมาติดๆ
“หยวน?” ทวนคำพูดขณะที่เดินตามร่างโปร่งไป มือเรียววางกุญแจห้องไว้หน้าเคาน์เตอร์โดยไม่พูดไม่จาอะไร
“เออดิ” คยูฮยอนทำเป็นไม่สนใจจนกระทั่งเขาทั้งคู่ข้ามถนนมาร้านกาแฟฝั่งตรงข้าม
“กูน่าจะเป็นคนพูดประโยคนั้นมากกว่าไหมครับ?”
“มึงนี่เรื่องมากจริงนะ อย่างนั้นก็ไม่เอา อย่างนี้ก็ไม่เอาอย่างกับเคะ เอาเอสเพรซโซ่เย็นหวานน้อยครับ” หันไปสั่งบาริสต้าแล้วหันมาจ้องหน้าร่างสูงอีกครั้ง กูเบื่อขี้หน้ามึงมากว่ะซีวอน เมื่อไหร่มึงจะไสหน้าไปไกลๆ ตีนกูสักที
“ถ้ามึงไม่เป็นพวกเถียงหัวชนฝาเรื่องก็จบไปตั้งนานแล้วล่ะครับ”
“เออ มันมีข้อพิสูจน์อีกอย่าง ถ้ากูโดนมึง...” ชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะวางเงินลงบนเคาน์เตอร์ก่อนจะคว้าแก้วกาแฟแล้วลากอีกคนออกมาจากตรงนั้น ที่ๆ ลับสายตาคน
“ถ้ากูโดนมึงเอาจริงๆ มันก็ต้องมีไอ้นั่นไหลออกมาสิวะ”
“แล้วไหลป่ะล่ะ?”
“ไม่ไหลเว้ย”
“กูก็ไม่เหมือนกัน” ซีวอนตอบอย่างมั่นใจนั่นทำให้คยูฮยอนรู้สึกสตั้นไปสามวิ ถ้ามึงไม่มี กูไม่มี แล้วใครจะมี
“เพราะกูเป็นคนเสร็จยาก บางทีกูอาจจะทำมึงไม่เสร็จก็ได้” ซีวอนพูดต่อ คยูฮยอนที่กำลังดูดกาแฟอยู่รีบคายหลอดออกแล้วแค่นเสียงหัวเราะ
“โถ...จะอ้างแบบนั้นก็ไม่ได้อีกแหละนะ เพราะกูเองก็เป็นพวกป้องกันดีแม้จะเมาดริฟท์สักแค่ไหน ลงสนามเมื่อไหร่กูก็ปล่อยนอกตลอดว่ะ” เพราะงั้นมึงลืมเรื่องนั้นไปได้เลยนะครั้ฟซีวอน
“ถ้าปล่อยนอกก็ต้องมีรอยบนเตียง ถูกไหม?” ซีวอนทำหน้าจริงจังจนคยูฮยอนเริ่มเห็นด้วย ทั้งคู่พยักหน้ากันเบาๆ ก่อนจะรีบวิ่งข้ามถนนไปที่โรงแรมนั่นอีกครั้งก่อนหยุดอยู่หน้าประตูห้องเดิมที่เปิดแง้มไว้เล็กน้อย พอเปิดเข้าไปแล้วก็พบกับความว่างเปล่ามีเพียงแค่อีป้าแก่ๆ ในชุดเมดสีเทาที่ยืนถือไม้กวาดอยู่ตรงนั้น...
แม่บ้าน...เก็บ...ที่นอน...ไป...ซัก...แล้ว...
“โน้ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว”
“(กุมขมับ)”
…TBC…
TALK
พล๊อตอารมณ์ชั่ววูบมาอีกแล้วอ่ะ
ไม่ได้เขียนฟิคหยาบคายมานานแล้ว
คือเขียนไปอ่านไปแล้วคิดว่าเอ๊ะ ทำไมกูเขียนติดเรทขนาดนี้ คนอ่านจะรับได้ไหม
55555555 เปิดเรื่องใหม่อีกแล้วง่ะ
ความคิดเห็น