คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
INTRO
วาสนาหรือผีผลัก?
“ช่วงนี้เรตติ้งนายกำลังดี ฉันเลยคิดว่าจะให้นายลง WGM ดู”
“อะไรนะครับ WGM เหรอ!?”
ไอดอลหนุ่มเบิกตาโพลงพร้อมกับริมฝีปากที่ฉีกยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ก็แหงล่ะ...ตั้งแต่ยังไม่เดบิ๊วท์ก็เคยใฝ่ฝันว่าอยากจะลองเล่นรายการนี่กับดาราสาวสวยดูสักครั้งและแล้ววันนี้ก็มาถึง...
“จะดีเหรอครับท่านประธาน ยังไงช่วงนี้ทงเฮก็ยังต้องไปถ่ายทำละครที่ใต้หวันอยู่นะครับ” ทงเฮหันควับไปมองหน้าผู้จัดการอย่างเอาเรื่อง อย่ามาขัดขวางกันสิ!
“นั่นแหละยิ่งดี”
“ถ้าให้เล่นกับดาราหญิงมีหวังแฟนคลับคงได้มาก่อม๊อบหน้าตึกสิครับ”
“นั่นสินะ...แล้วแบบนี้ผมจะเล่นได้เหรอครับท่านประธาน ถ้าเล่นคู่กับผู้หญิงแฟนๆ ผมคงกัดลิ้นตายแน่ ส่วนมากมีแต่สาววายทั้งนั้น”
“หึ...ช่วงนี้กระแสวายมาแรง...ถ้าเกิดฉันให้ทงเฮเล่นคู่กับผู้ชายล่ะผู้จัดการคิมจะว่ายังไง” นัยน์ตาเรียวหรี่มองเด็กที่อยู่ในความดูแลที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วก็ถอนหายใจ
“แบบนั้นสื่อจะไม่ตีข่าวกันไปต่างๆ นานาหรือครับ”
“ก็หาคนที่เรตติ้งดีๆ มาเล่นด้วยกันซะก็สิ้นเรื่อง เชื่อสิแฟนคลับได้กรี๊ดแตกกันสามบ้านแปดบ้านถ้าเห็นโมเม้นชายรักชาย”
ไอ้เรื่องชายกับชายเขาก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรหรอกนะ ก็อีทงเฮเคยแอบซัมติงกับนักร้องชายคนหนึ่งในวง K.R.Y. มาแล้วนี่ ถ้าคนๆ นั้นน่ารักเขาก็ไม่มายด์หรอกแต่ถ้าเกิดว่า...
“แล้วคนที่เรตติ้งดีๆ ที่ว่านั่นจะมีใครบ้างล่ะครับ ที่เห็นดังสุดหูรูดอยู่ตอนนี้ก็มีแต่ซีวอน ซึ่งผมไม่เอามันแน่ๆ ล่ะ แค่ได้ยินชื่อก็ขนลุกแล้ว บรื๋อ!” ลูบแขนป้อยๆ เมื่อนึกถึงไอ้โย่งที่เคยร่วมงานด้วยกัน พักหลังมานี่ก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น ถ้าเกิดให้ไปใช้ชีวิตแบบคู่รักกันมีหวังโดนจับเข้าโพลเป็นเมียมันโดยปริยายแน่ ซึ่ง...อีทงเฮบ่ยอมเด้อครับ
“นี่เลย” ประธานวางนิตยาสารลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าก่อนที่ทงเฮจะหยิบมันขึ้นมาดู หน้าปกเผยให้เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาซนๆ คนหนึ่ง
“อีฮยอกแจ หรือที่ใครๆ รู้จักกันในนาม DJ อึนฮยอกคลื่น Kiss The Radio”
“...ดีเจเหรอครับ?” ผู้จัดการหน้าสวยขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะชะเง้อหน้ามองนิตยาสารที่ยังคงอยู่ในมือทงเฮ
“ใช่ เป็นดีเจที่น่าจับตามองมากช่วงนี้ เห็นว่าพีดีทั้งหลายแหล่ต่างติดต่อให้ไปเป็นเอ็มซีไม่ว่าจะเป็นอินกิกาโย เอ็มเนต สตรองฮาร์ท สตาร์คิง แฟนคลับตามไปเกาะหน้ากระจกสถานีอยู่ทุกวี่ทุกวัน” ท่านประธานเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ มือหนาผละหนังสือออกแล้วดึงหนังสือเข้าแล้วผละหนังสือออกแล้วดึงหนังสือเข้ามาอยู่อย่างนั้นจนใครอีกสองคนสงสัย
“เป็นอะไรไปทงเฮ”
“ก็น่ารักดีนะครับ ผมเคยเจอเขาอยู่ครั้งหนึ่งถ้าจำไม่ผิด”
“ใช่ ก็งานรับรางวัลเมื่อตอนสิ้นปีไง”
“อ๊อ...ถึงว่าล่ะคุ้นๆ จำได้ว่าตอนนั้นเขาหัวสีขาว...ปากแดงๆ ไม่ได้ผมสีน้ำตาลเหมือนในรูป”
“แล้วนายโอเคหรือเปล่าล่ะถ้าเป็นฮยอกแจ นี่ฉันให้โอกาสนายได้เลือกก่อนเลยนะ ฝ่ายนั้นยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยด้วยซ้ำ” ท่านประธานถามย้ำถึงแม้จะรู้คำตอบจากท่าทางทงเฮอยู่แล้ว
“ถ้าเป็นดีเจหน้าหวานคนนี้ผมก็โอเคนะ น่ารักดี ผมชอบ”
“มันคือการแสดง จำใส่สมองกลวงๆ ของแกไว้” ผู้จัดการหน้าสวยแต่โหดยิ่งกว่าแม่นามว่าคิมฮีชอลย้ำกระซิบข้างหูเด็กในความดูแลเบาๆ กลัวใจทงเฮมันจริงๆ กลัวว่ามันจะไปทำอะไรเข้าให้จนเกิดเรื่อง เจ้าตัวหัวเราะร่าก่อนจะลุกขึ้นโค้งหัวให้กับท่านประธานแล้วเดินออกไป
.
.
“หาว...” มือเรียวป้องปากเมื่อเดินออกมาถึงลานจอดรถหลังจากจัดรายการเสร็จ
“กรี๊ดดด!! อึนฮยอกโอป้า! อีทึกโอป้า!!”
โบกมือให้กับแฟนคลับพร้อมกับยิ้มให้เหมือนอย่างทุกครั้ง ทั้งคู่เดินเทียบกันมาอย่างกับปาท่องโก๋ สองดีเจดูโอ้ที่ใครๆ ต่างก็รู้จักในนาม ‘อึนทึก’ ซูคิร่า เอื้อมมือไปรับของฝากจากแฟนๆ อย่างทุลักทุเลก่อนจะเบียดตัวเข้าไปในรถตู้คันสีดำและไม่ลืมที่จะหันไปโบกมือให้กับแฟนคลับผ่านกระจกรถจนกว่าจะลับสายตาไป
“วันนี้เหนื่อยชะมัด...” เป็นเสียงของรุ่นพี่วัยย่างเข้าสามสิบ อีทึกคว้าหมอนรองคอมาสวมพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ ตารางงานรัดตัวเขาทั้งคู่ตั้งแต่ตีห้า ตื่นมาก็ตรงดิ่งไปอัดดรีมทีม ไปอัดสตรองฮาร์ทแล้วต่อด้วยอินกิกาโยและเดินทางมาจนถึงตารางงานสุดท้ายคือจัดรายการวิทยุนี่แหละ
ฮยอกแจไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เหนื่อยเพิ่ม ทันทีที่เขาวางหมอนอิงไว้ตรงกระจกรถและหัวของเขาจรดหมอนเมื่อไหร่เป็นต้องหลับทันที อีทึกมองเพื่อนร่วมงานที่ผลอยหลับไปแล้วก็ส่ายหน้าเนือยๆ กะจะชวนคุยเรื่อง WGM ที่ฮยอกแจต้องไปเริ่มอัดพรุ่งนี้สักหน่อยแต่เห็นทีคงต้องปล่อยให้พักผ่อน
เพราะพรุ่งนี้...ต้องเจอศึกหนักเลยนี่นะ...
.
.
“คุณทงเฮเชิญทางนี้เลยค่ะ”
“ขอบคุณมากครับผม~” เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวาดหยดย้อยพร้อมกับขยับแว่นเรย์แบนเล็กน้อย เดินไปตามทางยาวไร้ซึ่งผู้คนพร้อมกับผิวปากเบาๆ จะมีก็แต่ตากล้องคนหนึ่งที่เริ่มถ่ายเขาตั้งแต่เดินเข้ามานี่แหละ
“ใครกันนะ...เจ้าสาวของผมน่ะ...” แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องประหนึ่งเขายัดสคริปท์ใส่มือเมื่อกล้องแพลนมาที่หน้าเขา
[ ตัดฉากไปที่ตอนสัมภาษย์ ]
ทงเฮ: ผมไม่คิดเลยว่าจะได้มาเป็นส่วนหนึ่งในรายการนี้ ส่วนตัวผมแล้วเนี่ย ผมชอบรายการนี้มากเลยล่ะโดยเฉพาะคู่ยงฮวากับซอฮยอนน่ะครับ
ทงเฮ: คาดหวังไหมเหรอ...อืม...ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะครับ คิดว่าแค่คุยกันรู้เรื่องก็น่าจะพอแล้ว (หัวเราะ)
[ ตัดฉาก ]
ฮยอกแจนั่งประสานมือไว้บนตักพลางเอนหลังพิงกับโซฟาสีดำ นี่เขาตื่นเต้นมากเกินไปหรือเปล่าถึงได้มาก่อนเวลาแบบนี้ การแต่งตัวเขาดูเห่ยไหม ทรงผมเซทมาโอเคแล้วหรือยัง ชักไม่มั่นใจแล้วแฮะ
“คือ...ผมกลัวว่าเธอจะไม่ชอบผมครับ” ฮยอกแจเบือนหน้าหลบไปหัวเราะเมื่อตากล้องแพลนมาที่หน้าเขา
“อ่า...จะว่ายังไงดีล่ะ ผมคิดว่าผู้หญิงน่าจะชอบผู้ชายตัวที่สูงกว่า มีกล้ามหน้าอก กล้ามแขน หุ่นแมนๆ เหมือนเรนแล้วก็ซีวอนน่ะ...เฮ้อ...ผมชักจะประหม่าแล้วสิ”
“โอ๊ะ!”
“................” ร่างบางหันไปมองผู้มาใหม่ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นไอดอลหนุ่มกำลังยืนทำหน้าขี้เต๊ะอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนัก ทงเฮยิ้มกว้างแล้วเดินมานั่งโซฟาตัวเดียวกันแต่คนละมุมพร้อมกับเก็บแว่นใส่กระเป๋า
“สวัสดีครับ”
“สวัสดีครับ”
เป็นการทักทายอย่างเป็นทางการและดูอึดอัดที่สุดตั้งแต่เคยได้ยินมา ทงเฮเริ่มรู้สึกได้ถึงช่องว่างระหว่างเขาทั้งคู่ ตอนนี้ฮยอกแจจะรู้หรือยังนะว่าเขาน่ะคือว่าที่เจ้าบ่าว (จอมปลอม)
“เราเคยเจอกันมาก่อนหน้านี้แล้วใช่ไหมครับ” ทงเฮเป็นฝ่ายเปิดประเด็นก่อน ฮยอกแจหันควับพร้อมกับเพ่งมอง
“นายจำผมไม่ได้จริงๆ เหรอ?”
“หือ...” ทงเฮถอยหลังเล็กน้อยเมื่อเจอคำถามนั้นของฮยอกแจ ถามแบบนี้เหมือนกับว่าเขาเคยเจอกันบ่อยถึงขั้นพูดคุยกันอะไรอย่างนั้น เท่าที่จำได้ก็ไม่นี่หว่า...
“ผมอีฮยอกแจไง เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งตอนที่นายไปดื่มกับซีวอน วันนั้นผมยัง...” มือหนาปิดริมฝีปากเล็กทันทีพร้อมกับหัวเราะกลบเกลื่อน โธ่อีฮยอกแจ...นายไม่รู้ตัวเลยหรือไงว่ามีกล้องอีกสองตัวกำลังถ่ายเราอยู่น่ะ
“ผมจำไม่ได้...”
“หน้าผมมันไม่เด่น นายจำได้ก็แปลกแล้วล่ะ” ฮยอกแจพูดก่อนจะเอนหลังพิงพนักโซฟาอีกครั้ง
“งั้นเราก็มาทำความรู้จักกันใหม่สิ ผมชอบฟังรายการนายมากเลยนะ Fish The Radio”
“Kiss - The - Radio -_-”
“โอ๊ะ! โทษทีผมยิงมุขน่ะ นายไม่ขำเหรอ -.-” ทงเฮกลอกตา ฮยอกแจเบือนหน้าหนีไปอีกทางเมื่อได้ยินมุขแป๊กจากปากไอดอลชื่อดัง
“แล้วนายมาทำอะไรที่นี่ ถ่าย WGM เหรอไง?” ฮยอกแจถาม พอเห็นทงเฮพยักหน้าหงึกก็ทำท่าจะถามต่อแต่ก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อมีมนุษย์อีกสี่ห้าคนเดินถ่อเข้ามาพร้อมๆ กันในชุดแปลกๆ
นั่นมันชุดดับเพลิงไม่ใช่เหรอ - -
“อันยองฮาเซโย~”
ทั้งคู่ลุกขึ้นโค้งหัวให้กับคนเหล่านั้นอย่างมีมารยาทถึงแม้ในใจจะมีแต่คำถามว่าคนพวกนี้มันเป็นใครกันฟะ?
“รอนานหรือเปล่า”
“ไม่นานเลยครับ ผมเพิ่งมาถึงเอง”
“งั้นก็ดีเลย จะได้ไม่ต้องนั่งรอใคร ไหนๆ ก็มากันครบแล้ว” ตาแก่คนหนึ่งพูดท่าทางคงจะเป็นเอ็มซี ฮยอกแจขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางทวนประโยคเมื่อครู่ “มากันครบแล้ว?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“หมายความว่ายังไงครับ ไม่ต้องรอเจ้าสาวเหรอ หรือว่าเราจะไปเจอเธอข้างนอก”
พอร่างบางพูดจบเสียงหัวเราะก็ดังลั่นไปทั่วทั้งห้อง ฮยอกแจหันไปมองหน้าคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ก่อนจะได้คำตอบกลับมาเป็นการยักไหล่สั่วๆ เท่านั้น
“ไม่ต้องออกไปหาใครหร้อก...ก็นายสองคนนั่นแหละคือ Special Couple ใน Season นี้น่ะ”
“ห๊ะ!”
“คู่รักชายชายน่ะนะ...”
“ห๊ะ!!”
“เอ่อ...คือเราสองคนก็เป็นผู้ชายกันทั้งคู่ จะให้มาเล่นเป็นคู่รักกันได้ยังไงครับ” เป็นคำถามแรกของทงเฮที่ฮยอกแจเห็นด้วย
“นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่ทุกคนอยากดู! 55555555555555”
“555555555555555555”
เสียงหัวเราะประสานกันจนแทบกุมขมับ ฮยอกแจอยากกลับบ้านครับ อยากกลับไปซบอกแม่แล้วหลับมันซะตรงนั้นเลย มนุษย์โลกเป็นอะไรกันไปหมด...แทนที่จะดูดาราชายหญิงที่ไม่เคยรู้จักมักจี่กันมาก่อนค่อยๆ สานความสัมพันธ์กันทีละนิดๆ จนเกิดเป็นความรักสิถึงจะถูก ไม่ใช่ให้ผู้ชายกับผู้ชายมาแต่งงานกันแบบนี้ สเปเชี่ยลวีก๊อตบ้าบออะไรกันเนี่ย...สิ่งที่ควรจะเป็นคือให้เขาได้คู่กับดาราหญิงสักคนสิ อาจจะเป็นนักร้องเกิร์ลกรุ๊ปอย่างโซนยอชิแด คาร่า หรือเรนโบว์ก็ได้...
แล้วนี่มันอะไร...ชายกับชาย...
ที่สำคัญคือรับปากไปแล้วด้วยว่าจะเล่นอ่ะ... T_T
“นายโอเคนะ?”
เป็นคำถามที่แสดงถึงความห่วงใยหากแต่อีฮยอกแจไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นเลย หันไปมองหน้าว่าที่คู่รักที่พีดีจัดแจงให้แล้วก็อยากเอาหัวโหม่งกำแพงให้ความจำเสื่อมซะแต่ก็ทำไม่ได้ อีทงเฮดังกว่าเขาไม่รู้กี่ขุมทำไมไม่โวยวายฟะ โวยวายไปเลยสิ เราทั้งคู่จะได้แคนเซิลงานนี้ไปเลยไง
“มันก็ไม่ยากอะไรหร้อก แค่เล่นไปตามความรู้สึก ก็คู่ของพวกคุณไม่ต้องพึ่งสคริปท์เหมือนคู่อื่นนี่นะ”
“เพราะเหตุใด” ฮยอกแจเงยหน้าขึ้นถามด้วยสีหน้าซังกะตาย ก็ไม่อยากแฉหรอกนะว่าไอ้รายการนี้ที่ออกมาฟินๆ นั่นมันก็เตรียมกันมาแล้วทั้งนั้น อ้าว! พอพูดถึงเรื่องนี้เข้าหน่อยแล้วตากล้องมันเลิกถ่ายเลยเว้ย! - -‘
“พีดีเขาบอกว่าอยากดูวิวัฒนาการของคุณทั้งคู่ว่าจะเป็นยังไง ไม่ต้องเกร็ง คู่นี้คนรอดูเยอะแน่ๆ อ่อ...แล้วก็ภารกิจอยู่ในซองกระดาษบนโต๊ะนั่นน่ะหยิบมาอ่านกันซะนะ ในนั้นก็จะมีบอกเรื่องขนของเข้าบ้านใหม่อะไรพวกนั้นนั่นแหละ พวกผมต้องไปแล้ว ไว้เจอกัน” ตาแก่หงำเหงือกนั่นพูดจบก็ย้ายขบวนกันเดินออกไปหน้าตาเฉยปล่อยให้เขากับอีทงเฮนั่งง่าวกันอยู่สองคนพร้อมกับตากล้องอีกสอง...
“ทำไมนายไม่ปฏิเสธไปเลยเล่า!” ฮยอกแจเอาศอกสะกิดคนข้างๆ ที่กำลังรื้อซองภารกิจออกมาดู ทงเฮเลิกคิ้วมองก่อนจะผุดยิ้มออกมาแล้วยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ
“มันก็น่าตื่นเต้นดีไม่ใช่เหรอ อึนฮยอกกี้...ยอโบ~”
ด...เดี๋ยวก่อนสิ...
เมื่อกี้นายเรียกฉันว่าไงนะ...ใครเป็นยอโบของนายฟะไอ้ขี้เก๊ก!
TALK
งื่อ...เปิดฟิคเรื่องใหม่อีกจนได้อ่ะ คือคันมากอยากเขียนเฮอึน
เค้าคิดถึงเฮอึน คิดถึงมากๆ (ตอแหล)
อย่าคิดไรมากเลย ไรเตอร์เขียนฟิคตามอารมณ์
อยากเรื่อยๆ เขียนเรื่องนี้
อยากหวานเขียนคุณครู
อยากดราม่าเขียนพี่ชาย
อยากจิตเขียนแบล๊กสวอน
อยากคิดเยอะเขียนเรสสิเด้นอีวิว #ปิดการขายเพียงเท่านี้
ความคิดเห็น