คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5 : With You...
Chapter 5
ครูเป็นสิ่งมีชีวิตที่...พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไหร่
ผมถอดแว่นออกมาเช็ดน้ำที่เกาะอยู่หลังจากสลัดผ้าตากเสร็จไปหนึ่งตะกร้าใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นของพี่อาราด้วยครับ พอเธอลงเครื่องมาก็ไม่มีเวลาซักจะไปส่งซักรีดก็เปลืองเงิน ผมก็เลยอาสาซักให้ซะเลย นี่ก็วันเสาร์แดดยามเช้าแบบนี้แหละเหมาะแก่การตากผ้าที่สุด
ผมยืนเท้าเอวมองเสื้อที่กำลังปลิวไสวไปตามแรงลม...เสื้อเชิร์ตตัวนั้นของครู...ตัวนั้นก็ด้วย...กางเกงตัวนั้นก็ด้วย...
ตอนแรกครูไม่ยอมให้ผมซักให้เอาแต่บอกว่าจะส่งซักลูกเดียวเลย ตอนที่คุยกับครูผมจำไม่ได้ว่าเขาทำสีหน้าแบบไหนอยู่ อาจเป็นเพราะผมเอาแต่เสตามองไปทางอื่น เพราะเรื่องวันนั้นแท้ๆ ผมถึงได้เข้าหน้าครูไม่ติดแบบนี้ผมยังจำมันได้ดีเลยล่ะ
อีกทั้งคำถามที่ยังค้างคาใจ...ผมคิดว่าบางทีก็ต้องการคำตอบแต่อีกใจก็ไม่คิดอย่างนั้น เพียงแค่เห็นเสื้อเชิร์ตตัวเล็กเข้ารูปของพี่อาราที่แขวนอยู่ข้างๆ เสื้อเชิร์ตสีขาวของครู
“เหม่ออะไรอยู่น่ะเรา”
“คุณพระ!!!”
ผมสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันกลับไปมองหน้าครูที่มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สีหน้าของเขาดูพอใจกับท่าทางเปิ่นๆ ของผมอยู่ไม่น้อย...โธ่...จะมาก็ไม่ให้ซุ่มให้เสียงกันเลยนะครับ...
“ขอโทษนะ ครูทำให้นายตกใจเหรอ?” ถามพร้อมกับก้มลงมองหน้าผม มือแกร่งวางลงบนหัวผมพร้อมกับขยี้เบาๆ
“ผมแค่กำลังคิดอะไรเพลินๆ น่ะครับ...”
“ถือว่านายโชคดีที่ไม่ได้เป็นโรคหัวใจ”
ครูหัวเราะแล้วเชยคางผมขึ้นมา ผมทำตาปริบๆ จ้องใบหน้าหล่อของครูที่ตอนนี้มันห่างกันอยู่ไม่เท่าไหร่ ครูรวบผมม้าข้างหน้าของผมขึ้นมาแล้วเอายางมัดไว้จนเป็นจุกเหมือนต้นมะพร้าว ผมลูบๆ คลำๆ มันอยู่ครู่หนึ่งพลางขมวดคิ้ว
“ไปตัดผมกันเถอะ ผมข้างหน้าจะทิ่มตานายอยู่แล้ว”
วันหยุดสุดสัปดาห์นี้เริ่มต้นที่ร้านตัดผมในห้างสรรพสินค้าครับ ผมนั่งมองครูนั่งอ่านหนังสือผ่านกระจก พอครูเงยหน้าขึ้นผมก็เสตาไปมองทางอื่น ผมพยายามทำตัวเหมือนปรกติแต่ยิ่งฝืนเท่าไหร่ผมก็ยิ่งผิดปรกติมากขึ้นเท่านั้น หลังจากตัดผมแล้วครูก็ลากผมไปในร้านๆ หนึ่งครับ ดูเหมือนว่าจะเป็นร้านเสื้อสำหรับเด็กวัยรุ่นน่ะ เขาคว้าเสื้อฮู๊ดตัวหนึ่งมาทาบกับตัวผมแล้วพลิกตัวผมให้หันหน้าเข้าหากระจก เราทั้งคู่มองหน้ากันผ่านกระจกบานใหญ่
“ชอบไหม”
“ครับ?”
“งั้นเอาตัวนี้ครับ”
เหมือนว่าน้ำเสียงที่ผมพูดไปเมื่อครู่มันน่าจะเป็นประโยคคำถามมากกว่าคำตอบนะครับ ครูเดินไปจ่ายเงินเสร็จสรรพพลางยื่นถุงให้ผมถือ ผมได้แต่มองอย่างงงๆ แล้วเดินตามหลังครูไป
ครูนี่ชอบทำอะไรประหลาดๆ เข้าไปทุกวัน...
“ครูเห็นนายชอบใส่เสื้อฮู๊ด” ครูพูดก่อนจะหยุดเดินแล้วหันมามองหน้าผม “น่ารักดี”
“...................”
น่ารักดี...
น่ารักดี...
น่ารักดี...
“หมายถึง...เสื้อน่ะเหรอครับ?” ผมชูถุงขึ้นมา ครูส่ายหน้าเบาๆ แล้วเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม เขาเอื้อมขึ้นมาจับเส้นผมที่เพิ่งผ่านการตัดไปเมื่อครู่ก่อนจะหลุบสายตาลงมาระดับเดียวกัน
“ไม่ใช่เสื้อหรอก”
ครูอมยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอี้ยวตัวกลับ เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วเดินนำไป ผมวิ่งตามไปติดๆ ก่อนจะลดฝีเท้าลงก้มหน้าก้มตาเดินตามครูไปเรื่อยๆ ผมรู้สึกร้อนตรงใบหน้าอีกแล้วล่ะครับตอนนี้มันเริ่มลามไปถึงหูแล้วด้วย ผมผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเซถอยหลังเพราะชนกับครูเข้าให้
“ขอโทษครับ” ผมกุมหัวตัวเองพร้อมกับเงยหน้ามองแผ่นหลังของครู ร่างสูงเงยหน้าขึ้นมองแถบโปรแกรมหนังที่กำลังเลื่อนโชว์เวลาฉาย ผมหันไปมองรอบๆ ไม่รู้ว่าเราทั้งคู่เดินมาหยุดอยู่หน้าโรงหนังกันตั้งแต่เมื่อไหร่
“คยูฮยอน”
“ครับครู”
“อยากดูเรื่องอะไร”
“เอ๋...เราจะดูหนังกันเหรอครับ?”
“ไหนๆ ก็วันหยุดทั้งที นายไม่อยากดูเหรอ”
“เปล่าครับเปล่า จริงๆ แล้วผมมีเรื่องที่อยากดูอยู่ตั้งสองเรื่อง ซอมบี้ขยายพันธุ์ล้างจักรวาลก็น่าดูนะครับ แต่อีกใจผมก็อยากดูหนังผี”
ผมขมวดคิ้ว ลังเลว่าจะดูเรื่องไหนดี ผมก็ไม่ได้ดูหนังมานานแล้วจะได้ดูทีก็เดือนละครั้งแล้วก็นัดกันไปเป็นกลุ่มใหญ่กับเพื่อนที่ปูซานก่อนจะไปดูด้วยกัน วันนี้ครูใจดีจัง พาผมออกมาเที่ยว มาตัดผม ซื้อเสื้อให้ แถมยังพาดูหนังอีกด้วย
“นายกลัวผีหรือเปล่า”
“ผมไม่กลัวครับ งั้นดูหนังซอมบี้กันดีไหมครับครู”
ครูพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะเดินไปซื้อตั๋วหนังกับป๊อปคอร์นกล่องใหญ่และน้ำอัดลม ไม่นานนักเราก็เข้าไปอยู่ในโรงหนัง ไตเติ้ลเล่นไปไม่นานก็ได้ดูสมอยาก ผมตั้งใจดูให้คุ้มราคาบัตร ป๊อปคอร์นเข้าปากอย่างช้าๆ พอถึงช๊อตเด็ดก็หันไปสะกิดครูโดยไม่รู้ตัว
“ผมว่าฉากต่อไปนี้พี่สาวนางเอกต้องโดนกัดแน่นอนเลยครับครู” ผมกระซิบขณะสะกิดแขนครูเบาๆ ครูป้องปากแล้วเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ผมทั้งที่สายตาก็ยังมองจออยู่
“ไม่หรอก ครูว่าพระเอกต้องเข้าไปช่วยไว้ได้ทัน”
ผมขมวดคิ้วเป็นปม ลุ้นกับหนังที่ดูอยู่จนครูหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ ผมหันไปมองหน้าครูทั้งที่คิ้วยังผูกกันอยู่อย่างนั้นด้วยความไม่เข้าใจ หนังมันตลกตรงไหน ครูเส้นตื้นหรือว่าผมเส้นลึกกันนะ
สุดท้ายก็เป็นอย่างที่ครูพูดครับ หนังจบแบบที่ครูทายไว้เป๊ะๆ สมกับที่เป็นครูจริงๆ ฉลาดในทุกๆ เรื่องจนผมยังต้องยอมรับ เราทั้งคู่เดินออกมาก่อนที่ผมจะบิดขี้เกียจเมื่อนั่งอยู่กับที่นานร่วมสองชั่วโมง พอออกมาจากห้างก็พบว่าท้องฟ้ามืดแล้ว วันหยุดที่มีค่าของผมมันช่างผ่านไปอย่างรวดเร็วเหลือเกิน
พอกลับไปถึงบ้านก็เห็นพี่อารานั่งอยู่บนโซฟากับใครอีกคน พี่วิ่งเข้ามากอดพร้อมกับสำรวจร่างกายผมเสียยกใหญ่ในขณะที่ครูเดินเข้าไปทักทายผู้ชายคนนั้น
“ตัดผมใหม่เหรอ น่ารักจัง”
“ครับ พี่กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่น่ะ”
“เมื่อเย็นนี้เอง...มานี่สิพี่มีใครจะแนะนำให้เรารู้จัก” พี่อาราจูงมือผมไปนั่งบนโซฟาก่อนที่เธอจะหยัดตัวนั่งลงข้างๆ ผู้ชายคนนั้นอย่างแนบชิด
“ปาร์คยูชอนแฟนพี่เอง~”
“หา?”
ผมอุทานออกมาทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้นก่อนจะชำเลืองตามองครูที่ยืนกอดอกอยู่ข้างหลังพี่อารา
เดี๋ยวสิครับ...แฟนเหรอ?
“แล้วครูล่ะครับ?” ผมชี้ไปที่ครูด้วยความไม่เข้าใจ พี่อาราเป็นพวกจับปลาสองมือเหรอ ทำแบบนี้สงสารครูแย่เลยนะครับ
“อะไรกัน เราเชื่อที่พี่พูดด้วยเหรอ” พี่อาราหัวเราะคิกคักในขณะที่ผมงงเป็นไก่ตาแตก
“ก็พี่...”
“โทษทีที่ทำให้นายต้องลำบาก อาราคงกวนนายไว้เยอะเลยสินะ” ผู้ชายที่ชื่อปาร์คยูชอน...เอ่อ...แฟนพี่สาวผมนั่นแหละครับเขาหันไปคุยกับครูเฉยเลย นั่นก็รู้จักกันด้วยเหรอ
“ชินแล้ว” ครูยิ้มให้กับอีกฝ่ายก่อนจะหันมามองหน้าผม
“ทีหลังก็อย่าทำให้น้อยใจอีกสิ” พี่อารายู่ปากก่อนที่อีกคนจะดึงเข้าไปกอดอย่างออดอ้อน
“โอเค จะไม่ทำให้น้อยใจอีกแล้วสัญญาเลย ห้ามขนข้าวของหนีผมไปอีกนะ”
“จะทำอะไรอายน้องนุ่งบ้าง” ครูพูดแต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะไม่แคร์เลยสักนิด
หลังจากนั้นเราก็กินมื้อค่ำกันครับ วันนี้ผมเข้าไปเป็นลูกมือครูจนได้อาหารมาสามสี่เมนู ระหว่างที่ทำอาหารครูก็ไม่พูดอะไรเลยสักคำจนผมนึกเป็นห่วงหรือว่าครูจะเฟลที่ผู้ชายคนนั้นกลับมาหาพี่อารา แค่คิดผมก็เจ็บแทนครูแล้วครับ ครูเหมือนพระรองในละครที่แอบหลงรักนางเอกอยู่ แล้วแบบนี้ผมจะช่วยครูยังไงดีนะ
“จะย้ายกลับวันพรุ่งนี้เหรอ?”
“ใช่เลย มีบินอีกทีก็มะรืน ฉันอยากอยู่กับยูชอนที่รักนานๆ ก่อนไป~”
“ตอนแรกเห็นบอกต่อให้นายมาคุกเข่าขอโทษก็จะไม่ยอมกลับไป แต่ไหงเป็นอย่างนี้ได้ก็ไม่รู้สิ...” ครูหัวเราะในขณะที่พี่อารากำลังถลึงตาใส่ คงมีแต่ผมที่กำลังนั่งกินข้าวอยู่เงียบๆ เหมือนรู้ว่าประโยคถัดไปคืออะไร...
“จะพาคยูฮยอนไปพร้อมกันเลยไหม?”
พี่ยูชอนถามจบ ช้อนส้อมที่อยู่ในมือผมก็ร่วงลงกระทบกับจานเซรามิกส์จนเกิดเสียงดังในทันที ทั้งสามคนหันมามองเป็นตาเดียวกันก่อนที่ผมจะหัวเราะแห้งๆ
“ขอโทษครับ มันลื่นน่ะ...”
“คงต้องฝากไว้กับซีวอนอีกสักอาทิตย์ก่อน ขอเคลียร์งานภายในอาทิตย์นี้แล้วพี่จะรีบมารับเราเลย โอเคไหม?” พี่อาราถาม ทุกคนกำลังรอคำตอบจากปากผม ตอนนี้ผมกำลังทำอะไรไม่ถูก มันก็แค่ตอบไปว่า ‘โอเคครับ’ เองไม่ใช่เหรอไม่เห็นจะยากอะไรเลย...แต่เพียงแค่ผมหันไปมองหน้าครูเท่านั้นแหละ คำพูดเหล่านั้นก็ถูกกลืนลงคอไปหมด
“...ครับ”
“จะได้อยู่ด้วยกันสักที ขอบคุณน๊าซีวอนที่นายดูแลน้องชายฉันเป็นอย่างดี นายเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับฉันเลยล่ะ มั๊วะ!” พี่อาราจุ๊บแก้มในขณะที่ครูนั่งนิ่งเหมือนกับว่าชินชากับเรื่องเหล่านั้น
อาหารวันนี้เป็นมื้อที่ทำให้ผมรู้สึกกระอักกระอ่วนมากที่สุด...
.
.
ผมเดินออกมานอกระเบียงพลางเงยหน้าขึ้นมองดาวที่กระจายอยู่เต็มท้องฟ้า ส่องแสงประกายระยิบระยับในขณะที่ดวงจันทร์หยุดนิ่งอยู่กับที่ ตอนเป็นเด็กผมเคยคิดว่าดวงจันทร์กำลังเคลื่อนตัวหนีไปแต่จริงๆ แล้วเป็นโลกต่างหากที่กำลังวิ่งหนีมันเหมือนผมในตอนนี้...
ผมคิดว่าจะต้องมีสักวันที่ผมกับครูต้องแยกจากกัน เพราะผมคงอยู่รบกวนครูนานๆ ไม่ได้ ผมเป็นแค่นักเรียนคนหนึ่งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องทางสายเลือดกับครูแต่ทำไมถึงได้ใจหายอย่างนี้นะ เวลาแค่ไม่กี่อาทิตย์ที่อยู่ด้วยกันมันทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับครูได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ คงเป็นเพราะว่าครูดีกับผมมาก ใช่...มันต้องเป็นเหตุผลนี้แน่ๆ
“เฮ้อ...” ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในห้อง ปิดม่านระเบียงพลางเอนหลังพิงประตูที่เพิ่งปิดไปเมื่อครู่ ทอดสายตาไปรอบๆ ห้องที่ผมเคยคิดว่าคงได้อยู่ในห้องนี้ไปอีกพักใหญ่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะต้องจากที่นี่ไปเร็วขนาดนี้
“ก็แค่ย้ายไปอยู่กับพี่เอง ไปโรงเรียนก็ยังเจอครูนี่นา” ผมพูดปลอบใจตัวเองแล้วเดินไปนอนบนเตียง ห่มผ้าเสร็จสรรพพยายามข่มตาหลับแต่ก็ไม่เป็นผล พลิกตัวไปมาอยู่นานจนนึกรำคาญตัวเอง
ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วคว้าแว่นบนหัวเตียงมาใส่ก่อนจะเดินลงไปข้างล่างเพื่อหาน้ำดื่ม หวังจะสงบสติอารมณ์ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าที่เป็นแบบนี้เพราะอะไร แสงไฟตรงห้องโถงยังเปิดสลัวๆ อยู่ ผมคิดว่าครูคงยังนอนไม่หลับเหมือนกับผม เพราะปรกติแล้วก็เห็นครูนอนดึกอยู่ตลอด ผมเดินเข้าไปข้างในเผยให้เห็นร่างของครูนอนหลับอยู่บนโซฟาพร้อมกับหนังสือที่อยู่ในมือ
สงสัยคงนอนอ่านหนังสือจนเผลอหลับไป...
ผมเดินเข้าไปใกล้ๆ ก่อนจะหยัดตัวนั่งลงบนพื้นตรงหน้าโซฟาพร้อมกับเอนหลังพิง ชันเข่าเข้าหาตัวพร้อมกับกอดมันเอาไว้เหมือนกับเด็กมีปัญหาและมันก็คงเป็นอย่างนั้นจริงๆ ผมกำลังมีปัญหาที่คิดไม่ตกอยู่ล่ะครับ...
ตอนนี้ครูหลับไปแล้ว แต่ผมกลับมานั่งจมปุกอะไรตรงนี้ก็ไม่รู้ จ้องมองใบหน้าครูอยู่อย่างนั้นราวกับว่าสิ่งที่ทำอยู่จะทำให้ความรู้สึกที่ว้าวุ่นในหัวใจนั้นจางหายไปได้
“ทำไมยังไม่นอนอีกหืม?”
ผมเบิกตาโพลงเมื่อจู่ๆ ครูก็ตื่นขึ้นมา ผมมองครูที่กำลังยิ้มให้ทั้งที่กำลังสะลึมสะลืออยู่ด้วยความรู้สึกผิด
“ขอโทษครับ ผมทำให้ครูตื่นใช่ไหม”
“ไม่หรอก ครูแค่พักสายตาน่ะ”
“...งั้นเหรอครับ” ผมพยักหน้าเบาๆ ก่อนที่มือแกร่งจะวางลงบนหัวผมพร้อมกับลูบเบาๆ
“สีหน้านายไม่ค่อยดี เป็นอะไรหรือเปล่า?”
“...ผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันครับว่าตัวเองเป็นอะไร แต่มันรู้สึกแย่อย่างบอกไม่ถูก”
“อยากระบายให้ครูฟังไหม?”
ผมชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วขยับเข้าหาครู
“ผมกำลังใจหายที่ต้องไปจากที่นี่ครับ” พอผมพูดจบครูก็หัวเราะ เป็นอีกครั้งที่เขาหัวเราะออกมาไม่ว่าเรื่องนั้นจะตลกหรือไม่
“ถ้าอยู่กับอารา นายคงมีความสุขมากกว่านี้”
“...ที่ครูพูดมันก็ถูก แต่ผมยังไม่รู้นี่ครับว่าตอนนี้กับอนาคตอะไรจะทำให้ผมมีความสุขมากกว่ากัน”
สีหน้าของครูลดไปเล็กน้อย เขามองหน้าผมก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วยื่นมือมา ผมจับมือแกร่งเอาไว้ก่อนที่ครูจะดึงผมขึ้นไปนั่งข้างๆ
“เข้าใจพูดนะ”
“ผมมีความสุขที่ได้อยู่กับครูนะครับ” ผมทำหน้าจริงจังก่อนที่ครูจะขำพรืดอย่างกับว่าเรื่องที่ผมพูดไปมันเป็นเรื่องตลก อะไรกันเล่า คนกำลังจริงจังอยู่นะครับ
“ครูเองก็มีความสุขที่ได้อยู่กับนายเหมือนกัน”
ผมเงยหน้าขึ้นมองครูอย่างไม่เข้าใจ มือแกร่งบีบจมูกผมเบาๆ ก่อนจะดึงผมเข้าไปกอดปลอบ ครูเอนตัวไปมาเหมือนกับโอ๋เด็ก ตอนนี้ผมกำลังทำตัวไม่ถูกกับอ้อมกอดที่ได้รับ ได้เพียงแค่กอดตอบหลวมๆ พร้อมกับซุกหน้าลงกับไหล่กว้าง...ได้ผล...กอดของครูทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นได้จริงๆ ในขณะที่หัวใจของผมมันหล่นวูบลงไปแล้ว
“ครูครับ”
“หืม?”
“ตอนที่พี่อาราบอกว่าเป็นแฟนครู ผมไม่เห็นว่าครูจะปฏิเสธสักคำเลย”
“หมายถึงอธิบายให้นายเข้าใจว่าครูกับอาราไม่ได้เป็นอะไรกันงั้นเหรอ”
“ใช่ครับ”
“ตอนนี้นายก็รู้แล้วนี่...”
“ผมก็คิดว่าครูชอบพี่อารามาตลอดซะอีก”
“เพี้ยนแล้ว เราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกัน พี่สาวนายดันทะเลาะกับยูชอนจนหอบข้าวหอบของหนีมาอยู่ที่นี่แล้วมันก็เป็นจังหวะเดียวกับตอนที่นายย้ายขึ้นมาอยู่โซลพอดีไง”
“เฮ้อ ผมล่ะก็เป็นห่วงกลัวว่าครูจะต้องเจ็บซะอีก” ผมถอนหายใจอย่างโล่งอก ถือว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งเลยล่ะครับ
“สิ่งที่ทำให้ครูเจ็บที่สุดก็คือการฝืนใจตัวเอง...ซึ่งกับอารามันไม่ใช่”
“เอ๋?”
“ช่างมันเถอะ เอาล่ะ ไปเข้านอนกันได้แล้วเด็กน้อย” ครูพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนและไม่ลืมที่จะยื่นมือมาให้ ผมยิ้มกว้างแล้วจับมือครูเอาไว้ก่อนจะลุกขึ้นไปตามแรงดึงของอีกฝ่าย
นั่นสินะครับ...ต่อให้อะไรจะเกิดขึ้นก็...
‘ช่างมันเถอะ’
.
.
ผมกับเพื่อนๆ เดินออกมาเรียนพละในสนามฟุตบอลก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าตึกหนึ่งที่มีนักเรียนยืนมุงอยู่แถวนั้น
“พวกนั้นมุงดูอะไรกันหว่า...” ฮยอกแจพูดพลางชะเง้อหน้ามองก่อนจะสะกิดให้มินโฮวิ่งไปดู ไม่นานนักมินโฮก็วิ่งกลับมาพร้อมกับสีหน้าแตกตื่น
“แย่แล้ว ครูซีวอนโดนฝ่ายปกครองเรียกไปคุย!”
ผมเบิกตากว้างก่อนจะรีบวิ่งไปในห้องปกครองที่มีกลุ่มนักเรียนยืนมุงอยู่ ผมเดินแหวกผู้คนเข้าไป ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอเวลาจนกว่าครูจะเดินออกมาจากห้องนั้น นานมาก...แต่ครูก็ไม่เดินออกมาสักที เสียงซุบซิบของคนรอบข้างทำให้ผมพอรู้อะไรมากขึ้น...
‘ได้ยินมาว่าครูซีวอนกำลังเดทกับนักเรียนคนหนึ่งอยู่ เห็นว่าเป็นเด็กผู้ชายด้วย’
‘ว่าไงนะ เดทงั้นเหรอ?’
‘ใช่น่ะสิ ล่าสุดไปดูหนังด้วยกันมา มีซื้อเสื้อผ้าให้ด้วย แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่าเด็กคนนั้นเป็นใคร’
“...............”
ขาของผมหยุดนิ่งกับที่ ไม่สามารถขยับไปไหนได้เลย คำพูดเหล่านั้นยังคงก้องอยู่ในหัวผม ‘เด็กผู้ชาย’ ที่ว่ามานั่นมันผมไม่ใช่เหรอ...
“เฮ้ คยูฮยอน นายโอเคไหม” ฮยอกแจสะกิดไหล่ผมเพื่อเรียกสติ
“...............”
“โจคยูฮยอน ปีสามห้องบีเชิญที่ห้องปกครองด้วยค่ะ”
“หือ...” ฮยอกแจมองหน้าผมเมื่อเสียงประกาศสิ้นสุดลง ผมหันไปยิ้มบางๆ ให้กับคนข้างๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องปกครองท่ามกลางเสียงซุบซิบ
ภายในห้องแอร์เย็นจนเรียกได้ว่าหนาว ผมเห็นครูยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยที่มีอาจารย์ฝ่ายปกครองนั่งจ้องอยู่ ผมเดินไปหยุดอยู่ข้างๆ ครูพร้อมกับโค้งหัวให้อาจารย์ฝ่ายปกครอง
“นายคือโจคยูฮยอนสินะ”
“ครับ...”
“รู้ไหมว่าฉันเรียกนายมาทำไม”
“................” ผมไม่ตอบ ได้เพียงแค่ชำเลืองมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ เท่านั้น
“คยูฮยอนเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ครับ”
“จะไม่เกี่ยวได้ยังไงกัน ก็ภาพมันเห็นๆ กันอยู่” มือเรียวโยนรูปถ่ายมาตรงหน้า รูปถ่ายนั้นคือผมกับครูที่กำลังเดินเลือกซื้อเสื้อด้วยกันแล้วก็รูปเราทั้งคู่ที่ยืนอยู่หน้าโรงหนัง
“มันแปลกตรงไหนเหรอครับที่ผมจะพาน้องชายของเพื่อนสนิทไปซื้อของในวันหยุด”
“..................”
“ผมคิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิดพอที่จะทำลายชื่อเสียงสถาบันแห่งนี้ คยูฮยอนก็เหมือนน้องชายของผมเราจะไปเที่ยวกันในวันหยุดบ้างผมว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดอะไร เพราะในเวลาเรียนผมก็คือครูสอนคณิตศาสตร์...ส่วนคยูฮยอนก็คือนักเรียน”
ผมรู้สึกกลัวไปหมด อาจเป็นเพราะอุณหภูมิในห้องนี้ที่หนาวเย็นอย่างบอกไม่ถูก ผมไม่เคยเห็นครูจริงจังขนาดนี้มาก่อน บอกตามตรงว่าผมกำลังจะเป็นบ้าเพียงแค่รู้ว่าตัวเองเป็นต้นเหตุของปัญหาทั้งหมด...
เพราะผมคนเดียว...
.
.
พอกลับมาถึงบ้านผมก็ยังคงพบปัญหาอย่างต่อเนื่อง...ตอนนี้พี่อารากำลังคุยกับครูอยู่ ผมได้แค่ยืนหลบอยู่หลังประตูห้องและแอบฟังเขาคุยกันเท่านั้น
‘ว่าแต่เรื่องที่โรงเรียนโอเคหรือยัง?’
‘ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ทางนั้นก็เข้าใจผิดเพราะมีคนไปใส่ไฟ อีกอย่างคยูฮยอนก็เป็นเด็กผู้ชายเลยไม่มีปัญหาอะไรมาก’
‘ฉันต้องขอโทษนายจริงๆ นะซีวอน’
‘ไม่เป็นไรน่ะ เรื่องมันผ่านไปแล้ว’
‘ไม่เป็นไรได้ไงกัน นายเกือบถูกไล่ออกเพราะน้องชายฉันนะ ไม่รู้แหละ...พรุ่งนี้ฉันจะมารับคยูฮยอนไปอยู่คอนโดด้วยกันจะได้เลิกเป็นภาระสร้างปัญหาให้นายสักที’
‘ก็บอกแล้วไงว่ามันไม่เกี่ยวอะไรกับคยูฮยอน เธออย่าโทษน้องสิ’
เสียงพูดคุยยังแว่วเข้ามาในห้อง ผมค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างอ่อนแรง มีอะไรที่ผมทำได้บ้างในตอนนี้ ผมเป็นภาระของครูอย่างที่พี่อาราพูดจริงๆ นั่นแหละ...ผมเม้มริมฝีปากแน่นพลางปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ สุดท้ายแล้วผมก็กลั้นมันไว้ไม่ไหว ฟุบหน้าลงกับโต๊ะแล้วร้องไห้ออกมาอย่างเหลืออด เด็กอย่างผมจะไปทำอะไรได้ ผมเสียใจที่ทำให้ครูต้องลำบาก คำว่าขอโทษของผมมันคงไม่ทำให้อะไรดีขึ้น ผมรู้...
แต่ผมก็แค่อยากอยู่กับครู...ไม่ได้เหรอครับ...
.
.
ปัง...
ผมเงยหน้าขึ้นมองใครอีกคนที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาในห้อง มือทั้งสองข้างรีบปาดน้ำตาออกก่อนจะหันไปเผชิญหน้ากับครูที่กำลังเดินเข้ามาหา
“ร้องไห้ทำไม”
“..................”
เหมือนกับโดนจี้จุดอ่อน เพียงแค่ได้ยินครูถามแบบนั้นผมก็เริ่มตาแดงรื้นขึ้นมาอีกครั้ง ครูโอบใบหน้าผมเอาไว้พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือไล้น้ำตาออกให้อย่างเบามือ ผมหลับตาพริ้มปล่อยให้สัมผัสของครูนั้นช่วยบรรเทาความเศร้าในใจออกไป
“ผม...ผมขอโทษ...ขอโทษนะครับครู...” สะอื้นจนตัวโยน ก้มหน้าร้องไห้พร้อมกับโค้งหัวให้ครูด้วยความรู้สึกผิดที่มีอยู่เต็มอก
“ขอโทษอะไรกัน มันไม่ใช่ความผิดของนายสักหน่อย”
“ผม...ผมขอโทษ...”
“.............”
รู้สึกตัวอีกทีร่างของผมก็ถูกครูดึงเข้าไปกอดเสียแล้ว ถึงอ้อมกอดของครูในตอนนี้มันกำลังทำให้ผมรู้สึกเจ็บ แต่ถึงอย่างนั้นผมกลับยินดีที่จะให้ครูกอดต่อไป...
“นายไปอยู่ที่นั่นก็ระวังด้วยล่ะ...อย่าไปเที่ยวทำกางเกงในตกให้ใครเก็บอีกนะ”
“.................”
“กับข้าวไม่ต้องทำเยอะขนาดนั้นเพราะอารากับยูชอนเป็นพวกชอบเข้าร้านอาหารมากกว่าทำกินเองที่บ้าน”
“.................”
“พอถึงตอนนั้นครูคงมีงานแบ่งให้ช่วยทำอีกเยอะ...ถ้าเกิดว่านายว่างๆ ก็แวะเข้ามาหาครูบ้างแล้วกัน”
ครูค่อยๆ ผละตัวออก เป็นครั้งแรกที่ผมคิดว่ารอยยิ้มของครูมันดูฝืนต่างไปจากทุกครั้ง เขาขยี้หัวผมก่อนจะหันหลังให้ ครูกำลังเดินไปที่ประตู...ผมได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินจากผมไป...
ผมคิดถึงพี่อารา ผมรอเวลาที่จะได้อยู่กับเธอมาตั้งกี่ปี...แต่ในตอนนี้...
ผมอยากอยู่กับครูมากกว่าครับ...
ผมวิ่งเข้าไปคว้าข้อมือครูเอาไว้นั่นทำให้เขาหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าประตู...มือผมค่อยๆ เลื่อนลงจนหยุดอยู่ที่ชายเสื้อของครูพลางกำชายเสื้อเอาไว้พร้อมกับก้มหน้าลง ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีกทั้งผมและเขาได้เพียงแค่ปล่อยให้ความเงียบกัดกินความรู้สึกไปเรื่อยๆ
“ถึงผมจะเป็นตัวปัญหาและทำให้ครูต้องเดือดร้อน...”
“.............”
“แต่...”
“.............”
“ให้ผม...อยู่กับครูได้ไหมครับ”
มือของผมยังคงดึงชายเสื้อราวกับว่ามันจะรั้งครูไว้ได้ มันเป็นคำพูดเอาแต่ใจที่น่าจะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว ไม่มีทางเลยที่ครูจะตอบตกลงกับสิ่งที่ผมได้พูดออกไป...ผมเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย นั่นอาจจะเป็นคำตอบของครูก็ได้...
ว่าครู...ไม่ต้องการผม
ผมเงยหน้าขึ้นเมื่อครูกำลังเอี้ยวตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากัน ผมไม่สามารถรับรู้ได้เลยว่านัยน์ตาคู่นั้นกำลังมองผมแบบไหน ครูอาจจะรำคาญคำขอจากเด็กอย่างผมก็เป็นได้หรืออาจจะนึกสงสาร เห็นใจแต่ยังไงผมก็ยังอยากได้ยินจากปากครูอยู่ดี
“ผม...อยากอยู่กับครูครับ”
“.............”
“.............”
ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับครูก่อนที่ใบหน้าคมจะค่อยๆ เลื่อนเข้ามาใกล้ มือแกร่งโอบใบหน้าผมเอาไว้ก่อนที่เปลือกตาผมจะปิดลงอย่างช้าๆ เมื่อริมฝีปากของครูแตะลงบนริมฝีปากของผม...ความรู้สึกในตอนนี้มันยากจะบรรยายออกมาเป็นคำพูด ทั้งเสียใจ สับสน และไม่เข้าใจปะปนกันไปหมด ผมได้เพียงแค่ยืนนิ่งๆ และปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไป...
แย่แล้วล่ะครับ...ตอนนี้หัวใจผมมันเริ่มเต้นแรงขึ้นมาเสียดื้อๆ เพียงเพราะว่าครูรั้งเอวผมเข้าไปกอดแนบแน่น มือข้างหนึ่งของครูนั้นรั้งท้ายทอยผมเอาไว้ก่อนที่ลิ้นร้อนจะแทรกเข้ามา...นี่เป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันว่ามันจะเกิดขึ้น ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าชีวิตนี้จะโดนครูจูบแต่ถึงอย่างนั้นผมก็ไม่ได้รังเกียจหนำซ้ำกลับรู้สึกดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาดอีกด้วย หัวใจของผมที่ก่อนหน้านี้มันกำลังเจ็บช้ำนั้นมันกำลังถูกเยี่ยวยาโดยอ้อมกอดและรสจูบของครู...
อาจจะเป็นอย่างที่ฮยอกแจบอกก็ได้...
ที่ว่าผม...กำลังชอบใครสักคนอยู่...
ครูผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งทั้งที่ใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ ปลายนิ้วหัวแม่มือไล้ไปตามริมฝีปากของผมอย่างทนุถนอม สายตาของครูยังไม่ละห่างไปไหน ผมเห็นเงาตัวเองอยู่ในม่านตานั่น...บอกตามตรงว่าผมยังตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่อยู่ เป็นช่วงเวลาสั้นๆ เพียงเสี้ยวนาทีที่ผมพอจะจำอะไรได้ สมองมันขาวโพลนไปหมดกับจูบแรกที่มันเป็นของครู...
“ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับนายว่าต้องการที่จะอยู่กับครู...หรือว่าเลือกที่จะไป”
TALK
มาม่าทั้งตอนเลยอ่ะ...
มาจูบกันแบบนี้คราวหน้าจะทำยังไงคะครู
คงรู้แล้วมั้งว่าคิยูจะตอบครูซีวอนว่าอะไร . _.
ตอนหน้าไม่มีดราม่าแล้วนะ จูบแรกผ่านไปแล้ว จะมีจูบครั้งที่สองมั้ยอ่ะ
(เขิน) #บ้าไปละ เขียนเองเขินเอง
ขอโทษที่เขียนงงๆ นะคะ พอดีว่าง่วงมาก นอนไปสามชั่วโมงอีกแล้ว
สตรีนางนี้มีชีวิตอยู่ได้ด้วยพลังแสงอาทิตย์แน่ๆ orz
ความคิดเห็น