ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] WonKyu ft.HaeEun | He's mine "Teacher"

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 2 : Between

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 55


      

     







     

     

    Chapter 2

    ครูเป็นสิ่งมีชีวิตที่...ยิ้มเก่งที่สุดในโลก






     

     

    เอาล่ะๆ เลิกเล่นแล้วหันมาฟังครูสักประเดี๋ยวได้ไหม เฮ้! ทางนั้นน่ะถ้ายังไม่เลิกครูจะสั่งวิ่งรอบสนามสิบรอบแล้วนะ!”

    เสียงของครูสอนพละตะโกนขู่เหล่าเด็กผู้ชายที่กำลังเล่นหยอกล้อกันอยู่ท้ายแถว คาบนี้เป็นวิชาพละครับ ผมและเพื่อนๆ ยืนกันอยู่ท่ามกลางสนามฟุตบอลอุณหภูมิกำลังดี ไม่ร้อนและกำลังอบอุ่นได้ที่เหมาะแก่การวิ่งออกกำลังกาย แต่ผมเริ่มจะเห็นปัญหาก็ต่อเมื่อมีลูกหนังกลมๆ กลิ้งมาใกล้ๆ นี่ล่ะครับ...

     

    ฟุต...บอล...

     

    อาทิตย์ที่แล้วครูแบ่งทีมไปกี่คนนะ ทีมละหกคนใช่ไหม มาเอาบอลไปทีมละลูกแล้วหาพื้นที่ล้อมเป็นวงกลม หัดฝึกส่งบอลกันนะ

    อะไรนะครับ ฟุตบอลเหรอ ผมหันไปถามฮยอกแจที่ยืนเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่ข้างๆ ดูท่าเขาจะพร้อมกับกีฬาประเภทนี้ดีทีเดียวเลยล่ะครับ

    ใช่ ฟุตบอลนี่แหละกีฬาของชายชาติทหาร

    อา...แย่แล้วสิ ผมพึมพำเบาๆ

    เป็นอะไร

    คือผมไม่ค่อยถูกกับพวกลูกกลมๆ สักเท่าไหร่น่ะครับ เวลาเล่นทีไรแล้วแว่นแตกทุกทีเลย กลับบ้านไปโดนย่าเอาก้านหวายไล่ฟาดจนต้องวิ่งหนีไปหลบในเล้าไก่เพราะแว่นราคามันแพงมาก..."

    เท่าไหร่

    แสนวอนครับ (ประมาณสี่พันห้า)

    โธ่เอ๊ย มันแพงตรงไหนเนี่ย

    แพงจริงๆ นะครับ แว่นอันหนึ่งผมใช้ประมาณ 4-5 ปีได้ถ้าเกิดว่าไม่โดนลูกหนังนั่นกระแทกเข้าให้เสียก่อน ผมทำหน้าจริงจังก่อนที่ฮยอกแจจะลากผมไปยืนอยู่วงล้อมด้วย ผมยืนเก้ๆ กังๆ มองลูกฟุตบอลพลางมองซ้ายขวา

    อยู่กลุ่มเดียวกับฉันนี่แหละ คนขาดตั้งสองคน ได้นายมาเป็นประตูก็คงดี

    ประตูมันเสี่ยงต่อการโดนเตะอัดแว่นแตกมากเลยนะครับฮยอกแจ ผมแย้งขึ้นมา เพราะไอ้ครั้งล่าสุดที่แว่นแตกก็เพราะว่าได้รับบทเป็นผู้แบกภาระทีมไว้ไงล่ะครับ

    ใครจะไปเตะโดนแว่นนายกัน ถอดแว่นออกแล้วค่อยเล่นสิ

    ถ้าทำแบบนั้นผมก็คงมองอะไรไม่เห็นครับ สายตาผมสั้นตั้งเจ็ดร้อยแน่ะ

    “-_-! คอนแทคเลนส์ไงโจคยูฮยอน นายไม่มีเหรอ?

    หมายถึงไอ้พลาสติกสีใสที่เด็กผู้หญิงชอบเอาไปใส่ตาให้ดูมีประกายนั่นใช่ไหมครับ ผมไม่มีหรอก เพราะย่าบอกว่าถ้าใส่ของพรรค์นั้นแล้วพลาสติกอาจจะละลายตอนที่เราอยู่ใกล้ไฟจนตาบอดไปเลยก็ได้ ผมยังคงปั้นหน้าจริงจังต่อไป ย่าผมพูดแบบนั้นจริงๆ ครับ ซึ่งมันคงน่ากลัวพิลึกถ้าเกิดเรากำลังกินเนื้อย่างกันอยู่แล้วพลาสติกมันละลายขึ้นมาน่ะ...

    โอเค! งั้นฉันให้นายเป็นกองหลัง!” ฮยอกแจเริ่มทำหน้าหงุดหงิดครับ ตอนนี้ผมชักรู้สึกผิดที่ทำตัวมีปัญหากับเพื่อนฝูงซะแล้วสิ

    ฮยอกแจครับผมขอโทษ

    ไม่ต้อง -_-!”

    ครับ

    ยังจะครับอีก เอ้ารับไป!” ฮยอกแจส่งบอลมาให้ผมเบาๆ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังรับมันไม่ได้ ฮยอกแจทำท่าจะทึ้งหัวตัวเองเมื่อเห็นพฤติกรรมกลัวลูกหนังของผม ซึ่งมันก็จริง ผมกลัวฟุตบอลมากยิ่งกว่าอะไร กีฬาประเภทอื่นผมไม่เคยเลี่ยงไม่ว่าจะเป็นวิ่งร้อยเมตร วิ่งผลัด ว่ายน้ำ ชักคะเย่อ แต่อะไรที่มันเป็นลูกกลมๆ นี่ขอเถอะนะครับ...

    ขอโทษครับ!” ผมโค้งหัวขอโทษฮยอกแจและเพื่อนอีกสามคนที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่แล้วก็รีบวิ่งไปเก็บบอล

    ฟุตบอลหยุดลงที่ตรงหน้าใครคนหนึ่ง ผมเห็นเพียงแค่รองเท้าหนังสีดำของเขาก่อนจะค่อยๆ มองขึ้นไปตามลำดับจนเห็นชุดกราวน์สีขาว อาจารย์หนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้ก้มลงหยิบลูกฟุตบอลให้กับผม

    ขอบคุณครับ

    ไม่เป็นไร...ฝากบอกอีฮยอกแจด้วยนะว่าครูมีงานจะให้ช่วย ให้เขาไปเจอครูที่ห้องพยาบาลด้วย

    ได้ครับครู ผมโค้งหัวให้เขาก่อนจะวิ่งกลับเข้าไปหาฮยอกแจที่ยืนมองตาขวางไม่ต่างจากเมื่อครู่ เขาโกรธอะไรขนาดนั้นนะแค่ผมรับบอลไม่ได้เอง

    เมื่อกี้นายคุยอะไรกับครูห้องพยาบาล

    อ๋อ...เมื่อกี้ครูเขาบอกว่าให้ฮยอกแจไปหาที่ห้องพยาบาลด้วยครับ ครูมีเรื่องให้ช่วย

    กลับไปบอกเขาด้วยนะว่าฉันเป็นนักเรียน ไม่ใช่ผู้ช่วยหมอ โอ...เค๊? เขายื่นหน้าเขามาใกล้ๆ ผมพร้อมกับชำเลืองตามองใครอีกคนที่ยังคงเดินไปไม่ไกลจากที่นี่ ผมพยักหน้าหงึกแล้วรีบวิ่งไปหาครูห้องพยาบาลตามคำสั่งของฮยอกแจ

    พอวิ่งไปถึงก็ยืนหอบ โกยอากาศเข้าปอดเหมือนตอนวิ่งหนีหมาบ้านครูใหญ่ที่ปูซาน ครูห้องพยาบาลเลิกคิ้วมองผม

    ฮยอกแจตอบว่าเขาเป็นนักเรียนไม่ใช่ผู้ช่วยหมอครับครู ดูเหมือนเขาจะบอกว่าเขาไม่ว่างนะครับ

    เหอะ ไม่ว่างงั้นเหรอ งั้นช่วยบอกเขาทีนะว่าถ้าเขาไม่มาช่วยครูภายในวันนี้ วันหน้าก็ไม่ต้องมาช่วยอีกเลย ครูจะหาคนใหม่มาแทนเขาเอง -_-”

    ได้ครับครู ผมพยักหน้าทีหนึ่งแล้ววิ่งกลับเข้าไปในสนาม ตอนแรกอากาศมันก็อบอุ่นดีอยู่หรอกนะครับแต่พอวิ่งไปวิ่งกลับแบบนี้แล้วผมถึงได้รู้ว่าวันนี้ร้อนมาก...

    ฮยอกแจครับ

    เออ

    ครูบอกว่า ถ้าเกิดวันนี้ฮยอกแจไม่ไปช่วย ครูเขาจะหาคนใหม่ไปช่วยแทน แล้วฮยอกแจก็ไม่ต้องไปช่วยเขาอีกครับ

    ทันทีที่ผมพูดจบฮยอกแจก็แค่นเสียงหัวเราะออกมาทันที ผมมองฮยอกแจกับคุณครูสลับกันไปมาดูเหมือนว่าทั้งคู่จะกำลังปั่นสงครามประสาทกันอยู่นะครับ

    ฝากไปบอกเขาเป็นครั้งสุดท้ายนะว่า...ฉัน! ไม่! เคย! แคร์!”

    ฮยอกแจ...ไม่เอาน่า ใครอีกคนที่ชื่อมินโฮเดินมาวางมือลงบนไหล่ฮยอกแจอย่างเป็นห่วง ผมเองก็เหมือนกันครับ ตอนนี้ผมก็เป็นห่วงฮยอกแจและตัวผมเองด้วย เริ่มเหนื่อยแล้วนะครับ

    ฉันไม่ไปหาเขาเด็ดขาด อยากทำอะไรก็เชิญเลย

    ไปต่อสัญญาให้มันจบๆ ไปสิจะได้ไม่มีปัญหากันไงหืม? มินโฮเลื่อนไปลูบหัวร่างบางเบาๆ ในขณะที่ฮยอกแจกำลังเดือดได้ที่ แต่จู่ๆ ฮยอกแจก็ยิ้มออกมาพร้อมกับจับมือมินโฮไปกอดคอตัวเองไว้

    ผมไม่รู้ว่าทั้งคู่กำลังเล่นอะไรกันอยู่แต่ดูเหมือนว่าครูห้องพยาบาลที่ยืนมองอยู่ห่างๆ นั้นกำลังไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ที่ฮยอกแจไม่ทำตามคำสั่งเขา ที่โรงเรียนนี่ดีจังเลยนะครับ นักเรียนขัดใจครูได้โดยไม่ต้องโดนด่าและหักคะแนนเทียบกับที่ปูซานไม่ได้เลยครับ ที่นั่นน่ะถ้าใครกล้าหือนี่คงโดนแปรงลบกระดานเพียวๆ พร้อมฝุ่น Effect เหมือนในละครกำลังภายในอะไรอย่างนั้นเลย แต่พูดอย่างนั้นก็ไม่ถูกอีกล่ะครับ เพราะนั่นมันเป็นการเสี้ยมสอนให้เด็กๆ ไม่รู้จักเชื่อฟังครูบาอาจารย์แล้วแบบนี้จะเป็นอนาคตของชาติได้ยังไง นักเรียนต้องเคารพคุณครูสิถึงจะถูก ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยชอบหน้าครูคนนั้นก็เถอะ ผมเองก็เคยเป็นครับแต่ดีที่ว่าผมเก็บอารมณ์เก่ง

    ผมวิ่งกลับไปหาครูห้องพยาบาลอีกครั้งแต่ยังวิ่งไม่ไปถึงไหนก็ได้ยินเสียงคำว่า ระวัง!!!” แล้วหลังจากนั้นผมก็ได้ยินเพียงแค่เสียงวิ้ง...แล้วโลกนี้ก็มืดลงไปในทันที...

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    ผมค่อยๆ ลืมตาขึ้น...จ้องมองเพดานสีขาวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองทางขวาที่มีฮยอกแจนั่งอยู่ข้างๆ สีหน้าเขายังคงเหมือนตอนกลางวันไม่มีผิด หน้าบึ้งเหมือนตูดเป็ดเลย

    ฮยอกแจเป็นอะไรครับ

    ฉันกำลังคิดว่านายนอนหรือตาย ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วนะ

    อะไรนะครับ! ห้าโมงแล้วเหรอ?!” ผมดีดตัวลุกขึ้นนั่งพร้อมกับมองนาฬิกาข้อมือ แต่ก็ต้องขยับมือเข้ามาใกล้ๆ ระดับสายตาเพราะมองไม่เห็น แว่นผมอยู่ไหนครับ

    อยู่นี่ เขายื่นแว่นที่สภาพเหมือนอะไรสักอย่าง...ขามันเบี้ยวๆ อีกทั้งเลนส์ข้างขวายังร้าวอีก...อย่าบอกนะครับว่าสิ่งที่ผมกลัวอยู่มันจะเป็นเรื่องจริง

    ทำไมแว่นผมถึงอยู่ในสภาพแบบนี้ล่ะครับ

    นายโดนลูกหลงของบอลกลุ่มอื่นน่ะสิ ไม่น่าวิ่งไปหาอีตา...เอ่อ...ครูห้องพยาบาลเลย

    ก็ฮยอกแจขอให้ผมไปเองไม่ใช่เหรอครับ...ไม่เอาดีกว่า ถ้าถามไปแบบนั้นเดี๋ยวฮยอกแจจะเซ็งอีก

    แย่จังเลยนะครับ...แสนวอนของผม ผมจับแว่นมาขยับซ้ายขยับขวาแล้วใส่เข้าไป

    นายจะใส่มันอีกเหรอไง เห็นๆ อยู่ว่าข้างนึงมันร้าวแล้วน่ะ

    แต่อีกข้างก็ยังมองเห็นนี่ครับ

    ติงต๊อง ฮยอกแจหยิกแก้มผมเบาๆ อย่างหมั่นเขี้ยว ผมหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วก็ลูบท้องตัวเองที่มันกำลังส่งเสียงโอดครวญเพราะความหิว

    กลับบ้านกันไหม

    ครับ ห้าโมงแล้วนี่เนอะ ผมลุกขึ้นยืนพร้อมกับยื่นมองไปรับกระเป๋าจากฮยอกแจ

    นายนอนหลับเหมือนคนโดนรถชนยังไงอย่างนั้น นี่แกล้งสลบหรือหลับจริงอ่ะ

    ผมไม่ได้แกล้งนะครับ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากจะเข้าเรียนต่อนะ ผมพยายามแก้ตัวให้ฮยอกแจเข้าใจ เขาหัวเราะน้อยๆ ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเห็นใครอีกคนยืนรออยู่หน้าประตูทางออกห้องพยาบาล

    สวัสดีครับครู

    สวัสดี...

    เราสองคนจะกลับแล้ว ฮยอกแจพูดเสียงเรียบไร้หางเสียง ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูกต้องเลยนะครับ ฮยอกแจควรจะให้ความเคารพครูบาอาจารย์มากกว่านี้

    ครูจะไปส่ง

    เรากลับกันเองได้ครับ เนอะคยูฮยอน ฮยอกแจควงแขนพร้อมกับซบไหล่ผม ผมก็ไม่ได้คิดอะไรครับ เพื่อนกันกอดกันอะไรแบบนี้บ้างผมว่ามันเป็นเรื่องปรกติ

    หืม? ครูห้องพยาบาลเลิกคิ้วมองเราทั้งคู่ด้วยสายตาที่ยากจะอธิบาย

    โจคยูฮยอน

    ครับครู

    ขอครูคุยกับฮยอกแจหน่อยได้ไหม ดูเหมือนว่าครูซีวอนจะรอนายอยู่ข้างนอกน่ะ

    เอ๋...ครูซีวอนรอผมอยู่ข้างนอกเหรอครับ ทำไมครูถึงมารอผมที่นี่ได้ล่ะ

    ครูก็ไม่รู้เหมือนกัน บางทีเขาอาจจะอยากต้องการความช่วยเหลือ เหมือนครูในตอนนี้... พูดกับผมทั้งที่สายตากำลังจ้องฮยอกแจอยู่ ผมพยักหน้าหงึกก่อนจะแกะนิ้วของฮยอกแจออกทีละนิ้ว

    ฮยอกแจ งั้นผมไปก่อนนะ ไม่อยากให้ครูซีวอนเขารอนาน

    นายจะทิ้งฉันไปงั้นเหรอคยูฮยอน -_-”

    มาอีกแล้วครับสายตาแบบนี้ ผมหัวเราะแห้งๆ ก่อนจะมองหน้าทั้งคู่สลับกันไปมา

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ ก็เห็นว่าครูเขามีเรื่องอยากคุยกับฮยอกแจตั้งแต่เช้า แล้วผมก็ต้องไปหาครูซีวอนด้วย...เพราะฉะนั้น...


    สายตาครูทงเฮเหมือนจะบอกผมกรายๆ ว่า ไปสักทีเถอะ

    แต่สายตาของฮยอกแจเหมือนจะบอกผมกรายๆ ว่า ถ้าไป นายตายแน่!’


    ผมลาล่ะครับ... โค้งหัวบอกลาครูห้องพยาบาลในขณะที่ฮยอกแจอ้าปากค้างด้วยความโมโห ผมเดินลิ่วออกไปพร้อมกับปิดประตูห้องพยาบาล ก่อนจะเห็นใครอีกคนที่ยืนพิงพนังอยู่ฝั่งตรงข้าม

     

     

    “หลับสบายไหม”

     

     

    อาจจะเป็นเพราะแสงแดดยามเย็นที่ใกล้จะลับหายลับขอบฟ้าก็ได้...ที่มันทำให้ครูซีวอนในตอนนี้ดูดีจนทำให้ผมรู้สึกใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าทฤษฏีไหนแต่ผมคิดว่าตัวผมนี่นไม่ควรจ้องหน้าครูนานๆ ในสภาพตาข้างเดียวแบบนี้

    ครูยังไม่กลับเหรอครับ

    ยังหรอก ได้ยินมาว่านายบาดเจ็บจนต้องนอนห้องพยาบาล กว่าจะปลีกตัวมาหาได้ก็เย็นแล้ว เขาเดินเข้ามาใกล้ๆ ผมพร้อมกับโอบไหล่ให้เดินไปด้วยกัน จริงๆ แล้วคงเรียกว่ากอดคอคงจะดีกว่า มันคงไม่แปลกอะไรถ้าคนที่ทำแบบนี้เป็นเพื่อนของผม แต่ทำไมผมถึงรู้สึกใจเต้นแรงเวลาครูทำอะไรแบบนี้ด้วยนะ

    อ๋อ...ผมไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกครับ ผมติดนิสัยที่ว่าถ้าเกิดหัวถึงหมอนเมื่อไหร่ได้เป็นหลับยาว ถ้าไม่มีนาฬิกาปลุกหรือใครสะกิดก็ไม่มีมีทางตื่น...ก็เลยไม่ได้เข้าเรียนน่ะครับ... ฮะๆ ผมเกาหัวแก้เขินเมื่อนึกถึงนิสัยที่แก้ไม่ได้ของตัวเอง ถ้าเกิดจะโดนครูดุก็คงไม่แปลกแล้ว

    วันนี้นายอยากทานอะไร

    อะไรก็ได้ครับ ครูอยากกินอะไรผมกินได้หมดเลย หันไปพูดจ้อเหมือนสนิทกันมานานโดยไม่รู้ตัว เขาหัวเราะในลำคอก่อนจะขยี้หัวผมเบาๆ

     

     

     

    แต่อันดับแรกเราต้องไปหาแว่นใหม่ให้นายเสียก่อน

     

     

     

    .

    .

    ครูจอดรถหน้าร้านแว่นเล็กๆ แถวทางเข้าปากซอยบ้าน เราทั้งคู่เดินลงไปในร้านกระจกใส หยุดอยู่หน้าเคาน์เตอร์แล้วก็เห็นครูพูดทักทายกับคนขาย ครูนี่อัธยาศัยดีจริงๆ เลย

    นั่นใครคะครู น้องชายเหรอ?

    ครับ น้องชายผมเอง

    ผมโค้งหัวทักทายอีกฝ่าย เธออมยิ้มตอบกลับมาอย่างเป็นมิตร

    ช่วยเลือกแว่นให้เขาหน่อยครับ แล้วก็ขอคอนแทคเลนส์ด้วยคู่หนึ่ง

    ได้เลยค่ะ สายตาสั้นเท่าไหร่คะ หรือว่าจะวัดใหม่

    ไม่ต้องวัดใหม่หรอกครับเสียเวลาคุณเปล่าๆ สายตาผมสั้นเจ็ดร้อยครับ ผมรีบปฏิเสธพลางหันไปมองครูที่ยืนอยู่ข้างๆ

    ชอบกรอบแบบไหนคะ

    ผมขอแบบราคาถูกที่สุด... ผมพูดเสียงเบาลงต่างจากเมื่อครู่ ในกระเป๋าเงินผมตอนนี้จะมีถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้ เงินทั้งหมดผมก็เก็บไว้ที่บ้านไม่ได้พกติดตัวมาด้วยเพราะกลัวมันหาย

    เอากรอบสีดำอันนั้นน่ะครับ ครูชี้ไปที่ชั้นบน ผมแทบจะอ้าปากค้างเมื่อราคาของมันตั้งสองแสนวอน!!!

    ไม่นะครับครู...ผมไม่มีเงินขนาดนั้นหรอก...

    ถือว่าครูซื้อให้นายเป็นของขวัญที่เราได้มาอยู่ด้วยกัน โอเคไหม?

    จะโอเคได้ไงล่ะครับครู...มันแพงมากเลยนะครับ หน้าผมตอนนี้เหมือนอะไรสักอย่าง ถ้ามันพับรวมกันได้คงทำไปแล้ว ความเกรงใจ ความรู้สึกผิด ความอะไรทุกอย่างมันกำลังถาโถมเข้ามาหาผมแล้ว

    รับไว้เถอะ ถ้านายเกรงใจก็มาช่วยครูตรวจข้อสอบบ้าง แบบนั้นล่ะว่ายังไง?

    ผมชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับน้อยๆ อย่างฝืนใจ เป็นหนี้ครูอีกแล้ว เป็นหนี้ครูอีกแล้ว...

    แล้วคอนแทคเลนส์ที่ครูสั่งเมื่อกี้...สั่งให้ผมเหรอครับ

    อืม ครูคิดว่าถ้านายใส่มันไปในวันที่มีเรียนพละคงจะดีกว่า

    “ถ้าโดนแสงแดด...มันจะไม่ละลายจนผมตาบอดเหรอครับ...

    ไม่หรอก คนอื่นเขาก็ใส่กันเยอะแยะไป ถ้าตานายบอดครูจะเอาตาของครูทดแทนให้ ดีไหม? เขาหัวเราะน้อยๆ ราวกับเห็นเรื่องที่ผมพูดเป็นเรื่องตลก คอยดูเถอะครับ ถ้าเกิดผมตาบอดจริงๆ ขึ้นมาคงได้มีการแลกตากันก็งานนี้แหละ - -

    แว่นมาแล้วค่ะ

    ลองดูสิ ผมพยักหน้าหงึกแล้วรับแว่นมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อจู่ๆ ครูก็ยื่นมือมาถอดแว่นให้ผมอย่างเบามือ...และหนำซ้ำเขายังโน้มใบหน้าลงมาใกล้ผมอีกด้วย

    ...............

    น่าเสียดายนะ แว่นอันนี้นายคงรักมันมาก

    ...ค...ครับ ผมงุดหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะสวมแว่นอันใหม่เข้าไป ครูเอานิ้วสะกิดไหล่ก่อนจะชูกระจกให้อยู่ระดับใบหน้าผม แว่นอันนี้ให้ความรู้สึกดีกว่าแว่นอันเก่าอีกแฮะ...นี่สินะที่เขาว่ายิ่งแพงยิ่งดี

    ชอบไหม

    ชอบ...ครับ

    ผมมองหน้าเขาแล้วก็หลุบสายตาลง เป็นอย่างนั้นอยู่เรื่อย เหมือนผมต้องการที่จะสบตาเขาแต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่มันก็ไม่เคยเป็นผล ผมแพ้สายตาครูจริงๆ นะ

    งั้นลองใส่คอนแทคเลนส์ดูนะ คุณจินเยครับช่วยพาเขาไปลองใส่คอนแทคเลนส์ที

    ผมเดินไปอีกห้องกับผู้หญิงคนนั้น เธอสอนให้ผมถ่างตา สอนวิธีใส่ วิธีเก็บรักษาทุกอย่าง ถึงแม้ว่ามันจะใช้เวลาร่วมเกือบสิบห้านาทีในการใส่แต่ผมก็เอาพลาสติกนั่นเข้าไปในลูกตาสำเร็จจนได้ (ฟังดูน่ากลัวจังเลยครับ) ผมเดินปาดน้ำตาลวกๆ ออกมาจากห้องนั้น การถ่างตาเป็นเวลานานทำให้ผมรู้สึกว่าโลกนี้มันอยู่ยากขึ้นทุกวัน

    เป็นยังไงบ้าง

    ก็ดีครับครู รู้สึกตัวเบาขึ้นมาทันที แต่มันจะไม่ละลายแน่ใช่ไหมครับ

    ไม่ละลายหรอกค่ะ ถ้าเกิดว่าคุณไม่โยนมันใส่เข้าไปในกองไฟน่ะนะ พนักงานสาวหัวเราะ(เยาะ) ผมก็แค่กลัวนี่ครับ ตาก็มีอยู่สองข้างไม่มีอะไหล่สำรองเหมือนเครื่องยนต์สักหน่อย ถ้าเกิดเป็นอะไรมาผมก็หมดอนาคตไปเลยนะ

    ขอน้ำยาล้างคอนแทคด้วยนะครับ

    ได้ค่ะ ทั้งหมดสองแสนห้าหมื่นวอนค่ะ



    สองแสนห้าหมื่น!!!!



    - -...

    ขอบคุณมากนะครับ ดูแลตัวเองด้วยล่ะคุณแม่ยังสาว

    “แหม...เข้าใจแล้วค่ะครู กลับบ้านดีๆ นะคะ

    “เอ่อ...ขอบคุณมากนะครับที่สอนผมใส่คอนแทคเลนส์ ขอบคุณจริงๆ ครับ ผมโค้งหัวขอบคุณในความมีน้ำใจของพนักงานสาวคนนั้นด้วยความซาบซึ้ง ใครนะจะมีน้ำใจมาสอนแม้กระทั่งเอาพลาสติกใสใส่ตาให้ขนาดนั้น

     

    และแล้วเราทั้งคู่ก็กลับไปถึงบ้าน ผมเดินตามหลังครูไปติดๆ ชนิดว่าเดินห่อไหล่ตาม เจียมเนื้อเจียมตัว พอเปิดประตูเข้าไปก็ต้องผงะเมื่อจู่ๆ ก็มีใครอีกคนจุดพลุกระดาษขึ้นมา



    เซอร์ไพร์ส!!!”

    คุณพระ!!!”

    ..............

    ผมเอามือทาบอกพลางมองไปยังร่างผอมบางตรงหน้าที่อยู่ในชุดเดรสสีแดงสด เธอรีบกรูเข้ามากอดผมพร้อมกับหอมแก้มซ้ายขวาและไม่ลืมจูบหน้าผากผมแช่เอาไว้

    พ...พี่อารา

    ไงจ๊ะน้องรัก! คิดถึงชะมัดเลย

    ไหนบอกว่า...พี่จะกลับพรุ่งนี้ไงครับ ผมหันไปมองหน้าครูที่ยืนทำหน้าเฉยๆ อยู่ข้างๆ

    อยากเซอร์ไพร์สนี่...เอ๊ะ...เราเลิกใส่แว่นแล้วเหรอ น่ารักอ่ะ พี่อาราเข้ามาทึ้งแก้มผมใหญ่ เธอกอดรัดฟัดเหวี่ยงผมแบบนี้เป็นประจำทุกครั้งที่เราได้มีโอกาสเจอกัน

    อ๋า~ ซีวอนนี่~ ที่รักจ๋ามากอดหน่อยสิ~” พี่อาราทำหน้าออดอ้อนก่อนจะอ้าแขนออกก่อนที่ครูจะหัวเราะน้อยๆ แล้วสวมกอดเธอ

    กอดแน่นเกินไปแล้ว

    ก็ฉันคิดถึงนายนี่...ซีวอนอา...

    เห็นมั้ยว่าคยูฮยอนมองอยู่ ครูผละออกพร้อมกับปัดไรผมออกจากดวงหน้าหวานเบาๆ ผมมองทั้งคู่สลับกันไปมาอย่างงงๆ หรือว่าเขาทั้งคู่จะ...

    เข้าไปในบ้านกันก่อนเถอะ

    โอเค~ ฉันซื้ออาหารมาเยอะแยะเลยวันนี้ เราต้องฉลองกันนะ

    ซื้อมาอีกแล้วเหรอ ไหนบอกว่าจะหัดทำเองไง

    หูย...ก็เข้าครัวเมนูนึงใช้เวลาทำก็ตั้งนาน ไม่เอาน่า อย่าบ่นเลยนะ

    ตลอด... ผมมองแผ่นหลังของทั้งคู่ที่กำลังคลอเคลียกันไปจนถึงห้องครัวแล้วก็ยักไหล่น้อยๆ

     

    เมนูหลากหลายถูกจัดเตรียมไว้บนโต๊ะจนผมคิดว่าเราทั้งสามคงกินมันไม่หมดแน่ในภายในวันนี้ เครื่องดื่มของผมเป็นน้ำเปล่าแต่ของพี่สาวและของคุณครูเป็นไวน์สีแดงเข้ม พี่อาราเอาแต่พูดแล้วก็หัวเราะไม่หยุดในขณะที่ผมกับครูได้เพียงแค่หัวเราะพอเป็นมารยาทบ้างกับสิ่งที่เธอกำลังเล่า

    บางครั้งพี่ก็เงียบไปแล้วก็ดื่มจนหมดแก้ว สักพักก็กลับมาหัวเราะอีก จนกระทั่งมื้อเย็นจบลง ผมก็ได้แยกตัวไปอาบน้ำแล้วทำใจกดโทรออกหาฮยอกแจ ได้เบอร์มาตั้งแต่ตอนเช้าแต่ไม่คิดว่าจะได้ใช้งานภายในคืนนี้เลย ถ้าโทรไปตอนนี้ฮยอกแจจะโกรธจะรำคาญหรือเปล่านะ

     

    ( นั่นใคร )

    ผมคยูฮยอนเองครับฮยอกแจ

    ( อ๋อ...ไอ้แว่นหน้าจืดที่กล้าทิ้งฉันไว้ในห้องพยาบาลกับไอ้ครูเฮงซวยนั่น )

    ผมไม่ได้ทิ้งฮยอกแจนะครับ แล้วก็อย่าเรียกครูแบบนั้นสิ มันไม่ดีเลยนะ

    ( เฮ้! นี่นายโทรมาเพื่อจะสั่งสอนฉันงั้นเหรอ เดี๋ยวปั๊ดวางซะนี่ )

    เปล่านะครับฮยอกแจ ผมจะโทรมาถามว่าวันนี้มีการบ้านวิชาอะไรบ้างต่างหาก...

    ( จะบอกดีมั้ยน๊า~ )

    บอกผมเถอะนะครับ ผมไม่มีเบอร์เพื่อนคนอื่นแล้ว

    ( จะบอกก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน )

    ครับ?

    ( เป็นทาสรับใช้ของฉันหนึ่งวัน )

    ทาสเหรอครับ?

    ( ใช่ นี่นับแค่เรื่องการบ้านนะ ไม่รวมเรื่องที่นายทิ้งฉันไว้เมื่อตอนเย็นด้วย เอาไม่เอา ไม่เอาฉันวางนะ )

    ได้สิครับได้ แค่เป็นทาสเอง ผมรีบตอบกลับไปเพราะไม่อยากเสียงานครับ ผมเป็นคนที่ทำอะไรเป็นระเบียบมาตลอด ไม่อยากให้ดูเป็นเด็กเกเรที่ไม่ทำการบ้านส่งตั้งแต่เพิ่งย้ายเข้ามาเรียน มันจะเสียเครดิตจนเกินไป ก็แค่เป็นทาสเอง...

     

     

    แล้วทาส...มันทำอะไรบ้างนะ... - -

     

     

    เดินลงไปข้างล่างหวังจะหาน้ำดื่มหลังจากทำการบ้านเสร็จ ยกแก้วน้ำขึ้นมากำลังจะดื่มก็ต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงใครสะอื้นร้องไห้อยู่ตรงห้องโถง...ผมค่อยๆ ก้าวไปอย่างช้าๆ เห็นแสงไฟสีส้มสลัวพร้อมกับร่างคนสองคนที่กำลังกอดกันแน่น...

    พี่สาวผมกำลังสะอื้นในอ้อมกอดของครูซีวอน และมือแกร่งกำลังลูบไปตามเรือนผมของอีกคนอย่างทนุถนอม...ท่ามกลางความเงียบผมได้ยินเพียงแค่เสียงพร่ำบอกว่า ไม่เป็นไรนะ... ของครู แต่ถึงอย่างนั้นคนในอ้อมกอดก็ยังสะอื้นจนตัวโยน

     

     

     

     

     

     

     

     

    ผมว่าบางที...พี่อาราอาจจะคบหากับคุณครูอยู่ก็ได้...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    TALK

    ในที่สุดก็ปล่อยตอนสองออกมาสักที

    อย่าคิดว่าฟิคเรื่องนี้จะมีฉากหวือหวาหรือฉากแรงๆ เลยนะคะ

    อยากให้ฟิคมันละมุนค่อยเป็นค่อยไป หวังว่าคนอ่านจะฟินกับคยูฮยอนในลุคหนิมๆ แบบนี้นะ

    เพราะคิดว่าเรื่องอื่นๆ ใครๆ ก็เขียนคยูเกรียนแตกกันเกลื่อนแล้ว ลองแหวกบ้างจะเป็นไรไป!

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×