คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : เขาคนนั้น..
...
..
“นี่เราจะไปไหนกันน่ะครับ?” ร่างโปร่งเอ่ยถามคนหน้าสวยที่เอาแต่เดินจ้ำอ้าวไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเดินง่ายๆ
“นั่นน่ะสิ! ฉันกำลังจะไปไหน??” ใบหน้าสวยเริ่มเหงื่อตก กุมขมับตัวเองเพื่อเรียกสติให้กลับคืนมา.. ฟุ้งซ่าน.. โมโหปาร์คจองซูจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว
“คุณโกรธเขาเหรอครับ?”
“อย่ามาทำเป็นรู้มาก - -+” ฮีชอลหันไปแยกเขี้ยวใส่ฮันคยองพร้อมกับกอดอกตัวเอง
“ผมก็แค่ถามดู.. ถ้าชอบเขาแล้วทำไมไม่สารภาพไปล่ะครับ”
“เอ๊ะ!!!”
“โอเคครับ..ผมจะไม่พูดถึงอีกแล้ว -___-” ร่างโปร่งเริ่มรู้ชะตาชีวิตถึงได้ปิดการขายไปโดยทันที
ฮีชอลหันไปมองอีกฝ่ายตั้งแต่หัวจรดเท้า เพ่งเล็งหาความเคะของอีกฝ่ายอย่างตั้งอกตั้งใจ
“..มองอะไรเหรอครับ?”
“มองดูว่าไอ้ม้ามันชอบนายตรงไหน” ใบหน้าสวยแสยะยิ้มมอง
“เฮ้อ..ผมก็อยากรู้เหมือนกันนั่นแหละ..คุณรู้จักเขาด้วยเหรอ?”
“แหงล่ะ..”
“ผมไม่ชอบที่เขาเข้ามาเจ๊าะแจ๊ะกับผมเลย”
“แล้วอะไรเข้าฝันให้นายมาขอฉันคบน่ะ?” คนสวยหันไปถามน้ำเสียงกระแทกกระทั้น
“ฟังดูมันอาจงี่เง่า.. ในตอนนั้นผมแค่อยากจะหนีซีวอน” ฮันคยองทำหน้าสำนึกผิด
“นายคงเกลียดเหง้าหน้าไอ้ม้ามันมากเลยสินะ” ฮีชอลมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเห็นอกเห็นใจปนสมน้ำหน้านิดๆ
“เปล่านะเปล่า..ผมไม่ได้เกลียดเขาหรอก..เพียงแต่..”
“หืมมมม?”
“คือ...”
“ไม่เป็นไรๆไม่ต้องเล่าก็ได้.. ฉันไม่ฝืนใจนายหรอก” ฮีชอลพูดตัดบทเมื่อเห็นว่าฮันคยองทำท่าจะสำลอกของเก่าจากเมื่อวานออกมาซะให้ได้
ทั้งคู่หยุดอยู่ที่หน้าตึกนิติศาสตร์และเลือกที่จะหยุดนั่งรับลมเย็นๆอยู่แถวนั้น
RRRRrrrr!!!
ฮีชอลหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูพอเห็นชื่อคู่สายปลายทางแล้วก็เบ้ปากก่อนที่จะเก็บมันกลับเข้าไปในกระเป๋าอย่างเดิม
“ไม่รับเหรอครับ?”
“ไม่”
“เขาคงเป็นห่วงคุณมาก อย่างน้อยคุณน่าจะส่งข้อความไปบอกเขานะ”
“ห่วงตัวเองก่อนเถอะ.. คิดว่าบ้านตัวเองเป็นเจ้าของเครือข่ายองค์การโทรศัพท์รึไงโทรอยู่ได้..ไอ้ทึ่มเอ๊ย!” ฮีชอลบ่นอุบอิบใส่โทรศัพท์มือถือพร้อมกับกดส่งข้อความอย่างช่ำชอง ฮันคยองได้แค่ส่ายหน้าพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ ดูยังไงก็รู้ว่าคิมฮีชอลแอบชอบคนๆนั้นอยู่
“ฮึ่ย!”
“ดูคุณแคร์เขามากนะ”
“ห๊ะ..ฉันเนี่ยนะแคร์หมอนั่น ตลกตายล่ะ!”
“ไม่แคร์หรอก.. แค่ในสมองของคุณตอนนี้มีแต่เรื่องของเขาเต็มไปหมดเท่านั้นเอง”
“นี่แป๊ะ..ถ้ายังพูดมากอีกเห็นทีเราจะได้เลิกกันก็วันนี้ละนะ”
“นั่นสินะ..พูดถึงแล้ว..เราสองคนกำลังคบกันอยู่นี่..” ฮันคยองทำหน้านึก
“เออใช่..” ฮีชอลทำหน้าคิดตาม.. เพราะโมโหแท้ๆถึงได้พลั้งพลาดมาคบกับไอ้แป๊ะนี่ได้
“อ๊อ! คือ.. คุณอย่าใส่ใจกับคำพูดนั้นเลยนะ ที่ผมพูดไปน่ะเพราะ..” ฮันคยองรีบแก้ตัว
“ฉันรู้แล้วน่าว่านายขอคบฉันเพราะประชดไอ้ม้ามันน่ะ คิดว่าฉันพิศวาสกระเหรี่ยงหลงเขาอย่างนายนักรึไง - -+”
…
…
“เดี๋ยวพี่คุยกับเจ้าของร้านให้ พอดีสนิทกันอยู่” จองซูพูดกับฮยอกแจขณะที่กำลังเก็บข้าวของเข้ากระเป๋าเตรียมตัวจะไปทำงานพิเศษ
“จริงนะฮะ >[]<”
“เฮ้อ..นายเองก็นะ.. อยู่ดีไม่ว่าดี..บ้านก็รวยทำไมชอบออกมาลำบาก” จองซูพูดแล้วหันไปมองน้องชาย
“พ่อแม่ผมรวย ใช่ว่าตัวผมเองจะรวยนี่ฮะ อีกอย่าง..แด๊ดบอกว่าอย่างผมน่ะทนได้ไม่ถึงเดือนหรอก -3-”
“แล้วมันจริงมั้ย?”
“พี่อ่ะ!!!” คนตัวเล็กหันมางอหน้าเมื่อถูกแทงใจดำ
“นานที่สุดกี่วัน?” จองซูถามขณะที่กำลังจะสตาร์ทมอเตอร์ไซมินิสีชมพูที่ฮีชอลจอดทิ้งไว้
“สอง..อาทิตย์..” ร่างบางงอหน้า ไม่ใช่ว่าทนไม่ไหวอะไรหรอก.. แต่ไปที่ไหนไม่ถูกลวนลาม..ก็สะดุดล้มกาแฟราดหัวเค้าบ้างล่ะ
“อย่าให้เสียเครดิตพี่นะ เข้าใจ๋?” จองซูพูดแล้วยื่นหมวกกันน็อคให้ ฮยอกแจยิ้มร่าสวมหมวกกันน็อคสีชมพูแล้วกระโดดซ้อนท้ายพี่ชายทันที
แต่หารู้ไม่ว่า.. มีสายตาอาฆาตมองอยู่ห่างๆ.. คิมฮีชอลจิ๊ปากหมั่นใส้มองตามคนสองคนที่ซ้อนมอเตอร์ไซออกไปอย่างมีความสุข (ภาพในมิติฮีชอลเห็นเป็นอย่างนั้นทั้งที่จองซูทำหน้าเอือมโลกเต็มแก่แล้ว)
“หึ!! หึ!!!” ร่างบางหัวเราะในลำคอก่อนที่จะหันไปมองคนที่เดินตามมาด้วย ฮันคยองสะดุ้งเมื่อถูกสายตาเพชตฆาตมองมาแต่ก็ได้แค่ฝืนแค่นยิ้มออกไป
“คะ..ครับฮีชอล?”
“ฉันจะส่งนายแค่นี้แหละ รีบกลับบ้านซะไป” ฮีชอลพูดห้วนๆแล้วหยิบหมากฝรั่งออกมาเคี้ยวเพื่อบำบัดอารมณ์ตัวเองที่ปรอทสีแดงกำลังพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุด
“ส่งผมเหรอ? -____-?”
“ก็ใช่น่ะสิ”
“ผมต่างหากที่ต้องไปส่งฮีชอลกลับบ้าน”
“นี่แป๊ะ ตอนนี้ไม่มีใครเห็นเราแล้ว.. ไม่ต้องแสดงละครก็ได้ รีบกลับบ้านไปช่วยแม่ขายเต้าทึงไป” ฮีชอลเสตามองไปทางอื่น ฮันคยองหัวเราะในลำคอก่อนที่จะเดินไปที่รถตัวเอง
“ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยผม กลับบ้านดีๆนะ” ฮันคยองไม่คิดที่จะตื้อขอไปส่งร่างบางกลับบ้านแต่อย่างใด เพราะถ้าเกิดเขาทำแบบนั้นมีหวังได้กลับบ้านไม่ครบสามสิบสองแน่ๆ
ฮีชอลมองตามรถเก๋งสีดำที่พึ่งขับผ่านไปก่อนที่จะหันมาถอนหายใจเบาๆ
“เกทึก..นายกล้ามาก.. กล้ามากๆ.. ”
..
..
“เนี่ยอะครับคุณนาย..รุ่นน้องผมเค้ากำลังตกงาน อย่างน้อยให้เค้าเป็นเด็กล้างจานก็ยังดีนะครับ” จองซูพูดกับเจ้าของร้านหน้าสวย ถึงจะอายุห้าสิบต้นๆแล้วแต่ก็ยังคงดูสวยเช๊งอยู่.. หน้าตาไม่บอกไม่รู้ว่าเป็นแม่ค้าขายบะหมี่
“หนูชื่ออะไรน่ะ?”
“ผมชื่อฮยอกแจฮะ.. ลีฮยอกแจ” ฮยอกแจยิ้มทำเอาคุณนายลียิ้มตามไปด้วย
“น่ารักดีนะเราน่ะ.. เอาเถอะ.. ฉันจะรับเธอไว้แล้วกัน.. จองซู เดี๋ยวพาน้องไปห้องแต่งตัวนะเดี๋ยวฉันให้คนเอาเครื่องแบบร้านไปให้ลองใส่ดู”
“คุณนายจะให้ฮยอกแจทำงานวันนี้เลยเหรอครับ?”
“แน่น๊อน.. ฉันชอบคนที่มีความกระตือรือร้น.. หรือว่าไม่พร้อม?” คนนายลีหันมามองจิกๆ ฮยอกแจมองตาแป๋วแล้วรีบเก็บกระเป๋า ลุกขึ้นโค้งหัวให้ก่อนที่จะจองซูจะจูงมือเขาไปที่ห้องแต่งตัว
..
“คุณนายลีพี่นี่สวยจังเลย.. แต่หน้าคุ้นจังแฮะ.. เหมือนเคยเจอที่ไหน” ฮยอกแจพูดขณะที่จองซูกำลังสวมเสื้อเครื่องแบบพนักงาน
“แหงล่ะ.. หล่อนเป็นถึงภรรยา ส.ส.เชียวนะ”
“จริงเหรอ! ไหงภรรยา ส.ส.ถึงได้มาเปิดร้านบะหมี่อย่างนี้ล่ะฮะ?” ร่างเล็กถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เรื่องมันยาว.. สรุปง่ายๆว่าสามีภรรยาเล่นแง่กัน..ภรรยาเบื่อที่จะเข้าสมาคมคุณนายแห่งชาติพอดีเลยตัดสินใจมาเป็นสามัญชนธรรมดา”
“โห.. ลดระดับตัวเองลงมาเยอะมากเลย”
“อย่าถามเรื่องนี้กับคุณนายเชียว”
“อีกเรื่องฮะ อีกเรื่อง”
จองซูหันมามองน้องชายขี้สงสัยแล้วเก็บของเข้าล็อคเกอร์
“ทำไมร้านถึงเป็นสีชมพูล่ะฮะ”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน คุณนายชอบสีชมพูมั้ง”
“แปลกดีนะฮะ แต่ก็เด่นดี -3-”
แอ๊ดดด..
ประตูถูกเปิดออกเล็กน้อยแต่ก็ทำให้ร่างเล็กที่กำลังเพลิดเพลินในการซักถามอยู่เงียบในทันทีพร้อมกับท่าทางที่ยืดตรงอย่างกลับว่าจะโดนจับผิดยังไงอย่างนั้น
“จองซู เดี๋ยวนายออกไปส่งบะหมี่แทนทีสิ.. พอดีพี่ต้องไปซื้อของให้คุณนายน่ะ”
“อ๋อได้ครับพี่”
“โอเค งั้นฝากด้วยนะ”
“ครับผม”
“โห.. ดูพนักงานที่นี่อบอุ่นกันดีจังเลย.. ผมจะไม่ถูกลวนลามใช่มั้ยฮะพี่?” ฮยอกแจถาม
“คงไม่หรอกมั้งส่วนมากพนักงานที่นี่จะมีเมียแล้วทั้งนั้น”
“มีเมียนั่นแหละตัวดี -3-”
“คิดว่าตัวเองน่าพิศวาสนักรึไงกัน” จองซูหันไปมองฮยอกแจพลางกลั้นหัวเราะสุดใจ
“อะ..อะไรเล๊า! ผมก็กลัวนี่นา พี่ไม่เคยโดนอย่างผมพี่ไม่รู้หรอก”
“ชาตินี้ทั้งชาติพี่ก็ไม่ถูกผู้ชายด้วยกันลวนลามหรอก ฮ่าฮ่าฮ่า~”
“โอมเพี๊ยงงง~~~ ขอให้สักวันพี่โดนอย่างผมบ้าง ถ้าวันนั้นมาถึงนะ.. ผมยอมแต่งตัวเป็นผู้หญิงให้ดูเลยเอ๊า~”
“ฮ่าๆ มันไม่มีทางเกิดขึ้นหรอกน่า. นายรอพี่ซึงตรงนี้นะ เดี๋ยวพี่กลับมา”
“รับทราบฮะ~”
..
..
ร่างบางนั่งอยู่ในห้องแต่งตัวอยู่ชักรู้สึกอยู่ไม่สุข..
“เมื่อไหร่พี่ซึงอะไรนั่นจะมาซักทีน้า..”
ทันใดนั้นเองประตูก็ถูกเปิดออกพร้อมผู้ชายสี่ห้าคน ที่สำคัญคือหน้าตาอย่างกับโฮสต์คลับกันทั้งนั้น!
“เอาน่า แค่ถูกตบเอง อย่าไปเครียดๆ”
“ร้ายนักนะแก”
“เห้ย..คราวหน้าคราวหลังหัดระวังซะบ้างสิวะ”
“เลือดรักเพื่อนคังอินมันแรงว่ะ 5555”
“ไม่ได้หรอกว๊อย คังอินคนนี้รักเพื่อนยิ่งกว่าเมีย”
“รักเริกอะไรกัน.. ที่โดนตบมาไม่ใช่เพราะไปขอฟันเขาหรอกเหรอ?..” หนุ่มแก้มแตกพูดขึ้นสีหน้านิ่งทำเอาผู้ชายอีกสี่คนยืนเงียบกันหมด
“เออว่ะ พวกแกพูดเรื่องอะไรกันว่ะ”
“อ้าว? เราไม่ได้คุยเรื่องเดียวกันอยู่หรอกเหรอ? ก๊ากกก!!!” ทั้งสี่คนหัวเราะกันลั่นห้องจนลืมไปว่ามีอีกคนที่นั่งเกร็งอยู่
น่ากลัว.. น่ากลัว.. จะเอายังไงดี.. ลุกหนีไปเลยมั้ย? แต่พี่จองซูบอกให้เรารอที่นี่นี่..จะหนีไปไม่ได้..
“นายเป็นใครน่ะ?” หนุ่มแก้มแตกเอ่ยถามพลางมองมาที่ฮยอกแจ
“อ่าว..มีคนอยู่ด้วยเหรอ?” คังอินพูดขณะที่ถอดเสื้อออก
“คะ..ครับ”
“น่ารักที่สุด!!”
“เด็กใหม่เหรอ?” หนุ่มแก้มแตกเอ่ยถามอีกครั้ง
ฮยอกแจนั่งเหงื่อแตกพลั่กๆ จะโดนลวนลามมั้ยเนี่ย?
“เฮ้!! เพื่อนฉันถามน่ะไม่ได้ยินรึไงไอ้หน้าหวาน?”
“ขะ...ขอโทษครับ!!” ฮยอกแจโค้งขอโทษแล้วรีบวิ่งออกประตูไป มองซ้ายมองขวา ออกแนวว่าถ้าเจอประตูไหนฉันจะเข้าประตูนั้นแหละ
ในที่สุดฮยอกแจก็เจอทางออกเมื่อป้ายข้างหน้าตระหง่านว่า.. TOILET
เคราะห์ซ้ำกระหน่ำซัด.. จังหวะที่ร่างบางเข้าไปในห้องน้ำคือจังหวะที่ร่างโปร่งกำลังยืนรูดซิปกางเกงอยู่
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกก!!!!!”
“เฮ๊ย!!!!”
ร่างโปร่งรีบกุลีกุจอเข้าไปเอามือปิดปากร่างบางหวังจะให้หยุดร้อง แต่ดูอีกฝ่ายจะรังเกียจมือร่างโปร่งไม่ไหวทน เนื่องจากกิจกรรมที่อีกฝ่ายพึ่งทำมาก่อนหน้านี้
“นายร้องทำไมเนี่ย!!” ร่างโปร่งกอดฮยอกแจไว้พร้อมกับเอามือปิดปากไว้
“ปะ..ปล่อย!!”
“เลิกร้องก่อนสิ แล้วฉันจะปล่อย!” ร่างโปร่งขู่จนร่างบางหยุดดิ้น
ฮยอกแจถอยออกมาห่างๆพลางมองด้วยสายตาหวาดระแวง อีกคนหัวเราะในลำคอพลางมองหน้าสวยที่แสดงท่าทางกลัวเขาอยู่
“ตกใจอะไรเหรอครับ? คุณไม่เคยเข้าห้องน้ำผู้ชายเหรอ? หรือว่าคุณเป็นทอม?”
“บ้าเหรอ! ผมเป็นผู้ชายนะ!”
“นั่นน่ะสิ? ถ้าเป็นผู้ชายแล้วจะตกใจอะไรกะอีแค่ผมยืนฉี่?”
“ก็ดู .. ดู.. ” ร่างบางพูดตะกุกตะกักก่อนที่จะเบือนหน้าหนีแล้วชี้ไปที่เป้ากางเกงของร่างโปร่ง ถ้าเกิดเพ่งตามองคงได้เห็นสิ่งอุจาดตาที่เด็กอายุไม่ถึงสิบแปดไม่ควรดู
ร่างโปร่งก้มลงมองเป้ากางเกงตัวเองที่ยังไม่ได้รูดซิบ.. อะไรว่ะ.. กะอีแค่เห็นบ๊อกเซอร์เควินคลายน์แค่นี้ทำเป็นกรีดร้อง
“หืม? ลามกเหมือนกันนะเราน่ะ?” ร่างโปร่งก้มลงจ้องหน้าร่างบางที่เบือนหน้าหนีไปอีกทาง
“อะไร.. คุณต่างหาก.. รีบออกไปซะทีสิ”
“เอ้า~ นี่มันห้องน้ำสาธารณะนะ จริงๆแล้วคุณน่ะเป็นพวกสโตรกเกอร์จากชมรมหนังสือพิมพ์ใช่มั้ย? บอกผมมานะ” ร่างโปร่งเดินเข้าไปประชิดอีกฝ่ายจนจนมุม
“คะ..คุณพูดถึงเรื่องอะไร..”
“บอกผมมาดีกว่าชินดงฮีมันสั่งให้ถ่ายรูปผมตอนฉี่ไปประจานบอร์ดโรงเรียนใช่มั้ย?”
“พูดอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
“บอกมาซะเถอะน่า!”
“บอกว่าไม่รู้เรื่องไงเล๊า!!! >[]<!!” ร่างบางเสยอัปเปอร์คัตเข้าไปเต็มคางร่างโปร่งจนหงายหลังแล้วรีบวิ่งออกจากห้องน้ำไป
“ยอโบ~ ได้โปรด.. กลับบ้านเราเถอะนะทูนหัว” ร่างบางต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นชายวัยกลางคนใส่สูทดูดีมีชาติกูลถือช่อดอกไม้สีแดงช่อใหญ่คุกเข่าขอความรักกับคุณนายลี แต่ดูท่าทางคุณนายลีจะขยาดเต็มทน ทำท่าจะสาดน้ำซุปใส่หน้าชายวัยกลางคนคนนั้นให้ได้
“จะเอาซุปต้มยำ หรือจะเอาซุปจืดล่ะ หึ!”
ฮยอกแจถอยไปหลบอยู่ข้างๆเสาแอบมองอยู่ห่างๆ ไม่อายคนรึไงนะคนๆนี้ แต่งตัวก็ดีหรอกแต่การขอความรักนี่เสี่ยวสุดๆไปเลย
ปัง!!!
“ไปไหนแล้วฟะ!” เสียงโวยวายที่ออกมาจากห้องน้ำทำเอาร่างบางต้องซ่อนหลังเสาทันที ร่างโปร่งที่เดินจับคางตัวเองออกมาด้วยสีหน้าโมโหสุดๆ
“ทงเฮอ่า.. มาช่วยปะป๊าง้อหม่ามี๊หน่อยสิ T^T” ชายวัยกลางคนหันมาพูดกับร่างโปร่งคนนั้น
“พ่อก็ง้อไปสิ จ้างให้แม่ก็ไม่กลับไปหรอก จริงมั้ยครับแม่?!!” ทงเฮแอบเหวี่ยงเล็กน้อยเพราะความเจ็บตรงคาง ไหนจะเบื่อร้านสีชมพูนี้อีก... เขาเกลียดสีชมพู!!
“ทงเฮ ไปทำอะไรมาน่ะ? หกล้มลื่นในห้องน้ำมารึไง? ยองอุน!! ฉันบอกให้ขัดห้องน้ำให้ดี!! เห็นมั้ยลูกชายฉันเจ็บตัวเลย!! เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวมีหักเงินเดือน” คุณนายลีหันไปตวาดพนักงาน แต่ดูลูกค้าในร้านจะชอบอกชอบใจกับหนังสด
เพราะช่วงเวลานี้ทุกวัน ส.ส. คนดังจะมาตามง้อภรรยาให้กลับบ้านจนกลายเป็นขี้ปากคนไปทั้งโซลแล้ว.. พอนานไปกลับกลายเป็นเรื่องตลก ลูกค้าเกิดติดใจวิธีง้อภรรยาที่ไร้ความหวังแบบนี้
“อะไรกันครับออมม่า!! ผมขัดแล้วนะ!! เฮ้!! ทงเฮ!! แกรีบแก้ตัวให้ฉันสิวะ เดี๋ยวก็ได้ถูกหักเงินเดือนกันพอดีหรอก!!” เสียงคังอินแว๊ดขึ้นมา
“ผมเปล่าลื่นหรอกแม่”
“แล้วไปโดนอะไรมาน่ะ ไหนขอแม่ดูซิ” คุณนายลีทำท่าจะเดินเข้าไปดู ลูกชายหัวฝีหัวหนองรีบเชิดหน้าขึ้นให้แม่ดูอย่างรวดเร็ว
“ ชิ.. พวกลูกแหง่ชัดๆ -3-” ฮยอกแจแอบบ่นขณะที่แอบดูอยู่หลังเสา
“อ้าว.. นาย.. ที่มากับจองซูใช่มั้ย? ฉันตามหานายตั้งนาน เอ้านี่.. ไปใส่ซะ” เสียงผู้ชายคนนึงพูดขึ้นหลังจากที่เขาเห็นฮยอกแจแอบอยู่ตรงนั้น ร่างบางสะดุ้งเฮือกทันทีเมื่อเห็นสายตาของคนๆนั้น
“คะ..ขอบคุณ...ขอบคุณครับ”
“เห๊อะ.. นั่นใครครับแม่? พนักงานใหม่เหรอ?” ร่างโปร่งเอ่ยถามแอบแค่นยิ้มเยาะเล็กน้อยขณะที่ผู้เป็นแม่กำลังตรวจดูใบหน้าลูกชาย
“อ่า..ใช่แล้ว ไปโดนอะไรมาเนี่ยแดงเลย” คุณนายลีเอ่ยถามลูกชาย ฮยอกแจเริ่มเห็นเงาหัวตัวเองรำไร.. พี่จองซูรีบกลับมาทีพลีสสสสสสสสสสสสสสสสสส
“อ๊อ......พอดี......ผมโดนหมาดีดมาน่ะครับแม่” ทงเฮยิ้มเจ้าเล่ห์ไปทางร่างบางที่ยืนถือเสื้อพนักงานอยู่
“หมาที่ไหนเข้ามาในร้านเรา? คังอิน!! นายปล่อยให้หมาเข้ามาในร้านเราเหรอ?!!”
“อะไรกันออมม่า~~~ TAT ทำไมต้องเป็นผมด้วยล่ะ ผมพึ่งมาทำงานเองนะ!”
ทงเฮเดินเข้ามาหาฮยอกแจพร้อมกับจ้องหน้า
“สวัสดีครับพนักงานใหม่ ผมชื่อลีทงเฮ เป็นลูกชายเจ้าของร้านนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะ~” ทงเฮยื่นมือมาข้างหน้าหวังจะขอจับมือกระชับมิตร(?) แต่อีกฝ่ายกลับเบือนหน้าหลบ
“ส..สวัสดี”
“นายชื่ออะไร?” ทงเฮถามห้วนๆ
“พี่เค้าชื่อฮยอกแจ ทงเฮสุภาพกับพี่เค้าด้วยสิลูก” คุณนายลีพูดขึ้น
“อ๊อ...พี่ฮยอกแจเหรอ~ อืม... ต่อจากนี้ไปเราคงได้เจอกันบ่อยขึ้นนะครับ พี่ฮยอกแจ” ดูเหมือนว่าประโยคสุดท้ายจะเน้นมาก ฮยอกแจฝืนแค่นยิ้มแล้วพยักหน้าอย่างเป็นมิตร
--------------------------------------
ขำจนปวดซีรีบรัม แพร่ม :
วันนี้ผมจะลงก่อนสามตอน.. ขอบคุณสำหรับคอมเมนท์นะครับ น่าชื่นใจมากๆเลย
T^T
อย่าพึ่งเบื่อกันไปก่อนนะครับ ใกล้ถึงตอนที่จะสลับร่างแล้ว ค่อยเป็นค่อยไปนะ
ช่้วงนี้ยังเป็นเทศกาลเฮอึนอยู่ เดี๋ยวจะรีบกลับไปทึกซินแล้วล่ะครับ
ฮ่าๆ คอมเมนท์เยอะๆนะครับผมชอบ =w=
แล้วผมจะมาลงต่อครับ!
ความคิดเห็น