เจ้ามะลิ[Yaoi] สนพ.Hermit - นิยาย เจ้ามะลิ[Yaoi] สนพ.Hermit : Dek-D.com - Writer
×

    เจ้ามะลิ[Yaoi] สนพ.Hermit

    โดย neuananfa

    "ว่าอย่างไรเจ้ามะลิ"ไตรเทพทักทาย ไม่มีเสียงร้องทักกลับมาแต่อย่างใด ไตรเทพแหงนหน้ามองขึ้นฟ้าก่อนย้อนกลับมามองเจ้ามะลิตัวน้อยของเขา "จันทร์กระจ่างชื่อนี้พ่อขอมอบให้ แม้ฟ้าจะมืดเพียงใด ขอให้เจ้ามะลิของพ่อส่องแสงสว่างให้เห็นหนทางของความดีนะลูก"

    ผู้เข้าชมรวม

    11,742

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    18

    ผู้เข้าชมรวม


    11.74K

    ความคิดเห็น


    144

    คนติดตาม


    750
    จำนวนตอน : 16 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  8 ต.ค. 62 / 23:09 น.

    แท็กนิยาย

    เจ้ามะลิY

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ


    กลิ่นกายหอมเจ้าเอยเจ้ามะลิ

    มณีนิลแก้วตาชวนลุ่มหลง

    เพรียกหารักเป็นนิจนั้นอยู่คง

    แม้จิตปลงไร้รักจรรโลงใจ

    ทอดทิ้งไว้ในฐานะลูกขี้คอกชั้นต่ำ หนึ่งชีวิตตัวน้อยที่เกิดมาอยู่ใกล้กับต้นมะลิ กลีบดอกได้ฤกษ์บานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมกลบกลิ่นของคาวเลือด ไม่มีเสียงร้องทัดทานใดๆ จากทารกน้อยแรกเกิดราวกับรู้ว่าชีวิตที่ได้มากำลังจะถูกพรากไปในอีกไม่ช้า ไอ้เด็กอัปรีย์ไม่มีเศษเสี้ยวเสียงใดหลุดออกมาให้ได้ยินต้องรำคาญหู หญิงสาวได้แต่เหยียดยิ้มสะใจ...มารหัวขนไร้ค่ามันเกิดออกมาเสียที เก้าเดือนที่มันอาศัยอยู่ในท้องของเธอ เก้าเดือนที่เธอต้องตื่นมาพร้อมกับมัน ฝันร้ายที่คอยตามหลอกหลอนเธออยู่ทุกค่ำคืน

    พอกันที...

    อยากได้มากเช่นนั้นเหรอ...

    ไอ้เด็กอัปรีย์นี่นะเหรอที่คุณพี่ต้องการ!

    อยากได้นักเหรอไอ้มารหัวขนตัวนี้ สายเลือดของตัวเองก็ไม่ใช่ อย่าเก็บมันไว้เพียงเพราะเวทนาในตัวเธอ ลืมไปแล้วหรืออย่างไรว่าเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในตัวของเด็กคนนี้ยังมีเลือดชั่วของพ่อมันอยู่ ทำไมถึงเป็นเธอที่ถูกกระทำย่ำยีให้อับอาย ถูกทำร้ายต่อหน้าคนที่เธอเกลียด ไอ้โจรชั่วมันใช้ร่างกายของเธอเป็นที่ระบาย มันฝากบาดแผลไว้ที่ใจและฝากความอัปรีย์ที่แสนน่าขยะแขยงไว้ในกายของเธอ

    ตลอดทุกการกระทำแสนต่ำช้าของมัน มันยังมีใครอีกคนกำลังนั่งมองอยู่ ร้องไห้เป็นเผาเต่าราวกับถูกกระทำเสียเอง ทำไมถึงต้องหลั่งน้ำตาออกมามากมาย ทั้งที่ควรจะดีใจที่มันเกิดขึ้นกับเธอ สายตาคู่นั้นเธอไม่อยากเห็น สายตาที่เต็มไปด้วยความเวทนาสงสาร ทำไมถึงต้องมองเธอด้วยสายตาเช่นนั้น

    เธอภาวนาทั้งน้ำตาขอให้เขาคนนั้นมาช่วยเธอออกไปจากตรงนี้ ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความเลวร้ายที่ได้รับ เหมือนฟ้าตั้งใจจะกลั่นแกล้งเธอให้ต้องจมอยู่กับฝันร้าย เพียงแค่สบตาของไอ้คนสารเลวผู้นั้น ทำนบน้ำตาก็พังทลายจนแทบสิ้นใจ แม้ดวงตาคู่นี้จะเหมือนกันมากสักเพียงใด มันก็เป็นเพียงแค่ไอ้คนสารเลวคนหนึ่งที่กำลังย่ำยีเท่านั้น

    “กูเกลียดมึง! เกลียดแม้กระทั่งลูกของมึงไอ้ชั่ว!”

    ทำเหมือนกับว่าเธอเป็นอีตัวและทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเลวร้ายที่สุดของชีวิต สายเลือดชั่วๆ ของมันทำไมเธอจะต้องใยดีด้วย เธอไม่ได้ต้องการให้มันเกิดมา มันก็ควรจะตายไปเสียเดี๋ยวนี้ จะมาอยู่เป็นมารขัดความสุขของเธอทำไม ช่อ-แก้วเริ่มเหม่อลอยเมื่อภาพในคืนนั้นหวนกลับมาตรอกย้ำซ้ำเติมเธออีกครั้ง

    ‘อีกาลกิณี อีกากีชาติชั่ว สมควรแล้วที่มึงจะถูกกูกระทำเช่นนี้’

    ‘คนอย่างมึงไม่ควรอยู่ในชีวิตของใครให้เกิดเสนียดจำเอาไว้!’

    “กูก็ไม่เก็บไอ้เด็กอัปรีย์ลูกของมึงไว้ให้รกชีวิตของกูเหมือนกันไอ้ชาติชั่ว!”

    ช่อแก้วส่งเสียงกรีดร้องคลุ้มคลั่งเมื่อเสียงของมันผู้นั้นดังแทรกขึ้นมาในโสตประสาท หญิงสาวกุมขมับดึงทึ้งเส้นผมของตัวเองเพื่อระบายความเคียดแค้น มือที่เปื้อนเลือดถูกยกขึ้นเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ส่วนมืออีกข้างควานหามีดที่วางไว้อยู่ใกล้ๆ ตัว เมื่อเจอสิ่งที่ต้องการแล้วช่อแก้วกำมันไว้ด้วยมือข้างที่ถนัด ยกมันขึ้นมาแล้วลากสายตามองความคมของมันผ่านแสงจันทร์ที่ส่องลงมากระทบกับผิวโลหะ

    มีดสั้นคมกริบถูกเตรียมไว้สำหรับตัดสายใยสัมพันธ์ที่น่าขยะแขยงระหว่างเธอกับไอ้เด็กอัปรีย์ ดีแล้วที่มันออกมาจากท้องของเธอเสียที ให้มันตายอยู่เสียที่นี่ดีกว่ามานอนตายอยู่ในท้องของเธอ ร่างกายของเธอไม่ใช่ที่ของมัน มีสิทธิ์อะไรมาอาศัยท้องของเธอเกิด เด็กที่จะมาอาศัยท้องของเธอเกิดจะต้องเป็นสายเลือดของเดชเดชาเพียงเท่านั้น

    ช่อแก้วเอียงคอมองพร้อมกับแสยะยิ้ม มือของหญิงสาวกำบางอย่างขึ้นมาแล้วบีบเค้นด้วยความเคียดแค้น ใครต่างก็พูดว่าสายใยรักระหว่างแม่กับลูกมันช่างเหนียวแน่นนัก เธอไม่สนใจสักนิดเพราะระหว่างเธอกับเด็กคนนี้ไม่ได้ผูกพันกันจนถึงขั้นตัดกันไม่ขาด ช่อแก้วเริ่มลงมือด้วยความใจเย็น ความคมของมีดถูกกดลงด้วยแรงทั้งหมดที่มี ช่อแก้วขยับปากพำพึมคล้ายกับร่ำลา

    “ฉันกับแก...เราไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก”

    พอกันทีกับสายใยสัมพันธ์นี้...

    “แม่ช่อ! นั่นแม่ช่อกำลังจะทำอะไร หยุดเดี๋ยวนี้นะ! ฉันบอกให้หยุดอย่างไรล่ะ ไม่ได้ยินหรืออย่างไรกัน!”

    จันทร์ทรารีบวิ่งตรงเข้าไปหาและห้ามเอาไว้ เธอคว้ามือของช่อแก้วได้ก็ออกแรงยื้อในทันที จะรู้บ้างหรือไม่ว่าทุกคนออกตามหาหญิงสาวกันให้วุ่น ด้วยแรงที่อ่อนล้าของช่อแก้ว หญิงสาวจึงไม่อาจสู้กับแรงยื้อของจันทร์ทราได้ ช่อแก้วยอมปล่อยมีดลงแต่โดยดี แต่ไม่วายที่จะส่งสายตาอาฆาตให้กับจันทร์ทราพี่สาวของคนที่เธอเกลียดชัง

    “คุณช่อ! ทำไมถึงได้ทำเช่นนี้” สาวใช้คนสนิทวิ่งล้มลุกคลุกคลานเข้ามาหา พลับพลึงหัวใจแทบสลายเมื่อต้องมาเห็นช่อแก้วอยู่ในสภาพน่าเวทนาเช่นนี้

    “น้อยไปตามทุกคนมา อย่าลืมบอกให้นายคงเตรียมรถออก ตอนนี้แม่ช่ออาการหนักปรางตาย อย่าได้ช้า! ให้รีบหน่อย พลับพลึงเอาผ้าห่อตาหนูไว้ เร็วเข้า!”

    จันทร์ทรายื่นผ้าคลุมไหล่ส่งให้สาวใช้คนสนิทของช่อแก้ว ร่างของทารกน้อยถูกห่อด้วยผ้าอย่างระมัดระวัง พลับพลึงนึกประหลาดใจขึ้นมา ทำไมเธอถึงไม่ได้ยินเสียงร้องของทารกน้อย แต่พอเห็นทารกน้อยขยับตัวถึงได้โล่งอกขึ้นมา อย่างน้อยในตอนนี้ทารกน้อยน่าชังผู้นี้ก็ยังมีลมหายใจอยู่

    คุณหนูของพลับพลึง...

    “ปล่อยกู ฮึก...กูจะฆ่ามัน” เสียงของหญิงสาวเริ่มแผ่วลง ช่อแก้วทอดมองไปยังทารกน้อย ตั้งแต่หลุดออกมาจากกายของเธอ ยังไม่มีเสียงร้องใดๆ หลุดออกมาจากปากของมันให้ได้ยินเลยสักครั้ง

    “แม่ช่อ ทำไมต้องคิดสั้นถึงเพียงนี้ ตาหนูผิดอะไร แม่ช่อถึงได้ใจร้ายคิดจะพรากชีวิตที่เหลือของตาหนูได้ลงคอ เขาเป็นลูกของแม่ช่อ เป็นส่วนหนึ่งของเดชเดชชา คุณพี่ท่านบอกแม่ช่อเสมอ แต่ทำไมถึงยังคิดทำเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ได้ลงคอ”

    “มึงมันตอแหลอีจันทร์! อย่ามาทำทีเห็นใจกู มึงรู้อยู่แก่ใจว่าใครสั่งให้คนมาทำร้ายน้องของมึง เอาสิ! เอาคืนกู มึงกำลังสมน้ำหน้ากูอยู่ มึงก็แค่เมียน้อยที่คุณพี่ท่านเมตตา ตราบใดที่มึงยังเป็นแค่เมียน้อยมึงก็ไม่มีวันถูกยกย่องให้เฉิดหน้าชูตาได้หรอก”

    แม้เจ็บเจียนตายก็ยังเหลือร้ายให้ได้เห็น จันทร์ทราระอาใจแต่ไม่อาจละเลยช่อแก้วและทารกน้อยในอ้อมแขนของพลับพลึงได้

    “พอเถอะแม่ช่อ พอได้แล้ว ดูสิ...ดูเจ้าตัวน้อยของแม่ช่อ น่าชังถึงเพียงนี้ แม่ช่อจะทำร้ายเขาได้ลงเช่นนั้นเหรอ จะร้ายไปแล้วแม่ช่อ คิดเอาเองทั้งนั้น ตาหนูคนดีของแม่ช่อเองก็น่าตีนัก แม่จะหมายเอาชีวิตอยู่แล้วไม่ร้องค้านให้รำคาญใจกันบ้างเลยหรืออย่างไร หรือตาหนูอยากให้แม่ช่อพิพากษาเต็มทนถึงได้ไม่ยอมร้องไห้ขอชีวิตจากแม่ใจร้ายคนนี้”

    แม้จะโกรธให้ช่อแก้ว แต่ก็ยังประคองร่างเอาไว้ไม่ยอมปล่อย หวังร้ายให้คนมาทำร้ายน้องชายของเธอแต่กลับพลาดท่าถูกกระทำเสียเอง ทารกน้อยผู้นี้น่าชังนัก หากช่อแก้วไม่ต้องการจริงๆ เธอคนนี้ก็อยากจะอุปการะเลี้ยงดูเสียเอง

    “ช่อแก้ว!”

    ไตรเทพยืนหอบหายใจอยู่ไม่ไกล ชายหนุ่มตะโกนเรียกชื่อของช่อแก้วหลังจากออกตามหาหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง ภาพเบื้องหน้าที่เห็นน่าอนาถใจเสียจนเขาต้องเบือนหน้าหนี ไม่นานนักเขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงใหญ่ตามมา

    หญิงใหญ่เมียเอกของเขาเป็นลมไปเสียแล้ว สาวใช้ต่างก็พากันวิ่งกรูเข้าไปประคองร่างของนายเอาไว้ ส่งเสียงร้องเรียกกันให้วุ่นใจ ชายหนุ่มรีบเดินเข้าไปดูและเรียกหญิงใหญ่ด้วยใจที่เป็นห่วง หญิงใหญ่ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงนัก เดี๋ยวสามวันดีสี่วันไข้ คิดอย่างไรถึงได้พาร่างกายอ่อนล้านี้มาช่วยเขาออกตามหาช่อแก้ว

    “คุณใหญ่! คุณใหญ่ ได้ยินพี่หรือไม่ คุณใหญ่!!”

    คืนนี้พระจันทร์บนฟ้าช่างงามตานัก แต่ทำไมถึงได้เกิดเรื่องร้ายเช่นนี้ ไตรเทพหันหน้าไปสบตาช่อแก้วที่นอนไร้เรี่ยวแรงอยู่ในอ้อมแขนของจันทร์ทรา เป็นห่วงหญิงใหญ่ก็เป็นห่วง ส่วนช่อแก้วก็น่าเป็นห่วงไปไม่น้อยกว่าหญิงใหญ่ ไตรเทพละสายตาจากช่อแก้วและมองไปที่ทารกน้อยในอ้อมแขนของสาวใช้ สายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกยังคงรั้งคนทั้งสองเอาไว้ไม่ได้ขาดสะบั้นอย่างที่ใจของคนเป็นแม่ปรารถนา ไตรเทพเห็นมีดตกอยู่ข้างกายของช่อแก้วก็ถึงกับส่ายหน้าให้ หากมีใครมาเห็นช้ากว่านี้สองแม่ลูกจะเป็นอย่างไรบ้าง

    “มึงเห็นแล้วใช่หรือไม่ กูจะตายอยู่แล้วคุณพี่ยังไม่คิดจะสนใจกูเลยสักนิด แล้วนับประสาอะไรกับไอ้เด็กจัญไรนี่ที่คุณพี่จะต้องเมตตามัน”

    “อย่าพูดเช่นนี้อีกนะแม่ช่อ คุณพี่ให้ความเท่าเทียมแก่เมียทุกคน ฉันกับแม่ช่อมาทีหลังควรเจียมตัว ตอนนี้หยุดความคิดบ้าๆ นี้เสีย แม่ช่อกับตาหนูจะต้องปลอดภัยเข้าใจหรือไม่”

    “มันสมควรตาย จะเกิดมาเป็นมารหัวขนทำไมให้ลำบากชีวิตของกู ชาตินี้ทั้งชาติกูก็ไม่มีวันรัก กูไม่มีหรอก รักที่จะให้มัน!”

    ทุกถ้อยคำของช่อแก้วทำให้ไตรเทพและคนอื่นๆ ที่ได้ยินต่างก็พากันหดหู่ใจ ใครได้ฟังต่างก็คิดว่าทำไมหญิงสาวถึงได้มีจิตใจอำมหิตเกินคนเช่นนี้

    “ถ้าแม่ช่อไม่ต้องการเขาจริงๆ ฉันจะไม่บังคับ ถ้าฉันจะขอเด็กโชคร้ายคนนั้นแม่ช่อเองก็คงไม่ค้านใช่หรือไม่”

    “ทำไมถึงอยากได้ คุณพี่ก็รู้ว่าเลือดอีกครึ่งหนึ่งของมันเกิดจากใคร จะเก็บไว้ให้มันเป็นเสนียดกับชีวิตทำไม ฮึก! ช่อแก้วคนนี้จะตายอยู่แล้ว คุณพี่ยังไม่คิดที่จะแลเหลียว เอาแต่ห่วงไอ้เด็กหัวขนนี่...ฮึก! ทำไมกัน ทำไม!”

    ช่อแก้วตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ไตรเทพฝากหญิงใหญ่ให้สาวใช้ดูแลต่อก่อนลุกขึ้นยืนแล้วสืบเท้าเข้าไปหาพลับพลึง ชายหนุ่มนั่งลงพร้อมกับยื่นแขนออกไปรับลูกชายตัวน้อยและขยับตัวพาลูกน้อยเข้าไปหาช่อแก้ว อยากให้หญิงสาวได้ดูหน้าลูกชายอีกสักครั้ง เผื่อช่อแก้วเห็นความน่าชังอาจจะเปลี่ยนใจยอมรับเด็กคนนี้ขึ้นมา

    “ดูสิแม่ช่อ เด็กคนนี้เกิดจากแม่ช่อไม่ใช่หรืออย่างไร ลูกแม่ช่อก็เหมือนลูกของฉัน ทำไมหนีมาคนเดียวเช่นนี้ ไปกันเถอะ ฉันจะพาแม่ช่อกับลูกไปหามอ หากแม่ช่อกับลูกเป็นอะไรไปฉันคงรู้สึกผิดไม่น้อย”

    มือใหญ่เอื้อมไปเกลี่ยน้ำตาบนใบหน้าที่เปื้อนคราบเลือด ช่อแก้วน้ำตาไหลพรากเพราะเธอไม่อยากมีเด็กคนนี้อยู่ในชีวิต ไตรเทพหันไปเห็นต้นมะลิยืนต้นอยู่ใกล้กับหญิงสาว บางส่วนเสียหายและถูกแต่งแต้มไปด้วยเลือดแดงฉาน เขามองดอกไม้งามสลับกับทารกตัวน้อยด้วยรอยยิ้ม

    “ว่าอย่างไรเจ้ามะลิ” ไตรเทพทักทายหนูน้อยในอ้อมแขน ไม่มีเสียงร้องทักกลับมาแต่อย่างใด ไตรเทพแหงนหน้าขึ้นและมองไปบนฟ้าของราตรีนี้ก่อนย้อนกลับมามองเจ้ามะลิตัวน้อยของเขา

    “จันทร์กระจ่างชื่อนี้พ่อขอมอบให้ แม้ฟ้าจะมืดเพียงใด ขอให้เจ้ามะลิของพ่อส่องแสงสว่างให้เห็นหนทางของความดีนะลูก” ไตรเทพไม่นึกรังเกียจแต่อย่างใด แม้ร่างของทางรกน้อยจะเปื้อนเลือดแต่กลิ่นหอมของกายทารกในอ้อมแขนช่างหอมนัก

    “แก้วตาดวงใจของพ่อ” ไตรเทพฝังปลายจมูกลงที่หน้าผากของทารกน้อย เฝ้ารอคอยมาเนินนานจนในที่สุดก็ได้พบหน้ากันเสียที

    แอ้!

    นี่คือเสียงแรกที่ช่อแก้วได้ยิน ช่อแก้วปล่อยน้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง รู้สึกละอายใจขึ้นมา แต่อย่างไรก็ปักใจให้รักทารกน้อยไม่ลง เธอเกลียดเด็กคนนี้ไปมากกว่าครึ่งชีวิต แม้แต่เศษเสี้ยวความรัก เธอก็ไม่มีวันให้

    ชาตินี้ทั้งชาติ เด็กคนนี้จะไม่มีวันได้เรียกเธอว่าแม่

    แว่วเสียงเพลงขับกล่อมลูกน้อยดังขึ้นในยามบ่าย เจ้านกกาเหว่าช่างร้ายทิ้งไข่ไว้ให้แม่กาฝัก ช่างโชคดีนักที่แม่กาหลงรักเหมือนดั่งสายเลือด หนูน้อยขยับปากไปมาทำให้พวงแก้มเป็นก้อนนั้นล่อตาคนนั่งเฝ้าจนต้องออกปากขออุ้ม

    “แม่จันทร์ ลูกอยากอุ้มน้อง ขออุ้มได้หรือไม่ ลูกให้สัญญาว่าจะอุ้มไว้อย่างดี จะไม่ทำน้องตกแน่นอน”

    ทั้งที่วันนี้มีเรียนพิเศษแต่เทพทัตกลับพาตัวเองหนีมาที่บ้านเรือนจันทร์ หลายครั้งแล้วที่เทพทัตหนีเรียนพิเศษจนถูกตำหนิ อาจเป็นเพราะช่วงนี้เทพทัตกำลังหลงน้องชายคนใหม่จนไม่มีสมาธิเรียน เทพทัตมองน้องชายคนใหม่ตาแป๋ว โดยเฉพาะก้อนแก้มทั้งสองข้างช่างอวบอิ่มน่าสัมผัสเป็นที่สุด

    “คุณเทพอยากอุ้มน้องเหรอคะ”

    เทพทัตพยักหน้า เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เจ้ามะลิน้อยลืมตาขึ้นมาพอดี จันทร์ทราจึงอุ้มเจ้ามะลิน้อยขึ้นมาก่อนพูดเย้าลูกน้อยแล้วส่งให้เทพทัตอุ้ม

    “เจ้ามะลิ ให้คุณเทพอุ้มนะลูก”

    “น้องจะร้องหรือไม่แม่จันทร์”

    น้องตัวเล็กเกินไป กลัวว่าตัวเองนั้นจะเผลอทำให้น้องเจ็บ ทัพเทพเคยบอกกับเขาว่าน้องตัวหอมมากจึงอยากลองดมดูบ้าง มากี่ครั้งก็ทำได้เพียงแค่มองไม่เคยได้อุ้มกับเขาเสียที เทพทัตอยากพิสูจน์ด้วยตัวเองว่าที่ทัพเทพอวดอ้างนั้นจริงมากแค่ไหนกันเชียว

    “เจ้ามะลิหอมจัง” เจ้ามะลิเหมือนดอกมะลิสีขาว มองอย่างไรก็สวยไม่ว่าจะก้มดมกี่ครั้งก็ยังหอม เทพทัตคลี่ยิ้มออกมาแต่ทว่ายิ้มนั้นอยู่ได้ไม่นานก็จางหายไปเมื่อได้ยินเสียงเอะอะดังมาจากข้างล่าง

    เสียงวิ่งตึงตังทำให้เจ้ามะลิสะดุ้งเสียขวัญ เจ้าตัวน้อยเบ้ปากหน้าแดงก่ำก่อนขยับปากร้องไห้โยเยออกมาเสียงดัง เทพทัตขยับกายโยกไปโยกมากล่อมน้องชายให้หยุดร้อง เคยเห็นแม่จันทร์ทำท่านี้แล้วเจ้ามะลิหยุดร้องจึงลองทำตามดูบ้าง ดูเหมือนว่ามันจะได้ผลเพราะเจ้ามะลิเริ่มสงบลงบ้างแล้ว

    “สงสัยพ่อทัพจะกลับมาแล้ว”

    วันนี้ทัพเทพไปซื้อข้าวของเสื้อผ้ากับผู้เป็นพ่อ จันทร์ทราปรามเสมอเรื่องมารยาท ที่วิ่งลงน้ำหนักเท้ากระแทกพื้นเช่นนี้คงเป็นเพราะเห็นรองเท้าของเทพทัตถอดวางไว้ที่ประตูหน้าบ้านอย่างแน่นอน เธอจึงลุกขึ้นและเดินออกจากห้องไปแล้วปล่อยให้เจ้ามะลิน้อยอยู่กับเทพทัตเพียงลำพัง

    “พ่อทัพ...แม่สอนว่าอย่างไร ทำไมถึงไม่รักษามารยาท หากเคยตัวไปแสดงกิริยาไม่ดีที่บ้านอื่น เป็นเช่นนี้จะไม่อายเขาแย่เหรอลูก”

    “คุณแม่ให้คุณเทพไปเล่นกับเจ้ามะลิของลูกอีกแล้ว”

    ทัพเทพหวงแหนน้องชายต่างสายเลือดยิ่งกว่าอะไรดี ถึงจะเคารพเทพทัตมากขนาดไหน แต่ก็ยังหวงเจ้ามะลิไม่

    อยากให้ใครเข้าใกล้ ทำราวกับว่าเจ้ามะลิคือสมบัติล้ำค่าที่ใครก็ตามอย่าได้คิดจะแตะต้องเด็ดขาด

    “วางของแล้วตามแม่มา”

    ทัพเทพหน้ามุ่ยแต่ก็ยอมเดินตามผู้เป็นแม่ต้อยๆ เพียงแค่เขาหวงเจ้ามะลิไม่อยากให้พี่ชายมาข้องแวะ เจ้ามะลิเป็นลูกคนใหม่ของแม่จันทร์ เป็นน้องชายของเขาแต่เพียงผู้เดียว ถ้าไม่ติดว่ามีแม่จันทร์เดินนำหน้าคอยกำกับอยู่แล้วละก็ ป่านนี้เขาคงวิ่งไปหาน้องชายแล้ว เพราะมีแม่จันทร์เดินนำหน้าจึงทำได้เพียงแค่เดินตามอยู่ข้างหลังเท่านั้น แม่จันทร์กล้าปล่อยเจ้ามะลิของเขาให้อยู่กับคุณเทพเพียงลำพังได้อย่างไร ป่านนี้เจ้ามะลิน้อยของเขาคงถูกขโมยหอมแก้มไปแล้ว

    ครั้นเดินมาถึงหน้าประตูห้อง ทัพเทพก็ร้องไห้จ้าทำเอาจันทร์ทราและคนอื่นๆ แตกตื่นกันไปหมด ทัพเทพทำหน้าตาขึงขัง เห็นเต็มสองตาว่าเทพทัตกำลังหอมแก้มของเจ้ามะลิอยู่

    “พ่อทัพ! หยุดเดี๋ยวนี้นะ”

    รั้งกันไว้แทบไม่ทัน ก็พ่อทัพตัวร้ายน่ะสิ จะวิ่งพุ่งเข้าไปหาเทพทัต ดีที่เจ้ามะลิไม่ตกใจร้องไห้อีกครั้ง จันทร์ทราอยากจะคว้าหวายเอามาฟาดให้สมแก่ความเกเรของพ่อทัพเสียจริง เป็นน้องห่างแค่เดือนแท้ๆ คิดจะทำร้ายผู้เป็นพี่ได้ลงคอ

    “คุณเทพ! ห้ามยุ่งกับเจ้ามะลิของคุณทัพนะ” ทัพเทพรีบออกปากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของทันทีทันใด

    “เจ้ามะลิก็เป็นน้องชายของพี่ ไม่ใช่เจ้ามะลิของคุณทัพคนเดียวเสียหน่อย”

    “ของคุณทัพคนเดียวเพราะเจ้ามะลิเป็นลูกของคุณแม่”

    สองพี่น้องทำท่าจะเปิดศึกแย่งชิงเจ้ามะลิน้อยกันเสียแล้ว พ่อทัพลูกชายของเธอจองหองไม่เบา หาเรื่องกีดกันพี่ชายทุกวิถีทาง เทพทัตก็ถือว่าใจดีมามากแล้ว ยามอยากได้ก็ใช่ว่าจะยอม ถึงเจ้ามะลิจะหลับไปแล้ว แต่สองพี่น้องยังคงต่อล้อต่อเถียงกันยืดยาวพาลให้ผู้เป็นแม่อยากจะยกมือขึ้นมากุมขมับ

    เปิดศึกกันมาเสียยาวนาน...

    ถึงเวลาเสียทีที่ลูกนกกาเหว่าตัวน้อยต้องหัดบิน สองเท้าเดินเตาะแตะก่อนจะล้มคลานเข้าไปหาพี่ชาย หนูน้อยผิวขาวยกสองแขนอ้าออกกว้างรอให้พี่ชายใจดีเดินมาอุ้ม ทันทีที่ถูกเทพทัตอุ้มขึ้นมา แก้มทั้งสองข้างก็ถูกหอมในทันที วันนี้แล้วที่ต้องจากกัน เทพทัตยิ้มให้น้องชายตัวน้อยก่อนส่งเจ้ามะลิคืนให้กับทัพเทพ

    “โตขึ้นอย่าได้ลืมพี่ชายคนนี้ พี่ให้สัญญาว่าจะไม่มีวันลืมเจ้ามะลิเด็ดขาด พี่ต้องไปแล้ว ฝากคุณทัพดูแลน้องด้วย อย่าลืมส่งข่าวของน้องให้พี่ได้รู้บ้างนะ” ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นลูบที่พวงแก้มย้อยของเจ้ามะลิแผ่วเบา

    “ไม่ต้องห่วง คุณทัพจะดูแลเจ้ามะลิเอง” ทัพเทพให้สัญญากับพี่ชาย

    หมดเวลาร่ำลาแล้ว เทพทัตไม่ลืมที่จะโน้มใบหน้าลงไปหอมแก้มของเจ้ามะลิก่อนจาก เทพทัตรู้สึกใจหายขึ้นมา ต่อจากนี้เขาคงไม่ได้กลิ่นหอมจากแก้มของเจ้ามะลิอีกแล้ว ทัพเทพจับแขนเจ้ามะลิขึ้นโบกมือลาพี่ชาย หนูน้อยไม่ประสาหันหน้ามามองทัพเทพก่อนจะหันกลับไปมองแผ่นหลังของเทพทัตพี่ชายอีกคนที่กำลังเดินห่างออกไปเรื่อยๆ

    “กว่าคุณเทพจะกลับมาคงอีกนาน ต่อจากนี้ไปพี่จะเป็นคนดูแลและปกป้องเจ้ามะลิเอง”

    เขาให้คำมั่นสัญญาแก่น้องชาย ลูกนกกาเหว่าพลัดรังตัวนี้ใครต่างก็เอ็นดูรักใคร่ ตาคู่สวยของหนูน้อยมองตามรถที่กำลังเคลื่อนเชื่องช้า รถคันนั้นพาพี่ชายคนดีจากเจ้ามะลิไปแล้ว หนูน้อยมองตามไม่วางตา จากไปแล้วให้รีบกลับมา จะได้ทำตามสัญญาที่ให้ไว้แก่กัน

    ...,.........................................

    *ยังไม่ได้รีไรท์ และตรวจคำผิด

                               

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น