ความมืดเข้าปกคลุมท้องฟ้าอย่างช้าๆแน่นอนแค่ได้ยินใครๆก็รู้ว่าตอนนี้กำลังจะมืด
ในเวลามาซักห้าทุ่มกว่าๆก่อนเที่ยงคืน ณ ห้อง ห้องหนึ่งเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดประมาณหนึ่งคูหาภายในห้องเล็กๆนั้นมีชายวัยกลางคนนั่งอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ในมือถือสร้อยลูกประคำขนาดเม็ดเท่าลูกชิ้นหมูพลางสวดคาถาไปพลางทันใดในห้องก็สว่างวาบเผยให้เห็นถึงลักษณะร่างกายของชายคนนั้นท่าทางกำยำล่ำสันและตัวสูงใหญ่
เขาเดินออกจากห้องและเดินหายไปในตึกท่ามกลางความมืด
"ปัง!" เสียงปืนดังขึ้น ชายคนดังกล่าวนอนหายใจรวยรินแดดิ้นอยู่บนพื้นเหมือนปลาที่กำลังจะถูกแม่ค้าเชือด
"หึ! คนที่หาเรื่องอั๊วก็ต้องโดนแบบนี้" ชายร่างเล็กท่าทางนักเลงซึ่งเป็นคนยิงปืนนั้นยิ้มเยอะด้วยความสะใจ
"ลื้ออย่าอยู่ให้รกโลกเลยตายซะเถอะ" ชายคนนั้นเงื้อปืนขึ้นมาจะยิงซ้ำ
"ถุ้ย! ข้าไม่ยอมตายจนกว่าจะทำให้แผนการณ์ของข้าสำเร็จหรอก" ปัง! ปัง! ปัง! สิ้นเสียงชายวัยกลางคนเสียงแห่งมัจจุราชก็ดังขึ้นหลายครั้ง ชายคนนั้นแน่นิ่งไม่ไหวติงแน่นอนว่าเขาได้ไปเฝ้าท่านยมแล้ว
แต่ทว่าท่านยมคงยังไม่ต้องการชีวิตของเขาตอนนี้ ร่างของเขาที่น่าจะตายไปแล้วพลันกระโดดพรวดเข้าไปบีบคอชายผู้ยิงเขา
"ลื้อทำได้ยังไงก็อั๊วยิงลื้อตายไปแล้วนี่" "คนอย่างข้าขนาดยมทูตยังไม่กล้าหือเลยนับประสาอะไรกับลูกปืนกระจอกพรรค์นั้น" แล้วเขาก็ล้วงมือเข้าไปทะลุอกของชายร่างเล็กและควักเอาหัวใจออกมา ซึ่งแน่นอนชายร่างเล็กตายสนิท ท่านยมมาลากไปแล้วชัวร์
"ถึงเวลาที่ข้าจะกลับไปล้างแค้นและกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งแล้ว"
และหยิบหน้ากากที่วางอยู่ข้างๆมาใส่ พลันทันใดฟ้าก็ผ่าลงมาด้านหลังเขาพายุห่าฝนก็เทกระหน่ำลงมาแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยตามสูตรตัวร้ายประกาศศักดา
"ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้ลิ้มรสความเจ็บปวดทรมานที่ข้าได้รับความทรมานที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย ฮ่าๆๆๆๆๆ"
บุรุษใต้หน้ากากกล่าวโดยไม่ลืมใบ้หวยด้วยเสียงหัวเราะ
ความคิดเห็น