คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : บทที่2 โรงเรียนขุนนางโอเดียน่าร์
“แกจำไว้เลยนะว่าต้องผ่านการทดสอบให้ได้” เสียงคำสั่งของ อีวาน โคซาเรฟ ที่เน้นย้ำเป็นครั้งที่ห้าสิบสี่ ทำให้นักฆ่าหนุ่มน้อย เรย์ โคซาเรฟ ผู้เป็นลูกชายเซ็งแบบสุดๆ
ใช่แล้ววันนี้คือวันที่จะต้องเข้ารับการทดสอบเข้าโรงเรียนขุนนางโอเดียน่าร์ที่ลือกันว่าโหดมหาโหดที่สุดในแผ่นดินเอเลเนีย
แผ่นดินเอเลเนียเป็นทวีปที่ไม่ใหญ่มากหรอกถ้าเทียบกับโลกเราก็แค่เอาทวีปเอเชียกับทวีปยุโรปมารวมกันเท่านั้นเอง มีประเทศและรัฐต่างๆปลีกแยกย่อยอีรุงตุงนังเต็มไปหมดซึ่งจะไม่ขอกล่าวถึงในที่นี้
โรงเรียนขุนนางโอเดียน่าร์เป็นโรงเรียนที่สอนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและเข้าสู่สังคมชั้นสูงหรือเหล่าขุนนางนั้นเองผู้ที่จบจากที่นี่ไปมักจะประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค้าขายจนร่ำรวยก็เป็นข้าราชการหรือได้เป็นถึงขุนนางชั้นสูง(ยกเว้นบางคนเช่นพ่อของนักฆ่าแถวนี้)
แต่จากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจและภัยพิบัติต่างๆที่เกิดขึ้น ทำให้หนุ่มน้อยเรย์ตระหนักได้ว่าพวกขุนนางเหล่านั้นก็แค่ใช้ชีวิตแบบหรูหราฟู่ฟ่ากินภาษีประชาชนไปวันๆแทนที่จะเอาไปใช้พัฒนาประเทศ คนที่ทำให้แผ่นดินเอเลเนียร่มเย็นเป็นสุขทุกวันนี้ก็เห็นจะมีแต่เหล่ากษัตริย์และเจ้าแค้วนต่างๆที่คอยร่วมมือช่วยเหลือเกื้อกูลกันตลอดมา และอีกเหตุผลคือพ่อของเขาก็ต้องตกอับเพราะเหล่าขุนนางทั้งหลายด้วยเช่นกันจึงเป็นเหตุให้ เรย์ โคซาเรฟ ผู้เป็นลูกเกลียดชังและมีอคติต่อเหล่าขุนนาง (นี่คือความคิดวิเคราะห์ในสมองของเรย โคซาเรฟ ที่ใช้เวลาในการวิเคราะห์0.5วินาทีซึ่งปกติก็ไม่ค่อยได้ใช้อยู่แล้ว)
“พ่อ! แล้วชั้นต้องทำยังไงบ้างล่ะ” เด็กหนุ่มถาม
“ชั้นจะไปรู้ได้ไงเล่าการทดสอบแต่ละปีจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆไม่เคยซ้ำกัน แกลองเข้าไปดูก่อนเดี๋ยวก็รู้เอง ส่วนที่เหลือแกก็จัดการเองละกัน” ผู้เป็นพ่อตอบ
“อ่าว อย่างงั้นชั้นก็ต้องจัดการเองคนเดียวหมดเลยสิ” เจ้าตัวแสบเริ่มรู้แกว
“มันเรื่องของแก คนที่จะเข้าไปเรียนคือแกไม่ใช่ชั้น เอาล่ะเข้าไปได้แล้ว อ้อ องค์หญิงของแกน่ะท่านจะมีตราประจำตระกูลติดอยู่ที่หน้าอกซ้ายแล้วก็มีองครักษ์ตามอยู่ ลองหาดูเดี๋ยวก็เจอ”
ว่าเสร็จก็ผลักเจ้าลูกชายตัวยุ่งเข้าไปในห้องโถงใหญ่ที่ทำการทดสอบ
“เดี๋ยวสิพ่อแล้ว...” ยังไม่ทันที่เจ้าลูกชายตัวแสบจะพูดจบ คุณพ่อที่(แสบกว่าหลายเท่า)แสนดีก็หายจ้อยไร้ซึ่งเงาไปแล้ว ทิ้งให้ลูกชายตัวน้อยๆแสนบอบบาง(!?)แถมพิการตาบอดข้างนึงต้องเผชิญกับโลกกว้างที่แสนโหดร้ายเพียงลำพัง อย่ากระนั้นเลย ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนดีที่สุดแล้ว (นี่ก็เป็นหนึ่งในการวิเคราะห์จากสมองของเรย์ โคซาเรฟที่ไม่ค่อยได้ใช้เช่นกัน)
“เอาวะ ลุยเลยดีกว่าสู้ตายว้อย เอ๋ง” สิ้นเสียงร่างของเจ้าคนพึ่งตัวเองก็ต้องปลิวไปติดกับฝาผนังเพราะมีอะไรบางอย่างเข้ามาชนอย่างรุนแรงประกอบด้วยความที่เป็นนักฆ่าจึงต้องฝึกวิชาตัวเบาทำให้เจ้าตัวปลิวปติดกับฝาผนังอย่างง่ายดาย
“โทษที พอดีฉันรีบไปหน่อยน่ะ” เสียงขอโทษจากเด็กหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ นัยน์ตาสีฟ้าและเรือนผมสีน้ำตาล ทำท่าทางที่แสดงออกว่าสำนึกผิด
“ฉัน ชิม่อน คาคาลอฟ เป็นนักบวชมาจากโปโตลัว” เด็กหนุ่มร่างยักษ์แนะนำตัว
ฮ่าๆ จะซุ่มซ่ามไปถึงไหนกัน ชิม่อน คาคาลอฟ” อีกเสียงดังแทรกเข้ามา
“โถ่ อีกอร์ นายก็รู้นี่ว่าเรามาสายมากแล้วก็ต้องรีบสิ”
อีกอร์ โบนาปาร์ด เด็กหนุ่ม ผิวขาว ร่างบาง ผมสีดำและนัยน์ตาสีน้ำตาลฉายแววฉลาดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เห็นอย่างนี้เขาก็เป็นถึง จอมเวทย์ฝึกหัดที่เก่งที่สุดในโปโตลัว
“ หึ หึ หึ โรงเรียนนี้เนี่ยท่าทางจะไม่ไหวแล้วนะรับพวกชนชั้นต่ำแบบนี้มาเข้าเรียนเนี่ย” เสียงท่าทางเหยียดหยามของเด็กหนุ่มร่างบาง ผมสีทอง นัยน์ตาสีเขียว แสดงออกถึงความเหยียดหยามอย่างยิ่ง
“ประติมากรรมนักบวชหน้าโง่กับจอมเวทย์กระจอกพ่วงมาด้วยรูปสลักแย้ตาเดียวตะกายตึกงั้นเหรอช่างเป็นศิลปะที่ทุเรศซะจริงๆ”
“ไปกันดีกว่า จะเริ่มการทดสอบแล้ว เดี๋ยวสาบคนชั้นต่ำมาติดจนสอบไม่ผ่านเอา ฮ่าๆ”
คำพูดเหยียดหยามนี้ทำให้รูปสลักแย้ตะกายตึก เอ้ย หนุ่มน้อยนักฆ่านาม เรย์ โคซาเรฟ ของเราเกิดอาการฉุนเฉียวเป็นที่สุด
“เฮ้ย! แกใหญ่มาจากไหนฟะถึงมากร่างได้ถึงนี่” ว่าแล้วก็จะวิ่งไปชกหน้าคนชั้นสูงซักหมัดสองหมัด แต่กลับถูกเพื่อน(?)ทั้งสองห้ามไว้ซะก่อน
“ใจเย็นน่าเพื่อนยากอย่าไปยุ่งกับเขาเลยนั่นน่ะเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์รุ่นเยาว์ขององค์หญิงเมรินแห่งโปโตลัวเลยนะ” นักบวชชิม่อนห้ามไว้
“เจ้าหมอนั้นชื่อ ไอแซค ชไนเดอร์ ลูกชายของท่านดยุค ชไนเดอร์แห่งโปโตลัว เป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ที่มีอำนาจมากเลยล่ะ” จอมเวทย์อีกอร์เสริม
“ไอ้บ้าขาแย้นั้นน่ะเหรอหัวหน้าองครักษ์รุ่นเยาว์ขององค์หญิงเมรินแห่งโปโตลัว ถุ้ย!ไม่อยากจะเชื่อเลย เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะนายว่าองค์หญิงเมรินแห่งโปโตลัวเหรอ” พูดเสร็จเจ้าตัวแสบก็เหลือบไปเห็น สาวน้อยตัวเล็ก หน้าตาสะสวยน่ารัก ผมสีแดงและนัยน์ตาสีเขียว เมื่อรวมกันแล้วงามสง่าและน่ารักไม่มีที่ติสะกดให้พ่อหนุ่มน้อยนักฆ่าของเราหัวใจพองโตเมื่อเจอกับรักครั้งแรก ไม่ได้สินี่มันเป็นงานจะเอาความรู้สึกส่วนตัวมายุ่งเกี่ยวไม่ได้ แต่ก็ขอดูให้ชื่นใจก่อนละกันนะ พร้อมกับคิดว่าทำไมหนอ องค์หญิงผู้เลอโฉมเช่นนี้ต้องมาอยู่ท่ามกลางดงหมาบ้าพวกนี้ด้วยคิดแล้วก็น่าเสียดายอยากจะปกป้องเธอไว้ในอ้อมอกนี้จริงๆ
ขณะที่พ่อหนุ่มน้อยหัวใจว้าวุ่นกำลังตกอยู่ในภวังค์เสียงปืนก็ดังลั่นขึ้นพร้อมกับเสียงประกาศที่ทำให้ตื่นจากภวังค์ทันที
“เอาล่ะ อยู่ในความสงบกันนะครับเหล่านักเรียนผู้รับการทดสอบทั้งหลาย”เสียงที่ดังยิ่งกว่าเสียงปืนดังมาจากชายหนุ่มหน้าตาดีท่าทางไฟแรงน่าจะเป็นอาจารย์คุมสอบก็เป็นได
“ผมชื่อ ลอร์ด แมคคอย เวลมิงตัน อาจารย์ประจำวิชาการต่อสู้ป้องกันตัว จะมาเป็นผู้คุมสอบในปีนี้”
ลอร์ด แมคคอย เวลมิงตัน หรือที่นักเรียนส่วนใหญ่เรียน ศาสตราจารย์ แมคคอย เป็นยอดนักรบจากแคว้นอาลาบัสต้าที่เก่งในด้านการรบระยะประชิดตัวแบบหาจับตัวได้ยากในแผ่นดินเอเลเนียจนลือกันว่าเขาคนนี้เป็นนักรบที่เก่งที่สุดในเอเลเนีย
“เราจะขอเริ่มการทดสอบโปรดมองไปรอบๆห้องแล้วจะเข้าใจ” นักเรียนหลายคนต่างมองไปรอบๆห้องโถงซึ่งเป็นที่โล่งกว้างรายล้อมไปด้วยโต๊ะเก้าอี้และสิ่งของสารพัด มีระเบียงทางเดินอยู่บนชั้นสองรอบๆห้องโถงและมีห้องที่เป็นทางเข้าออกเชื่อมกับอาคารเรียน มีกลุ่มนักเรียนจำนวนหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นรุ่นพี่ยืนประจำตำแหน่งบนระเบียงรอบๆพร้อมกับชักปืนออกมาเล็งใส่เหล่านักเรียนรุ่นน้องที่อยู่ข้างล่าง
“การทดสอบก็ง่ายๆเอาตัวรอดจากดงกระสุนเหล่านี้ไปให้ได้จนกว่าจะหมดเวลาให้เวลาสิบนาทีเท่ากับทรายในนาฬิกานี้หมดพอดีเริ่มได้” ว่าแล้วก็กลับด้านนาฬิกาทรายเป็นการเริ่มการทดสอบ ห่าฝนกระสุนปืนนับพันที่มาจากเวทย์เพิ่มจำนวนทำให้มีกระสุนยิงออกมานับไม่ถ้วน
นักเรียนหลายคนพยายามหาที่หลบกันอย่างชุลมุนบ้างก็ล้มตายไปมาก
“นี่มันไม่ใช่การทดสอบแล้วแล้วนี่มันจงใจฆ่ากันชัดๆ” เรย์พูดขึ้นกับสหายร่วมอุดมการณ์ทั้งสองที่ตอนนี้นั่งคุดคู้หลบกระสุนอยู่ใต้โต๊ะตัวหนึ่ง
“นี่แหละที่เขาเรียกว่าการทดสอบที่โหดสุดยอดของแท้” อีกอร์พูดอย่างใจเย็น
ในความชุลมันนั้นเองเรย์ได้ยินเสียงจากอีกฟากของห้องโถงดังขึ้นมาว่า “ปกป้ององค์หญิงเร็ว เหวอ”
“คาดว่าทางฟากโน้นคงกำลังแย่และชุลมุนกว่าด้านนี้แน่เลยว่ามั้ย เรย์....” นักบวชชิม่อนพูดขึ้นและเหลือบมาถามเรย์ ที่ตอนนี้ไร้ซึ่งเงาของนักฆ่าหนุ่มน้อยแล้ว
ทันใดนั้นเกิดเสียงฟ้าผ่าดังขึ้น ตอนนี้หนุ่มน้ออยนักฆ่าของเราได้งัดเอาวิชาลับประจำตระกูลที่สืบทอดกันมาในตระกูลโคซาเรฟที่เรียกว่า แปดกระบวนเทพอัสนี
“กระบวนท่าที่หก เทพอัสนีทะลวงฟ้า” ว่าเสร็จก็เกิดสายฟ้าขึ้นที่เท้าของเด็กหนุ่มเป็นแรงส่งพุ่งขึ้นไปเตะหนึ่งในรุ่นพี่ที่อยู่บนระเบียงร่วงลงมาด้วยผลของไฟช็อตทำให้รุ่นพี่ที่อยู่ข้างๆสลบไปอีกสามคน และพุ่งตัวกลับลงมาเพื่อช่วยองค์หญิงคนงามที่ตอนนี้หลบลูกกระสุนแบบเอาเป็นเอาตาย
“ถ้าชั้นขึ้นไปได้นะพวกนายเสร็จชั้นแน่ชั้นจะจัดการให้หมดเลย” สิ้นเสียงก็มีอะไรบางอย่างเข้ามาป้องกันตัวเองไว้
“จะออกไปสู้กับพวกมันคงไม่ดีมั้งคนสวย”
“นายเป็นใครน่ะ”องค์หญิงถามด้วยความงุนงง
“ผมก็คือคนที่จะปกป้ององค์หญิงผู้น่ารักของผมไงล่ะ”
ว่าแล้วเจ้าตัวแสบก็อุ้ม(ฉุด)องค์หญิงผู้น่ารักวิ่งห่าฝนกระสุนออกไปหาที่หลบที่ดีกว่า
“นี่นายจะทำบ้าอะไรน่ะปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้นะตาบ้า” แต่ดูท่าองค์หญิงคนงามจะไม่พอใจการกระทำของเด็กหนุ่มแปลกหน้าที่มีเรือนผมสีเงินและนัยน์ตาสีแดงแถมบอดข้างนึงด้วยซักเท่าไหร่
“ถ้าจะจัดการพวกมันก็ต้องทำแบบนี้นะครับองค์หญิง” เจ้าตัวแสบพูดพร้อมกับซัดอาวุธลับมีดบินซึ่งติดยันต์พิเศษที่สามารถกำหนดจุดที่จะพุ่งตัวไปตรงตำแหน่งที่มีดปีกไว้ได้
“เทพอัสนีทะลวงฟ้า” ว่าแล้วก็พุ่งตัวไปตามตำแหน่งที่มีดปักบนระเบียงเตะรุ่นพี่ร่วงลงมาหลายคน
“หึ! เป็นไงล่ะพวกบ้าเอ้ยพวกแกไม่มีทาง....อุก....ยิง....ชั้นได้หรอก ชั้นจะปกป้อง....องค์หญิง” เมื่อพูดเสร็จความมืดก็เข้าปกคลุม
เมื่อลืมตาตื่นก็พบว่า “อ้าวตื่นแล้วเหรอตอนนายพุ่งออกไปช่วยองค์หญิงอ่ะ ชั้นตกใจหมดเลยนะ” เสียงนั้นคือ อีกอร์ โบนาปาร์ด นักเวทย์ผู้รอบรู้
“นี่ชั้นยังไม่ตายเหรอ แล้วการทดสอบล่ะเป็นไง”
“การทดสอบเมื่อกี้ก็แค่ทักทายนักเรียนใหม่เพื่อสร้างความประทับใจครั้งแรกน่ะกระสุนที่ใช้ก็เป็นกระสุนปลอม นายนี่ก็ดันไปซัดพวกรุ่นพี่ซะอ่วมเลยนะ”
“แล้วทำไมถึงมีคนท่าทางเหมือนตายเลยล่ะ” หนุ่มน้อยนักฆ่าสงสัย
“อ๋อถึงมันจะเป็นกระสุนปลอมแต่มันก็เจ็บถึงขนาดทำให้คนสลบได้นะ ชั้นเองก็โดนเหมือนกัน” จอมเวทย์หนุ่มชี้แจง
แล้วนักฆ่าหนุ่มก็พบว่าที่ตนเองนอนอยู่บนเตียงนี้อยู่ในสภาพเปลือยเปล่าและยังมีนักเวทย์ประหลาดยืนเปลือยท่อนบนอยู่หน้าเตียง
“ตอนที่ชั้นหลับแกได้ทำอะไรรึเปล่า” เจ้าตัวแสบเริ่มหน้าซีด
“อ๋อ ก็ทำอ่ะนะ” คำตอบที่ทำให้นักฆ่าหนุ่มน้อยของเราช็อคแบบสุดๆ
“ตอนที่นายหลับอยู่ ชั้นก็ออกไปอาบน้ำให้มันสบายตัวก่อนน่ะพอเข้ามานายก็ตื่นพอดี นี่นายคิดว่าชั้นมีรสนิยมแบบนั้นเรอะ” จอมเวทย์หนุ่มถามด้วยหน้าตาที่น่ากลัวสุดๆ
คำพูดนั้นทำให้นักฆ่าหนุ่มน้อยโล่งอกขึ้นมาหน่อย แล้วจึงลุกออกไปจากห้องไปทันที
“แล้วนายจะไปไหนน่ะ”
“ว่าจะไปอาบน้ำให้สบายตัวหน่อยน่ะ”
“เดี๋ยวก่อนไม่ได้นะเวลานี้มัน”
แต่ไม่ทันเสียแล้วขณะนี้ภาพเบื้องหน้าของนักฆ่าหนุ่มน้อยคือภาพของสวนสวรรค์ของเหล่าบุรุษนั่นก็คือห้องอาบน้ำนั้นเป็นห้องอาบรวมและเวลานี้คือเวลาอาบน้ำของสาวๆ และภาพที่ประทับใจเจ้าตัวแสบก็คือเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นขององค์หญิงเมรินคนงาม และภาพของเหล่าสาวงามทั้งหลาย
“อืม ในช่วงเวลาที่เลวร้ายก็มีสิ่งที่ดีๆเหมือนกันนะ”
“ไอ้โรคจิต”เสียงของเจ้าหญิงคนงามดังลั่น
เพียะ นั่นคือเสียงสุดท้ายที่นักฆ่าหนุ่มน้อยนามว่า เรย์ โคซาเรฟได้ยิน ก่อนที่เขาจะกระเด็นไปติดกับฝาผนัง
ความคิดเห็น