ลำดับตอนที่ #43
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #43 : การทำโทษด้วยความรัก
> การทำโทษด้วยความรัก
> วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก
> แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น
> ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม
> ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ
> แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ
> เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง
> แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย
> เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิด
> แม้จากระยะไกล
> ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ
> และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น
> รอคอยที่จะถูกทำโทษ
> พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง
> แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
> โดยไม่พูดอะไรสักคำ
> หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก
> หนังสือคือความรู้
> และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง
> แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก
> สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก
> แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้
> หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน
> พ่อกลับนั่งลง
> หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้
> แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง
> พ่อเขียนที่ข้างๆลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า
> ภาษาของแอนดี้เมื่ออายุสองขวบ ต่อไปนี้
> ไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด
> พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ
> ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก
> และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้
> มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ
> ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย
> เหมือนกับที่พี่ๆ ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน"
> "ว้าว..." ฉันคิด
> นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ?
> นานๆครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น
> ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น
> ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น
> พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า...
>
> ซึ่งนั่นก็คือ
>
> ลองมองย้อนดูตัวคุณเองนะคะ ในแต่ละวัน
> เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อยู่เสมอ
> เช่นคุณนั่งกินข้าวกับภรรยาอยู่ที่ร้านอาหาร
> เธอหวังดีอยากจะเทซอสให้คุณ
> แต่มันกลับหกไปเลอะเสื้อตัวเก่งของคุณ
> และคุณก็ทำสีหน้าที่ตำหนิเธอและคำพูดที่บอกว่า
> เดี๋ยวผมเทเองก็ได้ นอกจากคำขอโทษที่เธอพร่ำบอก
> น้ำตาใสๆก็เริ่มเอ่อขึ้นในใจเช่นเดียวกัน
> เพราะอาหารมื้อนั้น
> ไม่มีรสชาติสำหรับเธอเสียแล้ว
> แต่ถ้าคุณบอกกับเธอว่า ถ้าซักไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอก
> เมื่อผมหยิบเสื้อขึ้นมาใช้ครั้งใด
> ผมจะหวนนึกถึงร้านอาหารนี้ทุกครั้งไป
> ที่ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับคุณ
> และได้คิดถึงทุกครั้งว่าภรรยารักและเอาใจใส่ผมมากเท่าใด
> อยากปรนนิบัติเอาใจ (จนเทซอสหกใส่ผม)
> แต่ว่าคราวหน้าออกมาทานข้าว
> ผมจะเป็นคนเทซอสให้คุณมั้งล่ะ (ทีนี้ตาผมมั่ง)
> รอยยิ้มจากหัวใจของเธอได้เริ่มโบยบินแล้ว
> แค่นี้คุณก็ลงโทษเธอให้ระวังมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
> สิ่งที่มีค่าต่อชีวิตคนเรานั้นไม่ใช่นาฬิกาเรือนละแสน
> หรือเนคไทเส้นละหลายๆพัน
> แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจ
> ที่คุณรู้ว่ามีใครคนหนึ่ง เฝ้ารัก
> เฝ้าถนอมความรู้สึกคุณอยู่ตลอดเวลาต่างหาก
> แล้วคุณละคะ เคยลงโทษใครด้วยความรักหรือ
> วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก
> แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น
> ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม
> ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ
> แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ
> เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง
> แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย
> เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิด
> แม้จากระยะไกล
> ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ
> และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น
> รอคอยที่จะถูกทำโทษ
> พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง
> แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้
> โดยไม่พูดอะไรสักคำ
> หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก
> หนังสือคือความรู้
> และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง
> แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก
> สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก
> แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้
> หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน
> พ่อกลับนั่งลง
> หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้
> แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง
> พ่อเขียนที่ข้างๆลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า
> ภาษาของแอนดี้เมื่ออายุสองขวบ ต่อไปนี้
> ไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด
> พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ
> ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก
> และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้
> มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ
> ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย
> เหมือนกับที่พี่ๆ ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน"
> "ว้าว..." ฉันคิด
> นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ?
> นานๆครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น
> ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น
> ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น
> พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า...
>
> ซึ่งนั่นก็คือ
>
> ลองมองย้อนดูตัวคุณเองนะคะ ในแต่ละวัน
> เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อยู่เสมอ
> เช่นคุณนั่งกินข้าวกับภรรยาอยู่ที่ร้านอาหาร
> เธอหวังดีอยากจะเทซอสให้คุณ
> แต่มันกลับหกไปเลอะเสื้อตัวเก่งของคุณ
> และคุณก็ทำสีหน้าที่ตำหนิเธอและคำพูดที่บอกว่า
> เดี๋ยวผมเทเองก็ได้ นอกจากคำขอโทษที่เธอพร่ำบอก
> น้ำตาใสๆก็เริ่มเอ่อขึ้นในใจเช่นเดียวกัน
> เพราะอาหารมื้อนั้น
> ไม่มีรสชาติสำหรับเธอเสียแล้ว
> แต่ถ้าคุณบอกกับเธอว่า ถ้าซักไม่ออกก็ไม่เป็นไรหรอก
> เมื่อผมหยิบเสื้อขึ้นมาใช้ครั้งใด
> ผมจะหวนนึกถึงร้านอาหารนี้ทุกครั้งไป
> ที่ได้มีโอกาสมาทานข้าวกับคุณ
> และได้คิดถึงทุกครั้งว่าภรรยารักและเอาใจใส่ผมมากเท่าใด
> อยากปรนนิบัติเอาใจ (จนเทซอสหกใส่ผม)
> แต่ว่าคราวหน้าออกมาทานข้าว
> ผมจะเป็นคนเทซอสให้คุณมั้งล่ะ (ทีนี้ตาผมมั่ง)
> รอยยิ้มจากหัวใจของเธอได้เริ่มโบยบินแล้ว
> แค่นี้คุณก็ลงโทษเธอให้ระวังมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ
> สิ่งที่มีค่าต่อชีวิตคนเรานั้นไม่ใช่นาฬิกาเรือนละแสน
> หรือเนคไทเส้นละหลายๆพัน
> แต่เป็นความอบอุ่นในหัวใจ
> ที่คุณรู้ว่ามีใครคนหนึ่ง เฝ้ารัก
> เฝ้าถนอมความรู้สึกคุณอยู่ตลอดเวลาต่างหาก
> แล้วคุณละคะ เคยลงโทษใครด้วยความรักหรือ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น