คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : You're my endless love [4]
4
ร่างเล็กตื่นขึ้นมาด้วยความสะลืมสะลือ ก่อนที่จะมองไปที่นาฬิกาเก่าๆ ที่แขวนไว้ที่ผนัง ก็พบว่านี่มันเย็นมากแล้ว
...นี่เรานอนหลับนานขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย...
หลังจากนั้น ดงเฮก็ได้ก้มมองลงที่เสื้อผ้าของตัวเอง ปรากฏว่าเสื้อผ้าทุกอย่างนั้นได้เปลี่ยนเป็นชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเขาเลื่อนสายตาอีกนิดไปที่หัวเตียง ก็พบว่ามีกะละมังใส่น้ำพร้อมกับผ้าขนหนูแช่ไว้อยู่
...คุณคิบอมงคงจะเช็ดตัวแล้วก็เปลี่ยนเสื้อผ้าให้เราสินะ...ขอบคุณมากนะฮะ...
ดงเฮยิ้มเล็กน้อย ที่คิบอมทำอะไรให้เขามากมายถึงขนาดนี้...แต่แล้วเขาก็ต้องหุบยิ้มลง เมื่อเขาพบว่าตอนนี้ตนอยู่ในห้องเพียงแต่คนเดียว
“คุณคิบอมไปไหน” ร่างเล็กเริ่มมีท่าทีกระวนกระวายทันทีเมื่อรู้ว่าร่างสูงไม่อยู่ด้วย ทำให้เขาเริ่มเดินหาทันที
“คุณคิบอม....คุณคิบอมอยู่ไหนฮะ!!คุณคิบอม!!!” ร่างเล็กเริ่มรน ไม่ว่าเขาจะหาในห้องน้ำ ห้องครัว ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเห็นร่างสูงเลย
ดงเฮเริ่มร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เมื่อเขารู้สึกเหมือนว่าตนเองถูกทิ้งอีกครั้ง...ซึ่งเขาเกลียดความรู้สึกแบบนี้ที่สุด
“คุณคิบอม ฮึก!! คุณอยู่ที่ไหน..ฮึกๆๆ!!” ดงเฮพูดพร้อมกับน้ำตาที่นองหน้า ทำให้เขาตัดสินใจเปิดประตูเพื่อออกไปหาข้างนอก
...คุณจะไม่ทิ้งผมใช่มั๊ย...ไหนคุณบอกว่าคุณจะดูแลผมไง...
ดงเฮลงบันไดจากชั้นสองลงมาชั้นล่างเพื่อไปตามหาคิบอม พร้อมกับร้องไห้มาตลอดทาง...ในตอนนั้นเอง เหมือนว่าเขาจะไปชนกับใครเข้าอย่างแรง จนทำให้เขาล้มลงไปกับพื้น
“ผมขอโทษฮะ” ดงเฮพูดพร้อมกับพยายามที่จะลุกขึ้นเพื่อจะไปตามหาคิบอมต่อ
“ดงเฮ!...ดงเฮ!!” ร่างสูงน้ำเสียงสุดจะคุ้นเคยเรียกเขาให้มีสติคืนมา
แล้วเมื่อร่างเล็กมองร่างสูงที่อยู่ข้างหน้า ปรากฏว่าเป็นคนที่เขากำลังหาอยู่
“คุณคิบอม!!!ฮือๆๆๆ!!” ดงเฮโผเข้ากอดคิบอมแน่น ราวกับว่าไม่ให้ร่างสูงหนีไปไหนอีก
“คุณคิบอมอย่าทิ้งผมไปนะฮะ ฮึก!...คุณคิบอมอย่าหนีผมไปไหนนะฮะ” ดงเฮพูดรัวพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ร่างสูงต้องจับแขนร่างเล็กให้มาประจันหน้ากับเขา
“ฉันไม่ได้ทิ้งนายไปไหน...ฉันยังอยู่กับนาย” คิบอมพูด ก่อนที่จะสวมกอดร่างเล็กที่กำลังร้องไห้จนตัวโยนให้หยุดร้อง
ภายในห้อง ร่างสูงกำลังแกะถุงบะหมี่ออกใส่ถ้วยทั้งสองถ้วย ก่อนที่จะถือมากลางห้องเพื่อให้ร่างเล็กที่เพิ่งจะหยุดร้องไห้ไปหมาดๆ ได้มากินด้วยกัน
“ทำไมนายถึงร้องไห้ซะขนาดนั้น” คิบอมถาม
“ก็ผมตื่นมาไม่เห็นคุณนี่ฮะ ผมก็นึกว่าคุณจะทิ้งผมซะอีก...ผมเกลียดการอยู่คนเดียว ผมเกลียดการถูกทิ้ง” ดงเฮเริ่มพูดพร้อมกับน้ำเสียงที่เหมือนกับว่าต่อมน้ำตาของเขากำลังจะทำงานอีกครั้ง
“ฉันก็เห็นว่านายหลับอยู่ ใครจะไปรู้ล่ะว่าตื่นขึ้นมาจะอาละวาดขนาดนั้นน่ะ” ร่างสูงพูด ก่อนที่จะคีบบะหมี่เข้าปากไป
“นายรู้ตัวรึเปล่าว่านายมีไข้น่ะ”
“ผมก็เพิ่งมารู้ตอนที่เห็นกะละมังกับผ้าขนหนูอยู่บนหัวเตียงนั่นแหละฮะ”
“ตอนนี้นายดีขึ้นรึยัง”
“ก็โอเคนะฮะ” ดงเฮพูดก่อนที่จะคีบบะหมี่ขึ้นมากินต่อ
“ไหนมาดูซิ” คิบอมพูดก่อนที่จะเอื้อมมือมาแตะที่หน้าผากของดงเฮ ทำให้ใบหน้าของทั้งคู่นั้นอยู่ใกล้กันอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ทั้งสองสบตากันอยู่นาน ก่อนที่คิบอมจะเป็นคนเรียกสติกลับมาได้ก่อน จึงรีบผละตัวออกมาจากร่างเล็กทันที
“เอ่อ.....พรุ่งนี้เดี๋ยวไปตรวจร่างกายกัน อย่าลืมนะ...” คิบอมพูดโดยที่ไม่มองหน้าดงเฮ
“ฮะ...” ดงเฮดูเหมือนจะเขิน จึงได้ตอบรับโดยที่ไม่มองหน้าคิบอมเช่นกัน
.............................. You’re my endless love..............................
เช้าวันต่อมา ณ โรงพยาบาล
“เอาล่ะ วันนี้คนไข้ยังไม่เยอะเท่าไหร่ เราคงจะได้ตรวจร่างกายเร็วขึ้นเนาะ”
“ฮะ”
“แล้วหลังจากนั้น เราไปเที่ยวกันที่สวนสนุกกันนะ” ร่างสูงเป็นคนชวน
“คุณคิบอมฮะ ผมอายุ 16 แล้วนะฮะ ไม่ใช่ 6 ขวบซะหน่อย จะได้ไปที่สวนสนุกกันน่ะ”
“ทำไมล่ะ บางทีฉันยังเห็นคนอายุราวๆ 30 เล่นรถไฟเหาะกันเลย นายจะกลัวอะไรเล่า” คิบอมพยายามชักชวน
“ก็คนพวกนั้นเค้าอาจจะเป็นคู่รัก พากันมาเดตที่สวนสนุกก็ได้นี่ฮะ”
“งั้น...เราก็ไปสวนสนุกในฐานะคู่รักที่พากันไปเดตบ้างสิ” คิบอมกระซิบที่ข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ทำให้ดูมีเสน่ห์ไม่เบา ทางด้านดงเฮ เมื่อได้ยินประโยคนี้จากร่างสูงก็ทำให้เขาออกอาการเขินทันที
“คุณพูดอะไรเนี่ย...”
...ผมเขินนะ ><...
“เชิญคุณลี ดงเฮ ที่ห้องตรวจ 3 ค่ะ” เสียงพยาบาลสาว เรียกร่างเล็กเข้าไปตรวจ
“ผมไปก่อนนะฮะ” ดงเฮหันมาบอกกับคิบอม ก่อนที่จะเดินตามพยาบาลสาวเข้าไป
10 นาทีหลังการตรวจ
“มาตรวจร่างกายในโรงพยาบาลครั้งแรกรู้สึกเป็นยังบ้าง” คิบอมถามทันที เมื่อดงเฮตรวจร่างกายเสร็จ
“ตื่นเต้นฮะ แล้วเค้าก็เจาะเลือดผมไปตรวจด้วย...เจ็บชะมัดเลย” ร่างเล็กพูดพร้อมกับยกนิ้วที่โดนเจาะเลือดขึ้นมาให้คิบอมดู
“ขอพบญาติคนไข้ที่ชื่อลี ดงเฮค่ะ” จู่ๆ พยาบาลสาวก็ได้เรียกถามผู้เป็นญาติของดงเฮ...ซึ่งไม่มีญาติอื่นใด นอกจากคิม คิบอมที่จะเป็นผู้ปกครองให้กับดงเฮ
“เดี๋ยวฉันมานะ” คิบอมบอกกับดงเฮ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตรวจ
5 นาทีผ่านไป
ดงเฮที่กำลังนั่งจับๆ เล็บของตัวเองอยู่นั้น เมื่อเห็นว่าร่างสูงออกมาจากห้องตรวจแล้ว เขาก็รีบวิ่งเข้าไปหาทันที
“คุณคิบอม เป็นอะไรบ้างฮะ เค้าถามอะไรบ้างรึเปล่า”
“เอ่อ...ไม่มีอะไรมากนักหรอก หมอก็บอกแค่ว่า...ให้ฉันดูแลนายให้ดีๆ ให้นายกินแต่ของที่มีประโยชน์”
“แล้วตกลงว่าผมเป็นอะไรเหรอฮะ” ร่างเล็กพยายามถามร่างสูง
“นายก็แค่ภูมิคุ้มกันต่ำ ป่วยง่ายก็เท่านั้นเอง...” ร่างสูงอธิบาย จากนั้น ร่างเล็กก็พยักหน้าตอบเป็นเชิงเข้าใจ
“เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว...ตามสัญญา เราไปสวนสนุกกัน”
“ตกลงฮะ!” หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็เดินออกจากโรงพยาบาลไป โดยที่ดงเฮนั้นมีสีหน้ายิ้มแย้ม แต่คิบอมนั้นดูเหมือนว่ากำลังมีเรื่องอะไรบางอย่างที่กำลังคิดอยู่ในตอนนี้
...ทำยังไงดี...ถ้าเกิดดงเฮรู้จะรับได้มั๊ย...
5 นาทีที่แล้ว
“คุณคือญาติของคนไข้ใช่มั๊ยครับ” ผู้เป็นหมอถาม
“เอ่อ..ครับ”คิบอมตอบอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะอันที่จริงแล้วเขาก็ไม่ใช่ญาติของดงเฮซะทีเดียว
“คนไข้มักจะมีอาการเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย เวียนหัวบ่อย เป็นไข้ แล้วบางทีตกกลางคืนเหงื่อก็จะออกมาเยอะทั้งๆ ทีภายในห้องก็มีอากาศเย็นพอสมควรใช่รึเปล่าครับ”
...ตรงหมดทุกอย่าง...
“ใช่ครับ”
“ผมขอให้คุณทำใจดีๆ กับสิ่งที่หมอกำลังจะบอกต่อไปนี้ด้วยนะครับ”
“.............” คิบอมลุ้นในสิ่งหมอกำลังจะบอก
“คนไข้เป็นลูคิเมียระยะที่สามครับ” หลังจากที่หมอบอก คิบอมแทบทรุดทันที
คิบอมนิ่งราวกับทุกอย่างหยุดไปชั่วขณะ เพียงรู้ว่าตอนนี้ดงเฮเป็นลูคิเมีย แถมยังเป็นระยะที่สามแล้วด้วย
“พอจะมีทางรักษามั๊ยครับ”
“ไม่มีทางรักษาให้หายขาดครับ แต่ว่ามันก็พอมีวิธีที่จะทำให้คนไข้ได้มีชีวิตอยู่ที่นานขึ้น...คุณต้องหมั่นให้คนไข้ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กที่ช่วยบำรุงเลือดเยอะๆ อย่าทำให้คนไข้เหนื่อยง่าย และที่สำคัญที่สุดคือกำลังใจครับ คุณต้องพยายามอยู่ข้างๆ คนไข้ตลอดเวลา คอยปลอบโยนเพื่อให้คนไข้รู้สึกว่าเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว”
“ครับ”
“หมอไม่ทราบนะครับว่าต่อไปคนไข้จะมีอาการเป็นยังไง แต่อาจจะมีเลือดออกทางจมูกบ้าง นั่นเป็นเพราะเกล็ดเลือดของคนไข้ต่ำเกินไป ให้รีบมาหาหมอทันทีนะครับ”
“เข้าใจแล้วครับ”
“ต่อจากนี้ไปคุณต้องพาคนไข้มาทำการเจาะไขกระดูกเพื่อทำการตรวจเดือนละ 1 ครั้ง แต่ว่าในการทำแต่ละครั้งคงต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงหน่อยนะครับ"
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ว่าราคาจะสูงแค่ไหนผมก็ยอมจ่ายครับ” คิบอมตอบด้วยความมั่นใจ
“แต่ว่าเรื่องที่คนไข้เป็นลูคิเมียผมยังไม่ได้บอกนะครับ ผมก็เลยกะว่า จะให้ญาติเป็นคนบอกจะดีกว่า...ผมรบกวนคุณบอกคนไข้ด้วยนะครับ”
“เอ่อ.......ถ้าผมไม่บอกจะเป็นอะไรมั๊ยครับ เพราะเด็กคนนี้อ่อนแอมาก ผมกลัวว่าแกจะรับไม่ได้น่ะครับ”
“มันก็ไม่ดีซักเท่าไหร่นะครับถ้าคุณไม่บอก เพราะถ้าเกิดอาการมันมากกว่านี้ มันจะสายเกินไปนะครับ”
“ผมจะพยายามหาเวลาเหมาะๆ บอกกับแกแล้วกันนะครับ”
“ได้ครับ แต่อย่าให้นานเกินไปนะครับ”
“ครับ...ขอบคุณครับ” หลังจากที่สนทนากันเสร็จ จุนฮยองเดินออกมาด้วยความไม่สบายใจนัก
...เราจะทำยังไงต่อไป...ไปบอกความจริงกับดงเฮเหรอ...
...ดงเฮอ่อนแอมาก...เผลอๆ บอกไปแกอาจจะมีอาการหนักกว่าเก่าก็ได้...
...ทางที่ดี...อย่าเพิ่งบอกตอนนี้ดีกว่า...
.............................. You’re my endless love..............................
ณ สวนสนุก
“คุณคิบอมดูท่าทางไม่ดีเลยนะฮะ มีอะไรไม่ดีรึเปล่า” ดงเฮถามในขณะที่เดินเข้ามายในสวนสนุก
“ไม่มีอะไรหรอก” คิบอมพยายามปฏิเสธ
“คุณกำลังโกหกผม...” ดงเฮพูดก่อนที่จะหยุดเดินแล้วหันหน้ามาทางร่างสูง
ร่างเล็กค่อยๆ เอื้อมมือไปจับที่ใบหน้าคมของร่างสูง ก่อนจะใช้นิ้วแตะที่มุมปากของร่างสูงทำดันนิ้วขึ้น ทำให้ปากของร่างสูงดูเหมือนว่ายิ้มอยู่
“ถ้าคุณไม่มีอะไร คุณก็ต้องยิ้มแบบนี้สิฮะ...อย่าทำหน้าเครียดรู้มั๊ย เดี๋ยวก็แก่กันพอดีหรอก”
“รู้จักกันแค่ไม่กี่วันนี่ชักจะเอาใหญ่แล้วนะเราเนี่ย” คิบอมพูดพร้อมกับขยี้ที่ผมของร่างเล็กจนฟูไปหมด
เพียงแค่รู้จักกันได้ไม่กี่วัน ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะสนิทสนมกันราวกับว่ารู้จักกันมาเป็นเดือน แถมยิ่งทั้งคู่ได้คุยกันด้วยภาษาที่ไม่เป็นทางการมากนัก ยิ่งทำให้ทั้งคู่สนิทกันมากขึ้น โดยเฉพาะดงเฮ ที่ได้รับความอบอุ่นจากร่างสูง โดยที่ร่างสูงไม่รู้ตัวเลย จนทำให้เขาไว้ใจและกล้าที่จะพูด กล้าที่จะทำอะไรออกมาโดยที่ไม่ต้องกลัวว่าจะโดนดุโดนว่าอีกต่อไป
“คุณคิบอมฮะ ผมขอไปเล่นรถไฟเหาะได้มั๊ยฮะ” ดงเฮถาม พร้อมกับสายตาที่มีความหวัง
“เอ่อ...จะดีเหรอ มันน่ากลัวนะ”
“คุณไม่กล้าเหรอฮะ...” ร่างเล็กพูดพร้อมกับเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“.................”
“คงจะจริงสินะฮะ ผมไม่นึกเลยว่าคุณจะกลัวเครื่องเล่นระดับอนุบาลแบบนี้” ดงเฮพูดเป็นเชิงท้าทาย
...เครื่องเล่นระดับอนุบาลงั้นเหรอ...มันจะมากไปแล้วนะ...
“นี่นายหาว่าฉันปอดงั้นเหรอ”
“ก็แล้วแต่จะคิดแล้วกันนะฮะ ว่าการที่คุณไม่กล้าเล่นเครื่องเล่นนั่น...มันสมควรที่จะเรียกว่าปอดรึเปล่า” ร่างเล็กพูดด้วยท่าทางชวนตี
“นี่นายกล้าเล่นอย่างนี้เลยเหรอ”
“ใช่ฮะ!!””
“..........ได้!ฉันจะแสดงให้ดูเอง ว่าฉันไม่ได้ปอดอย่างที่นายคิด”
“งั้นก็เชิญสิฮะ” ร่างเล็กพูดพร้อมกับผายมือไปทางรถไฟเหาะ เพื่อเป็นเชิงให้ร่างสูงเดินไป คิบอมขยับปกคอเสื้อเล็กน้อย ก่อนที่จะมองร่างเล็กด้วยสายตาที่สื่อว่า ‘ฉันจะแสดงให้นายดู ว่าฉันไม่ปอด’
บนเครื่องเล่น
‘ขอให้ทุกท่านตรวจสอบเข็มขัดให้เรียบร้อย เก็บทรัพย์สินมีค่าของคุณให้เรียบร้อยก่อนรถไฟจะเคลื่อนที่นะคะ’
“ถอนตัวยังทันนะฮะคุณคิบอม...” ร่างเล็กพยายามเซ้าซี้
“ไม่มีทาง...”
“มันน่ากลัวน้า....” ร่างเล็กพูดพร้อมกับใช้แขนของตนกระแซะที่แขนของร่างสูง
“ก็บอกว่าไม่มีทางไง...ฉันไม่มีวันยอมให้นายว่าฉันปอดหรอก” ร่างสูงพูดด้วยความมั่นใจ ในขณะที่ร่างเล็กนั้นพยักหน้าพร้อมกับเบะปากเล็กน้อยเป็นเชิงว่าเชื่อก็ได้
“เดี๋ยวก็รู้...” ร่างเล็กพูดทิ้งท้ายไว้อย่างมีเลสนัย ก่อนที่จะหันไปข้างหน้าเพื่อเตรียมพร้อมกับรถไฟเหาะที่กำลังจะเคลื่อนที่ในไม่ช้านี้
….5…..4…..3…..2…..1…..
!!ครืด!!
!!กรี๊ด!!!!!!
เสียงกรี๊ดดังระงมไปทัวรถไฟเหาะ โดยไม่อาจแยกได้ว่าเสียงร้องเป็นของใคร หรือเพศไหน ระยะเวลาเพียงแค่ 3 นาทีนั้นราวกับ 3 ชั่วโมงทีเดียวกว่าที่รถไฟเหาะนี้จะจอดสนิท เล่นเอาผู้โดยสารที่ฝากชีวิตไว้กับรถไฟนั้นแทบจะหายใจไม่ทั่วท้องเลยทีเดียว
3 นาทีผ่านไป
ทันทีที่รถไฟเหาะหยุดลง ผู้คนที่นั่งอยู่ก็แทบจะลุกออกจากที่นั่งแทบไม่ทันกันเลยทีเดียว ผิดกับร่างเล็กที่ยังนั่งอยู่พร้อมกับยิ้มอย่างร่าเริง ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ฮ้า!!สนุกเป็นบ้าเลย...” ดงเฮพูดพร้อมกับบิดตัวไปด้วย ก่อนที่จะหันมามองร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างๆ
“คุญคิบอมฮะ...” ร่างเล็กเรียกชื่อคนที่อยู่ข้างๆ เบา แต่ก็ไม่ได้รับเสียงใดๆ ตอบกลับมา นอกจากท่าทางนิ่งๆ เท่านั้น
“คุณคิบอม.....”
“ห้ามตามฉันมานะ..” คิบอมพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนที่จะลุกเดินออกไปโดยที่ไม่มองร่างเล็กที่กำลังงงเป็นไก่ตาแตก
...คุณคิบอมเป็นอะไร...โกรธเพราะเราพยายามเซ้าซี้ให้เล่นเครื่องเล่นรึเปล่า...
ดงเฮอดเป็นห่วงไม่ได้จึงได้เดินตามออกไป แม้ว่าร่างสูงจะสั่งเขาด้วยท่าทางจริงจังว่าไม่ให้ตามมาก็เถอะ...แล้วทันทีที่เขาเดินมาถึง สิ่งที่เขาเห็นนั้นก็ทำให้เขาอดหัวเราะไม่ได้
!ฮุแหว่ะ!!....อ๊อกๆ!!อะแฮ่กๆๆๆ!!
ร่างสูงหลังจากที่เดินออกมาไกลพอสมควรจากรถไฟเหาะ เขาก็ได้อาเจียนออกมาเพราะอาการเวียนหัวจากการที่รถไฟเหาะหมุนติดต่อกันหลายรอบนั่นเอง
“ฮิๆๆๆ” ดงเฮหัวเราะชอบใจ
“นี่...สนุกนักเหรอเห็นคนกำลังอ้วกเนี่ย” คิบอมพูดพร้อมกับใช้น้ำล้างหน้าและปากไปด้วย
“ตอนแรกก็นึกว่าโกรธ ที่ไหนได้ก็หลบมาเอาข้าวเช้าออกนี่เอง”
“ก็ฉันไม่เคยเล่นนี่นา” ร่างสูงพูดก่อนที่จะหันไปล้างหน้าต่อ
“มันเป็นธรรมดาฮะ อย่ากังวลไปเลย” ดงเฮพยายามปลอบใจร่างสูง
“ไปนั่งเล่นที่ริมแม่น้ำกัน” ร่างสูงเอ่ยปากชวน
“ฮะ” ดงเฮตอบรับ ก่อนที่จะเดินตามคิบอมไป
ดงเฮนั่งรอคิบอมที่กำลังไปซื้อน้ำอยู่ที่ม้านั่งริมฝั่งแม่น้ำ พระอาทิตย์ที่ตอนนี้ค่อยๆ เลื่อนลงเรื่อยจนเสมอกับผิวน้ำ ทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บรรยากาศในตอนนี้มันช่างโรแมนติกเหลือเกิน
...เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพระอาทิตย์ดวงใหญ่ขนาดนี้...รู้สึกดีจัง...
ในขณะเดียวกัน คิบอมก็เดินมาพร้อมกับแก้วน้ำสองแก้ว ก่อนที่จะเดินมานั่งข้างๆ ร่างเล็ก
“นี่น้ำของนาย”
“ขอบคุณฮะ” ดงเฮขอบคุณ ก่อนที่จะกินน้ำที่คิบอมซื้อมาให้
“ดงเฮ ต่อจากนี้ไปนายจะต้องกินแต่ของมีประโยชน์รู้มั๊ย” จู่ๆ คิบอมก็พูดออกมา ทำให้ดงเฮเกิดอาการงงเล็กน้อย
“ทำไมเหรอฮะ”
“ฉันก็แค่อยากจะให้นายดูแลตัวเองดีๆ เพราะนายน่ะไม่ค่อยแข็งแรงก็เท่านั้นเอง”
“บางทีผมก็หงุดหงิดตัวเองเหมือนกันนะฮะ หงุดหงิดที่ผมต้องเกิดมาอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย...บางทีผมก็อยากรู้ตัวเองเหมือนกัน ว่าจริงๆ แล้วผมเป็นอะไรกันแน่” ดงเฮพูดด้วยอาการหงุดหงิด
...จริงๆ แล้วนายเป็นลูคิเมีย แต่ฉันยังไม่อยากจะบอกนายตอนนี้...
ดงเฮที่กำลังนั่งเพลินอยู่นั้นเขาก็ต้องสะดุ้งทันที เมื่อร่างสูงเขามาสวมกอดเขาไว้แน่น พร้อมกับเกยคางที่ไหล่เล็กจนลมหายใจรดที่ใบหูของร่างเล็ก
“คุณจะทำอะไรฮะ!” ดงเฮถามด้วยความตกใจ
“ฉันก็แค่อยากจะเก็บความรู้สึกนี้ไว้นานๆ ก็เท่านั้นเอง...” คิบอมพูดในขณะที่คางยังเกยอยู่ที่ไหล่ของร่างเล็ก เสียงของร่างสูงที่ทุ้มต่ำ แต่แฝงไปด้วยเสน่ห์ ทำให้ในตอนนี้ดงเฮรู้สึกอ่อนระทวยไปหมด
...ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงชอบทำให้เราหมดแรงอยู่เรื่อยนะ...
“ครั้งแรกที่ฉันเห็นนาย ฉันก็รู้สึกถูกชะตาทันที...มันทำให้ฉันรู้สึกอยากจะปกป้องนาย และไม่อยากให้ใครมาทำร้ายนายได้อีก”
“ผมก็รู้สึกถูกชะตากับคุณเหมือนกันฮะ เพราะครั้งแรกที่ผมเห็นคุณ...ผมก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยที่คุณส่งมาให้ผม” ดงเฮเอี้ยวตัวหันมาพูดกับร่างสูง
คิบอมค่อยๆ พลิกตัวของดงเฮให้หันหน้าเข้าหาตัวเอง ก่อนจะจ้องเข้าไปในดวงตาคู่สวยราวกับจะสื่ออะไรบางอย่าง
“นายสัญญากับฉันได้มั๊ย ว่าต่อจากนี้ไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น นายต้องเข้มแข็งกับมัน”
“คุณกำลังพูดถึงเรื่องอะไรฮะ”
“สัญญากับฉันสิ” ร่างสูงยกนิ้วก้อยขึ้นมาเพื่อให้ร่างเล็กสัญญา
“............ผมสัญญาฮะ” ดงเฮยกนิ้วก้อยเล็กขึ้นมาเกี่ยวกับนิ้วก้อยหนาของคิบอม ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้
คิบอมจ้องลึกเข้าไปที่ตาของดงเฮอยู่นาน ก่อนที่ใบหน้าคมจะเลื่อนเข้ามาเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากหนาประกบเข้าที่ริมฝีปากเล็กอย่างอ่อนโยน
ราวกับมีเวทย์มนตร์บางอย่างที่ตรึงร่างเล็กไม่ให้ขยับไปไหน ทั้งๆ ทีเขาอยากห้ามคนตรงหน้าเต็มที แต่เขาก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารสสัมผัสจากคนที่อยู่ตรงหน้านี้ ทำให้เขาไม่อยากจะหยุดเลยแม้แต่นาทีเดียว
!!ติ๊งต่อง...........ติ๊งต่อง...............ติ๊งต่อง!!
เสียงนาฬิกายักษ์ของสวนสนุกดังขึ้นทำลายความเงียบทั้งหมด ทำให้ร่างสูงผละออกจากร่างเล็กทันทีพร้อมกับมีท่าทีที่ทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ......ฉันขอโทษ...ฉันไม่ได้ตั้งใจ บรรยากาศมันพาไปน่ะ” คิบอมพูดโดยที่ไม่มองร่างเล็ก
“ชะ....ช่างมันเถอะฮะ..” ดงเฮพูดด้วยความเขินจนใบหน้าแดงราวกับเลือดสาด
!!ครืน!!
“ฉันว่าเรารีบกลับเถอะ อีกไม่นานฝนคงจะตกแน่ๆ”
“ฮะ!” ดงเฮตอบรับก่อนที่จะเดินตามร่างสูงไป
*********************
ตายกัน สรุปว่าดงเฮเป็นลูคิเมีย...แต่ว่าบอมจะบอกดงเฮมั๊ยล่ะเนี่ย
ตอนนี้มีช๊อตน่ารักๆ คือตอนนี้ที่ดงเฮร้องไห้ตามหาคิบอม ดูเหมืิอนเด็กยังไงก็ไม่รู้
อีกตอนคือในสวนสนุกนั่นแหละค่ะ
ไม่รู้ว่ารีดเดอร์คิดเหมือนกันรึเปล่า...
วันนี้ไรเตอร์มาร้านเน็ต ได้ฤกษ์อัพซักที เพราะเน็ตที่บ้านไรเตอร์ออกแนวกาก TT
แล้วเจอกันเร็วๆ นี้นะคะ
ความคิดเห็น