ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC YAOI SJ]You're my endless love (Kihae Ver.)

    ลำดับตอนที่ #8 : You're my endless love [7]

    • อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 54


    7

     

    ดงเฮ กินผลไม้กันคิบอมเรียกร่างเล็กที่ทอดสายตาออกไปนอกหน้าต่างให้มากินผลไม้ที่ตนปลอก

    ฮะดงเฮเดินมาก่อนที่จะนั่งลง แล้วหยิบแอปเปิ้ลที่หั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำเข้าปากไป

    คิบอมและดงเฮเงียบไปซักพัก ในขณะที่ด้านของคิบอมเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างอยู่ก่อนจะพูดขึ้น

    ดงเฮ...

    ว่าไงฮะ

    พรุ่งนี้นายต้องได้รับการเจาะไขกระดูกอีกครั้ง...

    .....................สิ่งที่คิบอมพูด มันทำให้ดงเฮถึงกับโหวงๆ ในท้องเล็กน้อย

    นายพร้อมรึเปล่า

    ..............ฮะ ผมพร้อมฮะดงเฮตอบ พร้อมกับฝืนยิ้มเพื่อไม่ให้ร่างสูงต้องกังวล

     

    ...ถึงจะไม่พร้อมยังไงมันก็ต้องพร้อม...เพราะยังไงเราก็หนีมันไม่พ้นมันอยู่ดี...

     

     

     

    .............................. You’re my endless love..............................

     

     

     

    ภายในโรงพยาบาล ร่างบางนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าห้องตรวจด้วยท่าทางที่แสดงถึงอาการเครียด โดยมีร่างสูงนั้นค่อยนั่งอยู่ข้างๆ เพื่อให้กำลังใจพร้อมกับกุมมือร่างบางไว้แน่น

    เชิญคุณลี ดงเฮค่ะเสียงพยาบาลสาวเรียกร่างเล็กเพื่อให้เดินตามเข้าไปข้างใน โดยที่ร่างสูงเดินตามมาด้วย

    ทั้งสามคน พยาบาล ดงเฮ และคิบอมต่างก็เดินมาถึงหน้าห้อง ซึ่งดูเหมือนว่าคิบอมรู้ดีว่าพยาบาลต้องไม่ยอมให้เขาเข้าไปแน่ๆ เขาจึงตัดสินใจที่จะหันหลังเดินกลับไป

     

    !ฟึ่บ!

    แต่ทว่า ร่างเล็กกลับจับแขนของเขาไว้อย่างรวดเร็ว ทำให้เขาหันมาอีกครั้ง

    คุณอย่าไปไหนนะฮะ...คุณต้องอยู่ให้กำลังใจผม อย่าทำให้ผมต้องเหมือนอยู่คนเดียว ห้ามอยู่ในที่ที่ผมไม่เห็นคุณเด็ดขาดนะ...ดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงราวกับว่าร่างสูงจะทิ้งเขาไป

    ไม่...ฉันจะไม่ไปไหน นายต้องเห็นฉัน ฉันจะยืนอยู่ที่หน้าห้องคิบอมพูด จากนั้นร่างเล็กจึงได้ปล่อยมือ ก่อนที่จะถูกนำตัวเข้าห้องโดยพยาบาลสาว

    เป็นอีกครั้งที่ต่อจากนี้ไปเขาต้องเห็นดงเฮทรมานกับสิ่งที่ตัวเองได้รับ เข็มเล่มยาวถูกเจาะเข้าไปที่บริเวณสะโพก และก็เช่นเดิม...ร่างเล็กกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาในเวลาเดียวกัน

     

    ...นายมองฉันสิดงเฮ นายเงยหน้าขึ้นมามองฉันสิ...ฉันยืนอยู่ตรงนี้...

     

    ราวกับว่าประสาทสัมผัสของทั้งคู่สามารถสื่อถึงกันได้ ร่างเล็กมองไปที่หน้าประตูเพื่อที่เขาจะมองร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างนอก ซึ่งมันสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดไปได้บ้าง ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่น้อยนิดก็ตาม

    เข็มเล่มยาวดูดของเหลวสีแดงจนเต็มสลิงค์ก่อนที่จะค่อยๆ ดึงขึ้นมา ยิ่งเข็มใกล้จะหลุดออกจากร่างกายมากเท่าไหร่ น้ำตาของร่างเล็กก็ไหลมากขึ้นเท่านั้นด้วยความเจ็บปวด

    แล้วไม่นานเข็มเล่มใหญ่ก็ถูกดึงออกมาจนหมด ร่างเล็กมีอาการอ่อนเพลียเล็กน้อยจากอาการเกร็งเพราะความเจ็บ ทันทีที่ทุกอย่างเรียบร้อย ทั้งหมอและพยาบาลก็กำลังจะเดินออกไป

    คุณหมอฮะ...แต่ทว่า ดงเฮได้เรียกไว้ก่อน ทำให้หมอต้องหันมาอีกครั้ง

    มีอะไรรึเปล่าครับ

    ผมอยากจะรู้ว่า ผมจะมีชีวิตอยู่ได้นานแค่ไหนเหรอฮะ

    ส่วนใหญ่คนไข้ที่ตอนนี้มีอาการคล้ายๆ คุณ อย่างเก่งก็คงจะประมาณ 3 อาทิตย์นะครับ

    .......................สิ่งที่หมอพูด ทำให้ร่างเล็กถึงกับนิ่งอึ้งไปทันที...นี่เขากำลังจะตายอีก 3 อาทิตย์ข้างหน้านี้งั้นเหรอ

    แต่ในกรณีของคุณ ผมถือว่าคุณมีสภาพจิตดีมาก หน้าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกประมาณ 1 เดือนครับ

    งั้นเหรอฮะ...ขอบคุณนะฮะดงเฮขอบคุณหมอ จากนั้นหมอก็ได้เดินออกจากห้องไป

     

    ...เหลือเวลาเหลืออีกไม่มากแล้ว...หมายความว่า เราก็จะต้องจากกับคุณคิบอมแล้วอย่างนั้นเหรอ...

     

    ดงเฮนั่งเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง พร้อมกับจี้รูปหัวใจคล้องกันไว้แน่น

    ดงเฮ...คิบอมเดินเข้ามาก่อนที่จะเรียกร่างเล็ก ทำให้ดงเฮค่อยๆ หันมาหาต้นเสียง

    คุณคิบอมฮะ...ผมมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนี้แล้วฮะ

    .....ว่าไงนะ

    หมอบอกว่า ผมมีชีวิตอยู่ได้อีกแค่ 1 เดือนเท่านั้นดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงสั่น

    ดงเฮ เข้มแข็งเข้าไว้นะ.... คิบอมพูดพร้อมกับจับมือเล็กไว้แน่น

    ถ้าเกิดวันนั้นมาถึง คุณห้ามร้องไห้เด็ดขาดนะฮะ

    ดงเฮ ไม่เอาสิ...นายอย่าพูดแบบนี้นะร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น แล้วจู่ๆ น้ำตาเขาก็ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้

    ผมบอกแล้วฮะว่าห้ามร้องไห้ดงเฮพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาให้กับร่างสูงอย่างแผ่วเบา

    ดงเฮ ไม่ว่ามันจะเหลือเวลาอีกแค่ 1 เดือน...1 วัน...1 ชั่วโมง...1 นาที หรือ 1 วินาที ทุกๆ เวลาที่ผ่านไป ฉันสัญญาว่าฉันจะดูแลนายให้ดีที่สุด...

    ผมรู้ฮะ

    ดงเฮ... ร่างสูงพูด ก่อนที่จะเลื่อนริมฝีปากมาประกบกับริมฝีปากคนที่อยู่ด้านล่างอย่างอ่อนโยน ราวกับทะนุถนอมคนที่อยู่ตรงหน้านั้นให้นานที่สุด

     

     

    ...พวกเขาทั้งสองจะรู้หรือไม่ ว่าจูบนี้จะเป็นจูบสุดท้ายของพวกเขาทั้งสองคน...

     

     

     

    .............................. You’re my endless love..............................

    3 อาทิตย์ต่อมา

     

    หลังจากที่ดงเฮรู้ว่าตนเป็นลูคีเมีย เขาก็ไม่ได้มีท่าทีซึมเศร้าแต่อย่างใด เขากลับใช้ชีวิตแบบปกติ พยายามไม่เครียดเพื่อที่ไม่ให้ร่างกายของตัวเองย่ำแย่ลง

    ในวันนี้ คิบอมตื่นขึ้นมาแต่เช้า พร้อมกับอาบน้ำในทันที ในขณะที่ดงเฮนั้นยังนอนอยู่บนเตียง...แล้วเมื่อเขาอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เขาก็เดินมาเพื่อปลุกดงเฮให้ลุกขึ้นไปอาบน้ำ

    ดงเฮ...ลุกได้แล้วคิบอมเดินมาพร้อมกับสะกิดดงเฮ

    ....................ร่างเล็กยังคงนอนนิ่งโดยที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ ตอบกลับมา

    ดงเฮ...นายนอนเยอะไปแล้วนะ ตื่นได้แล้วคิบอมยังคงปลุกร่างเล็กต่อไปเรื่อยๆ

    ................ดงเฮก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม

     

    ...ปกติดงเฮไม่ใช่คนนอนขี้เซา...ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นล่ะ...

     

    ดงเฮ ตื่นสิดงเฮ!” คิบอมพยายายามเร่งเสียงให้มากขึ้น

    แล้วมันก็ได้ผล...เมื่อร่างเล็กค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา

    คุณคิบอมฮะ...ผม...ลุกไม่ไหวดงเฮพูดด้วน้ำเสียงที่แผ่วเบา พร้อมกับท่าทีที่อ่อนแรง

    ดงเฮ...เกิดอะไรขึ้นกับนาย นายต้องเข็มแข็งนะคิบอมพูดก่อนที่จะค่อยๆ ประคองร่างเล็กให้นั่งพิงกับหัวเตียง

    ใบหน้าที่เมื่อก่อนที่เคยมีเลือดฝาด บัดนี้กลายเป็นสีขาวซีดจนน่ากลัว ริมฝีปากบางที่ชมพูกลับกลายเป็นริมฝีปากที่แห้งผาก

    นายไหวรึเปล่าดงเฮ

    ผม....ผมรู้สึกว่า...ผมเหนื่อย...เหนื่อยเหลือเกิน...ร่างเล็กพูดออกมาแค่ไม่กี่คำ แต่ราวกับว่าพูดออกมาเป็นเวลานาน เพราะเขามีอาการเหนื่อยได้อย่างชัดเจน

    นายไปต้องพูดอะไรแล้ว เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำมาให้ แล้วเดี๋ยวเราไปโรงพยาบาลกันนะหลังจากที่ร่างสูงพูด ร่างเล็กก็ได้พยักหน้ารับน้อยๆ แล้วเขาก็เดินเข้าไปในครัวเพื่อที่ไปหยิบน้ำมาให้ร่างเล็ก

    แล้วไม่นานเขาก็เดินกลับมา พร้อมกับน้ำที่อยู่ในมือเพื่อให้ร่างเล็กได้กิน

    อ่ะ!กินน้ำก่อนนะ...คิบอมค่อยจ่อแก้วน้ำไปเข้าปาก ซึ่งร่างเล็กก็ค่อยกลืนน้ำลงไปอย่างช้าๆ ก่อนจะผละออกจากแก้ว

    แต่แล้วจู่ๆ ร่างเล็กก็มีเลือดไหลออกมาจากจมูก สร้างความตกใจให้กับร่างสูงเป็นอย่างมาก

    ดงเฮ..นายเลือดกำเดาไหลร่างสูงทักขึ้น จากนั้นบางสิ่งบางอย่างก็แล่นเข้ามาในความคิดของเขา

     

    หมอไม่ทราบนะครับว่าต่อไปคนไข้จะมีอาการเป็นยังไง แต่อาจจะมีเลือดออกทางจมูกบ้าง นั่นเป็นเพราะเกล็ดเลือดของคนไข้ต่ำเกินไป ให้รีบมาหาหมอทันทีนะครับ

     

    ...ไม่ได้แล้ว...เราจะปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ได้แล้ว...

     

    ดงเฮ ฉันต้องพานายไปโรงพยาบาล

    ไม่เป็นไรหรอกฮะ....แค่.....นี้...............เอง...แล้วจู่ๆ ร่างเล็กก็เป็นลมไป

    ดงเฮ...ดงเฮ!!!!!!” คิบอมพยายามเรียกร่างเล็กให้ตื่น แต่เมื่อเห็นว่าร่างเล็กมีอาการแย่ลง เขาจึงช้อนร่างเล็กขึ้นมาก่อนจะอุ้มไปที่รถเพื่อตรงไปยังโรงพยาบาลทันที

     

     

    โรงพยาบาล

    คิบอมนั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉินอย่างใจจดใจจ่อ พร้อมกับมีท่าทางกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด เขาแทบจะนั่งไม่ติดเมื่อรู้ว่าอาการของดงเฮนั้นเริ่มจะแสดงออกมากขึ้นจนน่าเป็นห่วง

    เวลาผ่านไปนานพอสมควร หมอที่เป็นคนดูแลอาการของดงเฮมาตลอดก็ได้เดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน

    คุณหมอครับ คนไข้เป็นยังไงบ้างครับคิบอมถามด้วยความร้อนรน

    คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วครับ แต่...

    แต่อะไรครับ...

    หมอต้องให้คนไข้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล เพราะถึงแม้ว่าจะพ้นขีดอันตราย แต่อาการของคนไข้นั้นได้ดำเนินมาถึงระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งคนไข้พร้อมที่จะทรุดได้ทุกเมื่อโดยไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไหร่หมอพูดจบก่อนที่จะเดินไป

    ร่างสูงรู้สึกไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นความจริง...นี่อาการของร่างเล็กมาถึงระยะสุดท้ายแล้วเหรอ

    คิบอมเดินเข้าไปในห้องที่มีร่างเล็กนอนอยู่ รอบๆ กายของร่างเล็กมีทั้งถุงเลือด ถุงเกล็ดเลือด และสายน้ำเกลือระโยงระยางไปหมด แถมยังมีเครื่องช่วยหายใจอีก

     

    ...ตอนนี้นายคงจะอึดอัดน่าดูสินะดงเฮ...

     

    คิบอมค่อยๆ เอื้อมมือลูบที่ใบหน้าของร่างเล็กอย่างแผ่วเบา เขาไม่อยากให้ร่างเล็กต้องมาเจออะไรแบบนี้ และต้องมาจากโลกนี้ไปโดยที่อายุยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยด้วยซ้ำ

    และอีกอย่างคือ เขาไม่อยากจะเสียร่างเล็กไป เพราะดงเฮเปรียบเสมือนเป็นจิ๊กซอว์ส่วนที่หายไป แล้วจู่ๆ มันก็มาเติมเต็มส่วนที่ขาดหายไปจนครบสมบูรณ์ และถ้าเกิดจิ๊กซอว์ชิ้นนี้หายไปอีก ภาพนั้นก็จะดูไม่น่ามอง ไร้ค่า ซึ่งมันเหมือนกับร่างสูงในตอนนี้ ถ้าเกิดเขาขาดร่างเล็กไป ชีวิตของเขาก็คงจะดูไร้ค่าเช่นเดียวกัน

     

    ...นายต้องอดทนนะดงเฮ...นายต้องตื่นขึ้นมานะ...

     

     

    .............................. You’re my endless love..............................

     

     

    หลังจากเขากลับมานอนที่ห้องพัก เขาก็ไม่มีท่าทีว่าจะหลับลง เพราะรู้สึกไม่ชินที่ต้องนอนอยู่คนเดียวแบบนี้ รู้สึกว่างเปล่าเมื่อเขาไม่ได้เห็นใบหน้ายามนิทราของร่างเล็กที่นอนอยู่ข้างๆ

     

    ...พรุ่งนี้ฉันสัญญาว่าฉันจะไปอยู่ดูแลนาย...

     

     

    รุ่งเช้า  คิบอมรีบบึ่งรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปหาดงเฮ ด้วยความเป็นห่วงทันที แล้วเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องฉุกเฉิน ปรากฏว่า ไม่พบร่างเล็กที่นอนอยู่บนเตียงนั้นแล้ว

     

    ...ไม่นะ...ดงเฮหายไปไหน...

     

    คุณพยาบาลครับ คนไข้ที่ป่วยเป็นลูคีเมียชื่อลี ดงเฮ เมื่อวานเขายังอยู่ห้องนี้...แล้ววันนี้เขาไปไหนเหรอครับคิบอมรีบถามพยาบาลที่เพิ่งเดินเข้ามาทันที

    อ่อ...คนไข้ถูกย้ายไปที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 389 ชั้น 5 ค่ะพยาบาลสาวพูดอย่างสุภาพก่อนที่จะเดินออกไป

    ดูเหมือนว่าร่างสูงจะกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เมื่อเขารู้ว่าร่างเล็กปลอดภัยดี...ไม่รอช้า เขารีบไปที่ห้อง 389 ชั้น 5 ทันที

    แล้วเมื่อเขาเปิดประตูเข้ามาถึง สภาพของร่างเล็กไม่ได้ต่างอะไรจากห้องฉุกเฉินเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่ว่า ในห้องนี้ค่อนข้างมีแสงสว่างส่องเข้ามาถึง แล้วภายในห้องที่กว้างขวางทำให้ดูไม่อึดอัดมาก

    ดงเฮ...นายได้ยินฉันรึเปล่าคิบอมถามในขณะที่ร่างเล็กหลับอยู่

    แต่แล้ว เปลือกตาของร่างเล็กก็ค่อยเปิดขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนที่ร่างเล็กนั้นจะหันมาทางร่างสูงพร้อมกับส่งยิ้มบางๆ ไปให้

    ดงเฮ นายฟื้นแล้ว...ร่างสูงพูดด้วยความดีใจ

    ฮะ ผมรู้สึกว่าผมดีขึ้นดงเฮพูดด้วยน้ำเสียงเบาแต่ใส

    นายอึดอัดรึเปล่าที่ต้องมานอนอยู่ในห้องที่มีอะไรก็ไม่รู้โยงเต็มตัวนายไปหมด

    เดี๋ยวซักพักผมก็คงชินน่ะฮะดงเฮพูดพร้อมกับส่งยิ้มไปให้

    ดิฉันขอเข้ามาเปลี่ยนเลือดและเกล็ดเลือดให้กับคนไข้นะคะ...นางพยาบาลอายุราวๆ  30 เดินเข้ามาพร้อมกับถุงเลือดและเกล็ดเลือดเพื่อที่จะนำมาเปลี่ยน

    นางพยาบาลเดินเข้ามาดึงเข็มทั้งหมดออกจากตัวดงเฮ พร้อมกับเอาถุงเลือดอันเก่าออก จากนั้นเข็มเล่มเล็กก็ได้แทงเข้าไปที่หลังมือของร่างเล็ก จนบัดนี้มือของร่างเล็กเป็นรูพรุนเพราะการเจาะเต็มไปหมด จากนั้น นางพยาบาลก็ได้น้ำถุงเลือดและถุงเกล็ดเลือดถุงใหม่ขึ้นไปแขวนไว้

    ถ้าเลือดหรือเกล็ดเลือดของคนไข้ใกล้จะหมดแล้ว ขอให้คุณมาแจ้งที่ห้องคลังเลือดนะคะ

    ครับ ขอบคุณครับหลังจากนั้นพยาบาลก็ได้เดินไป

    นี่นายต้องโดนเข็มเจาะที่มือบ่อยเลยสินะเนี่ย ดูสิเป็นรูพรุนเลยคิบอมหันมาพูดกับดงเฮ

    ใช่แล้วฮะ

    แล้วนายไม่เจ็บเหรอ...

    ไม่หรอกฮะ เพราะพยาบาลเค้ามาเจาะตอนที่ผมหลับ ผมไม่รู้สึกอะไรหรอกฮะดงเฮพูด แล้วหลังจากนั้นทั้งดงเฮและคิบอมต่างก็หาเรื่องคุยกันไปเรื่อยๆ และไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่

     

     

    ตกเย็น คิบอมได้มาที่ตู้ ATM เพื่อจะมาเช็คยอดเงินทั้งหมดในบัญชีของเขา...แล้วเมื่อจำนวนเงินทั้งหมดปรากฎสู่สายตาของร่างสูง มันก็ทำให้เขาถึงกับคิดหนักเลยทีเดียว

     

    ...เหลือแค่ล้านวอนเองอย่างนั้นเหรอ...แล้วต่อไปเราจะใช้อะไรรักษาดงเฮล่ะ...

     

     

    ถ้าแกยอมแต่งงานกับหนูมิน ซุนจา...ฉันจะยกเงิน 100 ล้านวอนให้แก

    แต่งงาน...

    ใช่...แค่แต่งงานเท่านั้น แกก็จะได้เงิน 100 ล้านวอนมาใช้อย่างง่ายดายเลยล่ะ

     

    แล้วประโยคในวันนั้นก็เข้ามาในความคิดของเขา เงินหนึ่งล้านวอนที่เขาจะได้มันมาง่ายๆ เพียงแค่แต่งงานเท่านั้น แล้วหลังจากที่ได้เงินมาแล้ว เขาก็จะนำเงินนั้นมารักษาดงเฮต่อทันที

     

    ...นี่คงจะเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วสินะ...

     

    จากนั้นคิบอมก็ได้หยิบโทรศัพท์ขึ้น ก่อนที่จะกดเบอร์ที่ตนเองตั้งใจจะโทรไปแล้วกดโทรออก

    พ่อครับ..........................ผมตกลงจะแต่งงานกับมิน ซุนจาครับ

     

     

    .............................. You’re my endless love..............................

     

     

     

    คิบอมดินเข้ามาในห้องเพื่อไปหาดงเฮอีกครั้ง

    ดงเฮ...ฉันคงจะไม่ได้มาหานายซักพักนะ

    ทะ...ทำไมเหรอฮะดงเฮถามด้วยน้ำเสียงเศร้า

    ฉันมีธุระที่ต้องทำน่ะ แต่ฉันสัญญาว่าฉันจะต้องกลับมาหานาย

    แล้วถ้าคุณไม่กลับมาหาผมละฮะ...

    ฉันต้องกลับมาหานายดงเฮ..

    แล้ว...ถ้าผมเกิดตายก่อนที่คุณจะมาถึงล่ะฮะหลังจากที่ดงเฮพูด ก็ทำให้เขาต้องถลึงตาใส่ร่างเล็กทันที

    อย่าพูดแบบนั้นสิ นายจะต้องอยู่...จำไว้ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนายนะคิบอมพูดก่อนที่จะลูบที่ผมของร่างเล็ก แล้วก้มลงจูบที่หน้าผากอย่างรักใคร่

    คุณต้องสัญญานะฮะ ว่าคุณจะกลับมาหาผม

    อืม...ฉันสัญญาจากนั้นคิบอมก็ได้เดินอกมาจากห้องของร่างเล็กนั้นอย่างคิดหนัก เพราะการไปในคราวนี้ เขาก็ไม่มั่นใจในตัวเองเหมือนกันว่าเขาะได้กลับมาอีกหรือไม่ แต่เพื่อเงินที่จะนำมายื้อชีวิตของร่างเล็กแล้ว ต่อให้ต้องปีนหน้าต่างออกจากบ้านมา เขาก็จะทำ

     

     

    .............................. You’re my endless love..............................

     

     

    คิบอมขับรถคู่ใจของตัวเองมายังบ้านหลังใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นคฤหาสน์ซะมากกว่า ท่ามกลางคนรับใช้ที่ส่งเสียงกันเซ็งแซ่เกี่ยวกับตัวเขา  แต่ร่างสูงก็ไม่สนใจ พร้อมกับเดินเข้ามาในบ้านด้วยท่าทีที่สง่าผ่าเผย

    แล้วเมื่อเขาเดินเข้ามาในบ้าน เขาก็พบกับพ่อของเขาที่นั่งสนทนาอยู่กับผู้ชายอีกคนที่คาดว่าน่าจะอายุน้อยกว่า พร้อมกันนั้นยังมีหญิงสาวอายุราวๆ 20 นั่งอยู่ทางขวามือของพ่อเขา

    คุณพ่อครับคิบอมพูดขึ้น ทำให้บทสนทนาภายในห้องนั้นเงียบลงทันที แล้วทุกคนก็หัยมามองเขาเป็นตาเดียว

    นี่ไงครับ...ลูกชายที่ผมพูดถึง มานั่งนี่สิลูกผู้เป็นพ่อพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอบอุ่น...แต่มันก็เป็นเพียงแค่หน้ากากเท่านั้นแหละ

    คิบอม นี่ท่านประธานมิน หุ้นส่วนของพ่อผู้เป็นพ่อแนะนำ

    สวัสดีครับ....คิบอมกล่าวทักทายด้วยความเคารพ

     

    ...นี่เหรอ...ลูกค้าคนสำคัญที่เป็นสาเหตุให้ฉันกับพ่อต้องทะเลาะกัน...

     

    แล้วนี่ก็หนูมิน ซุนจา...คู่หมั้นของแกผู้เป็นพ่อแนะนำหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ

    สวัสดีค่ะพี่คิบอมหญิงสาวทักทายด้วยความสุภาพ

     

    ...สวย...น่ารัก...ดูมีการศึกษา...แต่ไม่ใช่สเป๊กเลยซักนิด...

    ...รู้สึกว่าเธอจะดีใจเหลือเกินนะที่จะได้แต่งงาน...คงจะรอมานานแล้วล่ะสิท่า...

     

     

    ตกเย็น ทั้งสองครอบครัวก็ได้ร่วมรับประทานอาหารกันที่โต๊ะรับรอง

    คิบอม ตักกับข้าวให้น้องหน่อยสิลูก ผู้เป็นพ่อบอก ซึ่งคิบอมดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจมากนัก ในขณะที่ทางของซุนจานั้นดูจะดีใจซะเหลือเกิน

    ผมได้ขาวว่าลูกของคุณได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกาเหรอครับท่านประธานลี

    อ่อ...ใช่ครับ

    ทั้งสวย ทั้งเก่ง...คิดไม่ผิดจริงๆ ที่จะเอาหนูมาเป็นลูกสะใภ้ของบ้านนี้

    ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ หนูก็ไม่ถึงกับว่าเก่งเท่าไหร่หรอกซุนจาพูดเป็นเชิงถ่อมตัว

    เออ...คิบอม ลูกรู้รึเปล่าว่างานแต่งจะมีขึ้นในวันมะรืนนี้

    มะรืนนี้!” คิบอมพูดด้วยความตกใจ

    อืม...มีอะไรรึเปล่าผู้เป็นพ่อถาม

    ไม่มีครับคิบอมพูดก่อนที่จะก้มลงกินอาหารต่อ

     

    ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ที่แสนจะคุ้นเคย แต่ไม่มีความสุขเลยสำหรับเขา ร่างสูงนั่งอยู่ที่ข้างหน้าต่าง พร้อมกับคิดเกี่ยวกับเรื่องหลังมื้ออาหารเย็นระหว่างเขากับพ่อ

     

    หลังจากที่คิบอมกินอาหารเสร็จ เขาก็ได้แยกตัวออกมา แต่ทว่าพ่อของเขาที่เดินตามมาด้วยก็ได้เรียกเขาไว้

    คิม คิบอมร่างสูงหันไปตามเสียงเรียก หึ...ในที่สุดแกก็ยอมทำตามฉันจนได้

    ที่ผมทำเพราะผมต้องการเงินไปรักษาคน ไม่ใช่ความเต็มใจ...หวังว่าคุณพ่อคงจะไม่ลืมสัญญาหรอกนะครับ

    เงิน 100 ล้านวอนใช่มั๊ยล่ะ...แน่นอน ฉันไม่ลืมหรอก...แต่ว่าในระหว่างที่เตรียม ฉันจะไม่อนุญาตให้นายออกไปข้างนอก นอกจากที่ฉันสั่ง

    หมายความว่า....

    หมายความว่าแกจะต้องถูกกักบริเวณจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน

    แต่...

    ถ้าแกอยากได้เงิน 100 ล้านวอนอยู่ล่ะก็ แกทำตามคำสั่งฉันจะดีกว่าหลังจากนั้น พ่อของเขาก็ได้เดินไป

     

    ...หมายความว่า ต่อจากนี้เราก็จะไม่ได้ออกไปข้างนอกอีก...

    ...แล้วดงเฮล่ะ...ดงเฮคงจะใจไม่ดีแน่ๆ ที่ฉันไม่กลับไปหาเขา...

     

    เฮ้อ!!” ร่างสูงถอนหายใจอย่างแรงกับเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น มันเกิดขึ้นเพียงเพราะว่าพ่อของเขาเป็นคนโลภ อยากมีหน้ามีตา ต้องการให้คนอื่นยกย่อง โดยที่ไม่เคยถามว่า คนที่โดนลากมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการสานสัมพันธ์นั้นเต็มใจที่จะทำรึเปล่า

    จากนั้น ร่างสูงก็นึกถึงดงเฮขึ้นมา เขาจึงได้หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา เพื่อที่จะติดต่อคนที่อยู่ใกล้ๆ กับดงเฮ...นั่นก็คือเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลนั่นเอง

    สวัสดีครับ ผมอยากจะทราบว่า คนไข้ที่อยู่ห้อง 389 ชั้น 5 ชื่อลี ดงเฮซึงอาการเป็นยังไงบ้างเหรอครับ

    รอซักครู่นะคะ......................จากนั้น เจ้าหน้าที่ก็หายไปซักพักก่อนที่จะเดินเข้ามาพูดสายต่อ

    หลังจากที่ทานยาระงับไปเมื่อซักครู่ ตอนนี้คนไข้หลับไปแล้วค่ะ

    ครับ ขอบคุณนะครับจากนั้นคิบอมก็วางสายไป

     

    ...อย่างน้อยแค่รู้ว่าดงเฮยังไม่เป็นอะไรก็ดีใจแล้ว...

     

    ************************

     
    ในที่สุดคิบอมก็ทำตามข้อเสนอของพ่อเพื่อที่จะได้นำเงินมารักษาดงเฮ


    แต่ว่าตอนนี้ดงเฮก็อาการไม่ค่อยดีเลย แล้วจะเป็นยังไงบ้างล่ะเนี่ย


    อย่าลืมติดตามกันนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×