คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : You're my endless love [6]
6
ภายในห้องสีขาวสะอาด คิบอมเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้าก่อนจะนั่งลงข้างๆ ร่างเล็กที่ตอนนี้ยังไม่ได้สติ มือหนาเอื้อมมือไปจับมือเล็กยกขึ้นมา พร้อมกับจับไว้แน่น
“นายคงจะทรมานมากสินะ...ฉันขอโทษที่ไม่ได้บอกว่านายต้องมาโดนอะไรที่ทรมานแบบนี้...นายคงจะเกลียดฉันมากแน่ๆ เลยใช่มั๊ยดงเฮ” ร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่น แต่เขาก็พยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา
“ดงเฮ...ชั้นรู้ว่านายเจ็บปวดขนาดไหน เพราะแค่นายร้องไห้ออกมา ฉันก็เจ็บมากกว่านายหลายเท่า...ฉันขอโทษดงเฮ ฉันขอโทษ” คิบอมพูดก่อนที่จะจรดจมูกฝังลงที่มือเล็ก ก่อนที่หลับไปข้างๆ คนตัวเล็กนั้น
1.03pm
หลังจากผ่านไปเป็นเวลานานพอสมควร ร่างเล็กที่อยู่บนเตียงก็ได้ลืมตาขึ้นมา พร้อมกับความเจ็บปวดที่สะโพก
...ในที่สุดมันก็ผ่านไป...
แต่เมื่อเขาจะยกมือข้างขวาของตัวเองขึ้นมา ทำให้เขาปรากฏเห็นร่างสูงนอนจับมือเขาไว้ ทำให้ร่างเล็กอดยิ้มไม่ได้
“คุณคิบอมฮะ...คุณคิบอม” ดงเฮเรียกร่างสูงด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แต่มันก็ดังพอที่จะทำให้ร่างสูงตื่นได้
“ดะ...ดงเฮ นายตื่นแล้วดงเฮ เป็นยังไงบ้าง” ทันทีที่ร่างสูงตื่นขึ้นมา เขาก็ได้ถามอาการร่างเล็กทันที
“ผมเจ็บฮะ เจ็บมากๆ เหมือนตัวเองโดนฉีกออกเป็นชิ้นๆ เลย” ดงเฮอธิบายถึงความเจ็บปวด
“ฉันขอโทษนะ...ที่ไม่ได้บอกว่านายจะต้องมาโดนเจาะไขกระดูกแบบนี้...”
“งั้นก็แสดงว่าคุณรู้ก่อนหน้านี้ล่ะสิฮะว่าผมจะต้องมาโดนเจาะไขกระดูก”
“..................”
“คุณก็ต้องรู้ดีใช่มั๊ยฮะว่าผมเป็นอะไร........”
“ก็แค่ร่างกายไม่แข็งแรงธรรมดา”
“ถ้าเกิดผมแค่ร่างกายไม่แข็งแรง...ทำไมเขาต้องเจาะเอาเลือดผมไปเยอะขนาดนั้นด้วยล่ะฮะ ตกลงผมเป็นอะไรกันแน่”
คิบอมเห็นว่าร่างเล็กดูเครียดขึ้น เพราะอยากรู้ว่าตนนั้นเป็นอะไร ร่างสูงจึงได้เขาไปกอดก่อนที่จะพูดขึ้น
“นายไม่ต้องรู้หรอกว่านายเป็นอะไร...ขอให้นายรู้แค่อย่างเดียวว่า ต่อนี้ไปนายจะปลอดภัย และจะมีฉันอยู่ข้างๆ...”
...จนวันสุดท้าย...
“แต่ผมอยากรู้นี่ฮะว่าผมเป็นอะไร” ดงเฮพูดก่อนที่ผละจากอ้อมกอด
“นายอย่าคิดมากเลย...นายไม่เป็นอะไรหรอก ยิ่งคิดมากก็ยิ่งเครียด เดี๋ยวแก่เร็วนะจะบอกให้” คิบอมพูดพร้อมกับจับที่แก้มของดงเฮ
.............................. You’re my endless love..............................
หลายวันผ่านไป อาการปวดบริเวณสะโพกของดงเฮที่เกิดจากการเจาะไขกระดูกนั้นก็เริ่มดีขึ้น เพราะการดูแลจากคิบอม ทำให้อาการของเขาฟื้นเร็วจนสามารถเคลื่อนไหวได้ค่อนข้างเป็นอิสระ
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่คิบอมพาดงเฮออกมากินข้าวข้างนอกห้องพัก เพื่อเป็นการทำให้ร่างเล็กลืมเรื่องอาการป่วยของตัวเองและคิดถึงเรื่องอื่นแทน
“ดงเฮ...ฉันมีเรื่องอะไรอยากจะถาม”
“อะไรเหรอฮะ” ดงเฮถามในขณะที่กำลังเอร็ดอร่อยกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า
“วันเกิดนายวันไหนเหรอ..” หลังจากที่ร่างสูงพูดจบ ดงเฮนิ่งไปซักพักก่อนจะพูดขึ้น
“ผมไม่รู้หรอกฮะ...รู้แต่ว่างานวันเกิดครั้งสุดท้ายของผมคือตอนที่ผมอายุ 6 ขวบ น้าลี ยูจินจัดวันเกิดให้ผมตอนเข้าสู่ฤดูหนาวแรก ผมจำได้แค่นั้นแหละฮะ”
“งั้นเหรอ...” คิบอมพูดก่อนที่จะเงียบไปแล้วพูดต่อ
“ไหนๆ นี่ก็ใกล้จะเข้าฤดูหนาวแล้ว.......สุขสันต์วันเกิดนะ” คิบอมพูดก่อนที่จะยื่นกล่องเล็กๆ สีฟ้าให้กับดงเฮ
“ของผม...เหรอฮะ” ดงเฮถามอย่างไม่เชื่อ
“อืม...ของนาย”
“ขอบคุณฮะ” ดงเฮรับมาก่อนจะพูดขอบคุณ
“เปิดดูสิ” คิบอมพูดเพื่อให้ดงเฮเปิดกล่องของขวัญ ซึ่งดงเฮก็ได้รีบเปิดทันที
“ว้าว!สวยจัง” แล้วเมื่อเปิดกล่องออก ก็พบว่าข้างในกล่องนั้นเป็นสร้อยยาวประมาณกลางหน้าอก มีจี้เป็นจี้คริสตัลรูปหัวใจที่คล้องกันอยู่ จากนั้นดงเฮก็ได้สวมสร้อยเส้นนั้นทันที
“นายต้องเก็บรักษาสร้อยเส้นนี้ไว้ให้ดีนะ เพราะหัวใจสองดวงที่อยู่บนสร้อยนั้น ดวงหนึ่งเป็นของนาย อีกดวงหนึ่ง...เป็นของฉัน”
“ตกลงฮะ ผมจะรักษามันให้ดีที่สุด ผมจะไม่ถอดมันออกเลย” ดงเฮพูดก่อนจะยิ้มจนเห็นฟันเรียงสวย
!PRRRRRRRRRRR!!
“เดี๋ยวฉันไปคุยโทรศัพท์ก่อนนะ” คิบอมขออนุญาตดงเฮก่อนที่จะเดินออกไปคุยโทรศัพท์ที่หน้าร้าน
เวลาผ่านไปนานพอสมควร ร่างสูงเดินมาพร้อมด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีมากเท่าไหร่นัก ดงเฮเป็นกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นกับร่างสูงอีก จึงได้ถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณคิบอม......มีอะไรรึเปล่าฮะ”
“ไม่มีอะไรหรอก”
“แต่ว่าหน้าคุณดูไม่ค่อยดีเลยนะฮะ”
“ไม่มีอะไรนี่...กินต่อเถอะ” คิบอมพูดก่อนที่จะพูดเบี่ยงให้ร่างเล็กกินข้าวต่อ
...แต่คิดเหรอ ว่ามันจะไม่มีอะไร...
5 นาทีก่อน
ร่างสูงเดินออกมาที่หน้าร้านอาหารก่อนที่จะยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูว่าใครเป็นคนโทรมา
...มีแต่เบอร์ ไม่มีชื่อ...ใครกันนะ...
“สวัสดีครับ”
“.............” ไม่มีเสียงตอบจากปลายสาย
“สวัสดีครับ ได้ยินผมมั๊ยครับ”
“............” เช่นเดิม
“สวัสดีครับ”
“.......นี่แกยังมีชีวิตอยู่เหรอเนี่ย ดีใจจังเลย” เสียงทุ้มใหญ่แต่เยือกเข็นดังขึ้นหลังจากที่ร่างสูงทักอยู่นาน ซึ่งเสียงนี้ทำให้ร่างสูงถึงกับตกใจ เพราะคนที่โทรมาหาเขานั้นเป็นคนที่เขารู้จักเป็นอย่างดี
“คุณพ่อ...”
“ทำไม...ถึงกับตกใจเลยเหรอ”
“.................”
“ว่าแต่หนีไปได้ไกลขนาดไหนล่ะ...ต่างจังหวัด...หรือว่าต่างประเทศ”
“คุณพ่อมีอะไรกับผมครับ” คิบอมพูดเสียงเรียบ
“อะไรกัน...นี่ฉันเป็นพ่อแกนะ ทำยังกะฉันเป็นคนอื่นไปได้”
“ถ้าคุณพ่อโทรมาเพื่อจะมาเยาะเย้ยผม ผมจะวางสายแล้วนะครับ” คิบอมพูดก่อนที่จะทำท่าวางสาย
“ตอนนี้เงินในบัญชีแกใกล้จะหมดแล้วนะ”
“...............” ทันทีที่ได้ยินสิ่งที่พ่อของเขาพูด ทำให้เขาต้องหยุดความคิดที่จะวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะยกหูขึ้นมาฟังอีกครั้ง
“ตอนแรกเงินในบัญชียังเยอะอยู่ไม่ใช่เหรอ...นี่แค่เดือนกว่าๆ ทำไมเงินถึงหายไปเป็นสิบๆ ล้านเลยล่ะ”
...นี่พ่อของฉันแอบดูการใช้เงินของฉันตลอดเลยเหรอ...
...น่าแปลก...นี่เราหนีออกมาจากบ้านขนาดนี้ ทำไม่คุณพ่อถึงยังให้เราใช้เงินได้อยู่ล่ะ...
“ตกใจล่ะสิ ว่าทำไมฉันถึงไม่อาญัติบัตรของแก ทั้งๆ ที่แกหนีออกจากบ้านไปแล้ว”
“......................”
“เพราะฉันอยากจะรู้ ว่าแกจะใช้เงินหมดตอนไหน”
“.....................”
“แล้วเมื่อถึงวันนั้น แกก็จะกลับมาคุกเข่าขอร้องฉันยังไงล่ะ”
“ไม่มีทาง...” คิบอมพูดเสียงเรียบ
“แน่ใจเหรอ...อีกไม่นานเงินแกก็จะหมดแล้วนะ”
“ที่เงินผมหายไปเพราะผมเอาไปรักษาคน ไม่เหมือนคุณพ่อ ที่เงินหายไปเพราะเอาไปยัดใต้โต๊ะหมด” หลังจากที่คิบอมพูด ดูเหมือนปลายสายจะเดือดเล็กน้อย แต่เขาก็พยายามอดทนไว้
“เอาล่ะ...แกยังไม่อยากได้เงินในตอนนี้ก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าวันใดวันหนึ่งคนที่แกกำลังรักษาอยู่เกิดต้องใช้เงินก้อนสุดท้ายเพื่อยื้อชีวิต แต่ปรากฏว่าเงินได้หมดไปแล้ว คงจะน่าเสียดายน่าดู...”
“............................”
“และยิ่งถ้าเป็นคนที่แกรัก แกจะยอมให้คนที่แกรักตายไปต่อหน้าต่อตา ทั้งๆ ที่แกยังมีทางได้เงินมาอีกก้อนเพื่อรักษาเขา...อย่างงั้นเหรอ” ผู้เป็นพ่อถามเป็นเชิงให้ร่างสูงคิดดีๆ
...คนที่ฉันรัก...ดงเฮ...
“แล้วผมต้องทำยังไง”
“สนใจแล้วล่ะสิ...ก็ไม่มีอะไรมากหรอก ก็แค่ทำตามที่ฉันบอก”
“.....................”
“ถ้าแกยอมแต่งงานกับหนูมิน ซุนจา...ฉันจะยกเงิน 100 ล้านวอนให้แก”
“แต่งงาน...”
“ใช่...แค่แต่งงานเท่านั้น แกก็จะได้เงิน 100 ล้านวอนมาใช้อย่างง่ายดายเลยล่ะ”
“ผมรู้ว่าคนอย่างคุณพ่อฉลาดพอ คุณพ่อของจะไม่ยกเงินให้ผมง่ายๆ แน่...หรือถ้ายกเงินให้ ผมก็คงต้องถูกกักบริเวณให้อยู่ในบ้าน ถูกล่ามโซ่แล้วก็ทำตามคำสั่งของเจ้านายมันอีกตามเคย...”
“แล้วแกจะเสียใจ...” ผู้เป็นพ่อพูดก่อนที่จะวางสายไป
...ให้เราแต่งงานกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้...คงเป็นเพราะเรื่องธุรกิจอีกตามเคย...
...คุณพ่อนะคุณพ่อ...ทำไมถึงไม่เลิกนิสัยแบบนี้ซักทีนะ...
...ยังไงก็แล้วแต่...ฉันจะต้องดูแลนายดงเฮ...ฉันจะอยู่กับนาย...
.............................. You’re my endless love..............................
ณ ห้องพัก
“คุณคิบอมกลับมาเหนื่อยๆ ไปอาบน้ำก่อนเถอะฮะ”
“นายไม่ไปอาบก่อนล่ะ”
“คุณให้ผมอาบก่อนมาตลอด คราวนี้ผมให้คุณอาบก่อนบ้างนะครับ”
“อือ...ก็ได้” หลังจากนั้น ร่างสูงก็ได้เดินเข้าห้องน้ำไป โดยที่ดงเฮนั้นนั่งรออยู่บนเตียง
...ดีจังที่ผมได้รู้จักคุณ...ผมดีใจที่ผมได้มาเจอคุณ...
...ต้องขอบคุณคนบ้านนั้นที่ทิ้งผม...
หลังจากที่คิดอะไรไปได้ซักพัก ดูเหมือนว่าสายตาของเขาจะเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่มันดูสะดุดตา...
...กระเป๋าของคิบอม...
กระเป๋าของร่างสูงที่วางบนโต๊ะอย่างไม่เป็นระเบียบ ส่งผลให้ของที่อยู่ในกระเป๋าต่างออกมานอกกระเป๋าเพราะไม่ได้รูดซิบปิด ทำให้ดงเฮหวังดีเดินมาเพื่อที่จะเก็บของเข้าไปในกระเป๋าและรูดซิบปิด
“คุณคิบอมนี่ จะว่าไปก็ไม่ได้เพอร์เฟกต์ไปซะทุกอย่างนะเนี่ย” ดงเฮพูด ก่อนที่จะหยิบของเข้าไปในกระเป๋า
แต่ทว่า เขากลับไปเจอกับซองสีขาวขนาดใหญ่ซองหนึ่ง ด้วยความที่เขาอยากรู้เขาจึงได้หยิบขึ้นมา แล้วพบว่าข้างหน้าซองนั้นมีชื่อของเขาอยู่ด้วย
...คุณคิบอมเซอร์ไพรส์อะไรเราอีกเนี่ย...
ดงเฮไม่รอช้ารีบเปิดซองนั้นออกเพื่อดูว่าข้างในมีอะไร...แล้วเมื่อเขาอ่านสิ่งที่อยู่ภายในกระดาษนั้น ทำให้เขาถึงกับช๊อคไปในทันที
...เราต้องฝัน...ฝันไปแน่ๆ นี่มันเป็นความฝันใช่มั๊ย...
...นี่เรา...เป็นลูคีเมียงั้นเหรอ...
ร่างเล็กปล่อยแผ่นกระดาษให้ปลิวลงไปบนพื้นอย่างหมดแรง ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมาจากดวงตาคู่สวย เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าโรคนี้จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
“อ้อ!!ดงเฮ นายเห็นสบู่ที่วางอยู่บนโต๊ะหรือเปล่า....” คิบอมเดินออกมาพร้อมกับชุดทุกอย่างที่ยังอยู่บนตัวครบ เพราะเขาลืมสบู่จึงได้ออกมาถามร่างเล็กที่อยู่ข้างนอก
แต่แล้วเงาก็ต้องชะงักไป เมื่อร่างเล็กมีอาการเงียบและไม่ตอบคำถามใดๆ...แล้วร่างสูงก็รู้สาเหตุเมื่อเขามองลงไปที่พื้น ใบผลการตรวจนั้นเป็นสิ่งบ่งบอกว่า ร่างเล็กรู้เรื่องทั้งหมดแล้ว
“ดงเฮ คือ....” คิบอมเดินเข้าไปหาดงเฮเพื่อที่จะอธิบาย
“คุณทำไมต้องปิดผมด้วยว่าผมเป็นลูคีเมีย”
“คือฉัน.....”
“คุณทำแบบนี้ทำไมฮะ!”
“ฉันแค่อยากให้นายสบายใจ จะได้ไม่ต้องคิดมาก...”
“แล้วต่อจากนั้นก็ตายไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร...ใช่มั๊ยฮะ” ดงเฮหันมาพูดกับคิบอมด้วยน้ำตาที่ไหลออกมาเต็มใบหน้า พร้อมกับแววตาที่เต็มไปด้วยความน้อยใจส่งไปหาร่างสูง
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะดงเฮ ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลยนะ” คิบอมพูดก่อนที่จะจับร่างเล็กให้หันหน้าเข้ามาตนเอง
“แล้วทำไมคุณถึงไม่บอกผมล่ะฮะ” ดงเฮถามด้วยน้ำเสียงสั่น
“ฉันกลัวว่านายรู้แล้วจะหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป ฉันกลัวว่านายจะรับไม่ได้ ฉันกลัวนายคิดมาก...ที่ฉันทำไปก็เพื่อตัวนายนะดงเฮ”
“แต่คุณก็น่าจะบอกผมสิฮะ เพราะอย่างน้อยในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ผมก็จะได้ทำให้สิ่งที่ผมอยากทำ ดีกว่าที่ผมไม่รู้เรื่องอะไร แล้วจู่ๆ ก็ตายโดยที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำเลย”
“ดงเฮ ฉันขอโทษ” คิบอมพูดก่อนที่จะดึงร่างเล็กมากอดเอาไว้แน่น ก่อนที่จะปล่อยน้ำตาลูกผู้ชายออกมา
“เมื่อนายรู้แล้วนายต้องเข้มแข็งรู้มั๊ย...อย่าให้มันมาทำให้นายหมดกำลังใจ นายต้องสู้กับมัน แล้วฉันจะอยู่เคียงข้างนายเอง”
“ฮะ...ขอบคุณนะฮะ” ดงเฮพูดก่อนที่จะปล่อยน้ำตาออกมาโดยที่ตนนั้นยังอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง
...อีกไม่นานเราก็ต้องตาย แต่อย่างน้อยเราก็โชคดีที่ได้มาเจอคนดีๆ แบบนี้...
...คิม คิบอม.......จะเป็นชื่อที่เราจะไม่มีวันลืม...
*************************
เอาล่ะสิ หมวยรู้ความจริงแล้ว
ว่าแต่ว่า คิบอมจะแต่งงานตามที่พ่อบอกมั๊ย
ติดตามกันในตอนหน้านะจ๊ะ
ความคิดเห็น