คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : You're my endless love [5]
5
เมื่อกลับมาถึงห้องพักแล้ว ทั้งคู่ก็ได้อาบน้ำ แล้วกินอาหารเย็นร่วมกัน...หลังจากนั้น ทั้งคู่ก็ได้นั่งคุยอะไรกันไปเรื่อย
!!ซ่า!!!!!
“ฝนตกแรงจังเลยนะฮะ” ดงเฮพูดขณะที่นั่งเล่นอยู่บนเตียง
“นั่นน่ะสิ...ดีนะที่เรากลับมาก่อนที่มันจะตกแรงขนาดนี้” คิบอมพูดในขณะที่นั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ร่างเล็ก
หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ต่างคนต่างเงียบ จนกระทั่งดงเฮได้ให้ความสนใจกับหนังสือที่ร่างสูงอ่านอยู่ จึงได้ถามขึ้น
“คุณอ่านอะไรเหรอฮะ”
“หนังสือรุ่นตั้งแต่สมัยที่ฉันอยู่ชั้นมัธยมโน่นแน่ะ พอดีฉันเห็นมันตกอยู่ที่เบาะหลังรถเลยเก็บมา”
“เหรอฮะ” ดงเฮพูดก่อนที่จะมองดูด้วยความสนใจ
“นายอยากดูเหรอ...”
“เปล่าฮะ ผมก็แค่กำลังมองดูว่าคนไหนคือคุณ”
“หน้านี้ไม่มีฉันหรอก” คิบอมพูด ก่อนที่จะพลิกไปอีกประมาณ 5-6 เพื่อให้ร่างเล็กดู
“ฉันจะให้นายลองทายดู...ว่าคนไหนคือฉัน” คิบอมพูด พร้อมกับส่งหนังสือรุ่นเล่มหนาไปให้ดงเฮ ซึ่งดงเฮก็ได้เขยิบเข้าไปหาร่างสูง แล้วรับหนังสือมาดูทันที
“โห!นั่งเรียงกันเยอะขนาดนี้ ผมจะรู้มั๊ยฮะ ว่าคุณคือคนไหน” ดงเฮบ่น ทำให้คิบอมหัวเราะเล็กน้อยก่อนที่จะพลิกไปอีกหน้า
“อ่ะ!!อันนี้เป็นรูปรวมนักเรียนชายล้วน...พอดูออกบ้างรึยัง” หลังจากที่คิบอมพูด ดงเฮก็ได้เพ่งสายตาไปที่หน้าของหนังสือ แล้วเริ่มกวาดสายตาหาคิบอมในรูปทันที
“นักเรียนสมัยก่อนนี่หน้าตาคล้ายๆ กันทั้งนั้นเลยนะฮะ..”
“ถึงกับใช้คำว่าสมัยก่อนเลยเหรอ...ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้นซักหน่อย” คิบอมบ่นอย่างแอบเคือง
“ฮิฮิ...ขอโทษฮะ!” ดงเฮขอโทษ ก่อนที่จะหารูปที่คิดว่าเป็นร่างสูงต่อ
“อืม............ผมเดาว่าเป็นคนนี้แล้วกันฮะ...” ดงเฮชี้ไปที่รูปผู้ชายที่ยืนคนที่ 13 แถวล่างสุดนับจากทางขวา ซึ่งคนที่ ดงเฮชี้นั้นมีรูปร่างสูงพอสมควร ใบหน้าสวมแว่นบ่งบอกถึงความฉลาด บวกกับการแต่งตัวที่ดูดีมีชาติตระกูล...ซึ่งเขามั่นใจว่าเป็นร่างสูงแน่ๆ
“คนนี้เหรอ.............ไม่ใช่ฉันหรอก” หลังจากที่คิบอมเฉลย ดูเหมือนว่าดงเฮจะงงเล็กน้อยว่าคนที่เขาเดานั้นไม่ใช่ร่างสูง
“แล้ว...คุณคือคนไหนล่ะฮะ...”
“คนนี้ต่างหาก” คิบอมพูดพร้อมกับชี้ไปที่เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่อันดับที่ 2 แถวล่างสุดนับจากทางซ้าย ซึ่งนั่นมันทำให้ดงเฮถึงกับต้องแสดงสีหน้าด้วยความไม่หน้าเชื่อทันที
ร่างสูงที่มีรูปร่างสูง ใบหน้ามีปลาสเตอร์ยาติดที่หางคิ้ว มุมปากและเบ้าตาทางซ้ายช้ำเล็กน้อยดูเหมือนถูกชก มิหนำซ้ำ ชายของเสื้อนั้นก็ได้หลุดลุ่ยออกมาจากกางเกง ทำให้ดูเหมือนนักเลงก็ว่าได้
“คุณอย่ามาล้อเล่นสิฮะ ผมไม่เชื่อหรอกว่านั่นจะคือคุณ”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูรายชื่อด้านล่างสิ” หลังจากนั้น ดงเฮก็ได้ดูรายชื่อนักเรียนแถวที่ 1 คนที่ 2 ทันที...แล้วมันก็ทำให้เขาตกใจอีกรอบ เมื่อชื่อที่เขาอ่านนั้นคือชื่อ ‘คิม คิบอม’
“คิม คิบอม...”
“อืม”
“นี่คุณจริงๆ เหรอฮะเนี่ย”
“ก็ใช่น่ะสิ.”
“ว่าแต่...ทำไมในรูป หน้าของคุณถึงได้มีรอยฟกช้ำอย่างนั้นล่ะฮะ”
“เมื่อก่อนฉันเป็นเด็กที่ไม่ค่อยตั้งใจเรียนซักเท่าไหร่ โดดเรียนเป็นประจำเกือบทุกวัน แถมยังตั้งแก๊งเป็นของตัวเองอีก...นายรู้มั๊ย ว่าฉันเป็นหัวหน้าของแก๊งด้วยนะ”
“จริงเหรอฮะ” ดงเฮอุทานด้วยความไม่น่าเชื่อ
“แล้วก่อนที่จะถ่ายรูปนี้ฉันก็ได้ไปมีเรื่องกับนักเรียนช่างกลโยธา ทำให้รูปมันออกมาอย่างที่เห็นเนี่ยแหละ”
“ถ้าเป็นไปได้ ผมก็อยากจะมีโอกาสได้สัมผัสชีวิตภายในรั้วโรงเรียนมัธยมแบบคุณจัง”
“นายไม่ได้เรียนหนังสือเหรอ”
“ผมเคยเรียนชั้นอนุบาลมาบ้างในตอนที่คุณน้ายัง ยูจินยังมีชีวิตอยู่ฮะ...แต่หลังจากที่ท่านเสียชีวิต ผมก็ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออีกเลย”
“หมายความว่า คนบ้านนั้นไม่ได้ส่งนายเรียนเลยเหรอ”
“.....ใช่ฮะ...” ร่างเล็กตอบด้วยสีหน้าเศร้า
...น่าสงสารดงเฮเป็นบ้า ทำไมคนบ้านนั้นถึงได้ใจร้ายกับนายขนาดนี้นะ...
“แล้วทำไม...คุณถึงได้กลับตัวกลับใจได้ล่ะฮะ” ดงเฮถามคิบอม
“ในตอนนั้นพ่อของฉันได้ทำการติดต่อค้าขายกับลูกค้าที่อยู่ต่างประเทศ แล้วยิ่งกิจการก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร่ คนก็จะต้องรู้จักพ่อของฉันมากขึ้น ส่งผลให้ลูกค้าของคุณพ่อพลอยรู้จักฉันไปด้วย...เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีของขอบครัว คุณพ่อก็เลยขอร้องให้ฉันเปลี่ยนแปลงตัวเองจนมาถึงทุกวันนี้”
“แล้วการที่ต้องทำอะไรที่ฝืนใจตัวเองมาตลอด ทำให้คุณทนไม่ไหวจนต้องหนีออกมาจากบ้านใช่มั๊ยฮะ”
“อืม...ถูกต้องแล้วล่ะ”
!!!เปรี้ยง!!!!
!!วูบ!!
จู่ๆ เสียงฟ้าผ่าก็ดังขึ้น พร้อมกันนั้น ไฟภายในห้องก็ได้ดับลงด้วยเช่นกัน ทำให้ตอนนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มือไปซะหมด
“คุณคิบอมฮะ!!!!” ดงเฮรีบกระโดดเข้าไปหาคิบอมทันที
“ดงเฮ ใจเย็นๆ ไม่ต้องกลัวนะ”
“ผมกลัวความมืด...”
“โอเค ฉันจะไม่ไปไหน จะอยู่กับนายอย่างนี้เนี่ยแหละ”
“จริงๆ นะฮะ”
“อืม...จะให้ฉันกอดนายไปอย่างนี้ทั้งคืนก็ได้นะ” คิบอมพูดก่อนที่จะกระชับวงแขนให้กอดร่างเล็กได้แน่นขึ้นไปอีก
“ขอบคุณฮะ” ดงเฮพูดในขณะที่ตนอยู่ในอ้อมกอดของร่างสูง
...เป็นครั้งแรกที่เราได้รับความอบอุ่นอย่างแท้จริงๆ...
...อยากให้เป็นอย่างนี้ไปนานๆ จัง...
ด้วยบรรยากาศภายในห้องที่เย็นสบายเนื่องจากฝนตกลงมา ทำให้ร่างเล็กค่อยๆ ปรือตาลงจนหลับไปในในอ้อมแขนของร่างสูงจนถึงเช้า...
.............................. You’re my endless love..............................
1 เดือนถัดมา
...วันนี้แล้วสินะ...ที่มันจะเป็นวันที่แสนทรมารที่สุดของดงเฮ...
...ฉันไม่อยากจะเห็นภาพนั้นเลยจริงๆ...
ร่างสูงยืนอยู่หน้ากระจก พลางจัดเสื้อที่สวมใส่อยู่ให้เรียบร้อย ภายในหัวสมองเขานั้นคิดแต่เรื่องของอนาคตที่จะเกิดขึ้น...เพราะวันนี้เป็นวันที่เขาจะต้องพาดงเฮไปเจาะไขกระดูก ซึ่งการเจาะไขกระดูกนั้นมันเป็นอะไรที่ดูร้ายมาก เข็มใหญ่ๆ ยาวเกือบ 10 นิ้วเจาะเขาไปที่สะโพกเพื่อดูดเอาของเหลวสีแดงสดในปริมาณมากขึ้นมาตรวจ แค่คิดมันก็ทำให้เขาเข่าอ่อนขึ้นมาทันที
...แล้วดงเฮจะทนได้มั๊ยนะ...
“คุณคิบอมฮะ!” ร่างเล็กเรียกด้วยน้ำเสียงสดใส ทำให้ร่างสูงหลุดพ้นจากพวังค์แล้วหันมาหาร่างเล็ก
“เรียบร้อยแล้วเหรอ”
“ฮะ...”
“ถ้าเสร็จแล้วก็ไปกันเถอะ เดี๋ยวคนจะเยอะ” หลังจากที่พูดจบ ทั้งคู่ก็ได้พากันเดินออกจากห้องมายังรถคันหรูสีดำสนิท ก่อนที่จะมุ่งตรงไปที่โรงพยาบาล
ณ โรงพยาบาล
ดงเฮและคิบอมนั่งรอหลังจากที่เข้าไปตรวจร่างกายในห้องตรวจมาเรียบร้อยแล้ว
“คุณคิบอมฮะ...ทำไมคุณถึงพาผมมาที่โรงพยาบาลอีกล่ะฮะ” ดงเฮถาม เพราะเขายังคงข้องใจว่าเรื่องอะไร ทำไมเขายังต้องได้รับการตรวจอีก
“นายจะต้องตรวจสุขภาพทุกเดือน ร่างกายนายจะได้แข็งแรงไง” คิบอมพูดพร้อมกับส่งสายตาอันบอุ่นไปให้
...ถ้าใบหน้านี้แสดงออกถึงความเจ็บปวดออกมา...หัวใจฉันคงจะเจ็บปวดยิ่งกว่าเป็นร้อยเท่าแน่ๆ...
“เชิญคุณลี ดงเฮค่ะ” ผู้ช่วยพยาบาลเรียกชื่อร่างเล็กที่นั่งอยู่ข้างหน้าห้อง
!!ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก!!!
ทันทีที่ผู้ช่วยพยาบาลเรียกชื่อร่างเล็กเท่านั้น หัวใจของร่างสูงก็ดูเหมือนจะเต้นเร็วขึ้นราวกับว่าเขาเป็นคนถูกเรียกให้ไปเจาะไขกระดูกเองอย่างนั้น ในขณะที่ดงเฮนั้นยังคงสีหน้าเรียบเฉยไม่มีความรู้สึกกลัวอะไร...ก็เพราะเขายังไม่รู้น่ะสิ ว่าจะต้องเจออะไรต่อไปนี้
“เดี๋ยวให้คนไข้ไปนอนรอบนเตียงตรวจนะคะ” ผู้ช่วยพยาบาลพูดขึ้น
“ผม...ขอเข้าไปอยู่ข้างในได้มั๊ยครับ” จู่ๆ คิบอมก็พูดขึ้น ทำให้ดงเฮหันมามองด้วยความสงสัย
“ทำไมเหรอฮะ”
“เอ่อ...ฉันอยากเข้าไปอยู่เป็นเพื่อนนายน่ะ”
“ฉันคงอนุญาตให้คุณเข้าไปไม่ได้นะคะ....”
“แต่...”
“คุณหมออยู่ข้างในแล้ว เชิญค่ะ” นางพยาบาลอีกคนเดินออกมาจากห้องก่อนที่จะเรียกให้เข้าไปในห้อง
“ผมไปก่อนฮะ...” ดงเฮโค้งให้หนึ่งทีก่อนที่จะเดินตามนางพยาบาลไป
“เดี๋ยวดงเฮ!”
“เข้าไปไม่ได้นะคะ...ขอให้ญาติรออยู่ข้างนอกนะคะ” คิบอมที่กำลังจะเดินตามเข้าไป เขาก็ต้องถูกผู้ช่วยพยาบาลกันไว้ไม่ให้เข้า ทำให้ตอนนี้เขามองฮยอนซึงได้แค่ที่หน้าประตูเท่านั้น
“คุณพยาบาลครับ...ฉีดยาชา หรือโปะยาสลบให้คนไข้ไม่ได้เหรอครับ” คิบอมถามออกไป
“ไม่เคยมีคนไข้คนไหนที่เป็นลูคีเมียแล้วต้องใช้ยาชาหรือยาสลบหรอกนะคะ” ผู้ช่วยพยาบาลสาวพูดก่อนที่จะเดินออกไป
คิบอมมองดูดงเฮซึงที่ขึ้นนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย ในขณะเดียวกัน นางพยาบาลก็ได้นำผ้าสีเขียวมาคลุมไว้ ก่อนที่หมอเจ้าของไข้จะหยิบเข็มที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา ทันทีที่ดงเฮเห็น ทำให้เขาถึงกับตาเบิกค้างก่อนที่จะพยายามดิ้นและพยายามจะถามว่าเอามาทำอะไร
คิบอมมองร่างเล็กที่มีท่าทางหวาดกลัวด้วยท่าทางกระวนกระวาย เขาอยากจะเข้าไปข้างใน อยากจะไปนั่งอยู่ข้างๆ เพราะอย่างน้อยมันอาจจะทำให้ดงเฮดูสงบ หรือดูอุ่นใจมากขึ้นเมื่อมีเขา
เข็มเล่มใหญ่ถูกเจาะเข้าไปช้าๆ ที่สะโพกของร่างเล็กโดยที่ไม่มีการฉีดยาชา หรือยาสลบ ทุกอย่างล้วนเป็นของจริง ความรู้สึกคือเจ็บจริง ทันทีที่เข็มเจาะเข้าไป ร่างสูงที่ดูอยู่ข้างนอกก็ออกอาการตกใจทันที
...ดงเฮ!!!!...
ร่างเล็กที่นอนคว่ำอยู่บนเตียงคนไข้ถูกตรึงด้วยนางพยาบาลเพื่อไม่ให้เขาดิ้นไปไหน ความเจ็บแล่นเข้ามาเรื่อยๆ และไม่มีท่าทีว่ามันจะหายไปซักที น้ำตาค่อยๆ ไหลออกมาหยดแล้วหยดเล่า...ช่างเป็นภาพที่ทรมานในสายตาของร่างสูงซะเหลือเกิน
ราวกับร่างกายถูกแยกออกจากกันเป็นชิ้นๆ ร่างเล็กไม่เคยรู้สึกเจ็บอะไรมากขนาดนี้มาก่อน น้ำตาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องจนบัดนี้กลายเป็นม่านน้ำตา ทำให้ดงเฮเห็นสิ่งรอบๆ เป็นภาพลางๆ เท่านั้น...แต่อย่างน้อยเขาก็ยังสามารถเห็นร่างสูงที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูได้ แม่ว่ามันจะไม่ค่อยชัดก็ตาม
...คุณคิบอมฮะ...คุณช่วยผมด้วย...ผมเจ็บเหลือเกิน...
ร่างสูงที่ยืนอยู่ข้างนอกรู้สึกสงสารร่างเล็กขึ้นมาจับใจ เขาสามารถรับรู้ได้ว่าร่างเล็กนั้นรู้สึกเจ็บและรู้สึกทรมานมากแค่ไหน ใบหน้าหวานบัดนี้เต็มใบด้วยน้ำตา มือเล็กทั้งสองข้างกำหมอนไว้แน่นเพราะความเจ็บปวด บวกกับสายตาที่ร่างเล็กส่งมาทางเขาราวกับว่าต้องการความช่วยเหลือ ก่อนที่จะหลับลงไปในเวลาต่อมา
...ดงเฮห้ามหลับเด็ดขาดนะ...นายต้องอดทนสิ...นายต้องอดทน...ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้!!...
เลือดสีเข้มถูกดูดเข้ามาอยู่ในหลอดสลิงค์อันใหญ่ เวลาที่ไม่ผ่านไปไม่ถึง 5 นาที แต่ดูเหมือนนานราวกับ 5 ชั่วโมง ความเจ็บยังคงถาโถมเข้ามาเรื่อยๆ แต่ทว่าร่างเล็กไม่สามารถแสดงความเจ็บออกมาได้อีก เพราะตอนนี้เขาสลบไปแล้ว
จากนั้นทั้งพยาบาลก็ได้นำหลอดที่เจาะไขกระดูกของฮยอนซึงมาถือไว้ ก่อนที่จะเดินไปที่ห้องตรวจเชื้อ ในขณะเดียวกัน หมอเจ้าของคนไข้ก็ได้เดินออกมาจากห้อง
“หมอครับ ทำไมเขาถึงได้หลับไปล่ะครับ...เขาเป็นอะไร!!” คิบอมถามด้วยความร้อนใจ
“คนไข้แค่หมดสติไปเท่านั้น อย่ากังวลเลยครับ” หมอเจ้าของคนไข้พูดก่อนที่จะเดินไป คิบอมรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่รู้ว่าร่างเล็กไม่เป็นอะไร
...แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี...
*******************************
ตอนนี้ดงเฮโดนเจาะไขกระดูก
ตอนแต่งเสร็จแล้วให้เพื่อนอ่าน เพื่อนบอกว่าเจ็บแทนอ่ะค่ะ
น่าสงสารดงเฮจับใจ
แต่จะเป็นยังไงต่อ อย่าลืมติดตามกันนะคะ
ความคิดเห็น