ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมมารที่รักโปรดกักขังข้าไว้นานๆ #ผู้กล้าภัยสังคม

    ลำดับตอนที่ #6 : จอมมารตื่นรู้

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 67


    บทที่5-6 เป็นncเลยตัดฉับๆนะคะ ใครสนไปลองดูใน ebook ได้

     

     บทที่ 7

     

    ผู้กล้าตื่นเช้ามาด้วยความสุขสมหวัง เขายังกอดจอมมารไว้ในอ้อมอกและคิดย้อนถึงวันวานที่ผ่านพ้นมาอย่างชื่นมื่น ดวงตาสีทองเฝ้ามองใบหน้าและเรือนร่างที่เขาชมชอบนั้นแนบชิดอยู่บนอก ทั้งในหัวใจก็อบอุ่นและล่องลอยอบอวนไปด้วยความรัก

    แผขนตาสีเงินงดงามนั้นแผ่สยายอยู่บนเปลือกตา เรียงกันชิดและส่งเสริมให้ใบหน้าของจอมมารราวกับมีแรงดึงดูด

    กับคนที่ชอบเขามองเท่าไหร่ก็ไม่พอ ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนอีกฝ่ายจะดูดีและงดงามอยู่ในสายตาเขาเสมอ ช่วงเวลาแห่งการเฝ้ามองและกอดก่ายกันนี้เป็นช่วงเวลาที่เขาชอบมากที่สุด

    ในขณะที่กำลังคิดจะจูบอรุณสวัสดิ์จอมมารดีหรือไม่ เสียงเคาะประตูก็ดังออกมาซะก่อน

    ทีแรกเขากะจะไม่สนใจมัน แต่ฝั่งนั้นเริ่มเคาะเสียงดังขึ้นเป็นครั้งที่สามแล้ว อเล็กซ์เหลือบมองไปตามเสียงและหันกลับมามองจอมมารที่เริ่มขมวดคิ้ว ผู้กล้าที่เป็นห่วงเวลาพักของจอมมารจึงต้องลุกออกไปในที่สุด

    ในตอนที่ถอนตัวออกมาจากร่างของจอมมารก็ยังให้ความรู้สึกเสียดายและอาลัยอาวอนอย่างมาก เขาจูบประทับบนใบหน้าด้านข้างของคนด้านล่าง ก่อนจะลุกออกมาได้เต็มตัว

    ...

    ทันทีที่ผู้กล้าลงจากเตียงแผ่นหลังก็สัมผัสกับอากาศรอบนอก ความรู้สึกแสบร้อนก็แผ่กระจายออกมาบนหลัง อเล็กซ์มองออกไปบนเงาสะท้อนในบานกระจกห้อง รอยลากยาวสีแดงที่เด่นชัดลงบนแผ่นหลังสีขาวของเขาก็ปรากฎออกมาผ่านเงาสะท้อน

    จอมมารสุดร้อนแรงตนนั้นทิ้งหลักฐานสวาทไว้ซะด้วย

    เมื่อคืนอีกฝ่ายคึกอย่างกับอะไรดี และเขาเองก็ตอบสนองไปไม่ใช่น้อย ความเสียวซ่านคงแนบชิดติดจรึงบนร่างของเราทั้งคู่ มันมากจนต้องระบายออกมา

    หึ หึ

    ผู้กล้าอารมณ์ดี เขาเก็บเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่มาสวมไว้ แน่นอนว่ามันเหลือแต่กางเกงตัวเดียวเพราะเสื้อถูกฉีกทิ้งไปแล้ว พอนึกถึงตอนโดนมือคู่นั้นลูบไล้ก็แทบจะตื่นตัวขึ้นมาอีกรอบ แต่เพราะการที่ไม่อยากจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นให้คนรักอีกเขาจึงทำใจข่มตนเองลงไป และเดินไปเปิดประตูดีๆ

     พอแง้มปะตูได้ครึ่งหนึ่งภาพคนคุ้นหน้าคุ้นตานั้นก็เด่นออกมา

    พ่อบ้านปีศาจคนนั้นนี่เอง

    "สวัสดี อัลฟ่องเซ่" ผู้กล้าทักทายออกไป

    ชายชราไม่เหลือบมองผู้กล้าเลยสักนิด

    อัลฟองเซ่เป็นปีศาจโทรลล์ที่มีต้นกำเนิดเป็นกึ่งยักษ์ ปัจจุบันแม้จะแก่ตัวลงและมีรูปร่างคล้ายมนุษย์แต่ก็คงไว้ด้วยความพิเศษของเผ่าพันธ์ เขายังตัวสูงกว่าผู้กล้าอยู่มาก พิเศษกว่านั้นคือสามารถมองข้ามหัวผู้กล้าไปโดนสมบรูณ์ได้

    "กระผมไม่มีเหตุผลที่ต้องทักทายผู้กล้ากลับครับ" 

    พ่อบ้านปีศาจบอกออกไป ทำเอาผู้กล้าถอนหายใจ

    "ไม่เอาน่า ท่านเป็นคนให้ข้าเข้ามาเองนะ แถมตอนนี้ข้าก็ไม่ใช่ผู้กล้าแล้ว"

    "เป็นนักโทษ?"

    "นั่นก็ไม่ใช่" ผู้กล้ายืดอกภูมิใจก่อนพูดออกมา

    "ข้าเป็นอาหารของจอมมารอย่างถูกต้องแล้วต่างหาก!"

    "..."

    การกระทำนี้ดูออกนอกหน้าซะจนระบบถ้าเป็นคนจริงๆคงต้องกุมขมับเครียด

    อัลฟองเซ่หน้ามืดลงเล็กน้อยก่อนทำใจและกระแอ่มตอบประโยคนั้น

    "ฮึม อาหารก็ไม่ควรพูดได้" ถึงแม้ว่าจะอยากเอาใจช่วยและอยากให้จอมมารมีความสุขแค่ไหนก็ตามแต่บางครั้งพฤติกรรมบ้าๆของคนผู้นี้ก็ทำให้หนักใจมากจริงๆ

    ตอนนี้เขาเองก็คิดว่าไม่ควรจะพูดเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ตอนนี้เขาควรไปดูแลจอมมารได้แล้ว

    "ถอยออกไปด้วยครับ" อัลฟองเซ่ออกแรงกดดันผู้กล้าให้ถอยออกไปอย่างจริงจัง

    แรงกดดันของโทรลล์ผู้เปรียบเสมือนผู้พิทักษ์ปราสาทและเป็นป้อมปราการเคลื่อนที่นั้นรุนแรงอย่างมาก

    ผู้หล้ายกมือยอมแพ้ เขาเองก็ไม่ได้ขัดใจผู้มาใหม่ได้นานนัก มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับอัลฟองเซ่ แต่เพราะยังไงบุคคลตรงหน้าคือคนสนิทของจอมมารมันก็มีเหตุผลที่ต้องปล่อยผ่านโดยไม่เสียเลือดเสียเนื้อต่อกัน

    "เชิญ" 

    ถึงแม้เขาเองถ้าเอาจริงจะมีพลังมากพอจะหยุดโทรลล์ตนนี้ไว้แต่เขาก็ไม่อยากลงมือทำร้ายบุคคลที่ภักดีต่อคนรักตน

    "จอมมารเองก็คงอยากเจอท่าน"

    อเล็กซ์เดินนำเข้ามาที่เตียงของจอมมาร ฝ่ายนั้นเองก็สะลืมสะลือตื่นมาแล้ว

    "ที่รั- ไม่สิ จอมมาร" ผู้กล้าแทบหยุดอาการอยากเข้าไปออดอ้อนไม่ไหว แต่เขาก็กำลังเรียนรู้พฤติกรรมการเล่นตัวอยู่จึงทำได้แค่เว้นระยะห่างเล็กน้อยเท่านั้นแล้วค่อยเข้าไปพยุงร่างจอมมารขึ้นมานั่งดีๆบนเตียงได้ แต่สายตาก็ยังคงหวานล้ำอยู่เช่นเดิม

    "ท่านตื่นแล้ว รู้สึกยังไงบ้าง" 

    "..."

    จอมมารปรับระดับสายตาอยู่ เขามีอาการมึนงงเล็กน้อยเนื่องจากใช้มนต์เสน่ห์ต่อกันเป็นเวลานานและภายหลังเขาก็ไม่เป็นตัวของตัวเองนัก สติเขาหลุดไปช่วงหนึ่งเพราะโดนผู้กล้าตอบสนองกลับมามากเกินไปจนกระตุ้นสัญชาตญาณอินคิวบัสเข้าทำให้จอมมารระเบิดความต้องการของตัวเองออกมาจนคลุ้มคลั่งไปหมด

    พอมาเริ่มรู้ตัวแล้ว...

    จอมมารมองฝ่ามือใหญ่ที่กุมหลังมือเขาไว้และโอบลงบนสะโพกด้านหลัง มันเป็นมือของผู้กล้าทั้งหมด ภายในใจก็เกิดเสียงกู่ร้องดังก้อง มันส่งสัญญาณเตือนภัยถึงความหวั่นไหวที่เขามีจนควบคุมไว้ไม่อยู่

    เขาเงยหน้าเจออัลฟองเซ่ที่ยืนสงบนิ่งอยู่ข้างเตียง

    "อัลฟองเซ่"

    "ขอรับจอมมาร"

    "ขังผู้กล้าไว้อย่างเดิม"

    ผู้กล้า : เอ๊ะ?

    อัลฟองเซ่มีสีหน้าเรียบนิ่งเสมือนรู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ เขาขานรับคำไป

    "ตามที่ท่านประสงค์"

    อะไรนะ?

    เอ๊ะ!?

    ผู้กล้าติดสถานะอึ้งจนสมองไม่ประมวลโดนพ่อบ้านปีศาจคลุมผ้าห่มรอบตัวและหิ้วกลับคุกอย่างเป็นธรรมชาติมาก กระทั่งปิดกรงขังลงและจากมาสติก็ยังไม่กลับเข้าร่าง

    เคร้ง!

    เขามองดูข้อมือที่ถูกโซ่เส้นใหม่เอี่ยมอ่องลงวงเวทย์6ชั้นโดยจอมมารล่ามอยู่ก็ยังงงงวย

    เอ๊ะะะะะ!!???

    นี่มันเกิดอะไรขึ้น!!!

     

    ...

    อัลฟองเซ่กลับมารายงานผลภารกิจ(?)อีกครั้ง ครั้งนี้สายตาเขามีความอ่อนโยนเจืออยู่มากประดุจมองลูกมองหลาน

    "จอมมาร ถึงแม้ท่านจะออกคำสั่งให้ขังเขาไว้ และกระผมก็ยินดีที่จะทำตามนั้นมากๆ แต่ถ้าท่านมีอะไรในใจก็กล่าวออกมาเถอะครับ"

    จอมมารนอนคลุมโปงอยู่บนเตียง อัลฟองเซ่เห็นจอมมารกลิ้งไปมาบนเตียงสักพักก่อนจะมีเสียงอู้อี้ตอบกลับมาจากในผ้าห่ม

    "ข้า...แค่อับอายที่ต้องสู้หน้าเขา"

    "ทำไมล่ะครับ"

    "เป็นข้าที่บีบบังคับเขา"

    อัลฟองเซ่คิ้งกระตุกขึ้น1มิล

    "ขอโทษนะครับท่านจอมมาร ท่านบีบบังคับเขา?" เรื่องนั้นไม่เป็นความจริง อัลฟองเซ่ยอมให้ผ่านไม่ได้เด็ดขาด

    ถึงจอมมารบีบบังคับ คนที่เอาตัวมาประเคนถึงที่อย่างผู้กล้าสิแปลก แถมเสียงที่เขาได้ยินมาตลอดคืนก็ไม่ใช่เล่นๆ นั่นมันคนที่โดนบังคับตรงไหน?? แรงดีไม่มีตกแบบนั้นให้บอกว่าคนโดนบังคับคือจอมมารเขาสิไม่เถียง นี่เพราะเขารู้หรอกนะว่าจอมมารรู้สึกยังไงถึงปล่อยผ่านน่ะ

    จอมมารที่โดนถามก็บ่นน้อยอกน้อยใจออกมา

    "ฮือ ข้าใช้มนต์เสน่ห์ล่องลวงเขา ใช้เขาเป็นอาหารข้า แม้ตอนนั้นจะรู้สึกดีมากก็เถอะแต่ตอนนี้มันทำให้ข้าสู้หน้าเขาตรงๆไม่ได้เลย"

    "..."

    ใช้เวลาเนิ่นนานอัลฟองเซ่ถึงประมวลผลและตอบกลับมาได้อย่างธรรมชาติดังเดิม

    "ผมเข้าใจแล้วครับ"

    "อัลฟองเซ่?" จอมมารอเมทิสเอียงหัวขึ้นมองพ่อบ้านตัวเองอย่างประหลาดใจ ดวงตาสีอำพันนั้นแวววาวสดใสสะอาดไร้สิ่งเจือปน ดูงดงามบริสุทธิ์ซะจนอัลฟองเซ่ใจเจ็บแปล็บๆ

    เพราะจอมมารยังคงดื้อไม่ยอมลุกจากเตียง ภาพที่อัลฟองเซ่เห็นจึงเป็นกองก้อนในผ้าห่มดิ้นดุ๊กดิ๊กและเอียงหน้ามองเขาราวกับสัตว์เล็กๆน่าเอ็นดูตัวนึง ชวนให้ผู้หลักผู้ใหญ่อย่างเขาอ่อนอกอ่อนใจเอามาก

    พ่อบ้านชราใจเจ็บจนถอนใจเอาความคิดชั่วร้ายที่อยากสั่งสอนผู้กล้าออกไปและเริ่มแนะนำความจริงของโลกให้จอมมารผู้ไร้เดียงสาอย่างจริงจังแทน

    "ท่านเมทิส ผู้กล้าก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ท่านประเมินระดับศีลธรรมของผู้กล้าสูงไปแล้วครับ" คนคนนั้นมันเกินระดับศีลธรรมที่มนุษย์ธรรมดาจะวัดได้ไปแล้ว

    "..." เอ๊ะ?

    "คิดว่าผู้กล้าโดนบังคับจริงๆเหรอครับ?"

    "ทำไมถึงถามแบบนั้นล่ะ?"

    "ท่านก็ดูพฤติกรรมเขาสิ เหมือนโดนบังคับตรงไหน ไม่ใช่ท่านบอกเองรึว่าตอนแรกเขายินยอมตอบรับท่านขนาดไหน" แถมยังยินดีออกนอกหน้าซะจนเขาอยากสั่งสอนให้นอนเน่าตายอยู่ในคุกสักคืน

    "..." จอมมารกำลัง loading...

    loading...

    กำลังประเมินความคำแนะนำของพ่อบ้านตนอย่างจริงจัง

    เขาประเมินระดับศีลธรรมของผู้กล้าสูงไปอย่างนั้นเหรอ ผู้กล้าพ่ายแพ้ต่อกิเลสในใจและโดนล่อลวงง่ายเพียงนี้เชียว? 

    เอ่อ แต่พอลองคิดดูดีๆบางทีผู้กล้าก็ดูเต็มใจจนหลุดลุคเกินไปจริงๆนั่นแหละ เขาปฏิเสธออกไปไม่ได้เลย คนคนนั้นในฝันก็เหมือนจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน

    เขาก็ไม่ได้ไม่ชอบที่ผู้กล้าเป็นแบบนี้ ผู้กล้าที่พ่ายแพ้ต่อกิเลสในใจและสมยอมให้กับการกระทำกับเขานั้นดีมาก มนุษย์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตและความใคร่กระหายนั้นเป็นสารอาหารที่ดีต่อปีศาจราคะเช่นเขา มันจะดีมากถ้าคนผู้นั้นโดนล่อลวงได้ง่าย

    โดนล่อลวงได้ง่าย...เช่นเมื่อคืนน่ะเหรอ

    อ่า

    จอมมารได้รับรู้ด้วยร่างกายแล้วว่ามันง่ายขนาดไหน

    อ๊า

    ต...แต่ถ้าโดนล่อลวงง่ายอย่างนั้น ทำไมอินคิวบัสคนอื่นถึงเข้าไปในฝันผู้กล้าไม่ได้เลยล่ะ?

    เรื่องนี้มัน...

    ตอนนั้นเองก็คล้ายจะมีแสงสว่างวาบออกมาภายในหัวของจอมมาร คล้ายมีบางอย่างที่เขามองข้ามไป อะไรบางอย่างที่เขาเคยฉุดคิดได้มาก่อนหน้านี้

    เอ๊ะ???

    จะใช่แบบนั้นงั้นหรอ?

    จริงเหรอเนี่ย??

     

    ...

    คุกใต้ดินในปราสาทจอมมาร

    ผู้กล้ายังคงพยายามแก้วงเวทอาคมหกชั้นของจอมมารอยู่ เขาพยายามมาครึ่งค่อนวันก็เหนื่อยจนตัดสินใจพอก่อนเพราะกินแรงเกินไป

    หลังจากแลกแต้มความอิ่มให้พอทนสำหรับวันหนึ่งจากระบบแล้วเขาก็ผลอยหลับไป

    ในตอนที่หลับลงไปนั้น ในฝันเลือนรางราวกับหมอกขาวเขาก็ได้เจอกับใครบางคน

    ความงดงามตราตรึงใจไม่มีทางที่จะทำให้เขาลืมเลือนและจำผิดไปได้เลย

    ผู้กล้าทักทายออกไป

    "จอมมาร?"

    อีกฝ่ายหันกลับมา เมื่อเห็นเขาแก้มสีแทนก็เปล่งสีแดงเรือ ดวงตาสีอำพันก็รีโค้งขึ้นราวเสี้ยวจันทร์ แสดงออกว่ามีความสุขที่ได้เจอเขา

    "ไม่เรียกข้าว่าเมทิสแล้วเหรอ"

    หือ?

    ผู้กล้างงงัน

    จอมมารแตกต่างกว่าปกตินิดหน่อย 

    ว่าไงดี? ดูซื่อตรงขึ้น มั่นใจขึ้น มีความไว้เนื้อเชื่อใจให้เขาโดนสมบรูณ์

    แต่นี่ไม่ใช่จอมมารในห้วงฝันที่ราวกับหมอกควันรอบๆตัวเขา ตัวตนของอีกฝ่ายสลักลึกในใจเขาและเด่นชัดออกมาตามที่เขารู้สึกทุกอย่าง

    เขาดูออกว่านี่ไม่ใช่ตัวปลอมหรือเป็นร่างจอมมารในจินตนาการของตนเองแน่นอน แต่นี่มันสถานการณ์แบบไหนกัน??

     

     

     

     

     

     

     

    Talk : หลับตาฝันถึงหน้าเธอ พร่ำเพ้อจริงจัง~

    ผู้กล้าก็มีวันที่เหนื่อยเป็นสินะ แหมๆ

     

    อัลฟองเซ่ be like บทคุณพ่อสอนลูก

    คุณพ่ออัล : แฟนลูกมันภัยสังคม

    ผู้กล้า : เรียกเหรอ? (¯ ▽ ¯)   

    จอมมาร : คุณพ่อหมายความว่ายังไง? อเล็กซ์เป็นคนดี! 

    คุณพ่ออัล : ลูกคิดว่าเขาเป็นคนดีจริงๆเหรอ?

    จอมมาร : ... //คิดอย่างจริงจัง

    ผู้กล้า : เอ๋? สรุปใครเรียกเหรอ? (¯ ▽ ¯) 

    ออกไป๊!

     

    อัลฟองเซ่ผู้รู้ทุกอย่างและจัดการผู้กล้าแทนระบบหมดแล้ว 5555

    sds

    #ผู้กล้าภัยสังคม

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×