ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    จอมมารที่รักโปรดกักขังข้าไว้นานๆ #ผู้กล้าภัยสังคม

    ลำดับตอนที่ #2 : จอมมารหนีไปซะแล้ว

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 65



     

     

    บทที่ 1

     

    เมื่อจอมมารเดินเข้ามาในห้อง ผู้กล้าเองก็กลับมาอยู่ในสภาพเดิมเรียบร้อยแล้ว

    อีกทั้งผู้กล้ายังตีเนียน(?) ทำเป็นสลบไปเพราะความเหนื่อยล้าอีกต่างหาก รู้งานทำให้ใครบางคนใจอ่อนดีจริงๆ

    มันได้ผล จอมมารสุดแสนจะปวดใจ เขามองดูโซ่ตรอนที่ตรึงร่างอ่อนปวนเปียกของผู้กล้าไว้อย่างแน่นหนาแล้วก็ยื่นมือออกไปหมายจะประคองใบหน้าชายที่รักขึ้นมาอย่างทนุถนอม

    "ผู้กล้า"

    ในตอนที่ปลายนิ้วมือเขาจะแตะถึงใบหน้าของผู้กล้านั้น

    "จอมมาร..."

    เพียะ!

    "ใครสั่งให้เจ้าพูดกับข้า!"

    อ๊า ไม่นะ

    "..." ผู้กล้าเงียบปากไป เขารับรู้ถึงความเจ็บปวดจนบวมออกมาผ่านแก้ม และงุนงงอย่างมากว่าเขาทำผิดอะไร 

    จอมมารกลับใจเจ็บยิ่งกว่า เพราะจู่ๆผู้กล้าก็ตื่นขึ้นมา เขาเลยเผลอแสดงท่าทีจอมมารอย่างปกติจนได้

    [ปิ๊งป่อง~ ตรวจพบสถิติใหม่ของทุกวัน ☆ระบบจอมมารเปิดให้บริการ☆]

    อ๊าก พรจอมมาร 

    [จอมมารรังแกผู้กล้าผู้ไม่รู้อิโน่อิเน่อย่างทารุนกรรม แต้มความชั่วร้าย+100แต้ม]

    อ๊ากๆๆๆ

    [ขอให้จอมมารรักษาสถิติแบบนี้ต่อไป ตบตีและกำจัดผู้กล้าให้ได้ในเร็ววัน ระบบจะเฝ้ารอสถิติใหม่อย่างใจจดใจจ่อ]

    [ติ๊ด]

    จอมมารอยากเอาหัวโขกกับกำแพงขึ้นมาเสียดื้อๆ 

    พรจอมมารทำเขาอับอายขายหน้าจริงๆ มันคือการตอกย้ำความชั่วร้ายของเขาที่กระทำต่อผู้กล้า ทำให้ระยะห่างระหว่างความรักกกับความแค้นจนอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ก็เพิ่มขึ้นมาอีก!

    ผู้คนมักพูดกันว่าจอมมารคือความชั่วร้าย นั่นไม่ผิด มันมีที่มาที่ไปอยู่

    ปีศาจที่ได้รับพรของจอมมารจะต้องสร้างความชั่วร้ายเพื่อเพิ่มแต้มและรับพรแห่งความแข็งแกร่งมาใช้ต่อกรกับผู้กล้าและควบคุมเหล่าปีศาจที่ปกครองให้อยู่ในเงื้อมมือ

    แต่เมทิสนั้นแตกต่างออกไป

    ความชั่วร้ายเป็นสิ่งที่จอมมารรุ่นก่อนๆกระทำแต่เขานั้นไม่ใช่ เขาไม่ต้องการพลังที่แลกมาด้วยการข่มเหงรักแกผู้อื่น

    นั่นเป็นสาเหตุที่ว่าแม้จะได้รับพรมา แต่เขาก็แข็งแกร่งด้วยตนเองโดยไม่พึ่งพาพรพวกนั้น 

    เขาดูแลเหล่าปีศาจอย่างเคร่งขรัด มีกฏและอยู่ร่วมกันอย่างปรองดอง ใจดีกับเหล่าข้ารับใช้ และทุกคนก็นับถือเขาที่เป็นตัวเขา ไม่ใช่พรจอมมารอะไรนั่น

    ตอนผู้กล้าบุกเข้ามา ใจจริงแล้วจอมมารไม่คิดจะมีเรื่องด้วยสักนิด ผิดแต่ว่ามนุษย์ฝ่ายนั้นคิดว่าปีศาจชั่วร้ายและต้องปราบตามธรรมเนียมเก่า เขาเองก็ต้องปกป้องปีศาจของเขา การต่อสู้นั่นคือสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็ไม่ต้องการให้ใครตาย ดังนั้นถึงปล่อยผู้กล้ากลับไปทุกครั้งที่ปะทะกัน

    อีกทั้ง...

    ฮือ เผลอลงมือไปอีกแล้ว

    ไม่รู้ทำไมต่อหน้าผู้กล้าแล้ว เขาชอบทำตัวไม่ดีใส่ตลอด

    แต้มความชั่วร้ายที่เขาไม่เคยทำให้มันเพิ่มขึ้นมากลับขึ้นเอาๆทุกครั้งที่เขาตบตี(?)ผู้กล้า สร้างสถิติใหม่ได้ไม่เว้นวันจนเขาจะตายด้วยความรู้สึกผิด

    ทำไมกับแค่ผู้กล้าเท่านั้นที่เขาแสดงใจจริงออกไปได้ยากขนาดนี้!

    แสดงสปอยล์

    Talk : เหตุผลง่ายๆนั่นก็เพราะจอมมารเป็นหนุ่มซึนไงล่ะ!

    แถมผู้กล้าก็ยังหนังเหนียวทนทานขึ้นทุกวัน เมื่อเห็นจอมมารเริ่มกลับมาสงบนิ่งหลังจากตบระบายอารมณ์ไปแล้วก็รู้คิวทันที

    "คือว่า" เสียงผู้กล้าดังถามออกมาอีกครั้ง คล้ายกับกำลังลองใจว่าเขาพูดได้รึยัง

    ตอนแรกจอมมารยังเป็นห่วงว่าตนเองลงมือแรงไปรึเปล่า พอได้ยินเสียงเรียกจากผู้กล้า ดวงตาสีอำพันตวัดกลับไปมองใบหน้านั้นอีกครั้ง

    มุมปากกับแก้มผู้กล้าที่มีรอยช้ำเมื่อครู่เริ่มจางหายไปแล้วเขาก็เบาใจไปได้เปราะนึง และก็พบว่าทางนั้นเองก็จับจ้องมองตัวเองอยู่เช่นกัน ใจดวงน้อยในอกเต้นตึกตักขึ้นมาแทบจะดังออกมาข้างนอก จึงได้พูดกลบเกลือบออกไป

    "อะไร โดนแค่นี้ก็ไม่ถึงกับตายนี่"

    ผู้กล้าแลกแต้มพรมารักษาตัวเสร็จแล้ว พอได้รับการอนุญาตให้พูดถึงตอบกลับไป

    "อ่า ใช่...ข้าไม่เป็นไร" การกระทำนี้แรกๆ เขาอาจตกใจบ้างแต่ใจจริงแล้วก็ไม่กลัวการลงไม่ลงมือของจอมมารเลยสักนิด เอาจริงการโดนคนที่ชอบตบตีบ่อยๆ ก็ไม่ระคายผิวหนาๆของเขาหรอก มันทำให้เขาชินกับพฤติกรรมแบบนี้ของจอมมารไปแล้วซะอีก บางครั้งบางทีอาจมีการรอคอยเล็กๆ ให้ฝ่ามือนั้นประเคนเข้ามาสัมผัสด้วย

    ผู้กล้าฉุดคิด ทำไมถึงรู้สึกว่าตนเองได้เปิดประตูของรสนิยมใหม่ที่อันตรายมากๆ ออกมาแล้วเลยแฮะ

    ช่างเถอะ สำหรับเขายังไงก็ได้ถ้าเป็นจอมมาร ตอนนี้เขาแค่อยากรู้เท่านั้น

    "ข้าแค่อยากรู้ว่าท่านมีแผนจะทำอะไรกับข้า" 

    "..." แผน?

    จอมมารนิ่งไป ถามเขาเรื่องแผนงั้นเหรอ ทีแรกมันเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบด้วยซ้ำเขาไม่มีแผนอะไรทั้งนั้นแหละ

    แต่ด้วยภาพลักษณ์ของจอมมาร จะให้ตอบแบบนั้นไปก็ไม่ได้

    ถ้าเป็นจอมมารควรจะตอบว่าอะไรนะ

    เดิมทีแล้ว การคัดเลือกจอมมารไม่ได้มาจากสายเลือดหรือสืบทอดยศเป็นสำคัญอะไร มันมาจาก 'พร' ที่ยุคสมัยจะมอบให้ในเผ่าปีศาจเท่านั้น มันไม่ได้เจาะจงว่าเป็นเผ่าไหน แค่มีพรจอมมารปรากฎ ปีศาจตนนั้นก็จะได้ขึ้นเป็นจอมมารทันที

    เมทิสเป็นอินคิวบัสหรือที่พวกมนุษย์เรียกดันว่าปีศาจราคะ เผ่าเขาถนัดมนต์เสน่ห์ล่อลวงคนและดูดพลังชีวิตเป็นอาหาร แน่นอนว่าเขาเก่งในหลายๆด้านถึงเป็นจอมมารที่แข็งแกร่งได้ แต่แหล่งอาหารหลักของเขาก็คือมนุษย์

    พูดให้ถูกคือพลังชีวิตของมนุษย์ มันเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างได้ใหม่เรื่อยๆ ซัคคิวบัสหรืออินคิวบัสเช่นเขาก็แค่ดูดมันมาใช้หล่อเลี้ยงร่างกายแลกกับทำให้มนุษย์มีความสุขหนึ่งคืนเท่านั้น อีกทั้งมนต์ล่อลวง ถ้าเจ้าของฝันไม่ยินยอมก็เข้าไปไม่ได้ เอาจริงๆมันก็คือการแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม อีกอย่าง พวกเรามักไม่ได้มีแค่มนุษย์คนเดียว

    แต่เขาต่างออกไป

    จอมมารที่ตกบ่วงรักไปอย่างลึกซึ้งแล้วยังคงยึดติดอยู่กับผู้กล้า

    "จอมมาร?"

    "..."

    มาตอนนี้ มีผู้กล้าจริงๆอยู่ต่อหน้าแล้ว ถ้าเขาเป็นจอมมารชั่วร้ายเผ่าอินคิวบัสที่ต้องการพลังแล้วล่ะก็

    เขาจะลองทำตามใจตัวเองขณะที่มีผู้กล้าอยู่ได้ไหมนะ

    ในเมื่อผู้กล้าเองก็แพ้เขาแล้ว งั้นก็ขอจอมมารเช่นเขาเห็นแก่ตัวตามใจตัวเองอีกสักหน่อย

    แต่เขาก็ไม่อาจแสดงตัวตนจริงๆของเขาออกไปต่อหน้าผู้กล้าได้โดยไม่พาลเขินจนโกรธได้เลย

    เขาเขินจริงๆนะ และตอนเขินก็มักจะลงมือร้ายกาจต่อหน้าคนคนนั้นทุกที

    หรือว่าเขาจะลองใช้รูปลักษณ์จอมมารทำเรื่องแบบนั้นดู?

    อืม...

    เมทิสตั้งสมาธิและเหยียดยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มชั่วร้าย แสดงกิริยาท่าทางสมกับเป็นจอมมารอย่างไร้ที่ติจนผู้กล้าเองก็ร้ายๆหนาวๆ

    ผู้กล้า : อา รอยยิ้มนั่นน่ารักสุดๆไปเลย *ตัวลั่น* {{(> ω <)}}

    จอมมารผู้ชั่วร้ายกล่าวว่า

    "หึ ผู้กล้า ข้าจะขังเจ้าไว้ และใช้เจ้าเป็นแหล่งพลังงานของข้า"

    ผู้กล้า : อะไรนะ! Σ (O_O;)

    "แหล่งพลังงาน?"

    "ใช่"

    ...

    ผู้กล้านิ่งไปสักพัก เมื่อจอมมารมองเข้าไปในดวงตาสีทองคู่นั้น รู้สึกคล้ายมีบางอย่างประทุอยู่ข้างในแต่ไม่นานมันก็กลับมานิ่งสนิทดังเดิม

    "..."  ? สงสัยคิดไปเอง แต่พอพูดออกไปแล้ว เขากลับโล่งใจกว่าที่คิด แถมความรู้สึกผิดยังเจือจางลงไป ไม่มีความคิดอื่นเลยนอกจากอยากลืนกินผู้กล้าซะเดี๋ยวนี้

    ถึงยังไงมนต์ล่อลวงของเขาก็เข้าไปในห้วงฝันของผู้กล้าได้ ถ้าล่อลวงไม่สำเร็จ ค่อยทำให้ผู้กล้าสลบลงไปก็ไม่สาย

    ตอนนั้นผู้กล้าที่ตั้งสติได้ถามออกมาช้าๆ

    "แหล่งพลังงานคืออะไร?"

    จอมมารรู้สึกถึงความอับอายเล็กน้อยที่ต้องอธิบาย แต่ก็ยังคีฟลุกจอมมารต่อไป

    "ร่างกายเจ้า"

    "ร่างกายข้า?" ผู้กล้าทวนคำ ภายในหัวกำลังครุ่นคิดถึงความหมายในประโยคนั้น

    เขาไม่คิดว่าจอมมารจะเป็นปีศาจที่ชอบกินเลือดเนื้อมนุษย์ลงท้องได้ ปีศาจประเภทนั้นเขาเคยเห็นมาแล้ว ไม่เหมือนจอมมารเลยสักนิด

    "ท่านหมายความว่ายังไง?"

    "..." จอมมารคิด บางทีผู้กล้าก็ทึ่มเหมือนกันนะ

    เขาแอบเศร้าใจนิดหน่อย ผู้กล้าไม่คิดอะไรเกินเลยกับเขาเลย

    .

    .

    .

     

    จอมมารไม่รู้เลยว่าเพราะผู้กล้ามีความคิดเกินเลยมากมายอยู่เต็มอก เมื่อครู่ก็เพิ่งจะพรั่งพรูระเบิดออกมา แต่ด้วยสติของผู้กล้าที่ต้องยั้งมือไม่ให้ขืนใจคนที่ชอบจนทำแต้มความดีลด เลยเลี่ยงความคิดนี้ออกไปต่างหาก

    แต้มความดีลดคืออะไรอย่างนั้นเหรอ?

    นั่นคือบทลงโทษเมื่อผู้กล้าทำชั่ว แต้มความดีที่ได้จะติดลบสิบเท่าตามแต้มที่ได้ ในที่นี้ระบบผู้กล้าบัญญัติการ 'ขืนใจ" ไว้ที่ล้านแต้ม ถ้าทำ ติดลบล้านคะแนน

    ผู้กล้าสุดแสนระทมที่ทำตามใจตัวเองไม่ได้ ความจริงเขาไม่ได้คิดจะไปถึงขั้นขืนใจอะไรนั่น เขาไม่ได้มีรสนิยมอย่างนั้น แต่บางทีจอมมารน่ารักจนใจเจ็บจริงๆ เขาอยากจะหยอดจะหอมอยากจะจุ๊บหน้าผากเหม่งๆนั่น อยากทำแค่นี้ยังต้องอดทน เพราะแค่เขาอยากจะจูบโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอมคะแนนต้องติดลบไปตั้งหมื่น

    อยากจะตกลงปรงใจกับจอมมารจริงๆ แต่เขาก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะแบบนั้นเวลาจอมมารพูดอะไรที่เหมือนจะให้ท่าหรือชวนคิดเกินเลยเขาเลยต้องชิงพูดให้อธิบายมาอย่างละเอียด เขาจะได้ไม่คิดไปไกลจนเผลอทำอะไรผิดกฎระบบยังไงล่ะ!

    แต่รอแล้วรอเล่าจอมมารก็ยังไม่อธิบายมา

    ผู้กล้าเริ่มหวาดระแวงขึ้นมาจริงๆ

    "ท่านจะกินข้าจริงๆเหรอ?" ไม่นะ ถ้าจอมมารจะกินเขาจริงๆ เขาขอให้กินในอีกความหมายได้รึเปล่า 

    "..."  จอมมารที่เห็นผู้กล้าพูดอย่างหวาดระแวงนั้นเริ่มปวดหัว

    ไม่ไหวแล้ว ถ้าขืนพูดอ้อมต่อไป เขากับผู้กล้าคงไม่ได้พูดภาษาเดียวกันแน่ๆ

    จอมมารผู้เดเระแตกทำใจกล้าเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ชายที่ชอบและอ้อมแขนรอบลำคอแข็งแกร่งอย่างออดอ้อน

    "ข้าจะขังเจ้าไว้ และใช้เจ้า...." เขากระซิบที่ข้างหูของผู้กล้าและพ่นลมอุ่นร้อนออกมาเบาๆ "บำเรอข้า"

    เคร้ง!

    เอ๊ะ

    "ท่านจะทำสินะ เอาตอนนี้เลยไหม?"

    "..." เอ๊ะ? เอ๊ะ!?

    ด..เดี๋ยว ซ...โซ่แหลกไปซะแล้ว 

    "มาสิ ข้าพร้อมแล้ว ท่านจะจับตรงไหนก็ได้ "

    "..."

    "หรือท่านจะให้ข้า..."

    จอมมารก้าวถอยหลังช้าๆ

    "จอมมาร?" 

    ปัง!

    จอมมารปิดประตูจังผู้กล้าอย่างแน่นหนา

    โครม!!

    "จอมมาร!"

    ผู้กล้าทำลายประตูเหล็กกล้าออกมาอย่างง่ายดาย!

    เขาพังมันออกมาได้ง่ายๆเหมือนการทำลายโซ่เมื่อครู่ไม่มีผิด แถมวิ่งไล่ตามจอมมารมาติดๆ 

    "จอมมาร! ท่านจะใช้ข้าบำเรอท่านไม่ใช่เหรอ! ข้าอยู่นี่แล้วไง!"

    จอมมารหน้าแดงขึ้นเมื่อนึกถึงบทสทนาของเขากับผู้กล้าที่อยู่ในห้องนั้น เขาเขินจนตัดสินใจทำอะไรไม่ถูก ในหัวคิดแต่ว่าต้องหนีไปตั้งหลักก่อน

    "จอมมาร! เมทิส!"

    กึก

    ฉ่า...

    ความร้อนบนใบหน้าเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก

    "ย...อย่าเรียกชื่อข้านะ!"

    จอมมารกวาดมือออกไป วาดวงเวทหกชั้นลงบนอากาศ ปิดผนึกทางออกของผู้กล้าโดยสิ้นเชิง ถึงเป็นผู้กล้าโดนวงเวทซับซ้อนแบบนี้ขวางไว้ก็ต้องใช้เวลามากเหมือนกันล่ะ!

    ส่วนจอมมารที่เขินจนพาลลงมือกับผู้กล้านั้นรีบสับตีนหนีอย่างไว

    ฮือ ทำไมผู้กล้าแปลกไปแบบนี้ล่ะ! เขาเขินจนทำอะไรไม่ถูกแล้ว!!

     



     

     

     

     

     

    Talk : ผู้กล้ามันไม่ใช่คนดี(ในแง่กับคนที่ชอบ มันเจ้าเล่ห์ค่ะ มันภัยสังคม จอมมารหนีไปปปป)

    ที่จริงตอนแต่งตั้งใจว่าจะให้มันติดเรทนะแต่ทำไมแต่งไปแต่งมามันตลกคาเฟ่555555 ตัวเองยั่วเขาเองพอเขาเล่นกลับก็ตกใจหนี 

    ดิฉันคือตั้งพล็อตหลักไว้ว่าผู้กล้าจะโดนจอมมารที่แอบชอบขังไว้และยั่วให้ผู้กล้า*ติ๊ด**ติ๊ด**ติ๊ด*แต่อิผู้กล้ามันไม่ใช่คนดี5555ด่านหน้าทำเหมือนจำใจแต่ภายในเอาอีกสิ จัดมาที่รัก ไรงี้อะ 555

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×