ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (exo) KAIDO - the man who love you

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 17 เม.ย. 62







    Chapter 2



    ////









         เช้าอันสดใสอีกวันของจรณินทร์




         เด็กหนุ่มตัวสูงที่พึ่งจบมัธยมและกำลังเข้าศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยกำลังยกกระเป๋าเดินทางของตัวเองมาไว้ที่รถอย่างสบายใจเพราะกำลังจะได้ออกจากบ้านไปใช้ชีวิตของตัวเองเป็นครั้งแรก



         “แม่ไม่อยากให้ไปเลยลูก จอมอยู่บ้านไม่ได้เหรอ”



         คนเป็นแม่ใจแทบสลายเมื่อเห็นลูกนั่งแพ็คของตั้งแต่เมื่อคืน 



         คุณนายสาลี่อ้อนก็แล้วดุก็แล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าลูกชายคนเก่งจะเปลี่ยนใจเลยสักนิด



         “มันไม่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้นะครับแม่ ไปกลับทุกวันจอมเหนื่อยแย่”



         แม่ของจอมทำหน้าเศร้าอีกครั้งจนเด็กหนุ่มผิวแทนต้องอ้าแขนออกแล้วกอดมารดาที่รักยิ่งไว้เต็มอ้อมแขนพร้อมกดจมูกฝังลงบนแก้มนิ่มที่หอมยิ่งกว่าใคร



         “เสาร์อาทิตย์จอมกลับบ้านแน่นอนครับ สัญญาเลย”



         “ถ้าไม่กลับแม่จะไปหาเอง บังคับพ่อไปเลย”



         “เอาใหญ่แล้วคุณนาย”



         นายจักรกฤษบ่นเป็นระวิงตั้งแต่เมื่อคืนว่าคุณนายประจำบ้านห่วงลูกชายเกินงาม



         “จอมโตแล้วนะคุณ ลูกมหาลัยแล้วนะ โอ๋อยู่นั่น”



         “ก็แม่เลี้ยงของแม่มา”



         ฝ่ามือเรียวสวยลูบหัวของจอมที่ซบอยู่บนไหล่เล็กก่อนที่ตัวแสบประจำบ้านของพ่อจะยักคิ้วคืนไปให้ทีนึง



         “ผมไม่อยู่อนุญาตให้พ่อเก็บแต้มได้”



         “จำไว้ไอ้หมา แกแพ้แน่”



         คุณนายสาลี่ส่ายหัวให้กับสองพ่อลูกที่เล่นกันเหมือนเด็กก่อนที่จะช่วยกันยกสัมภาระที่มีไม่มากของจรณินทร์ขึ้นรถกระบะที่วันนี้นายจักรกฤษยอมถอยออกมาใช้เพื่อรับส่งลูกชายโดยเฉพาะ



         “น้าลี่ น้าจักรรรรรรรรรร”



         “ตัวแสบของแท้”



         พ่อของจอมหัวเราะแล้วหันไปมองคนที่อายุมากกว่าลูกชายตัวเองที่กำลังวิ่งมาด้วยความร่าเริงจนผมสีม่วงปลิวกระจายไปกับสายลม



         ยิ่งมองยิ่งไม่มั่นใจแล้วว่าใครอายุมากกว่าใครกันแน่



         “ไหว้พระเถอะลูก เป็นไงมั่งพี่บุณ ไม่เจอกันนานเลย”



         “น่ารักเหมือนเดิมครับน้าสาลี่”



         “เกินไปพี่”



         จอมเบะปากให้พี่ชายที่ยอตัวเองได้โดยไม่ต้องมีใครชมจนบุณต้องศอกเข้าที่สีข้างของน้องชายไปอย่างไม่เต็มแรง



         อยากจะเอาคืนแต่ก็กลัวน้องเจ็บ



         “ป่ะๆ ขึ้นรถ เดี๋ยวพ่อไปส่ง”



         “นี่ๆ เตี่ยฝากน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาให้น้องจอมแล้วก็ลุงจักร อ้อ อันนี้ของน้าสาลี่คร้าบ”



         เด็กอัธยาศัยดีแจกยิ้มไปทั่วจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนนึกเอ็นดูลูบผมไปคนละทีสองทีก่อนที่จอมกับบุณจะบอกลาคุณนายสาลี่แล้วขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังมหาวิทยาลัย



         จอมนั่งมองข้างทางตลอดที่รถวิ่งพร้อมกับอาการใจหายเล็กน้อยที่ต่อไปอาจจะได้เจอพ่อกับแม่น้อยลงเพราะย้ายออกมาอยู่ที่หอพักแทน



         ถึงจะดีใจที่ได้เริ่มก้าวแรกของชีวิตอีกก้าวแต่ก็ต้องยอมรับว่าอีกใจนึงจอมค่อนข้างที่จะตื่นเต้นและใจหายกับการเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ครั้งนี้พอควร



         จนสุดท้ายรถกระบะของพ่อจักรก็ขับมาถึงหน้าหอตามการบอกทางของบุณอย่างชำนาณก่อนที่ทั้งสามคนจะช่วยกันขนตู้และของใช้บางส่วนลงไป



         “เดี๋ยวพี่ไปเอากุญแจให้นะ”



         บุณยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่เดินทางมาส่งในวันนี้ก่อนที่จะเหลือไว้แค่พ่อและลูกสองคน



         พ่อกลับเลยมั้ย”



         “จะร้องไห้เปล่า รออยู่”



         “โห่” 



         กำปั้นชกเข้าที่แขนของคนเป็นพ่อเบาๆก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะออกมา ตามด้วยอ้อมกอดจากเด็กหนุ่มที่ตัดสินใจเดินออกจากบ้านมาใช้ชีวิตของตัวเองครั้งแรกสวมกอดคนเป็นพ่อแล้วซุกไหล่หนา



         “คิดถึงแม่น่าดูเลย”



         “ดูมัน กอดพ่อแต่บอกคิดถึงแม่”




         “เออน่ะ แม่กับพ่อคือคนเดียวกันไง บอกคิดถึงแม่ก็เหมือนบอกคิดถึงพ่อ”



         “ขี้เก๊ก”



         “เหมือนพ่อ”



         คราวนี้กำปั้นของพ่อเคาะลงที่หัวของจรณินทร์เต็มแรจนเด็กหนุ่มต้องเบ้ปากออกมาราวกับเด็กงอแง



         “พ่อจะกลับแล้วจริงๆนะจอม อยู่ได้ใช่มั้ย”



         “อยู่ไม่ได้อ่ะ พ่อขนของขึ้นรถใหม่ที”



         “อ้าวเห้ย ไอ้นี่”



         “ล้อเล่นคร้าบ อยู่ได้ดิ นี่ลูกพ่อจักรกับคุณนายสาลี่เชียวนะ”



         “ให้มันได้งี้ไอ้ลูกชาย”



         ความภาคภูมิใจของบ้านที่นานจักรกฤษปลื้มนักหนากำลังยืนยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะต้องบอกลากันอย่างจริงจัง



         “พ่ออย่ากินเหล้าบ่อยนะ แม่ไม่ค่อยสบายใจ”



         “เออน่า”



         “แล้วก็...”



         “หืม”



         “จอมรักพ่อครับ :)”



         ดนลูกที่กวนประสาทบ่อยๆบอกรักมันก็เขินเหมือนกันเว้ย



         ร้ายนักไอ้จรณินทร์




    //






         “เอาจริงๆของก็แอบเยอะอยู่นะ”



         “ผมจัดเองก็ได้ ไม่เป็นไรหรอกพี่บุณ”



         “ไม่ได้ๆ บอกน้าสาลี่ไว้แล้วว่าจะดูแล”



         บุณยึดมั่นในคำพูดของตัวเองเสมอจนจอมต้องพยักหน้าเออออไปตามเรื่อง



         คนเป็นพี่ถือถุงผ้าที่ใส่ของจำเป็นของน้องขึ้นมากับลิฟท์แล้วเดินไปตามทางก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้อง 615



         ห้องที่ต่อไปนี้จอมต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่



         “เอางี้มั้ย เดี๋ยวพี่เรียกเพื่อนมาช่วย”



         “เพื่อนพี่ไม่ว่างนี่”



         “ไม่ๆ มีว่างอยู่ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปคณะแป๊ปนึงด้วย ระหว่างนั้นให้เพื่อนพี่มาช่วยไปก่อนนะ”



         “รบกวนรึเปล่าพี่บุณ”



         “หึยไม่หรอกน่า”



         บุณยาภรณ์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินออกไปยังบริเวณหน้าลิฟต์เพื่อต่อสายหาตัวช่วยที่มีเยอะเหลือเกินในความคิดของจอม


         คนตัวสูงยกของบางส่วนเข้ามาในห้องก่อนจะรื้อกระเป๋าและสัมภาระออกมาวางกองไว้บนโต๊ะพลางกวาดสายตามองไปรอบห้องพักใหม่



         “เป็นไงๆๆ”



         “ผมว่าต้องกวาดห้องก่อน แต่ไม่ได้เอาไม้กวาดกับที่โกยผงมาน่ะสิ”



         “อ่า.. งั้นเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ดีกว่า อ้อ เก็บมือถือพี่ไว้นะ ถ้าเพื่อนพี่โทรมาจอมก็ลงไปรับได้เลย”



         บุณจัดการเสร็จสรรพก่อนจะหนีหายไปปล่อยให้จอมจัดการกับของบางส่วนอย่างไม่รีบร้อน



         เด็กหนุ่มตัวสูงเปิดกระเป๋าเดินทางพลางหยิบเสื้อผ้าออกมาแขวนทีละตัวพร้อมกับจัดแยกโซนระหว่างเสื้อกับกางเกงและชุดนักศึกษาให้เรียบร้อยเพื่อเวลาหยิบใส่จะได้สะดวกและไม่วุ่นวายยามเช้า



         จอมจัดของไปได้เพียงชั่วครู่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาและเขารู้ว่ามันเป็นของบุณจึงรีบรับสายทันที



         “(ถึงละ ลงมารับเลย)”



         น้ำเสียงนี้ไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน 



         จอมยักไหล่ก่อนจะกดวางแล้วหยิบกุญแจห้องพร้อมคีย์การ์ดมาถือไว้ในมือจากนั้นก็กดลิฟต์ลงไปยังชั้นล่างเพื่อรับเพื่อนของบุณ



         แต่เขาไม่รู้จะคุยอะไรด้วยนี่สิ แถมพี่บุณยังไปซื้อของทิ้งเขาไว้คนเดียวแบบไม่บอกไม่กล่าวอีกต่างหากว่าเพื่อนคนนี้เป็นใคร แล้วอย่างงี้จอมจะชวนคุยยังไงดีล่ะ



         ยังไม่ทันจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปมากกว่าประตูลิฟต์ก็เปิดออกก่อนที่จอมจะแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูแล้วเดินออกมาด้านหน้าเพื่อตามหาคนที่เป็นเพื่อนของบุณ



         เขาเห็นแค่ผู้ชายตัวเกือบเท่าพี่บุณคนหนึ่งที่ใส่เสื้อสีดำ กางเกงยีนส์สีซีดกับผมทรงอันเดอร์คัทที่ดูแล้วก็ไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาน่ารักและดวงตากลมโตนั่นเท่าไหร่ แต่คิดว่าคนนี้แหละน่าจะเป็นเพื่อนของพี่บุณ 



         “พี่... เพื่อนพี่บุณรึเปล่า”



         นัยน์ตากลมโตหันกลับมามองตามเสียงเรียกก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้พลางพยักหน้ารับ



         “นี่น้องบุณเหรอ”



         “ครับ เห็นพี่บุณบอกจะมีเพื่อนมาช่วย”



         “อือๆ แล้วบุณมันไปไหนล่ะ”



         คนตรงหน้ากวาดสายตามองหาเพื่อนตัวเองที่โทรไปตามแถมรบเร้าให้มาแต่ตอนนี้ดันหายหัวไปซะอย่างงั้น



         “พี่บุณไปซื้อของให้ผมครับ พี่ขึ้นมาก่อนก็ได้”



         “ไม่ถือใช่ป่ะ ขอขึ้นไปก่อนแล้วกัน”



         อยู่ด้านล่างตรงนี้ก็ร้อนพอควรและจอมก็ขี้เกียจจะตากแดดนานๆเลยตัดสินใจชวนแขกของพี่ชายตัวเองขึ้นห้องก่อนแล้วรอให้พี่บุณกลับมาทีเดียว



         ประตูห้อง 615 ถูกเปิดออกก่อนที่รีโมทแอร์จะถูกใช้งานรวมถึงนัยน์ตากลมที่กวาดสายตาสอดส่องไปทั่วห้อง



         “ยังไม่ได้จัดของกันเลยนี่”



         “ครับ พึ่งมาถึงได้สักพัก”



         “อา.. เอาไงก่อนดี”



         เพื่อนของพี่บุณเดินวนไปมาก่อนจะหยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของจอมมาถือไว้แล้วจัดการเอาใส่ไม้แขวนทีละตัว



         “งั้นพี่ช่วยตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวรอบุณมันมาก่อน”



         “พี่บุณไปซื้อ—”



         “ไม้กวาดกับที่โกยผงมาแล้ว!!”



         คนที่หยิบเสื้อของจอมอยู่กลอกตาเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนตัวเองดังมาก่อนตัวก่อนที่บุณจะวิ่งเข้ามายังเตียงนอนแล้วสวมกอดเพื่อนเต็มแรง



         “อีบุณ!!”



         “น่าร้ากกกกกกกก ในที่สุดมึงก็มา น่ารักๆๆๆๆ”



         “อีเหี้ยเอ๊ย ออกไปเลยนะ ไปช่วยน้องมึงจัดห้องเดี๋ยวนี้!”



         บุณยาภรณ์บุ้ยปากออกมาราวกับเด็กเมื่อถูกเพื่อนสนิทดุเสียงดังจนจอมต้องหัวเราะออกมา เขาลากแขนของพี่บุณพร้อมทั้งไม้กวาดมายังโซนห้องนั่งเล่นก่อนจะบอกให้พี่กวาดห้องนี้ส่วนเขาจะเข้าไปเก็บเสื้อผ้าต่อ



         “นี่ใส่ให้หมดแล้วนะ เดี๋ยวจะไปช่วยแยกของข้างนอก มีไรให้ช่วยก็ตะโกนบอกบุณนะ”



         พี่คนที่เขายังไม่รู้ชื่อทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วปล่อยให้จอมเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้พร้อมกับของใช้บางส่วนต่อไป ร่างสูงเดินออกมาจากบริเวณห้องนอนก่อนจะเห็นรุ่นพี่สองคนกำลังปัดกวาดเช็ดถูคราบฝุ่นออกจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เขาต้องใช้งาน



         เห็นแล้วเกรงใจจริงๆที่ต้องมาช่วยกันขนาดนี้



         “จัดห้องเสร็จแล้วจอมเลี้ยงหมูกระทะมั้ยพี่บุณ”



         คนถูกถามหันมามองด้วยแววตาเป็นประกายราวกับลูกสุนัขที่กำลังจะได้ขนมก่อนจะพยักหน้ารัวจนผมสีม่วงแดงของบุณกระจายออกอย่างน่าเอ็นดู



         “พี่ด้วยนะครับ”



         คนที่กำลังแกะชั้นพลาสติกที่พ่อของจอมซื้อมาเงยหน้ามองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ชวนเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มชวนฝัน



         บุณหันกลับมากดดันด้วยรอยยิ้มแบบลูกหมาด้วยอีกแรงก่อนที่ฝ่ามือเรียวจะเคาะหัวบุณด้วยด้ามไม้กวาดไปเบาๆ



         “เออ ไป”



         “เย้! นี่ๆๆ ชวนอรุณกับลันด้วยดีมั้ย”



         “เอาสิ เดี๋ยวผมเบิกงบกับพ่อได้”



         น้าใหญ่ใจโตเชียวนะเด็กคนนี้



         ได้แต่คิดในใจแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรออกมาเพราะยังไงเสียสุดท้ายก็ได้กินฟรีอยู่แล้ว ได้ประโยชน์เห็นๆใครจะพูดออกมาให้ตัวเองดูแย่กัน



         ทั้งสามคนร่วมแรงร่วมใจกันจัดห้องไปได้ไม่นานสุดท้ายจากห้องที่โล่งโจ้งมีฝุ่นเกาะก็กลับกลายเป็นห้องที่น่าอยู่และน่านอนสำหรับจรณินทร์เป็นอย่างมาก



         “เห็นเตียงแล้วอยากนอนเลยน้องจอม”



         “เดี๋ยวมึงต้องเข้ามอกับกูไงบุณ ทำเนียน”



         เพื่อนสนิททำเสียงดุจนบุณต้องขยับมาหลบหลังน้องตัวเองเป็นที่กำบังปล่อยให้คนตัวเล็กอีกคนจิ๊ปากใส่และบุณก็หัวเราะออกมา



         “เดี๋ยวหกโมงเจอกันก็ได้ครับ ร้านไหนพวกพี่เลือกเลย ผมยังไม่รู้ว่าที่ไหนอร่อย”



         “กันเองดีป่ะมึง คือดี”



         บุณชะโงกหน้าออกจากแผ่นหลังกว้างของจอมมาถามเพื่อนที่ยืนกอดอกอยู่ก่อนจะทำตาปริบๆมองอีกคน



         “เออ ก็บอกไอ้อรุณกับลันเอาดิ”



         “ได้เลย ป่ะๆๆ เข้ามอกันน้า”



         เปลี่ยนจากเกาะหลังน้องมากอดแขนเพื่อนตัวเองเอาไว้แล้วเดินออกจากห้องของจอมไปด้วยกัน รุ่นน้องตัวสูงเดินตามพี่ทั้งสองคนมาจนถึงด้านหน้าหอก่อนที่ฝ่ามือหนาจะรั้งช่วงแขนของบุณเอาไว้จนรุ่นพี่ตัวเล็กแทบล้มลงกับพื้น



         “ฮึ่ย น้องจอมเป็นไรเนี่ย”



         “ขอคุยด้วยแป๊ปนึงพี่บุณ”



         เพื่อนของบุณพยักหน้าเออออก่อนจะเดินออกไปรอที่รถของตัวเองแล้วปล่อยให้บุณยืนคุยกับน้องสองคน



         “เดี๋ยวหกโมงพี่มาไง”



         “รู้ครับ แต่จะถามอะไรนิดหน่อย”



         “ว่างาย ถามเลยๆ”



         จรณินทร์เลื่อนสายตาไปมองยังคนที่นั่งอยู่ในรถก่อนจะสูดหายใจเรียกกำลังใจของตัวเอง



         “น้องจอม เป็นไรเปล่า”



         “พี่บุณ คนนั้นใคร”



         “ห๊ะ”



         “คนนั้นน่ะ” จอมพยักเพยิดหน้าไปทางเพื่อนของบุณที่ไม่ได้สนใจเขากับเพื่อนตัวเองเท่าไหร่นักก่อนที่บุณจะหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มตามแบบฉบับบุณยาภรณ์



         “เค้ก เพื่อนพี่เอง”



         “รู้แล้ว.. แต่ยังไม่รู้ชื่อไง”



         จอมหันกลับไปมองคนที่ฟุบลงไปกับพวงมาลัยรถอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มออกมา



         น่ารักดี



         “เอาจริงดิน้องจอม”



         บุณพูดพร้อมกับดวงตารีเรียวที่เบิกโตราวกับไข่ห่านก่อนจะชะโงกหน้ามองเพื่อนของตัวเองที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว



         “ก็แค่บอกว่าน่ารัก”



         "อย่าเลย เห็นชื่อมันน่ารักแบบนี้ จริงๆมันดุใช่เล่นเลยนะ” บุณทำท่าเบ้ปากก่อนจะเขย่าแขนน้องตัวเองเบาๆหลังจอมหันกับไปมองคนที่เขาพึ่งรู้ชื่อหมาดๆมาอีกครั้ง



         “ผมแค่ถามชื่อเฉยๆ พี่อย่าคิดเยอะ”



         “เหรออออ”



         ฝ่ามือหนายกขึ้นขยี้กลุ่มผมนิ่มของบุณในจังหวะเดียวกันกับที่คนในรถเงยหน้าขึ้นมาจากพวงมาลัย



         “พี่ไปเถอะ เพื่อนรอ เดี๋ยวหกโมงเจอกันครับ”



         “เดี๋ยวมารับ จอมยังไม่รู้เลยว่าร้านอยู่ตรงไหน”



         เด็กหนุ่มตัวสูงพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยให้บุณเดินมาขึ้นรถเพื่อนที่ติดเครื่องรออยู่สักพักแล้วพร้อมกับเค้กหรือคุณากรที่ขมวดคิ้วมองเพื่อนทันที



         “น้องมึง?”



         เค้กไม่ได้ออกรถในทันทีแต่กลับหันหน้ามาบุณที่กำลังกอดกระเป๋าตัวเองเอาไว้



         “อือ น้อง ทำไมอ่ะ”



         “จับมือถือแขน เล่นหัวกันอย่างกับแฟน”



         “ปกติก็เล่นแบบนี้อยู่แล้วนะ”



         บุณพูดออกไปตามปกติเพราะตั้งแต่โตด้วยกันมาก็เล่นกันแบบนี้แล้วจริงๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่คนนอกไม่ได้มองแบบนั้น แต่บุณยืนยันว่าทั้งเขาและจอมไม่ได้มีใครคิดเกินเลยไปมากกว่านี้จริงๆ



         “ตกลงไม่ใช่แฟน”



         “โอ๊ยเค้ก มึงซักเป็นพ่อเลยนะ”



         “เอ้า ก็กูเห็นมันมีรังสีความรักออกมาจากพวกมึง นี่ขนาดกูบอกต้องไปมอต่อนะยังยืนคุยกันซะนานจนกูจะหลับคารถละ”



         เพื่อนสนิทบ่นออกมายาวเหยียดทั้งๆที่ยังขับรถจนบุณต้องเบ้ปากออกมา



         “มึงคิดไปนู่นจ้า มหาลัยอยู่ตรงนี้แต่มึงคิดไปไกลถึงอยุธยาแล้ว”



         “เถียงเก่งอีเตี้ยของอรุณ”



         “สัส”



         บุณยกนิ้วกลางขึ้นมาโชว์ใส่เพื่อนก่อนที่เค้กจะโยนบัตรจอดรถที่พึ่งรับมาจากยามใส่หน้าคนที่นั่งข้างคนขับ



         “แล้วมึงจะชวนอรุณมาด้วยใช่มั้ย”



         “อือ ทั้งอรุณแล้วก็ลัน”



         น้ำเสียงเล็กตอบกลับก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้เพื่อนที่หักรถเลี้ยวเข้าใต้คณะอย่างชำนาญ



         “เออ อย่าลืมบอกแล้วกัน”



         “อ่าหะ..”



         “แล้วหกโมงก็อย่าลืมเตือนกูด้วย”



         “ทำไมอ่ะ”



         “ไม่อยากพลาดหมูกระทะฟรี”



         แหม ห่วงเรื่องแดกอย่างเดียวให้มันจริงเถอะอีเค้ก 



         แล้วบุณจะคอยดู!









    ////


         ก็แค่อยากกินหมูกระทะฟรีไม่มีอะไรแอบแฝง แต่คนน้องอ่ะชมพี่เค้าว่าน่ารักแล้วน้า /เหล่มอง 

         ยังไงก็ฝาก #ดวงใจจรณินทร์ ไว้ด้วยนะคะ :) จะพยายามมาต่อไวๆ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย ฮือ


    ปล. 

    คุณากร/เค้ก = คยองซู





    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×