คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2
เช้าอันสดใสอีกวันของจรณินทร์
เด็กหนุ่มตัวสูงที่พึ่งจบมัธยมและกำลังเข้าศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยกำลังยกกระเป๋าเดินทางของตัวเองมาไว้ที่รถอย่างสบายใจเพราะกำลังจะได้ออกจากบ้านไปใช้ชีวิตของตัวเองเป็นครั้งแรก
“แม่ไม่อยากให้ไปเลยลูก จอมอยู่บ้านไม่ได้เหรอ”
คนเป็นแม่ใจแทบสลายเมื่อเห็นลูกนั่งแพ็คของตั้งแต่เมื่อคืน
คุณนายสาลี่อ้อนก็แล้วดุก็แล้วแต่ก็ไม่มีท่าทีว่าลูกชายคนเก่งจะเปลี่ยนใจเลยสักนิด
“มันไม่ไกลแต่ก็ไม่ใกล้นะครับแม่ ไปกลับทุกวันจอมเหนื่อยแย่”
แม่ของจอมทำหน้าเศร้าอีกครั้งจนเด็กหนุ่มผิวแทนต้องอ้าแขนออกแล้วกอดมารดาที่รักยิ่งไว้เต็มอ้อมแขนพร้อมกดจมูกฝังลงบนแก้มนิ่มที่หอมยิ่งกว่าใคร
“เสาร์อาทิตย์จอมกลับบ้านแน่นอนครับ สัญญาเลย”
“ถ้าไม่กลับแม่จะไปหาเอง บังคับพ่อไปเลย”
“เอาใหญ่แล้วคุณนาย”
นายจักรกฤษบ่นเป็นระวิงตั้งแต่เมื่อคืนว่าคุณนายประจำบ้านห่วงลูกชายเกินงาม
“จอมโตแล้วนะคุณ ลูกมหาลัยแล้วนะ โอ๋อยู่นั่น”
“ก็แม่เลี้ยงของแม่มา”
ฝ่ามือเรียวสวยลูบหัวของจอมที่ซบอยู่บนไหล่เล็กก่อนที่ตัวแสบประจำบ้านของพ่อจะยักคิ้วคืนไปให้ทีนึง
“ผมไม่อยู่อนุญาตให้พ่อเก็บแต้มได้”
“จำไว้ไอ้หมา แกแพ้แน่”
คุณนายสาลี่ส่ายหัวให้กับสองพ่อลูกที่เล่นกันเหมือนเด็กก่อนที่จะช่วยกันยกสัมภาระที่มีไม่มากของจรณินทร์ขึ้นรถกระบะที่วันนี้นายจักรกฤษยอมถอยออกมาใช้เพื่อรับส่งลูกชายโดยเฉพาะ
“น้าลี่ น้าจักรรรรรรรรรร”
“ตัวแสบของแท้”
พ่อของจอมหัวเราะแล้วหันไปมองคนที่อายุมากกว่าลูกชายตัวเองที่กำลังวิ่งมาด้วยความร่าเริงจนผมสีม่วงปลิวกระจายไปกับสายลม
ยิ่งมองยิ่งไม่มั่นใจแล้วว่าใครอายุมากกว่าใครกันแน่
“ไหว้พระเถอะลูก เป็นไงมั่งพี่บุณ ไม่เจอกันนานเลย”
“น่ารักเหมือนเดิมครับน้าสาลี่”
“เกินไปพี่”
จอมเบะปากให้พี่ชายที่ยอตัวเองได้โดยไม่ต้องมีใครชมจนบุณต้องศอกเข้าที่สีข้างของน้องชายไปอย่างไม่เต็มแรง
อยากจะเอาคืนแต่ก็กลัวน้องเจ็บ
“ป่ะๆ ขึ้นรถ เดี๋ยวพ่อไปส่ง”
“นี่ๆ เตี่ยฝากน้ำเต้าหู้กับปาท่องโก๋มาให้น้องจอมแล้วก็ลุงจักร อ้อ อันนี้ของน้าสาลี่คร้าบ”
เด็กอัธยาศัยดีแจกยิ้มไปทั่วจนผู้ใหญ่ทั้งสองคนนึกเอ็นดูลูบผมไปคนละทีสองทีก่อนที่จอมกับบุณจะบอกลาคุณนายสาลี่แล้วขึ้นรถเพื่อเดินทางไปยังมหาวิทยาลัย
จอมนั่งมองข้างทางตลอดที่รถวิ่งพร้อมกับอาการใจหายเล็กน้อยที่ต่อไปอาจจะได้เจอพ่อกับแม่น้อยลงเพราะย้ายออกมาอยู่ที่หอพักแทน
ถึงจะดีใจที่ได้เริ่มก้าวแรกของชีวิตอีกก้าวแต่ก็ต้องยอมรับว่าอีกใจนึงจอมค่อนข้างที่จะตื่นเต้นและใจหายกับการเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ครั้งนี้พอควร
จนสุดท้ายรถกระบะของพ่อจักรก็ขับมาถึงหน้าหอตามการบอกทางของบุณอย่างชำนาณก่อนที่ทั้งสามคนจะช่วยกันขนตู้และของใช้บางส่วนลงไป
“เดี๋ยวพี่ไปเอากุญแจให้นะ”
บุณยกมือไหว้ผู้ใหญ่ที่เดินทางมาส่งในวันนี้ก่อนที่จะเหลือไว้แค่พ่อและลูกสองคน
“พ่อกลับเลยมั้ย”
“จะร้องไห้เปล่า รออยู่”
“โห่”
กำปั้นชกเข้าที่แขนของคนเป็นพ่อเบาๆก่อนที่ทั้งสองคนจะหัวเราะออกมา ตามด้วยอ้อมกอดจากเด็กหนุ่มที่ตัดสินใจเดินออกจากบ้านมาใช้ชีวิตของตัวเองครั้งแรกสวมกอดคนเป็นพ่อแล้วซุกไหล่หนา
“คิดถึงแม่น่าดูเลย”
“ดูมัน กอดพ่อแต่บอกคิดถึงแม่”
“เออน่ะ แม่กับพ่อคือคนเดียวกันไง บอกคิดถึงแม่ก็เหมือนบอกคิดถึงพ่อ”
“ขี้เก๊ก”
“เหมือนพ่อ”
คราวนี้กำปั้นของพ่อเคาะลงที่หัวของจรณินทร์เต็มแรจนเด็กหนุ่มต้องเบ้ปากออกมาราวกับเด็กงอแง
“พ่อจะกลับแล้วจริงๆนะจอม อยู่ได้ใช่มั้ย”
“อยู่ไม่ได้อ่ะ พ่อขนของขึ้นรถใหม่ที”
“อ้าวเห้ย ไอ้นี่”
“ล้อเล่นคร้าบ อยู่ได้ดิ นี่ลูกพ่อจักรกับคุณนายสาลี่เชียวนะ”
“ให้มันได้งี้ไอ้ลูกชาย”
ความภาคภูมิใจของบ้านที่นานจักรกฤษปลื้มนักหนากำลังยืนยิ้มให้เขาเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะต้องบอกลากันอย่างจริงจัง
“พ่ออย่ากินเหล้าบ่อยนะ แม่ไม่ค่อยสบายใจ”
“เออน่า”
“แล้วก็...”
“หืม”
“จอมรักพ่อครับ :)”
โดนลูกที่กวนประสาทบ่อยๆบอกรักมันก็เขินเหมือนกันเว้ย
ร้ายนักไอ้จรณินทร์
“เอาจริงๆของก็แอบเยอะอยู่นะ”
“ผมจัดเองก็ได้ ไม่เป็นไรหรอกพี่บุณ”
“ไม่ได้ๆ บอกน้าสาลี่ไว้แล้วว่าจะดูแล”
บุณยึดมั่นในคำพูดของตัวเองเสมอจนจอมต้องพยักหน้าเออออไปตามเรื่อง
คนเป็นพี่ถือถุงผ้าที่ใส่ของจำเป็นของน้องขึ้นมากับลิฟท์แล้วเดินไปตามทางก่อนจะหยุดอยู่หน้าห้อง 615
ห้องที่ต่อไปนี้จอมต้องใช้ชีวิตอยู่ที่นี่
“เอางี้มั้ย เดี๋ยวพี่เรียกเพื่อนมาช่วย”
“เพื่อนพี่ไม่ว่างนี่”
“ไม่ๆ มีว่างอยู่ เดี๋ยวพี่ต้องเข้าไปคณะแป๊ปนึงด้วย ระหว่างนั้นให้เพื่อนพี่มาช่วยไปก่อนนะ”
“รบกวนรึเปล่าพี่บุณ”
“หึยไม่หรอกน่า”
บุณยาภรณ์ยิ้มกว้างก่อนจะเดินออกไปยังบริเวณหน้าลิฟต์เพื่อต่อสายหาตัวช่วยที่มีเยอะเหลือเกินในความคิดของจอม
คนตัวสูงยกของบางส่วนเข้ามาในห้องก่อนจะรื้อกระเป๋าและสัมภาระออกมาวางกองไว้บนโต๊ะพลางกวาดสายตามองไปรอบห้องพักใหม่
“เป็นไงๆๆ”
“ผมว่าต้องกวาดห้องก่อน แต่ไม่ได้เอาไม้กวาดกับที่โกยผงมาน่ะสิ”
“อ่า.. งั้นเดี๋ยวพี่ไปซื้อให้ดีกว่า อ้อ เก็บมือถือพี่ไว้นะ ถ้าเพื่อนพี่โทรมาจอมก็ลงไปรับได้เลย”
บุณจัดการเสร็จสรรพก่อนจะหนีหายไปปล่อยให้จอมจัดการกับของบางส่วนอย่างไม่รีบร้อน
เด็กหนุ่มตัวสูงเปิดกระเป๋าเดินทางพลางหยิบเสื้อผ้าออกมาแขวนทีละตัวพร้อมกับจัดแยกโซนระหว่างเสื้อกับกางเกงและชุดนักศึกษาให้เรียบร้อยเพื่อเวลาหยิบใส่จะได้สะดวกและไม่วุ่นวายยามเช้า
จอมจัดของไปได้เพียงชั่วครู่เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ที่ไม่คุ้นหูก็ดังขึ้นมาและเขารู้ว่ามันเป็นของบุณจึงรีบรับสายทันที
“(ถึงละ ลงมารับเลย)”
น้ำเสียงนี้ไม่ใช่ผู้หญิงแน่นอน
จอมยักไหล่ก่อนจะกดวางแล้วหยิบกุญแจห้องพร้อมคีย์การ์ดมาถือไว้ในมือจากนั้นก็กดลิฟต์ลงไปยังชั้นล่างเพื่อรับเพื่อนของบุณ
แต่เขาไม่รู้จะคุยอะไรด้วยนี่สิ แถมพี่บุณยังไปซื้อของทิ้งเขาไว้คนเดียวแบบไม่บอกไม่กล่าวอีกต่างหากว่าเพื่อนคนนี้เป็นใคร แล้วอย่างงี้จอมจะชวนคุยยังไงดีล่ะ
ยังไม่ทันจะคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปมากกว่าประตูลิฟต์ก็เปิดออกก่อนที่จอมจะแตะคีย์การ์ดเพื่อเปิดประตูแล้วเดินออกมาด้านหน้าเพื่อตามหาคนที่เป็นเพื่อนของบุณ
เขาเห็นแค่ผู้ชายตัวเกือบเท่าพี่บุณคนหนึ่งที่ใส่เสื้อสีดำ กางเกงยีนส์สีซีดกับผมทรงอันเดอร์คัทที่ดูแล้วก็ไม่ค่อยเข้ากับหน้าตาน่ารักและดวงตากลมโตนั่นเท่าไหร่ แต่คิดว่าคนนี้แหละน่าจะเป็นเพื่อนของพี่บุณ
“พี่... เพื่อนพี่บุณรึเปล่า”
นัยน์ตากลมโตหันกลับมามองตามเสียงเรียกก่อนจะลุกออกจากเก้าอี้พลางพยักหน้ารับ
“นี่น้องบุณเหรอ”
“ครับ เห็นพี่บุณบอกจะมีเพื่อนมาช่วย”
“อือๆ แล้วบุณมันไปไหนล่ะ”
คนตรงหน้ากวาดสายตามองหาเพื่อนตัวเองที่โทรไปตามแถมรบเร้าให้มาแต่ตอนนี้ดันหายหัวไปซะอย่างงั้น
“พี่บุณไปซื้อของให้ผมครับ พี่ขึ้นมาก่อนก็ได้”
“ไม่ถือใช่ป่ะ ขอขึ้นไปก่อนแล้วกัน”
อยู่ด้านล่างตรงนี้ก็ร้อนพอควรและจอมก็ขี้เกียจจะตากแดดนานๆเลยตัดสินใจชวนแขกของพี่ชายตัวเองขึ้นห้องก่อนแล้วรอให้พี่บุณกลับมาทีเดียว
ประตูห้อง 615 ถูกเปิดออกก่อนที่รีโมทแอร์จะถูกใช้งานรวมถึงนัยน์ตากลมที่กวาดสายตาสอดส่องไปทั่วห้อง
“ยังไม่ได้จัดของกันเลยนี่”
“ครับ พึ่งมาถึงได้สักพัก”
“อา.. เอาไงก่อนดี”
เพื่อนของพี่บุณเดินวนไปมาก่อนจะหยิบเสื้อผ้าจากกระเป๋าของจอมมาถือไว้แล้วจัดการเอาใส่ไม้แขวนทีละตัว
“งั้นพี่ช่วยตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวรอบุณมันมาก่อน”
“พี่บุณไปซื้อ—”
“ไม้กวาดกับที่โกยผงมาแล้ว!!”
คนที่หยิบเสื้อของจอมอยู่กลอกตาเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนตัวเองดังมาก่อนตัวก่อนที่บุณจะวิ่งเข้ามายังเตียงนอนแล้วสวมกอดเพื่อนเต็มแรง
“อีบุณ!!”
“น่าร้ากกกกกกกก ในที่สุดมึงก็มา น่ารักๆๆๆๆ”
“อีเหี้ยเอ๊ย ออกไปเลยนะ ไปช่วยน้องมึงจัดห้องเดี๋ยวนี้!”
บุณยาภรณ์บุ้ยปากออกมาราวกับเด็กเมื่อถูกเพื่อนสนิทดุเสียงดังจนจอมต้องหัวเราะออกมา เขาลากแขนของพี่บุณพร้อมทั้งไม้กวาดมายังโซนห้องนั่งเล่นก่อนจะบอกให้พี่กวาดห้องนี้ส่วนเขาจะเข้าไปเก็บเสื้อผ้าต่อ
“นี่ใส่ให้หมดแล้วนะ เดี๋ยวจะไปช่วยแยกของข้างนอก มีไรให้ช่วยก็ตะโกนบอกบุณนะ”
พี่คนที่เขายังไม่รู้ชื่อทิ้งท้ายไว้แค่นั้นแล้วปล่อยให้จอมเก็บเสื้อผ้าเข้าตู้พร้อมกับของใช้บางส่วนต่อไป ร่างสูงเดินออกมาจากบริเวณห้องนอนก่อนจะเห็นรุ่นพี่สองคนกำลังปัดกวาดเช็ดถูคราบฝุ่นออกจากเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่เขาต้องใช้งาน
เห็นแล้วเกรงใจจริงๆที่ต้องมาช่วยกันขนาดนี้
“จัดห้องเสร็จแล้วจอมเลี้ยงหมูกระทะมั้ยพี่บุณ”
คนถูกถามหันมามองด้วยแววตาเป็นประกายราวกับลูกสุนัขที่กำลังจะได้ขนมก่อนจะพยักหน้ารัวจนผมสีม่วงแดงของบุณกระจายออกอย่างน่าเอ็นดู
“พี่ด้วยนะครับ”
คนที่กำลังแกะชั้นพลาสติกที่พ่อของจอมซื้อมาเงยหน้ามองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่ชวนเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มชวนฝัน
บุณหันกลับมากดดันด้วยรอยยิ้มแบบลูกหมาด้วยอีกแรงก่อนที่ฝ่ามือเรียวจะเคาะหัวบุณด้วยด้ามไม้กวาดไปเบาๆ
“เออ ไป”
“เย้! นี่ๆๆ ชวนอรุณกับลันด้วยดีมั้ย”
“เอาสิ เดี๋ยวผมเบิกงบกับพ่อได้”
หน้าใหญ่ใจโตเชียวนะเด็กคนนี้
ได้แต่คิดในใจแต่ก็ไม่ได้บ่นอะไรออกมาเพราะยังไงเสียสุดท้ายก็ได้กินฟรีอยู่แล้ว ได้ประโยชน์เห็นๆใครจะพูดออกมาให้ตัวเองดูแย่กัน
ทั้งสามคนร่วมแรงร่วมใจกันจัดห้องไปได้ไม่นานสุดท้ายจากห้องที่โล่งโจ้งมีฝุ่นเกาะก็กลับกลายเป็นห้องที่น่าอยู่และน่านอนสำหรับจรณินทร์เป็นอย่างมาก
“เห็นเตียงแล้วอยากนอนเลยน้องจอม”
“เดี๋ยวมึงต้องเข้ามอกับกูไงบุณ ทำเนียน”
เพื่อนสนิททำเสียงดุจนบุณต้องขยับมาหลบหลังน้องตัวเองเป็นที่กำบังปล่อยให้คนตัวเล็กอีกคนจิ๊ปากใส่และบุณก็หัวเราะออกมา
“เดี๋ยวหกโมงเจอกันก็ได้ครับ ร้านไหนพวกพี่เลือกเลย ผมยังไม่รู้ว่าที่ไหนอร่อย”
“กันเองดีป่ะมึง คือดี”
บุณชะโงกหน้าออกจากแผ่นหลังกว้างของจอมมาถามเพื่อนที่ยืนกอดอกอยู่ก่อนจะทำตาปริบๆมองอีกคน
“เออ ก็บอกไอ้อรุณกับลันเอาดิ”
“ได้เลย ป่ะๆๆ เข้ามอกันน้า”
เปลี่ยนจากเกาะหลังน้องมากอดแขนเพื่อนตัวเองเอาไว้แล้วเดินออกจากห้องของจอมไปด้วยกัน รุ่นน้องตัวสูงเดินตามพี่ทั้งสองคนมาจนถึงด้านหน้าหอก่อนที่ฝ่ามือหนาจะรั้งช่วงแขนของบุณเอาไว้จนรุ่นพี่ตัวเล็กแทบล้มลงกับพื้น
“ฮึ่ย น้องจอมเป็นไรเนี่ย”
“ขอคุยด้วยแป๊ปนึงพี่บุณ”
เพื่อนของบุณพยักหน้าเออออก่อนจะเดินออกไปรอที่รถของตัวเองแล้วปล่อยให้บุณยืนคุยกับน้องสองคน
“เดี๋ยวหกโมงพี่มาไง”
“รู้ครับ แต่จะถามอะไรนิดหน่อย”
“ว่างาย ถามเลยๆ”
จรณินทร์เลื่อนสายตาไปมองยังคนที่นั่งอยู่ในรถก่อนจะสูดหายใจเรียกกำลังใจของตัวเอง
“น้องจอม เป็นไรเปล่า”
“พี่บุณ คนนั้นใคร”
“ห๊ะ”
“คนนั้นน่ะ” จอมพยักเพยิดหน้าไปทางเพื่อนของบุณที่ไม่ได้สนใจเขากับเพื่อนตัวเองเท่าไหร่นักก่อนที่บุณจะหันกลับมาพร้อมรอยยิ้มตามแบบฉบับบุณยาภรณ์
“เค้ก เพื่อนพี่เอง”
“รู้แล้ว.. แต่ยังไม่รู้ชื่อไง”
จอมหันกลับไปมองคนที่ฟุบลงไปกับพวงมาลัยรถอีกครั้งก่อนจะระบายยิ้มออกมา
“น่ารักดี”
“เอาจริงดิน้องจอม”
บุณพูดพร้อมกับดวงตารีเรียวที่เบิกโตราวกับไข่ห่านก่อนจะชะโงกหน้ามองเพื่อนของตัวเองที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ก็แค่บอกว่าน่ารัก”
"อย่าเลย เห็นชื่อมันน่ารักแบบนี้ จริงๆมันดุใช่เล่นเลยนะ” บุณทำท่าเบ้ปากก่อนจะเขย่าแขนน้องตัวเองเบาๆหลังจอมหันกับไปมองคนที่เขาพึ่งรู้ชื่อหมาดๆมาอีกครั้ง
“ผมแค่ถามชื่อเฉยๆ พี่อย่าคิดเยอะ”
“เหรออออ”
ฝ่ามือหนายกขึ้นขยี้กลุ่มผมนิ่มของบุณในจังหวะเดียวกันกับที่คนในรถเงยหน้าขึ้นมาจากพวงมาลัย
“พี่ไปเถอะ เพื่อนรอ เดี๋ยวหกโมงเจอกันครับ”
“เดี๋ยวมารับ จอมยังไม่รู้เลยว่าร้านอยู่ตรงไหน”
เด็กหนุ่มตัวสูงพยักหน้ารับก่อนจะปล่อยให้บุณเดินมาขึ้นรถเพื่อนที่ติดเครื่องรออยู่สักพักแล้วพร้อมกับเค้กหรือคุณากรที่ขมวดคิ้วมองเพื่อนทันที
“น้องมึง?”
เค้กไม่ได้ออกรถในทันทีแต่กลับหันหน้ามาบุณที่กำลังกอดกระเป๋าตัวเองเอาไว้
“อือ น้อง ทำไมอ่ะ”
“จับมือถือแขน เล่นหัวกันอย่างกับแฟน”
“ปกติก็เล่นแบบนี้อยู่แล้วนะ”
บุณพูดออกไปตามปกติเพราะตั้งแต่โตด้วยกันมาก็เล่นกันแบบนี้แล้วจริงๆ แต่ก็มีหลายครั้งที่คนนอกไม่ได้มองแบบนั้น แต่บุณยืนยันว่าทั้งเขาและจอมไม่ได้มีใครคิดเกินเลยไปมากกว่านี้จริงๆ
“ตกลงไม่ใช่แฟน”
“โอ๊ยเค้ก มึงซักเป็นพ่อเลยนะ”
“เอ้า ก็กูเห็นมันมีรังสีความรักออกมาจากพวกมึง นี่ขนาดกูบอกต้องไปมอต่อนะยังยืนคุยกันซะนานจนกูจะหลับคารถละ”
เพื่อนสนิทบ่นออกมายาวเหยียดทั้งๆที่ยังขับรถจนบุณต้องเบ้ปากออกมา
“มึงคิดไปนู่นจ้า มหาลัยอยู่ตรงนี้แต่มึงคิดไปไกลถึงอยุธยาแล้ว”
“เถียงเก่งอีเตี้ยของอรุณ”
“สัส”
บุณยกนิ้วกลางขึ้นมาโชว์ใส่เพื่อนก่อนที่เค้กจะโยนบัตรจอดรถที่พึ่งรับมาจากยามใส่หน้าคนที่นั่งข้างคนขับ
“แล้วมึงจะชวนอรุณมาด้วยใช่มั้ย”
“อือ ทั้งอรุณแล้วก็ลัน”
น้ำเสียงเล็กตอบกลับก่อนจะหันกลับไปยิ้มให้เพื่อนที่หักรถเลี้ยวเข้าใต้คณะอย่างชำนาญ
“เออ อย่าลืมบอกแล้วกัน”
“อ่าหะ..”
“แล้วหกโมงก็อย่าลืมเตือนกูด้วย”
“ทำไมอ่ะ”
“ไม่อยากพลาดหมูกระทะฟรี”
แหม ห่วงเรื่องแดกอย่างเดียวให้มันจริงเถอะอีเค้ก
แล้วบุณจะคอยดู!
////
ก็แค่อยากกินหมูกระทะฟรีไม่มีอะไรแอบแฝง แต่คนน้องอ่ะชมพี่เค้าว่าน่ารักแล้วน้า /เหล่มอง
ยังไงก็ฝาก #ดวงใจจรณินทร์ ไว้ด้วยนะคะ :) จะพยายามมาต่อไวๆ ช่วงนี้ใกล้สอบแล้วด้วย ฮือ
ปล.
คุณากร/เค้ก = คยองซู
ความคิดเห็น