ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Yaoi ] มิติฝัน ภาค 2

    ลำดับตอนที่ #4 : พบกันอีกครั้ง

    • อัปเดตล่าสุด 7 มี.ค. 53



                   แสงแดดยามเช้าเริ่มสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ไลน์ยอมลืมตาตืนขึ้นมา  แล้วคว้านาฬิกาปลุกขึ้นมาดู  เขาและเนว่าสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมของคนบนโลกได้อย่างรวดเร็ว  ใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดาเพื่อป้องกันไม่ให้คนสงสัย 

                  " 7 โมงกว่าแล้วเหรอเนี่ย เฮ้อ เจ้าเนว่าตื่นหรือยังนะเนี่ย " ไลน์บ่น  แล้วก็ค่อยๆชันตัวลุกขึ้นนั่งสะบัดหัว 2-3 ครั้งเพื่อไล่ความง่วง   บ่นพึมพำเบาๆ
                   " ท่าจะสบายจนเสียนิสัยแฮะเรา "  แล้วก็รีบไปจัดการธุระส่วนตัว  เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินออกมาก็พบเนว่านั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่แล้ว
                  " มาพอดี  อาหารเสร็จพอดีมากินได้แล้วนะ  เดี๋ยวจะได้ไปกัน "  เนว่าบอกพร้อมกับลงมือโซ้ยอาหารเช้าอย่างเมามัน  ไลน์จึงต้องเร่งสปีดตามบ้าง

                       " เจ้าว่า  วันนี้เราจะได้เบาะแสอะไรบ้างมั้ย "  เนว่าถามความเห็นของไลน์ในขณะที่กำลังเดินทางไปมหาลัย
                       " ไม่รู้เหมือนกัน  แต่ข้ารู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์นะเนว่า "  เนว่าหันมามองไลน์ที่เล่าไปทำท่าลอยๆเบลอๆไปด้วยความสงสัย
                       " ลางสังหรณ์อะไรเหรอ "  เนว่าถามเมื่อเห็นไลนืเงียบไปไม่เล่าต่อ
                       " ไม่รู้สิ  มันมีทั้งดีและไม่ดีน่ะ "  เนว่าทำหน้างง 
                      " ตกลงมันจะดีหรือไม่ดีเนี่ย เฮ้อ "  ไลน์เองก็ส่ายหน้าไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงตัดบทเสีย
                       " ช่างเหอะ  อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด  ว่าแต่วันนี้เราจะเริ่มกันที่ไหนดีล่ะ "  ไลน์ขอความเห็นจากเนว่า  ว่าควรจะไปทางไหนต่อดี
                       " อืม  วันนี้ไปทางตึกคณะวิทยาศาสตร์ดีมั้ยล่ะ "  เนว่าแสดงความเห็นพร้อมทั้งควักสมุดบันทึกที่ใช้บันทึกขอมูลและวาดแผนที่ทิ้งไว้ 
                         " ตกลง ตั้งต้นกันที่นั่นละกัน "  แล้วทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปทางตึกคณะวิทยาศาสตร์ทันที

     ..................................................................................

                   " เมล เฮ้ เมล นายจะไปไหนน่ะ "  เซตตะโกนไล่หลังเมลซึ่งเดินด้วยสปีดประมาณว่า กระบือหายต้องรีบไปตาม  เมลหันมามองก่อนที่จะตอบอย่างเบื่อหน่าย
                    " ชั้นจะไปไหนต้องรายงานนายตลอดเลยหรือไงล่ะ เซต ปล่อยชั้นอยู่คนเดียวบ้างได้มั้ย ฮะ "  เมลหน้าบึ้ง  แต่บึ้งยังไงก็ยังน่ามองอยู่ดี  ไม่ทันที่เซตจะตอบอะไร  เสียงแหลมๆของไดอาน่าก็แหลมมาซะก่อน
                   " นั่นสิ เซต นายน่ะน่าจะปล่อยเมลให้อยู่คนเดียวบ้างน๊า "  เดินเข้ามาคล้องแขนเมลลอยหน้าลอยตา  เมลได้แต่คิดอย่างเบื่อๆ 'มาอีกแล้ว'
                   " ฮึ เธอเองก็เหมือนกันแหละ  คิดเหรอว่าเมลเค้าอยากจะอยู่ใกล้น่ะ  ฮึ " เซตตอกกลับ  ทำเอายิ้มหวานๆกลายเป็นขมในทันที  จนเมลต้องห้ามทัพแทบไม่ทันก่อนที่จะมีสงครามน้ำลายมาอีก

                   " พอ พอกันที  น่าเบื่อจริงๆเลยพวกเธอนี่   เซต  ไดอาน่า วันนี้ชั้นไม่มีอารมณ์จะมาคุยกับพวกเธอหรอกนะ โทษที  ขอชั้นอยู่คนเดียวเถอะ ขอร้องล่ะนะ "  
                     แล้วเมลก็เดินจากไปอย่างหงุดหงิด  ปล่อยให้เซตและไดอาน่ามองตามอย่างเหวอๆ  ที่นานๆทีเมลจะออกอาการแบบนี้  ภาพที่พวกเขาเห็นจากด้านหลังทำให้ทั้งเซตและไดอาน่าต้องหันมามองหน้ากัน  อย่างนึกห่วงเมล ความเหงาดูจะครอบคลุมเมลจนรู้สึกได้ แม้จะมองจากแผ่นหลังก็รู้สึกถึงความอึดอัดที่เมลกำลังเผชิญอยู่

                    " ไดอาน่า  เธอรู้สึกมั้ยว่า เมลช่วงนี้เขาจะเหม่อบ่อยขึ้นนะ "  เซต ยอมหันมาคุยดีๆกับไดอาน่า  
                    " ก็พอรู้สึกน่ะ ไม่รู้ว่ามีเรื่องกลุ้มใจอะไร แต่ชั้นว่าไม่ใช่เรื่องชั้นแน่ "  ยังไม่วายเข้าข้างตัวเอง
                     " เชอะ  ชั้นก็ว่าไม่ใช่เรื่องของชั้นเหมือนกันแหละ "  และแล้วก็หันมามองหน้ากัน  แล้วก็สะบัดหน้าเดินไปคนละทาง  ให้ตาย คุยกันไม่เคยรู้เรื่องเล้ย

        ......................

                     หลังจากที่ว้ากใส่เซตและไดอาน่าแล้ว  เมลก็เดินออกมาอย่างไม่มีจุดหมาย  มารู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่ที่สวนสาธารณใจกลางเมืองซะแล้ว  ทเขามักจะมาที่นี่ทุกครั้งที่เขารู้สึกเหงาและคิดถึงไลน์  เมลเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆ  สายลมที่พัดมาทำให้รู้สึกหนาวเยือก  เมลยกแขนขี้นกอดอกหลับตาลง เพื่อรู้สึกถึงกระแสลมเย็นๆนั้น  และพึมพำเบาๆอย่างปวดร้าว 
                     " ไลน์  ไลน์  ชั้นคิดถึงนายเหลือเกิน  ไลน์"  น้ำตาใสๆหยาดลงอาบแก้มเนียนช้าๆ และค่อยๆเหือดแห้งไป..

                     " ไลน์  ไลน์ เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ "  เนว่าเรียกไลน์เมื่อเห็นเขาหยุดเดิน  แล้วยืนนิ่งรับสายลมที่พัดผ่าน  หลับตาสนิท ราวกับว่ากำลังซึมซับอะไรจากสายลม  ไลน์ลืมตาขึ้น  พร้อมกับหันมาหาเนว่าก่อนที่จะตอบ
                       " ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้สึกถึงความรู้สึกที่มากับสายลม  เหมือนมีคนเรียกข้าอยู่  "  ไลน์เหม่อมองไปข้างหน้า  สายตาหม่นเศร้า เขาพึมพำกับตัวเอง
                      " เมล   เจ้าหรือเปล่า  เจ้าเรียกข้าหรือเปล่า  ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหน " เนว่าขมวดคิ้วมุ่น  เค้าได้ยินไลน์พึมพำอะไร  ได้ยินไม่ถนัด
                      " เจ้าว่าอะไรนะ ไลน์ "  ไลน์ลืมตาแล้วหันมามองเนว่า
                       " เปล่าหรอก เนว่า เราไปกันเถอะ ที่นี่ก็ไม่มีวี่แววคนๆนั้นนี่นา "  เนว่าพยักหน้า  เขาพอจะเดาได้ว่า ไลน์กำลังคิดถึงใคร  คงเป็นเมล ที่พวกเทนโอเล่าให้ฟังแน่ๆ  อีกอย่างที่นี่ก็เป็นมิติที่เมลอาศัยอยู่  ไม่แน่ว่าสายลมอาจจะพัดพากลิ่นอายและกระแสความรู้สึกของเมลมาก็ได้  เมื่อคิดได้ดังนั้น เนว่าก็รู้สึกเห็นใจไลน์และเมลยิ่งนัก  ด้านหลังของไลน์ที่เขาเห็น  ราวกับว่าไลน์ได้แบกรับสิ่งที่หนักอึ้งไว้บนบ่าทั้งสองของเขาอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้เลย  
                        " ข้าอยากจะช่วยเจ้านะไลน์  แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะช่วยอะไรได้มากกว่าการเป็นกำลังใจให้เจ้า "  เนว่าพูดเสียงเบาราวกับจะบอกตัวเองมากกว่าที่จะบอกกับไลน์  ดวงตาเปล่งประกายอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครเข้าใจออกมาวูบหนึ่งและหายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะออกเดินตามร่างสูงไปเงียบๆ

      ....................................................................................

                          " เมล เมล เป็นอะไรหรือเปล่าลูก  กับข้าวจะเย็นหมดแล้วนะจ๊ะ "  เสียงแม่ร้องท้วงเมื่อเห็นลูกชายคนโตเอาแต่คีบข้าวเล่นไปมาไม่เอาเข้าปากสักที  เมลสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแม่
                        " อ๊ะ เอ่อ เปล่าฮะแม่ พอดีผมยังไม่หิวน่ะฮะ "  เมลยิ้มแหยๆ ก่อนที่จะรีบทานอาหาร  น้องสาวของเขาก็ถามอีก
                         " หมู่นี้เรียนหนักหรือคะพี่เมล  ไม่ค่อยกลับมาบ้านเลย "  เมลมองหน้าน้องสาวที่เขารักปานดวงใจก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน
                         " ก็นิดหน่อยจ้ะ  มามิล่ะ เป็นไงบ้าง "  สาวน้อยหน้าใสยิ้มก่อนตอบพี่ชาย
                         "ก็เรื่อยๆค่ะ  แต่ไม่มีพี่คอยสอนการบ้านให้  หนูเลยแย่เลย "  มามิยิ้มทะเล้นๆ  เมลยื่นมือมาขยี้ผมน้องสาวอย่างเป็นดู   เขาออกจากบ้านไปอยุ่หอพักตั้งแต่เข้ามหาลัยได้  โดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้เวลากับการเรียนและอยากจะลองอยู่คนเดียวบ้าง  แต่เขาก็กลับมาบ้านทุกอาทิตย์  อย่างเช่นวันนี้ก็กลับมาทานข้าวที่บ้าน  
                            เมลอยู่คุยกับครอบครัวอยู่นานจนกระทั่งนาฬิกาตีบอกเวลา 3 ทุ่ม จึงกลับหอพัก เขาใช้วิธีเดินเพราะยังไม่ดึกมากนัก  และวันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยปลอดโปร่ง  เหมือนว่ามีหมอกบางๆมาบดบัง  ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน  บางทีเดินเล่นตอนดึกอาจจะพอช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นก็ได้

     
                        ขณะเดียวกัน  ที่คอนโดที่พักของไลน์และเนว่า หลังจากที่ทั้งสองนั่งคุยกันเรื่องเป้าหมายของที่ที่จะไปในวันรุ่งขึ้นเสร็จ  เนว่าก็ขอตัวเข้าห้องปล่อยให้ไลน์ใช้ความคิดอยู่คนเดียวเงียบๆ
                      ไลน์ยืนรับลมที่ระเบียงนอกห้องอย่างเหม่อลอย  แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงกระแสจิตที่อ่อนโยนและหงอยเหงาเหมือนที่เขาเคยรับได้เมื่อกลางวัน  มากับสายลม  ไลน์ตัดสินใจ ที่จะค้นหาต้นตอของกระแจิตนั้นอย่างรวดเร็ว  เขาออกจากห้องไปโดยเขียนโน๊ตบอกเนว่าไว้  เขาเดินมาตามถนนเรื่อยๆจนถึงสวนสาธารณกลางเมืองที่แสนร่มรื่น  คืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวดวงน้อยใหญ่  เขาเดินเข้ามาในสวนลึกเข้าไปเรื่อยๆจนถึงส่วนกลางของสวนสาธาณะ ซึ่งเป็นลานกว้าง  มองเห็นท้องฟ้าชัดเจน  แถวนี้ไม่มีคนมารบกวน  ไลน์หันไปมองรอบๆสายลมพัดเรื่อยๆ  อีกแล้วกระแสจิตแบบนี้  ไลน์เริ่มเดินทวนกระแสลมมาเรื่อยๆ  ในที่สุดเขาก็ทะลุมาอีกฟากหนึ่งของสวน  ไลน์สอดส่ายสายตาไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งร้อนเท่าไหร่  แต่แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้าง  ชีพจรเต้นแรง  หัวใจแทบจะกระเด็นออกมานอกอก  เมื่อสายตาได้ปะทะกับร่างร่างหนึ่งที่ยืนนิ่งอยู่กลางสวน  ร่างนั่นยืนนิ่งสงบหันหลังให้กับเขา


                      ไลน์ไม่อยากเชื่อสายตา  เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ร่างเพรียวนั้นด้วยใจระทึก  เมื่อลมพัดผ่านมาอีกระลอก  เมฆบนท้องฟ้ากเคลื่อนที่ย้ายไป  ร่างเพรียวบางตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนไหว  และหันมาทางเขาช้าๆ  และชะงักในที่สุดเมื่อประจันหน้ากันจังๆ 
                       เมลแทบหยุดหายใจ  เลือดในกายเย็นเฉียบด้วยความตกใจ  ตื่นเต้น  เขานิ่งงันไปเมื่อหันมาพบร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า  แสงจากดวงดาวและโคมไฟช่วยให้เห็นหน้าผู้อยู่เบื้องหน้าชัดขึ้น เมลแทบไม่เชื่อวายตาว่าคนตรงหน้าคือ คนที่เขารักที่สุดในชีวิต  คนที่เขาเคยคิดว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว  เมลพยายามที่จะเปล่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้า  แต่เขากลับไม่มีเสียงหลุดออกมาเลย  
                      ส่วนไลน์นั้นตะลึงงัน  เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าร่างบางที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ คนที่เขารักอย่างมากมายและคิดถึงมาตลอดทุกลมหายใจเข้าออก  ไม่มีเวลาใดที่เขาจะลืมคนๆนี้ไปจากหัวใจได้เลย
                     ทั้งสองยืนประจันหน้ากันชั่วครู่ก่อนที่ไลน์จะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปหาร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า  ใบหน้าแบบนี้  รูปร่างแบบนี้  เขาจำได้ทุกกระเบียดนิ้ว  ความรู้สึกยามได้สัมผัส  เสียงหวานๆยามเอ่ยเอื้อน  เมลของเขา  นี่คือเมลของเขาจริงๆ  ไลน์เข้ามาจนชิดร่างบางแล้วค่อยๆยกมือขึ้นจับไหล่บางทั้งสองไว้มั่นราวกับกลัวว่าที่เห็นจะเป็นเพียงภาพลวงตา  หยาดน้ำตาใสๆที่คลอตาอยู่เริ่มไหลรินลงอาบแก้มเนียนบาง  ไลน์ใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา  และจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน เขาจูบระเรื่อยไปทั่วใบหน้านั้นอย่างแสนรักและคิดถึง  
                      เมลเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง  เขาเริ่มยกเรียวแขนขึ้นโอบคอชายหนุ่มตรงหน้าแนบแน่น  หลับตาเมื่อร่างสูงประทับริมฝีปากลงมายังริมฝีปากบางเฉียบและเย็นเยียบของตน ร่างกายที่เย็นเพราะถุกลมเริ่มอุ่นมากขึ้นเมื่อร่างสูงเพิ่อการกอดรัดมากขึ้นจนสองร่างแทบรวมเป็นร่างเดียว  ไลน์วนเวียนพรมจูบไปทั่วใบหน้าน้อยอย่างคิดถึงและมาหยุดที่ริมฝีปากบางที่เขารู้ดีว่าหวานแค่ไหน

                      ไลน์ดันร่างบางออกมานิดหนึ่ง  เขาจ้องมองเมลด้วยความรัก  ทั้งสองไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย  ทุกอย่างสื่อออกมาจากดวงตาที่ประสานกันอยู่  ทั้งสองยิ้มให้แก่กันอย่างอบอุ่น  ก่อนที่ไลน์จะดึงเมลเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง  เมลซบหน้าลงกับอกไลน์ด้วยความรู้สึกเป็นสุขและสงบอย่างไม่อาจอธิบายได้  มันช่างเป็นความสุขที่เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมีได้  หลังจากที่เขาต้องจากกับไลน์  ความทรมานตลอด 1 ปีที่ผ่านมาสลายลงไปทันทีที่ไลน์สัมผัสเขาและเชื่อว่าไลน์ก็คงเป็นเหมือนเขาเช่นกัน  

                     ทั้งสองยังคงอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน  แม้จะไม่มีคำพูดใดเอ่ยจากปาก  แม้จะไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น  แต่ทั้งไลน์และเมลต่างก็มีความสุขมากแล้ว  ที่จะได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันแบบนี้  เมลหลับตาซบอกของไลน์อย่างสงบฟังเสียงหัวใจของไลน์ที่เต้นเป็นจังหวะ  ราวกับจะบอกเขาว่ารักมากเพียงใด เช่นเดียวกับไลน์  เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว  ทำให้นึกถึงคืนสุดท้ายที่มิติมายา  คืนนั้นท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดาวแบบนี้เช่นกัน  คืนนั้นเขาและเมลต่างโอบกอดกันด้วยความเจ็บปวดที่ต้อวจากกัน  แต่คืนนี้ไม่ใช่  การโอบกอดไม่ใช่เพื่อการจากลาแต่เป็นการยินดีและเป็นสุขจากการที่ได้มาพบกัน  ไลน์ยิ้มก่อนจะซบหน้าลงกับผมนุ่มๆของเมล ไลน์โยกตัวน้อยๆโอบกอดเมลแน่น สายลมเย็นๆพัดผ่านมาอีก  แต่ทั้งไลน์และเมลไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นนั้นเลยนอกจากความอบอุ่นและรู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่ง ......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×