คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : พบกันอีกครั้ง
แสงแดดยามเช้าเริ่มสาดส่องเข้ามาทางหน้าต่างทำให้ไลน์ยอมลืมตาตืนขึ้นมา แล้วคว้านาฬิกาปลุกขึ้นมาดู เขาและเนว่าสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมของคนบนโลกได้อย่างรวดเร็ว ใช้ชีวิตแบบคนปกติธรรมดาเพื่อป้องกันไม่ให้คนสงสัย
" 7 โมงกว่าแล้วเหรอเนี่ย เฮ้อ เจ้าเนว่าตื่นหรือยังนะเนี่ย " ไลน์บ่น แล้วก็ค่อยๆชันตัวลุกขึ้นนั่งสะบัดหัว 2-3 ครั้งเพื่อไล่ความง่วง บ่นพึมพำเบาๆ
" ท่าจะสบายจนเสียนิสัยแฮะเรา " แล้วก็รีบไปจัดการธุระส่วนตัว เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้วก็เดินออกมาก็พบเนว่านั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหารอยู่แล้ว
" มาพอดี อาหารเสร็จพอดีมากินได้แล้วนะ เดี๋ยวจะได้ไปกัน " เนว่าบอกพร้อมกับลงมือโซ้ยอาหารเช้าอย่างเมามัน ไลน์จึงต้องเร่งสปีดตามบ้าง
" เจ้าว่า วันนี้เราจะได้เบาะแสอะไรบ้างมั้ย " เนว่าถามความเห็นของไลน์ในขณะที่กำลังเดินทางไปมหาลัย
" ไม่รู้เหมือนกัน แต่ข้ารู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์นะเนว่า " เนว่าหันมามองไลน์ที่เล่าไปทำท่าลอยๆเบลอๆไปด้วยความสงสัย
" ลางสังหรณ์อะไรเหรอ " เนว่าถามเมื่อเห็นไลนืเงียบไปไม่เล่าต่อ
" ไม่รู้สิ มันมีทั้งดีและไม่ดีน่ะ " เนว่าทำหน้างง
" ตกลงมันจะดีหรือไม่ดีเนี่ย เฮ้อ " ไลน์เองก็ส่ายหน้าไม่รู้จะอธิบายอย่างไร จึงตัดบทเสีย
" ช่างเหอะ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ว่าแต่วันนี้เราจะเริ่มกันที่ไหนดีล่ะ " ไลน์ขอความเห็นจากเนว่า ว่าควรจะไปทางไหนต่อดี
" อืม วันนี้ไปทางตึกคณะวิทยาศาสตร์ดีมั้ยล่ะ " เนว่าแสดงความเห็นพร้อมทั้งควักสมุดบันทึกที่ใช้บันทึกขอมูลและวาดแผนที่ทิ้งไว้
" ตกลง ตั้งต้นกันที่นั่นละกัน " แล้วทั้งสองคนก็มุ่งหน้าไปทางตึกคณะวิทยาศาสตร์ทันที
..................................................................................
" เมล เฮ้ เมล นายจะไปไหนน่ะ " เซตตะโกนไล่หลังเมลซึ่งเดินด้วยสปีดประมาณว่า กระบือหายต้องรีบไปตาม เมลหันมามองก่อนที่จะตอบอย่างเบื่อหน่าย
" ชั้นจะไปไหนต้องรายงานนายตลอดเลยหรือไงล่ะ เซต ปล่อยชั้นอยู่คนเดียวบ้างได้มั้ย ฮะ " เมลหน้าบึ้ง แต่บึ้งยังไงก็ยังน่ามองอยู่ดี ไม่ทันที่เซตจะตอบอะไร เสียงแหลมๆของไดอาน่าก็แหลมมาซะก่อน
" นั่นสิ เซต นายน่ะน่าจะปล่อยเมลให้อยู่คนเดียวบ้างน๊า " เดินเข้ามาคล้องแขนเมลลอยหน้าลอยตา เมลได้แต่คิดอย่างเบื่อๆ 'มาอีกแล้ว'
" ฮึ เธอเองก็เหมือนกันแหละ คิดเหรอว่าเมลเค้าอยากจะอยู่ใกล้น่ะ ฮึ " เซตตอกกลับ ทำเอายิ้มหวานๆกลายเป็นขมในทันที จนเมลต้องห้ามทัพแทบไม่ทันก่อนที่จะมีสงครามน้ำลายมาอีก
" พอ พอกันที น่าเบื่อจริงๆเลยพวกเธอนี่ เซต ไดอาน่า วันนี้ชั้นไม่มีอารมณ์จะมาคุยกับพวกเธอหรอกนะ โทษที ขอชั้นอยู่คนเดียวเถอะ ขอร้องล่ะนะ "
แล้วเมลก็เดินจากไปอย่างหงุดหงิด ปล่อยให้เซตและไดอาน่ามองตามอย่างเหวอๆ ที่นานๆทีเมลจะออกอาการแบบนี้ ภาพที่พวกเขาเห็นจากด้านหลังทำให้ทั้งเซตและไดอาน่าต้องหันมามองหน้ากัน อย่างนึกห่วงเมล ความเหงาดูจะครอบคลุมเมลจนรู้สึกได้ แม้จะมองจากแผ่นหลังก็รู้สึกถึงความอึดอัดที่เมลกำลังเผชิญอยู่
" ไดอาน่า เธอรู้สึกมั้ยว่า เมลช่วงนี้เขาจะเหม่อบ่อยขึ้นนะ " เซต ยอมหันมาคุยดีๆกับไดอาน่า
" ก็พอรู้สึกน่ะ ไม่รู้ว่ามีเรื่องกลุ้มใจอะไร แต่ชั้นว่าไม่ใช่เรื่องชั้นแน่ " ยังไม่วายเข้าข้างตัวเอง
" เชอะ ชั้นก็ว่าไม่ใช่เรื่องของชั้นเหมือนกันแหละ " และแล้วก็หันมามองหน้ากัน แล้วก็สะบัดหน้าเดินไปคนละทาง ให้ตาย คุยกันไม่เคยรู้เรื่องเล้ย
......................
หลังจากที่ว้ากใส่เซตและไดอาน่าแล้ว เมลก็เดินออกมาอย่างไม่มีจุดหมาย มารู้ตัวอีกทีเขาก็มาอยู่ที่สวนสาธารณใจกลางเมืองซะแล้ว ทเขามักจะมาที่นี่ทุกครั้งที่เขารู้สึกเหงาและคิดถึงไลน์ เมลเงยหน้ามองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยเมฆ สายลมที่พัดมาทำให้รู้สึกหนาวเยือก เมลยกแขนขี้นกอดอกหลับตาลง เพื่อรู้สึกถึงกระแสลมเย็นๆนั้น และพึมพำเบาๆอย่างปวดร้าว
" ไลน์ ไลน์ ชั้นคิดถึงนายเหลือเกิน ไลน์" น้ำตาใสๆหยาดลงอาบแก้มเนียนช้าๆ และค่อยๆเหือดแห้งไป..
" ไลน์ ไลน์ เจ้าเป็นอะไรไปน่ะ " เนว่าเรียกไลน์เมื่อเห็นเขาหยุดเดิน แล้วยืนนิ่งรับสายลมที่พัดผ่าน หลับตาสนิท ราวกับว่ากำลังซึมซับอะไรจากสายลม ไลน์ลืมตาขึ้น พร้อมกับหันมาหาเนว่าก่อนที่จะตอบ
" ไม่รู้เหมือนกัน ข้ารู้สึกถึงความรู้สึกที่มากับสายลม เหมือนมีคนเรียกข้าอยู่ " ไลน์เหม่อมองไปข้างหน้า สายตาหม่นเศร้า เขาพึมพำกับตัวเอง
" เมล เจ้าหรือเปล่า เจ้าเรียกข้าหรือเปล่า ตอนนี้เจ้าอยู่ที่ไหน " เนว่าขมวดคิ้วมุ่น เค้าได้ยินไลน์พึมพำอะไร ได้ยินไม่ถนัด
" เจ้าว่าอะไรนะ ไลน์ " ไลน์ลืมตาแล้วหันมามองเนว่า
" เปล่าหรอก เนว่า เราไปกันเถอะ ที่นี่ก็ไม่มีวี่แววคนๆนั้นนี่นา " เนว่าพยักหน้า เขาพอจะเดาได้ว่า ไลน์กำลังคิดถึงใคร คงเป็นเมล ที่พวกเทนโอเล่าให้ฟังแน่ๆ อีกอย่างที่นี่ก็เป็นมิติที่เมลอาศัยอยู่ ไม่แน่ว่าสายลมอาจจะพัดพากลิ่นอายและกระแสความรู้สึกของเมลมาก็ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้น เนว่าก็รู้สึกเห็นใจไลน์และเมลยิ่งนัก ด้านหลังของไลน์ที่เขาเห็น ราวกับว่าไลน์ได้แบกรับสิ่งที่หนักอึ้งไว้บนบ่าทั้งสองของเขาอย่างไม่สามารถเลี่ยงได้เลย
" ข้าอยากจะช่วยเจ้านะไลน์ แต่ข้าก็ไม่รู้ว่าข้าจะช่วยอะไรได้มากกว่าการเป็นกำลังใจให้เจ้า " เนว่าพูดเสียงเบาราวกับจะบอกตัวเองมากกว่าที่จะบอกกับไลน์ ดวงตาเปล่งประกายอย่างหนึ่งที่ไม่มีใครเข้าใจออกมาวูบหนึ่งและหายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่จะออกเดินตามร่างสูงไปเงียบๆ
....................................................................................
" เมล เมล เป็นอะไรหรือเปล่าลูก กับข้าวจะเย็นหมดแล้วนะจ๊ะ " เสียงแม่ร้องท้วงเมื่อเห็นลูกชายคนโตเอาแต่คีบข้าวเล่นไปมาไม่เอาเข้าปากสักที เมลสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงแม่
" อ๊ะ เอ่อ เปล่าฮะแม่ พอดีผมยังไม่หิวน่ะฮะ " เมลยิ้มแหยๆ ก่อนที่จะรีบทานอาหาร น้องสาวของเขาก็ถามอีก
" หมู่นี้เรียนหนักหรือคะพี่เมล ไม่ค่อยกลับมาบ้านเลย " เมลมองหน้าน้องสาวที่เขารักปานดวงใจก่อนจะยิ้มอย่างอ่อนโยน
" ก็นิดหน่อยจ้ะ มามิล่ะ เป็นไงบ้าง " สาวน้อยหน้าใสยิ้มก่อนตอบพี่ชาย
"ก็เรื่อยๆค่ะ แต่ไม่มีพี่คอยสอนการบ้านให้ หนูเลยแย่เลย " มามิยิ้มทะเล้นๆ เมลยื่นมือมาขยี้ผมน้องสาวอย่างเป็นดู เขาออกจากบ้านไปอยุ่หอพักตั้งแต่เข้ามหาลัยได้ โดยให้เหตุผลว่าต้องการใช้เวลากับการเรียนและอยากจะลองอยู่คนเดียวบ้าง แต่เขาก็กลับมาบ้านทุกอาทิตย์ อย่างเช่นวันนี้ก็กลับมาทานข้าวที่บ้าน
เมลอยู่คุยกับครอบครัวอยู่นานจนกระทั่งนาฬิกาตีบอกเวลา 3 ทุ่ม จึงกลับหอพัก เขาใช้วิธีเดินเพราะยังไม่ดึกมากนัก และวันนี้เขารู้สึกไม่ค่อยปลอดโปร่ง เหมือนว่ามีหมอกบางๆมาบดบัง ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจเหลือเกิน บางทีเดินเล่นตอนดึกอาจจะพอช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นก็ได้
ขณะเดียวกัน ที่คอนโดที่พักของไลน์และเนว่า หลังจากที่ทั้งสองนั่งคุยกันเรื่องเป้าหมายของที่ที่จะไปในวันรุ่งขึ้นเสร็จ เนว่าก็ขอตัวเข้าห้องปล่อยให้ไลน์ใช้ความคิดอยู่คนเดียวเงียบๆ
ไลน์ยืนรับลมที่ระเบียงนอกห้องอย่างเหม่อลอย แต่แล้วเขาก็รู้สึกถึงกระแสจิตที่อ่อนโยนและหงอยเหงาเหมือนที่เขาเคยรับได้เมื่อกลางวัน มากับสายลม ไลน์ตัดสินใจ ที่จะค้นหาต้นตอของกระแจิตนั้นอย่างรวดเร็ว เขาออกจากห้องไปโดยเขียนโน๊ตบอกเนว่าไว้ เขาเดินมาตามถนนเรื่อยๆจนถึงสวนสาธารณกลางเมืองที่แสนร่มรื่น คืนนี้ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดาวดวงน้อยใหญ่ เขาเดินเข้ามาในสวนลึกเข้าไปเรื่อยๆจนถึงส่วนกลางของสวนสาธาณะ ซึ่งเป็นลานกว้าง มองเห็นท้องฟ้าชัดเจน แถวนี้ไม่มีคนมารบกวน ไลน์หันไปมองรอบๆสายลมพัดเรื่อยๆ อีกแล้วกระแสจิตแบบนี้ ไลน์เริ่มเดินทวนกระแสลมมาเรื่อยๆ ในที่สุดเขาก็ทะลุมาอีกฟากหนึ่งของสวน ไลน์สอดส่ายสายตาไปเรื่อยๆอย่างไม่เร่งร้อนเท่าไหร่ แต่แล้วเขาก็ต้องเบิกตากว้าง ชีพจรเต้นแรง หัวใจแทบจะกระเด็นออกมานอกอก เมื่อสายตาได้ปะทะกับร่างร่างหนึ่งที่ยืนนิ่งอยู่กลางสวน ร่างนั่นยืนนิ่งสงบหันหลังให้กับเขา
ไลน์ไม่อยากเชื่อสายตา เขาค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ร่างเพรียวนั้นด้วยใจระทึก เมื่อลมพัดผ่านมาอีกระลอก เมฆบนท้องฟ้ากเคลื่อนที่ย้ายไป ร่างเพรียวบางตรงหน้าก็เริ่มเคลื่อนไหว และหันมาทางเขาช้าๆ และชะงักในที่สุดเมื่อประจันหน้ากันจังๆ
เมลแทบหยุดหายใจ เลือดในกายเย็นเฉียบด้วยความตกใจ ตื่นเต้น เขานิ่งงันไปเมื่อหันมาพบร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า แสงจากดวงดาวและโคมไฟช่วยให้เห็นหน้าผู้อยู่เบื้องหน้าชัดขึ้น เมลแทบไม่เชื่อวายตาว่าคนตรงหน้าคือ คนที่เขารักที่สุดในชีวิต คนที่เขาเคยคิดว่าชั่วชีวิตนี้คงไม่มีวันได้เจอกันอีกแล้ว เมลพยายามที่จะเปล่งเสียงร้องเรียกคนตรงหน้า แต่เขากลับไม่มีเสียงหลุดออกมาเลย
ส่วนไลน์นั้นตะลึงงัน เขาแทบไม่อยากเชื่อสายตาเลยว่าร่างบางที่อยู่ตรงหน้านั้นคือ คนที่เขารักอย่างมากมายและคิดถึงมาตลอดทุกลมหายใจเข้าออก ไม่มีเวลาใดที่เขาจะลืมคนๆนี้ไปจากหัวใจได้เลย
ทั้งสองยืนประจันหน้ากันชั่วครู่ก่อนที่ไลน์จะเริ่มเคลื่อนตัวเข้าไปหาร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่เบื้องหน้า ใบหน้าแบบนี้ รูปร่างแบบนี้ เขาจำได้ทุกกระเบียดนิ้ว ความรู้สึกยามได้สัมผัส เสียงหวานๆยามเอ่ยเอื้อน เมลของเขา นี่คือเมลของเขาจริงๆ ไลน์เข้ามาจนชิดร่างบางแล้วค่อยๆยกมือขึ้นจับไหล่บางทั้งสองไว้มั่นราวกับกลัวว่าที่เห็นจะเป็นเพียงภาพลวงตา หยาดน้ำตาใสๆที่คลอตาอยู่เริ่มไหลรินลงอาบแก้มเนียนบาง ไลน์ใช้นิ้วเกลี่ยน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา และจูบซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน เขาจูบระเรื่อยไปทั่วใบหน้านั้นอย่างแสนรักและคิดถึง
เมลเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนอง เขาเริ่มยกเรียวแขนขึ้นโอบคอชายหนุ่มตรงหน้าแนบแน่น หลับตาเมื่อร่างสูงประทับริมฝีปากลงมายังริมฝีปากบางเฉียบและเย็นเยียบของตน ร่างกายที่เย็นเพราะถุกลมเริ่มอุ่นมากขึ้นเมื่อร่างสูงเพิ่อการกอดรัดมากขึ้นจนสองร่างแทบรวมเป็นร่างเดียว ไลน์วนเวียนพรมจูบไปทั่วใบหน้าน้อยอย่างคิดถึงและมาหยุดที่ริมฝีปากบางที่เขารู้ดีว่าหวานแค่ไหน
ไลน์ดันร่างบางออกมานิดหนึ่ง เขาจ้องมองเมลด้วยความรัก ทั้งสองไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาเลย ทุกอย่างสื่อออกมาจากดวงตาที่ประสานกันอยู่ ทั้งสองยิ้มให้แก่กันอย่างอบอุ่น ก่อนที่ไลน์จะดึงเมลเข้าสู่อ้อมกอดอีกครั้ง เมลซบหน้าลงกับอกไลน์ด้วยความรู้สึกเป็นสุขและสงบอย่างไม่อาจอธิบายได้ มันช่างเป็นความสุขที่เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะมีได้ หลังจากที่เขาต้องจากกับไลน์ ความทรมานตลอด 1 ปีที่ผ่านมาสลายลงไปทันทีที่ไลน์สัมผัสเขาและเชื่อว่าไลน์ก็คงเป็นเหมือนเขาเช่นกัน
ทั้งสองยังคงอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน แม้จะไม่มีคำพูดใดเอ่ยจากปาก แม้จะไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่านั้น แต่ทั้งไลน์และเมลต่างก็มีความสุขมากแล้ว ที่จะได้อยู่ในอ้อมกอดของกันและกันแบบนี้ เมลหลับตาซบอกของไลน์อย่างสงบฟังเสียงหัวใจของไลน์ที่เต้นเป็นจังหวะ ราวกับจะบอกเขาว่ารักมากเพียงใด เช่นเดียวกับไลน์ เขาเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว ทำให้นึกถึงคืนสุดท้ายที่มิติมายา คืนนั้นท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยดาวแบบนี้เช่นกัน คืนนั้นเขาและเมลต่างโอบกอดกันด้วยความเจ็บปวดที่ต้อวจากกัน แต่คืนนี้ไม่ใช่ การโอบกอดไม่ใช่เพื่อการจากลาแต่เป็นการยินดีและเป็นสุขจากการที่ได้มาพบกัน ไลน์ยิ้มก่อนจะซบหน้าลงกับผมนุ่มๆของเมล ไลน์โยกตัวน้อยๆโอบกอดเมลแน่น สายลมเย็นๆพัดผ่านมาอีก แต่ทั้งไลน์และเมลไม่รู้สึกถึงความหนาวเย็นนั้นเลยนอกจากความอบอุ่นและรู้สึกเป็นสุขอย่างยิ่ง ......
ความคิดเห็น