ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    +STAFFONLY+[PANDAMONKEY]

    ลำดับตอนที่ #2 : 12/21 chaptor 01 : Panda

    • อัปเดตล่าสุด 15 ส.ค. 51


    12/21

     

    เฮ้ย....ตีมันเลยดิ   (ไอ้พวกชอบความรุนแรง)

     

    เน่ ....ออดิชั่นมีคนขอเราแต่งงานอ่ะ  (ยัยเด็กแก่แดด)

     

    เฮ้ย....ดูมันเด่ะ เปิดกล้องอุบาทโคตร (น้องคิดว่าน้องสวยแล้วเรอะไง)

     

    เสียงที่ดังเข้ามากระทบโสตประสาทแห่งการรับรู้ของ วิน หรือวินโดว์ ลูกสาวเพียงคนเดียวของเจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ ที่ชื่อว่า world wide Net  เข้าอย่างจังโดยไม่ต้องใช้เครื่องอะไรสแกน  แม้ว่าเธอจะทำเป็นหูทวนลมแล้วก็เหอะ   แต่เหมือนกับว่าพระเจ้าจะลงโทษมนุษย์ที่อัปเปหิตัวเองออกมาโคจรนอกโลกอย่างเธอให้ต้องทนทุกข์ทรมาน   กับบรรดาเสียงดังพร่ำบ่นของเด็กๆ ที่เธอแสนจะเกลียดแสนเกลียด 

     

    ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเด็กสมัยนี่มันจะแก่แดด แก่ลมอะไรกันขนาดนี้  ไร้ซึ่งสัมมาคารวะ  แต่ละคนแรงๆ ทั้งนั้น  พ่อแม่ก็ไม่รู้จักดูแลเอาใจใส่  คิดว่าร้านเน็ตเป็นเนอร์เซอร์รี่รึไงกันนะ  ถ้าไม่เต็มใจเลี้ยงก็อย่าทำให้เกิดมาตั้งแต่แรกสิ  ปล่อยปะละเลยให้เป็นปัญหาสังคมอยู่ทำไมกัน  ที่จริยธรรมของมนุษย์มันตกต่ำลงก็เพราะคนพวกนี่นี้หล่ะ

     

    วิน คิดค่อนคอดในใจพรางเหลือบตาดูนาฬิกา  เข็มยาวกำลังชี้ไปที่เลข 11  ส่วนสั้นเข็มสั้นก็จ่ออยู่หน้าเลข 8  แล้ว  3 ชั่วโมง แห่งการทนทรมานใกล้จะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่อึดใจแล้ว

     

    อะไรอ่ะ  ไม่เชื่อเค้าเหรอ  เขารักตัวเองคนเดียวแหละ

     

    เสียงดังมาจากด้านหน้าเคาเตอร์ทำให้วินต้องละสายตาจากการจ้องนาฬิกาอย่างเอาเป็นเอาตาย  มาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ

     

    ใบหน้ากลมๆของวินบวมเป่งขึ้นเนื่องจากจากตัวเป่าลมใส่แก้มตัวเองอย่างหงุดงิด   หัวคิ้วที่ขมวดมุ่นเริ่มวิ่งชนเข้าหากันมากขึ้นทุกที  เส้นเลือดเต้นตุบๆอยู่ที่หน้าผาก  ตาโตๆ ภายใต้แว่นตากรอบดำหนาจ้องคนที่อยู่ตรงหน้าเขม็ง 

     

    เด็กผู้หญิงร่างเล็กที่สูงพ้นเคาเตอร์มาได้เพียงไม่กี่ฟุตยังคง คุยเจื้อยแจ้ว กับโทรศัพท์ต่อไปโดยไม่ได้รับรู้ถึงรังสีอำมหิตที่กำลังแผ่ขยายมาที่ตัวเองเลยสักนิด

     

    รักสิ.....จริงๆ ...ไม่เอาอ่ะอายเขา....ก็ได้....ครั้งเดียวนะ...จุ๊บ...ได้ยินยัง 

     

    สาวน้อยที่กำลังคุยโทรศัพท์อย่างมีความสุข เอียงหน้าหลบด้วยความเขินอาย  ทำอย่างกะว่าปลายสายมันจะเห็น  วินค้านอยู่ในใจด้วยความหงุดหงิด  ความคุ้นเคยสายตาบางอย่างยิ่งช่วยเพิ่มดีกรีความเดือดดานให้กับวินมากขึ้นไปอีก   ยัยเด็กคนนี้ยังเรียนไม่จบประถมเลยด้วยซ้ำละมั่ง

     

    กุ๊ก...กรู๊ก......กุ๊ก.....กรู๊ก...

     

    นกตัวน้อยเลื่อนตัวออกมาจากนาฬิกาแขวนผนังรูปบ้านรังนกและส่งเสียงร้อง ตามโปรแกรมที่ได้ถูกตั้งไว้  วินหันไปมองนาฬิกา  และหันกลับมาหาเด็กผู้หญิงคนเดิมที่ยังคงคุยโทรศัพท์ไม่หยุด

     

    น้องค่ะ....จะ...

     

    ปลายเสียงถูกกลืนหายเข้าไปในลำคอ  เมื่อมีเด็กผู้ชายอีกคนหนึ่งมายืนซ้อนท้ายเด็กสาวคนนั้น  พร้อมกับโอบเอวและดันเบาๆให้เบี่ยงตัวหลบให้พ้นทางของตัวเอง

     

    มัวแต่คุยโทรศัพท์เดี๋ยวก็ถูกป้าแกกินเอาหรอก   เสียงทุ้มแหลมที่บอกว่าคนพูดยังไม่โตเต็มที่เอ่ยออกมาพร้อมกับล้วงเงินมาวางไว้ตรงหน้า 

     

    ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องประดับที่ดูไร้สาระ และเถื่อนสุดๆในสายตาวิน  เด็กผู้ชายคนนั้นจ้องมองวินด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย  ปลายนิ้วเรียวชี้มาที่หน้าผาตัวเอง  ก่อนจะพูดว่า  นอยอีกล่ะ  แล้วตั้งท่าจะเดินออกไปจากร้านโดยไม่สนใจสายตาอาฆาตที่ส่งผ่านแว่นตากรอบหนามาเลยสักนิด

     

    พี่ปีโป้ รอฝ้ายด้วยสิ  

     

    เสียงแง้วๆ  จากเด็กผู้หญิงก่อนหน้าพูดเสียงรัวเร็วก่อนจะรีบควักเงินในกระเป่าออกมาจ่ายไว้บนเคาเตอร์แล้ววิ่งตามเด็กหนุ่มออกไป  วินมองตามร่างเล็กๆนั้นวิ่งออกไปนอกร้านทันได้เห็นเด็กสาววิ่งไปคล้องแขนเด็กหนุ่มด้วยความสนิทสนมแล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเสียงดัง

     

    เฮ้อออออออออออ  เด็กสมัยนี้นี่มัน

     

    วินส่ายหัวไล่ภาพและความคิดทั้งหลายเกี่ยวกับเด็ก 2  คนนั้นทิ้งไป  แล้วหันมาสนใจกับเด็กอีก 7-8  คนที่ยังอยู่ในร้านแทน 

     

    น้องค่ะ   2  ทุ่มแล้วนะค่ะ  กลับบ้านได้แล้วค่ะ อีก 1  นาที  พี่จะปิดเครื่องแล้วนะค่ะ

     

    วินบอกด้วยน้ำเสียงที่พยายามให้ดูราบเรียบที่สุด   ในที่สุด  3  ชั่วโมงที่ต้องทนนั่งเฝ้าร้านด้วยความทรมานก็สิ้นสุดลงเสียที่  ทันที่ที่พูดจบเสียงโห่จากเด็กทั้งร้านก็ดังขึ้นพร้อมกันอย่างสุดเซ็ง แต่สำหรับวินแล้วถือว่าเป็นเสียงแห่งความสุขเลยก็ว่าได้  การได้เห็นใบหน้าเซ็งๆ ของเด็กบ้าๆ พวกนี้มันก็สนุกไปอีกแบบ 

     

    ร้าน world wide net เปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงจนถึง 2 ทุ่ม  แต่สำหรับพวกเด็กๆแล้ว จำกัดเวลาให้เล่นได้ตั้งแต่  4 โมงเย็น จนถึง  2  ทุ่ม เท่านั้น  ซึ่งนั้นก็ดูมากจนเกินไปแล้วในความคิดของวิน  และช่วงเวลาตั้งแต่ 6 โมงเย็น จนถึงเที่ยงคืนก็เป็นช่วงเวลาที่ วินจะต้องมาเฝ้าร้านแทนพ่อ  ทำให้ต้องมาเผชิญหน้ากับเด็กที่แก่แดดเกินอายุจริง และพวกเด็กก้าวร้าว  ที่วินไม่ค่อยจะชอบเลยสักนิดอยู่บ่อยๆ 

     

    มันก็ช่วยไม่ได้ละนะ  ในเมื่อ วินเป็นมนุษย์ที่เลือกจะโคจรให้อยู่นอกโลกของคนอื่น  ความจริงแล้วเจ้าตัวก็แค่ชอบหมกมุ่นอยู่กับตัวเองซะมากกว่า  คลุกอยุ่แต่กับสิ่งที่ตัวเองชอบของที่ตัวเองสนใจ  จะเรียกง่ายๆก็เอาแต่ใจละนะ

     

    วินชอบอ่านการ์ตูนเป็นชีวิตจิตใจ  เรียกได้ว่าคืนไหนที่ไม่ได้อ่านการ์ตูนเจ้าตัวถึงกับลงแดงเจียนตายเลยทีเดียว  วินไม่ชอบแต่งตัวจนดูเหมือนคนเฉยๆในสายตาคนอื่น แต่ถ้าใครได้ไปเห็นตัวเสื้อผ้าของวินที่อยู่ในตู้แล้วละก็  คงต้องเปลี่ยนความคิดในทันที  เพราะมากกว่าครึ่งในตู้เสื้อผ้า  เต็มไปด้วยชุดตุ๊กตาและชุดคอสเพลย์ที่เจ้าตัวตัดเย็บเองทั้งหมดแต่ไม่เคยใส่เลยสักครั้ง

     

    วิน......เบียโทรมา...มารับหน่อยเร็ว  เสียงของพ่อตะโกนมาจากด้านหลังร้านซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัว

     

    ค่า..พ่อ  วินผละจากหน้าจอคอมแล้วเดินไปเปะมือเปลี่ยนกะกับพ่ออย่างรวดเร็ว

     

    ไฮ...ห้อยๆ  วินกล่าวทักทายอย่างร่าเริงติดทะเล้นนิดๆ

     

    อะไรห้อย  เสียงนุ่มๆ จากปลายสายถามกลับมาด้วยความกวนไม่แพ้กัน

     

    ฮิๆ อะไรดีล่ะ วินกล่าวแซวเพื่อนหนุ่มอดีตเดือนมหาลัยอย่างไม่ขัดเขิน  ถ้าได้ฟังจากเสียงแล้วละก็สาวๆที่ไหนคงจะต้องหลงรักเบียกันเป็นแถว  ยิ่งได้เจอตัวจริงยิ่งไม่ต้องพูดเลยดีกว่า คงไม่มีใครในโลกนี้ปฏิเสธเบียได้แน่ๆ

     

    ทะลึ่ง!!” 

     

    ซะงั้น  โทรมามีธุระอะไรรึเปล่า  วินหมุนสายโทรศัพท์ไปมาด้วยความเคยชินแล้วทรุดตัวลงนั่งไปบนเก้าอี้ที่อยู่ใกล้ๆ

     

    ไม่มีโทรมาไม่ได้เรอะ 

     

    อืม  สิ้นเปลื้องพลังงาน  วินบอกค้วยน้ำเสียงเรียบเฉย  ไม่ได้คิดอะไรกับคำพูดของตัวเองเลยสักนิด

     

    เย็นชา  เบียสวนทันควัน

     

    อีกละ  วินว่า  เบี้ยะคุยะซามะ  เย็นชากว่าอีก  วินบอกพรางนึกถึงการ์ตูนเรื่อง bleach ตอนล่าสุดที่ได้อ่าน

     

    ไม่เอาอ่ะ  ฉันไม่เป็นไอ้เตี้ยนั้นหรอก 

     

    หยาบคาย  วินตอบกลับเสียงเย็นชาพร้อมกับหรี่ตามองโทรศัพท์ด้วยความขุ่นเคือง

     

    คร้าบๆๆๆ เบียะเน่เบียบอกขอโทษเพื่อนด้วยภาษาเกาหลีที่รู้ว่าเมื่อเพื่อนได้ยินจะรู้สึกอย่างไร

     

    แค่นี้นะ 

     

    เฮ้ย.....ล้อเล่น  แกจะอคติเกินไปแล้วนะวิน 

     

    ช่างฉัน..  วินกล่าวอย่างไม่ใส่  พร้อมกับยกขาขึ้นมานั่งไขว่ห้าง สายตาเหลือบมองแสงแว่บๆที่ส่องประกายอยุ่บนต้นไม้ที่ยื่นกิ่งเหนือกำแพงออกมาจากข้างบ้าน

     

    วายเรื่องใหม่มาแล้วใช่  แกอมไว้ใช่ไหมวิน  และในที่สุดเบียก็เขาประเด็นหลักของสาเหตุที่โทรมาเอาป่านนี้

     

    มาแล้ว  วินบอกพรางนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เธอกับเบียกลายมาเป็นเพื่อนกันได้

     

    เบีย ชายหนุ่มหน้าตาดีที่เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆทั้งมหาลัย    เพียงแค่ช่วงรับน้องก็กลายเป็นเดือนของคณะและมหาลัยไปทันทีด้วยความเห็นชอบจากทุกคน  เบียเป็นมนุษย์ห่างไกลจากวินราวกับดาวพลูโตกับดาวศุกร์เลยทีเดียว  แต่ถึงอย่างนั้นโชคชะตาก็ดันทำให้โคจรมาเจอกันจนได้ เมื่อมีอุกตาบาทเป็นหนังสือและอนิเมะวายพุ่งเข้าชนทั้งวินและเบี้ยในร้านการ์ตูนแห่งหนึ่ง  ธาตุแท้ของเบียเลยเปิดเผย ว่าแท้ที่จริงหนุ่มสุดฮอตประจำมหาลัยเป็นพวกอนุรักษ์ป่าไม้ (เดียวกัน)  หลังจากนั้นมาความนิยมในหมู่สาวๆก็ดิ่งวูบ แต่กลายเป็นหนุ่มนักแอบทั้งหลายมาคอยส่งสายตาให้แทน

     

    เอามาเลย  เบียพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่  เบียไม่ใช่กระเทย  ตุ๊ด แต๊ว  เขาเป็นแค่คนที่ฝักใฝ่ผู้ชายก็เท่านั้น

     

    บะหมี่ 2  น้ำแข็งใส 4  วินบอกพรางลูบท้องตัวเอง  แล้วแสงแว่บๆจากบนต้นไม้ก็ทำให้วินต้องขมวดคิ้วอย่างสงสัยอีกครั้ง

     

    แถม ฟรุ๊ตเค้กอีก 2 ชิ้นเลยเอ้า 

     

    อาริงาโตะโกเซมัส…..นี่ถามหน่อยสิทำไมไม่ซื้อเองอ่ะ   เรื่องที่เบียเป็นเกย์เขาก็รู้กันทั้งมหาลัยแล้ว กลัวอะไร วินถามด้วยความสงสัย  พรางถอดแว่นออกมาเช็ดวางไว้บนโต๊ะ

     

    พูดไม่เพราะ   ไม่ใช่เกย์ครับเขาเรียกว่า ยาโอย น่ารักว่าตั้งเยอะ  แล้วก็ที่ไม่ซื้อก็เพราะแกก็ซื้ออยู่แล้วไม่ใช่เรอะจะซื้ออีกทำไม  เบียบอกด้วยน้ำเสียงจริจัง

     

    งก!!”   วินว่า

     

    เพิ่งรู้เรอะ  เบียสวนกลับเร็วก่อนจะรีบตัดบทเพราะกลัวเปลื้องค่าโทรศัพท์ 

     

    เดี๋ยวจะรอหน้าปากซอยนะ  ไม่อยากเข้าซอยนั้นเลยซับซ้อนเป็นบ้า

     

    อืมๆ  ไปไนท์นะ  โอเค  บายล่ะ  วินวางสายโทรศัพท์และเดินขึ้นบนบ้านไปทันที ไม่ทันได้เห็นการเคลื่อนไหวบางอย่างที่อยู่บนต้นไม้เลยสักนิดเดียว

     

    สร้อยเส้นยาวที่มีจี้ประดับเพชรรูปกีตาร์ ทำให้ร่างโปร่งที่นอนเอกเขนกบนต้นไม้ต้องคอยจับไว้ไม่ให้มันสะท้อนกับแสงไฟทาง  ริมฝีปากบางขมเม้มเข้าหากันอย่างอารมณ์ดีเมื่อมองเห็นร่างเล็กๆที่คุยโทรศัพท์อยู่เมื่อกี้นี้ยืนอยู่ในห้องริมหน้าต่างของชั้น 3

     

    หญิงสาวผมยาวลูกสาวเจ้าของร้านเน็ตข้างบ้านที่ดูเฉยชาในสายตาคนอื่นกลับซ่อนอะไรไว้มากมายมากกว่าที่คิด  ดวงตากลมโตที่อยู่ใต้แว่นตากรอบหนาดูสดใส ยิ่งกว่าดวงตาแมว และมันจะเปล่งประกายราวกับดวงดาวดวงเล็กทุกครั้งที่เจ้าตัวอ่านหนังสือการ์ตูนหรือนั่งเย็บชุดตุ๊กตาอยู่บนที่นอน  แก้มสีชมพู่ระเรื่อจะเป่งบวมทุกครั้งที่มีอะไรไปขัดใจเธอเข้า  และดูเหมือนว่าจะมีหลายอย่างสะด้วย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ทำให้เธอน่ารักขึ้นไปอีกเมื่อแก้มกลมๆนั้นบวมป่อง

     

    ริมฝีปากบางกระตุกยิ้มกว้างเมื่อมองเห็นว่า  หญิงสาวที่เขากำลังคิดถึงกำลังทำอะไร  เสื้อยืนแสนเชยถูกถอดออกจากตัวของคนใส่จากทางศีรษะ เผยให้เห็นเนินอกกลมเล็กที่อยู่ภายใต้เสื้อชั้นในลายลูกไม้สีหวาน  ถึงมันจะดูเล็กไปหน่อยก็เถอะในสายตาเขา  แต่ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ  เส้นผมสีดำยาวสยายลงมาปัดอยู่บนเนินหน้าอกเล็กๆ นั้น ยิ่งชวนมองเข้าไปใหญ่

     

    มันคงเป็นเรื่องของโชคชะตาที่ทำให้เขาต้องหนีหน้าพี่สาวยอดมนุษย์ของเขาขึ้นมาแอบอยู่บนต้นไม้จนทำให้ได้มาเจอกับเธอคนนี้เข้า  รอยยิ้มของเธอในวันนั้น  น่ารักจนเขาลืมไม่ลง

     

    ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวแล้วว่ากำลังถูกแอบมอง  เพราะในที่สุดวินก็เดินมาปิดผ้าม่านด้วยใบหน้าหวาดระแวง  สงสัยสายตาเขาจะร้อนแรงเกินไป  ร่างโปรงที่ซ้อนอยู่ภายใต้เงาไม้คิดพรางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหมายเลขฉุกเฉินที่ตั้งประชุมสายเอาไว้

     

    ไปไนท์กัน  เสียงทุ้มนุ่มหู เอ่ยออกมาไม่ดังมากนัก เพราะกลัวว่าคนที่อยู่หลังม่านนั้นจะได้ยินเข้าซะก่อนที่แผนของเขาจะสำเร็จ

     

    ******************************

     

    ฟองสีขาวกระจายไปทั่วห้องน้ำ พร้อมกับเสียงฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี  จองอิน หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารักกำลังแหวกว่ายอยู่ในทะเลฟองนั้นอย่างมีความสุขพร้อมกับฮัมเพลงการ์ตูนเรื่องโปรด

     

    .....คัปเตน  ปูเรอี้ คับเตนปูเรอี้ …..

     

    ร่างเล็กที่ดูบอบบางไล้ปลายนิ้วไปบนเรือนร่างตัวเองอย่างอารมณ์ดี  แล้วโกยเอาฟองขึ้นมาใส่ไว้ในอุ้งมือก่อนที่จะเป่าออกไปให้มันฟุ้งกระจายไปทั่วห้องน้ำ  แล้วเจ้าตัวก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างสนุกสนาน เมื่อเจ้าฟองสีขาวๆนั้นลอยกลับมาติดบนหัวของเขาเอง

     

    แต่เสียงหัวเราะอย่างมีความสุขกลับถูกขัดจังหวะด้วยเสียงเรียกเขาเบอร์ฉุกเฉิน  เบอร์ที่คุณก็รุ้ว่าใครโทรมาดังขึ้น  จองอินนิ่วหน้าทำอะไรไม่ถูก  เนื้อตัวเขาเลอะไปด้วยฟองแล้วจะกดรับโทรศัพท์ยังไง = =”

     

    และด้วยความคิดอันชาญฉลาด  จองอินเคลื่อนตัวเองมาชิดขอบอ่างแล้วโน้มตัวเล็กๆของตัวเองลงไปหาโทรศัพท์มือถือที่วาง อยู่ใกล้ๆ กันนั้น ใช้แขนทั้งสองข้างดันขอบอ่างไว้เพื่อรับน้ำหนักตัว  แล้วใช้ปลายจมูกที่ไม่เปื้อนฟองกดลงไปที่โทรศัพท์เบาๆ

     

    คร้าบบบบบ  จองอินกรอกเสียงใส่โทรศัพท์

     

    ไปไนท์กัน   เสียงคุ้ยเคยปที่ตอบกลับมาทำให้จองอินยิ้มกว้าง

     

    โอเค๊......ว้ากกกกกกกกกกกกกกกก 

     

    ร่างเล็กๆ ไถลลงตามตามขอบอ่างอย่างไม่รู้ตัวเนื่องจากว่ามือเขาลื่นจนแขนรับน้ำหนักตัวเขาเองไม่ไหว  ทำให้ตอนนี้จองอินต้องนอนหน้าทิ่มอยู่บนพื้น  

     

    โว้ย.....ซวยฉิบ....@#$%^&*%$#@#$%^&*&*^%$##” ร่างเล็กร่ายยาวเป็นภาษาต่างด้าวที่ไม่มีใครสามารถฟังออกด้วยอารมณ์หงุดหงิดเป็นที่สุด  ก่อนจะกระชากโทรศัพท์ขึ้นมาตะคอกเสียงใส่

     

    มารับด้วยโว้ย

     

    จองอินพาร่างที่เต็มไปด้วยฟองลุกขึ้นมาดึงจุกก๊อกน้ำปล่อยน้ำทิ้งแล้วเปิดฝักบัวไล่ฟองที่ติดอยู่ตามร่างกายออก  พร้อมกับสะบัดหัวไล่อารมรณ์หงุดหิดให้หมดไป  แล้วเดินมาสำรวจความเสียหายของตัวเองหน้ากระจก

     

    ใบหน้าหวานกับเนื้อตัวที่เป็นสีแดงระเรื่อ  แล้วยังมีริมฝีปากที่เจ่อขึ้นน้อยๆ ทำให้เขาดูเซ็กซี่กว่าดูน่ารักเหมือนที่เคยเป็น  จองอินยิ้มกับตัวเองอย่างอารมณ์ดีขึ้นมาอีกทันที  ก่อนที่จะวิ่งไปคว้าเอากล้องดิจิตอลมาอย่างรวดเร็ว  แล้วถ่ายภาพตัวเองเก็บไว้   นานๆเขาจะดูเซ็กซี่สักทีจะได้เอาไปอวด โฟลค  กับ ปีโป้   จองอินคิด

     

    มือเล็กเรียวไล่ขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากบวมเจ่อ หรี่ตามองกล้องที่ตั้งเวลาไว้พร้อมเงยหน้าขึ้นทำมุม 45 องศาตามตำราความเซ็กซี่ฉบับเบื้องต้นของคิมฮีชอล   ส่วนอีกมือก็ลูบอยู่ที่หน้าท้องให้นิ้วก้อยหายเข้าไปภายใต้ผ้าเช็ดตัวผืนบาง

     

    พร้อมกับ นับถอยหลัง ในใจ  5 ...4....3...2...1  แช่ะ

     

    ************************************

     

    ภายใต้ตรอกซอยแคบๆที่ไม่มีผู้คนผ่านไปผ่านมา   ปีโป้กำลัง ง่วนอยู่กับกับช่วยถ่ายลมหายใจให้ น้องฝ้ายที่วิ่งตามเขามาจากร้านเน็ตอย่างเร่าร้อน   วินคิดผิดที่ว่าฝ้ายยังไม่จบประถม แต่ที่จริง ฝ้ายจบประถมมาได้ 2 ปีแล้วต่างหากตอนนี้กำลังเรียนอยุ่ม. 2  แต่ความกร้านโลกของเธอคงจะเหนือกว่าวินอย่างไม่ต้องสงสัย  ก็ลงทุนเป็นฝ่ายเสนอให้ปีโป้เองเลยนี่น่า  แถมยังพามาที่แบบนี้อีก 

     

    ฝ้ายป่ายมือสะเปะสะปะ พยายามจะแกะกระดุกกางเกงของอีกฝ่าย จนปีโป้ต้องดึงมือรั้งไว้

     

    ใจเย็นๆปีโป้เตือน  ตัวเขาเองก็ไม่ค่อยชอบสถานที่แบบนี้แล้วก็ผู้หญิงแบบนี้เท่าไหร่

     

    ทำไมล่ะ  ฝ้ายถามด้วยน้ำเสียงหอบกระเส่า  พยายามแกะมือออกจากอุ้งมือหนาที่จับไว้

     

    พี่ไม่ชอบ  ปีโป้บอกด้วยน้ำเสียงเย็นชาแต่ก็ยังหยอกเย้าอยู่กับริมฝีปากไม่ห่างจนกระทั้งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ดึงเขาให้กับมาสู่โลกภายนอก

     

    เออ  ปีโป้กรอกเสียงไปตามสาย หลังจากได้ยินเสียงประชุมสายของอีกคน   แล้วผละออกมาจากร่างนุ่มนิ่มเมื่อครู่อย่างไม่ใยดี

     

    ไปไนท์กัน

     

    เออ  ปีโป้ตอบรับแล้วต้องยกหูโทรศัพท์ออกห่างจากตัวอย่างรวดเร็ว  เมื่อเสียงตะโกนเป็นภาษาต่างด้าวของจองอินอีกหนึ่งคู่สายดังขึ้น

     

    เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายที่เคยดูน่ารักแต่ตอนนี้จิตตกไปแล้วเงียบไป  จึงเริ่มเอาโทรศัพท์เข้ามาใกล้หูอีกครั้ง

     

    มันเป็นอะไรไปอีกฟร่ะ    ปีโป้ถามคนที่ยังอยู่ด้วยความงุนงง

     

    ไม่รู้  รู้แต่ว่ามันให้ไปรับด้วย

     

    เออ...เจอกันบ้านจองอินละกัน  แม่งบ่นภาษาห่าไรของมันอีกแล้วเนี้ยะ สุดยอดเลยว่ะ  ปีโป้บอกพร้อมกับรอยยิ้มก่อนที่จะกดวางสายไป  แล้วเดินกลับบ้านไปเอามอร์ไซค์โดยไม่สนใจเด็กสาวที่เดินหน้างำง้อตามหลังมาแต่อย่างใด

     

    .................. ทู บี คอน..............

     

    ให้เพิ่มหรือให้แก้ บอกด้วยเน้อ  ตอนนี้ 5โมงครึ่งแล้ว  พิมพ์ต่อไม่ได้แล้วอ่ะ  เซฟเก็บไว้ด้วยนะ เดียวตูหาไม่เจอ เผื่อเจ้านายตูล้างเครื่องอีก

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×