ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กระตุกหัวใจยัยนักเขียน

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่1 กล้าดียังไงมาแย่งเบาะฉันนั่ง

    • อัปเดตล่าสุด 25 ก.ย. 54


         ขั้นตอนการเขี่ยนนิยายมันต้องยังไงนะ  ฉันต้องเริ่ม  อ๊ะนี่ไงนี่ไง  เริ่มจากนางเอกเดินชนกับพระเอกฉากแรกซ้ำเยอะไปไม่เอาๆ  หรือจะเริ่มจากการยืมปากกา  โทรผิด  โดนพระเอกขับรถชนอ๊อยมีแต่คนเอามาหมดแล้วฉันต้องเริ่มยังไงดีนะ  พรสวรรค์ไม่มีความสามารถไม่มีไร้ซึ่งประสบการณ์แล้วมันจะเริ่มและจบได้ไงหว่า  ชิ  ยังไงชีวิตนี้ฉันต้องแต่งนิยายให้จบซักเรื่องให้ได้และมันต้องเป็นผลงานที่ดีและภูมิใจที่สุดในชีวิตฉันด้วย  แม้ต้องทุ่มเทและลำบากแค่ไหนยังไงฉันต้องทำให้ได้  สำเร็จไปหนึ่งขั้นซินะ  ยัยไวท์เตอร์นักเขียนติดจอบอกว่าเราต้องมีจุดยืนซื่อสัตย์กับตัวเอง  ฮึนี่แหละจุดยืนของฉัน
       ต้องสำเร็จท่องไว้สำเร็จ  ขั้นตอนต่อไปหาแรงบันดาลใจในการสร้างพล้อตเรื่องเมื่อได้แรงบันดาลใจแล้วสร้างตัวละครใช่มั้ยเอ๊ะน่าจะประมาณนี้นะ  ทฤษฎีอะไรไม่รู้เยอะแยะไปหมดโว๊ะจำไม่ค่อยได้แฮะ  ช่างเหอะยัยนักเขียนติดจอบอกว่าทุกอย่างไม่จำเป็นต้องอยู่ในกรอบเสมอไปงั้นฉันจะทำตามที่ฉันอยากทำแล้วก็แล้วกัน
        
        ตัวฉันชีวิตฉันปัจจุบันเป็นนักศึกษาปี 2 พักอยู่หอพักชั้น 4  ห้อง 410 มุมห้องสามมุมติดร้านเหล้าซึ่งฉันรำคาญและหนวกหูกับพวกบ้าที่ไม่รู้จักหลับจักนอนนี่มาก  งานอดิเรกของฉันคือแต่งนิยายซึ่งไม่เคยสำเร็จโปรเจกของฉันตอนนี้คือนิยายเรื่องที่เจ็ดเพราะหกเรื่องที่ผ่านมามันไม่เคยจบสามเรื่องแรกออกผ่านสายตาประชาชีมาบ้างแต่ไม่นานก็ถึงคราวต้องล่มสลาย  สามเรื่องหลังฉันเก็บเข้าหีบสมบัติไม่ยอมเผยแพร่ต่อสาธารณชนเพราะมันก็ไม่จบและฉันก็เจอทางตันอีกแล้ว  อะไรกันนะชีวิตฉันมันจะทำอะไรไม่สำเร็จหรือไงนะมันต้องสำเร็จบ้างซิฟร๊ะ   สุดท้ายกิจวัตรประจำสัปดาห์ฉันจะกลับบ้านในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์เพราะฉันรู้สึกว่าการอยู่หอมันทำให้ฉันเบื่อแหละเซ็งอย่างสุดซึ้งฉันว่าฉันควรออกไปหาสิ่งใหม่ๆดูบ้าง  อีกอย่างกับข้าวที่นี่มันแย่สำหรับฉันแม่เจ้าฉันคิดถึงกับข้าวที่บ้านสุดๆ  อะไรก็ได้ที่ทำกินที่บ้านฉันกินได้หมด ณ เวลานี้ขออย่างเดียวไม่ใช่กับข้าวห่วยแตกจนแทบจะเรียกว่าซากฟอสซิลล์แบบที่ฉันกินทุกวันแบบนี้

    ดังนั้นวันนี้ฉันจึงต้องเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าเหมือทุกครั้งที่ผ่านมา
       

        กระเป๋าเป้สุดรักของฉันตุงจนซิบแทบปริเพราะฉันทั้งยัดโน๊ตบุ๊คคู่ใจ  สมุดเล่มเล็กกระทัดรัด  เจ้ากระเป๋าปากกาที่ฉันรักและก็ยังอุตส่าห์บรรจงยัดเครื่องเขียนทุกอย่างลงไปจนซิปที่รูดแทบปริมันจะพังมั้ย  ของใช้ส่วนตัวเสื้อผ้าที่ชาร์ตแบตฉันขนมันใส่กระเป๋าทั้งหมดนี่แหละทั้งที่กลับบ้านแค่สองวันฉันทำอย่างกลับจะย้ายไปอยู่เป็นเดือนแต่ขอบอกฉันได้คิดและทบทวนดูแล้วว่าไม่สามารถละทิ้งของพวกนี้ออกจากกระเป๋าตัวเองได้จริงๆไปไหนเราต้องไปด้วยกันถึงจะถูกไม่งั้นฉันคงต้องขาดใจแน่ชีวิตฉันขาดโลกอินเตอร์เน็ตขาดการเขียนบันทึกขาดการอาบน้ำขาดการใส่ชุดนอนที่ฉันรักที่สุดไม่ได้และที่สำคัญฉันขาดผ้าเน่าไม่ได้เด็ดขาดไปไหนเราต้องไปด้วยกัน
        นั่นไงๆเอาอีกแล้วทำไมกันนะฉันเดินทางทีไรฝนตกทุกทีอะไรกันนักหนาเนี่ย  แต่ไม่เป็นไรฝนตกย่อมไม่เป็นอุปสรรคฉันมีร่มเฮ่อตกได้ตกไปยังไงฉันก็ไม่เปียกมีร่มเฟ้ยคนจะไปซะอย่างใครจะมาขวางได้  
    "ที่นั่งด้านในว่างนั่งได้นั่งเลยค่ะ"เสียงห้วนๆจากยัยป้าที่เก็บตังค์ค่าโดยสาร
    "ไม่อะคะเบาะมันเปียก"ฉันพยายามจะปฏิเสธ เพราะไม่อยากจะหย่อนก้นแฟ้บๆของตัวเองลงนั่ง  อี๋ฉันจะนั่งได้ยังไงน้ำไหลลงมาตามร่องกระจกเลอะเกือบเต็มเบาะขนาดนี้กระจกก็สกปรกเบาะนั่งก็คงจะสกปรกไม่แพ้กันฉันขอยืนก็แล้วกัน
    "เบาะว่างด้านในทำไมไม่ยอมนั่ง" พูดจบยัยกระเป๋ารถเมย์ก็เดินไปเก็บตังค์ที่ผู้โดยสารคนอื่นต่อ  ซึ่งฉันสัมผัสได้ว่ายัยป้านี่ไม่พอใจที่ฉันไม่ยอมนั่ง  วันนี้มันวันอะไรนะปกติฉันจะขึ้นรถตู้โดยสารฉันไม่ค่อยนิยมรถเมล์เพราะมันทั้งร้อนแล้วก็คนแน่นแต่วันนี้ฉันยืนรอรถตู้นานแสนนานจนทนรอต่อไปไม่ไหวแล้วเลยต้องยอมขึ้นรถเมล์แทนเฮ้อทนเอาหน่อยแล้วกันซักพักคงจะถึงบ้านแล้วกระเป๋าเป้นี่ก็หนักชะมัดฉันชักจะปวดหลังแล้วนะ  อ๊ะมีเบาะรถเมล์ว่างพอดีไม่เปียกด้วยดีละฉันจะนั่งเบาะนี้แหละถ้ายัยป้านั่นเดินมาจะได้เลิกว่าฉันซะที
    พรึ๊บ....
    เฮ้ยยยมีคนนั่งก่อนฉันเกลียดเหตุการณ์แบบนี้ที่สุด  โหเป็นผู้ชายซะด้วยหน้าตาก็หล่อหรอกนะแต่ไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย  เก้งรึเปล่าย่ะดีละฉันจะวิจารณ์อีนางนี่จนกว่าใครจะลงจากรถก่อนกันเลยคอยดู  รู้จักมั้ยย่ะคำว่าเอื้อเฟื้อแก่เด็ก ส
    ตรี และคนชรา ยังจะนั่งหน้าตาเฉยอยู่ได้คนเค้าด่ายังไม่รู้ตัวอีก  อย่าให้รู้นะว่าบ้านอยู่ไหน(รู้แล้วฉันจะทำไมฟร๊ะจะไปนอนกับเค้ารึไง)  หนักโว็ยปวดไหล่ก็ปวดเมื่อยไปหมดแล้วอย่าให้ฉันเจอหล่อนอีกนะเกลียดนักคนนิสัยแบบนี้  

       ฉันถึงบ้านด้วยอาการหงุดหงิดสุดๆเพราะเหนื่อจากการเดินทางฉันจึงไม่มีอารมณ์ที่จะสร้างสรรค์ผลงานอะไรทั้งนั้นขอนอนพักก่อนละกัน

        กริ๊งงงงง!!  อ๊ากใครโทรมาฟร๊ะคนจะหละบจะนอน
    "โหล... ว่าไง"   ถึงจะง่วงแค่ไหนแต่ด้วยมารยาทฉันจะรับโทรศัพท์ทุกครั้ง
    'เพื่อนรักแกไม่ได้ลืมนัดฉันใช่มั้ยอีกครึ่งชั่วโมงเจอกันหน้าตลาด'
    "อืม...ได้เจอกัน"
    ติ๊ด   อื้มมมม!!  ขี้เกียจแล้วไม่ไปได้มั้ยง่วงๆๆๆ  อ๊ะไม่ได้ซิไม่งั้นยัยใบบัวฆ่าฉันตายแน่กี่โมงกี่ยามแล้วเนี่ย  แว๊กกสามทุ่มกว่าแล้วโอ๊ยรีบๆๆเร็วที่สุดในชีวิต  ห้า  สี่  สาม  สอง  หนึ่ง  เสร็จๆๆ  ไม่ลืมใช่มั้ยเช็คซิๆ  ตังค์  บัตรกระเป๋า  ของๆครบๆๆๆ  ไปได้

    "ช้าไปห้านาที"  ใบบัวมองนาฬิกาขณะยืนรอฉัน
    "แกฉันก็รีบที่สุดๆแล้ว" 
    "หลับอยู่ละซิตอนฉันไทรไป"  
    "แฮ่ๆเหนื่อยอะก็เลยเผลอหลับไป"
    "ตลอดถ้าไม่โทรตามก็คงจะไม่มา"
    "มาซิเพื่อนรักนัดทั้งทีลืมได้ไง"  ไม่ลืมแค่ไม่ตื่นเฉยๆ
    "ไปเถอะ จิ๊ด กับ  ซีไวท์รออยู่"  ขอร้องอย่าทำหน้าเหมือนเอือมฉันได้มั้ย
    "เราจะไปไหนกันแก"  ฉันถามขณะที่นั่งรถคันน้อยของใบบัว  
    "กินข้าวแล้วก็ไปนั่งชิวๆแถวๆ AP โอมั้ยหรือแกอยากจะไปดึ๊งๆๆ"
    "ไม่อะของดก่อนช่วงนี้"  ฉันปฏิเสธเพราะรู้ว่ายังมีภาระกิจที่ต้องแต่งนิยายต่อให้เสร็จ

       จากบ้านฉันไป  AP  ถ้าขับรถส่วนตัวก็ใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีซึ่งก็ถือว่าโอเค  ร้านก็ใช้ได้  แบ่งเป็นสองโซนสำหรับคนที่ชอบเสียงดนตรี  และชอบบรรยากาศโรแมนติกใต้แสงเทียน  ด้านนอกร้านตกแต่งด้วยไม้เก่าๆ  แต่ดูคลาสสิกซึ่งฉันชอบมาก  ด้านในจะตกแต่งคนละสไตล์คล้ายผับแต่ก็เหมือนร้านเหล้าที่นั่งชิวๆได้ขัดแย้งแต่ถือว่าลงตัวชอบคร่า  ตกลงเพื่อนฉันชวนมาสังสรรค์หรือดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันเนี่ย  อ๊ะปกติฉันไม่ชอบวิจารณ์อะไรหรอกนะะแต่ยัยนักเขียนติดจอสอนว่าไปไหนให้หัดวิจารณ์และเรียบเรียงออกมาเป็นตัวหนังสือแล้วบันทึกไว้บางทีอาจจะมีประโยชน์กับนิยายของเรา  ฉันก็ฝึกๆไว้ละ เผื่อจะมีโอกาสได้ใช้กับเค้าบ้าง

    "หิวจนไส้จะขาดกระเพาะจะหลุดออกมาอยู่แล้ว"  ฉันกับใบบัวมาถึงยัยจี๊ดก็ประชดทันที
    " แหมจี๊ดก็...สั่งอะไรรองมาท้องยัง"  ฉันพูด
    "ยังก็รอแกสองคนอยู่เนี่ย"
    "งั้นเราสั่งอาหารเลยแล้วกันเนาะ"  พอนั่งเสร็จยัยใบบัวก็หยิบเมนูขึ้นมาสั่งอาหารทันที
    "เออแกคืนนี้ซีไวท์เค้าชวนเราไปต่ออะแกสนใจมั้ย" จี๊ดพูดขึ้นหลังจากที่ซีไวท์ขอตัวไปเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นขณะที่ฉันกำลังมีสมาธิกับการกินอาหารและมันเป็นการเสียมารยาทที่สุด
    "ต่อไหนอะแก"  ใบบัวรีบถามฉันสังเกตว่ายัยนี้ตื่นเต้นผิดปกติ
    "ก็แถวนี้แหละกินเสร็จ  เราก็แค่เดินไปอีกสามร้านก็ถึงแล้วไปนะ"
    "เป๊ะมั้ย"  อะไรเป๊ะวะฉันงงกับยัยใบบัวนี่มาก  ส่วนยัยจี๊ดก็ไม่พูดอะไรยกมือทำท่าโอเคพร้อมกับพูดว่า
    "ครบคู่"  ยัยใบบัวทำหน้าดีใจเหมือนหมาได้กระดูกถ้ามีหางมันคงจะกระดิกด้วย
    "จี๊ดแกน่ารักที่สุด  ขอบคุณที่นึกถึงฉันสองคน"   
    "นึกถึงอะไรใบบัวแกพูดจางงๆนะ  แค่กินข้าวนี่แกเมาแล้วหรอ"  ฉันพูดบ้างหลังจากที่คิดในใจอยู่นาน
    "ยัยเพื่อนโง่เราสองคนกำลังจะลงจากคานแล้ว...คืนนี้เราสองคนต้องได้เข้าใจรึเปล่า"
    "ลามกที่สุด  ฉันไม่เอากับแกหรอก"
    "ลามกอะไรนี่แกคิดไปถึงไหนฉันหมายถึงว่าเราสองคนต้องได้สานสัมพันธ์ต่อกับเพื่อนซีไวท์"
    "ก่อนจะพูดแกจะไม่ดูหน้าเพื่อนเค้าก่อนหรอ  เค้าอาจจะ  หน้าเละ  ฟันหัก  จมูกบาน  ตาเหล่  หูกางก็ได้นะ"  
    "ยัยบ้าพูดซะฉันอยากกลับบ้านเลย"
    "ใบบัวแกเชื่อฉันถ้าเค้าหน้าตาดีเค้าจะมาอยากเจอเราทำไมถ้าเค้าหน้าตาดีเค้าก็ต้องมีแฟนแล้วไม่ก็ต้องเพล์บอยสุดๆ  เค้าจะหลอกฟันแก"  พู่วววว  เป่าหูๆ
    "ก็จริงนะที่แกพูดก็ถูกไม่หน้าเละจนไม่มีใครเอาก็ต้องเป็นเพล์บอย"
    "แกสองคนนี่ยังไงนะเคยจะมองคนอื่นในแง่ดีมั้ยเนี่ย  ฉันเจอมาแล้วหล่อและโสดฟันธงเอ้าแถมอีกรวยเทห์มีความสามารถสาวๆตามกรี๊ด"ฮึ่ยพอยัยจี๊ดพูดเท่านั้นแหละ  ยัยใบบัวก็เหมือนจะย้ายข้างไปจากฉันทันที
    "จริงหรอจี๊ดอีายผู้ชายในฝัน  นับดาวเพื่อนรักคืนนี้เราจะกลับดึกนิดนึงใช่มั้ย"  พูดแบบนี้เหมือนต้องการบังคับไม่ให้ฉันปฏิเสธเลยใช่มั้ย
    "แล้วแต่แกก็แล้วกันฉันยังไงก็ได้  รถแกนิ"
    "แกอย่าพูดแบบนี้ซิเหมือนแกไม่เต็มใจเลย"
    "อ้อ...ฉันเต็มใจม๊ากมากแกตามสบายเลย"  
    "นับดาวรักแกที่สุด"ฮึ่ยประชดว้อย
        เหมือนยัยจี๊ดจะนัดกับซีไวท์ไว้พอเราตกลงกันเสร็จหมอนี่ก็เดินเข้ามาพอดี  ซีไวท์ถ้านายหลอกพวกฉันไปเจอเรื่องไม่ดีละก็น่าดู   ฉันสาบานว่าชาตินี้จะตามฆ่านายทุกครั้งที่มีโอกาสเลยคอยดู
        เรานั่งทานอาหารต่อจนอิ่ม  ซึ่งนานพอสมควรเพราะฉันพยายามถ่วงเวลาให้นานที่สุดโดยสั่งของหวานมาทานเพิ่ม  เข้าห้องน้ำนานๆจนใบบัวต้องมาเคาะประตูเรียกพร้อมกับคำขู่เพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของฉัน  นี่ฉันหวังดีนะไม่อยากให้เพื่อนเจอเรื่องร้ายๆในชีวิตนี่นา  ฉันผิดอาราย
    ปังๆๆ  ปังๆๆ
    "นับดาวฉันรู้ว่าแกจะออกมาใช่ัมั้ยเพื่อนรัก"
    "ใบบัวฉันยังทำธุระไม่เสร็จเลย...แกรอแปปนะ"
    "นี่แกเข้าห้องน้ำนานเกินสิบนาทีแล้วออกมาเดี๋ยวนี้เพื่อนรัก"
    "ใกล้แล้วๆแกอย่าเร่งฉันซิ"  ฉันกดชักโครกเพื่อให้มีเสียงว่าฉันใกล้เสร็จธุระแล้ว
    "เฮ้อฉันก็ไม่อยากจะใช้คำนี้กับแกเลยพอดีฉันรีบ...เพื่อนถ้าแกไม่ออกมาตอนนี้แปลว่าแกคงจะอยากนั่งแท็กซี่กลับคนเดียวใช่ปะ  งั้นเชิญแกทำธุระของแกต่อตามสบายละกันฉันไม่เร่งแกแล้วไปละ"  เฮ้ย!!!
    แอ๊ด  ฉันรีบเปิดประตูห้องน้ำทันทีเพราะไม่อยากนั่งแท็กซี่กลับคนเดียวซึ่งฉันกลัวและไม่อยากเปลืองตังค์ด้วย
    "เสร็จพอดีเลยแก  จี๊ดกับซีไวท์คงรอนานแล้วเรารีบไปเถอะเนอะ"
    "ดีมากจ้ะ...แกไม่ต้องกลัวแท็กซี่หรือใครจะลากไปปาดคอนะเพราะฉันจะส่งแกถึงห้องนอนและจะนอนข้างๆแกเลยคืนนี้เพื่อนรัก"  แหมทีถูกใจละทำมาเป็นพูดดีกับฉันเมื่อกี้ยังจะให้ฉันกลับคนเดียวเลย  ยัยเพื่อนเห็นแก่ได้  (ได้สานสัมพันธ์ต่อกับผู้ชาย)

    ติดตามต่อได้ในตอนต่อไป   >>>>>













       




        
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×