ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยอดีตแห่งรัก

    ลำดับตอนที่ #2 : ทางออก

    • อัปเดตล่าสุด 3 พ.ย. 49





    ปณิธีนั่งร้องไห้อยู่บนม้าหินในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง โดยมีหญิงสาวสองคนนั่งอยู่ข้างๆ คนหนึ่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างแค้นใจ ส่วนอีกคนได้แต่โอบกอดปณิธีไว้หลวมๆเพื่อปลอบใจ

    "ใจเย็นๆนะสอง มันอาจจะไม่เลวร้ายขนาดนั้นก็ได้" พิมลักษณ์โยกตัวคนในอ้อมแขนเบาๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสารเพื่อนสาวอย่างเต็มที่

    "อย่าไปทำตามพ่อเฮงซวยอย่างนั้นนะสอง" หญิงสาวอีกคนหนึ่งโพล่งออกมาอย่างลืมตัว ความโมโหทำให้หล่อนพูดออกมาเสียงดังทำให้ผู้คนที่อยู่บริเวณนั้นหันมามองอย่างแปลกใจ แต่นั่นก็ไม่ทำให้รสาลดเสียงลง "ไปอยู่ที่คอนโดกับเราก่อนก็ได้ อาจจะคับแคบไปหน่อยแต่มันก็ดีกว่าไปเป็น…" รสาลดเสียงลงในตอนท้ายเนื่องจากพิมพ์ลักษณ์สะกิดเตือนหล่อนไว้ "เมียเก็บใครแบบนั้น"

    น้ำตาของปณิธีไหลลงมาอีกครั้งเมื่อได้ยินคำพูดบาดหูที่เพื่อนพลั้งปากออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ ทำเอารสาถึงกับหน้าเสีย ทำให้คิดขึ้นมาได้ว่าพูดสิ่งที่ไม่สมควรออกไป

    "มันต้องมีทางแก้สิสอง" พิมพ์ลักษณ์เอ่ยขึ้น และใช้ความคิดชั่วครู่ นัยน์ตาก็มีแววความหวังขึ้นมา "ต้องมีแน่ๆ!"

    ***********************************

    เกือบเที่ยงคืน ทันทีที่เครื่องยนต์ดับลง เสียงใสๆของพิมพ์ลักษณ์ก็ดังขึ้นแทบจะทันควัน ทำเอาชายหนุ่มที่เพิ่งก้าวลงจากรถต้องส่ายหน้าอย่างระอา

    "พี่ก้อง.. พี่ก้อง.. แหม กำลังคิดถึงอยู่พอดีเลย" น้ำเสียงออดอ้อนนั้นส่งผลให้ชายหนุ่มรู้แน่ชัดว่าผู้เป็นน้องต้องมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดมาร้องขอเป็นแน่แท้ ถึงกระนั้นความเอ็นดูก็ยังคงมีมากกว่า จึงทำให้เขายังหัวเราะออกมาได้

    "เอาล่ะ เอาล่ะ มีอะไรก็ว่ามา ไม่ต้องมาทำเป็นคิดถึง อย่ามาเจ้าเล่ห์กับพี่นักเลย แล้วนี่ดึกมากแล้วนะ ทำไมยังไม่นอนอีก"

    พิมพ์ลักษณ์ยิ้มแทนคำตอบ และเข้ามาโอบกอดพี่ชายอย่างประจบเอาใจพลางเดินเข้าตัวบ้าน

    "ทำไมเงียบไปล่ะ หืม?" ก้องภพถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพิมพ์ลักษณ์เงียบนานเกินไป

    "เอ่อ.." พิมพ์ลักษณ์อึกอัก "พิมพ์ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดีน่ะสิ"

    ชายหนุ่มลูบศีรษะหญิงสาวอย่างอ่อนโยน พิมพ์ลักษณ์เป็นน้องสาวที่เขาให้ความรักและความห่วงใยมากที่สุด

    "พูดออกมาเถอะพิมพ์ พูดๆมาเดี๋ยวพี่ก็รู้เองนั่นแหละ ว่าพิมพ์ต้องการอะไร"

    "คือว่า… พิมพ์อยากให้พี่ก้องช่วยเพื่อนของพิมพ์ค่ะ" พิมพ์ลักษณ์เอ่ยออกมาและมองหน้าพี่ชายอย่างจะอ้อนวอนอยู่ในที "พิมพ์รู้ว่า มันอาจจะยากไปนิด แล้วก็ไม่ค่อยมีเหตุผล แต่ว่า เพื่อนพิมพ์เขาน่าสงสารมากจริงๆนะคะพี่ก้อง"

    "แล้วเพื่อนของพิมพ์น่ะ เขาเดือดร้อนอะไรหรือ"

    แม้จะรู้ว่าไม่สมควรที่จะบอกเรื่องนี้กับใคร แต่พิมพ์ลักษณ์ก็ไม่มีทางเลือกมากนัก อีกทั้งหล่อนยังเคารพและเชื่อมั่นในตัวพี่ชายอย่างเต็มเปี่ยม เธอจึงเอ่ยปากเล่าเรื่องของปณิธีอย่างไม่ลังเล ก่อนจะปิดท้ายว่า

    "ตอนนี้เพื่อนของพิมพ์อยู่ในอาการที่เรียกว่าย่ำแย่มากเลยค่ะพี่ก้อง เขารักพ่อมากแต่ว่า เฮ้อ.. พิมพ์เองยอมรับเลยค่ะว่าถ้าพิมพ์มีพ่อแบบนี้พิมพ์คงรักไม่ลง แต่เพื่อนพิมพ์เขาพูดว่า พ่อยังไงก็เป็นพ่ออยู่วันยังค่ำ พิมพ์เองเลยพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน"

    ก้องภพนิ่งขรึมไป เพียงพักเดียว เขาก็ตั้งคำถามใหม่

    "แล้วเพื่อนพิมพ์คนนี้ชื่ออะไร"

    "ปณิธีค่ะ" ชาตยาตอบเร็วปรื๊อ "พี่ก้องช่วยเพื่อนพิมพ์นะคะ นะ นะ"

    "ตกลงแล้วที่เล่ามาทั้งหมด คืออยากให้พี่ช่วยเรื่องเงินใช่ไหมล่ะ" ก้องภพพูดยิ้มๆ และนั่นก็เป็นสัญญาณที่ดีที่สุดสำหรับพิมพ์ลักษณ์ หญิงสาวแทบกระโดดตัวลอยด้วยความดีใจ

    "ขอบคุณมากค่ะพี่ก้อง ขอบคุณมากๆๆๆๆ โอ๊ย พิมพ์รักพี่ก้องที่สุดในโลกเลย" พิมพ์ลักษณ์โห่ร้องเหมือนเด็กๆที่ได้ของเล่นถูกใจจนก้องภพต้องปราม

    "เงียบเสียงหน่อยสิพิมพ์ เดี๋ยวพอดีคนได้ตื่นกันทั้งบ้าน แต่พิมพ์ก็ยังบอกข้อมูลพี่ไม่ครบนะ พิมพ์ไม่ได้บอกจำนวนเงินกับพี่"

    พิมพ์ลักษณ์เงียบไปในทันที หล่อนนึกอยากเขกหัวตัวเองนักที่ไม่รอบคอบเรื่องนี้ ที่ไม่ได้ถามถึงเรื่อง "ค่าตัว" เพื่อนสาว จึงได้แต่สารภาพเสียงอ่อยว่า

    "พิมพ์ลืมถามค่ะพี่ก้อง แต่ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้จะถามมาให้" ท้ายประโยคแฝงความกระตือรือร้น

    "ไม่ต้องหรอก เอางี้ดีกว่า เวลาคุยกันเรื่องเงินเรื่องทองพี่ไม่ชอบคุยผ่านคนกลาง เรานัดเพื่อนของมาดีกว่า พี่จะได้ซักถามอะไรได้รู้เรื่องหน่อย แบบนี้พอพี่ถามพิมพ์ที พิมพ์ก็ต้องไปถามเพื่อนที มันไม่สะดวก"

    "แล้วพี่ก้องว่างตอนไหนคะ พิมพ์จะได้นัดเพื่อนมาพบค่ะ"

    "แล้วเพื่อนพิมพ์ว่างตอนไหนบ้างล่ะ"

    "ว่างทุกเย็นแหละค่ะ"

    "งั้นก็ดี พรุ่งนี้เลยก็ได้ สักห้าโมงเย็นเป็นไง"

    "ดีค่ะ ที่บ้านหรือที่ทำงานคะ"

    "พรุ่งนี้พี่คงอยู่บริษัทจนถึงดึกเหมือนกับวันนี้ พาเพื่อนเราไปหาพี่ที่บริษัทนั่นแหละ พี่จะบอกเลขาเอาไว้ให้"

    "ตกลงค่ะ" พิมพ์ลักษณ์ยิ้มรับอย่างหน้าชื่น ก้องภพอดไม่ได้ที่จะโยกศีรษะน้องสาวอย่างหมั่นไส้ พลางพูดกระทบ

    "ที่แบบนี้ล่ะ ฉีกยิ้มได้ไม่มีหุบเชียว!"

    *********************************

    เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาบ่ายสามครึ่ง พร้อมๆกับที่เสียงระฆังดังบอกเวลาเลิกเรียน ปณิธีซึ่งกำลังเก็บข้าวของเตรียมตัวกลับบ้านก็เลิกคิ้วโก่งนั้นขึ้นอย่างแปลกใจเมื่อเห็นพิมพ์ลักษณ์เดินเข้ามาหาด้วยกิริยารีบร้อน

    "สอง วันนี้อย่างเพิ่งกลับบ้านนะ"

    "ทำไมเหรอ" หญิงสาวถามกลับ ส่วนมือยังวุ่นวายอยู่กับข้าวของบนโต๊ะ

    พิมพ์ลักษณ์พินิจดูเพื่อนอย่างแสนสงสาร ปณิธีดูซูบลงไปไม่น้อยในเวลาเพียงแค่ชั่วข้ามคืน มือไม้ที่สาละวนเก็บของนั้นดูเล็กลงไปถนัดใจ

    "เรานัดพี่เราไว้เราอยากให้สองไปพบกับพี่ชายเราหน่อย"

    "เอ๊ะ มีอะไรรึเปล่ายา" ปณิธีชะงักมืออย่างไม่เข้าใจ "ทำไมเราต้องไปหาพี่ชายพิมพ์ด้วยล่ะ"

    "คือ… เราหาทางออกให้สองได้แล้วล่ะ" เพื่อตัดปัญหา พิมพ์ลักษณ์จึงตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดให้หญิงสาวฟัง "เราต้องขอโทษด้วยนะที่ไม่ได้บอกสองก่อน"

    ปณิธีพูดอะไรไม่ออกรู้สึกเพียงแต่ว่าทราบซึงในน้ำใจของเพื่อเป็นอย่างมาก

    "ลองไปคุยดูก่อนนะสองเธออาจมีพบทางออกดีๆก็ได้" พิมพ์ลักษณ์พูด

    ปณิธีใช้ความคิดอย่างหนักก่อนจะตัดสินใจพูดว่า

    "ลองดูก็ได้พิมพ์มันไม่มีอะไรที่จะแย่ไปกว่านี้แล้วนี่"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×