ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BM bad prince รักร้ายๆฉบับเจ้าชายนักฆ่า

    ลำดับตอนที่ #4 : ผู้หญิง&ผู้ชาย

    • อัปเดตล่าสุด 24 พ.ย. 54


    t em



    *Talk with writer*


    nail : สิ่งที่ท่านผู้อ่านหลายท่านมาตลอดตั้งแต่ตอนที่แล้ว และก็เม้นในทำนองเดียวกันว่า...

    lian : มาม่อนเป็นผู้หญิงทำไมพูด 'ครับ' !?!

    nail : มันช่างแปลกประหลาดจนพลิกแผ่นดินโลกได้จริงๆ=  =;

    lian : นั่นสิ...แต่อย่าใจร้อนครับท่านผู้ชม เราบอกแล้วว่าจะเฉลยไปทีละตอนๆ

    nail : อะไรนะ? อยากให้เฉลยเลยหรอ!  ไม่ได้ๆ มันต้องรอไปก่อน!!!

    lian : ที่สำคัญ มาอ่านตอนนี้กันดีกว่า จะได้รู้อะไรเกี่ยวกับฟิคนี้เยอะขึ้นหน่อย

    nail : แต่ว่าถ้าไม่เม้นก็ไม่รูหรอกค่ะ=w=

    lian : ช่าย~   แต่คงไม่มีใครที่ไม่เม้นใช่มั้ย? ก็นักอ่านทุกคนน่ารักออก!^_^

    nail :หึๆ มองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วlian  น่ารักหรือเปล่าเราก็มาตัดสินกันด้วยตอนนี้เถอะ!

    lian : จ้าๆแม่คุณ...


    * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *












      "แกเป็นผู้หญิงทำไมถึงพูด 'ครับ' ฮะ ไอ้สวะ"







    พรวด!!!








    น้ำชาที่เพิ่งกระดกเข้าปากไปเมื่อครู่ถูกพ่นออกมาอย่างแรง ตามด้วยเสียงไอแค่กๆ   คนที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างเบล เฟกอลส่งผ้าเช็ดหน้าให้คนที่สำลักทันที




     "ขอบใจเบล..." มาม่อนพูดเสียงเบา เบล เฟกอลพยักหน้ารับ     ต่างกับลุสซาเรีย...ที่ราศีแม่ยกพุ่งกระจายแบบไม่ไว้หน้าใคร...





     "แหม เป็นห่วงเป็นใยกันจังนะฮะ!~  แบบนี้มันหน้าชงๆๆๆๆ"



    ท่าทีการชงของกระเทยคนเดียวในกลุ่มเรียกความแปลกใจจากเจ้าชายนักฆ่าได้ทีเดียว



     "ชงอะไร? ชงใคร? นี่ไม่ใช่af8นะลุสซาเรียจะได้มีคู่ เต๋าคชา ต้นเจมส์ เฟรมไทด์ แหลมจอย ให้ชงน่ะ"(ยกมาหมดบ้านเชียว-_-;//lian)(อ๊ากกกก เต๋าคชาๆๆๆ สวนด.!  ชงจ้าๆๆๆ*0*//nail)(-  -;//lian)


     "มีสิฮะ~  ก็คู่เบลกะมาม่อน  แล้วก็คู่บอสกับสควอลโล่ไงล่ะฮ้า~"





    พรวด!!!





     น้ำชาถูกสำลักอีกครั้ง หากแต่ใช่เจ้าของจุกนมธาตุสายหมอก  กลับเป็นผู้พิทักษณ์พิรุณแห่งวาเรียผู้มีเรือนผมยาวสีเงินสวยและใบหน้าที่หงุดหงิดตลอดเวลา...ปิ้งป่อง สควอลโล่=^=



     

     "คู่เค่อบ้าอะไรไอ้สวะ!   อย่ามาทำลามกแถวนี้นะโว้ย!" 


     "อ้าว แล้วสควอลลลี่หน้าแดงทำไมล่ะฮะนั่น?"


     "ม...ไม่ได้แดงซักหน่อย!-///-   ก็...ก็ไอ้สปาเก็ตตี้นี่มันเผ็ดนี่หว่า  ไอ้คนครัวมันต้องหยิบซอสมะเขือเทศเป็นซอสพริกชัวร์เลย!"







     แถไปนู่น...






     "เฮอะ แต่ยังไงคนที่คู่ควรกับบอสก็ไม่ใช่ไอ้ฉลามขาวหรอก" เลวี่พูดเหมือนแสดงให้ทุกคนรู้ว่าตัวเองก็มีบทเหมือนกัน(หลังจากเงียบหายไปเพราะนักเขียนลืมเขียนบทให้= =;) "คนที่ควร...ฉันต่างหาก!"





     "จะเป็นแกไปได้ไงฮะไอ้สวะ!!!  บอสตันไลนั่นมันบอกแกเรอะว่ามันไม่เลือกฉัน!!!"


     "อุ๊ยต๊ายตาย สควลลี่หึงหรอจ๊ะ?"


     "ไม่ได้หึงโว้ย!!!  ถึงแม้มันจะแอบหอมแก้มฉัน888ครั้ง แกล้งฉัน5,047ครั้ง คุกคามทางเพศอีก992ครั้ง บอกรักฉันอีก50,278ฉันก็ไม่หึงมันหรอกโว้ย!!!"


     "หา?=[]=;"


     "เข้าใจมั้ยว่า ตรู-ไม่-ได้-หึงงงงงงงงงง!!!"





    ไอ้เข้าใจน่ะเข้าใจ แต่ที่อึ้งเพราะจำนวนตัวเลขนั่นแหละ...



    แล้วอีกอย่าง ขนาดไม่หึงนะเนี่ย  ยังอุตส่าห์รายงานมาซะหมดเปลือก=_=;  ไม่ไหวกับคู่นี้จริงๆ...






     "เงียบซะไอ้สวะ..."



    พร้อมกับ...อะไรบางอย่างที่อยู่คู่ช้อนและมีดที่ลอยผ่านไปโป๊กกับหัวของสควอลโล่อย่างพอดิบพอดี...ส้อมนั่นเอง=_=;





     เจ็บไหมล่ะนั่น...



    นี่ถ้าเป็นละครไทยหรือนิยายน้ำเน่า สควอลโล่คงร้องไห้น้อยอกน้อยใจเพราะสามีไม่รัก หอบลูกหนีไปอยู่ต่างแดนเลยนะเนี่ย แต่เผอิญนี่ไม่ใช่...แค่กลับกัน  หนูน้อยสควอลโล่สลบแทบเท้าซันซัสเพราะเพียงแค่ส้อมอันเดียว!



     "ก่อนที่จะนอกเรื่องกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องให้เรื่องมันเยอะ..." อือ เยอะจริงด้วย "แกตอบคำถามฉันมาก่อน ไอ้สวะ"




     "..."







    ความเงียบแทนคำตอบทั้งหมด  แต่ก็ไม่ค่อยจะเข้าใจคำตอบมากขึ้นเท่าไหร่ มิหนำซ้ำ ยังอยากรู้มากกว่าเก่า   ยิงคนตอบไม่ตอบ มันก็คันปากอยากถามเข้าไปใหญ่





     "แก..." ซันซํสพูด "กลับเป็นผู้ใหญ่ได้ยังไง"


     "ไม่รู้..."


     "ไม่รู้?"





    ทั้งโต๊ะทวน(ไม่รวมสควอลโล่ที่สลบไปกับโกร่ามอสก้าที่พูดบ่ได้)  แต่ดูท่าจะมีคนไม่เชื่อคำตอบนี้อยู่


     "บ้าหรือเปล่า  แกกลับร่างเดิมได้แต่แกบอกว่าแกไม่รู้?   นี่แกแกล้งโง่หรือเปล่ามาม่อน!"



     "นั่นสินะ คงโง่..." มาม่อนพูดเสียงเรียบ "โง่ตั้งแต่ไปรับคำท้าไอ้เวลเด้มะ..."









    เวลเด้!?!








    ครืด!!!







    เก้าอี้ถูกเลื่อนออกจากโต๊ะ   แล้วคนที่เคยนั่งอยู่ก็วิ่งหายออกจากห้องไปแบบคนในห้องห้ามและเรียกไม่ทัน    ด้วยความเร็วแบบสายฟ้าแลบ   มองตามยังมองไม่ทันเลย




     "ฮ...เฮ้ย เฮ้ยไอ้มาม่อน!!!" เลวี่ตะโกน แต่ไม่ทัน...เจ้าของชื่อออกจะห้องไปเรียบร้อยแล้ว...


     "จะไปไหนของมันฟะ?"


     "...ไม่รู้ดิ ท่าทางเหมือนเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้..." เบลพูดขึ้น  แต่ก็ต้องชะงักมื่อสายตาคนทั้งโต๊ะเปลี่ยนจุดหมายมาจ้องที่ตน





     "อะไร?" คำถามสั้นแต่คำตอบคงยาว...



     "เบลจังดูไม่ค่อยร่าเริงเลยนะฮ้า~"



     "หือ?" เบลเอียงคออย่างสงสัย แล้วส่งสายตาถามลุสซาเรียเป็นทำนองว่าให้ขยายความด่วน


     "ก็แหม~   ตั้งแต่มาม่อนจังกลายร่างเป็นผู้ใหญ่เนี่ย  เบลจังก็แทบจะไม่ได้หัวเราะเลยนะฮะ~"


     "หรอ...?"




     คงงั้นมั้ง...แต่ว่าถ้าเป็นเรื่องที่ทำให้เจ้าชายคนนี้หมดอารมณ์ได้ล่ะก็...เชื่อเลยว่ามันจะหายไปอย่างรวดเร็วและไม่นาน...













    อีกด้านหนึ่ง...











    ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด ติ๊ด!...ตรู๊ดดดดด!~



    "รับนะโว้ยไอ้เวลเด้  ไม่รับแม่จะจับแกโขกผนังไปเฝ้าวิญญาณในยมโลกเลย!!!"




    ดูจากประโยคแล้ว...คงเดาได้สินะว่ากำลังโทรศัพท์อยู่  แต่ที่หน้าแปลกคือเราเพิ่งจะเคยเห็นหนูมาม่อน อัลโกบาเลโน่ผู้เคร่งขรึมและใจเย็นโวยวายกับเขาซักที...เอาเถอะ เวลานี้มันไม่ใช่เวลาจะมาตกใจอะไรหรอก  อ่านต่อเถอะ(แล้วจะพูดเพื่อ???)






    (ติ๊ด...ไง สบายดีป่ะ?) คำทักของปลายสายแทบจะทำให้ขว้างโทรศัพท์ทิ้ง



     "สบายดีบ้านแกเรอะ!!!   บอกนะว่าเมื่อวานแกเอายาอะไรให้ฉันกิน!!!"




    (โอ้ เสียงแบบนี้...ไม่ได้ยินมาตั้งนานแล้วแฮะ  กลับร่างเดิมแล้วสินะไวเปอร์)เวลเด้พูดราวกับคาดการณ์เอาไว้แล้ว


    "มาม่อน!!!  จำใส่หัวกะโหลกไว้มั่งไม่ใช่จำแต่เรื่องวิจัย!!!   ที่สำคัญอธิบายเรื่องยามาก่อน!!!"


    (คร้าบๆ  อย่าสั่งแล้วก็อย่าตะโกนสิครับคุณนาย เดี๋ยวเกิดเจ็บคอขึ้นมาเสียเงินไปหาหมอไม่รู้ด้วย)


    "ฉันจะใช้เงินจ้างหมอผีมาทำไสยศาสตร์แช่งแกก่อนเลย-*-" แต่น้ำเสียงก็ลดลงขึ้นอยู่ในระดับปกติ  มาม่อนก็ยังเป็นมาม่อน  อยากได้เงินแต่ไม่อยากเสียเงิน...เฮ้อ




    (ขอบใจ แต่ฉันไม่เชื่อเรื่องไสยเวทย์หรอกนะ) เวลเด้พูด (มันใช้วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้...)


    "แล้วไอ้ที่เกิดกับฉันนี่เรียกว่าอะไร  จะบอกว่ามีเวทมนต์มาช่วยให้ฉันกลับร่างเดิมรึไง"มาม่อนพูดอย่างหัวสีย


    (วิทยาศาสตร์ต่างหาก) เสียงกึกเล็กน้อยเหมือนคนปลายสายกำลังขยับแว่น (ยานั่นที่ฉํนให้แกกิน...บอกแล้วใช่มั้ยว่าเป็นยาวิเศษ)


    "แล้วไง?" นี่มันจะนอกเรื่องไปทางเวทมนต์กับวิทยาศาสตร์แล้วนะ  นี่เวลเด้มันคิดจะพล่ามอะไรเนี่ย


    (ยานั่นฉันใส่สารกระตุ้นของธาตุอรุณไปเป็นส่วนผสม  แล้วก็ส่วนผมมอีกมากมายที่น่าอัศจรรย์มากตอนค้นพบ  คุณสมบัติขิงอรุณคือกระตุ้น...ยานั่นมันวิเศษก็ตรงนี้ล่ะไวเปอร์  มันจะไปกระตุ้นเซลล์ของแกให้เจริญเติบโตขึ้นจนสามารถกลับสู่ร่างเดิมได้ และส่วนผสมอื่นๆทำให้ผลคำสาปจางลงไปมาก   แต่ว่านะ...ยานี่อยู่ในขุ้นทดลอง  ถ้าพลาดขึ้นมาอาจซี้ม่องเท่งเลยก็ได้)




    คนฟังเริ่มฉุนเฉียวมากกว่าเดิม "นี่แกเอาฉันเป็นหนูทดลองหรอ?"


    (ไม่เอาน่า อย่าพูดอย่างงั้นสิ   แกกินมันเข้าไปเองนะ แล้วฉันก็ไม่ได้บังคับด้วย)


    "โกหกหน้าด้านๆ แกเอาเงินมาล่อฉัน-*-"


    (อ้าว ก็ใครจะไปรู้ว่าแค่เงินห้าหมื่นสามารถทำให้คุณไวเปอร์ผู้แสนเย็นชาคว้าเอายาเข้าปากได้ล่ะครับ) เวลเด้พูดติดตลดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน  ทำให้มาม่อนอยากจะขว้างโทรศัพท์ทิ้ง คราวนี้ขว้างแบบไม่เหลือซาก!



    "ไอ้..." พยายามนึกสรรหาคำด่ามาด่าเจ้าของฉายานักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง  แต่ก่อนที่จะได้ว่าอะไร   เสียงหัวเราะของอีกฝ่ายก็ดังแทรกเข้ามา



    (ฮ่ะๆ  แกน่าจะขอบใจฉันนะ  ก็ในกลุ่มแล้ว...แกเป็นคนที่อยากกลับร่างเดิมทีสุดไม่ใช่หรอ?  เท่านี้ก็สมใจอยากแล้วนี่)




    จริงอยู่ว่ามาม่อนอยากกลับร่างเดิม   แต่พอนึกถึงสภาพตอนที่กลับมาถึงปราสาทแล้ว...มันแทบอยากจะแทรกหนีลงแผ่นดิน  ไหนจะคำถามของบอสที่ทำเอาอึ้งสำลักชาพรวดใหญ่    ผลเสียช่างมากกว่าผลดีเสียจริง แบบนี้ขอกลับไปเป็นเด็กเหมือนเดิมดีกว่า...




    "แล้วทำไมต้องเป็นฉัน?"



    นั่นสิ ทำไม?   คนื่นๆก็อยากกลับร่างเดิมไม่แพ้กัน แม้'เธอ'จะมากที่สุดในกลุ่ม   แต่ว่าทำไมต้องเป็น'เธอ'




    เอ๊ะ  'เธอ'งั้นหรอ?   นี่ใช้สรรพนามกันอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย?





    (แกน่ะล่อง่ายที่สุดแล้ว รีบอร์นโคโรเนโล่มันระวังตัวจะตายไม่ยอมกินง่ายๆหรอก ขืนพูดไปว่ายานี่ยังอยู่ในขั้นทดลอง ต่อให้อยากกลับร่างเดิมแค่ไหนมันก็ไม่กินหรอกจริงมะ?  ฟงมันก็เหมือนไอ้สองตัวนั่นเปี๊ยบ   ฉันไม่รู้จะหาเหตุผลยังไงให้มันกินด้วย   สคัล...จริงอยู่ที่มันโง่แต่ว่าฉันทนเห็นหน้าตอนกลับร่างเดิมมันไม่ได้ โคตรทุเรศเลย)


    นั่นอ่ะนะเหตุผล?



    "เอาสคัลก็ได้นี่นา เหตุผลแค่นั้นมันไม่เท่าไหร่หรอก"



    (จะให้ฉันพูดกับมันว่า "เอ้าสคัล นี่เป็นยาที่ช่วยให้นายกลับร่างเดิมได้นะ กินสิ" แล้วก็โยนยาขึ้นบนอากาศให้สคัลที่ยืนมองตาเป็นมันกระโดดงับเองน่ะหรอ  ขอบอกว่าทุเรศมาก...ฉันไม่ยอมทำอะไรอย่างงั้นเด็ดขาด  เพราะอย่างงั้นจึงเหลือ...แก)





    มาม่อนอยากจะฆ่าตัวเองทิ้งจริงๆ ไม่น่าเลยเรา ไม่น่ามีนิสัยขี้งกโลภมาก ไม่น่าเอายานั่นมาเข้าปาก และไม่น่าเอามันมาเป็นเพื่อนเล๊ย...




    "ฉัน...ไม่น่าเป็นเพื่อนกับแกเลยให้ตายสิ"


    (หึๆ คนเรามันก็ต้องมีเซอร์ไพรส์กันหน่อยสิ   บางทีฉันก็คิดแผนแกล้งคนได้เหมือนกันนะ)


    "แกล้งอย่างงั้นหรอ?"


    (ใช่ เมื่อเช้านี้ฉันเพิ่งส่งของขวัญไปให้โคโรเนโล่กับรัล...พวกมันน่าจะดีใจนะ โอ๊ะ  มันโทรมาพอดี...)




    มาม่อนชักอยากรู้ว่าเวลเด้ให้อะไรเพื่อนทั้งสองไป   เสียงเวลเด้ที่ลอดผ่านโทรศัพท์มาก็พอจะทำให้เข้าใจอะไรมากขึ้น




    (แกไม่ชอบหรือไงรูปรัลตอนหลับน่ะ ฉันว่าน่ากอดดีนะ...เหอๆ โคโรเนนโล่ ปากบอกว่าไม่ดอาแต่จริงๆก็อยากใช่มั้ยล่ะ  ฉันส่งรูปแกตอนอาบน้ำไปให้รัลเหมือนกัน ป่านนี้นั่งหน้าแดงแจ๋แน่)



    ร้ายกาจจริงๆ   ซ่อนเล็บไว้ใต้ผิวหรอกหรอเนี่ย...



    ใครเป็นเพื่อนกับมันคงลำบาก...นั่นสิคงลำบาก  เธอไงคนนึง  รวมถึงเหล่าอัลโกบาเลโน่อีก7คน(รวมลูเช่ด้วย)ก็เป็นเพื่อนมันทั้งนั้น



    "ทำอะไรอยู่น่ะ มาม่อน"


    เฮือก!



    แทบจะทันทีที่มาม่อนกดวางสายทิ้ง  ซ่อนโทรศัพท์ไว้ข้างหลังแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียง




    "บ...เบล ม...มี มีอะไร?" มาม่อนถามอย่างเลิ่กลั่ก


    "เห็นแกวิ่งออกมาจากห้องอาหาร  พวกบอสเลยยัดเยียดให้มาดู"


    "ง...งั้นหรอ"




    ความเงียบปกคลุมทันทีที่พูดเสร็จ    ไม่ใช่ว่าไม่อยากพูดแต่พูดไม่ออกต่างหาก    ปกติไม่เคยมีบรรยากาศแบบนี้เวลาอยู่กับเบล   อีกทั้งความรู้สึกกระอักกระอ่วนใจนี่ก็ด้วย  เบลดูเงียบๆไปตั้งแต่เธอคืนร่างเดิม   ไม่มีรอยยิ้มที่ดูน่าสยดสยอง ไม่มีเสียงหัวเราะชิชิชิที่น่าขนลุก ไม่มีท่าทีกวนประสาทตามฉบับเจ้าชายนักฆ่า...ไม่มี...




    "เธอ..." มาม่อนอึ้งกับสรรพนามที่เบลเรียก "ต้องเรียกว่าเธอสินะ เพราะยังไงแก...เธอก็เป็นผู้หญิง"


    "ฉันจำไม่เห็นได้ว่าแกเคยมีนิสัยสุภาพบุรุษกับเขาด้วย"


    "ฉันก็จำไม่เห็นได้ว่าเธอมีเรื่องที่ต้องปกปิดฉัน" เบลสวนกลับ "ข้างหลังนั่นอะไร"



    "อะไร?"มาม่อนถามเสียงสูง โทรศัพท์ในมือถูกกำจนแน่น    เบลสาวเท้าเข้ามาใกล้แล้วหยุดกึก   ระยะห่างกันแค่คืบฝ่ามือ ปกติมาม่อนก็ไม่ได้รู้สึกอะไร  แต่ครั้งนี้ลมหายใจติดขัดแบบที่ไม่เคยเป็น





     "อ...อะไร?"


     "..." เบลไม่ตอบ  แต่เอื้อมไปจับของบางอย่างที่มาม่อนกำจนแน่นไว้ข้างหลัง  โทรศัพท์ของมาม่อนนั่นเอง   ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาเอามันมาอย่างง่ายดายได้อย่างไรก็ในเมื่อเจ้าของโทรศํพท์มันช็อคค้างอยู่นี่นา  แรงกำ
    มันก็หายไปจนทำให้อีกฝ่ายเอาของในมือไปง่ายๆ      เบลกดดูเบอร์โทรล่าสุด  สีหน้ายังเรียบเฉยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปรจนมาม่อนรู้สึกอึดอัด   ไม่ใช่สิ   มันอึดอัดมาตั้งนานแล้ว!





     "บ...เบล" เจ้าของชื่อเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ในมือ "นาย...นายโกรธฉันหรือเปล่า?"


     "จะให้โกรธเรื่องอะไร"


     "ก็...ก็เรื่องที่ฉัน...ไม่เคยบอกนายว่าฉันเป็น เอ่อ...เป็นผู้หญิงน่ะ..."


     "เรื่องแค่นั้นทำไมจะต้องโกรธ   แล้วฉันก็ไม่ได้โกรธด้วย"


     "แล้วนายเป็นอะไรล่ะ" มาม่อนพูด แม้จะไม่ใช่ประโยคคำถามแต่ดูท่าเจ้าตัวต้องการคำตอบ




     "..."



     "เบล..." มาม่อนเรียก "ฉันไม่รู้หรอกนะว่านายเป็นอะไร  แต่ว่า...ในฐานะเพื่อน...ถ้านายมีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้..." พูดจบ ร่างของมาม่อนก็เดินผ่าน 'prince the ripper' ไป ทั้งที่โทรศัพท์ของตนยังอยู่ในมือของอีกฝ่าย  เบลก็ไม่มีท่าทีว่าจะเรียก  จ้องโทรศัพท์อยู่อย่างเดิม...






     '...แต่ว่า...ในฐานะเพื่อน...ถ้านายมีปัญหาอะไรก็บอกฉันได้...'




    นั่นสินะ เป็นเพื่อนกันนี่...




    'แล้วนายเป็นอะไรล่ะ'





    ยัยบ้านั่น...ถามอะไรโง่ๆ    เบลยกมือขึ้นเสยผมที่บังตา แต่เราก็ยังมองไม่เห็นสีดวงตาเขาอยู่ดี     ผมสีทองบลอนส์สวยดูยุ่งเหยิงกว่าเก่าหลายเท่า  ทั้งที่เมื่อกี้เรียบแสนเรียบ




    'แล้วนายเป็นอะไรล่ะ'



    ฉันน่ะหรอ?  ฉันก็เป็น...




    "เจ้าชายยังไงล่ะ..."

















    ________________________________________________________________________________


    nail : เหมือนเบลจะสับสนอะไรนิดหน่อยนะ

    lian : นั่นสินะ มาม่อนเองก็เหมือนกัน

    nail : แล้วไอ้นั่นน่ะมันหมายความว่ายังไง 'ในฐานะเพื่อน' เนี่ย?

    lian : อ้าว ก็หมายความว่ามาม่อนกับเบลเป็นเพื่อนกันไง

    nail : แต่ฟิคนี้ทั้งคู่ต้องเป็นแฟนกันนะ!>_<

    lian : งั้นมันอาจจะเป็นความรักระหว่างเพื่อนก็ได้...

    nail : จริงอ่ะ*0*

    lian : ไม่รู้สิ อยากรู้ก็ต้องติดตามแล้วล่ะ^_^

    nail : อ๋า~   อะไรกัน ขี้โกงนี่   ท่านผู้อ่านว่ามั้ยว่าไรน์เตอร์(คนที่2)เรื่องนี้มันขี้โกง!T^T




    ได้25คอมเม้นแล้วจะมาอัพจ้า




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×