ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ยาวิเศษ
t em
ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งวันก่อน ณ ประเทศญ๊ปุ่น
'โคโรเนโล่ แกตายซะเถอะ!!!'
เสียงโวยวายของอัลโกบาเลโน่ผู้ไม่สมประกอบ รัล มิลจิ ดังไปทั่วสถานที่จัดงาน ตามมาด้วยร่างเล็กของเด็กทารกสองคน คนหนึ่งถือปืนวิ่งไล่ ส่วนอีกคนพยายามวิ่งหนี
'ก็บอกว่าล้อเล่นไงเว้ยเฮ้ย!' โคโรเนโล่ตอบในขณะที่กำลังพยายามหลบหลีกกระสุนปืน
'ไปตายซะเถอะแก! ฉันจะส่งแกไปยมโลกเดี๋ยวนี้ล่ะ!'
'เฮ้ย! ใครก็ได้ช่วยหยุดยัยบ้ารัลทีเว้ยเฮ้ย!'
แม้จะตะโกนยังไงอัลโกบาเลโน่คนอื่นๆก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะช่วย ทำให้อัลโกบาเลโน่นามโคโรเนโล่ต้องเสี่ยงโชคหลบกระสุนจากคนที่เคยได้ชื่อว่าเป็นครูของตน ภาพของเด็กทารกทั้งสองที่กำลังกัดกัน...มันช่างเป็นภาพที่เห็นจนชินตาจริงๆ
'เฮ้อ ไอ้สองตัวนั่นมันกัดกันอีกแล้ว' รีบอร์นส่ายหน้าอย่างเอือมระอา ก่อนจะให้เลออนแปลงเป็นปืนสั้นสีเขียวคู่ใจ ยิงไปบนฟ้านัดหนึ่ง
ปัง!
ได้ผล อัลโกบาเลโน่ทั้งสองที่กำลังวิ่งกัดกันอยู่หยุดชะงัก พอรู้ว่าใครเป็นคนยิงก็ใช่ว่าจะสำนึก กัดกันต่อไม่ไว้หน้าของอัลโกบาเลโน่ธาตุอรุณเลยซักนิด
'ชิส์ มันน่าฆ่าทิ้ง' บ่นอย่างหัวเสียก่อนจะเดินไปหาร่างที่เป็นผู้ใหญ่คนเดียวในหมู่อัลโกบาเลโน่บนโซฟา อาเรียยิ้มให้อย่างทุกที รีบอร์นกระโดดขึ้นนั่งบนโซฟาอย่างง่ายดาย
'มางานสังสรรค์ทั้งที อย่าทำหน้าซีเรียสซิคะ' อาเรียหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตามฉบับอัลโกบาเลโน่ธาตุนภา
'อือ รู้แล้วน่า...' พูดเสร็จก็กระดกวิสกี้แก้วใหญ่เข้าปากไปอย่างไม่รีบร้อน ปล่อยให้ของเหลวในแก้วไหลผ่านลงคอไปเอง
'รุ่นพี่ฟงๆ ผมขอซาลาเปาเกี๊ยวซ่าที่หนึ่งนะ!!!'
เสียงของสตั๊นแมนที่แม้แต่ยมทูตยังเกลียด...สคัลกระโดดโลดเต้นไปมาหน้าของเด็กทารกอีกคนในชุดคล้ายผู้มีวิชาการรบของจีน ผมเปียยาวสีดำจะเป็นใครไปได้นอกจาก ฟง ผู้ที่รับจ๊อบกิจการเสริมมาทำซาลาเปาเกี๊ยวซ่าขาย
'ได้สิสคัล แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะ^_^' ฟงยิ้ม
'อะไรๆๆๆๆๆ เพื่อซาลาเปาเกี๊ยวซ่าแล้วสคัลคนนี้ยอมทุกอย่าง!!!'
'งั้น...มาเป็นคู่ซ้อมฝึกต่อสู้ให้ผมหน่อยสิ^_^'
'!!! -[]-;' เอ๋อรับประทานชั่วคราว
'พร้อมนะ^_^...หมัดเกี๊ยวซ่า!!!'
'จ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!'
ร่างของสตั๊นแมนลอยละลิ่วไปไกลเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่แทบเท้าของใครบางคน ใครบางคนที่มองอย่างสมเพช
'ดูไม่ได้เลยนะสคัล' สคัลพยายามมองเจ้าของเสียง
'ร...รุ่น รุ่นพี่เวลเด้'
'สภาพน่ารังเกียจจริงๆ' เวลเด้ขยับแว่น 'เอาเถอะ ฉันจะทำเป็ยว่าไม่เห็นภาพเมื่อกี้ละกัน'
'ขอบคุณครับรุ่นพะ...แอ๊กกกกกก!!!'
สคัลร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อคุณนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องหริออัลโกบาเลโน่ธาตุอัสนีก้าวข้ามตนไปแบบไม่เห็นจริงๆ บาทาเล็กๆสองข้างเหยียบเต็มหน้าและทั้งตัวของอัลโกบาเลโน่ธาตุเมฆาผู้หน้าสมเพช...ไม่เห็นจริงๆด้วยแฮะ
เวลเด้ หลังจากที่ทำเป็นไม่เห็นภาพอันน่าสมเพชกว่าเก่าของสคัลแล้ว ก็เดินหลีกมาหาใครบางคนที่นั่งอยู่บนโซฟาอยู่คนเดียว ร่างเล็กๆของอัลโกบาเลโน่ธาตุสายหมอกผู้หวงเงินเป็นที่สุด มาม่อน...
'ไง' มาม่อนมองคนที่ทัก 'ไม่ไปสังสรรค์หน่อยหรอ'
'ไม่มีเคียนติฉันก็ไม่ไป' คำตอบที่ชวนให้คนฟังเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ
'มีวิสกี้แกจะเอาเคียนติ?' นักวิทยาศาสตร์หนุ่มหัวเราะ 'ฉันมีอะไรให้แกลองดูซํกหน่อย เจ๋งกว่าเบคียนติตั้งเยอะ'
'อะไร?' มาม่อนถาม ไม่ใช่เพราะอยากจะลองของที่เพื่อนนักวิทยาศาสตร์บ้านี่แต่เป็นเพราะอยากรู้
เวลเด้ไม่ตอบ เพียงล้วงเข้าไปหยิบของบางอย่างในกระเป๋าเสื้อชุดกราวน์ เมื่อแบให้คนที่นั่งดูก็พบกับยาเม็ดเล็กสีทับทิมสวย มาม่อนรับมาพิจารณาอย่างงงๆ
'ยานี่มันอะไร?'
'ลองกินสิเดี๋ยวก็รู้ หึๆ...' เวลเด้หัวเราะเบาๆในลำคอ มาม่อนมองร่างของเพื่อนอัลโกบาเลโน่ด้วยกัน ก่อนจะส่งเม็ดยาคืนให้เวลเด้
'คืนทำไม?' แม้จะรู้อยู่แล้วว่าฝ่ายนั้นคืนทำไมแต่เวลเด้ก็แกล้งแถมไปอย่างงั้น
'ฉันไม่รับของจากคนแปลกหน้า'
เวลเด้หัวเราะยกใหญ่ มองหน้าเจ้าของนามปีศาตประจำบาปแห่งความโลภ 'คนแปลกหน้าที่ไหนกัน ฉันก็เพื่อนแก หรือว่ามีใครที่วาเรียสั่งมา... ใช่เจ้าหนุ่มน้อยผมทองที่ใส่มงกฎนั่นหรือเปล่านะ~'
'ยุ่งเรื่องชาวบ้านจังนะแก'
'ถ้าเป็นเพื่อการค้นคว้าฉันก็ทำได้ทุกอย่างนั่นแหล่ะ' เวลเด้ขยับแว่นอีกครั้ง 'ยาเนี่ยน่ะ...กินดูสิ'
'ไม่' เป็นคำตอบสั้นๆจากปากของมาม่อน 'ยานี่มันมีอะไรแกถึงต้องให้ฉันกิน?'
'หึๆ...' มาม่อนชักจะรำคาญเสียงหัวเราะของเจ้านักวิทยาศาสตร์นี่แล้วสิ ทุกทีไม่เคยจะหัวเราะ 'ถ้าบอกว่า...เป็นยาวิเศษแกจะเชื่อไหมล่ะ?'
มาม่อนเลิกคิ้วขึ้นสูง 'ไอ้ยานี่มันวิเศษซักแค่ไหนกันเชียว'
'ลองกินดูสิแล้วจะรู้' เวลเด้หัวเราะอีกครั้ง 'เดิมพันห้ากมื่น ถ้าแกกินเอาเงินไปเลย'
มาไม้ไหนล่ะแก ทุกทีไม่เคยชอบพนัน...มาม่อนคิด
'แล้วถ้าฉันไม่กิน?' เวลเด้เพียงไหวไหล่
'แกก็อดเงิน แค่นั้นแหละ'
เงิน...
ไม่ต้องเสียเวลาคิดอะไรอีกแล้ว มาม่อนคว้าเม็ดยานั่นมาเข้าปากทันทีทันใด แต่ทันทีที่ได้ลิ้มรส ความขมแสบคอไปหมดหาน้ำแทบไม่ทัน เวลเด้ส่งแก้วน้ำในมือให้ราวกับคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อน้ำจากแก้วไหลรินลงคอพาความขมลงไปด้วยทุกอย่างเหมือนจะดีขึ้น...
'ไหนอ่ะห้าหมื่น'
กินเสร็จก็ถามหาเงินเลยนะแก...
'เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันค่อยส่งไปให้แก' พูดพลางขยับแว่นอีกครั้ง
'คิดจะโกงกันงั้นหรอ'
'เปล่า พรุ่งนี้เดี๋ยวจะส่งไปให้ถึงปราสาทเลยล่ะ หึๆ ขอให้โชคดี'
พูดเสร็จนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องก็หันหลังกลับเดินไปหาพวกรีบอร์นที่กำลังนั่งเตรียมตั้งก๊งเหล้ากัน(เด็กดีไม่ควรยุ่งกับของมึนเมานะครับ^_^//lian)(สุราเมรยมชฺชปมาทฎฐานา เวรมณี สิกฺขาปทํสมาทิยามิ-/\- รักษาศีลห้ากันด้วยนะคะ ถ้าใครนับถือพูทธอย่าละเมิดศีลข้อไหนๆเลยนะคะ^_^//nai;)
มาม่อนมองตามร่างนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่องนั่นไป ก่อนที่หัวมันจะรู้สึกปวดขึ้นมาแบบช่วยไม่ได้ ทำให้มือข้างหนึ่งต้องมากุมหัว ไม่เพียงแค่นั้น ร่างกายมันยังรู้สึกร้อนไปทั้งตัวด้วย!
'จ...เจ็บ นี่มันอะไรเนี่ย?' มาม่อนคิดในใจ พลันมือข้างหนึ่งที่ว่างอยู่ก็เลื่อนไปกุมบริเวณหน้าอกข้างซ้าย เหงื่อเม็ดเล็กมากมายผุดขึ้นบนใบหน้า เสียงหอบหายใจเล็กๆของเด็กทารก เหมือนอากาศกำลังจะหายไป
'นี่...นี่เวลเด้มันเอายาอะไรให้เรากินเนี่ย'
จากเจ็บก็กลายเป็นทรมาน...มาม่อนหายใจอย่างลำบาก ร่างกายร้อนเหมือนถูกไฟเผาและพร้อมจะลายไปได้ทุกเมื่อ เสียงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นและแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
'ไม่...ไม่ไหวล...แล้ว กลับ...ต้องกลับปรา...สาทก่อน...'
แล้วร่างของเด็กทารกธาตุสายหมอกก็ลอยหายออกจากห้องไปโดยที่เพื่อนๆคนอื่นๆไม่ได้สังเกตุ ฝ่าสายฝนข้างนอกไปและรับความเจ็บปวดที่ทำให้ร่างกายทรมาน...
กลับมายังปัจจุบัน ณ ปราสาทวาเรีย
บนโต๊ะอาหารสำหรับผู้พิทักษณ์แห่งวาเรีย ไม่มีใครจับมีดและส้อมเลยซักคน มีเพียงคนคนเดียวที่กินข้าวเช้าของตนไปแบบไม่แคร์สายตาหลากสีบนโต๊ะอาหารที่มองมาที่ตน ใช่ ก็ใครล่ะที่มันจะทำเรื่องแบบนี้ได้แบบไม่แคร์สื่อ...
มาม่อน!!!
"เอ่อ...ไอ้นี่คือไอ้สวะมาม่อนงั้นหรอ?"
เบลพยักหน้าหงึกๆให้สควอลโล่ ส่วนเลวี่นั้นอ้าปากค้างไปแล้วเรียบร้อย โกร่ามอสก้า...เอ่อ ไม่ต้องพูดถึงมันสินะ... ลุสซาเรียพยักหน้าเสริมช่วยเบลด้วย ส่วนคนที่มีอำนาจสูงสุดในที่นี้ นั่งเท้าคางมองร่างของคนที่เหมือนจะใช่แต่ตอนนี้ไม่ใช่
ร่างของหญิงสาวในชุดผ้าคลุมยาวสีดำสนิท หมวกคลุมหน้าสีเดียวกัน มีเส้นผมสีม่วงอมครามลอดผ่านหมวกนั้นมานิดๆ รอยรูปเขี้ยวอสรพิษสีเดียวกับเส้นผมบนใบ้หน้าทั้งสองข้างของหญิงสาว บอกชัดทุกอย่างว่ามันคือไอ้สวะมาม่อนชัวร์ๆ แต่ไหงไอ้สวะที่เคยเป็นเด็กเมื่อวันก่อนถึงได้กลายเป็นผู้ใหญ่ได้?
"ไอ้สวะ"
ซันซัสเรียกครั้งเดียว แม้ไม่ระบุชื่อ คนที่นั่งกินข้าวเช้าแบบไม่แคร์สื่ออยู่นั้นก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
"ครับบอส?"
แต่คำพูดต่อมาของคนเป็นบอส ก็ทำให้มีดและส้อมในมือร่วงหล่นทันที
"แกเป็นผู้หญิงทำไมถึงพูด 'ครับ' ฮะ ไอ้สวะ"
________________________________________________________________________________
nail : จบไปแล้วอีกบท!>_<d
lian : โฮ่ งั้นคนที่ทำให้มาม่อนกลับคืนร่างเดิมก็คือ...เวลเด้สินะ
nail : นี่ๆ นายlian เรื่องทั้วหมดนี่มันยังไงกันแน่น่ะ
lian : หึๆ อยากรู้ก็ต้องเม้นแล้วติดตามแล้วล่ะ เนอะ?
nail : นั่นสิ! ถ้าเม้นแล้วจะได้อ่านกันแบบสนุกสุดขั้วเลยล่ะ!^_^
lian : ตอนต่อไป..พวกเราจะมาเฉลยความเป็นจริงกันทีละเล็กทีละน้อย!
nail : เอ๊ะ ทำไมทีละเล็กทีละน้อยล่ะ เฉลยให้หมดเลยสิ!>x<
lian : ไม่ได้ๆ มันต้องติดตามทีละตอนสิ
nail : แง้! ท่านผู้ชมเม้นกันเยอะนะเจ้าคะ ไม่งั้นnailจะบีบคออีตาlianให้ดู!>_<
lian : อ้าวเฮ้ย! ไหงมาลงที่ฉันล่ะ!=_=;
ได้15เม้นแล้วจะมาอัพตอนต่อไปจ้า
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น