ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    BM Just love you ก็แค่รักนายคุณเจ้าชายที่รัก

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 22 เม.ย. 55


    APPLE PIE★
     
     
    The only abnormality is the incapacity to love…
    การที่ได้มีความรักและสูญเสียมันไป ยังดีกว่าไม่เคยรู้จักความรักเลย
     
     
     
     
                “โว้ย มาม่อน มานี่ดิ๊ เพื่อนสนิทแกเมากลับมาอีกแล้วโว้ย!!!”
     
    ฟึ่บ
     
                “เออๆ รู้แล้ว เดี๋ยวไป”
     
    ให้ตายซี่!
     
                ฉันกำลังเล่นไพ่อยู่อย่างเมามันส์และจวนจะได้ชัยชนะมาครอบครองพร้อมกับเงินก้อนโตแล้วด้วย! แต่ทำไมจะต้องมีไอ้บ้าหน้าตาไม่ได้เรื่องบางตัว เอ้ย คน มาขัดขวางด้วยนะ!? ฉันวางไพ่ในทุกใบในมือลงบนโต๊ะอย่างหงุดหงิดแล้วเดินกระฟัดกระเฟียดออกจากวงไป
     
                “มาม่อนจางงงง~ แล้วอย่าลืมมาเล่นกับเจ๊ใหม่นะฮ้า เจ๊จะรอ!~”
     
                “เออ!!!”
     
     
    ล้างคอรอเอาไว้เลยลุสซาเรีย ฉันจะกลับมาทวงเงินของฉันคืน!- -
     
     
                ไม่ต้องสงสัยหรอกว่าอิบ้าที่ไหนมันมายืนบ่นให้คุณฟัง อ่ะแฮ่มๆ จะแถลงการณ์ให้ฟังละกันนะ ฉันมีนามว่า “มาม่อน” เป็นอัลโกบาเลโน่จุกนมสีครามธาตุสายหมอก และก็เป็นหนึ่งในผู้พิทักษ์แห่งวาเรียหน่วยลอบสังหารของวองโกเล่ อืม…ข้อมูลย่อยๆพวกนี้คงจะรู้กันอยู่แล้ว งั้นฉันไม่ขออธิบายอะไรไปมากกว่านี้ละกัน(แต่ถ้าอยากรู้…จะบอกให้หลังไมล์ ถ้าจ่ายมา85,000J)
                ถ้าเป็นผู้พิทักษ์แห่งวาเรีย แล้วตอนนี้ฉันจะอยู่ที่ไหนได้ถ้าไม่ใช่ปราสาทวาเรีย จริงไหม? วันไหนที่ทำภารกิจเสร็จแล้วหรือว่างไร้งานทำฉันก็จะมานั่งเล่นในห้องนั่งเล่นรวมของปราสาทเนี่ยแหล่ะ มีของอำนวยความสะดวกครบครันไปซะทุกอย่าง และที่ฉันปลื้มมากที่สุด… วงไพ่
                แต่ว่า!!! ทั้งๆที่ฉันกำลังจะได้เงิน(พอดีเล่นไพ่พนันเงินน่ะ แหะๆ อย่าเอาอย่างนะ- -;)อยู่แล้วเชียว ไอ้บ้าที่ไหนบังอาจมาขวางฟะ!?!
     
                พูดไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ฉันก็รู้อยู่แล้วว่าไอ้บ้านั่นมันเป็นใคร…
     
     
    ชิ… บ้าที่สุด…
     
     
                ฉันเดินออกมาจากห้องนั่งเล่นรวมแล้วก็เดินตรงมายังทางเข้าปราสาทที่ปูพรมแดงไว้อย่างสวยงาม ก็นะ ไม่รู้หรอกว่าใครหามาปูไว้ แต่ดูเหมือนบอสจะชอบซะด้วย= =; ฉันมองไปยังประตูทางเข้าบานใหญ่ที่สลักลวดลายไว้อย่างประณีต  แล้วก็พบว่ามันเปิดค้างไว้อยู่ และพอก้มมามองที่พื้น…
                ก็พบร่างๆหนึ่งที่ฉันรู้จักเป็นอย่างดีสลบไสลอยู่
     
                “จริงๆเล้ย เอาอีกแล้ว”
     
    ฉันส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะเดินไปพยุงร่างนั้นขึ้นมา หึย กลิ่นเหล้าหึ่งชะมัดวุ้ย-.,-
     
                “…อือ…” คนที่ถูกฉันพยุงอยู่นั้นร้องครางในลำคอ เป็นหลักฐานชัดเจนเลยว่ามันเมาของแท้ แถมดูท่าจะเมามากซะด้วย
                “ให้ตายสิ ทำไมนายจะต้องทำตัวเหมือนเด็กแบบนี้ด้วยนะ งี่เง่าชะมัด”
     
    ฉันเอามือปัดเส้นผมที่ยุ่งเหยิงของ ‘เขา’ ให้เรียบร้อยกว่าเดิม แม้ปรกติมันจะยุ่งเหยิงอยู่แล้วก็เถอะ เส้นผมสีทองเหมือนเส้นไหมนิ่มทุกครั้งที่ได้สัมผัส และมงกุฎสีเงินก็ส่งประกรายทุกครั้งไม่ยอมเลิก ร่างสูงใหญ่ไม่อ้วนไม่ผอมจนเกินไปที่หุ่นดีซะจนน่าอิจฉา และผิวขาวจัดที่ได้รับการดูแลอย่างดีเหมือนเจ้าชายยังไงยังงั้น…
     
                “ไม่ไหวๆ ทำตัวแบบนี้แล้วสาวที่ไหนจะมาชอบฮะ เบลเฟกอล”
                “…อึ่ก…อือ…” ท่าทางแบบนั้น ย-อย่าบอกนะว่าจะอ้วก!-0-;
                “เฮ้ยๆเบล นายอย่ามาอ้วกใส่ฉันนะ คนเค้าอุตส่าห์มาช่วยแบกส่งถึงห้องทุกวัน อย่ามาเนรคุณฉันเชียวนะโว้ย!!!”
                “…” แล้วฉันจะพูดเอาอะไรกับคนเมา โวยใส่มันไปก็เท่านั้นแหล่ะ เฮ้อY_Y
                “นี่ๆ นายควรจะสำนึกนะ ฉันอุตส่าห์เอาเรือนร่างแสนบอบบาง(?)ของฉันมาแบกนายโดยไม่คิดเงินซักยูโรเลยนะ”
     ประโยคหลัง…ฉันกัดฟันพูดนะ-  -^
    …”
     
    การแบกร่างหมอนี่ทุกวัน…มันกลายเป็นหน้าที่อีกอย่างหนึ่งของฉันไปซะแล้ว พอมันเมาก็มารับมันที่ทางเข้าปราสาท แล้วก็พยุงมันกลับห้อง ช่างเป็นหน้าที่ ที่ปัญญาอ่อนได้โล่เสียจริงๆ และเหตุผลที่ฉันได้รับหน้าที่นี้ ก็เพราะว่าห้องของฉันอยู่ติดกับห้องของเบลไงล่ะ
    ฉันผลักประตูห้องของเบลเข้ามาอย่างลำบากลำบน ไอ้บ้านี่ตัวหนักชะมัด= = สงสัยงานนี้ไม่คิดตังค์คงจะไม่ได้แล้วล่ะนะ ไอ้ครั้นจะใช้มือเปิดมือก็ดันไม่ว่าง…ฉันเลยใช้ขาขวาของฉันเนี่ยแหล่ะถีบประตูเข้ามาโดยไม่เกรงใจเจ้าของห้องที่ตอนนี้มันเมาอยู่ข้างๆฉันเนี่ย- -
    “น-หนักโว้ยยยย!!!” นั่นคือคำพูดคำแรกหลังจากฉันก้าวเข้ามาในห้องเบล
    ฉันวางร่างของเบลลงบนเตียงขนาดคิงไซค์ของมันอย่างนิ่มนวลที่สุด อันที่จริงกะจะโยนมันลงบนเตียงแรงๆด้วยซ้ำ -*-  ห้องของเบลตกแต่งด้วยวอลเปเปอร์สีดำตัดแดงตามสไตล์ของมัน แถมยังมีพวกของประดับจำพวกมีดสั้น มีดยาว มีดพับ มีดต่างชนิดทั้งหลายแหล่ที่ดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในงานสะสมมันด้วย
    …”
    “ไอ้นี่ก็เมาอยู่ได้ ตื่นขึ้นมาพูดขอบคุณกันบ้างสิเฮ้ย!”
    …อือ…” ท่าทางแบบนั้น…รำคาญฉันชัวร์ “…ไม่ได้…เมา…นะ”
                “อย่ามาค้าน ถ้าฉันบอกว่าแมวเป็นหมูก็เป็นหมู… ถ้าฉันบอกว่านายเมาก็เมา!”
                “…น่า...รำคาญ...ยัยปี...ศา...จ”
                “ใคร? ใครปีศาจฮะ?” นั่นคือคำพูดกับผู้มีพระคุณของนายงั้นหรอ เบลเฟกอล!=_=^”
                “…ชิ…จะไปไหนก็ไป…รำคาญ”
     
    เบลทำท่าไล่ฉันขณะที่ยังเมาอยู่ เขาเอาหน้าซุกหมอนเหมือนพยายามหลบหน้าฉัน นั่นทำให้ฉันมองเขาตาขวางอย่างอารมณ์เสีย
     
                “ขอบคุณซักคำก็ไม่มี…”
                “…ขอบใจ”
                “กรุณาอย่าพูดแทรก=_= แล้วฉันก็ไม่รับคำขอบคุณของคนเมาที่พูดอย่างไม่เต็มใจหรอกนะยะ”
                “…ชิ…” เบลสถบ
     
                “ไม่ต้องมาสถบเลยนะ เบลเฟกอล- -  เอ้า ไปอาบน้ำซะ กลิ่นเหล้าเหม็นไปถึงประเทศจีนแล้วมั้ง… ลุกขึ้นอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะ เบล”
     
                เบลทำหูทวนลม    เออๆ ไม่ยอมฟังกันดีๆใช่มะ? แกได้เห็นดีกับฉันแน่ไอ้เจ้าชายตกกระป๋อง!
     
                “เบล ลุก!!!” ฉันทำการกระชากแขนเบลให้เขาลุกขึ้น แต่ก็นะ ด้วยความแตกต่างอยู่สามประการง่ายๆ หนึ่ง คือมันเป็นผู้ชาย ส่วนฉันก็เป็นผู้หญิง(ที่อยากจะชายอ่ะนะ= =)ลำพังแรงผู้หญิงคนเดียวคงจะไม่ไหว สอง คือ นิสัยอันดื้อด้านของเบลก็ทำให้ฉันไม่สามารถพาเขาลุกได้เช่นกัน และสาม มันสูงกว่าฉัน และด้วยแรงที่มากกว่าฉันจึงเป็นฝ่ายถูกกระชากไปซะเอง!
     
                “!?!” ฉัน           
    …บอกแล้วไง…ว่ารำคาญ…” เบล
    “อะ…” พอเป็นฝ่ายถูกกระชาก ร่างของฉันก็เซล้มลงไปซบอกของเบลจนได้ กลิ่นแอลกอฮอล์และกลิ่นประจำตัวของเบลปะปนกันทำให้ฉันทำอะไรไม่ถูก ทั้งได้กลิ่นและได้ยิน…เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอและเสียงการเต้นของก้อนเนื้อภายในอกของเขา…
    “บ…เบล…”
    …ฉันลืมไม่ได้…” เสียงของเบลแหบพร่าและดังก้องชัดเจนในประสาทหูของฉัน “…ทำยังไงก็ลืมไม่ได้ซักที…”
    “น…นายเมามากแล้วนะเบล” ฉันพูดไปทั้งอย่างนั้น ทั้งๆที่ก็รู้ว่ามันไม่ได้ไปเข้าโสตประสาทเพื่อนของฉันเลยแม้แต่น้อย ฉันพยายามดันตัวเองให้ห่างจากเบลแต่ก็ถูกเบลรั้งไว้ด้วยแขนสองข้างจนตอนนี้กลายเป็นว่าเขากอดฉันอยู่
    …” ให้ตายเถอะ สถานการณ์แบบนี้ฉันควรจะทำยังไงดี โดนกอด…บนเตียงเนี่ย
    …อยากจะลืม แต่ก็ลืมไม่ได้ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีแต่เรื่องของเธอเข้ามาตลอดเวลา…”
    “…” ฉันพูดอะไรไม่ออก น้ำเสียงของเบลฟังดูเจ็บปวด แต่มันก็ทำให้หัวใจฉันยิ่งเต้นเร็วขึ้น เร็วขึ้น…เป็นบ้าอะไรของเราเนี่ย มาม่อน
    “ฉันคิดถึงเธอ…”
     
    คำพูดแค่สี่พยางค์ของเขาทำให้ใจฉันมันเต้นไม่เป็นจังหวะ ดวงตาที่ซ่อนอยู่ใต้ผ้าคลุมเบิกกว้าง ทั้งที่หัวใจเต้นรัวแต่ร่างกายกลับชาไม่รู้สึกอะไร
     
    ได้ยินแต่เสียง
    ไม่รู้สึกอะไร
    คำพูดนั้นวกไปวกมาในหัว
     
    …ฉันคิดถึงเธอนะ…”
    “เบล ฉัน…”
    …รีน่า…”
     
    แค่คำพูดเดียวที่แทบจะทำให้หัวใจฉันหยุดเต้นได้เลย ร่างทั้งร่างที่ชาอยู่แล้วยิ่งชาเข้าไปใหญ่ สุดท้ายก็ได้แต่มาหัวเราะสมเพชตัวเองที่หวังอะไรไม่เข้าท่า
     
    น่าสมเพช ทำไมฉันถึงน่าสมเพชแบบนี้นะ
     
    “ให้ตายเถอะ บทจะเมาก็เมาให้ถูกทิศถูกทางหน่อยสิ” ฉันเอ็ดใส่คนที่หมดสติไปเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ ฉันดันร่างนั้นออกห่างจากตัว ในเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วก็ปล่อยให้มันสลบต่อไปเถอะ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้อยู่แล้ว
     
    ทำได้แค่ช่วยอยู่ข้างๆเขา แต่ก็ไม่สามารถจะช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ได้
     
    แล้ว…ตกลงว่าหมอนี่มันทุกข์หรือตัวฉันเองที่กำลังทุกข์อยู่กันแน่นะ?
     
    มันชินซะแล้วสิ
     
    ชินแล้วกับคำพูดที่เย็นชามากมาย ทนฟังเสียงของเขาที่เรียกแต่ชื่อของคนอื่นที่ไม่ใช่ฉันแม้ว่าฉันจะอยู่ข้างๆเขา มันทำให้หัวใจของฉันตายด้านไปซะแล้ว แต่ว่าในหัวก็เต็มไปด้วยความสับสน ความหวั่นไหวสลับกันไปมาเหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้าใส่โขดหิน สุดท้ายแล้วมันจะยังตั้งอยู่ได้หรือสลายหายไปพร้อมกับคลื่นนั้น ก็ไม่รู้…แล้วตัวฉันล่ะ จะทนเจ็บแบบนี้ไปได้ถึงไหนกันนะ?
     
    ฉันปรายตามองร่างที่สลบไปบนเตียง กลิ่นเหล้านั่นยังไม่หายไปไหนเลยแฮะ นั่นทำให้ฉันเกิดอารมณ์อยากจะลิ้มรสมันขึ้นมาบ้างแล้วสิ
     
    “อย่างที่คิด นี่นายวันๆกินแต่เหล้าเบียร์เป็นอาหารหรือไงนะ ขาดสารอาหารตายเลย”
     
    ฉันมองกระป๋องเบียร์จำนวนมากมายที่เรียงอยู่ภายในตู้เย็นในห้อง หมอนี่มันจะกินแต่ของพวกนี้จนวันตายเลยหรือไงะ-_-! แต่ก็นะ ในเวลาแบบนี้นี่…
    เห็นทีคงจะต้องพึ่งของมึนเมาซะแล้วสิ
     
    ฉันไม่สนหรอกนะว่าในสายตาของคนอื่นแล้วจะมองฉันว่ายังไง ยัยผู้หญิงไม่รักตัวเอง…แต่ฉันลองมาหมดทุกรูปแบบแล้วล่ะ เหล้า ไวน์ บุหรี่ ยาเสพติด ของมึนเมาทุกชนิดที่สามารถพาชีวิตดับสิ้นได้ ฉันไม่ใช่หญิงสาวไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกนะ เพราะฉะนั้นอย่าหวังเลยว่าฉันจะมานั่งจิบน้ำชายามบ่ายสงบเสงี่ยมให้พวกคุณเห็น
    การดื่มเบียร์ซักกระป๋องมันทำให้ฉันคิดอะไรเรื่อยเปื่อยมากยิ่งขึ้น…ฉันนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเตียงที่เบลนอน เบลนอนหลับสนิท…แต่การเปิดไฟทุกดวงในห้องแบบนี้จะเป็นการรบกวนเวลานอนของเขาหรือเปล่านะ? ว่าแล้วฉันก็เดินลุกขึ้นไปปิดไฟภายในห้องจึงมืดสนิท แล้วเดินไปเปิดไฟหัวเตียงเบลแทน โชคดีที่แสงมันไม่จ้าจนเกินไปทำให้สามารถมองเห็นในที่มืดได้โดยไม่เป็นการรบกวนเจ้าของห้อง
                ฉันกลับมานั่งที่โซฟาที่เดิม และดื่มเบียร์ในกระป๋องไปเรื่อย พลางจ้องมองร่างที่นอนหลับอยู่บนเตียง ไม่ว่าเมื่อไหร่หมอนี่ก็ทำให้ฉันใจเต้นอยู่ได้ตลอดเวลาเลยแฮะ
                ฉันลากสายตาไปหยุดอยู่ที่กรอบรูปข้างๆเตียงของ นั่นคือรูปที่ฉันคิดว่ามันเป็นรูปที่เบลยิ้มอย่างมีความสุขที่สุด  รูปที่เขาถ่ายกับผู้หญิงที่เขารักหมดหัวใจ
                ‘ไอซาว่า รีนะ’ หรือก็คือ ‘รีน่า’ ยัยผู้หญิงที่ครอบครองหัวใจของเจ้าชายบ้าเลือดนี้ไปทั้งดวง ผู้หญิงที่มีเส้นผมและดวงตาที่งดงาม ผู้หญิงที่เบลรักมากที่สุด และก็ต้องเจ็บที่สุดเพราะเธอ…
                ถ้าเพียงเพราะไอซาวะ รีนะคนนั้นจะไม่ทิ้งเขาไว้แล้วหนีกลับประเทศญี่ปุ่นไป
                ทิ้งให้เขาอยู่กับความเจ็บปวด…ความเจ็บปวดที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถบรรเทาให้หายได้ แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างฉันเอง
               
     
                หลังจากวันนั้น มันผ่านมากี่ปีแล้วนะ?
     
     
                เอาเถอะ จะผ่านมากี่ปีกี่ชาติ ผู้หญิงคนนั้นคงจะไม่กลับมาหรอก
     
     
                เวลาผ่านไปฉันเริ่มจะเมา แหงล่ะ เล่นดื่มรวดเดียวไปตั้ง10กว่ากระป๋อง เห็นทีเบลคงจะต้องซื้อเบียร์มายัดใส่ตู้เย็นใหม่แล้วล่ะ- - ง่วงชะมัดเลย…กี่ทุ่มกี่ยามแล้วเนี่ย?   พอฉันเหลือบมองนาฬิกาในห้อง เข็มนาฬิกาทั้งสองบอกเวลา23.24…ห้าทุ่มครึ่ง ทำไมฉันยังไม่หลับไม่นอนนะ= =
                พอจะกลับห้องตัวเองก็ขี้เกียจทั้งๆที่มันก็อยู่ใกล้กันแค่เดินไปสองก้าวถึง(ล้อเล่นน่า^^;) เพราะความเมาด้วยมั้งทำให้ฉันไม่มีสติพอที่จะทำอะไร นับว่าคอของฉันแข็งกว่าเบลนะ ดูหมอนั่นสิ สงสัยจริงว่ากินเหล้าไปกี่แก้วสภาพถึงได้ออกมาน่าอนาถขนาดนี้-0-; หมอนี่มันเจ้าชายจริงรึ?
                ไหนๆก็ไหนๆ นอนมันที่นี่เลยละกัน
                ฉันเอนหลังหลังพิงโซฟา สาเหตุที่ฉันไม่ล้มนอนไปเลยทั้งตัวอาจจะเป็นเพราะว่า…ไม่รู้สินะ ฉันไม่ถนัดนอนท่านั้น นอนอย่างนี้สบายกว่าตั้งเยอะ แล้วก็ถ้านอนด้วยท่านี้…
                ฉันก็จะได้เห็นหน้าเขา…
     
                เพื่อนที่ฉันรักมากที่สุด เบลเฟกอล
     
     
     
     
    - - - - - - - - - - - - - - - - -♦♦- - - - - - - - - - - - - - - - -

    nail : เข็นบทนำออกมาได้แล้วโว้ย!!!
    lian : ที่มาช้าเพราะใครบางคนขี้เกียจครับ ( - -)
    nail : อะไร ว่าเค้าหรอ!!>[ ]<
    lian : แล้วแต่จะคิด( -  - )
    nail : เชอะ=3= เอาล่ะค่ะทุกท่าน วันนี้เนลและเลนก็จะมาขอ…
    lian : แปะรูป!!! จัดไป!!!
     
      
     
    nail : พ่อๆ เขาทำอะไรกันอ่ะ?
    lian : ไม่ขำ=  =;







    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×