คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : EP 1 เม่นขี้ขลาดกับหมีเจ้าเล่ห์
เม่นขี้ขลาดกับหมีเจ้าเล่ห์
คนที่ขี้กลัว
..ต่อให้มีสิ่งที่สวยงามที่สุดในโลกมาวางอยู่ต่อหน้า
...ถ้ามองไม่เห็นสิ่งนั้น
คนที่ขี้กลัวก็จะกลัวมัน..
จงอย่ากลัวที่จะไม่กลัวนะเด็กน้อย..
ลุกขึ้นยืนและเลือกที่จะเดินไปข้างหน้า
ก่อนที่ผู้ล่าอย่างฉันจะตามหาเธอเจอ!!
“..อึก!” เสียงหอบหายใจของฉันที่เล็ดลอดออกมาจากลำคอทำฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดริมฝีปากปากของตัวเองแทบไม่ทัน ฉันตั้งสติแล้วพยายามหลับตาปี๋ข่มตาเพื่อหลีกหนีเหตุการณ์ตรงหน้า
น่ากลัวเหลือเกิน... ราวกับน้ำตาจะไหลออกมา...
และทันใดนั้นเอง สิ่งที่ฉันกำลังคิดอยู่กลับเป็นจริงขึ้นมา!
น้ำใสๆจากขอบตาร้อนผ่าวไหลลงมาเป็นทางผ่านแก้ม ผ่านนิ้วมือของฉัน ไหลพรั่งพรูออกมาจนฉันรู้สึกว่าฉันสะอื้นในลำคอเบาๆ แต่มันก็คงเสียงดังไปสำหรับตอนนี้ ดังนั้นฉันเลยกลั้นสะอื้นของตัวเองอย่างยากลำบาก ส่งผลให้ฉันรู้สึกขาดอากาศหายใจเสียขึ้นมาดื้อๆ
ไม่นะ... หายใจไม่ออกเลย
ช่วยด้วย...
“ฮึก..ฮึก..”
อาการปวดศีรษะอย่างรุนแรงจู่ๆก็กำเริบขึ้นมาในจังหวะที่ฉันใกล้หมดลมหายใจ ไม่..ไม่!ฉันจะต้องไม่ตายตอนนี้...ฉัน..จะ ..ต้อง..เข้มแข็งมากกว่านี้...
ขอร้องล่ะ ถ้าฉันหลับตาลงเมื่อไหร่ อย่าให้เขาเจอตัวฉันเลย...!
“ฮือ...”
แกร๊ก..ครืดด..ด
เฮือก!
เสียงลากมีดกับผิวไม้..
ตามมาด้วยเสียงทุ้มของผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่า ’คนที่กำลังจะฆ่าฉัน’
เขาน่ากลัวเกินไปแล้ว น่ากลัวเกินไปจริงๆ
“นี่..เล่นซ่อนหาในป่าทึบแบบนี้มันมาสนุกเลยน้าา...า ”เสียงลากมีดสลับกับเสียงมีดขูดลึกลงไปในเนื้อไม้ยังดังสลับกันอย่างไม่ลดละ แถมยังดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆจนหัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น ฉันพยายามหยุดสะอื้นของตัวเองด้วยการกัดมือของตัวเองที่ปิดปากของฉันตอนนี้จนรู้สึกถึงคาวของเลือดนิดๆผ่านเข้ามาที่ปลายลิ้นของฉัน
“อึก..”
แกร๊ก..ครืดดดด!!!
ครืดดดดด.. ครืดดดดดด!!!!
“มะ ไม่..!”
“ออกมาให้ฉันฆ่าหน่อยซิ ยัยขี้ขลาด! ”
เสียงมีดที่ขูดเบาๆเมื่อกี้เปลี่ยนมาเป็นการขูดลึกฝังลงไปตามต้นไม้แบบสุดแรงอย่างน่าขนลุกแถมด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนานของผู้ชายคนนั้น ฉันทนไม่ไหวแล้ว..!ฉันรู้สึกเหมือนโลกมันมืดไปหมด ฮึก..ฮึก.. กลัวจังเลย.. กิ๊กเกิล เพนทูเนีย …
…ช่วยฉันด้วย!!
……
“....”
“คิก หาเจอแล้ว”รอยแสยะยิ้มของชายร่างสูงโปร่งในชุดเครื่องแบบทหารหลุดลุ่ยเผยออกมาด้วยอารมณ์ที่เดาไม่ออก นัยน์ตาสีทองบุษราคัมดั่งสัตว์กลางคืนจับจ้องไปที่ร่างบางที่สลบสไลอยู่หลังต้นไม้พลางแสยะยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม
“อา ..จะดิ้นรนยังไง ก็รู้อยู่ว่าหนีฉันไม่พ้นหรอก”ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออย่างสะใจจนรอยยิ้มที่นึกสนุกผุดขึ้นมาบนใบหน้าอันหล่อเหลาเรียบเนียนไร้รอยแผลของเขา
ใช่ เขาหน้าตาดี ความหล่อคือหนึ่งในอาวุธล่อเหยื่อชั้นดีของเขา อีกทั้งนัยน์ตาสีบุษราคัมของเขาที่ส่องประกายราวกับอัญญมณีทำผู้ที่จ้องตาเขากลายเป็นเหยื่อมาหลายรายแล้วเช่นเดียวกัน
อ้อ ..นี่ยังไม่นับร่างกายสมบูรณ์แบบที่สูงโปร่งและรูปร่างที่บึกบึนคล้ายกับทหารนะ หึๆ
...เขานี่แหละฆาตรกรผู้ที่ดุร้ายราวกับหมีป่าที่มีความเงียบและทรงพลังเป็นเอกลักษณ์
...ฟลิคปี้....
ชายหนุ่มผิวปากเบาๆแล้วเดินไปใกล้ๆร่างของหญิงสาวพลางจูบที่หน้าผากของเธอเบาๆอย่างอ่อนโยน
“ไม่ต้องกลัวนะ คิกๆ”พอพูดเสร็จ เขาก็ช้อนร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน แล้วเดินออกไปจากตรงนั้นอย่างไม่เร่งรีบราวกับคนที่ยกภูเขาออกจากอกได้
แต่มันไม่ใช่..
ชายหนุ่มตอนนี้คงจะเรียกว่าอารมณ์ดีก็ไม่เชิง อารมณ์เสียก็ไม่ใช่ ควรจะเรียกว่า...
..มีความสุข?
‘ฟลิคปี้!!! นั่นนายจะทำอะไรน่ะ!!?’เสียง’ตัวเขาอีกคน’ดังขึ้นมาในจิตใต้สำนึกจนเขาต้องเงี่ยหูฟัง แต่คงจะเป็นเพราะคำถามมันคงปัญญาอ่อนไปสำหรับเขา เขาเลยเงียบ ไม่ได้ตอบอะไร..
“...”
‘ฟลิคปี้!!?’เสียงนั้นดังขึ้นอีกหน
“อยากรู้ว่าทำไปทำไมงั้นเหรอเจ้าโง่?”
‘…’
“คนโง่ๆอย่างแก ไม่จำเป็นต้องรู้หรอก หึ”
‘ถ้าตอบมา...ฉันจะ..’
“จะทำไม?”
‘ให้นายใช้ร่างจนถึงคืนพรุ่งนี้!’
“..งั้นเหรอ อ ขอคิดดูก่อนแล้วกันนะ”
เขาว่าแล้วใช้นัยน์ตาคมกริบบนใบหน้าเปื้อนยิ้มลอบมองใบหน้าน่ารักของหญิงสาวพลางปัดไรผมสีแดงเพลิงของเธอออกเพื่อที่จะได้เห็นใบหน้าสวยชัดๆ
สายตาของเขายังคงจับจ้องต่อไปไม่ยอมหยุดพลางสำรวจใบหน้าของเธออย่างทะนุถนอม...
เมื่อกี้ว่าไงนะ?
ทะนุถนอม?
...อา เพราะอะไรกันนะ?
“ฉันนี่มันน่าสมเพชซะจริงๆ”เขาว่าพลางยกมือข้างที่ว่างอยู่มาเสยผมอย่างอารมณ์เสียหน่อยๆ คนที่เพิ่งเจอกันไม่กี่ครั้งจะรู้สึกอย่างนี้ได้อย่างไรกัน วันๆหนึ่ง เขาก็ได้แต่แอบลองมองเธอเพื่อจับตาสถานที่ที่เธอไปในแต่ละวันเท่านั้น
วันจันทร์อยู่กับเด็กผู้หญิงหัวชมพูมีโบว์อันใหญ่อยู่บนหัวที่สวนสนุก
วันอังคารอยู่กับผู้ชายหน้าตาใจดีสูงโปร่งผมสีฟ้าแกมเหลืองใส่ตุ้มหูเขากวางกับผู้ชายตัวเตี้ยหน้าหวานใส่ชุดโจรสลัด
วันพุธอยู่ที่ร้านสะดวกซื้อกับผู้หญิงหัวฟ้าผมเป็นลอนมัดผมหางม้า
วันพฤหัสอยู่กับผู้ชายหัวสีน้ำเงินคาดผ้าสีแดงที่ตาหน้าตาน่าหมั่นไส้ที่สวนสาธารณะ แถมยังแอบเห็นไอนั่นหอมแก้มเธอด้วย!
...ดูๆไป เขาก็ดีเหมือนพวกสตลอกเกอร์ชอบกลๆ
ช่างเถอะ !
ส่วนวันศุกร์ ...
เธอยู่คนเดียว กำลังเก็บดอกไม้ที่ชายป่า
...และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เขามีจังหวะที่จะตามล่าเธอนั่นเอง !!
กลับมาที่ทำไมเขาต้องทำอย่างนั้นน่ะเหรอ?
“เพราะว่าฉันอยากได้ตัวเธอคนนี้ไงล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ!!!”ฟลิคปี้ตอบตัวเขาอีกคนพลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่งจนตัวเขาอีกคนเลือดขึ้นหน้าเพราะความร้ายกาจของเขา
‘นาย...’
“ทำไมเหรอ’ฟลิปปี้’น้อย!!? หึๆๆ”เขาพูดชื่อตัวเขาอีกคนเหมือนตั้งใจจะล้อเลียน
‘นาย...จะพาเธอไปไหน!!?’เสียงฟลิปปี้ขึ้นในจิตใจอย่างร้อนรนราวกับเขากำลังจะไปทำร้ายคนรักของมันงั้นแหละ
คิดอย่างนั้น ชายหนุ่มก็หัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยันพลางทำเสียงกวนประสาทตัวเขาอีกคน
“หือ อ?เพิ่งรู้สึกตัวเหรอเจ้างั่ง?”
‘ตอบคำถามผมมา!!’
“...คงจะเป็นที่....บ้านของนายล่ะมั้ง ฮ่าๆๆๆๆ”
‘นาย!!!’
“อย่าลืมสัญญาของนายล่า า”ฟลิคปี้จงใจลากเสียงยียวนให้กับฟลิปปี้แล้วหัวเราะในลำคออีกครั้ง ไม่ว่าจะเหตุผลอะไร เขาก็จะพาเธอคนนี้ไปให้ได้ ฆ่าไม่ฆ่าค่อยว่ากันทีหลัง
เพราะเธอคนนี้มันช่าง... น่าสนใจซะจริงๆ
“ฟลากี้สินะ ชื่อของสาวน้อยคนนี้...ดี !!หนังของฉันจะได้เริ่มฉายซักที!!”
หะ หือ?
ที่นี่มัน?
บนเตียงงั้นเหรอ?
ละ...แล้วนี่มันบ้านของใครกัน!!?
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยสภาพที่งงสุดขีดเนื้อตัวฉันยังเลอะฝุ่นอยู่หน่อย แต่ก็สภาพดีกว่าตอนอยู่ในป่า มือที่โดนกัดก็ถูกทำแผลเรียบร้อย งั้นก็แสดงว่ามีคนมาช่วยฉันใช่มั้ย!? ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันคงรอดจากชายคนนั้นแล้วสินะ ดีใจจริงๆ
ฉันพยุงตัวเองให้ลุกออกมาจากเตียงแล้วเดินไปดูที่ห้องรับแขกแต่ที่นั่นกลับไม่มีใครอยู่ เจ้าของบ้านไปไหนกัน?ฉันควรจะออกไปตอนนี้ดีมั้ยน่ะ?
อืม..ฉันว่า ฉันเขียนจดหมายทิ้งไว้ดีกว่า..
“แถวนี้น่าจะมีกระดาษบ้างสิ”ฉันบ่นพึมพำพลางกวาดตามองไปรอบห้องรับแขก แต่น่าแปลกที่ในห้องรับแขกไม่มีกระดาษเลย ฉันเลยไปดูที่ห้องอื่น อืม..ห้องนี้คงเป็นห้องทำงานสินะ.. น่าจะมีกระดาษบ้างสิน่า!
อ๊ะ นั่นไง สมุดเล่มนั้น...ไปเอากระดาษจากเล่มนั้นแล้วกัน
“ทำอะไรน่ะ!!!”
“ว๊าย!”
เสียงแข็งกระด้างทุ้มต่ำทำฉันสะดุ้งสุดตัวจนต้องหันไปมองต้นเสียง
...และมันก็ทำให้ฉันตกใจยิ่งกว่า..
...ฟลิคปี้...
“ขอโทษค่ะ .. ยะ อย่าทำอะไรฉันนะ !”ฉันปิดตาตัวเองและเริ่มรู้สึกเหมือนจะร้องไห้ ไม่แปลกหรอก ฉันเป็นคนที่เพื่อนๆบอกว่าขี้กลัวมาก ฉันเป็นพวกตระกูลเม่นนะ ถึงจะมีหนามที่หลัง แต่ก็ขี้กลัวและตกใจง่าย...เกินไป
...สมเพชตัวเองจริงๆ
“เธอเข้ามาทำอะไรในห้องฉันน่ะ!!”เขาตวาดแล้วก้าวเท้ามาคว้าข้อมือข้อฉันจนตัวของฉันลอยหวือขึ้นมา เขาแรงเยอะมาก เขาทำเหมือนจะบีบกระดูกฉันให้เละจนคามือ มันเจ็บมาก..เจ็บจนน้ำตาของฉันไหลออกมา ทั้งๆที่เพิ่งแห้งไปได้แค่แป๊บเดียว
ตาสีทองบุษราคัมของเขาจ้องลึกเข้ามาในดวงตาสีทับทิมของฉันราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ใบหน้าเนียนนั่นใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนถึงใบหูของฉันแล้วกระซิบอย่างแผ่วเบาราวกับพูดผ่ายลมออกมา
“อย่าคิดหนีเลยเด็กน้อย..”
พร้อมกับเสียงหัวเราะในลำคออย่างเย้ยหยัน...
..ฉันเกลียดเขา
...ทำไมต้องย่ำยีกันขนาดนี้ด้วย?
“ทะ ทำไม?”ฉันถามพร้อมกับเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นมาเองในลำคอ น้ำตาฉันไหลอาบแก้มแต่ก็ยังมิวายที่จะจ้องหน้าอันหล่อเหลาของเขาอย่างไม่วางตา ไม่รู้ทำไมฉันถึงต้องทำอย่างนั้นด้วย..
เขาทำฉันไม่สามารถละสายตาได้ ให้ตายเถอะ!
“เบื่อชะมัด!!พวกขี้ถามเนี่ย!”ฟลิคปี้สบถออกมาห้วนๆจนฉันนึกรู้ตัวขึ้นมาว่าฉันได้ทำผิดพลาดลงไปแล้ว ฉันรู้สึกเหมือนหัวใจตกลงไปที่ตาตุ่มยังไงอย่างนั้น ฉันไม่ค่อยชอบถูกย่ำยีสักเท่าไหร่
...แล้วก็กลัวเสียงตวาดนั้นด้วย
“พวกชอบสอดเรื่องคนอื่นน่ะ มันน่ารังเกียจมากเลยนะรู้หรือเปล่า?”
“ฉันขอโทษ...”
“...”
“ขอโทษนะ”
“คิดว่าฉันจะให้อภัยเธอหรือไงกัน?” เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งจนฉันถึงกับพูดไม่ออก ฉันได้แต่กล่าวคำว่าขอโทษกับไม่ได้ตั้งใจซ้ำไปซ้ำมาในใจเหมือนคนบ้า ฉันสมเพชตัวเอง สมเพชตัวเองมากๆเลยด้วย..
ถึงฉันจะอยากหนีจากเขาแค่ไหน ฉันก็ควรจะทำดีกับเขาใช่ไหม?
“...จะ จะให้ฉัน ..ไถ่โทษยังไงคะ?”
“อ๊า าา ถามคำถามดีๆเป็นเหมือนกันนี่”เขาเอียงคอโน้มหน้าลงมาพูดด้วยน้ำเสียงยียวน
ไม่ค่อยชอบเสียงกวนๆของเขาเท่าไหร่เลยแฮะ..
“...”
“งั้น...”
ก๊อก ๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้ฟลิคปี้หยุดคำพูดของเขาไว้สักพักนึง แต่ดูเหมือนเขาก็ไม่สนใจ เขาทำเหมือนจะพูดต่อ แต่ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกหน อีกหน และ อีกหน จนเขาสบถออกมาอย่างอารมณ์เสีย
“ใครมาอะไรตอนนี้วะ”
ความคิดเห็น