คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : CHAPTER 3 MORE THAN COMPATIBILITY
CHAPTER 3 MORE THAN COMPATIBILITY
สมาชิกใหม่ผู้อยู่เป็นนั่งอยู่บนโซฟาในห้องทำงานของฟอร์ซีเพื่อรอเขามาหาตามนัดเพียงลำพัง
แม้ตอนนี้จะเลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงแล้วแต่เขาก็ยังนั่งรออยู่อย่างมีความหวังจนเสียงประตูดังขึ้น
“โทษทีนะ ฉันปล่อยให้เธอรอนานมากเลยล่ะสิ”
ชายวัยกลางคนพูดพลางนั่งลงข้างๆเฟลซ
ใบหน้าของเขามีรอยแต้มสีดำที่น่าจะเป็นคราบน้ำมันติดอยู่ทำให้รู้ว่าเขาคงทำงานมาแน่ๆ
“พอดีเมื่อกี้โรสแมรี่ของเวฟิน่ามันเสียนิดหน่อยเลยต้องไปซ่อมน่ะ
เห็นหล่อนวิ่งตัวกระพริบมาๆหายๆมาขอให้ช่วยแล้วรู้สึกตลกดีพิลึก”
ฟอร์ซีพูดพลางวางแขนพาดบนบ่าของชายหนุ่มอย่างสนิทสนม
ก่อนจะดันเฟลซลงนอนไปกับโซฟา
ชายหนุ่มทำตัวไม่ถูกและไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปเมื่อต้องมาอยู่กับชายที่น่าจะเข้าใจยากที่สุดในองค์กรสองต่อสอง
ฟอร์ซีไม่ได้สนใจท่าทางของอีกฝ่ายนักและดึงกางเกงยีนส์ขายาวออกอย่างง่ายดายก่อนที่จะหยิบไขควงขึ้นมาและเริ่มหันไปสนใจขาโลหะของเฟลซแทน
ปล่อยให้ชายหนุ่มรู้สึกอายเก้อไปอย่างช่วยไม่ได้
“คราวหน้าใส่ขาสั้นมานะถ้าฉันเรียก
หรือไม่ก็ช่วยใส่แค่บ็อกเซอร์แบบนี้ก็ดี”
“คะ...ครับ”
“หืม? ทำหน้าแบบนั้นน่ะ
คาดหวังอะไรจากฉันรึไงพ่อหนุ่ม”
“เปล่านะครับ!
อย่าพูดแบบนั้นขึ้นมาสิครับ!”
“อ่าฮะ แค่หยอกเล่นน่า”
ฟอร์ซียิ้มอย่างอารมณ์ดีพลางใช้ไขควงเปิดแผงวงจรที่ขาของชายหนุ่มผู้นอนนิ่งหน้าแดงอยู่บนโซฟา
ฟอร์ซีบอกกับแฟลซว่าเขาจะเพิ่มความเร็วในการตอบสนองของขาเสียหน่อยเพื่อไม่ให้ลำบากเวลาเดินและเวลาสู้
และจะสอนวิธีใช้มันให้กับเขาอย่างละเอียด
ระหว่างที่กำลังซ่อมแซมตาซ้ายโลหะของชายกลางคนก็ยิงแสงสีฟ้าออกมาสแกนบางอย่างที่ขาเทียมของชายหนุ่มอยู่แทบตลอดเวลาทำให้เฟลซมองอย่างสนอกสนใจ
“คุณฟอร์ซี ไม่เจ็บตาหรอครับ”
คำถามของชายหนุ่มทำให้ฟอร์ซีเหลือบมองเล็กน้อยก่อนจะยักไหล่
“ไม่นะ
บอกไม่ได้ด้วยสิว่าไม่เจ็บอยู่แล้ว หรือชิน
แต่มันก็เหมือนตอนเธอติดขาเทียมครั้งแรกนั่นแหละ มันก็เจ็บแค่ตอนใส่จริงไหม”
“ก็จริงครับ
แต่ตรงตามันชวนให้รู้สึกสยองกว่ายังไงก็ไม่รู้สิครับ
อีกอย่างถ้าตอนลองถอดเข้าถอดออกเปลี่ยนกว่าจะเข้ากับร่างกายคงเจ็บมากแน่ๆ”
“อือ...ของฉันน่ะไม่ได้ลองหลายครั้งหรอก
เพราะฉันเป็นคนคิดค้นไอ้นี่ขึ้นมา อันที่ฉันใส่ก็คือรุ่นทดลองชิ้นแรกเลย
พอใส่แล้วมันก็พอดีเลยน่ะนะ
อาจจะเพราะรุ่นดวงตามันไม่ค่อยใช้พลังงานเยอะด้วยล่ะมั้ง”
“ใช้พลังงานต่างกันด้วยหรอครับ”
“อือ
โรสแมรี่น่ะใช้พลังงานจากร่างกายของเธอเองนั่นแหละ ทั้งความร้อนและการเผาผลาญ
ถ้าเธอตายมันก็จะไม่ทำงานด้วย
และเพราะโรสแมรี่แต่ละชิ้นมันใช้พลังงานไม่เท่ากันนั่นแหละทำให้ร่างกายของบางคนก็รับไม่ไหว”
ฟอร์ซีอธิบายพลางวางขาขวาที่ซ่อมเสร็จแล้วลงและยกขาซ้ายขึ้นมาไว้บนตักของเขาแทนก่อนจะเริ่มทำเหมือนเดิม
เฟลซรู้สึกได้ว่าขาของเขาเบาขึ้นอย่างบอกไม่ถูกและไม่ค่อยอืดเมื่อเขานึกอยากจะขยับมัน
“แต่ถ้าแบบแป้นน่ะจะต่างกันนิดหน่อยนะ
ฉันหมายถึงแบบที่ไฮเดรนเยียใช้น่ะ ไอ้แผ่นเหล็กกลมๆแบนๆ เคยเห็นสินะ”
“ครับ ก็พอจะเห็นอยู่หรอก”
“อันนั้นมันอยู่ที่สภาพจิตใจด้วย
ฉันก็ไม่มั่นใจว่าทำไม
แต่คิดว่าอาจจะเพราะแบบอวัยวะน่ะถูกสร้างมาให้คนที่ขาดจริงไหม
เพราะงั้นเมื่อได้รับสิ่งที่ขาดไป สภาพจิตใจก็จะดีขึ้นพร้อมที่จะเชื่อมต่อในทันที
แต่แบบแป้นน่ะเอาไว้สำหรับให้คนปกติติดตั้งมัน
แต่ถ้าสภาพจิตใจไม่ตรงกับโรสแมรี่ชิ้นนั้นก็จะติดไม่ได้
อาจจะเพราะทฤษฎีที่ว่าความคิดและอารมณ์มีผลกับคลื่นกระแสไฟฟ้าในสมอง
แถมดูเหมือนเครื่องจักรที่น่ารักของฉันดันชอบคนที่สภาพจิตใจหันไปทางลบซะด้วย
แต่ฉันดีใจนะที่มันเป็นแบบนั้น
ฉันไม่ได้อยากให้ทุกคนติดได้หรอกนะ เอ้า! เสร็จแล้ว ลองยืนสิ”
เมื่อฟอร์ซีอธิบายจบ
ขาเทียมของชายหนุ่มก็ได้รับการปรับปรุงเรียบร้อยเช่นกัน ทำให้เขาลุกขึ้นยืนโดยไม่ได้เก็บเรื่องที่อีกฝ่ายพูดมาคิดมาก
ขาของเขารู้สึกเบาลงแม้ความจริงจะมีน้ำหนักเท่าเดิมเพราะการตอบสนองที่เร็วขึ้นและขยับได้ตามใจชอบมากขึ้น
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งดีใจไป
ยังไม่เรียบร้อยนะ จับบ่าฉันไว้”
เฟลซจับบ่าทั้งสองข้างของฟอร์ซีที่นั่งอยู่อย่างว่าง่าย
ก่อนที่ฟอร์ซีจะก้มลงกดปุ่มเล็กๆสีแดงที่ขาของเขา
ขาโลหะมีความสูงเพิ่มขึ้นจนมือที่จับไหล่ของฟอน์ซีนั้นเอื้อมไม่ถึง
สัญชาตญาณของเฟลซจึงจับบางอย่างที่อยู่บนเพดานเพื่อไม่ให้เขาล้ม
เขาก้มลงมองใบมีดยาวที่ออกมาจากฝ่าเท้า
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะตกใจร้องเฮ้ยฟอร์ซีก็ชิงพูดเสียก่อน
“กดหนึ่งครั้งจะเป็นใบมีดขนาดกลางคมสองด้าน
ยาว13นิ้ว”
ทันทีที่พูดจบเขาก็กดปุ่มเดิมอีกครั้งแต่กดแบบสองครั้งติด
ใบมีดที่เพิ่มความสูงของเขาหุบกลับเข้าที่ ร่างที่ถูกแรงโน้มถ่วงดึงลงรีบคว้าบ่าของฟอร์ซีเพื่อไม่ให้ล้มอีกครั้ง
“กดสองครั้งติดจะเป็นหนามรอบขา
ปลายแหลมยาว2นิ้ว หัวตะปู”
ฟอร์ซีพูดและกดสามครั้งติดต่อทันทีทำให้ใบมีดในตอนแรกออกมาอีกครั้งพร้อมกับหัวของเฟลซที่กระแทกกับเพดานด้านบนในทันที
“กดสามครั้งติดจะเป็นการเปิดสองโหมดพร้อมกัน”
สิ้นคำพูดแนะนำโหมดสุดท้ายโหมดทุกอย่างก็ถูกปิดเมื่อฟอร์ซีกดปุ่มสีน้ำเงินเล็กๆ
ร่างของเฟลซที่ถูกแรงโน้มถ่วงกระชากลงมาอีกครั้งหลังใบมีดหุบกลับเข้าไปล้มลงกับพื้นอย่างแรง
“ปุ่มสีน้ำเงินเอาไว้ปิดโหมดต่อสู้
...ดูเหมือนนายจะยังไม่ชินสินะ โรสแมรี่คงทำให้หมดแรงล่ะสิ
ไว้เดี๋ยวไปฝึกก็ดีขึ้นเองแหละ”
ชายวัยกลางคนพูดโดยไม่ได้สำนึกเลยว่าชายหนุ่มไม่ได้อยู่ในสภาพนี้เพราะหมดแรง
แต่ไม่ทันที่เฟลซจะได้โต้ตอบอะไรเขาก็ถูกฟอร์ซีดึงออกจากห้องและเดินไปตามทางอย่างรวดเร็วจนไปถึงห้องๆหนึ่งในชั้นสองของอาคาร
เสียงเปิดประตูดังลั่นทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งที่ยืนอยู่ด้านในหันมามองที่ประตู
หญิงสาวผมสีชมพูวางดาบไม้ในมือพร้อมกับชายหนุ่มวัยรุ่นที่ลดการ์ดของตัวเองลง
“โทษทีนะฟอร์ซี เราฝึกกันอยู่น่ะ”
หนุ่มมัธยมปลายพูดขึ้นก่อนจะเดินมาหาฟอร์ซี
“คิดไว้แล้วล่ะ ฉันเลยจะเอาหมอนี่มาฝากพวกเธอให้ฝึกหน่อยน่ะ
พอดีโรสแมรี่อันใหม่ต้องปรับการทรงตัวเยอะ”
ฟอร์ซีพูดขึ้นก่อนจะเหวี่ยงร่างของเฟลซให้หลี่รับเอาไว้แล้วอธิบายกับยูริว่าความสามารถของเฟลซคืออะไร
และเขาอยากให้เพิ่มเติมอะไรเข้าไปบ้าง ชายหนุ่มรับคำด้วยความมั่นใจก่อนที่ฟอร์ซีจะเดินออกไปจากห้อง
“ไง ฉันยูริ จะเทรนให้นายเอง
ส่วนนี่หลี่ เป็นเพื่อนฉัน”
“ลี?”
“ไม่ๆ ออกเสียงว่าหลี่”
“หลี? ลี่?”
“ไม่ใช่สิ หลี่ น่ะหลี่ ออกเสียงให้มันจีนน่ะ”
“...หลี้?”
“ไม่ใช่โว้ย!”
“พอเถอะเสียเวลา”
หญิงสาวพูดขัดชายทั้งสองที่กำลังเถียงกันด้วยความรำคาญเพื่อจบบทสนทนาที่ไร้สาระนี้
ข้างใต้ของทั้งสามที่กำลังจะได้สานสัมพันธ์ฉันมิตรกันนั้น
มีเสียงโลหะกระทบกันดังก้องในโกดังที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ในชั้นล่างสุดของอาคารที่เป็นที่ตั้งขององค์กร
ตึกทรงกระบอกสูงสีขาวนี้เต็มไปด้วยห้องทำงานตามหน้าที่ที่จำเป็น
เว้นเสียแต่ชั้นหนึ่งหรือชั้นล่างสุดที่ไม่ได้เกี่ยวกับสินค้าที่พวกเขาทำสักเท่าไร
แต่มันกลับมีผลเป็นอย่างยิ่งกับงานแฝงของที่นี่
ชายหนุ่มผมทองนั้นรับผิดชอบสถานที่ซ่อมและสร้างอาวุธหนักและยานพาหนะในชั้นนี้มาตั้งแต่เขาเริ่มเข้าทำงานที่นี่
ร่างกายที่ชุ่มด้วยเหงื่อและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อใต้เสื้อกล้ามสีสดนั้นเป็นตัวบ่งบอกว่างานของชั้นนี้ต้องใช้แรงมากขนาดไหน
“เฮ้ย ฮ็อค มึงไม่กินข้าวรึไงวะ”
ชายผู้เป็นเพื่อนร่วมงานถามเมื่อเห็นว่าหน้าปัดนาฬิกาบอกเวลาเที่ยงแล้ว
แต่ฮ็อคก็ได้แค่ส่ายหน้าเล็กน้อย
“รอแฟนมารึไง”
“ฮ่าๆๆ ไม่หรอก กูก็แค่ยังไม่หิว
ไม่ได้แปลว่าจะรอดาเลียหรอกนะ คิโรกะ”
ฮ็อคพูดก่อนจะผละมือออกจากรถที่กำลังซ้อมและเดินมาที่โต๊ะทำงานซึ่งคิโรกะกำลังนั่งกินมื้อกลางวันอยู่
“จะบอกอะไรให้นะคุณคนมากความสามารถแต่ไร้ประสบการณ์เซ็กซ์
ดาเลียน่ะมีดีตอนอ้าขาเท่านั้นแหละ เวลาเครียดร่างกายมันก็อยากปลดปล่อย
เพราะงั้นดาเลียที่หุ่นดี ยอมง่าย แถมไม่ท้องก็ตอบโจทย์สุดๆเข้าใจใช่ไหม
...อีกอย่าง
ใครจะทุ่มเททุกอย่างให้คนรักได้เท่าดาเลียกันล่ะ มันยอมกูได้ทุกอย่างนั่นแหละ”
ฮ็อคพูดขึ้นอย่างโชว์พาวเวอร์ที่มีต่อแฟนของคนตัวเองทำให้คิโรกะแอบรู้สึกขยาดกับความคิดน่ารังเกียจของชายคนนี้
เสียงคุยด้านในทำให้ชายหนุ่มหน้าประตูหยุดคิดจะเดินเข้าไป
เขาไม่ได้แสดงออกถึงความไม่พอใจหรืออะไรเลยแม้แต่น้อยกับสิ่งที่ได้ยิน
ชายผมสีสดแปลกตาเดินออกมาจากตรงนั้นราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น และคิดว่าจะกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเองในเมือง
“ดาเลีย! ลืมของ!”
เสียงตะโกนเรียกจากด้านบนของบันไดทำให้ดาเลียสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะรีบวิ่งขึ้นไปตามเสียงเรียกนั้น
ด้านบนของบันไดมีชายหนุ่มผมสีเทาเงินยืนกอดอกอยู่
ในมือของเขาถือสมุดวาดภาพของดาเลียเอาไว้เพื่อรอส่งคืนให้เจ้าของ
“โทษทีนะ ถ้าลืมคงแย่เลยนะเนี่ย
ฮ่าๆ”
ดาเลียยิ้มก่อนรับสมุดวาดภาพของตัวเองคืน
สมุดสีดำเย็บขอบด้วยมืออย่างดีนั้นเป็นของประจำตัวของดาเลีย
ในสมุดที่ดูมีเอกลักษณ์นั้นบรรจุภาพวาดที่มีเอกลักษณ์ยิ่งกว่าเอาไว้
ลายเส้นของงานวาดที่เรียวโค้ง ตัวละครผอมซูบใบหน้าซีดเซียวดูมืดมน
การลงสีโทนหม่นชวนให้อึดอัดใจ
และดอกไม้ใกล้ตายที่เป็นส่วนประกอบสำคัญให้ทุกๆภาพตั้งแต่เป็นดอกไม้ในแจกันประกอบฉากไปจนถึงกุหลาบสีแดงหม่นที่ปักอยู่ตรงปกเสื้อสูทสีน้ำตาลซีดของชายรูปร่างซูบซีด
นั่นคือทั้งหมดของงานวาดที่แสนเป็นเอกลักษณ์ของชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยสีสันสวนทางกับงานของตัวเอง
ดาเลียเดินลงบันไดมาอีกครั้งก่อนจะเดินไปที่รถเพื่อไปที่ทำงานจริงๆของเขา
แต่ทันทีที่เขาขึ้นรถหลังเต่าสีครีมแสนคลาสสิคของตัวเองพร้อมกับเปิดเพลงโปรดคลอเบาๆด้านในและขับออกมาได้เพียงหนึ่งร้อยเมตรแรก
เขาก็เหยียบเบรกลงตรงข้างทางของป่าที่ไร้ผู้คน
ชายหนุ่มดึงคอเสื้อกว้างๆของตัวเองลงจนเขาสามารถจับเครื่องจักรที่ติดบนไหล่ของตัวเองได้
เล็บยาวที่ถูกตัดแต่งอย่างดีพยายามแงะตามขอบของแป้นโลหะจนเลือดไหลซึมออกมา
ความเจ็บปวดที่ไหล่กำลังลดทอนความโศกเศร้าในจิตใจของเขา
ชายหนุ่มจิกเล็บเข้าไปซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรในรถคันนั้นถึงมีเพียงเสียงหัวเราะที่ดูบิดเบี้ยวแทนที่จะเป็นเสียงคร่ำครวญร้องไห้
ความคิดเห็น