ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    XERANTHEMUM

    ลำดับตอนที่ #9 : CHAPTER 5 UNSTABLE BASE

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 61


    CHAPTER 5 UNSTABLE BASE

    สัญญาณวิทยุดับไปพร้อมเครื่องส่งสัญญาณชีพจรที่วิ่งเป็นเส้นตรงของสมาชิกสองคนที่ถูกส่งเข้าไปทำงานยาวนานถึงสองปี หญิงสาวทุบกำปั้นลงบนโต๊ะอย่างหัวเสียเมื่อรู้ว่าตนเองนั้นได้ล้มเหลวในการพยายามสืบหาข้อมูลที่จะเอาผิดเป้าหมายอีกแล้ว แต่ยังไม่ทันที่เวโรนิก้าจะได้สบถอะไรออกมาจากปากเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นพร้อมกับหมายเลขปลายสายที่ชวนให้เธอนั้นไม่อยากรับสายนัก แต่ก็ยากจะหลีกเลี่ยงเพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายช่างตื้อขนาดไหน

    สวัสดีค่ะ ฟรีแมนพูด”

    ไง งานล่มอีกแล้วหรอจ๊ะ บอกแล้วไงให้จ้างพวกเราด้วยข้อมูลทั้งหมดที่เธอมีน่ะ ถึงเราจะไม่เข้ากันแต่ถ้าเรื่องธุรกิจเนี่ยน่าจะไปด้วยกันได้ดีน้า ทำงานด้วยกันดีกว่าส่งคนไปตายเล่นเยอะ”

    ไม่ล่ะ คุณซินเนีย ฉันไม่ทำงานกับพวกหัวการค้าแบบพวกคุณหรอกนะ”

    เวโรนิก้าพูดเพียงเท่านั้นก่อนจะตัดสายไปในทันที เธอที่หัวเสียอยู่แล้วยิ่งไม่พอใจหนักเมื่อรู้ว่าคนของเซรานเทมัมนั้นแอบแฮ็คระบบของเธอเพื่อดูความเคลื่อนไหวภายในของกลุ่มเธออีกแล้ว และนั่นก็ยิ่งทำให้เธอไม่ยินดีจะคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ซินเนียเรียกว่าธุรกิจ

    อีเวรนั่นกล้าดียังไงตัดสายใส่ฉันเนี่ย?! คิดว่าเป็นหัวหน้าสมาคมสิทธิมนุษยชนแล้วจะมาตัดสายใส่ฉันได้รึไง?!!”

    ใจเย็นๆน่าบอส บ่นไปงานก็ไม่เดินหรอกนะ”

    ชายหนุ่มพูดพลางยิ้มกวนๆให้เจ้านายสาวที่กำลังหัวเสียขั้นสุด บางทีเขาก็นึกขำที่คนหัวร้อนแบบซินเนียนั้นพยายามจะทำงานร่วมกับโคตรคนหัวร้อนแบบเวโรนิก้า มันช่างเป็นส่วนผสมที่แย่ราวกินน้ำเต้าหู้ใส่โซดา

    หุบปากไป! คารันโชถ้าว่างนักก็ไปทำงานไป!”

    คำพูดของซินเนียทำให้เด็กหนุ่มมัธยมปลายเดินหนีไปหลังร้านในทันที ปล่อยเจ้าของร้านสาวนั่งเซ็งอยู่ที่โซฟายาวไม่ไกลจากเคาน์เตอร์

    แหม ใจเย็นๆก่อนนะ บอสหัวร้อนบ่อยๆแบบนี้ ไล่ลูกค้าไปหมดกันพอดี”

    บาริสต้าสาวที่เคาน์เตอร์พูดด้วยสีหน้าเรียบๆ เธอบ่นไปทั้งๆที่รู้ว่าบ่นไปก็ไม่ได้อะไร เพราะเจ้านายของเธอนั้นไม่เก่งในการควบคุมอารมณ์เอาเสียเลย ทางเดียวที่เธอทำได้คือรินน้ำใส่แก้วแล้วยื่นให้ซินเนียเผื่อเธอจะสงบลง

    อัลมอนด์ เธอลืมแช่น้ำหรอ”

    เรื่องมากจริง น้ำน่ะแช่แค่10นาทีมันไม่เย็นหรอกนะ อย่าพูดเหมือนตัวเองเติมน้ำในตู้เย็นนานแล้วสิ”

    อัลมอนด์บ่นเมื่อเจ้านายพูดเอาแต่ใจเช่นทุกครั้งก่อนจะจับที่แก้วของเธอ ไม่นานเกินรอแก้วที่ถูกหญิงสาวสัมผัสก็มีไอเย็นลอยขึ้นมาพร้อมกับอุณหภูมิน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็วไม่ต่างจากอุณหภูมิร่างกายของหญิงสาว

    พอใจแล้วสินะ ฉันจะได้ไปทำงานต่อซักที”

    อัลมอนด์พูดอย่างเหนื่อยหน่าย และหวังว่าซินเนียจะไม่ทำพฤติกรรมชวนไล่ลูกค้าอีก เพราะมันทำให้งานของเธอลำบากขึ้น

     

     

    ด้านหลังร้าน เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในห้องแคบๆที่มีเพียงบันได เขาเดินลงไปตามทางที่มืดสลัดก่อนจะถึงขั้นสุดท้ายของบันไดโลหะเสียงดังน่ารำคาญนั้น ตรงหน้าของเขาคือประตูที่เป็นเหมือนประตูลิฟต์ซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้าหรืออาคารสำนักงานต่างๆ แต่ต่างกันตรงที่ลิฟนี้จะขยับไปไปตามรางราวกับรถรางที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงจนชวนอ้วก และด้วยเหตุนั้นเองทำให้ฮ็อคต้องเพิ่มปุ่มกดอีกปุ่มเพื่อให้มันขยับด้วยความเร็วที่ไม่มากจนเกินไป แม้จะทำให้เสียเวลา เพราะความไกลของจุดเริ่มต้นกับจุดหมาย แต่ก็ไม่ทำให้ใครตายก่อนถึงฐาน ถ้าคิดจะเข้าที่ทำงานจากทางเข้าใต้ดินนี้

    คารันโชเดินเข้าไปด้านในก่อนจะกดปิดประตู แต่ในขณะที่ประตูกำลังจะปิดก็มีนิ้วโลหะมาขัดประตูเอาไว้ทำให้เด็กหนุ่มต้องรีบกดเปิดประตู ประตูลิฟต์เปิดออกให้เห็นสมาชิกหน้าใหม่ผู้รีบวิ่งมาหยุดประตูไว้โดยไม่สนใจว่านิ้วโลหะของเธอนั้นจะเสียหายหรือเปล่า

    ทิวลิป? ทำไมไม่ตะโกนเรียกล่ะ”

    คารันโชถามก่อนที่หญิงสาวจะเดินเข้ามาด้านในแล้วทิ้งตัวลงนั่งกับพื้นด้วยความเหนื่อย

    แหม ก็มันรีบนี่นา นี่วิ่ง4x100มาเลยนะ”

    เว่อร์ เธอวิ่งช้าจะตาย”

    เด็กหนุ่มพูดพลางกดปิดประตูลิฟต์ ลิฟต์กล่องสี่เหลี่ยมเคลื่อนที่ไปตามปกติด้วยความเร็วที่ไม่ได้ต่างจากรถรางจริงๆมากนัก มันทำให้ทั้งคู่มีเวลามากพอที่จะไร้สาระกันในบรรยากาศที่เงียบสุดๆแบบนี้

    คราวหน้าคงต้องให้ฮ็อคติดลำโพงสำหรับเปิดเพลงในนี้แล้วมั้งเนี่ย”

    คารันโชพูดขึ้นทำลายความเงียบที่ชวนอึดอัดระหว่างทั้งสอง แม้เขาจะทำเหมือนพูดลอยๆแต่ไม่ว่าใครก็คงรู้ว่าเขาพยายามจะเริ่มบทสนทนา

    ฮ่าๆ ถ้าเป็นฮ็อคล่ะก็จะต้องเป็นเพลงที่แย่สุดๆแน่ๆเลยล่ะ”

    หญิงสาวยิ้มออกมาพลางกอดอกแล้วพิงผนังฝั่งหนึ่ง แต่ก่อนที่มีจะได้พูดอะไรกันต่อเสียงประกาศที่คุ้นหูของหัวหน้าวิศวกรก็ดังขึ้น

    มีสัญญาณกาฮิจิ63%ที่เขต7 พื้นที่ภายอาคารชั้น2อพาร์ตเมนต์XXX จำนวนผู้อยู่อาศัย52คน ผู้รับภารกิจกดยืนยันตัวตนด้วย ขอย้ำ... ผู้รับภารกิจ คิโรกะ มิคุโตะ และลี เวินโหรว จะส่งข้อมูลให้และผังอาคารให้เดี๋ยวนี้”

    เสียงประกาศทำให้บรรยากาศที่เกือบจะดีนั้นเงียบลงอย่างเห็นได้ชัด ความรู้สึกชวนอึดอัดกลับมาอีกครั้งแต่ไม่ใช่เพราะการอยู่ในพื้นที่แคบๆกับคนไม่รู้จัก แต่เป็นเพราะความถี่ของภารกิจในช่วงนี้ที่แทบจะมีประกาศทุกๆสามวัน เรื่องที่บานปลายมากจนดูไร้ทางแก้นั้นชวนให้รู้สึกเหมือนพวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้แม้จะพยายามขนาดไหนก็ตาม

    เมื่อกี้...เขาเรียกชื่อหลี่ผิดล่ะ”

    เด็กหนุ่มผู้เห็นสีหน้าไม่ดีของหญิงสาวผู้จริงจังพูดขึ้นทำให้เธอหลุดยิ้มออกมา

    นั่นสิ นั่นสิ ชื่อต้นของเวินโหรวน่ะ มีคนเรียกผิดเยอะสุดๆเลย”

    ใช่ไหม?! แบบว่ามันมีวิธีออกเสียงที่น่ารำคาญชะมัด สำเนียงจีนนี่มันแย่สุดๆเลย”

    แต่ก็ดีกว่าออกเสียงชื่อเล่นนะ แบบว่า...เวินโหรวกับอวี้โหรว ฮ่าๆๆ ชีวิตอยู่ยากจังเลย”

    เสียงหัวเราะเล็กๆน้อยๆทำให้บรรยากาศที่ชวนกังวลคลายลงไปบ้าง และมักจะเป็นแบบนี้เสมอเมื่อคารันโชอยู่ แม้จริงๆเขาจะไม่ใช่คนที่เฮฮาและมองอะไรเป็นเรื่องเล่นๆแต่เขามักจะดูเป็นแบบนั้นเสมอเมื่อสถานการณ์ตึงเครียด การทำงานในสถานที่ที่กดดันตลอดเวลานั้นทำให้เขารู้ดีว่าควรวางตัวยังไงกับเพื่อนร่วมงานที่ดูจริงจังเกินไป ก่อนที่พวกนั้นจะเป็นโรคเครียดกัน

    ระหว่างที่บทสนทนาคุยเล่นกำลังดำเนินไปด้วยดีประตูก็เปิดออก เพื่อบอกพวกเขาว่าถึงเวลาที่จะต้องทำงานแล้ว คารันโชโบกมือลาหญิงสาวก่อนจะเดินไปที่บันไดเพื่อไปห้องทำงานของเขาตามปกติ และคิดว่าคงมีโอกาสไม่มากที่ทั้งสองจะได้คุยกันเป็นการส่วนตัวอีก

     

     

    หญิงสาวเดินไปตามทางสีขาวของตึกทรงกระบอกที่มีรูปร่างคล้ายประภาคาร เธอมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีแต่ป่าและนึกในใจว่าแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าทางเข้าของที่นี่จะเชื่อมกับร้านกาแฟชานเมืองด้านล่างของภูเขาที่มีแต่ป่าทึบแบบนี้ได้ ระหว่างที่เธอกำลังเดินไปเหม่อไปอยู่นั่นเองก็มีเสียงบางอย่างดังออกมาจากห้องน้ำรวมระหว่างทางที่เธอกำลังเดินไป เสียงของมือที่ทุบผนังปูนเบาๆซ้ำแล้วซ้ำเล่าทำให้เธอลองเคาะประตู

    อ๊ะ ขอโทษทีครับ”

    เสียงที่ตอบกลับมานั้นช่างคุ้นหูก่อนที่ประตูจะเปิดออก ทำให้เห็นว่าคนที่อยู่ด้านในก็คือดาเลีย ชายหนุ่มดูตกใจเล็กน้อยก่อนจะขยี้ผมหลากสีของเขาตัวเอง

    จะเข้าห้องน้ำหรอเจ๊ เดี๋ยวผมจะไปพอดีเลย”

    ดาเลีย เป็นอะไรรึเปล่า”

    ทิวลิปคว้าแขนเรียวเล็กของชายหนุ่ม และรั้งเขาไว้ได้อย่างง่ายดายก่อนจะถามด้วยความเป็นห่วง

    “Nothing, ผมโอเคน่า

    ไม่ นี่รู้จักกันมาตั้งนานแล้วนะ คิดว่าพี่ดูแกไม่ออกรึไง”

    ชายหนุ่มสลัดแขนออกก่อนจะส่ายหน้าและยิ้ม แม้ในรอยยิ้มนั้นให้ความรู้สึกชวนขัดแย้ง แววตาของเขานั้นดูโกรธอย่างบอกไม่ถูกทั้งที่ใบหน้าประทับรอยยิ้มที่แสนใจดี

    ผมต้องไปทำงานที่ออฟฟิศแล้ว See ya”

    ดาเลียพูดก่อนเดินจากไป ปล่อยให้ทิวลิปยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ทั้งที่รู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียนแต่ตอนนี้ดาเลียนั้นกลับดูห่างเหินราวคนไม่รู้จัก แต่ที่แย่ยิ่งกว่าคือเขาทำให้เธอมีคำถามว่าเขาเปลี่ยนไปหรือเธอไม่เคยเห็นตัวตนของเขากันแน่

     

     

    ชายผู้ปลีกตัวออกมาถอนหายใจกับตัวเอง ดาเลียรู้ตัวดีว่าทิวลิปนั้นได้ยินพฤติกรรมแปลกๆของเขา แต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลาจะเสียให้กับความกังวลนั้นแล้ว ดาเลียเดินกลับไปที่รถของเขาด้านนอกก่อนจะขับมันมาจอดให้ใกล้อาคารที่สุด เขามองซ้ายขวาแล้วลากกระสอบขนาดใหญ่บางอย่างใส่หลังรถของตัวเอง แต่แม้เขาจะพยายามทำงานนี้ด้วยตัวคนเดียวมากเท่าไร โชคชะตาก็ไม่อำนวยและลากให้ชายหนุ่มคนหนึ่งผ่านมาเห็นเข้าอยู่ดี

    ดาเลีย ศพหรอ ให้ช่วยไหม”

    เสียงถามของวินเซนท์ทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองรอยยิ้มของวินเซนท์ ไม่ทันจะได้พูดอะไรชายสวมแว่นก็ยกกระสอบขึ้นใส่ท้ายรถของดาเลียโดยไม่ต้องรับคำ

    ถึงจะเป็นสุดยอดคนจัดการเชื้อโรคขององค์กรก็เถอะ แต่ร่างกายบอบบางแบบนี้ยังไงก็ยกศพลำบากอยู่ดีใช่ไหม ยิ่งเป็นศพคนที่เพิ่งดื่มกาแฟด้วยกันเมื่อเช้าด้วย”

    วินเซนท์ปัดมือของตัวเองที่เพิ่งจับกระสอบใส่ศพอย่างรังเกียจ เขารู้ทุกอย่างว่าถ้าใครก็ตามที่แอบทำอะไรผิดกฎในองค์กรจะถูกดาเลียผู้เป็นราวยมทูตกำจัดในทันที ที่ลงเอยแบบนี้ก็เพราะฟอร์ซีเห็นว่าการอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่าคนๆหนึ่งทำอะไรลงไปนั้นเป็นเรื่องยุ่งยาก อีกทั้งสายสัมพันธ์จะยิ่งทำให้มีคนคัดค้านการกระทำแบบนี้อีกด้วย นั่นจึงทำให้หัวหน้าวิศวกรผู้ขี้รำคาญตัดปัญหาด้วยการบอกว่าคนๆนั้นลาออกและให้ดาเลียจัดการฆ่าทิ้งไป

    แต่กรณีนี้ก็ยกเว้นกับคนที่ทุกคนลงความเห็นว่ามีสิทธิ์จะทรยศตลอดเวลาอย่างชัดเจนที่จะถูกสวมปลอกคอยาพิษเอาไว้ และหนึ่งในผู้โชคดีที่ได้รับปลอกคอของฟอร์ซีก็คือตัวของวินเซนท์ที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเอง

    ชายผู้น่าสงสัยโอบเอวของดาเลียเข้ามาใกล้ก่อนจะก้มลงใกล้ๆคอของเขา เสียงสูดอากาศหายใจของวินเซนท์ทำให้ดาเลียรู้สึกขยะแขยงและรีบผลักเขาออก

    อ่า...ดอกรักเร่ น้ำหอมราคาแพงไม่สามารถกลบกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วของนายได้เลยนะ ทำเป็นยอมทำหน้าที่น่ารังเกียจเพื่อช่วยองค์กร แต่จริงๆแล้วนายก็สนุกกับการฆ่าใช่ไหมล่ะ หรือว่าเพื่อเอาใจฟอร์ซีที่เป็น...”

    ยังไม่ทันสิ้นคำดีดาเลียก็จับแขนของวินเซนท์ เมื่อร่างกายสัมผัสกันโดยตรง ชายหนุ่มผู้กำลังสนุกกับการปั่นหัวของดาเลียก็ต้องทรุดลง ความรู้สึกมากมายถูกยัดเยียดเข้ามาในจิตใจของวินเซนท์ ตัวเขาไม่สามารถหยุดน้ำตาที่ไหลออกมาได้เลยแม้แต่น้อย ความเศร้า กลัว โกรธ แค้น ประดังเข้ามาพร้อมกันไม่เว้นช่วงแม้ให้เขาหายใจจนดาเลียปล่อยมือออก

    มึงคิดว่าตัวเองเป็นใครวะ? การรู้มากเกินไปไม่ทำให้มึงมีสิทธิพิเศษในการจะมายุ่งกับคนแบบกูหรอกนะ”

    ชายหนุ่มพูดแม้เขาจะรู้ว่าอีกฝ่ายที่สภาพจิตใจอยู่ในอาการสับสนไม่สามารถรับรู้สิ่งรอบตัวในตอนนี้ได้ก็ตาม ดาเลียปิดท้ายรถก่อนจะขับรถออกไปโดยไม่หันไปสนใจวินเซนท์เลยแม้แต่น้อย

     

     

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ในสายตาของซินเนียผู้เฝ้ามองกล้องวงจรปิดตลอดเวลา แต่เธอก็ไม่คิดจะทำอะไรกับสถานการณ์นี้ ในความเป็นจริงต้องเรียกว่าเธอไม่สามารถทำอะไรได้เสียมากกว่าเพราะวินเซนท์นั้นก็เป็นคนหาเรื่องใส่ตัวเอง

    ให้ตายสิครับ การจะรักษาสมดุลขององค์กรรวมตัวประหลาดแบบนี้มันยุ่งยากซะจริง เข้าใจเลยว่าทำไมคุณถึงไม่อยากให้ทุกคนได้พลังไปง่ายๆ”

    ชายหนุ่มผมแดงผู้ยืนอยู่ด้านหลังพูดขึ้นพลางวางแขนลงบนพนักพิงสูงของเก้าอี้ทำงานที่ซินเนียนั่งอยู่

    เป็นปัญหาที่จัดการไม่ได้สักทีแบบนี้ตลอด แต่ก็นะคนเรามันไม่ใช่คนดีกันทุกคนนี่ ฉันเองยังไม่รู้เลยว่าคนดีเนี่ยมันเป็นยังไง”

    ไม่เอาน่า พูดยังกับเป็นหัวหน้าองค์กรกู้ชาติเลยนะครับ การที่คนเรามีอะไรบางอย่างในมือเนี่ยมันก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องหลงระเริงให้ของที่ตัวเองมีบ้าง คุณก็ทำดีแล้วที่ไม่ปล่อยให้ตัวปัญหาบ้าอำนาจหรือเอาข้อมูลไปขายหาค่าขนมตัวเองนะครับ”

    อาเธอร์พูดพลางขยี้ผมสีฟ้าครามของซินเนียอย่างสนิทสนม เขานั้นไม่ค่อยห่วงเรื่องการตัดสินใจเพื่อกำจัดปัญญานี้เสียเท่าไร แม้จะแอบคิดว่าการที่หญิงสาวใช้ดาเลียผู้ไม่เคยปฏิเสธคำขอของเธอในเรื่องแบบนี้อาจจะไม่ต่างกับตั้งระเบิดเวลาทำลายตัวเองเสียเท่าไร

    อาเธอร์ มีอะไรอยากจะพูดหรอ”

    หญิงสาวถามเมื่อสังเกตเห็นท่าทางครุ่นคิดของอาเธอร์ แต่เขาก็ส่ายหน้าเพราะเขารู้ดีกว่าสิ่งที่เขาคิดนั้นจะไม่เป็นการดีกับความเป็นผู้นำที่ไม่มากพอในตอนนี้ของเจ้านาย


    ...........................................................................................................................................................

    ตรวจคำรอบที่1
    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×