ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    XERANTHEMUM

    ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 2 KILLING IS NOT FUN

    • อัปเดตล่าสุด 27 พ.ย. 61


    CHAPTER 2 KILLING IS NOT FUN

    เสียงฝีเท้าที่ไม่แปลกหูสำหรับคนในองค์กรดังขึ้นตามทางเดิน มีเพียงแค่ความเร็วของรองเท้าหนังที่ก้าวอยู่เท่านั้นที่ดูรีบเร่งมากกว่าปกติ ชายในชุดสูทสีดำถือแฟ้มงานบางอย่างมาพร้อมกับสีหน้าที่นิ่งเรียบตามปกติ เขาเปิดประตูเสียงดังทำให้ฟอร์ซีสะดุ้งเล็กน้อย

    คุณฟอร์ซีครับ ทำไมคุณไฮเดรนเยียถึงเอาอุปกรณ์รุ่นทดลองของผมไปใช้ล่ะครับ มันยังไม่เสถียรเลยนะครับ เดี๋ยวก็มีคนตายหรอกครับ”

    เลม่อนพูดเสียงแข็งก่อนวางเอกสารของโรสแมรี่ชิ้นนั้นลงบนโต๊ะ พิมพ์เขียวของขาโลหะขนาดกลางที่ซ่อนใบมีดคมกริบไว้ด้านใน นั่นเป็นของทดลองที่เคยเกือบทำคนตายมาแล้ว ทั้งความไม่เข้ากันของเซลล์และความหนักของมัน แต่สมาชิกหน้าใหม่กลับหยิบมันไปใส่ได้หน้าตาเฉย ฟอร์ซีมองงานนั้นเล็กน้อยก่อนทิ้งตัวลงกับเก้าอี้นวมของตัวเอง

    ก็ดีแล้วนี่นาเลม่อน ไม่งั้นงานโหดๆของนายคงได้กองเป็นเศษเหล็กไร้ค่าขนาดใหญ่แหง ทั้งที่ทำงานดีแต่เ_ือกทำอะไรที่มันเกินรับไหวตลอด น่าจะดีใจที่มีคนใช้ได้นะ”

    ฟอร์ซียิ้มก่อนจะกระดกกาแฟ แม้หัวหน้าจะยินดีแต่เลม่อนกลับไม่ค่อยนัก เพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่อยากให้คนที่ตัวเองไม่รู้จักเอาของๆเขาไปใช้โดยไม่ขอ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทำอะไรได้เสียแล้ว เลม่อนถอดใจที่จะงี่เง่าและทิ้งแฟ้มงานไว้ก่อนกลับไปที่ห้องทำงานของตัวเอง

    ห้องทำงานรวมที่มีแต่วิศวกรทำให้เขารู้สึกอึดอัดในบางครั้ง แม้จะทำงานได้แข็งแรงและทรงพลัง แต่กลับไม่มีใครที่ออกแบบให้กระชับใช้ได้จริงเสียเท่าไร หน้าที่กำหนดขอบเขตและออกแบบส่วนมากจึงถูกโยนมาที่โต๊ะของเขา โดยเฉพาะงานของสาวมือใหม่อย่างฮันนี่ ที่ไอเดียดีแต่ทำยากเสมอๆ

    “...แบบแป้นอีกแล้วหรอครับ คุณฟอร์ซีไม่อยากให้ทำแบบแป้นคุณก็น่าจะรู้”

    เลม่อนพูดก่อนจะโยนเอกสารเสนอโรสแมรี่ชิ้นใหม่ของฮันนี่ลงถังขยะข้างโต๊ะทำงานของเขา

    รุ่นพี่! ไม่เห็นต้องใจร้ายขนาดนั้นเลยนี่นา”

    องค์กรเราอยู่ได้ด้วยอวัยวะกลสำหรับคนที่เงินไม่พอหรือไม่อยากไปเสี่ยงตายกับสโนว์ดร็อปนะครับ เอาเวลาออกแบบอาวุธไม่เสถียรพวกนี้ไปทำของให้ลูกค้าดีกว่าไหมครับ”

    เลม่อนพูดโดยไม่สนใจว่าฮันนี่จะรู้สึกยังไง แม้งานนี้จะเป็นเพียงงานเสริมของเขา แต่เขาก็ไม่ชอบคนที่สร้างประโยชน์ให้องค์กรไม่ได้อยู่ดี แต่ระหว่างที่เขากำลังหัวเสียนั้นเอกสารปึกใหญ่ก็ถูกวางลงที่โต๊ะอีกครั้ง

    เลม่อนนนน ฉันทำโปรเจ็ควิจัยการขยับของกล้ามเนื้อในการเคลื่อนไหวแบบต่างๆมาแล้วนะ สินค้าที่จะพัฒนาเพื่อกิจกรรมเฉพาะต้องใช้มันใช่ไหมล่ะ”

    วิสเทอร์เรียพูดอย่างร่าเริงแต่ก็ต้องสงบเมื่อเลม่อนมองเธอด้วยสายตานิ่งเฉย แล้วหันไปอ่านเอกสารของเธอเงียบๆก่อนถอนหายใจ

    ดีมากครับ แบบนี้สิถึงจะน่ารักน่ะครับ”

    เลม่อนลูบผมสีชมพูอย่างใจดีแม้สีหน้าจะยังเหมือนเดิมทำให้วิสเทอร์เรียโล่งใจที่ไม่ถูกด่าหรือเคือง เธอที่มักจะดีใจเมื่อถูกชม วิสเทอร์เรียดึงเลม่อนเข้ามากอดและถูแก้มของเธอกับผมของเขาโดยไม่รู้เลยว่าใต้สีหน้านิ่งตายของเลม่อนนั้นกำลังรำคาญผมฟูนุ่มสีชมพูของเธอที่ตีหน้าของเขาเอามากๆจนอยากจับเธอโกนหัว

    แหม เลม่อนเนี่ย หน้านิ่งยังกับสัตว์สตาฟเลยนะ”

    อเลิสที่อยู่ในห้องพูดกับชายผู้มีสีหน้านิ่งเรียบตลอดเวลาแม้จะรู้ว่าพูดไปเขาก็คงไม่เปลี่ยนสีหน้าก็ตาม แต่ในระหว่างที่บรรยากาศปกติยังดำเนินไปนั้น ทุกอย่างก็เงียบลงเมื่อประตูของห้องเปิดออก แดนดิไลออนเดินเข้ามาพร้อมกับสมาชิกใหม่ เธอได้รับหน้าที่ให้พาเฟลซเดินสำรวจที่ต่างๆในวันนี้ เลม่อนมองขาของเฟลซด้วยแววตาขุ่นเคืองก่อนจะสลัดวิสเทอร์เรียออกและหันไปทำงานตามปกติ

    เด็กใหม่หรอ ยินดีที่รู้จักน้า ฉันวิสเทอร์เรีย เป็นพนักงานพาร์ทไทม์แผนกตรวจสอบศักยภาพสินค้าล่ะ”

    หญิงสาวจับมือของเฟลซเขย่าแรงเพื่อทำความรู้จักทำให้ชายหนุ่มต้องแนะนำตัวกลับอย่างช่วยไม่ได้

    โทษทีนะ วิสเทอร์เรียมักจะร่าเริงแบบนี้แหละ ฉันอเลิส ส่วนนี่หัวหน้างานออกแบบ เลม่อน กับวิศวกรฝึกหัด ฮันนี่”

    วิศวกรฝึกหัด? เด็กชงกาแฟมากกว่ามั้งครับ”

    เลม่อนพูดเหน็บเมื่ออเลิสแนะนำตัวเด็กฝึกงานได้ดูดีเกินไป อเลิสได้แต่ถอนหายใจเล็กน้อยก่อนมองเฟลซด้วยสายตาที่เหมือนจะบอกว่าขอโทษที่ที่นี่เป็นแบบนี้เสมอๆ เลม่อนลุกขึ้นก่อนจะเดินตรงมาหาเฟลซด้วยสีหน้านิ่งเรียบที่ดูจริงจังนั้น

    ขาของคุณน่ะ เป็นงานของผมเพราะงั้นกรุณาให้เกียรติมันด้วยนะครับ”

    เอ๊ะ? จริงหรอ มิน่าล่ะขาอันนี้ถึงเก็บงานสวยเด่นกว่าอันอื่นเลย เพราะคุณหัวหน้าฝ่ายออกแบบเป็นคนทำนี่เอง งั้นผมจะพยายามรักษาให้ดีนะครับ”

    เฟลซพูดและยิ้มออกมาพร้อมรอยยิ้ม ทำให้ชายผู้นิ่งขรึมรู้สึกแปลกใจและต้องเขินอายกับคำยอนั้น เพราะปกติไม่ค่อยมีคนชมงานของเลม่อนอย่างชัดเจนขนาดนี้นัก เลม่อนรีบเดินออกจากห้องทันทีก่อนที่ความร้อนจะขึ้นบนใบหน้าของเขา หัวหน้างานออกแบบเดินออกไปปล่อยให้คนอื่นแอบหัวเราะในใจและคิดว่าเด็กใหม่นี่ช่างอยู่เป็นเสียจริงๆ

     

     

    หลังจากดูงานนั่นนี่ในห้องทำงานของวิศวกรไปแล้วแดนดิไลออนก็พาเฟลซมาที่ห้องทำงานรวมซึ่งมีสภาพเหมือนสำนักงานทั่วๆไป ต่างกันตรงที่โต๊ะของแต่ละคนห่างกันพอสมควรและแต่ละโต๊ะก็มีเอกสารของตัววางกองสุมราวภูเขา

    ปกติแดนเองก็จะอยู่ห้องนี้นะคะ ถ้ามีอะไรให้มาหาคนที่ห้องนี้ก่อนนะคะ เพราะกล้องวงจรปิดเองก็อยู่ห้องนี้ ถ้าจะหาตัวใครจะได้รู้ตำแหน่งได้เร็วๆ”

    หญิงสาวคลี่ยิ้มอย่างใจดีก่อนจะพาเฟลซไปแนะนำให้คนในห้องรู้จัก

    นี่คุณวินเซนท์ค่ะ งานค่อนข้างยุ่งไม่ค่อยออกไปไหนหรอกค่ะ”

    ชายหนุ่มสวมแว่นไม่สนใจจะเงยหน้าขึ้นแม้แต่น้อยเมื่อแดนดิไลออนแนะนำเขา

    ส่วนสองโต๊ะด้านนั้นคือโต๊ะของแดน กับคุณอาเธอร์ค่ะ แต่คุณอาเธอร์เขาไม่ค่อยมาหรอกนะคะ จำไว้แค่ว่าเป็นผู้ชายผมแดงสวมสูทที่นานๆจะเห็นตัวสักทีก็พอ”

    แดนดิไลออนแนะนำที่นั่งฝั่งตรงข้ามของวินเซนท์ ซึ่งในตอนนี้ไม่มีใครนั่งอยู่เพราะคนหนึ่งอยู่อยู่ข้างตัวชายหนุ่มและอีกคนก็ดูเหมือนจะหาตัวยากซะเหลือเกิน ระหว่างที่ทั้งสองกำลังจะเดินออกจากห้องนั้นเองเสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงประกาศที่คุ้นหูของฟอร์ซี

    มีสัญญากาฮิจิ74%ที่เขต3 ไม่ใช่พื้นที่โล่งแต่อยู่นอกอาคาร คาดว่าจะเป็นตรอก ผู้รับภารกิจกดยืนยันตัวตนด้วย ขอย้ำมีสัญญากาฮิจิที่เขต3 ไม่ใช่... ตอนนี้ได้ผู้รับภารกิจแล้ว ทิวลิป เจเนรอลและอเลิส อลามจะส่งข้อมูลให้เดี๋ยวนี้”

    เสียงประกาศตามสายสิ้นสุดลงเพียงแค่นั้น ก่อนที่แดนดิไลออนจะนึกอะไรดีๆขึ้นได้และดึงมือของเฟลซไปอย่างรวดเร็ว

     

     

    ในรถที่ขับด้วยความเร็วสูง อเลิสนั่งตัวติดเบาะเพราะแรงขับเคลื่อนของรถจากฝีมือการขับของหญิงสาวหน้าใหม่ที่มาทำงานกับเขา

    งานนี้ไกลชิบ แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมพวกเธอสองคนต้องมาด้วยยะ?!”

    ทิวลิปพูดพลางมองแดนดิไลออนและเฟลซผ่านกระจกหลัง หญิงสาวผู้อยู่เบาะหลังได้แต่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีราวไม่รู้ร้อนรู้หน้า

    ก็มาดูงานไงคะ จะต้องสนุกแน่ๆเลย”

    “...จ้ะ”

    ทิวลิปเหยียบมิดจนยางรถแทบไหม้แต่ทั้งสี่ก็มาถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ทันทีที่ลงจากรถยังไม่ทันจะทำอะไรอเลิสก็สำรอกอาหารเช้าของเขาออกมาทันที เขาสาบานกับตัวเองว่าชีวิตนี้จะไม่ขึ้นรถที่อีเจ๊คนนี้ขับอีกแล้ว ระหว่างที่เขากำลังตั้งสติอีกสามคนก็วิ่งไปหาเป้าหมาย

    ร่างสูงใหญ่ที่ดูบิบเบี้ยวไปทั้งตัวทำให้เฟลซต้องเว้นระยะห่างจากเป้าหมายพอสมควร ร่างกายมนุษย์ที่บิดเบี้ยวนั้นหักงอจนแทบไม่เป็นรูป เลือดสีสดที่อาบอยู่บนร่างนั้นหาได้มาจากรอยแผลบนตัวของอดีตมนุษย์คนนี้ มันกลับมาจากศพของร่างในชุดนักกีฬาที่นอนอยู่ไม่ไกล ทิวลิปหายใจเข้าเพื่อให้ใจของเธอนิ่งก่อนจะชี้นิ้วยิงเข็มใส่ร่างสูง แม้ยาพิษจะไม่สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดได้แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ขยับช้าลงเสียหน่อยก่อนที่อเลิสจะวิ่งเข้าใส่ แขนเหล็กข้างขวาของเขามีเหล็กแหลมแทงออกมา ปลายเหล็กแหลมแทงทะลุท้องของศัตรูอย่างง่ายดายแต่ก็ไม่มากพอจะฆ่ามันได้ แขนที่บิดงอกลับด้านสะบัดร่างของอเลิสจนกระแทกเข้ากับกำแพง แต่ก่อนที่จะรู้ตัว ระหว่างที่มันมัวแต่สนใจการโจมตีโง่ๆของชายหนุ่ม คู่หูของเขาก็ได้ติดระเบิดเข้าที่หัวของมันด้วยปืนเฉพาะทางขนาดเล็กเสียแล้ว เสียงปิ๊บๆเป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาแห่งความทรมานนี้ลงแล้ว ระเบิดบดขยี้หัวของสัตว์ประหลาดทำให้เศษเนื้อกระจายไปทั่ว

    ทิวลิปพูด จัดการเป้าหมายเรียบร้อย”

    หญิงสาวพูดกับนาฬิหาข้อมือทรงเหลี่ยมรูปร่างประหลาดของเธอเพื่อรายงานข้อมูลกลับฐานให้ฟอร์ซีได้รับทราบ  เธอเดินกลับไปที่รถโดยไม่สนใจชายหนุ่มที่เพิ่งลุกขึ้นหลังกระแทกกับผนัง อเลิสไม่พูดอะไร เขาหยิบกระเป๋าของศพผู้โชคร้ายที่ตายอยู่ขึ้นมาเปิดดูก่อนจะเก็บมันให้เรียบร้อยเหมือนเดิม เขานั่งยองลงก่อนจะประกบมือทั้งสองข้างเขาด้วยกัน

    ยกโทษให้เพื่อนของเธอด้วยนะเขาไม่ได้ตั้งใจหรอก แล้วก็ถึงจะเห็นแก่ตัวไปหน่อย แต่ยกโทษให้เราที่ฆ่าเขาด้วย คราวหน้าพวกเธอจะต้องได้เตะบอลด้วยกันอีกแน่ๆฉันสัญญา”

    ชายหนุ่มพึมพำเช่นทุกครั้งที่เขาทำงานเสร็จ มันไม่ใช่การสวดส่งหรือกราบกราน เป็นเพียงสิ่งที่เขาทำได้หลังจากที่ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไปแล้วเท่านั้น อเลิสถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นและเดินกลับไปจากตรงนั้น ปล่อยให้เหลือเพียงซากศพที่เขาไม่อาจช่วยอะไรได้อยู่ในตรอกแห่งนั้นอย่างสงบ

    เรากลับกันเถอะค่ะ เดี๋ยวต้องไปเอาอุปกรณ์ของคุณอีกนะ”

    แดนดิไลออนพูดขึ้นเพื่อเรียกสติชายหนุ่มที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเงียบเชียบ เขาเดินกลับไปที่รถโดยไม่หันมองมันอีกเป็นครั้งที่สอง ความรู้สึกขัดแย้งกันเองในใจของเขานั้นไม่อาจหาทางแก้ได้เลย

    ในรถเฟลซที่นั่งอยู่เบาะหลังมองอเลิสที่ดูนิ่งเงียบไม่เปลี่ยนด้วยความชื่นชมปนสงสัย เขาแอบคิดในใจว่าชายคนนี้รู้สึกยังไงถึงทำแบบนั้นลงไป แต่คำถามของเขาก็ไม่ได้ถูกถามอะไร

     

     

    หลังกลับถึงฐาน เฟลซคุยกับทิวลิปเล็กน้อยก่อนที่จะถูกแดนดิไลออนดึงตัวไปอีกครั้ง ครั้งนี้ทั้งสองไปที่ห้องซึ่งมีป้ายเขียนไว้ว่ากรุณาเคาะประตูก่อนเสมอ ชายหนุ่มมองลูกบิดที่เต็มไปด้วยหนามก่อนจะเคาะประตู เมื่อเขาเคาะประตูแล้วหนามที่ลูกบิดก็หายไป แดนดิไลออนบอกว่าบางห้องก็ต้องการความเป็นส่วนตัวสูง ถึงจะดูเยอะไปหน่อยก็ตาม

    ทั้งคู่เข้าไปด้านในห้อง ห้องสีครีมเรียบๆมีโต๊ะแค่สามตัว แต่กลับมีลิ้นชักมากมายเต็มผนังที่เขียนรหัสบางอย่างเอาไว้ เด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านในนั้นโบกมือให้ทั้งสองอย่างเป็นมิด

    พาเด็กใหม่มาหาอุปกรณ์เสริมสินะคะ พี่แดน”

    อื้อ ฝากด้วยนะคะ เพราะแดนต้องไปทำธุระหน่อยน่ะค่ะ”

    แดนดิไลออนพูดพลางตบบ่าของเฟลซและเดินจากไป เฟลซมองเด็กหญิงตัวเล็กที่ไม่กล้าสบตาเขาอยู่สักพัก ทั้งคู่ต่างคนต่างเงียบก่อนที่เธอจะนึกบางอย่างขึ้นได้

    นะ...หนูชื่อเดลต้าค่ะ ยินดีที่ได้รู้จัก”

    ผมเฟลซ ฝากตัวด้วยครับ”

    เฟลซยิ้มแม้เด็กสาวจะยังกลัวเขาก็ตาม เดลต้าถามว่าเขาต้องการอะไรบ้างแต่พอเขาตอบว่ายังไม่ได้อะไรซักอย่างเธอก็เดินไปหยิบของมากมายมาให้เขาเลือก นาฬิกาข้อมือหลายรูปแบบถูกกองไว้ตรงหน้าของเขาก่อนที่เธอจะบอกให้เขาเลือกมัน

    อันนี้ห้ามถอดนะคะ มันกันน้ำเพราะงั้นใส่ได้ตลอด เอาไว้สำหรับระบุตำแหน่งของพี่เฟลซค่ะ แล้วก็เป็นเหมือนโทรศัพท์ขององค์กรเราด้วยค่ะ มันสามารถโทรหานาฬิกาของใครก็ได้ในองค์กรเลยนะคะ

    อ๊ะ...แล้วก็มีGPSสำหรับนำทางไปหาเป้าหมายด้วยนะคะถ้าจะเปิดให้กดปุ่มสีทองด้านขวา ถ้ามีงานเข้าแล้วจะรับภารกิจให้กดปุ่มสีเงินด้านซ้ายเพื่อระบุรับงาน ถ้าเสียหายหรือพังให้มาเปลี่ยนใหม่ที่ห้องนี้ได้ตลอดค่ะ แต่อย่าลืมเคาะประตูนะคะ”

    ขอบใจนะ เดลต้าเนี่ยดูเด็กมากแต่พึ่งพาได้จริงๆเลยนะ”

    คำชมทำให้เด็กสาวเขินขึ้นมาเล็กน้อยแต่เธอก็รีบเบี่ยงประเด็นด้วยการชวนเข้าเรื่องงานอีกครั้ง

    คะ...ความจริงถ้าอยากได้อาวุธก็มาเบิกที่ห้องนี้ได้นะคะ เพราะห้องนี้เป็นห้องเบิกพัสดุ แต่ถ้าอาวุธต้องลงชื่อนะคะ”

    ไม่เป็นไรหรอก ผมยังไม่มั่นใจเลยว่าจะฆ่าคนได้รึเปล่า ถ้าสนุกกับมันอาจจะง่ายกว่านี้ก็ได้”

    ไม่ได้นะคะ!”

    เด็กสาวตวาดอย่างลืมตัวทำให้เขาสะดุ้งเล็กน้อย ท่าทางจริงจังของเธอนั้นสื่อว่าเรื่องที่เขาพูดออกไปโดยไม่คิดอะไรนั้นสำคัญขนาดไหน

    “...ขอโทษค่ะ ไม่ได้ตั้งใจจะขึ้นเสียง แต่ที่นี่ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อคนแบบนั้นหรอกนะคะ ถึงคุณฟอร์ซีจะดูไม่สนใจอะไรและแสดงออกได้แย่เสมอ แต่เขาก็ไม่ได้อยากให้ที่นี่เป็นที่ของฆาตกรบ้าเลือดหรอกค่ะ เพราะงั้นได้โปรดทำงานอย่างตั้งใจและเคารพทุกศพที่ตายด้วยนะคะ”

    เฟลซมองเดลต้าที่พูดอย่างตั้งใจก่อนจะขยี้ผมของตัวเองอย่างรู้สึกผิดที่คิดอะไรแผลงๆไป

    ครับ ผมจะพยายาม ขอบใจสำหรับคำแนะนำนะ”

    ค่ะ พี่เฟลซ”

    เด็กสาวยิ้มโดยแทบลืมไปเลยว่าตอนแรกเธอระแวงชายแปลกหน้าคนนี้ขนาด แต่เด็กก็ยังเป็นเด็ก สาวน้อยผู้สะเพร่าไม่รู้เลยว่าตัวเองลืมตัดสายที่คุยกับคนบางคนอยู่ก่อนที่แดนดิไลออนจะเข้ามา ชายวัยกลางคนผู้รู้ตัวมาพักใหญ่ๆแล้วว่าเดลต้านั้นลืมว่าคุยงานกับเขาอยู่กดตัดสายโดยไม่บอกอะไร

    “Oh man... แอบดีใจที่มีคนเข้าใจหรอ ฟอร์ซี”

    ดาเลียที่อยู่ในห้องทำงานของฟอร์ซีด้วยและได้ยินทุกอย่างและแอบขำกับท่าทางทำตัวไม่ถูกของวิศวกรผู้ขี้เก๊ก

    เงียบน่าดาเลีย ทำไมเธอถึงต้องมาอยู่ในสถาการณ์ที่ฉันดูแย่ตลอดเลยนะ”

    ไม่เอาน่า นายออกจะcuteนะตอนนี้ ฮ่าๆๆๆ แต่ก็จริงนี่ฟอร์ซี เพราะถ้านายไม่เป็นคนแบบที่เดลต้าพูด ฉันคงฆ่านายไปนานแล้ว”

    ดาเลียพูดพลางลูบผมของฟอร์ซีเบาๆ แม้องค์กรนี้จะชะโลมด้วยความแค้นเต็มไปหมด ทุกคนสูญเสีย ร้องไห้ สิ้นหวัง แล้วก็ไล่ล่า โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่าผู้ก่อตั้งทั้งสองหาได้มีเจตนาเช่นนั้น แม้หญิงสาวผู้ริเริ่มสร้างที่นี่จะดูเหมือนแค้นเคืองแต่ใจจริงเธอเพียงแค่อยากพิสูจน์และไม่อยากให้คนอื่นต้องตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ส่วนชายผู้ดูเหมือนอมนุษย์ที่บ้าคลั่งงานวิจัยก็เพียงแค่ฉาบภายนอกของตัวเองด้วยความบิดเบี้ยวเพื่อบิดเบือนความจริงที่เขาไม่อยากบอกเพียงเท่านั้น

    ไม่เป็นไรน่า เรารู้ดีว่าคนในองค์กรแต่ละคนเป็นแบบไหน และถ้าใครบังอาจมาทำให้อุดมการณ์ของที่นี่ต้องผิดเพี้ยน เหลือแค่เกมส์ฆ่าสัตว์ประหลาดเอาสะใจตัวเอง มันจะต้องรับกรรมของตัวเอง”

    ขอบใจนะดาเลีย แต่จริงๆเธอน่ะเป็นคนที่เกลียดการฆ่าที่สุดเลยไม่ใช่หรอ”

    ก็จริง แต่...The world is not the way we want จริงไหม”

    ฟอร์ซีถอนหายใจเล็กน้อย ไม่ใช่เพราะผิดหวังหรือไม่ไว้ใจ แต่เขากลับรู้สึกผิดที่มอบหมายงานทำลายเชื้อโรคในองค์กรให้ชายคนนี้ ชายผู้เกลียดการสูญเสียแต่กลับต้องเป็นผู้ฆ่าซะเอง แม้จะสงสารและเป็นห่วงแต่เขาก็ไม่สามารถมอบงานนี้ให้ใครได้ ทำให้คำขอโทษที่เขาอยากจะกล่าวนั้นต้องถูกเก็บเอาไว้จนกว่าเรื่องนี้จะจบลง


    ...........................................................................................................................................................

    ตรวจคำรอบที่1

    T
    B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×