ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เฒ่าแก่พันปี {บันทึกลับตระกูลอวี้รุ่นที่ 59}

    ลำดับตอนที่ #4 : ขุดสุสานบรรพชน

    • อัปเดตล่าสุด 31 ก.ค. 60


    ขุดสุสานบรรพชน

     

    จันทราลอยเด่นกลางนภา ค่ำคืนนี้สรรพสิ่งเงียบงันกว่าที่เคย


    เมืองลั่วหยางล้อมรอบด้วยภูเขาสูงเป็นแนว ในขณะที่แม่น้ำห้าสายไหลผ่าน ในตำราฮวงจุ้ยหยินหยางสิบหกอักษร ทิวเขาคือมังกรดิน แม่น้ำคือมังกรน้ำ อยู่ภูเขามีหยาง อยู่ใกล้น้ำมีหยิน หยินหยางรวมตัวครบคือพื้นที่ที่เปี่ยมด้วยพลัง


    ภูเขาหมางซานตั้งอยู่ทิศเหนือของเมือง ในขณะที่ทิศใต้คือช่องเขาหลงเหมิงซึ่งมีแม่น้ำลั่วสุ่ยที่คนในพื้นที่เรียกกันว่าแม่น้ำอีพาดผ่าน พื้นที่ราบเบื้องหน้าเปิดโล่งเบื้องหลังมีทิวเขาเป็นพนัก พร้อมด้วยมังกรน้ำและดินถือเป็นฮวงจุ้ยเลิศล้ำ บุคคลที่สามารถฝังมีเพียงระดับเจ้าแคว้น แม่ทัพ หรือแม้กระทั่งฮ่องเต้เท่านั้น


    มีนักพรตผู้หนึ่งเคยกล่าวว่าการที่ตระกูลอวี้รุ่งเรืองยาวนานเป็นเพราะที่ตั้งสุสานบรรพชนเป็นทำเลที่ดีที่สุด หยินหยางบรรจบครบห้าธาตุ ถึงพร้อมด้วยอาลักณ์แห่งสวรรค์ โดยเฉพาะเมื่อสุยหยางตี้ขุดคลองต้ายวิ่นเพิ่มแม่น้ำมาอีกสาย จากมังกรน้ำสี่ตัวก็กลายเป็นห้า ตัวเลขห้าในวิชาฮวงจุ้ยถือว่าล้ำเลิศ ลูกหลานของผู้ฝังจะเจริญรุ่งเรืองอยู่เย็นเป็นสุขตลอดไป


    สุสานบรรพชนของตระกูลอวี้ตั้งอยู่บนเทือกเขาหมางซาน แน่นอนว่าเมื่อเป็นทำเลดีเลิศย่อมหนีไม่พ้นพวกโจรขุดสุสาน


    นับแต่อดีตกาลแม้แต่ฮ่องเต้ที่มากล้นด้วยบารมีและอำนาจก็ไม่สามารถขจัดขัดขวางพวกโจรปล้นสุสานเหล่านี้ได้ สุสานในเทือกเขาหมางซานนี้ก็มีไม่น้อย แต่น้อยมากที่จะรอดจากน้ำมือโจรเหล่านั้น


    โดยเฉพาะเมื่อถึงช่วงศึกสงคราม ถึงขนาดมีทหารหลวงลงมือขุดสุสานเหล่านี้เองเพื่อหาทุนทรัพย์ในการทำศึก ทหารเหล่านี้ได้ชื่อว่าโจรหลวง ลงมือที่ใดไม่เคยเหลือไว้แม้แต่กระเบื้องใบหนึ่ง


    แต่ว่าเป็นเรื่องน่าฉงนสำหรับโจรเหล่านั้น สุสานบรรพชนตระกูลอวี้ที่ร่ำรวยไม่เคยมีผ้ใดกล่าวว่าสามารถขุดออกมาได้สักครึ่งคน


    อวี้เหวินหยางมาถึงเบื้องหน้าทางเข้าสุสาน ด้านหน้าคือป้ายไม้ขนาดใหญ่ที่สลักไว้ด้วยคำว่า เทือกเขาหมางยาวพันลี้ มังกรอวี้ยิ่งใหญ่หมื่นปีในป้ายคำว่าอวี้เมื่อรวมกับมังกรจึงเป็นคำว่ามังกรหยก ดังนั้นผู้คนที่มาถึงและเห็นป้ายนี้เพียงนึกว่าเป็นป้ายที่เขียนถึงเทือกเขาหมางซานที่ทอดยาวแห่งลั่วหยาง แต่มีน้อยคนนักที่รู้ว่านี่เป็นป้ายสดุดีบรรพชนของตระกูลอวี้เอง


    อวี้เหวินหยางเดินเข้าไปปัดดินที่ติดป้ายออก จากนั้นปัดเศษดินที่ติดมือสองสามทีกวาดตามองภูมิทัศน์โดยรอบ ลมภูเขาพัดกรู เสียงสรรพสัตว์ดังแว่วเป็นพักๆ ยิ่งคืนนี้เป็นคืนจันทร์เต็มดวง ภาพของภูเขาสูงจึงปรากฏอยู่เบื้องหน้าราวแดนเซียน


    ปี้หวังเจ้าช่วยข้าดู ทางเข้าอยู่ไหนน่ะ?ถามพ่อบ้านข้างกาย ปี้หวังก้าวเข้ามาด้านข้างกวาดตาดูโดยรอบเช่นกัน


    เนื่องเพราะราชวงศ์ถังเป็นสมัยที่นิยมสร้างสุสานขึ้นในภูเขาแทนที่จะขุดดินปิดเนินสุสานเช่นราชวงศ์ต่อๆมา ตระกูลอวี้ในตอนนั้นก็ไม่อาจหนีค่านิยมในขณะนั้นไปได้ ดังนั้นสุสานของตระกูลอวี้จึงสร้างโดยขุดภูเขาเข้าไป


    และทางเข้านั้นจะถูกบอกต่อไว้เพียงว่าที่เจ้าบ้านรุ่นต่อไปและพ่อบ้านใหญ่เท่านั้น


    นายท่าน ข้าคิดว่าอยู่ตรงนั้นปี้หวังกวาดตามองจนทวนทั่ว ในที่สุดก็ชี้มือไปยังจุดหนึ่งบนเขา เป็นจุดที่มีผาหินราบเรียบ ดูอย่างไรก็ไม่สามารถให้จอบเสียมขุดเข้าไปได้


    อืม พวกเจ้าตามข้ามาอวี้เหวินหยางพูดขึ้น ทว่าเดินก้าวหนึ่งก็ชะงัก หันกลับมาพูดว่า จำเอาไว้ สุสานตระกูลอวี้เป็นความลับ หากพวกเจ้าแพร่งพรายอย่าบอกว่าข้าไม่เตือน!” เจ้าบ้าหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน ซึ่งความจริงตนเองทำผิดที่นำผู้อื่นเข้ามาขุดสุสานบรรพชน ทว่าหากไม่มีแรงของบ่าวรับใช้ด้วยตัวของสองคนก็ไม่สามารถเปิดสุสานได้ ยิ่งไม่สามารถขนทรัพย์สมบัติออกมาได้


    บ่าวรับใช้ทั้งหมดขานรับอย่างพร้อมเพรียง แต่ดวงตานั้นไม่สามารถระงับความอยากรู้อยากเห็นเอาไว้ได้ ปี้หวังมองดูอย่างกังวล แต่อย่างไรเสียคนเหล่านี้เมื่อเปิดสุสานแล้วก็ต้องรออยู่เบื้องนอก ย่อมไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปภายใน


    ทั้งหมดมุ่งหน้าไปยังหินผาที่ราบเรียบไร้รอยตะเข็บ ด้านข้างร่องหินปรากฏรอยงัดแงะที่เกิดจากพวกโจรขุดสุสาน แต่เห็นได้ชัดว่าหินไม่ขยับเขยื้อน แน่นอน หินใหญ่ถึงเพียงนี้ผู้ใดจะไปขยับได้?


    นี่เป็นเพียงแผ่นหินธรรมดาหาใช่ทางเข้าไม่ เพียงแต่เป็นจุดหนึ่งที่จะสามารถทำให้เห็นทางเข้าได้เท่านั้น


    หันกลับไปมองดูป้ายไม้ขนาดใหญ่ที่สลักคำสดุดีบรรพชนเอาไว้ เห็นหน้าป้ายหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีเทือกเขาอีกแนวทอดตัวอยู่ หากเป็นเวลาปกติการเปิดสุสานจะทำได้ก็ต่อเมื่อนำร่างเจ้าบ้านเข้ามาฝังซึ่งเป็นพิธีที่จะกระทำในช่วงเช้า ป้ายไม้ที่ตั้งตระหง่านเมื่อถึงเวลาเหมาะสมจะชี้ทางให้เห็นทางเข้าด้วยแสงอาทิตย์เอง


    แต่เพราะพวกโจรขุดสุสานทั้งหลายย่อมไม่มีพวกใดลงมือขุดในตอนกลางวันอยู่แล้ว ยิ่งเมื่อรู้วิธีเปิดสุสานตระกูลอวี้แบบครึ่งๆกลางทั้งหมดย่อมไม่สามารถหาทางเข้าที่ถูกต้องเจอได้


    อวี้เหวินหยางยกมือลูบคาง ที่จริงแล้วนอกจากตำแหน่งสุสานที่ใช้วิธีแสดงตำแหน่งด้วยแสงอาทิตย์ ยังมีการกำหนดจุดฝั่งด้วย หากนำทั้งหมดไปฝั่งในจุดเดียวสุดท้ายที่ฝั่งย่อมเต็ม ตระกูลอวี้จึงคิดวิธีใช้เวลาเสียชีวิตของเจ้าบ้านเพื่อกำหนดจุดฝั่ง ดังนั้นแล้วถือได้ว่าทั้งภูเขานี้คือสุสานของตระกูลอวี้โดยแท้จริง


    และการจะหาจุดฝังเหล่านั้นได้ หากไม่รู้เวลาเสียชีวิตของเจ้าบ้านแต่ละรุ่น มีทางเดียวคือขุดทั้งภูเขาจึงจะสามารถหาหลุมฝังศพเจอ


    ปี้หวัง ให้เจ้าเลือกว่าจะรบกวนเจ้าบ้านรุ่นใดดี


    ถามขึ้นเช่นนี้ปี้หวังก็ได้แต่เผยสีหน้าหนักใจ ย่นคิ้วมองอวี้เหวินหยางกล่าวว่า นายท่าน เอาที่ท่านสบายใจเถิด


    เหวินหยางหันมาแยกเขี้ยวใส่พ่อบ้านข้างกาย ที่ข้าถามเจ้าเพราะข้าจำเวลาไม่ได้! เจ้าเข้าใจแล้วหรือไม่?


    บันทึกประวัติเจ้าบ้านหนายิ่งกว่าตำรากฏหมายหมิงลวี่ คาดว่าขนาดใกล้เคียงปทานุกรมของหย่งเล่อฮ่องเต้ มีแค่ปี้หวังเท่านั้นที่สามารถทนอ่านได้จนจบ ส่วนตัวเหวินหยางครั้งใดที่ถูกบังคับให้อ่านเป็นต้องนอนหลับคาหนังสือเสียทุกที


    ปี้หวังเบ้ปาก มันน่าจะรู้ตั้งแต่แรกแล้ว!


    ขอรับนายท่าน เช่นนั้น...กลอกตาตลบหนึ่ง จดจำได้ว่าเจ้าบ้านรุ่นที่หกอยู่ในยุคสือกั๋ว(สิบแคว้น) แม้ว่าเป็นยุคที่บ้านเมืองวุ่นวายอยู่บ้าง แต่นับว่าเป็นสมัยที่รวบรวมเก็บทรัพย์สินด้วยทองคำ เรื่องเก็บสะสมภาพวาดหรือกระเบื้องเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์ในยุคบ้านเมืองวุ่นวาย ดังนั้นแล้วที่เจ้าบ้านรุ่นหกนำติดตัวสู่ปรภพสมควรเป็นของมีค่าเช่นทองคำ


    ข้าว่าหากรบกวนเจ้าบ้านรุ่นที่หก...ก็คงไม่เป็นอะไรมั้งขอรับกลืนน้ำลายอึกหนึ่ง หากลงสู่ปรภพไปหวังว่าเจ้าบ้านรุ่นที่หกจะเข้าใจความคับขันจำเป็นของมัน ไม่ฆ่ามันตายอีกรอบหนึ่ง!


    อวี้เหวินหยางผงกหัวเห็นด้วย พูดขึ้นว่า เจ้านำไป


    ปี้หวังลอบถอนหายใจ กวาดตามองดูภูเขาที่ทอดยาว กำหนดทิศทางที่แสงอาทิตย์ยามกลางวันจะสาดส่อง จากนั้นนำหน้าผู้คนเดินตรงไปยังหน้าเทือกเขาที่ทอดตัวยาวราวกับมังกรดินที่กำลังหลับใหลตัวหนึ่ง


    ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือไม่ เงาของป้ายไม้ที่ทอดยาวเพราะแสงจันทร์ก็กำลังชี้ไปยังจุดนั้นพอดิบพอดี



    ++++++++++++++++++

    แต่ละตอนทำปาดเหงื่อ เห็นสั้นๆแบบนี้แต่ก็ต้องหาข้อมูลกันบานเลยขอรับ

    เรื่องภูมิทัศน์และตำนานเล่าลือนี่อ้างอิงมาจากของจริงบางส่วนนะขอรับ!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น
    ×