คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ มลายหายในคืนเดียว
บทนำ
มลายหายในคืนเดียว
หากบิดามารดายังอยู่จะต้องด่าทอบุตรชายที่ไร้ความสามารถนี้จนจมดิน
เจ้าบ้านตระกูลอวี้สีหน้าอมทุกข์
นั่งอยู่ข้างทางระหว่างร้านเย็บผ้าของตาเฒ่าจางในขณะที่อีกข้างคือเหลาสุราตระกูลหม่าที่เต็มไปด้วยเสียงอึกทึก
เห็นพวกอันธพาลพากันควงไม้คาดว่าอีกไม่นานโต๊ะเก้าอี้ที่เพิ่งจัดหามาใหม่ของเฒ่าแก่หม่าต้องมีอันเป็นไปตามเก้าอี้รุ่นก่อนนี้แน่แท้
ไม่ทันสิ้นความคิดเสียงโครมใหญ่ก็ดังตามมาอย่างที่คาด
แต่แม้ว่าร้านด้านข้างจะโหวกเหวกเพียงไรก็ไม่สามารถดึงสีหน้าหมดอาลัยของ ‘อวี้เหวินหยาง’ ให้กลับมามีสีสันดังเดิมได้อีก
ตระกูลอวี้ยิ่งใหญ่ร่ำรวยมานับพันปี เริ่มตั้งแต่ยุคก่อตั้งตระกูลในราชวงศ์ถังมาจนถึงตอนนี้เป็นรัชศกซวนเต๋อแห่งราชวงศ์หมิงที่รุ่งโรจน์
อวี้เหวินหยางเพิ่งจะรับตำแหน่งเจ้าบ้านไม่ครบสามปีตระกูลอวี้อันยิ่งใหญ่ก็มีอันต้องล่มสลายเหลือเพียงชื่อจารึกไว้เสียแล้ว
เรื่องมันเกิดเมื่อคืนก่อน...อวี้เหวินหยางที่ถูกมอมเหล้าจนเมากลับถูกท้าพนันโดยคุณชายตระกูลมู่ที่เป็นอริกันมาหลายปี
สุดท้ายด้วยความโง่เขลาที่สมควรถูกบรรพชนลุกมาก่นด่าจนจมดิน ทำให้กิจการการค้าของตระกูลกว่าร้อยแห่งต้องมลายหายไปในคืนเดียว
เหม่อมองไปยังเบื้องหน้า ฝั่งตรงข้ามถนนเป็นโรงเตี๊ ยมร้อยขจรอันลือชื่อแห่งเมืองหลวง
กาลก่อนเคยอยู่ในบัญชีที่ดินที่ได้กำไรอันดับหนึ่งในสมุดบัญชีรายรับ
บัดนี้ประตูโรงเตี๊ยมปิดแน่นสนิท แผ่นกระดาษสองแผ่นไขว้ติดหน้าประตู
เขียนคำตัวโตๆไว้ว่า “ตระกูลมู่ริบกิจการ”
เป็นตัวหนังสือที่มองเมื่อไรก็บาดลึก ตอกย้ำจิตใจจนชอกช้ำ
เจ้าบ้านตระกูลอวี้ผู้นี้แทบไม่มีหน้าเดินกลับตึกตระกูล
ทั้งยังไม่มีหน้าตายไปพบกับบรรพชนทั้งหลายที่ใช้แรงกายแรงใจสร้างตระกูลอวี้ให้ยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้ได้
หมดกันแล้ว...จบสิ้นแล้ว...ข้าเหวินหยางสมควรตาย!
เจ้าบ้านหนุ่มยกมือทึ้งหัวตนเองอย่างสิ้นหวัง ตอนนั้นเองชายหนุ่มในชุดคนรับใช้ตระกูลใหญ่สีเขียวแก่คนหนึ่งเดินเหลียวซ้ายแลขวาผ่านมา
พอมองเห็นเหวินหยางนั่งจมทุกข์อยู่ข้างทางในสภาพเสื้อผ้าแปดเปื้อน
ผมเผ้ายุ่งเหยิงก็พลันพุ่งตัวเข้ามาคุกเข่าลงโครม กอดอวี้เหวินหยางร้องไห้ว่า “นายท่าน! ท่านกลับตึกตระกูลเราเถิด อย่าได้คิดมากกับสิ่งที่พลาดพลั้งไปแล้ว
ยังไงเสียตระกูลอวี้ก็ยังคงอยู่ ท่านอย่าได้เศร้าใจไปเลยขอรับ!”
“ปี้หวัง ข้าจะมีหน้ากลับตึกตระกูลได้อย่างไร ไม่ต้องพูดถึงว่าข้าไม่มีหน้ากลับไปพบพวกเจ้าบ่าวรับใช้
แม้แต่ศาลประจำตระกูลข้าก็ยังไม่กล้าเข้าไปคุกเข่าสำนึกผิด! ทรัพย์สมบัติที่ตระกูลอวี้สั่งสมมาตลอดพันปีมาตอนนี้ต้องมลายหายไปเพราะลูกหลานไร้ความสามารถเช่นข้า
ข้าไม่มีหน้ากลับไปแล้ว...” กล่าวจบก็ร้องไห้โฮราวกับคนเสียสติ
ไม่อายคนเดินผ่านไปผ่านมาแม้แต่น้อย
“เจ้า...เจ้ากลับไปเถอะ บอกทั้งหมดว่าข้าตายไปแล้ว ทรัพย์สมบัติในตระกูลถ้ามีเหลือพวกเจ้าก็เอามาแบ่งกัน
จากนั้นค่อยแยกย้ายกันไป...” เหวินหยางกล่าวด้วยสีหน้าแข็งทื้อไร้วิญญาณ
ผลักพ่อบ้านใหญ่ของตนเองออก ดูคล้ายคนกำลังจะตัดสินใจปลิดชีวิตตนเอง
ปี้หวังส่ายศีรษะระรัว กอดรัดตัวนายท่านของมันให้แน่นกว่าเดิม
กล่าวว่า “นายท่านอย่าได้คิดสั้น
คนหลายชีวิตในตึกกำลังรอท่านกลับไปกอบกู้ตระกูลอวี้ของเราอยู่นะขอรับ
ถ้าหาก...ถ้าหากนำสมบัติทั้งหมดในตึกไปขาย ก็อาจพอ...พอจะซื้อที่ดินกลับคืนมาได้สักที่หนึ่ง
ข้าปี้หวังไม่สนว่าตนเองต้องอดมื้อกินมื้อ ขอแค่เราสามารถผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้
ในภายหน้าต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งได้อย่างแน่นอน!”
แม้ว่าคำพูดนี้ตนเองก็ยังไม่มั่นใจ ทว่าพ่อบ้านใหญ่ยังงัดทุกกำลังใจออกมาดึงสตินายท่านของตน
ตอนนี้ขอแค่นายท่านอย่าได้คิดสั้น
ทิ้งบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตว์ทั้งหลายในตระกูลไปสบายคนเดียวก็พอ!
อวี้เหวินหยางถูกคำพูดของบ่าวคนสนิทดึงสติกลับมาในที่สุด
ร้องไห้ตาแดงก่ำ มองพ่อบ้านด้วยความซาบซึ้ง “เจ้าช่างดีต่อข้าเหลือเกิน!”
ปี้หวังสูดน้ำมูกจนลึก เพียงจับมือนายท่านแน่นไม่ยอมปล่อย
แสดงถึงความมุ่งมั่นว่าจะไม่ยอมให้เจ้าบ้านผู้นี้คิดสั้นจนตัวตายเด็ดขาด
‘ข้าไม่ห่วงหรอกว่าท่านจะตาย...แต่ถ้าท่านตายปากท้องชีวิตคนนับร้อยใครจะดูแลเล่า!’
คิดได้อย่างนั้นก็เพิ่มแรงมือกำต้นแขนของเหวินหยางให้แน่นกว่าเดิม
ต่อให้ยมบาลมาเองก็อย่าหวังจะเอาคนผู้นี้ไปจากมือมันได้!
ความคิดเห็น