คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : ตอนที่ 2 [100%]
“ดีๆ แผนการของคุณพระพาย แยบยลยิ่งนัก ข้าน้อยนับถือๆ” เทมส์นทีทำเป็นยกยอปอปั้น ในใจลิงโลดเพราะความสะใจ
*/*/*/*/*/*
หลายอาทิตย์ต่อมาหลังจากเสร็จสิ้นงานศพของบิดาแล้วเรียบร้อย สุดที่รักก็ยังไม่ได้ไปพบกับหม่อมราชวงศ์พลอยลาวัลย์ตามที่ได้สัญญาเอาไว้ ว่าจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จจะเข้าไปหา เพราะเธอไม่อยากรับข้อเสนอที่ให้มา อีกทั้งอยากจะหาทางคืนเงินด้วยวิธีอื่นมากกว่า ตอนนี้หญิงสาวอาศัยคอนโดของลลิตาอยู่ไปพลางๆ แม้จะตัวคนเดียว ส่วนแม่บ้านที่คอยเลี้ยงดูมากตั้งแต่เด็กๆ ก็ลากลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด หญิงสาวก็ยังรู้สึกเกรงใจไม่ได้ ส่วนเรื่องงานก็ยากเย็นนักเพราะไปสมัครทำงานที่ไหนก็ไม่มีใครต้องการ ไม่มีประสบการณ์ บ้างก็ว่าที่เรียนมาไม่ตรงกับสายงานที่ไปสมัคร
สุดที่รักนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่ล้านแปดของวัน ในใจก็คร่ำครวญอยากจะไปช้อปปิ้งคลายเครียดก่อนที่จะลงแดงตาย แต่เมื่อเปิดสมุดบัญชีครั้งใดก็ต้องกลับมาถอนหายใจอีกครา เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอย่างกะทันหัน หญิงสาวตกใจแต่ก็รีบกดเลื่อนรับสายทันที
“ฮัลโหล ค่ะคุณปะ...เอ่อ..สวัสดีค่ะคุณหญิงป้า” สุดที่รักเกือบจะลืมว่าจะต้องเรียกสรรพนามแทนหม่อมราชวงศ์เช่นไร แต่พอได้เรียกก็ดูจะไม่คุ้นปาก ในชีวิตแม้จะเกิดมาบนกองเงินกองทอง แต่ก็ไม่เคยใช้ชีวิตดุจเช่นเจ้าหญิงที่จะต้องมีคำเรียกเป็นพิเศษ ทำให้การพูดคุยเป็นไปด้วยความกังวล
“ถ้าไม่ชินปาก จะเรียกคุณป้าอย่างเดียวก็ได้นะลูก มันก็ไม่ใช่ยศตำแหน่งอะไรหรอก”
“ไม่เป็นไรค่ะ ที่รักเรียกได้ ว่าแต่คุณหญิงป้ามีอะไรหรือเปล่าคะ” สุดที่รักก็แสร้งถามไป แต่ในใจก็รู้แล้วว่าจะถูกทวงสัญญา จริงๆ อยากแกล้งทำเป็นลืมไปด้วยซ้ำ
“สบายดีไหมลูก พักอยู่กับเพื่อนคงไม่ลำบากใช่ไหมลูก ป้าได้แต่นั่งเป็นห่วง ผ่านไปหลายวันก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย”
สุดที่รักรู้สึกผิดที่แอบคิดไปในทางไม่ดี จนเงียบไปสักพักใหญ่ๆ
“เป็นอะไรหรือเปล่าลูก ทำไมถึงเงียบไป ลำบากสินะลูก โธ่เอ๊ย..ป้าบอกให้มาอยู่ด้วยกันก็ไม่เชื่อ นี่ไม่สบายเป็นไข้หรือเปล่า สาธิตเขาคงจะตำหนิป้าอยู่บนสวรรค์แน่ๆ”
“หนูจะทำค่ะ หนูจะทำงานที่คุณหญิงป้าเสนอมาให้ แล้วจะย้ายเข้าไปอยู่ในวังราชากับคุณป้าในฐานะแฟนหลอกๆ ของลูกชายคุณป้าค่ะ”
“เอ๋..อย่างนั้นเหรอลูก หนูไม่อยากถูกบังคับไม่ใช่เหรอ ป้าคงไม่ได้ไปกดดันอะไรนะ นั่น... วันนี้ตอนสี่โมงเย็นไปที่ร้านบ้านป่าไม้เรือนงามที่เลียบทางด่วน-รามอินทราเลยนะลูก เดี๋ยวคนที่ชื่อเทมส์นทีจะบอกหนูเองว่าจะต้องทำอะไร โชคดีนะลูกป้ารู้จะว่าหนูต้องทำได้ ทำให้ลูกชายป้ามันยอมรับหนูไว้เป็นแฟนหลอกๆ ของมันให้ได้ สู้ๆ”
“เอ่อ...” สุดที่รักอ้าปากค้างไม่มีคำพูดอะไรออกมาได้ทัน หม่อมราชวงศ์พลอยลาวัลย์ก็วางสายไปเสียก่อน
เท่าที่ได้ฟังไม่แน่ใจว่าตัวเองติสนใจถูกหรือผิด ดูเหมือนจากความห่วงใยและกังวลจะกลายเป็นดีใจจนลืมเรื่องอื่นๆ ไปเลย เปลี่ยนใจตอนนี้ก็คงไม่น่าจะทันเพราะอีกฝ่ายชิงวางสายป้องกันการปฏิเสธไปแล้ว สุดที่รักขยี้หัวตัวเองอย่างเอาเป็นเอาตาย ก่อนจะหันไปมองนาฬิกาข้างฝาผนังก็ต้องตกใจอีกรอบเมื่อมันจะบ่ายสองครึ่งแล้วเหลือเวลาอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงจะเวลานัด
สุดที่รักวิ่งตะเปิดเปิงเข้าห้องน้ำไปขัดสีฉวีวรรณเป็นการใหญ่ หลังจากซึมเศร้าเพราะการเสียชีวิตของบิดาเธอก็แทบไม่ได้ดูแลตัวเองเลย ขนาดไปสมัครงานก็ยังแต่งหน้าแต่งตัวอึมครึมจนอาจจะเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยอมรับเข้าทำงานก็เป็นไปได้ เธอนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวแล้วยืนส่องกระจกสำรวจตัวเอง ถ้าไม่นับเรื่องที่ตัวเองไม่ค่อยฉลาด หญิงสาวก็มีดีเรื่องรูปร่างหน้าตานี่แหละ
ขนาดลลิตายังชวนไปแสดงละครหรือถ่ายแบบด้วยเลย แต่มันก็ไม่ใช่อะไรที่สุดที่รักจะทำได้ดี และอาจจะทำให้คนแนะนำอย่าเพื่อนสนิทเกิดปัญหาไปด้วย การตัดสินใจทำงานนี้จึงดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับหลายๆ คน แม้ว่าเหล่าเพื่อนๆ จะขัดค้านไม่ยอมให้ไปทำก็ตาม เพราะแบบนี้หญิงสาวจึงต้องอาศัยอยู่ที่นี่ชั่วคราวก่อนที่จะหางานทำได้
“เฮ้อ...ถ้าเขาเกิดอยากได้ผู้หญิงฉลาด ฉันจะทำยังไงดี”
หลังจากบ่นแล้วก็เริ่มคิดมาก พอเริ่มคิดก็มักจะหยุดไม่ได้ จากสิบนาทีกลายเป็นครึ่งชั่วโมง ทั้งร้องเพลงทั้งร้องไห้เมื่อคิดถึงบิดา ไปๆ มาๆ นิ้วมือก็ย่นเพราะโดนน้ำนานเกินไป สุดที่รักตกใจแล้วรีบหาผ้าขนหนูมาห่มซับความชื้นแล้ววิ่งออกมาจากห้องน้ำ รีบแต่งตัวและแต่งหน้ากว่าจะเสร็จก็ผ่านไปอีกครึ่งชั่วโมง กว่าเธอจะได้เดินออกไปตามนัดก็ล่วงเข้าไปจะสี่โมงเย็น
“ตายแล้วๆ รถแท็กซี่กี่คันๆ ก็โบกไม่ไป สายแล้วๆ”
สุดที่รักอุตส่าห์ไม่เอารถออก รถยนต์ที่เป็นของขวัญจากบิดาไม่ว่ายังไงก็ไม่อาจจะขายมันทิ้งไปได้ แต่ตอนนี้เป็นเวลาเร่งรีบถ้าขับรถไปเองคงไม่สะดวก ไม่ชำนาญทางแถวคอนโดของลลิตาอีกด้วย แต่ตอนนี้ไม่มีรถคันไหนรับเธอเลย หญิงสาวในชุดเดรสสีน้ำเงินครึ่งน่องเกาะอก มีเสื้อคลุมตัวสั้นปิดทับอีกทีกับรองเท้าส้นสูงหกนิ้วสีดำยืนขาแข็งเป็นนางแบบถ่ายนิตยสารริมถนน แถมแว่นตากันแดดสีชากันลมและควันรถ แต่สภาพคนที่มองมาต่างพากันหัวเราะขบขัน หากเจ้าตัวเองกลับไม่รู้เรื่องคิดว่าเขาคงจะชมว่า...สวย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นสุดที่รักเปิดกระเป๋าสะพายรับอย่างลวกๆ อีกมือก็กวักแท็กซี่มือเป็นระวิง
“ฮัลโหล สุดที่รักพูดค่ะ”
“ผมเทมส์นทีนะครับคุณ ไม่ทราบตอนนี้คุณอยู่ไหน ผมมายืนรอหน้าร้านเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะครับคุณ”
“คือ..คือกำลังอยู่บนรถค่ะ ใกล้จะถึงแล้วพอดีไม่ค่อยชำนาญทางน่ะค่ะ” สุดที่รักเอาโทรศัพท์ห่างออกจากตัวแล้วแสร้งบ่น “รถจะติดอะไรนักหนา นี่ๆ ไอ้คันหน้าไฟเขียวแล้วทำไมไม่ไปย่ะ” หลังจากเธอเอาโทรศัพท์กลับมาติดหูอีกครั้งก็พูดกับเขาต่อ “โอเคนะคะ แล้วเจอกันค่ะคุณเกย์นที” หญิงสาวกดตัดสายแล้วยัดใส่กระเป๋าเพื่อโบกรถต่อทันที
ฝ่ายเทมส์นทีตั้งใจจะแก้ไขความเข้าใจผิดเรื่องชื่อ แต่ก็ไม่ทัน ได้แต่บ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่คนเดียว
“อะไรวะ คนเขาชื่อเทมส์นทีต่างหากเล่า ยัย’สุทธิลักษณ์’ นี่เนื้อคู่หนังคู่กระดูกคู่ไอ้คุณพระพายเป็นแน่” หลังจากนั้นเทมส์นทีก็เดินขึ้นไปจองโต๊ะรอทั้งสองคน
แต่อีกครึ่งชั่วโมงหม่อมหลวงพระพายเพิ่งจะมาถึง แล้วก็แน่นอนว่าชุดที่ใส่มา ก็ยังเป็นชุดหมียีนส์ที่เปื้อนและเหม็นน้ำมันเครื่องรถยนต์เช่นเดิม เขาเลือกจะนั่งลงฝั่งตรงข้ามกับเทมส์นทีเพื่อกดดันให้ผู้หยิงที่มาไปนั่งข้างๆ เพื่อนสนิทตน
“มึงไม่แต่งชุดที่ดีๆ กว่านี้หน่อยวะ รู้ว่าเพิ่งเลิกงานแต่ก็ไม่เห็นมาสภาพนี้เลยนี่หว่า ล้างหน้าโกนหนวดมาสัดนิดก็ยังดี เขาไม่ใช่สโรยานะเว้ย...ถึงต้องมารอเจอคุณหริศ”
“ยังไงกูก็ยังหล่ออยู่ดีนั่นแหละ เออๆ มีอะไรฮาๆ มาเล่าให้ฟังเมื่อกี้กูขับรถมาที่ร้าน ผ่านเส้นพระรามเก้ามีนางแบบหลงแมกกาซีนไปยืนโบกรถเอาเป็นเอาตายที่ริมถนนด้วย ชุดนะมึงเอ๊ย...เกาะอกหน้าอกหน้าใจจะทะลักออกมาทุกครั้งที่ขยับตัวโบก แค่นั้นยังไม่พอเธอยังใส่แว่นตาอีกด้วยนะ ตอนรถติดกูนั่งมองจนเพลินเลย ว่าแต่น้องที่มึงนักมาชื่ออะไรนะ กูฟังไม่ถนัด ‘สุทธิลักษณ์’ อย่างนั้นใช่ไหม น้องเขาคงจะไม่ใช่...ประเทืองใช่ไหม ชื่ออย่างกับผู้ชาย”
ความคิดเห็น