ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ที่รัก [ตีพิมพ์สำนักพิมพ์ Kiss ในเครือสื่อวรรณกรรม]

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 18 มิ.ย. 57


    ที่รัก

    บทนำ

     

     

                อากาศในช่วงเย็นของร้านอาหารแถวบริเวณเลียบทางด่วนค่อนข้างเย็นสบาย และสองข้างทางก็ยังติดมากมายเช่นเดิม แสงไฟสีส้มสลับกับสีเหลืองนวลจากทางร้านที่ติดตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อความสว่าง ต้นไม้และพรรณไม้หลากหลายเจริญเติบโตและได้รับการตกแต่งอย่างดีจากคนดูแล จึงทำให้ร้านอาหาร บ้านป่าไม้งามตาเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวนิยมมารับประทานอาหารที่ แปลกพิสดารกันมากมาย   

                ชนกพรขยับนาฬิกาหรูแบรนด์ดังที่มีไม่กี่เรือนในประเทศเพื่อมองเวลา ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดเป็นรอบที่สามของวันนี้

                “ไม่ทราบจะสั่งอาหารไว้รอเลยไหมครับ” บริกรหนุ่มถามขึ้นด้วยความสุภาพเนื่องจากคุณผู้หญิงคนนี้ เข้ามาในร้านตั้งแต่ห้าโมงเย็นแล้ว เวลาผ่านไปสามชั่วโมงก็ไม่เห็นสั่งอาหารนอกเสียจากน้ำเปล่าที่เติมไปแล้วหลายแก้ว

                “ไม่เห็นหรือไง ว่าฉันกำลังรอบางคนอยู่” ชนกพรไม่รักษามารยาทให้เป็นปรกติอีกต่อไปเมื่อถูกถาม จึงใส่อารมณ์เต็มที่เพื่อระบายความโมโหกับการต้องรอคอยเป็นเวลานาน

                น้ำเสียงที่เหวี่ยงกลับมาทำเอาบริกรหนุ่มต้องก้มลงขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่โต ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในครัวทันทีที่สายตาคมเฉี่ยวด้วยอายไลน์เนอร์ตวัดใส่ เป็นการไล่อย่างชัดเจน ชนกพรกรีดร้องในใจอย่างหัวเสีย

                ฉันทนไม่ไหวแล้วนะ นี่มันอะไรกัน นัดห้าโมงแต่ตอนนี้สองทุ่มยังไม่โผล่หัวมาสักที ถือตัวว่าเป็นหม่อมหลวงแล้วจะทำนิสัยทุเรศๆ แบบนี้กลับคนอื่นได้หรือไง ฉันก็เป็นลูกท่านทูตเหมือนกันนะยะ คอยดูนะถ้ามาถึงแล้ว แม่จะวีนให้กลับวังไม่ถูกเลยทีเดียว

                ก่อนที่อารมณ์จะเดือดไปมากกว่านี้ ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่งคนหนึ่งก็ทรุดนั่งลงตรงที่นั่งฝั่งตรงข้ามโดยไม่ได้ขออนุญาตเธอก่อนเลยสักนิด ชนกพรมองเหยียดตามองอย่างรังเกียจ ริมฝีปากขยับจะอ้าปากว่าอย่างรุนแรง ถ้าไม่บังเอิญว่าเขาจะพูดขึ้นเสียก่อน

                “รอนานไหมเธอ...”

                ประโยคห้วนๆ น้ำเสียงที่ถอดออกมาเปรียบดั่งก้อนหิน ไร้ความอ่อนโยนและปราศจากความรู้สึกผิดที่ตัวเองมานัดทานข้าวสาย ชนกพรตะลึงงันไปสักพักกับภาพลักษณ์ที่เห็นแม้จะคิดไว้บ้างแล้ว จากเสียงร่ำลือเล่าอ้างถึงสารพัดวิธีทำลายการนัดหมายดูตัวของผู้ชายคนนี้

                หม่อมหลวงพระพาย รัศมี

                แต่ก็ไม่คิดว่าคุณพระพายจะไร้มารยาทกับเธอมากขนาดนี้ ชนกพรใช้สายตาพิจารณาชายหนุ่มตั้งแต่ใบหน้าและการแต่งกาย เขากล้าดียังไงกัน ถึงปล่อยให้เธอรอตั้งสามชั่วโมง แล้วยังโผล่มาด้วยชุดช่างซ่อมเครื่องที่เต็มไปด้วยความสกปรก ใบหน้าหล่อๆ ที่เคยเห็นในรูปภาพที่คุณแม่เอาให้ดูกับสภาพหน้าที่เต็มไปด้วยเขม่าสีดำ ลมหายใจสูดกลิ่นน้ำมันเครื่องเหม็นเข้าร่างกาย จนหญิงสาวแทบจะอาเจียนออกมาด้วยความขยะแขยง

                ชนกพรอยากจะกรีดร้อง แต่ก็ต้องวางฟอร์มเอาไว้ก่อนเพราะคิดเอาไว้อยู่แล้วว่า หม่อมหลวงพระพายจะต้องมาทำนองนี้ เหมือนกับที่ผู้หญิงหลายคนกล่าวขวัญถึงความน่ารังเกียจที่เขาทำเพื่อไล่พวกเธอออกไปจากวงโคจร หญิงสาวไม่ใช่พวกหน้าโง่ที่จะเอาแค่นิสัยกากๆ มาทำให้ขวัญหนีได้ อยากจะรู้เหมือนกันว่านอกจากอะไรพวกนี้ยังจะมีอะไรมาทำให้เธอหลุดได้

                เมื่อคิดได้อย่างนั้นก็เลยปั้นยิ้มอย่างสวยงาม ริมฝีปากบางที่ถูกเติมเต็มไปด้วยลิปสติกสีชมพูสดเอ่ยขึ้นอย่างมีมารยาทและน้ำเสียงก็เต็มไปด้วยความนุ่มนวล

                “ไม่เลยค่ะ รถคงจะติดมาเลยสินะคะ คุณพระพายถึงได้มา สายขนาดนี้” แม้จะโกหกไปเนียนๆ ด้วยการปั้นหน้าและรอยยิ้มที่แสนเสแสร้ง แต่ก็อดไม่ได้ที่แขวะเข้าสักนิด

                “สั่งอาหารเลยล่ะกัน เธอจะกินอะไรล่ะ” หม่อมหลวงพระพายก้มมองเมนูในมือโดยไม่สนใจอะไรอื่นใด

                “อะไรก็ได้ค่ะ ฉันเป็นคนทานง่ายๆ สบายๆ...”

                หม่อมหลวงพระพายวางเมนูลงบนโต๊ะทันทีเมื่อได้ยิน ก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะเข้าทางที่คิดเอาไว้ไม่ผิดไปแม้แต่น้อย

                “อะไรก็ได้” หม่อมหลวงพระพายขึ้นเสียงสูง ประมาณว่าไม่อยากจะจะเชื่อว่าเธอจะพูดประโยคยอดฮิตออกมา “ดี...ดีมาก น่าจะบอกเสียตั้งแต่ตอนแรก ฉันจะได้ไม่ต้องไล่อ่านเมนูให้เมื่อย” เขาหันหน้าไปมองหาบริกรแล้วควักมือเรียกให้มาที่โต๊ะทันที

                “น้อง...สั่งอาหาร”

                “ครับ..”

                บริกรหนุ่มที่เพิ่งโดนไล่ให้จากไปด้วยสายตา ก้มลงจดรายอาหารที่ลูกค้าผู้ชายกำลังจะสั่งโดยไม่กล้าหันไม่มองคุณผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามเลยแม้แต่นิด

                “ผัดคั่วกลิ้งคางคก งูเห่าผัดเผ็ด กบทอดกระเทียมพริกไทย ต้มโคล้งตุ๊กแกตากแห้ง อืม...ดูเธอเป็นคนรักสุขภาพน่าจะเหมาะกับเธอนะ แล้วเอาอะไรอีกดี เธออยากจะลอง ดีงูแบบสดๆ ไหม ฉันอยากจะลองมานานแล้ว ช่วงนี้นกเขาไม่ค่อยขันด้วยสิ ได้ยาโด๊ปแบบสดๆ น่าจะดี” หม่อมหลวงพระพายพูดเองเออเอง สั่งอาหารทุกอย่างแบบไม่คิดสักนิดว่าคนที่นั่งฟังทำท่าจะอาเจียนออกมาตั้งแต่คำว่า คางคกที่หลุดออกจากปากเขาแล้ว

                “เอ่อ...”

                “เยอะไปสินะ นั้นเอาแค่นี้ก่อนแล้วกัน อ๋อ..อย่าลืมข้าวเปล่าสองจานด้วยนะ”

                “ครับ..” บริกรจดรายการอาหารแล้วเดินจากไปทันที

                ชนกพรตาเหลือกกับรายการอาหารที่หม่อมหลวงพระพายสั่งมา ก่อนจะรีบคว้าเมนูอาหารของทางร้านมาดูทันที ว่ามันมีจริงอย่างที่เขาสั่งหรือไม่ ตลอดเวลาที่เธอนั่งรอเขา ก็แทบไม่ได้สนใจเลยว่าที่นี่ขายอาหารอะไรแบบไหน เมื่อไล่สายตาดูรายการอาหาร และส่วนประกอบที่มีภาพอยู่ข้างๆ แค่เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็คลื่นเหียนวิงเวียนออกมาจนน้ำตาแทบไหล ความรู้สึกเหมือนอะไรตีขึ้นมาแล้วทำให้พาลจะเป็นลม

                “นะ..นี่คุณพระพาย สั่งอะไรกันคะ ทำไมมีแต่อาหารพิสดารแบบนี้”

                “พิสดารอะไรเธอ ของบำรุงสุขภาพดีๆ ทั้งนั้น...เกิดมาไม่เคยกินของพวกนี้ ถือว่าเสียชาติเกิดเชียวนะ” หม่อมหลวงพระพายยิ้มย่องด้วยความสะใจ แต่ก็ไม่ยอมหลุดหัวเราะออกมา ยังตีเนียนพูดเหมือนเป็นอาหารรสเลิศของคนปรกติ

                “แบบนี้ พอลล่ากินไม่ลงหรอกคะ เปลี่ยนร้านดีกว่าค่ะคุณพระพาย” เสียงชนกพรขยะแขยงปนสยองกับสิ่งที่หม่อมหลวงพระพายพูดออกมา แม้จะเจอเล่นงานหนักขนาดนี้แต่เธอก็ยังดื้อรั้นไม่ยอมแพ้

                “หูยยย ชื่อจริง ชนกพร ชื่อเล่น พอลล่า นี่ถ้าไม่บอกก่อนกำลังจะเรียกว่าน้องพร เลยเชียว อ๋อ หรือชื่อพรหล้า แล้วไปชุบตัวที่เมืองมาเลยกลายเป็นพอลล่าไป ฮ่าๆๆๆ” หม่อมหลวงพระพายหัวเราะออกมาอย่างอดไม่ไหว ก่อนที่ฝ่ามือหนาๆ ของใครบางคนจะวางลงที่หัวไหล่ของเขาพอดี จึงเงยหน้าขึ้นไปมอง

                “อ้าว... มาพอดี นั่งก่อนสิเดี๋ยวสั่งข้าวเพิ่มให้”

                “ละ..แล้วนี่ใครคะ คุณพระพาย” ชนกพรยังไม่ทันได้โกรธเคืองเรื่องชื่อที่เขาล้อเลียนชื่อเธอ อยู่ๆ ก็มีผู้ชายปริศนาสวมเสื้อเชิ้ตสีชมพูพร้อมกับใบหน้าขาวสะอาดเสมือนนักร้องเกาหลีเข้ามา

                “อ๋อ... รู้จักกันไว้สิ ถ้าต่อไปฉันต้องแต่งงานกับเธอเพื่อปกปิดตัวตนของฉัน จะได้รู้เอาไว้ว่าฉันคงไม่ไปไหนไกลหรอก นี่เทมส์นที ไม่ใช่เกย์นทีนะแต่ก็ใกล้เคียง ใช่ไหมจ๊ะ ที่ร๊ากกกก”

                “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด” ชนกพรลุกขึ้นยืนกรีดร้องลั่นร้าน ก่อนจะวิ่งหนีออกไปด้วยความอับอาย ปล่อยให้คนในร้านมองตามไปอย่างตกใจว่าเธอเกิดอาการผีเข้าหรือเปล่า

    ก่อนบรรยากาศจะกลับมาเป็นปกติเมื่อหม่อมหลวงพระพายหัวเราะออกมา

                “มึงทำแบบนี้อีกแล้วนะ นี่ใช่ไหมที่เรียกกูออกมาหา..” เทมส์นทีทำหน้าเซ็งๆ อย่างเบื่อหน่ายที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายการดูตัวของเพื่อนสนิทอีกแล้ว จนชื่อเสียงเสียหายกลายเป็นผู้ชายที่มีรสนิยมรักชอบเพศเดียวกัน ทั้งที่ทั้งคู่มาดแมนสมชายชาตรีเสียยิ่งกว่านักร้องดาราบางคนเสียอีก

                “อะไรกันเพื่อน กูเรียกมึงออกมากินข้าวแทนน้องพรหล้าเขา สั่งกับข้าวมาเยอะแยะ แล้วนางมาหนีไปแบบนี้กูจะกินกับใครล่ะวะ” หม่อมหลวงพระพายแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ แล้วก็กวักมือเรียกบริกรมาใหม่อีกครั้งเพื่อยกเลิกอาหารบางอย่างแล้วสั่งเครื่องดื่มมึนเมามาเพื่อสังสรรค์ในความสำเร็จ ที่สามารถกำจัดผู้หญิงที่มารดาพยายามจับคู่ให้

                “นี่มึงอย่าบอกนะว่าสั่งแต่อาหารแปลกๆ ทั้งที่แบบธรรมดาเขาก็มีน่ะ”

                “เออ ดีเท่าไหร่แล้ว ที่กูไม่สั่ง...เออ ผัดเผ็ดแมวดำ ต้มยำช้าง แกงจืดเนื้อค่างกับกอไผ่ ฉู่ฉี่คางคก จิ้งจกปิ้ง ทั้งตุ๊กแกผัดขิง ลิงยัดไส้...ฮ่าๆๆๆ” หม่อมหลวงพระพายร้องเพลงลำตัดชื่อดังของแม่ขวัญจิต ศรีประจันศิลปินแห่งชาติอย่างออกรสชาติทันทีเมื่อเหล้าเข้าปาก

                “กับข้าวเพชฌฆาต เจริญแล้วมึง คราวนี้คุณหญิงเอามึงตายแน่ ไม่ต้องลากกูไปช่วยนะ ไม่อย่างนั้นมึงจะเจอจับแต่งงานกับแก้วหน้าม้าแน่ๆ” เทมส์นทีรีบเอาตัวออกจากเรื่องราววุ่นวาย เพราะคาดว่าจะเดาเหตุการณ์ต่อไปได้ไม่ยาก

                “จะแก้วหน้าม้า หรือกุลา โมรา กากีก็ได้วะ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงประเภท อาร์ตตัวแม่ กูยอมแต่งหมดแหละ”

    หลังจากพูดจบหม่อมหลวงพระพายยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกหมดในครั้งเดียว ท่ามกลางสายตาเยาะเย้ยจากคำพูดของเขา เทมส์นทีนึกในใจเพราะอดจะขัดไม่ได้

    แต่กูว่า...เกลียดอย่างไหนก็ได้อย่างนั้นวะ

                 

               

               

                

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×