คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 'Valentine {1}
Valentine
‘พี่คชา ใกล้วาเลนไทน์แล้วนะพี่ จะให้อะไรพี่เต๋าเค้าล่ะ’
คำพูดของเฟรม - รุ่นน้องของผม วนเวียนอยู่ในหัวผมมาหลายวันแล้ว และมันก็ยังอยู่จนถึงตอนนี้ ... บ่ายวัน
เสาร์ที่ผมกำลังเดินไม่มีจุดหมายอยู่ในห้าง ... ผมกำลังเดินหาของขวัญให้ ‘เต๋า’ ... เพื่อนสนิทของผม
คุณคงกำลังคิดว่าผมแอบชอบเต๋า ... แอบชอบเพื่อนสนิท ... ครับ ... ถูกเผงเลย
มันเป็นปัญหาบ้าบอในนิยายที่มีอยู่ในชีวิตจริง ผมไม่เคยคิดเลยว่าผมจะแอบชอบเพื่อนคนนี้ ... เพื่อนที่ผมสนิท
ที่สุด... เพื่อนผู้ชายเสียด้วย
เราสนิทกันมานานแล้ว ... เราอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่ม.1 ตอนนั้นผมกับเต๋ายังไม่ได้สนิทกันสักเท่าไหร่ แต่ผม...
แอบมองเค้าตั้งแต่ตอนนั้นแหละ
พอขึ้นม.2 อยู่ดีๆ เราก็สนิทกัน แล้วก็สนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ จนเต๋าเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของผม และผมก็เป็น
เพื่อนที่สนิทที่สุดของเต๋าเหมือนกัน ... เราไปไหนมาไหนด้วยกันจนเพื่อนผู้หญิงแอบแซวว่าเราเป็นแฟนกันด้วยแหละ
เต๋าชอบแกล้งผม บางทีก็ชอบแกล้งทำร้ายร่างกายผม แล้วพอผมทำท่างอนเค้าก็จะมากอดง้อ ... คงจะไม่รู้ตัวว่า
ว่าทำให้ผมหวั่นไหวไปกันใหญ่
เค้าแคร์ความรู้สึกผมมากกว่าคนอื่น ... เวลามีเรื่องอะไร เค้ามักจะนึกถึงผมก่อน ... จนบางที มันก็ทำให้ผมอด
คิดไม่ได้ว่า ... เขาเองก็รู้สึกพิเศษต่อผมเหมือนกัน
แต่มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น ... ตอน ม.4 เต๋าแอบชอบรุ่นน้องม.3 คนนึง ... เต๋าแต่งตั้งให้ผมเป็นที่ปรึกษาด้านการ
จีบน้องเค้าเลยนะ ... ผมก็ทำตัวเป็นที่ปรึกษาที่ดีทุกอย่าง ... ยิ้มให้และปลอบใจเต๋าตลอด เพราะมันน่ะชอบคิดว่าน้อง
เค้าไม่สนใจ น้องเค้ามีคนที่ชอบอยู่แล้ว คิดโน่นคิดนี่ ... ผมหาทางช่วยมัน ... จนน้องเค้าเริ่มมีท่าทางชอบมันเหมือนกัน ...
มันไม่รู้หรอก ว่าที่ผมทำไปอย่างนั้นน่ะ ... ผมเจ็บ
ในที่สุด มันกับน้องคนนั้นก็ได้คบกัน ... เต๋ามีแฟน ...
ยังจำได้อยู่เลยว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง เสียใจมากขนาดไหน ... ผมไม่ได้เสียใจที่เต๋าไม่ได้ชอบผม ไม่ได้
เสียใจที่เต๋ามีแฟน ... แต่ผมเสียใจ ... ที่เวลาที่เคยเป็นของผม ... กลายเป็นของคนอื่น
ช่วงแรกๆ ผมต้องนั่งกินข้าวคนเดียว เพราะปกติเรากินกันแค่สองคน ... คุณลองคิดดูสิครับ ว่ามันน่า
เจ็บปวดขนาดไหน ... การนั่งกินข้าวคนเดียวเป็นอาทิตย์ ในขณะที่คนที่เคยกินข้าวกับเราทุกวันไปนั่งป้อนข้าวกับคนอื่น
อยู่อีกสองโต๊ะถัดไปแค่นั้นเอง
จนกระทั่งผมได้เจอเฟรม น้อง ม.2 วันนั้นน้องมันมาทักผมก่อน แล้วมันก็มานั่งกินข้าวกับผม แล้ว
เราก็นั่งกินข้าวด้วยกันทุกวัน จนมันกลายเป็นน้องที่สนิทที่สุดของผม ... แล้วเฟรมก็เป็นคนเดียว ที่รู้ว่าผมคิดยังไงกับเต๋า
แต่แล้ววันหนึ่ง เต๋ากับแฟนก็ทะเลาะอะไรกันสักอย่าง ... ถ้าจำไม่ผิด ผมรู้สึกว่าน้องเค้าอยากให้เต๋าเลิกเล่นบาส
เพราะไม่อยากให้เต๋าเป็นจุดสนใจ เดี๋ยวจะมีคนมาแย่งเต๋าไป ... เต๋าคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ ทั้งสองคนมีปากมีเสียง
กัน ... แล้วเรื่องนี้ก็เป็นจุดจบของความสัมพันธ์แบบแฟนของทั้งสองคน ... น้องเค้าเป็นคนบอกเลิกเอง ด้วยเหตุผลที่ว่า ...
ถ้าเต๋าเลิกเล่นบาสไม่ได้ ก็เลิกกัน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ... ผมก็เห็นแฟนเก่าเต๋าเดินควงกับใครสักคน ที่ถ้าผมจำไม่ผิด น่าจะเป็นนักฟุตบอลทีม
โรงเรียน
ตอนนั้นเต๋าเสียใจมาก แต่ผมก็เข้าใจ ... น้องเค้าเป็นรักครั้งแรกของเต๋านี่นะ ... ไม่ต่างจากที่เต๋าเป็นรักครั้งแรก
ของผมหรอก
ยังจำได้ดีว่าตอนนั้นเต๋าร้องไห้แล้วกอดผม ถามพร้อมเสียงสะอื้นเบาๆ ว่า เต๋าทำอะไรผิด ... ผมกอดตอบ แล้ว
พูดแค่ว่า เต๋าไม่ผิด ... ไม่ผิดเลย ผมคิดว่าถ้าเรื่องนี้จะมีใครผิดก็คงเป็นผมเอง ... เป็นผมที่ช่วยเต๋าจนจีบน้องเค้าติด
กำลังคิดว่าผมคิดอะไรโง่ๆ ใช่ไหม?
ผมแค่ไม่อยากโทษว่าน้องเค้าผิด ... เพราะน้องเค้าไม่ได้รักเต๋า ผมเองที่รักเต๋า แต่กลับปกป้องเต๋าจากความ
บาดเจ็บนี้ไม่ได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเต๋าก็เหมือนจะลืมเรื่องราวความรักครั้งนั้นได้ ... แล้วเราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ...
เต๋าดูแคร์ผมมากกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำ ... แต่ครั้งนี้ผมไม่กล้าคิดแล้วแหละว่าเค้าจะคิดอะไรกับผมน่ะ ... มันเป็นไปไม่ได้
อยู่แล้ว
- Rrrr -
โทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงผมสั่น ผมหยิบขึ้นมาดูหน้าจอก่อนจะอมยิ้มให้ตัวเอง
... ตายยากจริงๆ นะ ...
“ฮัลโหล” ผมกรอกเสียงลงไปในโทรศัพท์ หยุดยืนอยู่หน้าร้านขายอะไรสักอย่าง
(คชา ทำไรอยู่อะ) เสียงปลายสายตอบกลับมา
“อ๋อ ... ก็ ... เดินห้างอยู่อะ มาซื้อของนิดหน่อย มีไรเปล่า”
(ทำการบ้านชีวะไม่ได้ว่ะ)
“ชีวะมีการบ้านไรวะ”
(แล็บอันล่าสุดที่เราเพิ่งทำอะ)
“อ๋อๆ จะไปลอกเช้าวันจันทร์ป้ะล่ะ หรือว่ายังไง”
(เดี๋ยวไปหาที่บ้านได้ป้ะ)
“อะ...เออๆ มาดิ จะมาเมื่อไหร่อะ?”
(เย็นนี้)
“อ่าโอเคๆ เดี๋ยวบอกให้หม่าม๊าเตรียมกับข้าวเผื่อนะ”
(ดีมากครับที่รัก เจอกันนะ)
สายตัดไป ... ผมยืนยิ้มอยู่กับโทรศัพท์ ... เต๋าชอบแหย่ผมแบบนี้ประจำ ... ผมก็เขินได้ทุกครั้ง ไม่รู้ทำไม
-------------------------------
“ขอบคุณมากนะครับม๊า กับข้าวยังอร่อยมากๆๆๆ เหมือนเดิมเลย” เต๋ายกมือไหว้แม่ผม แล้วเยินยอซะยก
ใหญ่ ตอนนี้หม่าม๊าหน้าบานเท่าจานทรูวิชั่นส์แล้ว
“ม๊าไม่บ้ายอนะเต๋า” ปากบอกว่าไม่แต่ยิ้มซะขนาดนั้น เต๋ามันคงเชื่อหรอกม๊า
“งั้นผมขอตัวกลับเลยแล้วกันนะครับ ขอบใจมากนะชา” เต๋าหันมายิ้มให้ผม
“แล้วนี่จะกลับยังไงลูก มืดแล้วนะ เหมือนฝนจะตกด้วย ติดร่มมารึเปล่า” หม่าม๊าดูจะเป็นห่วงเต๋ามากกว่าผม
อีกนะเนี่ย (ว่าแต่ผมมีอะไรให้ห่วง?)
“ไม่เป็นไรหรอกครับ กลับได้”
“จริงๆ แล้วค้างบ้านม๊าก็ได้นะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยกลับ”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ” เหมือนจะตอบม๊า ... แต่ทำไม เต๋าถึงมองหน้าผม?
“เอ่อ... ค้างด้วยกันก็ได้นี่เต๋า” ไม่รู้ว่าอะไรที่ทำให้ผมพูดไปอย่างนั้น ... ไม่ใช่ว่าผมไม่เคยนอนกับเต๋า เต๋ามา
บ้านผมบ่อย แต่ครั้งสุดท้ายที่ค้างด้วยกันมันตั้งแต่ตอนม.3 ... มันผ่านมาสามปีแล้วนะ ... ถึงจะสนิทกันมาก ถึงจะอยู่
ด้วยกันตลอด ... แต่ความรู้สึกผมมันก็ไม่ได้คงที่ ... ผมจะทำตัวถูกไหมถ้าต้องนอนเตียงเดียวกับเต๋า
“เห็นไหมลูก เจ้าของห้องเค้าอนุญาตแล้ว” หม่าม๊ายิ้มแย้ม ดูดีใจที่ผมจะมีเพื่อนนอนด้วย
“เอ่อ ... งั้นก็ได้ครับ”
---------------------------------
“ชา จ้องมากี่ชั่วโมงแล้วจออะ เดี๋ยวก็ตาบอดกันพอดี” เสียงเต๋าเอ็ดผมดังมากจากข้างหลัง คงจะเพิ่งอาบน้ำ
เสร็จ ผมกำลังนั่งเล่นเกมส์อย่างใจจดใจจ่อ
“แป๊บเดียวๆ จะเลิกแล้ว” ผมตอบไปส่งๆ ตายังจ้องอยู่ที่หน้าจอ ผมกำลังจะผ่านเลเวล!
“เลิกได้แล้วคชา เล่นมาหลายชั่วโมงแล้ว”
“แป๊บเดียวจริงๆ เนี่ยใกล้ชนะแล้ว”
“พูดอย่างงี้มาหลายรอบแล้วนะ”
“เฮ้ยอันนี้แป๊บเดียวจริงๆ จะชนะแล้วจริงๆ” อีกนิดเดียว!!
ฟรึ่บ!!
รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นลม ... ทำไมอยู่ดีดีเกมส์ถึงได้หายไปล่ะ ตาลายแน่ๆ เลย!!
พอเลื่อนสายตาไปมองที่เมาส์ ก็พบกับมือขาวๆ ของเต๋าที่เลื่อนมากดปิดเกมส์ของผม!!! อีกนิดเดียวก็จะผ่าน
แล้วนะ!! ผมหันขวับไปมอง ทำกันแบบนี้มันจะมากเกินไปแล้ว ยอมไม่ได้ !!
แต่แล้วผมก็ต้องชะงึกกึก ... เพราะทันทีที่ผมหมุนเก้าอี้กลับไป ผมก็เจอกับอกขาวๆ และหน้าท้องขาวๆ เต๋า
พันผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
ผมนิ่งค้างทำอะไรไม่ถูก ... ที่มากกว่านั้นคือ ท่าที่เต๋ายืนอยู่ตอนแรกคือเต๋ากำลังยืนอยู่หลังเก้าอี้ที่ผมนั่ง เอา
แขนซ้ายเท้าโต๊ะแล้วเอื้อมมือขวาออกมาจับเมาส์ เท่ากับว่าตอนนี้ที่ผมหันหน้ากลับไป เต๋ากำลังกางแขนคร่อมผมอยู่ทั้ง
ตัว
เราทั้งคู่เงียบกันอยู่นาน ... ผมพยายามคิดว่าต้องทำยังไง
“เอ่อ ... ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้าวะ” นั่นแหละคำพูดแรกของผม ผมรู้สึกเหมือนเห็นเต๋าสะดุ้งน้อยๆ ก่อนจะยกแขนทั้ง
สองข้างขึ้นมายืนตรงปกติ
“ก็ ... คชาไม่เอาเสื้อผ้ามาให้ แล้วจะให้ใส่ไรอะ”
“เออนั่นสิ ลืมไป แป๊บนึงนะ” ผมรีบลุกขึ้นไปหาเสื้อยืดกับกางเกงมาให้เต๋า สติก็ยังกลับมาไม่ครบ
“อะนี่” ผมยื่นเสื้อผ้าให้เต๋าไปใส่ แล้วไปนั่งสงบสติบนเตียง ส่วนเต๋าเดินเข้าไปใส่เสื้อผ้าในห้องน้ำ ... คืนนี้ผม
จะนอนหลับไหมเนี่ย
ผมว่าผมชักจะเตลิดไปกันใหญ่แล้วนะ ทำไมถึงได้ปล่อยให้เต๋ามีอิทธิพลต่ออัตราการเต้นของหัวใจแบบนี้
เพราะตอนนี้หัวใจมันยังเต้นแบบไม่เข้าที่เข้าทางเลย ความจริงคือผมไม่ควรรู้สึกแบบนี้ เพราะมันทำให้ความเป็นเพื่อน
ของเราสั่นคลอน ... แต่ผมก็หยุดใจตัวเองไม่ได้ ผมห้ามใจตัวเองไม่ทัน ...
ทั้งๆ ที่ผมปรึกษาเฟรมมาแล้วว่ายังไงผมก็ต้องบอกความรู้สึกที่มีต่อเต๋า ... ผมไม่ได้ไม่กลัวปัญหาคลาสสิก
อย่างการเสียเพื่อน ผมไม่มั่นใจว่าตัวเองพร้อมจะยอมรับถ้าผลมันออกมาเป็นแบบนั้น ... แต่เพราะผมไม่อยากเสียใจที่ไม่
ได้บอกเต๋าออกไป ... กับเวลา 6 ปี ผมคิดว่ามันมากพอสำหรับความรักที่มากมายขนาดนี้
“คชา คิดไรอยู่” เสียงของเต๋าพร้อมน้ำหนักของเตียงที่ยุบลงข้างๆ ทำให้ผมแอบตกใจ
“อ๋อ ก็..เปล่า”
“หึ ถ้าไม่ใช้คอมแล้วก็ไปปิดซะ แล้วมานอนเหอะ นอนดึกเดี๋ยวไม่โตนะจ๊ะ”
“ไอ้บ้า” ผมด่าเต๋าแต่ยิ้ม ... มันก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง ... ผมลุกไปปิดคอม เต๋ากราบหมอนแล้วนอนลง ผมเดินไป
ปิดไฟแล้วมานอนข้างๆ เต๋า ... รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน
ในห้องนอนของผมมืดและเงียบ ... ไม่มีเสียงอะไร แม้แต่เสียงหายใจของเราทั้งคู่ ผมนอนลืมตามองเพดาน ไม่
กล้าขยับตัว ... ไม่รู้ว่าคนข้างๆ หลับไปรึยัง ... ไม่กล้าหันไปมอง
“ยังไม่หลับใช่ไหม” เสียงเบาๆ ของเต๋าดังขึ้น ผมหันหน้าไปมองทีหนึ่งก่อนจะหันกลับมามองเพดานเหมือนเดิม
“อื้ม”
“ไม่ได้นอนด้วยกันมานานเท่าไหร่แล้วนะ”
“สามปี”
“อืม...ตอนม.3เต๋าเคยมานอนที่นี่นี่นะ”
“ใช่ ตอนนั้นคุณป้าเอามาฝากไว้ไง”
“หึ ความจำดีนะเรา”
“ตัวเองก็จำได้เหมือนกันเหอะ”
“แสนรู้”
“ไม่ใช่หมา”
“ล้อเล่น”
“...”
“...”
“...”
“คชา”
“หืม”
“...”
“มีอะไร”
“เปล่า”
“เอ้า”
“ไม่รู้ดิ แค่รู้สึกว่าอยากเรียก”
“หึ”
“หึอะไรเป็ด”
“เต๋า...อึดอัดป้ะวะ”
“ไม่หนิ ชาอึดอัดเหรอ? บอกแล้วไม่อยากมาแย่งที่นอน ให้เต๋าลงไปนอนพื้นป้ะ”
“เฮ้ยไม่ๆ ไม่ได้อึดอัด... แค่แบบ ... อยากรู้ว่าเต๋าอึดอัดรึเปล่า”
“อึดอัดทำไมวะ”
“ช่างเหอะ”
“หึ นอนได้แล้วชา เดี๋ยวพรุ่งนี้หน้าโทรมนะสุดหล่อ”
“อื้ม”
“ฝันดีนะคชา”
“อะ...เออ ฝันดีๆ”
ผมหลับตาลงพร้อมรอยยิ้มที่เปื้อนบนหน้า ... หุบไม่ได้ซะด้วยสิ ... มืดแบบนี้เต๋าคงไม่เห็น ผมขอยิ้มให้เต็มที่ก็
แล้วกัน
ฝันดีนะเต๋า .. คนดีของคชา
--------------------------
ผมกระพริบตาถี่ๆ แสงอาทิตย์สว่างจ้าทำให้ผมรู้ว่าสายมากแล้ว ... แต่ปกติวันหยุดผมก็ตื่นสายแบบนี้แหละ ...
แต่ผมจำได้ว่า เมื่อคืน ...
ผมหันมองไปรอบๆ ห้อง ... เต๋าไม่อยู่ ... สงสัยจะลงไปหาหม่าม๊าแล้ว ผมเลยลุกเดินไปล้างหน้าแปรงฟันให้
เรียบร้อย ว่าจะลงไปข้างล่างสักหน่อย
ก่อนที่ผมจะเอื้อมมือเปิดประตู ผมก็เห็นเศษกระดาษแปลกปลอมที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องของผม ... ผมเลยไป
หยิบขึ้นมาอ่านดู
‘กลับแล้วนะคชา ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อน ขอบคุณมากสำหรับทุกๆ อย่างนะ ^^
เต๋า’
ผมวางกระดาษลง เดินเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ ... หัวใจสั่นๆ ... ดีใจหรือเสียใจก็ไม่รู้เหมือนกัน ...บางทีอาจจะแค่
น้อยใจ ... ที่เต๋าไม่รอผมตื่นก่อนที่จะไป
อาบน้ำเสร็จ ... ผมกำลังคิดจะออกไปหาซื้อของขวัญวันวาเลนไทน์อีกครั้ง ... อันที่จริง ตั้งแต่เรารู้จักกัน ก็ผ่านวัน
แห่งความรักมา 4 ครั้งแล้ว แต่ผมเพิ่งคิดจะให้อะไรเต๋าในปีนี้ เพราะนี่เป็นปีสุดท้ายที่เราจะได้เป็นเด็กมัธยมอยู่ในห้อง
เดียวกัน ... ผมควรจะบอกเต๋าให้หมดทุกอย่าง ก่อนที่มันจะสายเกินไป
ผมตัดสินใจกดโทรศัพท์หาเฟรมเพื่อปรึกษาว่าจะให้อะไรเต๋าดี จริงๆ แล้วตั้งใจจะเล่าเรื่องเมื่อวานด้วยแหละ ...
เฟรมเป็นคนเดียวที่ผมเล่าให้ฟังหมดทุกอย่าง ... ถึงมันจะเด็ก แต่มันช่ำชองกว่าผมเยอะ
(ตื่นแล้วเหรอพี่) นี่คือคำแรกที่มันรับสายผม!
“เออ”
(มีอะไรให้น้องเฟรมรับใช้ครับ)
“เมื่อคืนเต๋ามาค้างบ้านพี่ว่ะ”
(จริงดิ! เป็นไงบ้างล่ะพี่ หึหึ)
“ไม่ต้องมาทำเสียงชั่วร้ายแบบนั้น ก็ไม่ได้มีอะไรอะ”
(โด่วว ผมก็นึกว่าจะมีแบบปิ๊บปิ๊บ)
“เดี๋ยวจะโดน ปิ๊บๆ สะแด่วแห้วอะไร”
(ฮ่าๆๆ แต่พี่ก็มีความสุขใช่ไหมล่ะ)
“ก็...มี แต่...เค้าไปไม่บอกพี่ว่ะ”
(อ้าว)
“เต๋าเขียนโน้ตทิ้งไว้ว่าไม่อยากปลุกก็เลยไม่ได้บอก”
(โทษของการตื่นสาย)
“แม่ง ซ้ำเติม”
(โอ๋ๆ ขอโทษครับน้องคชา)
“เพื่อนเล่น? เดี๋ยวโดนๆ”
(แหม ล้อเล่นพี่)
“วาเลนไทน์พี่จะซื้อไรให้เต๋าดีวะ คิดยังไงก็คิดไม่ออก”
(อย่าเอาสมองคิดดิพี่ เอาใจคิด ให้อะไรที่มาจากใจ อะไรที่มันบอกถึงใจพี่มากที่สุด)
“ใจ?”
(ใช่พี่ อะไรสักอย่าง ที่พี่คิดว่ามันตรงกับสิ่งที่หัวใจพี่อยากบอกพี่เต๋ามากที่สุด)
“อืม...โอเค ขอบใจมากเว่ย”
(ด้วยความยินดีครับ) ผมกดวางสาย... คว้ากระเป๋าตังค์ แล้วเดินออกจากบ้าน
ตรงหน้าผมเต็มไปด้วยกระดาษหลากหลายสีสัน ... ตอนนี้ผมอยู่ในร้านขายเครื่องเขียนหน้าปากซอยบ้านผมเอง
------------------------
Talk,,
กลับมาแล้ววววว พร้อมฟิคฉลองวาเลนไทน์ เฮ้!!
หายไปเป็นเดือน กลัวรีดเดอร์หายจัง TT
นี่ก็เข้าสู่เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักแล้วนะคะ เลยเอาฟิควาเลนไทน์มาให้อ่าน (ถึงมันจะมาล่วงหน้าเร็วไปหน่อยก็เถอะ)
แต่มันยังไม่จบค่ะ!! จะเอามาลงให้อ่านกันจนจบแน่นอน จะพยายามให้มาพอดีช่วงวาเลนไทน์ให้ได้ 55555555
สำหรับเรื่อง New Year ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์มาว่าคชายอมง่ายไป!! บอกแล้วว่ามันเป็นผลพวงจากพี่แบงค์วงแคลชที่ตอนแรกร้องละครรักแท้อยู่ดีดี ก็หันไปร้องลั้นลาซะงั้น จากที่กำลังแต่งดราม่า หน้าพี่แทนไท กะกะกะวินภพก็ลอยเข้ามาในหัว 555555 (ใครรู้จักยกมือขึ้น!!) ถ้าสามารถพอก็จะมารีไรท์ให้นะคะ (แต่คิดว่าไม่สามารถแน่แน่เลย5555) << จะพูดทำไม?
ตอนนี้กำลังแต่งสเปเรื่อง Text อยู่ค่ะ ถ้าสำเร็จเมื่อไหร่จะเอามาให้อ่านกัน (แต่ไม่รับปากว่าจะนานแค่ไหน 55555) แล้วก็กำลังทำโปรเจคพิเศษกับไรท์เตอร์แตมป์น้อยอยู่ด้วย ^^ (ไรท์เตอร์แตมป์น้อยเป็นเจ้าของฟิคโน่ริทนะคะ เคยบอกไปแล้วครั้งนึง ใครชอบโน่ริทลองไปหาฟิคแตมป์อ่านดูนะคะ SF เรื่องนาฬิกาตายนี่เอิงเอยชอบมาก 55555)
พูดไปพูดมาเอิงเอยดูเป็นคนหาความมั่นคงไม่ได้เลยเนอะ -0- เหมือนจะแต่งหลายเรื่องแต่ยังไม่จบสักเรื่อง -0- แต่ยังไงก็จะพยายามสร้างสรรค์ฟิคมาให้รีดเดอร์ที่น่ารักทุกคนได้อ่านอย่างสุดความสามารถนะคะ
ขอบคุณทุกคนมากๆ จริงๆ ที่อ่านและชื่นชอบฟิคของเอิงเอย
ถึงจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากมายแต่ก็เขียนด้วยความเป็นคนชอบเขียน และอยากให้คนอ่านมีความสุขกับการอ่าน แค่มีคนอ่านแล้วบอกว่าชอบก็ดีใจมากที่สุดแล้วค่ะ ^___^
เจอกันพาร์ทหน้านะคะ :)
ความคิดเห็น