ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - AF8 - | 'อมยิ้ม' [TaoKacha] Short Fiction

    ลำดับตอนที่ #3 : 'TEXT {2} (end)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.86K
      2
      1 ม.ค. 55

    t em


    Tao;

                    ผมเดินอยู่ในห้างใหญ่.. ข้างๆ เขา..คชา..คนที่ผมคุยด้วยทุกวันมาสองปีเต็ม..

                   

    เขากำลังยิ้ม.. คิดอะไรอยู่นะ?

                   

    “คชา คิดไรอยู่หรอ?”

                   

    “คิดถึงตอนที่เราคุยกัน” คชาตอบพร้อมยิ้มกว้าง น่ารักเกินไปจริงๆ

                   

    “ตอนไหนละ”

                   

    “วันที่คุยกันในเอ็ม ที่เต๋าไม่ยอมมา เพราะเต๋าหลับตั้งแต่สองทุ่มครึ่ง”

                   

    “อ๋อ จำได้แล้ว เต๋าต้องยอมให้เชลซี ชาถึงหายงอน”

                   

    “ฮ่าๆ ชานั่งรอเต๋าทั้งคืนเลยนะตอนนั้นอะ”

                   

    “แต่มันก็เป็นครั้งแรกที่ทำให้เต๋ารู้นะ ว่าชาเป็นห่วงเต๋าจริงๆ” คชาไม่ตอบ แต่ยิ้มกว้าง.. ตอนนั้นผมสัมผัสได้ผ่านตัวอักษรพวกนั้น ว่าเขาเป็นห่วงผมมากแค่ไหน.. หลายครั้งที่เราแสดงความเป็นห่วงถึงกัน.. ผมหวังว่าเขาจะสัมผัสความเป็นห่วงของผมได้เช่นกัน

    .

    .

    .                              

    วันนั้น ..ไม่นาน หลังจากที่เราได้ช่องทางการคุยใหม่ .. บีบี .. ผมเห็นสถานะของเขา

                   

    ไมเกรนขึ้น TT’

                   

    ผมรู้สึกแปลกๆ.. เขาจะเป็นอะไรมากไหมนะ? เป็นห่วงเหลือเกิน.. ผมตัดสินใจทักเขาไป

                   

    Tao J

                    คชา เป็นอะไรรึเปล่า

                   

    >>Kacha<<

                    ไมเกรนขึ้นอะเต๋า ปวดหัวมากเลย L

                   

    Tao J

                    กินยารึยัง? อยู่บ้านหรืออยู่ไหน?

                   

    >>Kacha<<

                    อยู่บ้าน

                    กินยาไปแล้ว ไม่เห็นหายเลย L

                   

    Tao J

                    มีใครอยู่บ้านด้วยรึเปล่า?

                   

    >>Kacha<<

                    มีน้องอยู่

                   

    Tao J

                    ชานอนพักผ่อนเยอะๆ นะ ถ้าเป็นอะไรต้องรีบบอกน้องนะรู้ไหม

                   

    >>Kacha<<

                    รู้แล้ว ขอบคุณนะเต๋า

                   

    Tao J

                    ดูแลตัวเองด้วยนะชา

                   

    >>Kacha<<

                    ครับ

                   

    Tao J

                    นอนเถอะ เต๋าไม่กวนแล้ว

                   

    >>Kacha<<

                    อื้ม J

     

                   

    “แล้วเต๋าคิดอะไรอยู่?”

                   

    “คิดถึงวันที่ชาไมเกรนขึ้น”

                   

    “อ่า..”คชาพยักหน้าเบาๆ

                   

    “รู้ไหมว่าเต๋าเป็นห่วงมาก”

                   

    “รู้” เขามองหน้าผม แล้วยิ้ม..

                   

    “อย่ายิ้มแบบนี้ได้ไหม”

                   

    “ทำไมละ” คชามองหน้าผมเลิกคิ้วขึ้น .. ยิ่งดูยิ่ง.. น่ารัก

                   

    “หวั่นไหว”ผมจ้องตาเขาตอบ จนเขาต้องหลบตา

                   

    “พูดอะไรก็ไม่รู้” ถ้าผมไม่ได้ตาฝาด ผมห็นคชาหน้าแดงด้วยแหละ แล้วเขาก็รีบจ้ำไม่รอผมเลย.. จนไปหยุดอยู่หน้าร้านอะไรสักอย่างในห้างนี้ เมื่อผมเดินตามไป ก็เห็นว่าเป็น.. ร้านรองเท้า

                   

    “ชอบคู่นี้หรอ” ผมชี้นิ้วไปยังรองเท้าผ้าใบคู่ที่คชาจ้องอยู่

                   

    “อื้อ” เขาพยักหน้าถี่ๆ ผมจับมือเขาแล้วลากเบาๆ เข้าไปในร้าน

                   

    “พี่ครับ ขอดูคู่นี้หน่อยครับ” ผมบอกพี่คนขายพี่เขาก็หยิบมาให้ทันที

                   

    “คชา ลองใส่สิ” ผมบอกคชา คชาขมวดคิ้ว .. เขาเองคงไม่คิดจะซื้อหรอก แต่ผม..จะซื้อให้

                   

    “พอดีไหม ลองเดินซิ” แล้วเขาก็เดิน เดิน หมุนไปหมุนมา แล้วกลับมายืนตรงหน้าผม

     

                    “ใส่สบายรึเปล่า?”

     

                    “ก็..สบาย” เขาเริ่มก้มลงไปถอด

     

                    “ชอบไหม?”

     

                    “ก็..ชอบ”

     

                    “พี่ครับ เอาคู่นี้แหละครับ” ผมหันไปบอกกับพี่คนขาย

                   

                    “เฮ้ยเต๋า!” ผมก้มลงไปหยิบรองเท้าที่คชาถอดเสร็จแล้วส่งให้คนขาย พี่เขารับและเดินหายไป

     

                    “ต๋าว ชาไม่ได้จะซื้อนะ” คชาหันมาทำปากยื่นๆ ผมไม่ชอบหน้าตาแบบนี้เลยจริงๆ เพราะมันมีผลต่อการเต้นของหัวใจ!

     

                    “ก็ไม่ได้จะให้ชาซื้อ”

     

                    “เอ้า ก็เห็นอยู่ว่า..” คชายังพูดไม่ทันจบ พี่คนเดิมก็กลับมาพร้อมรองเท้าที่ใส่กล่องเรียบร้อย พร้อมกับรับเงินจากผมไป

     

                    “เต๋าซื้อให้ชานะ” ผมหันกลับไปยิ้มกว้างๆ ให้เค้า .. ใช่ยิ้มแบบที่เค้าบอกว่าเอ๋อรึเปล่านะ?

                   

                    “แต่..”

                   

                    “เงินทอนค่ะ” พี่คนเดิม(มากๆ) เดินกลับมาพร้อมกับส่งเงินทอนคืนให้ผมและกล่าวขอบคุณก่อนที่ผมจะเดินออกจากร้านมา โดยมีคชาเดินตามต้อยๆ

     

    Kacha;

                    ผมเดินตามเต๋าออกมาจากร้านรองเท้าแบบมึนๆ ก่อนหน้านี้ผมเขินเขา ก็เลยเดินหนีมา แล้วก็มาหยุดดูรองเท้า ..ก็เห็นว่ามันสวยดี..

     

    ใช่เหรอ? ผมไม่ได้หยุดด้วยเหตุผลนี้! ผมกลัวว่าเขาจะไม่เดินตามมาต่างหากล่ะ ถ้าไม่หยุดเขาอาจจะเดินไม่ทันผมก็ได้ ถึงจะขาสั้นกว่าแต่คชาก็เดินเร็วนะครับ! แล้วเขา.. ก็มาซื้อรองเท้าให้ผม! ผมไม่ได้อยากได้มันสักหน่อยนึง!! แต่พอใส่แล้วมันก็.. โอเคนะ เข้ากับผมดีเหมือนกัน ..แต่จู่ๆ เต๋ามาซื้อรองเท้าให้ผมอย่างงี้มันถูกเหรอ? คิดอะไรอยู่วะเต๋าเอ๋อ!? คชาอารมณ์เสีย!!!

     

                    “คชา ทำไมทำหน้าบึ้งอย่างงั้นละ?” เต๋าถอยหลังเล็กน้อยเพื่อมาเดินข้างๆ ผม จากที่ตอนแรกเขาเดินนำหน้าผมอยู่ .. ผมเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเขา ก็ใครใช้ให้ซื้อรองเท้าให้กันเล่า!!

     

                    “คชา เป็นอะไรไปอ่า?” คือเค้าไม่รู้เลยใช่ไหมว่าผมอารมณ์ไม่ดี!!

     

                    “คชา..ไม่ชอบรองเท้าเหรอ?” เต๋าเอามือข้างขวาของเขามาแตะมือข้างซ้ายของผมเบาๆ ในขณะที่มือข้างซ้ายของเขาเองยังถือถุงรองเท้าที่ซื้อให้ผม.. ผมไม่ได้ดึงมือออก.. มันก็รู้สึกดีเหมือนกันนี่นาที่มือของเราแตะกันอยู่อย่างนี้.. ผมทำได้เพียงแต่.. หันหน้าหนี เพื่อแสดงออกให้เขารู้ว่าผมไม่พอใจ เผื่อจะคิดอะไรออกบ้าง

     

                    “คชา เป็นไรอะ? เต๋าทำอะไรผิดรึเปล่า?” ยังจะถาม!!

     

                    “ผิด ผิดไปเยอะเลยแหละ!” ผมหันกลับมาจ้องหน้าเขาตรงๆ โดยที่มือของเรายังสัมผัสกัน.. อาจจะ.. จับกันแน่นขึ้นด้วยซ้ำ

     

                    “ฮะ? เต๋าทำไรอะคชา”

     

                    “ยังจะถามอีกเหรอ? เอ๋อได้ที่จริงๆ เลย”

     

                    “เต๋าทำอะไรผิดอ่า เต๋าไม่รู้จริงๆ นะคชา” สายตาอ้อนวอนของคนหล่อ!! เจอเข้าไปคชาไม่ใจอ่อนได้เรอะ?

     

                    “ต๋าว ไม่รู้จริงๆ เหรอ ว่าซื้อรองเท้าให้มันไม่ดี” ที่สำคัญคือผมไม่ได้อยากได้!!

     

                    “ทำไมล่ะ? ก็คชาชอบไม่ใช่เหรอ?”

     

                    “จะชอบหรือไม่ชอบมันไม่เกี่ยว”

     

                    “อ้าว แล้วทำไมอะ” เขาปล่อยมือผมแล้ว.. เอาไปเกาหัวแทน!

     

                    “ไม่เคยได้ยินเหรอ..ว่าถ้าให้รองเท้าใคร ก็จะต้องเดินจากกัน” ผมสบตาเต๋านิ่ง.. เขาเองก็เช่นกัน

     

                   

     

    Tao;

                    “ไม่เคยได้ยินเหรอ..ว่าถ้าให้รองเท้าใคร ก็จะต้องเดินจากกัน” คชาสบตาผมนิ่ง.. ผมเองก็เช่นกัน.. ผมไม่เคยรู้เรื่องแบบนี้มาก่อนเลยให้ตายเถอะ.. จะต้องจากกันงั้นเหรอ? .. มันจะสำคัญอะไรละ ยังไง คชาก็ต้องกลับไปโคราช.. ผม.. ก็ต้องอยู่กรุงเทพฯ แบบนี้อยู่ดี

     

                    หลายต่อหลายครั้งที่เราคลาดกัน.. ผมไปโคราช คชามากรุงเทพฯ.. คชามากรุงเทพฯ ผมไปภูเก็ต.. ผมไปโคราช คชาไปเชียงใหม่

     

    ..ไม่รู้ว่าฟ้าเล่นตลกอะไรกับเรา..

     

    ผมกับคชาคุยกันมาสองปีเต็ม.. แต่เพิ่งจะมาเจอกันเอาวันนี้ .. ผมเคยคิดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม.. เราคงจะเจอกันเอง

     

                    วันนี้เราเจอกันแล้ว.. ผมมีความสุขมาก..

     

                    คนที่อยู่คุยเป็นเพื่อนตอนผมไม่มีใคร คนที่บอกผมให้ฝันดีทุกคืน คนที่บอกผมว่าอย่าลืมกินยาตอนที่ไม่สบาย คนที่เคยนั่งหลับเพื่อรอคุยกับผม คนแรกที่ทักผมตอนที่ขึ้นสเตตัสว่ารถชน คนที่คอยให้กำลังใจทุกครั้งที่ผมท้อ คนที่ไล่ผมให้นอนเร็วๆ ในคืนก่อนสอบ .. คนที่ผมรู้สึกผูกพันมาก.. แม้ว่าไม่เคยได้ยินเสียง ไม่เคยเจอหน้า .. ได้เห็นเพียงภาพถ่าย และตัวหนังสือเท่านั้น

     

                    คนคนนั้นเขาอยู่ตรงหน้าผม.. แต่อีกไม่กี่ชั่วโมง .. เราก็ต้องแยกกัน .. เขาต้องกลับไปอยู่บ้านเขา .. ผมก็ต้องกลับไปอยู่บ้านผม .. แล้วก็ไม่รู้อีกนานเท่าไหร่เราถึงจะได้เจอกันอีกครั้ง.. อาจจะเป็นเดือน.. เป็นปี.. หรือหลายปี..

     

                    ถ้าอย่างนั้นรองเท้าคู่เดียวมันจะสำคัญอะไรละ? ในเมื่อผมเจอเขาแล้ว ผมก็อยากให้ในสิ่งที่เขาอยากได้.. ผมต้องทำวันนี้ให้มีคุณค่าที่สุดสำหรับเราสองคนไม่ใช่เหรอ? วันแรกที่เราเจอกันมันต้องประทับใจมากที่สุดสิ อีกไม่นานผมก็จะไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มกว้างๆ นั่น จะไม่มีโอกาสได้ยินเสียงหัวเราะใสๆ จะไม่ได้ยินเสียงเรียกต๋าวหรือเต๋าเอ๋อ ผมจะไม่ได้แอบจับมือนิ่มๆ นั้น..

     

    คงอีกนานกว่าเราจะได้เจอกันอีกครั้ง..

     

    แล้วถ้าไม่มีวันนั้นล่ะ?

     

    ซื้อของที่เขาอยากได้ให้ไปน่ะ.. ดีแล้ว

     

                    “ขอโทษนะคชา.. แต่.. ถ้าเราจะต้องแยกกันอยู่แล้ว.. ถ้าอีกนานกว่าเราจะได้เจอกันอีก.. เต๋าก็อยากให้ในสิ่งที่คชาอยากได้”คชา..ยิ้ม? เราคุยเรื่องเดียวกันอยู่รึเปล่า? เราอยู่ในอารมณ์เดียวกันรึเปล่า? ผมกำลังจะดราม่านะ!!นี่เราจะไม่ได้เจอกันแล้วนะเฮ้ย! ผมอ่านความคิดเขาไม่ออกเลยจริงๆ ..คชายิ้มทำไม?



    Kacha;

                    เต๋านิ่งไปหลายนาที.. ผมพูดอะไรแรงไปรึเปล่านะ? .. ก็ไม่นี่นา ผมออกจะทำเสียงอ่อนเสียงหวานตอนพูดประโยคเมื่อกี๊.. หรือผมพูดผิด?

     

    ถ้าให้รองเท้าใคร ก็จะต้องเดินจากกัน

     

    มันก็ไม่ได้ผิดหรือใจความไม่สมบูรณ์ตรงไหนนี่นา.. หรือว่าเต๋าฟังผิด? ท่าทางเค้าเหมือนตกอยู่ในห้วงความคิด.. คิดอะไรอยู่งั้นสินะ..

     

    “ขอโทษนะคชา.. แต่.. ถ้าเราจะต้องแยกกันอยู่แล้ว.. ถ้าอีกนานกว่าเราจะได้เจอกันอีก.. เต๋าก็อยากให้ในสิ่งที่ คชาอยากได้” โธ่เอ๊ยเต๋าเอ๋อ! กำลังคิดแบบนี้สินะ เห็นหน้าตาแบบนั้นแล้วก็อดยิ้มไม่ได้จริงๆ .. อีกนานกว่าเราจะได้เจอกัน.. มันจะนานสักแค่ไหนกันนะ?^_^

     

    “ไปเหอะเต๋า ยังไม่ได้เดินชั้นบนเลย” ผมยิ้มกว้างๆ อีกหนึ่งที ก่อนจะจับมือขาวๆ ของเขาให้เดินตามผมมา.. แล้วก็เหมือนเดิม คือทำหน้าเอ๋อเวลาที่ไม่เข้าใจผม .. แต่รีบๆ เดินเข้าเถอะ ใกล้จะเย็นแล้วนี่นา..

     

    หลังจากกินข้าว ผมกับเต๋าก็เดินถ่ายรูปกันทั่วห้าง(แต่เดินไม่ทั่ว) ไปดูรอบหนัง ไปกินไอติม กลับไปดูหนัง แล้วก็กลับมาเดินต่อ.. ตอนนี้ก็ประมาณบ่ายสามโมงกว่าแล้ว.. อีกไม่นานก็คงจะต้องกลับบ้านแล้วละ

     

    ตอนนี้ผมกับเต๋ามาหยุดอยู่ตรงหน้าร้านร้านหนึ่ง ..อันนี้ผมอยากได้จริงๆ จากใจเลยอะ!ทุกอย่างที่เห็นในร้านนี้ มันสวรรค์ชัดๆ!เต๋าเอ๋อทำหน้างงๆ ตอนที่ผมหยุด .. อยากซื้อของที่ผมอยากได้ใช่ไหมละ? .. เดี๋ยวจะให้ซื้อให้หมดตัวเลยคอยดู!

     

    ผมหันไปดึงแขนเสื้อเขาเบาๆ

     

    “ต๋าววว~ ดูเสื้อตัวนี้ดิ น่ารักเนอะ”ผมชี้ไปที่เสื้อยืดตัวหนึ่งในร้าน พร้อมยิ้มกว้างๆ ใส่หน้าเต๋าอย่างตั้งใจ ..ก็รู้น่าว่าเค้าแพ้ยิ้มแบบนี้ของผม

     

    “ชา..อยากได้เหรอ?”เต๋าทำหน้าตาไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ .. ก็ผมอยากได้ ทำไมอะ?

     

    “อื้อ.. อยากได้มากเลย แต่ชาว่าไม่ซื้อดีกว่าอะ เปลืองตังค์” ผมพูดพลางทำปากยื่นๆ นิดหน่อย ให้เขารู้ว่าผมอยากได้จริงๆ นะเฮ้ย!!

     

    “เอ่อ..เดี๋ยวเต๋าซื้อให้” เย่ส! สำเร็จ!! เต๋ายิ้มนิดๆ พร้อมเดินไปคุยกับคนขายแล้วเดินกลับมาพร้อมกับเสื้อยืดตัวใหม่ที่เป็นแบบเดียวกันเป๊ะกับตัวที่โชว์อยู่

     

    “ต๋าว~ นาฬิกาเรือนนั้นก็สวยอะ” ผมชี้ไปที่นาฬิกาในร้านนั้นอีกเช่นกัน

     

    “อยากได้รึเปล่า?”

     

    “อยากสิ แต่.. ถ้าชาซื้อนะต้องโดนหม่าม๊าว่าชัวร์เลยอะ ไม่เอาก็ได้” จงรับสายตาอ้อนวอนของคชาซะดีดี! กระพริบตาปริบๆ

     

    “แล้วถ้าเต๋าซื้อให้ ม๊าจะว่ารึเปล่า?”

     

    “ไม่ว่าอยู่แล้ว แค่ชาบอกว่าไม่ได้ซื้อเอง เพื่อนให้ สบายมาก แต่.. เต๋าซื้อเสื้อให้ชาไปตั้งตัวนึงแล้วอะ ไหนจะรองเท้าอีก ไม่เป็นไรหรอก ชาเกรงใจ” ก้มหน้า กระพริบตาปริบๆ อีกที

     

    “เฮ้ยไม่เป็นไรชา เต๋าซื้อให้ๆ”

     

    “จริงนะ ขอบคุณมากนะเต๋า น่ารักที่สุดเลย~” เงยหน้า ยิ้มกว้างๆ ^_______^

     

    “แล้ว.. คชาอยากได้อะไรอีกรึเปล่าล่ะ เลือกเลย เดี๋ยวเต๋าซื้อให้เอง”กรี๊ดดด(?) ให้เลือกเลยจริงๆ เหรอ ถ้างั้นคชาเหมาหมดร้านได้ไหมครับ?

     

    “ได้เหรอ?”

     

    “ได้สิ คชาอยากได้อะไรบอกเลย”

     

    “แน่ใจนะเต๋า”

     

    “อื้ม” เย่ส! เต๋าใจป้ำสุดยอด!! คชาฟิน~

     

    “งั้น.. เอาอันนี้ อันนี้ อันนั้น อันโน้น แล้วก็อันโน้นด้วย” ผมชี้ทุกอย่างที่อยากได้!! ไปกับหม่าม๊าทีไรก็ไม่เคยจะซื้อให้ผมสักทีนี่นา วันนี้มีคนซื้อให้แล้ว ต้องเอาให้คุ้ม!!

     

    “เอ่อ..” เต๋านิ่งค้างไปเลยครับ - -;

     

    “คชาอยากได้เยอะไปรึเปล่าเต๋า ..ก็เวลาคชาไปกับม๊า ม๊าก็ไม่เคยซื้อของพวกนี้ให้ชาเลยอะ ทั้งๆ ที่ชาชอบจะตาย ขอโทษนะที่อยากได้โน่นนี่ ชาไม่เอาแล้วละ ไปกันเถอะ” ก้มหน้า มองพื้น น้ำตาคลอ ทำท่าจะเดินออกจากร้าน

     

    “เฮ้ยคชา! เต๋ายังไม่ได้บอกเลยว่าจะไม่ซื้อให้ ไหนดูซิจะเอาอันไหนบ้าง อันนี้รึเปล่า แล้วก็อันนั้นใช่ไหม” เต๋าคว้าแขนผมไว้ มืออีกข้างวางของที่ถือลงแล้วไปหยิบๆ จับๆ ของที่ผมอยากได้เมื่อกี๊ .. กี่ทีก็สำเร็จ ^_^แต่ไม่ได้.. ต้องอีกนิดนึง เดี๋ยวจะไม่เนียน

     

    “ไม่เป็นไรหรอกเต๋า ชา..ไม่อยากได้แล้วแหละ ขอโทษนะ” ก้มหน้า ทำท่าเดิม

     

    “ชา.. อย่าคิดมากสิ แค่นี้เต๋าซื้อให้ได้น่า” เขาบีบแขนผมน้อยๆ เพื่อทำให้ผมมั่นใจว่ามันไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขาเลย

     

    “เต๋า..” ช้อนตามองนิดๆ

     

    “ไหน เอาอันไหนบ้างบอกเต๋าอีกที” น้ำเสียงเขาอ่อนโยนเหลือเกิน.. ขอโทษนะเต๋า จริงๆ ซื้อเองเมื่อไหร่ก็ได้ แต่มันอยากแกล้งอะ! เดี๋ยวรอบหน้าเลี้ยงคืนก็แล้วกัน

     

    “อันนี้ อันนี้ อันนั้น อันโน้น อันโน้นด้วย” ชี้ๆๆๆๆ อีกที .. ไม่นาน ของทั้งหลายเหล่านั้นก็มาอยู่ในมือเต๋า!! ฟินนาเล่~

     

     

     

    Tao;

     

                    ผมกำลังถือของพะรุงพะรังออกมาจากร้านที่ผมเพิ่งซื้อของมาเพียบนี่แหละ.. แล้วไอ้ร้านที่ผมเดินออกมาเนี่ย มันคือ..

     

                    ช็อปเบ็นเท็น!!!

     

                    เคยรู้ว่าคชาชอบเบ็นเท็น แต่ไม่รู้ว่าจะคลั่งขนาดนี้!!

     

                    ผมซื้อของเบ็นเท็นไปเจ็ดอย่าง!! เสื้อ นาฬิกา กระเป๋า สมุด อะไรต่อมิอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด!!

     

                    นี่นอกจากเขาจะมีผลต่อการเต้นของหัวใจผมแล้วยังมีผลต่อการสั่งงานของสมองด้วยเหรอนี่!

     

                    ก็พอเห็นเขาก้มหน้า ทำตาปริบๆ เหมือนจะร้องไห้ สมองมันก็สั่งการให้ตามใจเขาทันทีเลย.. และมันก็ส่งผลให้เศรษฐพงศ์กำลังจะหมดตัว!!

     

                    ทำไมคชาทำกับเต๋าแบบนี้ T^T

     

                    ผมเดินคอตกในขณะที่คชากำลังยิ้มแย้มเพราะได้เบ็นเท็นมาเพียบ!

     

                    “ต๋าว หนักเหรอ คชาช่วยถือไหม?” แล้วก็มาทำหน้าตาท่าทางน่ารักๆ ใส่ เศรษฐพงศ์ไม่ไหวนะครับ!

     

                    “ไม่เป็นไรๆ ไม่หนักๆ” ผมยิ้มให้เขา เขายิ้มตอบ ยิ้มแบบนั้นอีกแล้ว..

     

                    เรายังเดินดูโน่นนี่กันไปในห้าง.. แต่สิ่งที่ผมสนใจมากที่สุดก็เขานี่แหละ.. รอยยิ้มเขามันดึงดูดผมเหลือเกิน.. มันทำให้ผมอยากมองตลอดเวลา.. และตลอดไป...

     

    มันทำให้ผมกลัว..

     

    ถ้าวันนี้จบลง.. ถ้าเขากลับโคราช..

     

    แล้วผมจะต้องทำยังไง?





    Kacha;

                    ตอนนี้..ก็หกโมงกว่าแล้ว..เราเพิ่งอิ่มจากข้าวเย็นหลังจากไปร้องคาราโอเกะ เต๋านี่ก็เสียงดีใช้ได้แฮะ ถึงจะร้องเพี้ยนไปหน่อยก็เถอะ .. เราเดินออกมาจากร้านอาหาร กำลังจะแยกย้ายกันกลับบ้าน


                  ..เราจะต้องแยกกันแล้วนะ..


                   “เต๋าจะกลับเลยรึเปล่า?” ผมถามในขณะที่เราเดินออกห่างจากร้านอาหารที่นั่งอยู่เมื่อครู่เรื่อยๆ


                   “ก็..คงจะอย่างนั้นแหละ แล้วคชาละ?” น้ำเสียงเนือยๆ .. ไม่อยากกลับละสิ


                   “คงจะกลับเลยแหละ ไม่อยากกลับมืดเหมือนกัน ไม่ชอบไปไหนคนเดียวตอนกลางคืน ฮ่าๆ” ผมฉีกยิ้มกว้าง.. อยากให้เขายิ้มตามผมบ้างนี่นะ ก็เขาน่ะทำหน้าหม่นหมองตั้งแต่ชวนมากินข้าวเย็นแล้ว.. และมันก็ได้ผล.. เขาแพ้รอยยิ้มผม
    !


                    “แล้วนี่คชาจะกลับยังไง?”


                    “กลับรถไฟฟ้า  แป๊บเดียวก็ถึง”


                     “พักอยู่แถวไหน เดี๋ยวเต๋าไปส่ง”


                    “เฮ้ยไม่เป็นไร รถมันติด กลับรถไฟฟ้าเร็วกว่า”


                    “มันจะมืดแล้ว ไม่ค่อยได้เข้ากรุงเทพฯ อยู่ด้วย หลงทางจะว่ายังไง”


                    “ไม่หลงหรอก ศึกษาทางมาแล้วน่า”


                    “รู้เปล่าว่ารถไฟฟ้าสถานีนี้อะมีตำนานนะ” เต๋าพูดพลางทำท่าขนลุก.. ผมชักกลัวแล้วนะ
    !


                    “ตำนานอะไรเต๋า?”


                   “ก็..แบบว่า คนที่ขึ้นรถไฟฟ้าคนเดียวตอนโพล้เพล้แบบนี้อะ เค้ามักจะเจอ...” เต๋าเว้นวรรค กลัวนะเว้ย
    !


                   “เจออะไรเต๋า
    !!


                   “เจอ..”


                   “เจอ?”


                   “อยากรู้จริงเหรอ? แน่ใจนะว่าจะไม่หัวใจวายก่อน”


                   “ไม่ได้กลัวซะหน่อย มาได้ก็ต้องกลับได้ดิ”


                   “ก็นั่นมันตอนเช้า นี่มันตอนเย็น”


                   “เหมือนกันแหละน่า”


                   “เหมือนตรงไหน ตอนเย็นๆ แบบนี้อะนะ ..เขา.. ก็จะออกมาทักทายไง”


                   “เต๋าพูดบ้าอะไรวะ พูดไม่รู้เรื่อง” ขนลุกแล้วเว้ย
    !!


                   “สรุปว่าไม่กลัวจริงๆ ใช่ป้ะ งั้นเต๋าไปเลยแล้วกันนะ แยกกันตรงนี้ ระวังตัวดีๆ ละชา.. อะนี่ของ.. ระวังจะเจอนะ ไปละ บาย” เต๋าส่งของของผมให้ หันมายิ้มให้ทีหนึ่ง ก่อนจะเดินลิ่วนำหน้าไป.. ไกลแล้ว.. จะไปจริงๆ เหรอเนี่ย
    !!


                  ผมพยายามเดินตาม แต่มันก็ก้าวไม่ทันเขาจริงๆ ผมเรียก.. แต่เขาไม่หันกลับมา.. เขาเดินออกไปห่างผมเรื่อยๆเรื่อยๆ เขาขึ้นบันไดเลื่อน ผมเดินตาม.. เขาเดินไปอีก.. ผมก็ยังตาม.. เขาไม่คิดจะหันกลับมาหาผมจริงๆ เหรอ?


                 เขาเลี้ยวออกมาทางประตูด้านลานจอดรถ ไม่คิดจะเป็นห่วงผมบ้างเลยรึไง? ผมไม่สำคัญเลยใช่ไหมถึงคิดจะทิ้งกันแบบนี้? ขาเขาก็ยาวกว่า ตัวเขาก็ตัวเปล่า.. ผมมันขาสั้นกว่า แถมยังถือของพะรุงพะรัง .. ถ้าเดินตามไม่ทัน แล้วผมหลงทางในห้างขึ้นมาละ? ผมไม่ใช่คนกรุงเทพฯ โดยกำเนิดนี่ เพิ่งจะมาอยู่ได้ไม่นานเอง ไอ้ห้างที่เดินอยู่นี่ก็เคยเดินซะที่ไหนละ


                   เขาไกลออกไปอีกแล้ว.. ผมตามเขาออกมาที่ลานจอดรถแล้ว ผมจะเรียกชื่อเขาอีก.. แต่.. เสียงมันไม่ออกจากคอเลย.. เหมือนมีอะไรบางอย่างมาจุกอยู่ตรงอก.. ไอ้ลานจอดรถนี่มันก็มืดๆ บวกกับการเดินเร็วมากของเขา รับรองว่าถ้าผมกระพริบตาเกินครั้งละ
    0.25วินาที ผมต้องหาเขาไม่เจอแน่ๆ  


                    แล้วมันก็มีเหตุการณ์ที่มากกว่าการกระพริบตาของผม
    ! รถคันหนึ่งถอยออกมาจากที่จอด แล้วค่อยๆ ขับผ่านหน้าผมไป!! มันทำให้ผมมองไม่เห็นเต๋า! แล้วผม.. ก็หาเขาไม่เจอ.. หาไม่เจอจริงๆ.. เต๋าทิ้งผมไปแล้ว ทั้งๆ ที่รู้ว่าผมกลัวผ..เอ่อ..  สุกี้น้ำอะ!!


                    คชาจะทำยังไงดีวะครับ? ท้องฟ้าก็เริ่มมืดลงเรื่อยๆ คงไม่มีทางไหนดีกว่าเดินกลับเข้าไปในห้าง..ให้หลงทางเล่น.. ก็ตอนเดินตามเต๋ามาได้สนใจอะไรซะที่ไหนล่ะ สนใจแต่คนที่เดินไม่สนใจผมเลยสักนิด
    ! แล้วจะให้เดินกลับถูกได้ยังไง..


                     ตอนเดินมายังมีเต๋า แต่ตอนนี้ผมไม่มีใครให้อุ่นใจเลย..


                    ผมตัดสินใจเดินตามแสงไฟเพื่อกลับเข้ามาในห้าง.. ผมหลงทางจริงๆ นี่มันชั้นอะไร ส่วนไหนของห้างผมยังไม่รู้เลย..


                     เต๋าใจร้าย
    !


                    ทำไมไม่นึกถึงจิตใจผมบ้างเลย
    !! 


                    ผมไม่เคยสำคัญสำหรับเขาเลยใช่ไหม? ที่ผ่านมานี่ผมก็เป็นแค่คนรู้จักจากการแชทแค่นั้นใช่รึเปล่า? ที่ผมเข้าใจว่าเขาแพ้รอยยิ้มของผม ผมเข้าใจผิดใช่ไหม? ทุกอย่างในวันนี้มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอะไรกับผมเลยใช่ไหม?


                     ไม่ได้อยากจะคิดอะไรไร้สาระเพียงแค่เพราะเขาทิ้งกลับบ้าน..


                      แต่ที่ต้องคิด ก็เพราะเต๋าเป็นคนสำคัญที่สุดสำหรับผม.. ที่ผ่านมาที่เราได้คุยกันผมผูกพันกับเขามาก.. ผมชอบให้เขาเดินข้างๆ ให้เขาจับมือ.. ผมชอบเห็นรอยยิ้มเอ๋อๆ เวลาที่ถูกผมแกล้ง.. ผมชอบทุกอย่างที่เป็นเขา.. ผมรู้สึกกับเขา.. มากกว่าแค่.. คนรู้จัก


                      ผมไม่รู้ว่าผมหยุดอยู่ส่วนไหนของห้าง.. แล้วไอ้ที่เปียกๆ ที่แก้มนี่มันคืออะไร มาจากไหน..


                      แต่ขาผมแทบจะไม่มีแรงก้าวต่อไปข้างหน้าแล้ว.. ไม่ใช่เพราะผมกลัวสุกี้น้ำ.. แต่มันเป็นเพราะความคิดงี่เง่าของผมเมื่อกี๊นี้ไง..

     

     

    Tao;

                    ผมเดินมาเรื่อยๆ ไม่ได้หันกลับไปหาคชาเลย.. ก็เขาดื้อไม่ให้ผมไปส่งนี่! ขู่ไว้ให้กลัวไปอย่างนั้นแหละ รู้ว่าถ้าเดินหนีมาก็ต้องเดินตามอยู่แล้ว ถ้าตามมาถึงรถก็จะได้จับยัด(?)เข้าไปในรถง่ายๆ ไง!

                    
                        
    ตอนนี้ผมก็เดินมาถึงรถที่จอดไว้ตั้งแต่เช้า(หรือสาย?) หันกลับไป..แต่.. คชาหายไปไหนแล้วล่ะ? ก็เมื่อกี๊ยังเดินตามต้อยๆ เรียก ต๋าว ต๋าววว อยู่เลยนี่นา

                    
                      
    หรือว่าจะหลงทาง
    !?

                   
                       ไม่น่า.. ผมก็ไม่ได้เดินเร็วขนาดนั้น รักษาระยะพอให้ตามทันนี่

                   
                      
    หรือว่าจะแอบผม?

                    
                     
    “คชา คชา อยู่แถวนี้รึเปล่า?” ผมตะโกนออกไป แต่ไม่มีใครตอบกลับมา

                    
                     
    “คชา
    ! ออกมาหาเต๋าเร็วๆ ในลานจอดรถนี่น่ากลัวนะ” ยังไม่มีใครตอบ..

                    
                     
    “คชา
    ! ได้ยินเต๋าหรือเปล่า? ออกมาหาเต๋าเร็ว” ไม่มีเลย..

                   
                    
    “คชา
    คชา คชา!!” คชาไม่ได้อยู่แถวนี้! คชาไปไหน? ผมคลาดกับคชาแล้ว เขาจะหลงทางไหม? เขาจะเป็นอะไรรึเปล่า?


                      ..คชาอย่าแกล้งเต๋าแบบนี้สิ..


                      ไม่.. ผมเองนี่นาที่แกล้งเขา.. คชาอยู่ไหนนะ?

     

    ผมเดินกลับเข้ามาในห้าง และเดินกลับทางเดิมที่เดินมาจากร้านอาหารที่เราทานข้าวกัน เผื่อว่าจะเจอคชา.. แต่ระหว่างทางที่เดินมานั้น..ไม่มีเลย..


                    ผมเดินไปเรื่อยๆ แวะแทบทุกร้านที่เดินผ่าน.. แต่ก็ยังไม่มีวี่แววของคชา จะเป็นอะไรรึเปล่า?


                    ใช่
    ! บีบีไง! ผมหยิบบีบีขึ้นมา แค่นี้ก็เจอคชาแล้ว.. แต่.. บีบีผม.. ดับ!! แบตหมดอะไรตอนนี้วะครับ T^T


                    ผมจะหาคชาเจอไหม?

     
                   ถ้าคชาเป็นอะไรไปผมจะทำยังไง?


                   ผมเป็นคนทำให้เขาเป็นอย่างนี้เอง..


                   ผมกลับขึ้นมาที่ชั้นที่ผมจอดรถ.. หมดหวัง..
    คงจะกลับไปแล้วล่ะ


                   คชา.. เต๋าขอโทษ..


                   ผมเลี้ยวเข้าไปในห้องน้ำ.. อาจจะเจอเขาก็ได้..


                   แต่ห้องน้ำนี้.. ไม่มีใครเลย


                   ผมทำธุระตามปกติ ล้างมือ..


                   แล้ว..


                   ผมก็ได้ยินเสียง..


                   เสียง..


     

    “หม่าม๊า..คชาหลงทาง” คชา!! เสียงนั้นสั่นระริก ผมไม่รู้ว่าตัวเองมายืนอยู่หน้าห้องน้ำที่ประตูปิดอยู่ได้ยังไง เมื่อรู้ตัวอีกทีมือก็เคาะประตูเสียงดังพร้อมกับเสียงดังๆ ของผมเอง


                   “คชา คชา
    !!!


                   “เต๋า
    !  แค่นี้ก่อนนะหม่าม๊า” เสียงเค้าสั่นยิ่งกว่าเดิม!


                   แล้วประตูก็เปิดออก..


                  
    “เต๋า..” ผมรู้สึกวูบที่อกข้างซ้าย.. ที่หัวใจ


                   คชาร้องไห้.. น้ำตาเปรอะเต็มแก้มใสๆ นั่น


                   เพราะผม.. เพราะผมคนเดียว
    !


                  ไม่รู้ประสาทส่วนไหนสั่งการ ผมโผเข้ากอดคชาทันที


                  “ขอโทษ คชา เต๋าขอโทษ ไม่เป็นไรแล้วนะคชา เต๋าอยู่นี่นะครับ เต๋าขอโทษนะ เต๋าอยู่นี่แล้วนะ” ตัวเขาสั่นระริกอยู่ในอ้อมกอดของผม


                  “ใจร้าย..ที่สุด” เสียงอู้อี้ดังลอดออกมา


                  “คชา เต๋าขอโทษจริงๆ เต๋าไม่นึกว่าจะพลัดกัน”


                  “ตั้งใจทิ้งแล้วยังจะคิดว่าไม่พลัด?”


                  “เต๋าไม่ได้ตั้งใจทิ้งคชานะ”


                  “ก็เห็นอยู่”


                  “เต๋ารู้ว่าชาต้องตามไปไง”


                 “ฟังไม่ขึ้น ชาไม่สำคัญเลยใช่ไหม? ไม่เป็นห่วงชาเลยใช่ไหม?” น้ำเสียงนั้นถึงจะอู้อี้เพราะหน้าเค้าซบอยู่บนอกผม แต่มันกลับฟังชัดเจนเสียเหลือเกิน คิดอะไรแบบนี้คชา
    !


                  “คชา คิดอะไรหืม?”


                  “ใช่ ชามันงี่เง่า ไร้สาระ ไม่น่ารัก” เฮ้ย
    !! ยังไม่ได้พูดอะไรเลยยยยย!!


                  “ชา
    !


                  “ชารู้ตัว ชามันก็เป็นแค่คนรู้จัก เจอกันวันเดียวจะไปสำคัญอะไร” คชาเอ๊ย
    !!


                 “คชา คิดอะไรไปกันใหญ่แล้ว เต๋าแกล้งคชาเล่นนะรู้ไหม ไหนมองหน้าเต๋าซิ” ผมค่อยๆ จับหัวเขาให้เงยหน้ามองผม ..แล้วปาดคราบน้ำตาที่เหลืออยู่เบาๆ


                  “เห็นไหม?” ผมจ้องตาเขา


                  “อะไร”


                  “ชาที่สำคัญที่สุด เข้าใจไหม?” เขานิ่ง.. ไม่พูดอะไร .. แล้วก็เหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง ทำให้ผมโน้มหน้าลงไปหาเขา.. ใกล้ขึ้น.. ใกล้ขึ้น.. เขายังคงนิ่งอยู่อย่างนั้น


                  “เชี่ย
    !!!” บุคคลที่สาม!! ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องน้ำ พร้อมกับเสียงตะโกนดังลั่น เราสองคนผละออกจากกันอัตโนมัติ


                  “เอ่อ..ขอโทษ จะทำไรกันก็ทำไปเหอะ” ผู้ชายคนนั้นวิ่งออกไปจากห้องน้ำทันที พร้อมกับชาที่หยุดร้องไห้แล้วหันมาทำหน้าแดงใส่ผม
    ><


                  “เต๋าไปส่งบ้านนะ” ผมเดินเข้าไปหยิบเหล่าเบ็นเท็นในห้องน้ำที่คชาไปแอบร้องไห้อยู่เมื่อกี๊ แล้วจูงมือเขาเดินไปที่รถ

     

     

    ------------------- TEXT -------------------

     

     

    “ขึ้นไปที่ห้องชาก่อนไหม?” คชาปลดเบลท์ออกพร้อมกับถามผม เรามาถึงคอนโดที่คชาพักอยู่แล้ว


                   “ไปสิ” ผมหันไปยิ้มเจื่อนๆ ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหละ..


                   “เต๋า ชามีอะไรจะบอก” ผมเลิกคิ้วขึ้น


                   “อะไรอะชา?”


                   “ขึ้นไปบอกบนห้องดีกว่า” คชาเดินลงไปจากรถ ผมรีบหยิบของแล้วตามออกไป

     

    “ชามีอะไรจะบอกเต๋าเหรอ?” เมื่อเข้ามาในห้องของเขาได้ ผมก็ถามทันที การตอบสนองคือรอยยิ้มกว้างๆ ทีหนึ่ง ก่อนตัวเล็กๆ นั่นจะเคลื่อนเข้ามาใกล้ผม ใกล้..จนห่างกันแค่คืบ คชาเขย่งปลายเท้าขึ้น ยื่นหน้ามาใกล้ๆ หูผม ผมรู้สึกใจเต้นตึกตึกตึก หน้าร้อนผ่าว


                   “ชาย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ แล้วนะ” เสียงกระซิบนี้ทำให้ผมดีใจที่สุดในโลก
    ! เผลอกอดคชาซะเต็มแรงเลย ><

     

     

    ------ end ------



    Talk,,
    กรี๊ดดดดดดดดด >< เห็นวิวเห็นคอมเม้นท์แล้วดีใจ ^^
    ขอบคุณสำหรับทุกคอมเม้นท์เลยนะคะ ปลื้มมากมาก ^_^
    ตอบคุณ'ยูนิตจัง'นะคะ มันคือฟิคยาวของเอิงเอยเอง ฮรั๊ง~
    แต่แบบว่าหนีน้ำไม่ได้แต่งนานประกอบกับเปิดเทอมงานเยอะเลยต่อไม่ติดเลยโละทิ้งไปแล้วค่ะ55555555
    แต่ตอนนี้กำลังมีโปรเจคฟิคยาวเรื่องใหม่ เป็นโปรเจคพิเศษร่วมกับเพื่อนคนนึง
    'โน่ริท&เต๋าคชา' สนใจไหมคะ? 555555555
    เพื่อนเอิงเอยเจ้าของโปรเจคพิเศษนี้เป็นเจ้าของฟิคเรื่องก็รักนายฯ ค่ะ เคยอ่านกันไหมมมมม?
    ใครชอบโน่ริทแล้วยังไม่เคยอ่านถือว่าพลาดนะอ๊ะอ๊ะ
    http://my.dek-d.com/stampna/writer/view.php?id=630832
    ตามลิ้งค์นี้เลยยยยย ><
    ส่วนโปรเจคพิเศษของเรานั้นจะสำเร็จลุล่วงหรือไม่ก็ต้องคอยดูกันต่อไปค่ะ
    ถ้ากระแสตอบรับดีอาจจะมาเร็วน้า~ ^_^
    -------------------------------
    เป็น 35% ที่ห่วยแตกมาก TT
    ขอโทษรีดเดอร์ทุกคนนะคะ
    ตอนนี้แบบคิดอะไรไม่ออกเลย เขียนอะไรก็ไม่ลื่น
    โดนส่งไปแข่งสปีช ซึ่งไม่เคยแข่งมาก่อนในชีวิต พูดภาษาอังกฤษกันสดๆ ภายในเวลา 5 นาที TT
    โดนส่งไปแข่งอ่านร้อยกรอง ซึ่งคิดว่าทำได้ แต่ปรากฏว่มามันมีขับเสภา!!! ซึ่งไม่เคยขับมาก่อนในชีวิต โฮ T^T เครียดจริงจังค่ะ T^T

    ขอโทษอีกครั้งสำหรับตอนแย่ๆ ตอนนี้ โฮ TT
    เรื่องหน้าจะแก้ตัวมาให้นะคะ :)
    ตอนนี้อาจจะมีสเปให้เบาเบา (ถ้าไหว)

     ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ ^___^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×