ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    - AF8 - | 'อมยิ้ม' [TaoKacha] Short Fiction

    ลำดับตอนที่ #24 : เพราะวันนี้คือวันของเรา

    • อัปเดตล่าสุด 25 มี.ค. 58


     

     

    เพราะวันนี้คือวันของเรา .

     

     

     

     

                ถ้าจะให้พูดถึงความรักแบบ Puppy Love รักวัยเด็ก รักใสๆ รักแบบลูกหมา.. ทุกคนก็คงจะเคยผ่านกันมาหมดแล้ว และมีความทรงจำพวกนั้นเก็บอยู่ในบางส่วนเล็กๆ ของหัวใจ

               

    สำหรับคชาเอง ก็คงจะเคยมีความรักแบบนั้นเหมือนกัน ไม่รู้ว่าจะเรียก Puppy Love ได้ไหม เพราะมันก็ไม่ได้เกิดตอนม.ต้นอย่างที่ควรจะเป็น

     

    เพียงแต่ว่ามันเป็นรัก..ครั้งแรก ... ที่รู้สึกว่าได้สัมผัสถึงความรู้สึก “รัก” จริงๆ

               

     

    มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน แต่มันก็ไม่ได้เพิ่งผ่านไปเร็วมากนัก

               

    มันเกิดขึ้นแค่ในช่วงเวลาสั้นๆ

               

    แต่ความรู้สึก มันยังอยู่ในหัวใจตลอดมานั่นแหละ

     

     

     

    “คชา!” เสียงคนที่เข้ามาใหม่เรียกให้เจ้าของชื่อต้องหันกลับไปมองอย่างช่วยไม่ได้ ทั้งที่กำลังยุ่งกับการเช็กโซเชียลเน็ตเวิร์กอยู่แท้ๆ

     

                “แฟนคลับบอกว่าฝากอะไรสักอย่างไว้ที่มึงอะ” คนตัวขาวทิ้งตัวลงนั่งเก้าอี้ใกล้ๆ คนที่นั่งอยู่ก่อน พลางถามถึงสิ่งที่ได้ยินมาจากแฟนคลับที่มายืนรอเฝ้าเขาเข้าตึกออฟฟิศ คชาขมวดคิ้วนึกเล็กน้อยก่อนจะรื้อๆ ถุงของฝากที่ได้มาจากแฟนคลับ ก่อนจะส่งอะไรบางอย่างไปให้

     

                “อันนี้มั้ง”

     

                “อะไรวะ” มือขาวๆ พลิกกล่องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่ไม่เล็กไปมา พลางนึกสงสัยว่ากล่องทึบๆ หนักๆ นี่มันจะมีอะไร

     

                “ก็เปิดดิ” คชาทำตอบส่งๆ เพราะยังสาละวนกับการเลื่อนอ่าน hashtag บางอย่างในทวิตเตอร์อยู่

     

                “การ์ดเพียบเลย  โอกาสอะไรวะ” เมื่อเปิดกล่องมาพบว่าเป็นกระดาษแข็งหลายสิบใบตกแต่งสวยงามเขียนถึงพี่เต๋า น้องเต๋า เจ้าตัวก็พลิกๆ ดู แต่คิดว่าค่อยกลับไปอ่านที่บ้านก็แล้วกัน

     

                “ไม่รู้” คชาตอบห้วนๆ ให้เต๋าต้องปิดกล่องแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เห็นอีกคนทำคิ้วขมวดมุ่นทั้งนิ้วชี้ยังเลื่อนหน้าจอไอโฟนไม่หยุดก็ทำเอาต้องแอบขำ

     

                “แล้วของมึงมีป้ะ อ่านยัง”

     

                “ไม่มี มีแต่ฝากให้พี่เต๋าด้วยนะคะ”

     

                “อ้าว ทำไมวะ”

     

                “กูจะรู้ไหมล่ะ ออกไปถามพวกเค้าไป” คราวนี้คชาเงยหน้าขึ้นมาตอบฉะฉานทั้งยังกดล็อกไอโฟนเรียบร้อย เพียงแต่ความหงุดหงิดบนหน้า .. ปิดไม่มิด

     

                “หงุดหงิดอะไร” เต๋าหยั่งเชิงถาม ถึงจะรู้คำตอบดีอยู่แล้วก็เถอะ.. ถ้าไม่บอกว่าเปล่า.. เต๋าก็โดนด่า

     

                “หงุดหงิดเชี่ยไรล่ะ ยังไม่ได้หงุดหงิดเว้ย” เห็นไหมล่ะ ถ้าซื้อหวยก็ถูกไปแล้ว

     

                “ยังไม่ได้หงุดหงิดแสดงว่ากำลังจะหงุดหงิด”

     

                “วันนี้มึงกวนตีนอะไรเนี่ย”

     

                “กูก็อย่างงี้ทุกวัน มึงนั่นแหละเป็นไร”

     

                “มึงไปไหนก็ไปเลยไปเต๋า”

     

                “เอ้า ไล่อีก เดี๋ยวแปดโมงครึ่งกูก็ไปซ้อมละไง แล้วทำไมมึงมานั่งนี่คนเดียวอะ คนอื่นไปไหน”

     

                “ยังจะถามอีก”

     

                “ถามก็ไม่ได้เว้ย”

     

                “คิวซ้อมกูสิบโมง”

     

                “แล้วแหกตามาทำไมตั้งแต่แปดโมงกว่าวะ”

     

                “เรื่องกู”

     

                “คชา.. มีเวลาพักก็พักเยอะๆ ตอนไหนนอนได้ก็นอน เวลาพักมันมีไม่มากหรอก ดูกูนี่เพิ่งนอนไปกี่ชั่วโมง”

     

                “ก็แค่วันนี้วันเดียว”

     

                “หืม?”

     

                “ช่างเหอะ”

     

                “เออ งั้นกูไปซ้อมละ มึงก็นอนๆ ไปก่อน เดี๋ยวใกล้ๆ ก็มีคนมาเรียกเองอะ”

     
     

     

                “เบ้บ~” และยังไม่ทันที่เต๋าจะเดินออกไปจากห้องเล็กๆ นั้น เสียงคนมาใหม่ก็เรียกความสนใจให้ทั้งสองหันไปมองทันที

     

                “เออ หวัดดี” คนถูกเรียกเลิกคิ้วนิดๆ ก่อนจะเอ่ยทักกลับ ไม่ได้แปลกใจที่เจอกัน มันเข้าตึกก็เป็นเรื่องปกตินี่ แต่ทั้งสองคนเหมือนจะลืมสังเกตผู้ชายอีกคนที่อยู่ในห้องไป

     

                “อ๋อ นี่ใช่ไหมที่มึงต้องแหกตามาตึกตั้งแต่แปดโมงกว่า กูไม่กวนละกัน” ว่าแค่นั้นเต๋าก็ลุกออกจากห้องไปทันที ทิ้งให้คนที่เหลืออึ้งไปตามๆ กัน โดยเฉพาะคนมาใหม่..อย่างแม็กซ์

     

                “เชี่ยยย.. นี่กูทำไรผิดปะวะ” หนุ่มหล่อหันมาถามคชาด้วยหน้าตาสยดสยองจากใจจริง พูดเลยว่าไม่ได้สนิทกับเต๋ามาก แล้วการที่เต๋าทำหน้าตาอยากฆ่าคนเมื่อกี๊.. เสียวสันหลังวูบ

     

                “กูก็ไม่รู้” คชาส่ายหน้าปลงๆ ไม่เข้าใจอากัปกิริยาของเพื่อนที่เขาตั้งใจมารอเจอหน้านัก

     

     

                ใช่... แหกตามาตั้งแต่แปดโมงกว่า

     

                มารอเจอหน้า.. ก็เพราะรู้ว่าอีกคนมีซ้อมตอนแปดโมงครึ่งยังไงล่ะ

     

                ก็แค่วันนี้วันเดียวที่อยากจะมาเจอเป็นคนแรก แต่ก็ดันมาหงุดหงิดใส่กันซะได้

     

               

                “นี่มาทำไรแต่เช้า” แม็กซ์เปิดบทสนทนาขึ้นอีกครั้งหลังจากทิ้งให้คชาจมกับความคิดไปพักหนึ่ง

     

                “ซ้อมคอนรียูเนี่ยน แล้วมึงรู้ได้ไงว่ากูอยู่”

     

                “เจอแฟนคลับมึงข้างล่างไง กรี๊ดกร๊าดกันใหญ่ บอกมึงเข้าตึกมาแล้ว กูเลยเข้ามาถามหากับพวกพี่ข้างนอกเนี่ย”

     

                “แล้วจะมาหาเพื่อ”

     

                “เอ้า เพื่อนฝูงกัน จะไม่เจอหน้ากันบ้างเลยรึไง”

     

                “เออๆ เอาเหอะ ขี้เกียจเถียงกะมึงละ”

     

                “ฮ่าๆ ไปละ ทำงานก่อน”

     

                “เออบาย”

     

                แล้วแม็กซ์ก็ออกไปอีกคน ทิ้งให้คชานั่งอยู่กับความเงียบคนเดียว

     

     

     

                โอกาสอะไรวะ’  งั้นเหรอ.. มันถามมาได้ยังไงกัน

               

    นี่ตั้งแต่เช้ามันคงยังไม่ได้เข้าทวิตเลยสินะ

               

    ถึงได้.. ลืมสนิท.. แบบนี้

               

    -----------------------------------------------------------------------------------------

     

                 

     

                “เต๋า เป็นไรเปล่าวะ ดูไม่ค่อยมีสมาธิเลย” รุ่นพี่เอเอฟคนสนิทอย่างพี่บอยเอ่ยทักทันทีในช่วงพักจากการซ้อมร่วมกันกับรุ่นน้องอย่างเต๋า เพราะจากปกติที่เต๋าเป็นคนมีสมาธิและมักจะทำได้ดีในการซ้อมเสมอ วันนี้ดูเหมือนจะพลาดเอาบ่อยๆ

     

                “นิดนึงพี่ โทษที”

     

                “เออๆ มีไรก็ค่อยๆ คิด”

     

                “ครับ ขอบคุณครับ”

     

                เต๋าได้แต่ถอนหายใจกับความฟุ้งซ่านของตัวเอง เพราะเห็นความสนิทสนมของเพื่อนสนิทกับใครอีกคนมาสักระยะ ความจริงก็ไม่อยากคิดอะไรแบบนั้น ออกจะเข้าข้างตัวเองไปแล้วตั้งแต่ต้นที่คชาบอกว่าอยากมาเช้าก็แค่วันนี้วันเดียว.. เหอะ ที่แท้รีบมาก็เพราะนัดกันไว้สินะ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หงุดหงิดได้ยังไง ทั้งๆ ที่วันนี้.. คชาไม่น่าจะลืมแท้ๆ

     

                ทำได้แค่ปัดความคิดพวกนี้ทิ้งไปก่อนจะตั้งใจซ้อมทั้งร้องทั้งเต้นต่อ ถ้ามัวแต่สติแตก คนอื่นๆ ก็ต้องมาลำบากไปด้วย

     

                เต๋าบอกตัวเองอย่างนั้น.. ทั้งที่จริงๆ แล้ว หยุดคิดถึงคนที่คงจะซ้อมอยู่อีกห้องไม่ได้เลย


     

    ---------------------------------------------------------

     


               

                แค่เที่ยงตรงก็หมดเวลาซ้อมของเต๋า หลังจากนั้นเขาควรจะกลับบ้านนอนพักผ่อนให้สมกับที่ตัวเองบ่นไปว่าเพิ่งได้นอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ความจริงแล้ว เจ้าตัวก็แค่ไปกินข้าวเที่ยงรวมกับคนอื่นๆ รวมทั้งเพื่อนสนิทที่เจอเมื่อเช้า แล้วกลับมานั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องเดิมเมื่อคนอื่นแยกย้ายไปซ้อมต่อ

     

                ตอนนี้เต๋ากำลังรู้สึกว่าตัวเองเริ่มจะเหมือนคนบ้าเข้าไปทุกที เมื่อนั่งยิ้ม นั่งหัวเราะ กระทั่งเกือบจะร้องไห้กับโทรศัพท์มือถือ

     

     

     

                โทรศัพท์ที่โปรแกรมทวิตเตอร์กำลังแสดงหน้าจอของ hashtag #4thTaoKachaDay

     

     

     

                ทั้งรูปต่างๆ ของตัวเองและเพื่อนสนิทอย่างคชา คลิปวิดีโอมากมายตั้งแต่สมัยยังอยู่ในบ้าน รวมทั้งความรู้สึกต่างๆ ของแฟนคลับ ที่อวลไปด้วยความรักและความคิดถึง อัดแน่นอยู่ในสื่อโซเชียลเล็กๆ ในมือ แต่มันยิ่งใหญ่เหลือเกินในความรู้สึกของเขา แน่ล่ะ ถึงจะพูดอะไรออกไปมากไม่ได้ แต่อย่างน้อยเต๋าก็รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองรู้สึกยังไง และก็รู้ดีว่าเขาทำดีที่สุดแล้วในสิ่งที่จะทำได้ เพื่อแฟนคลับ เพื่อตัวเอง ... และเพื่อคชา


     

                เรื่องราวต่างๆ ในช่วงเวลาที่ได้ใช้ชีวิตด้วยกัน ถึงจะผ่านมาสามปีกว่าๆ แล้ว แต่มันยังชัดเจนในความรู้สึกของเต๋านัก ยอมรับว่าเขารู้ตัวเสมอว่าได้ทำอะไรลงไปบ้าง


     

                และทุกสิ่งที่ทำไป มันมาจากหัวใจของเขาจริงๆ

     


                จนถึงวันนี้ เขาก็ยังกล้าพูดเหมือนเดิม หากมีใครมาถามว่ารักคชาไหม เต๋าก็คงจะตอบว่า ผมก็รักเขานะครับ..

     


                แล้วก็นั่นแหละ.. เราไม่ต้องจำกัดความมันก็ได้ อย่างที่คชาคิดศัพท์สวยๆ ให้ว่ามันเป็นความสัมพันธ์ไม่มีชื่อเรียกนั่น

     


                มันดูเป็นคำสวยหรู เรียกเสียงกรี๊ดได้น่าดู แต่ลึกๆ แล้ว เต๋าเองก็ยอมรับ

     


                ในวันนั้น .. ทั้งเขาและคชา ต่างเจ็บปวด

     


                เพราะแม้แต่คำจำกัดความที่เราอยากจะให้กัน เรายังสร้างมันขึ้นมาไม่ได้เลย

     


                แต่เอาเถอะ ถึงจะบรรยายไปเยอะแยะแค่ไหน เรื่องพวกนั้นมันก็ผ่านมาสามปีกว่า และเราเติบโตพอจะได้เรียนรู้ว่า ไม่ว่าจะยังไง เราก็เป็นเพื่อนกัน และมันก็ต้องเป็นแบบนั้นตลอดไป

     


                แค่ถ้าเต๋าจะรักเพื่อนคนนี้มากสักหน่อย ก็ไม่เสียหายอะไรหรอก



    -----------------------------------------------------------

     



                คชาเดินกลับเข้ามาในห้องเดิมในเวลาบ่ายสองโมงกว่าๆ แล้วก็ต้องประหลาดใจกับใครบางคนที่ขดตัวหลับอยู่บนโซฟาแบบไม่รู้เรื่องว่าใครจะเดินเข้ามาส่งเสียงดังโวยวายกี่คน

     


                “พี่ไปก่อนนะครับน้องคชา”

     

                “ครับพี่นัททิว หวัดดีคร้าบ”

     

                “เห้ยคชา ยังไม่กลับหรอ”

     

                “เอ่อ..อีกแป๊บนึง”

     

                “เอองั้นเรากลับก่อน บายๆ”

     

                “บาย กลับดีๆ”

     


                เมื่อสมาชิกแยกย้ายกลับกันจนหมด ก็เหลือเพียงคชา ที่จริงๆ ก็ควรจะกลับได้แล้ว ติดที่ไอ้เพื่อนตัวดีที่หลับไม่ยอมตื่นสักที ทำให้ต้องไปสะกิดปลุกเบาๆ

     


                “เต๋า... เต๋า..” สะกิดอย่างเดียวไม่ตื่นเลยต้องจับแขนเขย่า พลางคิดว่าถ้ายังไม่ตื่นอีกจะถีบมันลงจากเบาะ

     


                “อืมม..” คนหลับขยับขึ้นนั่ง สะลึมสะลือขยี้ตาให้อีกคนต้องชักมือขาวๆ ลงด้วยกลัวเพื่อนสุดหล่อดีกรีพระเอกจะตาแดงไปซะก่อน

     


                “ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก” ถามไปก็เกลี่ยผมอีกคนที่ยุ่งเหยิงจากการนอนให้เข้าทรง.. ด้วยความลืมตัว

     


     

                ลืมไป.. ว่าเราจะมานั่งดูแลกันเหมือนตอนนั้นไม่ได้แล้ว


     

                เวลาผ่านไป อะไรๆ มันก็ไม่เหมือนเดิม

     


               

    “รอชาไง”


     

    “หืม.. รอทำไม”




     

    “ไม่อยากให้รอเหรอ ไม่ดีใจเหรอที่ซ้อมเสร็จแล้วก็ยังเจอกัน” คำถามนั้นทำให้ใจคชาวูบไป ด้วยตลอดการซ้อม คชาเองก็คิดอยู่ตลอด.. ว่าเต๋าไม่ดีใจบ้างเลยเหรอ ที่ก่อนซ้อมยังได้เจอกัน..  



     

    “มานอนบนโซฟาอย่างนี้ปวดตัวแย่ แทนที่จะกลับบ้านไปพัก” คชาไม่ได้คิดไปเองว่าเสียงที่เปล่งออกมามันสั่นแปลกๆ ไม่รู้สิ... ไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้มันคืออะไรกันแน่



     

    ไอ้ที่ว่าไม่ดีใจที่เจอเหรอ.. คำถามประเภทนั้น เรามีสิทธิ์ถามกันด้วยหรือไง

     

    ไอ้ประโยคที่คล้ายๆ จะห่วงใยที่เต๋าบอกกันเมื่อเช้า เขามีสิทธิ์จะฟังหรือไง

     

    แล้วไอ้ประโยคเมื่อกี๊ เขามีสิทธิ์พูดแน่ใช่ไหม

     


     

    “คิดอะไรอยู่..” เต๋าทอดเสียงอ่อนพลางดึงข้อมือคนที่ยืนอยู่ให้นั่งลงข้างๆ กัน คชาทำได้เพียงนิ่งอยู่แบบนั้น..

     


     

    สถานการณ์แบบนี้... เรามีสิทธิ์จะสร้างมันขึ้นมาหรือไง

     


     

    “นี่ ไม่สงสัยเหรอว่าทำไมไม่ได้การ์ดจากแฟนคลับ” แล้วอยู่ๆ เต๋าก็ถามเรื่องบ้าบออะไรที่ไม่น่าจะถามตอนนี้ขึ้นมา ยิ่งทำให้คชาไม่เข้าใจอะไรเลย


     

    “ก็.. เขาฝากให้เต๋า ก็ให้เต๋า แค่นั้น..”


     

    “ลืมจริงๆ เหรอ...” แล้วนี่มันอะไร ทำไมอยู่ดีๆ เต๋าถึงถามแบบนี้ ถามแบบไม่มีกรรมมารองรับด้วยซ้ำว่าลืมอะไร ทั้งที่คชาคิดมาทั้งวัน... ว่าเต๋าลืม.. ได้ยังไง


     

    “...ลืมอะไร”


     

    “วันนี้คชาก็ควรจะได้การ์ดจากแฟนคลับเหมือนกับที่เต๋าได้ไง”


     

    คชามุ่นคิ้ว หันไปมองอย่างไม่เข้าใจ.. ตัวเองน่ะไม่ได้สนใจของจากแฟนคลับหรอก ถ้าอยากให้ เขาก็ให้เอง แต่คชาสนใจคนตรงหน้ามากกว่า ที่เมื่อเช้าทำท่าเหมือนลืมสนิท แล้วทำไมตอนนี้ทำเหมือน.. จำได้


     

    “เต๋ารู้ด้วยเหรอ”


     

    “คิดว่าเต๋าลืมจริงๆ เหรอชา..”


     

    และแค่คำนั้นก็ทำให้คชาต้องก้มหน้านิ่ง ไม่กล้าสบสายตาเจ็บปวดของอีกฝ่ายอีกต่อไป..


     

     

    แววตาแบบนั้นน่ะ... เรามีสิทธิ์จะใช้มันมองกันหรือไงนะ

     


     

    “นี่.. แฟนคลับฝากมาให้” เต๋าเอี้ยวตัวไปหยิบกล่องอะไรบางอย่างออกมา กล่องที่เหมือนกันกับที่คชาให้เต๋าเมื่อเช้า


     

    “น้องบอกว่า ฝากให้พี่คชาด้วยนะคะ” คนพูดระบายยิ้มให้คนที่รับมันไปถือด้วยมือสั่นๆ ไม่เข้าใจแฟนคลับพวกนี้จริงๆ ว่าจะฝากคนนึงไปให้อีกคนเพื่ออะไรกัน


     

    ไม่เข้าใจ.. เพราะมันทำให้เขาต้องตกอยู่ในความรู้สึกแบบนี้ถึงสองครั้งสองหน

     

    ตอนที่ส่งของขวัญวันของเรา.. ให้เจ้าของมันอีกคน

     

    กับตอนที่รับของขวัญวันของเราจากอีกคน.. มาเป็นของตัวเอง



     

    “ส่วนอันนี้.. เต๋าฝากมาให้” ไม่ทันที่คชาจะได้เปิดดูกล่องใส่การ์ดอย่างที่ตั้งใจ มือขาวๆ ก็ยื่นอะไรบางอย่างมาตรงหน้า กำมันไว้ไม่ให้คชามองเห็น


     

    คชาช้อนตามองหน้าอีกคนที่ระบายยิ้มที่คชาชอบที่สุดเอาไว้ ค่อยๆ แบมือออกไป ให้เต๋าวางของที่ เต๋าฝากมาให้บนฝ่ามือนั้น


     

    “หืม?” คชาขมวดคิ้วยุ่ง เมื่อเห็นว่ามันเป็นแค่ยางลบขาวๆ ธรรมดาๆ ก้อนนึงบนมือตัวเองเท่านั้น


     

    “พลิกดูสิ” เสียงเบาๆ แบบไม่มั่นใจของเต๋าว่าขึ้นอย่างนั้น คชาจึงจับก้อนยางลบพลิกอีกทาง เพื่อจะได้เห็นว่า มันเป็นยางลบ ที่มีลายแกะไว้

     

     

     

    #2303 J          

     

     

     

    “เอาไว้ปั๊มเล่น..”

     

     

    “หัดแกะตั้งนาน..”

     

     

    “มันยากนะรู้เปล่า..”

     

     

    “ไม่รู้จะให้อะไรดี..”

     

     

    “ก็...คิดว่า.. เรามีวันสำคัญกันแค่ปีละครั้งเท่านั้นเอง.. นี่มันก็ครั้งที่สี่แล้วด้วย..”

     

     

    “ชอบ..มั้ย...”

     

     

     

    สิ้นคำถาม น้ำตาหยดหนึ่งก็ร่วงลงกระทบยางลบก้อนน้อย หน้าหวานๆ เงยขึ้นมองเพื่อนสนิทอีกครั้ง

     

     

    “ขอบคุณนะเต๋า.. ขอบคุณ..”

     

     

    “เราชอบ... ชอบที่สุดเลย”

     

     

    คนได้รับคำชมยิ้มกว้าง พลางยกมือหนาปาดน้ำตาให้เพื่อนตัวเล็ก แล้วยกขึ้นขยี้หัวอย่างเอ็นดู

     

     

    ทำอะไรแบบเดิมๆ.. แบบที่เราชอบทำ

     

     

    ใช้เวลาสั้นๆ นี้ในความเป็นเรา เป็นเต๋าคชาเหมือนเด็กผู้ชายสองคนในบ้านแม็กในวันนั้น

     

     

    วันที่เราเป็นใครก็ได้

     

     

    วันที่เราไม่ต้องคอยย้ำกับตัวเองให้เหนื่อยใจว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน

     

     

    วันที่เรารู้อยู่เต็มหัวใจ ว่าจริงๆ แล้วเรารักกันแค่ไหน

     

     

    และวันนี้เราดีใจ เพราะถึงเราจะใช้วันวาเลนไทน์เป็นวันสำคัญของเราไม่ได้

     

     

    แต่เรากลับมีวันของเราที่สำคัญกว่านั้น

     

     

    เพราะมันเป็นวันที่เป็นของเราแค่สองคน   ไม่มีใครมาใช้ร่วมกับเราได้

     

     

     

     

    “รัก.. เหมือนเดิมนะคชา..”

     

     

     

     

    “อืม.. รัก.. เหมือนกัน”

     

     

     

     

    และขอแค่วันเดียว ที่เราจะได้พูดแบบนี้ให้กัน

     

     

     

     

    เพราะวันนี้คือวันของเรา.

     

     

    ---------------------------- END ---------------------------

     

    สุขสันต์ #4thTaoKachaDay ค่ะ ^___________^

    ที่จั่วหัวถึง Puppy Love ถึงแม้ว่าทั้งเรื่องมันจะไม่เกี่ยว (ฮา) เพราะนั่งดูโมเม้นต์ในบ้านแม็กแล้วรู้สึกว่า มันเหมือน Puppy Love จริงๆ นะ หลายๆ อย่างคือเรารู้สึกว่า มันเหมือนเด็กม.ต้นที่แอบชอบเพื่อนจะทำแบบนี้ให้คนที่ตัวเองชอบอะ5555555 แบบ ช่วยเหลือเป็นพิเศษ ดูแล เป็นห่วง ความรู้สึกพคชมันออกมาแบบนั้นจริงๆ TvT

    มันอาจจะสั้นๆ อึนๆ ไปหน่อย แต่มันก็ครบถ้วนในความรู้สึกที่เราอยากสื่อแล้วแหละ55555555555

    อยากให้มีความสุขกับฟิคเรื่องนี้นะคะ J

    คิดถึงทุกคนเลย <3

     

    ป.ล. เราโอนบัตร #afreunionconcert #teamtaokacha ไปแล้วนะะะ ฮิๆๆๆๆ

    โอนค่าเสื้อ #teamtaokacha ไปแล้วด้วย ฮิๆๆ เป็น 50 ตัวแรกด้วย ฮ่าๆๆๆ #อวดอัลไล

     

    - 25.03.58 edit จัดหน้านิดหน่อยค่ะ -/\- 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×