คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : สาดน้ำอย่างไร ให้ได้... คนขายน้ำ >< (For Songkran'57)
สาดน้ำอย่างไร ให้ได้... คนขายน้ำ ><
(อ่านสเปเชี่ยลสงกรานต์ อันนี้ > http://writer.dek-d.com/neennimmarn/writer/viewlongc.php?id=770535&chapter=15 ก่อนก็ดีโนะ >< )
ชายกรีน
แฝดดดดดดดดดดดด
ปีนี้แฝดไปเล่นน้ำที่ไหน?????
ข้อความในไลน์ซึ่งส่งมาจากเพื่อนผู้พี่คนสนิทที่ยกตัวเองเป็นแฝดของคชาปรากฏขึ้นต่อสายตาเมื่อคชาไล่อ่าน พออ่านแล้วก็นึกตามไป พรุ่งนี้ก็วันที่ 13 แล้ว ปีที่แล้วก็ไม่ได้ออกไปไหน ปีนี้เค้นท์ก็ไม่อยู่ ไม่งั้นมันคงจะชวนไปด้วย แล้วคชาจะไปเล่นที่ไหนดีนะ
พี่ไปไหนอะ
จึงส่งข้อความถามกลับไป แล้วก็ได้คำตอบมาอย่างรวดเร็ว
ชายกรีน
ข้าวสารเลยน้องงงงง
ไปด้วยกันมะ
หาแนวร่วมอยู่
อิอิ
ข้าวสาร... อืม... สองปีก่อนคชาก็ไปข้าวสารนี่นา ที่ไปกับเค้นท์มา ก็สนุกดีนี่เนอะ
อยู่ว่างๆ ไม่ได้ทำอะไร ไปเล่นกับพี่กรีนก็น่าจะดีเหมือนกัน
ใครไปบ้างอะพี่
ชายกรีน
มีรุ่นน้องที่รู้จักไปคนเดียว
เลยมาชวนแฝดเนี่ย
เดอะแก๊งมันออกนอกเมืองนอกประเทศกันหมดละ
ใช้ได้ ไม่ได้ไปกันเยอะแยะยุ่บยั่บอย่างที่กลัว เพราะถ้าเดอะแก๊งของพี่กรีนไปด้วยล่ะคชาคงไม่กล้าไปแน่ๆ สนิทหรือก็ไม่ อันที่จริง..พวกพี่เขาก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร พวกพี่แกก็ฮาๆ รั่วๆ นั่นแหละ เพียงแต่คชาไม่ชินเท่านั้นเอง มีแต่พี่กรีนที่ได้สนิทกันจริงๆ จังๆ
ก็ได้พี่
พรุ่งนี้เลยป้ะ? กี่โมง
ชายกรีน
แหม ทำเป็นรีบนะครัชแฝด 55555555
พรุ่งนี้แหละ ซักบ่ายสองก็ได้
เจอกันข้าวสาร
ถึงแล้วโทรมา
เบ็ดเสร็จคชาจึงส่งสติ๊กเกอร์ OK กลับไปว่ารับทราบ แล้วจัดการบอกหม่าม๊าว่าพรุ่งนี้จะออกไปเล่นน้ำกับพี่กรีนที่ม๊าก็รู้จักดี
-----------------------------------------------------
สิบสามเมษายน บ่ายสองโมงกว่า
คชายืนโทรศัพท์อยู่ริมถนนราชดำเนิน จุดนัดพบล่าสุดที่นัดกับพี่กรีนเอาไว้เพราะเกรงว่าถ้าเข้าไปถึงข้าวสารแล้วจะไม่เจอกัน เพียงไม่นานหลังจากคุยกันกรีนก็เดินมาทางที่คชาอยู่
“สวัสดีแฝด” เสียงทักทายดังมาแต่ไกลเรียกให้คชาหันไปมอง
“หวัดดีพี่” คชาทักทายกลับ ก่อนที่กรีนจะแนะนำใครอีกคนให้รู้จัก
“นี่ไอ้ต้น รุ่นน้องพี่เอง นี่พี่คชานะต้น แฝดกันๆ” คนที่ชื่อต้นหัวเราะรับเล็กน้อยก่อนจะยกมือไหว้สวัสดีพี่คชาที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก ทำเอาคชารับไหว้แทบไม่ทัน
“โอ๊ย ไม่ต้องไหว้หรอกครับน้องต้น” คชาแย้มยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับรุ่นน้องที่เจอครั้งแรกเช่นกัน
“รู้จักกันไว้นะ มากันแค่สามคนไม่มันส์เลยอะ แก๊งนี่นะ คนนึงไปญี่ปุ่น คนนึงพัทยา นครสวรรค์ สิงคโปร์ ฉะเชิงเทรา กลับภูมิลำเนากันไปอีก ดีที่เห็นต้นมันว่างๆ เลยชวนมา ดีนะที่แฝดมาด้วย คริ” สองคนที่ฟังก็พยักหน้าเออออกันไป ก่อนจะเดินเข้าสู่ถนนข้าวสารด้วยกัน
“ปกติพี่คชามาเล่นสงกรานต์ข้าวสารป้ะครับ” ต้นกำลังชวนรุ่นพี่คนใหม่คุยเพื่อให้สนิทกันมากขึ้น
“เพิ่งจะมาเมื่อสองปีก่อนครั้งเดียวเอง ปกติไม่ค่อยได้เล่นสงกรานต์” คชามองว่ารุ่นน้องคนนี้ก็อัธยาศัยดี พูดจาน่าคบหา
“อ๋อ พี่คชาเคยไปสีลมเปล่า ผมไปมาครั้งนึงโคตรเข็ด”
“ไม่เคยอะ ทำไมหรอ คือจริงๆ ไม่ค่อยชอบคนเยอะๆ ด้วยแหละ แต่ปีนี้ว่างๆ เบื่อๆ แล้วพี่กรีนชวนพอดี”
“โห สีลมนะพี่ แหล่งเก้งอะ ถ้าหลุดเข้าไปในวงล้อมนี่แบบ รอดยากอะบอกเลย”
“อย่างต้นนี่โดนรุมเลยอะดิ”
“ไม่เหลือว่ะพี่ เพิ่งรู้ตัวตอนนั้นว่าตัวเองหล่อ ฮ่าๆ”
“แหม แล้วอย่างพี่นี่ถ้าเข้าไปจะรอดป้ะ”
“โห ไม่เหลือเหมือนกันอะพี่ น่ารักๆ อย่างพี่นี่นะ เละแน่ ห้ามลองไปคนเดียวนะเว้ย”
“โอ๊ย ไม่ไปหรอก คราวที่แล้วที่มานี่ก็มากับน้องชาย”
“ดีละพี่ สมัยนี้น่ากลัว ต้องระวังทั้งตัวทั้งข้าวของด้วย หายกันง่ายๆ เลย”
“จริง นี่ถ้าไม่ใช่พี่กรีนม๊าก็ไม่ปล่อยพี่มานะเนี่ย”
“โห ม๊าหวงนะเนี่ย ก็งี้แหละเนาะ ลูกชายน่ารักทั้งคน”
“นี่ ทำไมไม่คิดว่าพี่หล่อบ้างวะ เห็นบอกน่ารักมาสองรอบละ คืออยากได้คำชมว่าหล่อบ้างไง”
“ก็ผมว่าหน้าตาพี่น่ารักดีอะ ฮ่าๆ ไม่เคยมีคนชมแบบนี้อ่อพี่”
“เยอะแยะ จนเบื่อละ”
“ชินเหอะพี่ วันนี้ผมว่าพี่ต้องโดนอีกทั้งวันอะ”
“นี่ สองคนนั้นน่ะ คุยอะไรกัน ไม่สนใจชายเลยใช่มั้ย” กรีนที่เดินนำหน้าอยู่เล็กน้อยหันหลังกลับมามองด้วยสายตากรุ้มกริ่ม (ที่ไม่รู้จะกรุ้มกริ่มไปทำไม) ก่อนจะหันกลับไปตามเดิม
ตอนนี้ทั้งสามคนเดินเข้าสู่ถนนข้าวสารเป็นที่เรียบร้อย การประลองยุทธ์ในแบบฉบับสงกรานต์เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ อาวุธของทั้งสามถูกหยิบขึ้นมาใช้ยิงกันอย่างสนุกสนาน ในมือกรีนมีแป้งดินสอพองที่ซื้อติดมาด้วย แต่คชากับต้นมีเพียงปืนฉีดน้ำเท่านั้น
เดินไปได้ไม่เท่าไหร่ คชาก็โดนปะแป้งเสียจนเต็มแก้ม เจ้าตัวยังยิ้มแย้มแจ่มใส อันที่จริงเล่นสงกรานต์ก็สนุกดีเหมือนกัน แดดร้อน แต่น้ำก็เย็นชุ่มฉ่ำ เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่คิดเทศกาลนี้ไว้คลายร้อนจริงๆ
ทั้งสามคนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน กรีนได้ปะแป้งสาวสวยสมใจอยาก ส่วนต้นกับคชาก็โดนสาวๆ ประแป้งกันเต็มหน้า จนกรีนน้อยใจว่าทำไมสาวๆ ไม่เห็นประแป้งชายบ้าง และเพียงแค่คิด สาวงามแต่อกสามศอกก็เดินมาประแป้งให้อย่างเต็มรัก พร้อมลูบคลำให้กรีนหวิวเล่น
แต่ในขณะที่กรีนและคชากำลังเล่นน้ำกันสนุกสนาน ชายหนุ่มผู้มีอายุน้อยที่สุดในที่นี้กำลังมองรุ่นพี่ที่เพิ่งรู้จักอย่างไม่วางตา
ต้นรู้สึกตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นหน้าพี่คชาแล้วว่า.. พี่คชาน่ารัก
ไอ้แก้มแดงๆ ที่ได้มาจากการยืนตากแดดนั้นดึงดูดสายตาต้นมากจริงๆ แล้วยิ่งพอได้คุยกันยิ่งรู้ว่า ไม่ได้น่ารักแค่ภายนอก แต่ตัวตนพี่คชายังน่ารักมากๆ อีกด้วย รอยยิ้มพี่คชาโคตรสดใส เวลาหัวเราะก็เหมือนจะทำให้ทุกคนรอบตัวยิ้มตาม มันน่ามองไปหมด
พอโดนประแป้งแก้มขาวๆ นี่น่ารักทะลุแป้งยิ่งกว่าพี่เคนอีก เวลาหยีตาพร้อมยิ้มกว้างนี่ต้นอยากจะกดปุ่มพอสแล้วจ้องอยู่อย่างนั้น เสื้อสีเข้มเปียกๆ ที่แนบไปกับตัว กับผมที่ลู่เข้ากรอบหน้านี่ก็เซ็กซี่อย่าบอกใคร
ให้ตายเหอะ ต้นไม่เคยเจอใครน่ามองเท่านี้มาก่อนในชีวิต
ไอ้ต้นแม่งต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
แต่แล้วระหว่างที่ทั้งสามกำลังเดินเล่นน้ำ และต้นก็แอบมองพี่คชาอยู่เหมือนเดิมนั้น ต้นก็ได้เห็นพี่คชาเหมือนจะลื่นล้มลงไป
“พี่คชา! ระวังครับ” ต้นเรียกเสียงดัง เมื่อคชาเหยียบเข้าที่ถุงพลาสติกบนพื้นที่เปียกน้ำจนลื่นหงายหลัง และคงจะล้มลงไปจริงๆ แล้ว หากต้นไม่รับตัวคชาไว้ได้ทัน
คชาเผลอจับแขนคนที่มารองตัวเองไว้แน่น ใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มตอนที่เท้าลื่นแล้วทรงตัวไม่ได้ แม้แต่ตอนนี้ก็ยังหายใจไม่ทั่วท้อง
“พี่คชา เป็นไรมั้ยครับ” ต้นเรียกเบาๆ จนคชาสะดุ้งนิดหน่อยและค่อยๆ ยันตัวขึ้นยืน
“เป็นไรรึเปล่าครับ” ต้นถามซ้ำอีกครั้งนึงเมื่อเห็นว่าสีหน้าของรุ่นพี่นั้นไม่ค่อยดี
“ม..ไม่เป็นไรๆ ขอบคุณมากต้น” คชาระบายยิ้มอย่างเคย กรีนที่เดินนำหน้าอยู่เพิ่งหันกลับมามอง
“เป็นไรกันรึเปล่าสองคน” และถามได้ล่าช้ามาก ถ้าคชาล้มจริงอาจโดนเหยียบไปแล้วชายกรีนถึงรู้เรื่อง
“ไม่เป็นไรพี่” คชาเป็นคนตอบกลับไป ก่อนจะเริ่มเดินกันต่อ
ตอนนี้ทั้งสามคนเรียกได้ว่าอยู่ในสภาพมอมแมม และกำลังอยู่ท่ามกลางหญิงสาวกลุ่มใหญ่ราวสิบคนที่รุมประแป้งกันอย่างรุนแรง ทั้งต้น คชา แม้กระทั่งชายกรีน (ซึ่งรายนั้นฟินเป็นพิเศษ) คชาโดนประแป้งแบบไม่รู้ว่ามือใครเป็นมือใคร ตาก็แสบ ต้นโดนรุมอยู่อีกฝั่ง สภาพคงไม่ต่างกันเท่าไหร่นัก คชาเริ่มรู้สึกว่าไม่ไหว มองก็ไม่เห็น จึงขอตัวออกมาจากกลุ่มสาวๆ แล้วพยายามจะเดินไปหาอีกสองคนที่มาด้วยกัน มือก็ขยี้ตาไปด้วย แต่ยิ่งขยี้ก็ยิ่งแสบ
“ต้น พี่กรีน” คชาลองออกเสียงเรียกเผื่ออีกสองคนจะได้ยิน แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับ อีกทั้งยังชนคนอื่นเข้าอย่างจังจนต้องรีบขอโทษขอโพย
“น้อง ล้างหน้าก่อน” เสียงทุ้มดังแว่วอยู่ใกล้ๆ ก่อนจะมีแรงดึงเบาๆ เข้าที่แขนของคชา เหมือนจะดึงเข้ามาหลบมุมอยู่ริมทาง
“ล้างหน้านะ” เสียงทุ้มว่าเบาๆ อีกครั้ง ก่อนคชาจะรู้สึกได้ถึงน้ำเย็นๆ ที่ค่อยๆ ราดลงมาที่ใบหน้า ก่อนจะมีสัมผัสบางอย่างลูบมาเบาๆ พร้อมกับน้ำ
ค่อยๆ ไล่ลงมาตั้งแต่หน้าผาก ตา จมูก แก้ม .. และปาก
ความรู้สึกคุ้นๆ เหมือนเดจาวูเลย..
เหมือนมือกร้านๆ นั้นจะบรรจงล้างแป้งออกให้ จนคชาลืมตาได้เต็มที่
และเมื่อลืมตาขึ้นมา คชาก็พบกับ
ชายหนุ่มผิวขาวจัด ผมเปียกๆ ลู่ใบหน้า รอยแป้งขาวปะเป็นดวงที่แก้มทั้งสอง ... และ... หล่อ
..เหมือนเดิมไม่มีผิด
“โอเคยัง?” ริมฝีปากหยักของคนล้างหน้าให้ขยับถามจนคนที่อยู่ในภวังค์เผลอสะดุ้ง
“อ..โอเค... โอเคแล้วครับ” แล้วคชาคงไม่ได้รู้สึกไปเองว่าทั้งหน้าทั้งหูมันร้อนวูบไปหมด
ก็นี่มัน...พี่เต๋าเมื่อสองปีที่แล้วนี่หว่า..
แม่ง.. เหมือนเดิมทุกอย่างเลยอะ
“น้องหน้าคุ้นๆ ป้ะ” หนุ่มหน้าขาวขมวดคิ้วเล็กน้อยตอนถาม ทำเอาคนต้องตอบหัวใจไหววูบ
เรานี่ก็ยังเขินพี่เค้าเหมือนตอนนั้นเลยเนอะ..
“เราคง...เคยเจอกันมั้งพี่” ไม่ได้คงเคยเจอหรอก เจอจริงๆ แล้วตอนนั้นคชาดันแรดขอเบอร์พี่เต๋าด้วยไง โอ๊ย นี่ตอนนั้นทำอะไรลงไปวะ เมาอะไรวะคชา
“อืม คุ้นมากอะ น้องเคยไปตัดผมร้านพี่ป้ะ” คนขี้สงสัยก็ยังสงสัยไม่เลิก เพราะเขาเป็นช่างตัดผมอยู่ใกล้ๆ ข้าวสารนี่เอง ถ้าเป็นลูกค้า จะคุ้นหน้ากันก็ไม่แปลก
“ไม่อะ พี่เป็นช่างตัดผมหรอ” คชาดูจะตกใจกับข้อมูลใหม่ ไม่เคยคิดเลยว่าหน้าตาอย่างนี้จะเป็นช่างตัดผมได้ด้วย
“อื้ม อยู่ตรงบางลำภูนี่เอง ไม่เคยไปหรอ” ถ้าไม่รู้ว่าเป็นช่าง ก็คงไม่เคยไป แล้วเคยเจอกันที่ไหนนะ
“ไม่อะพี่ ว่างๆ จะไปตัดนะ ว่าแต่ค่าน้ำเท่าไหร่” คชากำลังพูดถึงน้ำขวดที่เต๋าเปิดมาล้างหน้าให้ ถามเหมือนสองปีก่อนที่เคยถามเป๊ะเลย
ทำไมยังจำได้วะ..
“โอ๊ย ไม่เป็นไร ช่วยๆ กัน” เต๋ายักคิ้วให้ทีนึง ก่อนจะยิ้มยิงฟันขาวไม่แพ้หน้า
“รู้ป้ะ พี่พูดเหมือนเดิมเป๊ะเลย” และคชากำลังปฏิบัติการอะไรบางอย่าง ซึ่งให้ความรู้สึกไม่ต่างจากตอนเจอกันครั้งแรก.. นั่นคือ ปฏิบัติการรุก (เพราะเริ่มเขินมากแบบจะไม่ทน พอเขินถึงระดับนี้แล้วจะต้องทำอะไรสักอย่างไม่ให้เขินอีกต่อไป คือข้ามขั้นไปรุกเลย)
“ฮะ?” แน่นอนว่าเต๋าต้องไม่เข้าใจสิ่งที่อีกคนสื่อ เหมือนเดิมเป๊ะ คือยังไง?
“พี่ไม่คุ้นๆ เหตุการณ์นี้บ้างหรอ” เอาจริงๆ นะ คชาจำได้ทุกเม็ดอะว่าวันนั้นเกิดไรขึ้นบ้าง จำได้ด้วยว่าตัวเองแรดแค่ไหน บ้าจริงพี่ชาย
“เออ ก็คุ้นอยู่ คือยังไง มันเคยเกิดหรอ เดจาวูงี้หรอ” ยังไงเต๋าก็ไม่เข้าใจ บอกเลยว่าไม่ฉลาด ช่วยบอกกันตรงๆ เถอะครับ
“เราเจอกันเมื่อสองปีที่แล้วอะ” คชาเริ่มต้นเฉลย เต๋าเลิกคิ้วสูง พร้อมฟังต่อ “พี่ขายของอยู่ตรงเนี้ย ผมก็เล่นน้ำอยู่ตรงเนี้ย ผมโดนประแป้งอย่างเงี้ย แล้วพี่ก็ลากผมมาล้างหน้าอย่างเงี้ย แม่ง เหมือนเดิมเป๊ะอะ” จบตรงนี้เต๋าเบิกตากว้าง พอจะนึกออกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นได้ลางๆ
“พี่เต๋าแม่งก็หล่อเหมือนเดิม ขาวเหมือนเดิม ผมก็เขินเหมือนเดิม โว่ย” ว่าจบก็หันหน้าหนี โวยวายเองไปตามประสาคนเขินแล้วทำอะไรไม่ถูก
“จำได้ละ..” เต๋ายิ้มกริ่ม ถึงตรงนี้จำได้แม่นแน่ๆ แล้ว ว่าไอ้น้องคนนี้แหละ ที่เคยมาขอเบอร์ตัวเองน่ะ
“จำชื่อผมได้ป้ะล่ะ” คชาหยั่งเชิง เผื่อจะได้สานต่อความสัมพันธ์ แหม ได้เจอกันตั้งสองครั้ง คชาไม่เชื่อหรอกว่าเป็นแค่ความบังเอิญ น่าจะเป็นบุพเพสันนิวาสเสียมากกว่า
“คชา” เต๋ายักคิ้วกวนอีกทั้งยิ้มกว้าง เอาจริงๆ ถึงชีวิตนี้จะเจอคนเข้ามาเยอะแยะไม่รู้เท่าไหร่ แต่เด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักที่กล้ามาขอเบอร์กันโต้งๆ นี่ก็มีชื่อเดียวแหละน่า
“เออ ชื่อก็จำได้ ทำไมจำหน้าไม่ได้วะ..” คชาพูดงึมงำๆ หันหน้าหนีบ้างอะไรบ้าง พยายามเอาผมเปียกๆ ของตัวเองมาปิดหูที่คาดว่าคงแดงระดับสิบ
“ก็จำได้แล้วนี่ไง” เต๋าแอบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ จนคชาตกใจผงะไปนิด ก่อนจะฟาดที่แขนขาวๆ ที่โผล่พ้นเสื้อกล้ามลงไปเต็มแรง
“มาใกล้ๆ ทำไม ตกใจหมด!” คำโวยวายไม่จริงจังนั้นทำให้อีกคนยิ้มร่า วันนี้แหละ จะยัดเยียดเบอร์ให้น้องคชาคนนี้ให้ได้
“แล้ววันนี้หลงกับน้องชายอีกรึเปล่า” เต๋ายิ้มกรุ้มกริ่ม สายตาเจ้าเล่ห์จนคชาไม่กล้าสบ
“เปล่า.. แต่หลงกับเพื่อน” พูดถึงก็ลืมไปเลย ป่านนี้พี่กรีนกับต้นคงตามหาคชากันให้วุ่นแล้วเหมือนกัน
“เพื่อนอยู่ตรงไหน” เต๋ามองไปรอบๆ ตามคชาที่กำลังชะเง้อหาคนที่มาด้วย
“ถ้ารู้แล้วจะเรียกหลงหรอพี่” คชาตอบกวนไม่น้อยจนเต๋าผลักหัวเบาๆ ไปทีให้คชาได้โวยวายเล็กน้อย
“งั้นก็รออยู่แถวนี้แหละ เดี๋ยวเพื่อนเดินมาจะได้เจอ ไม่งั้นถ้าเราเดินออกไปไหนเดี๋ยวก็คลาดกัน” นี่มันตรรกะคชานะเว้ย ตอนนั้นน่ะอยากแอบมองอยู่ใกล้ๆ พี่เต๋า แต่ทำไมตอนนี้กลายเป็นพี่เต๋ารั้งเราไม่ให้ไปวะ
“เพื่อนผมก็คงอยู่แถวนี้แหละ เนี่ยเดินออกไปตรงนี้นิดเดียวก็คงเจอแล้ว” เอาจริงๆ คือไม่อยากใจง่ายไง ถ้าสมมติแบบ เออๆ ขออยู่กับพี่เต๋าแล้วกันงี้ ก็ดูเป็นคนง่ายป้ะ เออ ก็ต้องงี้แหละไง
“งั้น...พี่ไปส่งละกัน เดินออกไปคนเดียวเดี๋ยวก็โดนประแป้งมองทางไม่เห็นอีก” เต๋าบอกพลางยิ้มกว้างให้เหมือนเคย ทำเอาคชาแทบทรุดฮวบลงไปอยู่ตรงนั้น จะละลายรอบที่ล้านแล้วนะ
ว่าจบ เต๋าก็จับข้อมือแล้วพาเดินออกมาในบริเวณทางเดิน เล่นเอาคชาเดินตามแทบไม่ทัน หน้านี่ก็อย่าร้อนได้ไหม มือนี่ก็อย่าสั่นได้ไหม โอ๊ย..แล้วพี่เต๋านี่จะอะไร มาจับกันแบบนี้ จะเอาให้หัวใจวายตายเลยใช่ไหม
“เพื่อนอยู่ทางไหน” เต๋าที่เดินนำหน้าหันกลับมาถามเบาๆ คชาจึงชี้ไปยังทางที่คาดว่าต้นกับกรีนควรจะอยู่ แล้วเต๋าก็จับมือคชาเดินไปจนถึงที่ตรงนั้น แต่กลับไม่มีวี่แววของเพื่อนรุ่นพี่รุ่นน้องของคชาเลย
“สงสัยจะเดินไปหาผมที่อื่นแล้ว” คชาบอกเต๋าเบาๆ ทั้งที่มือเต๋ายังกุมข้อมือบางอยู่อย่างนั้น
“ถ้างั้นกลับไปตรงร้านพี่ก่อนแล้วค่อยโทรหาเพื่อน ตรงนี้เดี๋ยวเปียก” เต๋าว่าอย่างนั้น ก่อนจะพากลับหลังหันเพื่อจะไปที่ร้าน แต่ยังไม่ทันจะออกเดินทั้งคู่ก็โดนรุมประแป้งกันจนมอมแมม คชาที่ประสบปัญหาแป้งเข้าตาอีกครั้งกำลังมองทางไม่เห็นเหมือนเดิม ต่างแค่ตอนนี้มือของเต๋ากำลังเลื่อนมากุมมือเขาไว้แน่น เสียงนุ่มๆ นั้นบอกอยู่ใกล้ๆ ว่าจับพี่ไว้นะ
ตอนนี้คชาบรรยายไม่ได้ว่าตัวเองรู้สึกยังไง มันตื่นเต้นไปหมด ใจสั่น มือสั่น จนกระทั่งมือชา
เดินมานิดเดียวก็ถึงร้าน ทั้งคู่ล้างหน้าล้างตากันเสร็จสรรพ คชาจึงได้หยิบโทรศัพท์ในซองกันน้ำขึ้นมาเพื่อจะโทรหาพี่กรีน
แต่แล้วก็พบว่าโทรศัพท์กำลังปรากฏสายเรียกเข้าจากเบอร์ที่ไม่ได้เมมและตัดไป สิ่งที่ปรากฏบนจอคือ 12 misscalled จากเบอร์นั้น
อึ้งได้เพียงไม่นานเบอร์เดิมก็โทรเข้ามาอีกครั้ง คชาจึงรีบกดรับสาย
“ฮัลโหล พี่คชาป้ะครับ” เสียงจากปลายสายดังเข้ามา รอบข้างเสียงโหวกเหวกอย่างที่คชาคาดได้ว่าต้องอยู่ในที่ชุมชนมากแน่ๆ เอาจริงๆ คือคาดได้ว่าเป็นต้นที่โทรมา
“พี่เอง ต้นป้ะ”
“ใช่พี่ พี่อยู่ไหนเนี่ย ผมโทรหาตั้งหลายสาย” คชาจับจากน้ำเสียงได้ว่าต้นกังวลไม่น้อยที่เขาหายไปแบบนี้
“หลบอยู่ตรงร้านน้ำร้านนึง ใกล้ๆ ที่เราอยู่กันเมื่อกี๊นั่นแหละ ปลอดภัยดี ไม่ต้องห่วง”
“ใกล้ๆ เมื่อกี๊ใช่ป้ะพี่ งั้นรอตรงนั้นนะ เดี๋ยวผมไปหา” ต้นว่าแค่นั้นก่อนคชาจะตอบรับเล็กน้อยและตัดสายไป
“เพื่อนว่าไง” เต๋าหันไปถามคนที่กำลังเก็บโทรศัพท์เข้าซองเหมือนเดิม
“เดี๋ยวมาหา” คชามองหน้าพี่เต๋าที่ตอนนี้สายตาดูทำลายล้างมากจริงๆ
“งั้นก็อยู่กับพี่ก่อนเนอะ” เต๋าระบายยิ้มอีกครั้งจนคชาไม่รู้จะใจสั่นยังไง ไอ้ความหล่อของพี่เต๋านี่มันเป็นพิษเป็นภัยต่อหัวใจจริงๆ คชาทำได้เพียงยิ้มรับเขินๆ กับพยักหน้านิดๆ เท่านั้น
“เอา..น้ำสักขวดมั้ย” เมื่อคชาเงียบ เต๋าจึงเป็นฝ่ายชวนคุยต่อ แต่ให้ตายเถอะ คชาไม่ชอบสายตากรุ้มกริ่มแบบนี้เลย “คราวนี้..จะแลกกับอะไรก็ได้”
คนฟังหน้าแดงไปถึงหู แดงแบบกู่ไม่กลับ แดงไม่รู้จะแดงยังไง นึกไปถึงคราวก่อน ที่ตัวเองจะซื้อน้ำ แลกกับเบอร์พี่เต๋า..
“บ้าหรอพี่.. พูดไร..” คชาเริ่มเกาหัวเกาหู เขินจนทำตัวไม่ถูกแล้วนะเว้ย
“ไม่อยากได้แล้วหรอ เบอร์พี่น่ะ..” เต๋ายื่นหน้าเข้ามาใกล้อีกนิด ส่งสายตาแพรวพราวอีกหน่อย แกล้งคนที่หน้าแดงอยู่แล้วให้เขินหนักเข้าไปอีก
“ทีงี้จำแม่นนะ..” คชายู่ปาก ก็ทีเจอกันทีแรกล่ะจำไม่ได้ ทีงี้ล่ะจำแม่น มันน่ามั้ยล่ะ โธ่ถัง
“งั้นไม่ต้องซื้อก็ได้ พี่ให้น้ำฟรี” เต๋าหยิบขวดน้ำมาส่งให้ตรงหน้าคชา ก่อนจะยิ้มกว้างแล้วพูดต่อว่า “แลกกับเบอร์น้องคชา.. ได้มั้ยครับ”
ตายยยยยยยยย แบบนี้คชาต้องระเบิดตัวเองตายยยยยยยยยย พี่เต๋ามีสิทธิ์อะไรมาทำให้คชาเขินแบบนี้นะ นี่มันไม่ใช่วิถีทางของคนที่ตั้งท่าจะรุกพี่เต๋าก่อนแบบคชาแล้วนะ พี่เต๋าจะมาทำงี้ไม่ได้ นะะะะะ
แต่ก่อนที่คชาจะคิดหาทางออกให้กับสถานการณ์โคตรเขินนี้ได้ เสียงใครบางคนก็เรียกมาดังอยู่ไม่ไกล
“พี่กรีน ต้น” คชาขานตอบเมื่อเห็นเพื่อนสองคนยืนอยู่หน้าร้าน เบี่ยงตัวหลบพี่เต๋าที่ยืนขวางหน้าตัวเองอยู่ ออกไปหาเพื่อน
“แฝดนะแฝด โดนสาวรุมจนหายไปกับฝูงชน” กรีนบ่นเล็กน้อยตอนที่เดินออกมาถึงกัน
“โคตรเป็นห่วงอะพี่” แต่สายตาจริงจังของอีกคนที่มองพร้อมน้ำเสียงหนักแน่น ดูจริงจังมากกว่าพี่กรีนที่สนิทกันมานานนั้นทำให้คชาตกใจ
“เฮ้ย พี่ก็ไม่ได้เป็นไร ไม่ใช่เด็กที่หลงกับผู้ปกครองแล้วจะโดนจับไปตัดแขนตัดขาขอทาน” คชาบอกขำๆ ไม่รู้ว่าทำไมสายตาต้นมันดูน่ากลัวนัก
“ไม่ใช่เด็กแต่เป็นพี่คชาไง น่าห่วงน้อยที่ไหน” ต้นถอนหายใจเบาๆ ยอมรับล่ะว่าตัวเองห่วงมากเกินไป ห่วงไม่เข้าเรื่อง ก็พี่คชาน่ารักซะขนาดนี้ แล้วก็ไม่ได้มาบ่อยๆ ไม่ได้รู้ที่ทาง ไม่ได้รู้จักใคร โทรมาก็ไม่รับ จะไม่ให้คิดมากได้ไง
“จริงจังกว่ากูอีกว่ะต้น” กรีนหันไปมองหน้ารุ่นน้องแบบอึ้งๆ เช่นกัน ตัวเองก็เป็นห่วงคชานะ แต่ยังไงน้องมันก็เป็นผู้ชาย โตพอจะดูแลตัวเองได้แล้วด้วย ตอนที่พลัดกัน กรีนคิดว่ายังไงเดี๋ยวก็เจอกัน แต่ต้นขอเบอร์คชาไปบอกว่าจะโทรหาเอง ต้องติดต่อกันให้ได้ ไม่นึกว่าไอ้ต้นจะจริงจังขนาดนี้
“เอาเหอะ เจอกันก็ดีแล้วป้ะ” คชาพยายามตัดบท รู้สึกไม่ชอบสายตาที่ต้นมองแบบนี้ เหมือนตัวเองเป็นเด็กที่ต้องให้คนอื่นคอยดูแล ทั้งๆ ที่ตัวเองแก่กว่าต้นด้วยซ้ำ
แต่..ยกเว้นไว้คนนึง ตอนที่พี่เต๋ากุมมือนี่ อยากให้ดูแลไปอีกนานๆ เลยว่ะ...
เฮ้ย! นี่คิดอะไรอยู่นะคชา..
“แล้วนี่เจ้าของร้านที่ให้แฝดอาศัยพักพิงหรอ หล่อเชี้ยว ขอบคุณมากนะครับ” กรีนหันไปพยักหน้าให้กับเต๋าที่ยืนอยู่ข้างหลัง
“อ่า..ไม่เป็นไรครับ” เต๋าไม่รู้จะตอบยังไงถูก กำลังสงสัยว่าคนที่คชาบอกว่าเพื่อนนี่เพื่อนจริงๆ รึเปล่า.. ไม่ได้หมายถึงกรีน แต่หมายถึงไอ้น้องคนนั้น
สายตาที่มันมองคชา ดูเหมือน...มีอะไร
“ซื้อน้ำกันหน่อยมั้ย” คชาหันไปมองหน้าพี่เต๋านิดหนึ่งก่อนจะหันไปถามอีกสองคน ซึ่งกรีนก็เออออซื้อน้ำไปตามประสา
เต๋าหันมาขายน้ำ ก่อนจะมองหน้าคชานิ่งๆ คชาไม่เข้าใจสายตาของพี่เต๋าที่มองมาเท่าไรนัก มันไม่ใช่สายตาแบบเดิมที่อีกคนใช้มองกันมาโดยตลอด แต่มันเหมือน พี่เต๋ากำลังสงสัยอะไรสักอย่าง
“พี่เต๋า..” คชาแอบกระซิบเรียกเบาๆ ขณะที่กรีนกับต้นกำลังเติมน้ำใส่ปืนฉีดน้ำ เต๋าหันมามองแล้วเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย คชาสูดหายใจเฮือก รวบรวมความกล้าก่อนจะบอกออกไป
“ขอน้ำฟรีขวดนึง...”
.
.
.
.
“แลกเบอร์”
--------------------END-------------------
Talk
เย่ สวัสดีค่าาาา *ไหว้รอบทิศ*
คิดถึงมากกกกกกกก
สุขสันต์วันสงกรานต์นะคะทุกคน ขอให้มีความสุขมากมากในวันปีใหม่ไทยเนาะ
เรื่องนี้ก็นะ จบทื่อๆ กันอย่างนี้เลย55555555
พูดถึงน้องต้นนิดนึง ก่อนอื่นต้องบอกว่าอิมเมจ ต้น AF7 นะคะ แล้วเรื่องราวของน้องต้นจะเป็นยังไงต่อไป อืม..นั่นสิ (อ้าว5555555) ก็ตามที่ได้บอกไปนะคะ คชาไม่ได้ชอบต้นอะ แล้วก็ชอบพี่เต๋าอะ ยังไงก็คงจะคุยกับพี่เต๋าต่อไปเนาะ กับน้องต้นก็รักษาความเป็นพี่น้องกันต่อไปค่า
ขอบคุณทุกคนที่ยังเปิดเข้ามาอ่าน เห็นคอมเม้นท์คนอ่านเราก็ดีใจ นี่หายไปนานมากรู้ตัว มีอะไรติชมอยากให้บอกนะคะ เผื่ออ่านแล้วจะฟึ่บฟั่บเขียนตอนต่อไป เผื่อพี่เต๋าน้องต้นจะได้ไฝว้กันบ้าง กรั่ก (จะรอดมั้ย ไม่สัญญาว่าจะเขียน แต่อยากเขียนนะ555555)
เวิ่นพอละ คิดถึงมากจริงๆ ค่า ทั้งคนเปิดมาเจอ ทั้งนักอ่านเงา ทั้งคนคอมเม้นท์(ขอบคุณมากๆๆ) ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ จุบุจิบิคริ
ความคิดเห็น