คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : 'อุนนุน {end}
‘อุนนุน’
ไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร
ไม่รู้เวล่ำเวลา
นั่นละความรัก.
ผ่านมาสามอาทิตย์แล้วหลังจากที่เต๋าเริ่มจีบคชา สถิติการคุยโทรศัพท์ของเศรษฐพงศ์คืบหน้ามากแล้ว.. เพราะตอนนี้สถิติล่าสุดอยู่ที่ 32.3 นาที! ส่วนประโยค..นับไม่ไหว เยอะเกิน แต่สถิติมิสคอลล์ของนนทนันท์มากที่สุดก็อยู่ที่ 33 วันนั้นแหละ! ก็กลัวที่เค้นท์พูดมันเป็นจริงอะ! ถ้าวันไหนมันเกิดเบื่อโทรแล้วจะทำไงอะ.. เลยเล่นตัวเบาเบาพอ เอาสักสามสี่มิสคอลล์ก็พอแล้ว .___.
คืนนี้ก็เป็นอีกคืนที่เต๋ายังคงโทรหาคชาเป็นปกติเหมือนทุกๆ คืน...แต่แปลก ที่ยังไม่ได้ยินเสียงรอสายเลยด้วยซ้ำ ปลายสายก็กดรับทันที
“เต๋า..” เสียงเบาเบานั้นทำให้เต๋าแอบใจหาย
“เป็นอะไรรึเปล่าคชา”
“กำลังจะโทรหาพอดีเลย..” น้ำเสียงแผ่วๆ ทำให้เต๋ายิ่งใจไม่ดี
“มีอะไร เป็นอะไร”
“ปวดหัว...ปวดหัวมากเลย”
“เป็นอะไร เป็นไข้รึเปล่า กินยารึยัง” รีบถามด้วยความร้อนใจ
“ไม่ได้เป็นไข้ แต่เหมือน..ไมเกรน..”
“แล้วกินยารึยัง บอกม๊ารึยัง ให้ม๊าพาไปหาหมอ”
“กินแล้วแต่ไม่หาย ม๊าไม่อยู่ไง ไปต่างจังหวัดกับแม่เต๋าไง”
“เออใช่ ลืมเลย เค้นท์รู้รึยัง ให้เค้นท์พาไปหาหมอก่อน เดี๋ยวเต๋าตามไปหา รอแป๊บเดียว” ไม่ต้องคิดนาน เต๋าก็เปิดสปีคเกอร์โฟนวางโทรศัพท์ไว้แล้วหยิบกางเกงขายาวมาเปลี่ยนแทนกางเกงนอนที่ใส่อยู่ ก่อนจะหยิบกระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ เตรียมจะออกไปหาคชาเดี๋ยวนี้
“เค้นท์ไม่อยู่ ไปค้างบ้านเพื่อน ทำงาน... ไม่ไหวแล้วเต๋า..” เสียงคชาเริ่มเบาลงทุกทีๆ จนเต๋าร้อนใจขึ้นทุกขณะ รีบออกจากบ้านโดยเร็วที่สุด
“เต๋ากำลังไปหานะ รอแป๊บเดียวนะคชา” เต๋าออกรถทันที และโชคดีที่ค่อนข้างดึกแล้ว ทำให้ถนนโล่งพอจะให้เต๋าเหยียบคันเร่งได้เกือบมิด
“ไม่ได้เป็นมานานแล้ว..ปวดหัวจังเลยเต๋า..ฮึก..” เสียงที่ฟังคล้ายเสียงสะอื้นซึ่งดังมาจากโทรศัพท์ที่
ยังคงเปิดสปีคเกอร์โฟนไว้ทำให้ความเร็วของรถยิ่งพุ่งขึ้นจนเข็มไมล์แทบจะตีกลับ
“รอแป๊บเดียวคชา เต๋ากำลังไปนะครับ เดี๋ยวเต๋าพาไปหาหมอนะ หลับไปก่อนนะคชา”
“นอนไม่หลับ...ฮึก...ปวดหัว..”
“ทนหน่อยนะครับ เต๋ากำลังไปนะ” นาทีนี้ไฟแดงก็ไม่มีความหมายอีกแล้ว สิ่งที่ต้องทำตอนนี้คือไปให้ถึงบ้านคชาโดยเร็วที่สุดเท่านั้น
เกือบครึ่งชั่วโมงที่เสียงสะอื้นยังดังมาจากโทรศัพท์เป็นระยะ เช่นเดียวกับคำปลอบประโลมด้วยความห่วงใยก็ถูกส่งไปเป็นระยะเช่นกัน.. แล้วรถยนต์สีขาวก็มาจอดอยู่หน้าบ้านที่ประตูล็อกสนิท
“คชา เต๋าเข้าไม่ได้ โยนกุญแจออกมาได้ไหม”
“ไม่รู้...กุญแจอยู่ไหน..”
“งั้น.....อืม.....ไม่เป็นไร!” พูดจบแค่นั้นก็ตัดสินใจปีนข้ามรั้วบ้านเข้ามาทันที และโชคดีที่ประตูด้านในไม่ได้ล็อกไว้อีกชั้น ไม่อย่างนั้นคงต้องทุบกระจกเข้าไป
เมื่อเข้ามาถึงก็รีบวิ่งเข้าไปยังห้องนอนของคนป่วย และเมื่อคนป่วยหันมาเห็นหน้าคนที่รีบวิ่งเข้ามา จากที่เหมือนจะหยุดร้องไห้ได้แล้วก็กลับมาร้องใหม่ยิ่งกว่าเดิม
“เต๋า....ฮือ....ปวดหัว....” คนถูกเรียกรีบวิ่งเข้าไปหาคนป่วยทันที มือหนาลูบผมนุ่มเบาเบาเป็นการปลอมประโลม
“ไปหาหมอกันนะ กินยาแล้วไม่หายเหรอ” เต๋าหย่อนตัวนั่งบนเตียง มือก็เช็ดคราบน้ำตาไปด้วย
“ไม่หาย ฮึก ปวดหัวมากเลย” ซุกตัวเข้าหาเหมือนจะอ้อนกันเสียอย่างนั้น
“ปกติก็กินยานี้แล้วหายรึเปล่า” คนที่นั่งอยู่นี่ก็ลูบหัวลูบหลังไม่ห่าง ป่วยแล้วเหมือนเด็กไม่มีผิด
“เปล่า ฮึก ปกติม๊าเอายาแก้ไมเกรนให้” .........คือ?
“อ้าว แล้วนี่กินยาอะไร”
“พารา” คชา!!!!!!!! ถ้าไม่เห็นว่าป่วยอยู่นี่มีโดนด่าแน่นะ
“คชา! แล้วยาไมเกรนอยู่ไหน”
“ไม่รู้”
“เวรกรรม แล้วบ้านมีตู้ยาไหม”
“มี ในครัว”
“รอแป๊บนึง”
“เต๋าจะไปไหน”
“ไปหายา แป๊บเดียว ไม่ต้องร้องนะครับ นะ”
“ฮึก...” เต๋าก้มลงแตะริมฝีปากที่กลุ่มผมนุ่มเบาๆ ก่อนจะลุกออกไปหายามาให้เจ้าเด็กนี่กิน คิดยังไงถึงได้กินพารา -.-
เพียงไม่นานร่างสูงก็กลับมาพร้อมยาและแก้วน้ำในมือ
“อ่ะ กินซะ จะได้หาย” วางยาและแก้วน้ำลงบนโต๊ะข้างๆ เตียง แล้วประคองคนป่วยให้นั่งขึ้นมา ก่อนจะจัดแจงป้อนน้ำป้อนยาให้เด็กที่ทำท่าไม่อยากกิน
“ไม่อร่อย” กินเสร็จก็ทำหน้าเหยเก
“ยานี่ไม่ใช่ขนม! นอนนะ เดี๋ยวก็หาย” ประคองคนป่วยให้นอนอีกครั้งแล้วก็ห่มผ้าให้เรียบร้อย
“นอนด้วยกันสิ...” ประโยคแปลกๆ ถูกส่งมา ทำเอาคนฟังถึงกับงง
“หืม?”
“เต๋านอนกับคชานะ” เริ่มชัด..
“บนนี้น่ะหรอ” เลิกคิ้วพลางชี้ตรงที่ว่างบนเตียง
“อืม...นอนข้างๆ คชานะ” ยู่ปาก ตาก็ปรือๆ ซี่งคงเป็นผลพวงมาจากการป่วย
“ก..ก็ได้...” แล้วคิดหรือว่าเศรษฐพงศ์จะปฏิเสธ ได้โอกาสแล้วก็คว้าสิ! ถึงจะเป็นการฉวยโอกาสกับคนป่วยก็เถอะนะ...ก็เพิ่งรู้เหมือนกัน ว่าเวลาป่วยแล้วจะอ้อนได้ขนาดนี้...
คชาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน...ว่าทำไมตัวเองถึงได้เป็นแบบนี้...
เราล้วนอ่อนไหว
กว่าที่ตัวเองเคยคิดไว้
เมื่อเจอใครคนนั้น.
--------------UnnUn---------------
แสงแดดจ้าส่องผ่านช่องว่างระหว่างผ้าม่านที่ปิดอยู่เข้ามาในห้องนอนสีครีม แพขนตาของคนที่หันหน้าเข้าหาแดดจึงเริ่มขยับเบาๆ เปลือกตาบางค่อยๆ เปิดขึ้นช้าๆ ด้วยอาการวิงเวียนที่ยังไม่ค่อยจะหายดี ก่อนจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคน
แขนหนักๆ พาดอยู่บนเอวบาง ในขณะที่แขนตัวเองก็พาดอยู่บนตัวอีกคนเหมือนกัน ใบหน้าหล่อๆ ที่คุ้นเคยอยู่บนหมอนใบเดียวกัน ห่างออกไปแค่คืบเดียว ขาตัวเองก่ายขาอีกคนอยู่ ผ้าห่มกองอยู่ที่ปลายเท้า
และเมื่อตั้งสติได้...ก็ดีดตัวออกจากอ้อมกอดนั้น และกระเด้งตัวขึ้นนั่งทันที
“เต๋า!!!!” โวยวายให้ดังที่สุด! ก็มันอะไรกันล่ะ อยู่ดีดีมานอนบนเตียงของเขา หมอนของเขาแบบนี้ได้ยังไง แถมมาแอบกอดอีก แล้วเมื่อคืนได้ทำอะไรไปบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้!! นี่คงจะปีนบ้านเข้ามาสินะ เห็นไม่มีใครอยู่ใช่ไหมถึงได้ทำแบบนี้น่ะ!!
“เต๋าตื่นเดี๋ยวนี้เลย!!” เสียงเรียกพร้อมแรงเขย่าทำให้คนถูกปลุกค่อยๆ ขยับตัวตื่นขึ้น
“อ้าวคชา ตื่นแล้วเหรอ เป็นยังไงบ้าง หายหรือยัง” ยันตัวลุกขึ้นนั่งมาคุยกับเด็กน้อยที่อ้อนตัวเองอยู่ทั้งคืน
“มานอนตรงนี้ได้ยังไง ปีนบ้านเข้ามาใช่ไหม แอบมาลักหลับเราใช่ไหม ทำอะไรเราไปบ้างฮะ!!! นิสัยไม่ดี!!!” พูดจบก็เขวี้ยงหมอนใส่ และเตรียมเงื้อมือจะต่อยอีกต่างหาก
“เดี๋ยวๆๆๆ คชา!! หยุดก่อน!!! นี่จำไม่ได้เลยเหรอว่าเต๋ามาได้ยังไง?” ถอยกรูดจนชิดขอบเตียง เห็นตัวเล็กๆ แบบนี้แรงไม่ได้เล็กตามตัวนะ ถ้าโดนต่อยขึ้นมาเศรษฐพงศ์ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ
“ทำไม? จะมาบอกว่าคชาอนุญาตให้เต๋าขึ้นมานอนบนเตียงชาแล้วจำไม่ได้งี้หรอ? ง่ายไปป้ะ!!” หาเรื่องสุดฤทธิ์ ยังไม่เอาหมัดลงด้วย
“คชาคิดดีๆ เมื่อคืนไม่สบายใช่ไหม..” โอเคนะ ค่อยๆ ทบทวน..
“ฮะ..?”
“เมื่อคืนปวดหัวไง ใช่ไหม?”
“อ๋อ..อืม...”
“แล้วเต๋าก็โทรหาคชาพอดี ใช่ไหม”
“อ..อื้ม..”
“แล้วเต๋าก็มาหาคชาที่นี่”
“อาห๊ะ”
“นี่คือคชาอนุญาตให้เต๋าเข้าบ้านแล้ว ใช่ไหม”
“ก..ก็คงใช่ แต่ก็ไม่ได้อนุญาตให้มานอนบนเตียงนี่!! ฉวยโอกาส นิสัยไม่ดีว่ะ!!” เตรียมจะทำร้ายอีกรอบ
“เดี๋ยวก่อนดิ ยังไม่จบ!”
“ยังมีอีกเรอะ..” เริ่มเห็นอนาคตละ...
“เต๋าไปหายามาให้คชากิน”
“อืม”
“แล้วเต๋าก็บอกให้คชานอน”
“อืม...”
“แล้วหลังจากนี้ จำได้ไหม..”
“ก็...คชาก็นอนไง...ก็จบ เห็นป้ะ แล้วเต๋าขึ้นมานอนทำไม! ทำไมไม่กลับบ้านไป!” ตอบอ้อมแอ้ม..เริ่มไม่มั่นใจละ สรุปเราให้มันนอนหรอวะ -0-
“แน่ใจหรอคชา คิดดีๆ อีกทีไหม” ยิ้มมุมปาก...ก็ดูจากท่าทางแล้ว สงสัยจะเริ่มจำได้แล้วสิ
“ก็...ไม่ ก็นอนไง ก็คชาก็นอน เต๋าก็ควรจะกลับบ้าน ก็จบไง” เริ่มขยี้หัว...ทางเริ่มตัน
“ถ้าจำไม่ได้ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังเอง... จริงๆ แล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอก แค่เด็กที่ไหนก็ไม่รู้มันอ้อนให้นอนด้วย นอนกับคชานะ อย่างเงี้ย ไอ้เราก็สงสารไง กลัวเด็กมันจะร้องไห้ไม่หยุด ก็เลยมานอนด้วย ก็แค่นั้น” หมดกันนนทนันท์.. ความจริงเปิดเผย จะเอาอะไรไปสู้เขาวะ ตอนตื่นก็ไม่ทันคิดไง คิดไม่ทัน เมื่อคืนเผลอทำอะไรแบบนั้นลงไปได้ไงวะ T^T
“ก..ก็ให้นอน แต่ไม่ได้ให้กอดสักหน่อย!!” หาเรื่องเถียงก่อน..
“เหรอครับ..ถ้าจำไม่ผิดนี่รู้สึกว่าจะมีคนเขยิบๆ มาซุกเต๋านะ แล้วแขนขาใครไม่รู้ก็มาก่ายเต๋าซะเหมือนหมอนข้างอย่างนั้นน่ะ..”
“ช..ใช่เหรอ...”
“ถ้างั้นเมื่อเช้าตื่นมาสภาพไหนล่ะ”
“ก..ก็...” ก็แขนขาพาดเต๋าอยู่...
“หึ นั่นแหละนะ จบนะ”
“ฮึ่ยยยยย!! ก็มันไม่รู้ตัวนี่หว่า!!”
“ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรครับ เต๋าให้อภัย แต่วันนี้..ไม่มีใครอยู่ใช่ไหม ถ้างั้น ออกไปกินข้าวกับเต๋านะ”
“ไม่ไป!!”
“ไปเถอะนะ..นะครับ...ถือว่าเต๋าเลี้ยงขอโทษก็ได้ที่แอบกอด..” แอบจูบหน้าผากด้วย...
“บ้า!!”
“เดี๋ยวเต๋ากลับไปอาบน้ำที่บ้าน แล้วกลับมารับนะครับ แต่งตัวหล่อๆ นะ แล้วเจอกันครับ” ลุกขึ้นจากเตียงแล้วแอบหอมแก้มไปฟอดนึง ก่อนจะวิ่งออกไป... ปีนออกจากบ้าน
“โธ่เว้ยยยย!!” ขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย
ไม่เข้าใจจริงๆ เลย!!
ไม่เข้าใจตัวเอง...ว่าทำไมต้องใจสั่นกับมันด้วย!!!
เมื่อพบว่าฉันเริ่มสูญเสียความเป็นตัวเอง
เมื่อนั้น
ฉันพบว่าตัวเองกำลังมีความรัก.
--------------UnnUn---------------
ภายในร้านอาหารไม่ใหญ่นัก มีใครบางคนแอบมองใครอีกคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ
คนที่ถูกแอบมองยังคงก้มหน้าก้มตากินข้าวอย่างตั้งใจ แต่ก็รู้สึกแปลกๆ อยู่นะ เหมือนมีใครจ้องอย่างนั้นแหละ เลยเงยหน้าขึ้นมามอง
“เฮ้ย!! จ้องทำไม กินข้าวไปดิ!!”
“คชานี่..เวลากินข้าวก็น่ารักดีนะ”
“จะบ้าไง? โรคจิตปะเนี่ย กินข้าวไป” ว่าเสร็จก็ก้มหน้างุด...รู้สึกหน้าร้อนๆ
“หึ..ครับ” เห็นอีกคนหน้าแดงแบบนั้นแล้วมันรู้สึกดีนะ...อย่างน้อยเขาก็เขินเราบ้างละวะ!
เมื่ออีกคนก้มลงไปสนใจข้าวของตัวเอง เลยแอบช้อนตามองนิดนึง
บ้ารึไง..กินข้าวไปยิ้มไป... หึ
ไม่ได้รู้ตัวหรอกนะ..ว่าตัวเองก็ยิ้มอยู่เหมือนกัน
เวลายิ้มให้เธอ
ฉันยิ้ม
ให้ตัวเองด้วย.
--------------UnnUn---------------
สองคนเดินออกจากโรงภาพยนตร์ หลังจากที่เศรษฐพงศ์เนียนพานนทนันท์มาดูหนังได้
“หนังสนุกไหม”
“อืม...”
“ไปไหนต่อไหม...”
“อืม...”
“ไปไหนดี...”
“อืม...”
“คชา..”
“อืม...”
เครื่องค้าง? แรมเสีย? แบตหมด?
....ไม่รู้ คชายังไม่รู้เลยว่าทำไมมันดูลอยๆ แปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้
จริงๆ คนที่รู้น่ะมี...
ก็ไอ้ผู้ชายหน้าหล่อที่ยืนยิ้มอยู่นี่ไง..
“คชา”
“อืม..”
“ไปกินไอติมกัน”
“อืม...”
มือขาวจูงคนที่ยังเบลอๆ ค้างๆ มาที่ร้านไอศกรีมชื่อดัง ก่อนจะจัดแจงสั่งสักเรียบร้อย
“คชา”
“อืม”
“เป็นอะไร”
“เปล่า”
“อ้าว ตอบคำอื่นได้แล้วเหรอ”
“ทำไม...”
“ครับ?”
“ทำไมเต๋าทำแบบนี้อะ...” เม้มปากแน่น จ้องตาอีกคนอย่างจริงจัง
“ทำ...?”
“เมื่อกี๊...เมื่อกี๊ไง...”
“คชา...โกรธเหรอ...ขอโทษ...”
“ทำไม...ทำไมถึง...”
....
...
..
.
เมื่อกี๊..ในโรงหนัง
แสงจากจอฉายภาพยังส่องสว่างเป็นระยะตามเนื้อหาของภาพยนตร์ และเมื่อฉากต่อสู้ในหนังแอคชั่นเรื่องนี้สิ้นสุดลง มือหนาก็เลื่อนไปกุมมือของคนข้างๆ จนเจ้าตัวหันมามอง
ใบหน้าหล่อระบายยิ้มบางๆ ก่อนจะกระซิบเรียกชื่อของอีกคนแล้วโน้มหน้าเข้ามาใกล้...
ริมฝีปากหยักกดจูบลงไปบนริมฝีปากบางของอีกคนแผ่วเบา...ไม่ได้รุกล้ำ แต่ทำอย่างนั้นย้ำๆ ซ้ำๆ
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้ตัวเองทำแบบนี้...อาจจะเป็นเพราะการนั่งมองเสี้ยวหน้าของอีกคนมาตลอดครึ่งเรื่องของหนังโดยไม่ได้สนใจสิ่งที่กำลังฉายอยู่เลยสักนิด
และนั่น...ก็ทำให้คนโดนขโมยจูบในโรงหนังเครื่องค้างมาจนถึงตอนนี้..
.
..
...
....
“ขอโทษคชา ขอโทษจริงๆ” น้ำเสียงแสนจริงใจถูกส่งผ่านไปถึงอีกคนที่เขาไม่สามารถอ่านความรู้สึกออกได้เลย
“คชาแค่...รู้สึกว่า...มันเคว้งๆ ลอยๆ..” คำตอบนั้นทำให้คนฟังยิ้มกว้างออกมาได้
บางที...เขาอาจจะจีบคชาติดแล้วก็ได้นะ
“ไม่ได้โกรธเต๋าใช่ไหม ไม่ได้รู้สึกแย่ใช่ไหม”
“อ..อืม...คชาว่า.....”
“ครับ?”
“คชายอมแพ้..”
“อะไรนะ!?”
“คชายอมแพ้แล้ว...”
อันที่จริง...อยากพูดคำนี้มาตั้งนานแล้ว...
แต่แค่วันนี้ มันชัดเจนเกินไป...
เดินคิดมาตั้งแต่ออกจากโรงหนังแล้ว...
ถ้าไม่ยอมแพ้ ก็ไม่รู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรอีก
จูบของเต๋ามันหนักแน่น อบอุ่น.. ละมุนพอให้เชื่อใจ
คชาแพ้แล้ว...แพ้ราบคาบจริงๆ...
บางทีนะ... บางทีคชาอาจจะแพ้ตั้งแต่วันแรกที่รับคำท้าเต๋าแล้วก็ได้...
“หมายความว่า...?” คนที่ท้าแข่งยิ้มกว้าง...เขาจีบคชาติดแล้วใช่ไหม
“อืม...”
ความรักไม่ใช่การวิ่งเข้าเส้นชัย
มันคือการวิ่งทางไกล
ไปด้วยกัน.
--------------UnnUn---------------
End.
Talk,,
จบ!? ไม่รู้อะ แต่งต่อไม่ได้แล้วอะ T^T
มีอุนนุนบางบทมาจาก ‘อุนนุนหมายเลข๑ สิ่งที่ค้นพบระหว่างนั่งเฉยเฉย’ นะคะ
ถ้าแก้ได้จะมาแก้ โฮรวววว T__T ไม่รู้จะแต่งอะไรต่อจริงๆ สวัสดี T^T
ความคิดเห็น