ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #24 : . 23 .

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.66K
      7
      24 ก.ค. 58

    . 23 .

     

     

     

              Rr rr r.

     

         แขนยาวยื่นปัดป่ายไปทั่วโต๊ะข้างหัวเตียงเพื่อหาแหล่งที่มาของเสียงดังรบกวน มือหนาคว้าเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและพยายามเพ่งสายตามองไปที่ชื่อของคนที่โทรเข้ามา แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นผลเพราะสติสัมปะชัญญะทั้งหมดของเขาถูกความอ่อนเพลียดูดกลืนไปซะหมด สุดท้ายจึงต้องยอมกดรับสายถึงแม้จะยังไม่รู้ว่าคนปลายสายเป็นใครก็ตาม

     

    " ฮัลโหล "

     

    ( พี่ชานยอล )

     

    " หื้อ .. พั้มพ์หรอ "

     

    ( เราเองงงงงงง )

     

    " อา .. ตอนนี้กี่โมงแล้วหรอ "

     

    ( ตีสี่สี่สิบสอง )

     

    " เราเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงโทรมาเช้าจัง "

     

    ( ก็พี่ชานยอลต้องลุกไปอาบน้ำตอนนี้ไม่ใช่หรอ เดี๋ยวเข้างานไม่ทันนะ )

     

         คนฟังขมวดคิ้วเข้าหากันแน่น เพราะสมองกำลังประมวลผลถึงประโยคที่ได้ยินเมื่อครู่และเพียงไม่กี่วินาทีต่อมาร่างสูงก็ทะลึ่งตัวขึ้นจากเตียงอย่างแรงพร้อมกับเบิกตากว้าง

     

              " โอ้ย พี่นึกออกแล้ว .. ลืมไปเลยว่าวันนี้ต้องไปอยู่ไลน์อาหารเช้า "

     

              ( ไหวหรือเปล่าพี่ชานยอล )

     

              " ไหวอยู่แล้ว "

     

              ( เก่งมาก )

     

              " เราตื่นเพื่อโทรมาปลุกพี่หรอ ? "

     

              ( จะวางอยู่แล้วนะ พี่ชานยอลเพิ่งรู้หรอเนี่ย ฮ่า ๆ )

     

              " ขอบคุณมากนะตัวเล็ก "

     

              ( ไม่เป็นอะไรเลย เราเต็มใจมาก )

     

              " งั้นเรารีบนอนต่อเถอะ เดี๋ยวตื่นไปเรียนไม่ไหวนะ "

     

              ( โอเค .. พี่ชานยอลสู้สู้นะ ตั้งใจทำงาน )

     

              " แน่นอนสิ เราอุตส่าห์โทรมาให้กำลังใจขนาดนี้ "

     

              ( ฮ่า ๆ วางแล้วนะ )

     

              " ครับ "

     

              ( รักพี่ชานยอลนะ )

     

         คนฟังหลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ เพราะความทะเล้นของคนตัวเล็กที่แอบบอกรักเขาก่อนจะรีบวางสายไปอย่างรวดเร็ว ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวเขาลุกไปเตรียมตัวไม่ทันหรือเป็นเพราะเขินกันแน่ แต่จะว่าไปเหตุผลไหนก็ไม่สำคัญหรอก ยังไงซะมันก็น่ารักอยู่ดี

     

         นั่งยิ้มอยู่สักพักจนเพิ่งรู้สึกตัวว่ามันเสียเวลาเปล่า คนตัวสูงถึงได้ลุกขึ้นจากเตียงเดินไปคว้าผ้าขนหนูมาพาดบ่าเอาไว้ เตรียมตัวจะเข้าไปอาบน้ำแต่พอเดินผ่านเพื่อนสนิทที่กำลังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ ขอแกล้งสักหน่อยก็แล้วกัน ..

     


              " ไอเหี้ยยอล ! มึงมาตั้งนาฬิกาปลุกทำไมวะ ! "

     

         ปาร์คชานยอลหัวเราะลั่นอย่างสะใจจนเสียงดังลอดประตูห้องน้ำออกมา เมื่อได้ยินเสียงหงุดหงิดโวยวายของเพื่อนสนิท อะไรกัน เขาก็แค่เดินไปปลดล็อกหน้าจอโทรศัพท์มือถือของมันแล้วตั้งนาฬิกาปลุกนาทีต่อไปเท่านั้นเอง มาว่ากันได้ยังไงเนี่ย ก็มันถึงเวลาที่ต้องตื่นแล้วนี่นา คิมจงอิน J

     

    .

     

         ขาเรียวพันกันจนแทบจะล้มเพราะโดนเพื่อนร่วมห้องกอดคอลากให้มานั่งลงที่โต๊ะเลคเชอร์ข้าง ๆ แบคฮยอนยกมือขึ้นจัดผมให้เข้าทรงก่อนจะหันไปหรี่ตาใส่คิมจงแดที่ลากเขามาโดยไม่ได้ดูสารรูปของเขาเลยสักนิดว่าตอนนี้หัวยุ่งไปถึงไหนแล้ว สงสัยจะใคร่รู้เรื่องชาวบ้านขนาดหนัก

     

              " ไหนพูดมาสิ นี่คืออะไร " จงแดพูดพร้อมยื่นโทรศัพท์ที่เปิดรูปดิสไลน์ของเขาเอาไว้ ยื่นเข้ามาใกล้จนแทบจะติดลูกตา

     

              " เอาเข้าไปในตากูเลยมั้ย "

     

              " ไม่ต้องมาเฉไฉเลย นี่ใครวะ "

     

              " เขาเป็นรุ่นพี่ เรียนที่นี่แหละอยู่ปีสามแล้ว ชื่อปาร์คชานยอล "

     

              " แล้วไง เกี่ยวข้องยังไงกัน "

     

              " เรื่องคนอื่นนี่ชอบจังเลยนะ "

     

              " "

     

              " เออ ๆ ก็ .. เป็นแฟนกันนั่นแหละ " เสียงหวานเอ่ยออกมาเบา ๆ พร้อมกับรอยยิ้มกว้างที่ทำให้คนฟังหมั่นไส้จนต้องหันมาเบ้ปากใส่

     

              " ทำไมเขาเอามึงวะ .. กูว่าเขาหล่อนะ "

     

              " อ้าว ทำไมปากหมาจัง "

     

              " หน้าเจ๊กแบบมึงไม่สมควรมีแฟนหล่อ "

     

              " เดี๋ยวตบคว่ำ " แบคฮยอนไม่อยากต่อความยาวสาวความยืดอะไรกับคนปากหมาอย่างคิมจงแดอีกต่อไป จึงพูดทิ้งท้ายเอาไว้แล้วรีบลุกขึ้น เดินหนีกลับไปนั่งที่ข้างเซฮุนเหมือนเดิม

     

         มือเล็กหยิบโทรศัพท์มือถือตัวเองออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเปิดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นไลน์ กดขยายรูปดิสขึ้นมาดูและยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว


     

         รูปตรงหน้าถูกถ่ายเมื่ออาทิตย์ก่อนตอนที่เราทั้งคู่ออกไปทานมื้อกลางวันด้วยกัน ก่อนที่คนตัวสูงจะต้องกลับไปฝึกงานต่อที่เซจู ร้านอาหารญี่ปุ่นเป็นจุดหมายที่วางเอาไว้แต่พอไปถึง ร้านกลับอัดแน่นไปด้วยผู้คนจนแทบไม่อยากจะรอแต่เพราะความอยากกินมากด้วยกันทั้งคู่จึงทำให้ตัดสินใจนั่งรออยู่หน้าร้าน ถึงแม้ว่ารอบข้างจะเต็มไปด้วยร้านที่ร้างผู้คนก็ตาม

     

         ตอนนั้นผมยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเพื่อตอบไลน์เซฮุนที่บ่นไม่หยุดเรื่องการไปไหนมาไหนแล้วไม่ยอมบอกของผม แต่หลังจากตอบข้อความกลับไปแล้ว ดันมีความคิดดี ๆ วิ่งเข้ามาในหัว ผมยื่นโทรศัพท์มือถือของตัวเองส่งไปให้พี่ชานยอล เขาหันมามองมันอย่าง งง ๆ แต่ก็ยอมรับไว้ ผมขยับตัวเข้าไปใกล้และใช้นิ้วสไลด์มุมขวาล่างของหน้าจอ เปิดกล้องขึ้นมา

     

         ก่อนจะเอียงหัวตัวเองไปทางที่พี่ชานยอลนั่งอยู่ ชูสองนิ้วขึ้นมาและยิ้มใส่กล้อง แต่เขากลับไม่ยอมกดถ่ายรูปสักที มัวแต่นั่งมองการกระทำของผมผ่านกล้อง จนเกือบนาทีได้ถึงยอมยกมือขึ้นมาชูสองนิ้วและกดถ่ายในที่สุด

     

         ถ่ายกันไปได้สักพักเขาก็ลดมือลง ผมเลยยื่นมือออกไปรับโทรศัพท์ของตัวเองเพื่อจะเช็ครูป แต่คนที่ถือมันเอาไว้กลับไปยอมคืนและนั่งก้มหน้าทำอะไรสักอย่างอยู่คนเดียว ในทีแรกผมคิดว่าเขาอาจจะลบรูปที่ตัวเองดูไม่ดีอยู่ แต่เพราะไม่อยากเดามั่ว ๆ จึงขยับใบหน้าตัวเองไปวางไว้บนแขนแกร่งและมองสิ่งที่เขาทำ

     

         การกระทำที่ปรากฏแก่สายตาทำให้ผมยิ้มออกมาอย่างมีความสุข เพราะคนตัวสูงกดเข้าไปในแอพพลิเคชั่นไลน์แล้วเปลี่ยนรูปดิสเป็นหนึ่งในรูปที่เราเพิ่งถ่ายกัน ผมละสายตาออกจากโทรศัพท์มือถือและหันไปมองใบหน้าของอีกคนก่อนจะยื่นมือไปเล่นหูของเขาด้วยความหมั่นเขี้ยว

     

              พี่ชานยอลมุมนี้ก็ตลกดีเหมือนกัน
                แต่ดู ๆ ไปแล้วเหมือนจะน่ารักมากกว่า



     

         นึกไปถึงอดีตที่เพิ่งผ่านมาไม่นานก็พาลให้ยิ้มกว้างออกมาจนโดนคนข้าง ๆ หมั่นไส้และทำร้ายด้วยการยกมือหนาขึ้นมาผลักเข้าที่หัวจนถึงกับเอนไปอีกฝั่ง ไอ้นี่ ! หมดกันคนกำลังอารมณ์ดี

     

              " ไอสึด ผลักหัวทำไมวะ "

     

              " หมั่นไส้ เป็นบ้าหรอ นั่งยิ้มคนเดียวอยู่ได้ "

     

              " คนมีความสุขอ่ะ จะให้ทำหน้าบึ้งหรอวะ "

     

              " มึงดูบ้ามากขึ้นทุกวันเลยนะ รู้ตัวป่ะ "

     

         แบคฮยอนไม่ตอบและหันกลับมาให้ความสนใจโทรศัพท์มือถือที่กำลังสั่นอยู่ในมือแทน ดวงตาเรียวจ้องไปที่ชื่อของบุคคลที่ส่งข้อความเข้ามาก่อนจะใช้นิ้วสไลด์หน้าจอเพื่อพิมพ์ข้อความตอบกลับอย่างรวดเร็ว

     

              ชานยอล : แขกเยอะมาก

     

              ชานยอล : เหนื่อยมากเลยตัวเล็ก

     

              แบคฮยอนนี่ : ส่งกำลังใจไป

     

              ชานยอล : ไหน .. พี่ไม่เห็นได้เลย

     

              แบคฮยอนนี่ : You sent a photo.

     

         คนตัวเล็กยิ้มขำกับความงอแงเหมือนเด็กของคนรักก่อนจะพับนิ้วกลางและนิ้วนางมือข้างที่ว่างอยู่ลง ยกขึ้นมาแนบแก้มไว้ กดถ่ายรูปแล้วส่งไป

     

              ชานยอล : ค่อยยังชั่วหน่อย

     

              ชานยอล : หายเหนื่อยเลย J

     

              แบคฮยอนนี่ : งั้นรีบไปทำงานเลย เราใกล้จะเรียนแล้ว

     

              ชานยอล : โอเค ตั้งใจเรียนนะ

     

              แบคฮยอนนี่ : ตั้งใจทำงานนะ

     

              ชานยอล : ครับ

     

         แบคฮยอนเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋า หลังจากหันไปเห็นว่าอาจารย์ประจำวิชาเดินเข้ามาภายในห้อง มือเรียวหยิบปากกาขึ้นมาพร้อมกับเปิดหนังสือเรียนออก แต่แทนที่จะสนใจหนังสือตรงหน้าเขากลับนึกถึงประโยคหนึ่งของพี่ชานยอลขึ้นมาได้ ..


     

    พี่อยากมีเราอยู่ข้าง ๆ เป็นกำลังใจให้กันทุกวัน


     

         พี่ชานยอลทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าความรู้สึกที่ได้รับพลัง ที่ทำให้เราขับเคลื่อนไปตามหน้าที่ในแต่ละวันมันเป็นอย่างไร  



             เขาที่ชอบตัวเองได้กำลังใจจากใครสักคน 
                แต่ชอบมากกว่าที่ได้เป็นกำลังใจของใครสักคน


                เพราะมันช่วยย้ำเหตุผล ว่าทำไมเราถึงควรมีชีวิตอยู่ :)

     


    .

     

              ( ไหน เราทำอะไรอยู่ )

     

         เสียงดังลอดผ่านลำโพงโทรศัพท์มือถือ ทำให้แบคฮยอนวางปากกาในมือลงและกดสลับเปลี่ยนไปใช้กล้องหลังแล้วยกมันขึ้นมาถือเหนือกระดาษที่กำลังทำการบ้านอยู่

     

              " เราทำการบ้านวิชาแพลนนิ่งอยู่ .. น่าเบื่อมากเลยอ่ะ " บ่นเสียงงุ้งงิ้งก่อนจะกดให้กล้องกลับมารับภาพใบหน้าของตัวเอง ปลายสายหัวเราะออกมาเบา ๆ เพราะท่าทางน่าเอ็นดูของคนตรงหน้า

     

              ( ทำอะไรไม่เบื่อบ้าง ไหนบอกมาสิ )

     

              " คุยกับพี่ชานยอลนี่ไง "

     

              ( เด็กแสบ )

     

              " เรียกแบบนี้แปลว่าเขินล่ะสิ " พูดพร้อมยกนิ้วขึ้นชี้ใส่คนตัวสูงที่สบตากันอยู่

     

              ( เปล่าซะหน่อย )

     

              " เป็นคนขี้โม้ตั้งแต่เมื่อไหร่ " คนตัวเล็กพูดแล้วค่อย ๆ วางโทรศัพท์ลงที่เดิม หยิบปากกามาไว้ในมือและเริ่มทำงานต่อ ปล่อยให้คนอายุมากกว่านั่งท้าวคางมองตัวเองไปอย่างเพลิน ๆ

     

              ( เมื่อเช้า .. )

     

              " อ่าฮะ " ส่งเสียงขานรับในขณะที่ยังใช้สายตาโฟกัสไปกับการบ้านตรงหน้า

     

              ( ก่อนเราจะวางสาย .. )

     

              " อื้อ "

     

              ( เราพูดว่าอะไรนะ พี่ไม่ค่อยได้ยินเลย วางเร็วมาก )

     

         มือซ้ายที่ว่างอยู่ยกขึ้นมาปิดหน้าผากพร้อมกับก้มใบหน้าลงซ่อนรอยยิ้มเขิน ๆ ของตัวเอง ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ให้วางราบไปกับโต๊ะหนังสือเพื่อหลบหน้า ทำให้ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอของคนปลายสายตอนนี้จึงมีเพียงเพดานห้องสีขาวเท่านั้น

     

         ปฏิกิริยาตอบสนองของคนตัวเล็กทำเอาชานยอลหลุดหัวเราะออกมา แต่พอรู้ตัวก็รีบเงียบลงทันทีเพราะกลัวว่าอีกคนจะทำตัวไม่ถูกจนอาจจะขอวางไปก่อน ซึ่งเขาไม่โอเคกับการตัดสินใจแบบนั้นเท่าไหร่เพราะยังอยากนั่งมองใบหน้าหวานไปอีกสักพักใหญ่ ๆ

     

              ( แบคฮยอน )

     

              " "

     

              ( ตัวเล็ก )

     

              " "

     

              ( พั้มพ์ )

     

         ชานยอลแกล้งเรียกคนที่อยู่ในสายด้วยเสียงยาน ๆ เพื่อให้คนตัวเล็กเอาหน้ากลับเข้ามาในกล้องสักที เขาไม่ได้อยากเฟซไทม์มาเพื่อนั่งมองเพดานหรอกนะ

     

              " อะไรรรรร " ตอบรับพร้อมยื่นหน้าเข้าไปในเลนส์กล้องเพียงนิดหน่อย ทำให้คนตัวสูงเห็นเพียงแค่ดวงตาเรียวรีเท่านั้น

     

              ( พี่อยากมองหน้าเรานะ ไม่ได้อยากมองเพดานสักหน่อย )

     

              " " คนตัวเล็กไม่ตอบ แต่ขยับใบหน้าเข้าไปมากขึ้นเพื่อให้เห็นจมูกเล็ก ๆ ด้วย

     

              ( พั้มพ์ พั้มพ์ พั้มพ์ :D )

     

              " ไม่ต้องมายิ้มแบบนั้นเลยยยยยย "

     

              ( เราก็เอาหน้าเข้ามาให้หมดสิ )

     

              " เบื่อคนแก่ วุ่นวายจังเลย "

     

              ( ถ้าอยู่ใกล้ ๆ เราโดนพี่บีบแก้มย้วย ๆ นั่นแน่ )

     

         ปากกาที่ใช้ทำงานถูกวางลงอีกครั้งเมื่อเจ้าของหันเหความสนใจทั้งหมดไปที่โทรศัพท์มือถือ มือสวยหยิบมันยกขึ้นตั้งวางดี ๆ ให้กล้องกลับมาฉายภาพใบหน้าของเขาทั้งหมดอีกครั้ง ก่อนจะท้าวแขนไว้ที่คางและเล่นเกมส์จ้องตาไปกับอีกคน

     

              ( ตกลงเมื่อเช้าเราพูดว่าอะไรหรอ พี่ไม่ได้ยินจริง ๆ นะ )

     

              " จริงหรอ "

     

              ( อื้อ สงสัยมาทั้งวันเลย ไม่เป็นอันทำงาน จะโทรไปถามเราก็กลัวว่าจะกวน )

     

              " พอเลย ขี้โม้อ่ะ ! "

     

              ( น่าเสียดายจัง เฮ้อ .. )

     

         เสียงทุ้มเอ่ยพลางแสร้งทำใบหน้าเศร้า ก่อนจะถอนหายใจออกมาเสียงดังเพื่อแสดงความเสียดายออกมาอย่างสุดซึ้ง .. อือหือ แสดง แสดงมาก การกระทำเนี่ย ไม่ต้องเป็นแล้วมั้งช้งเชฟ ไปเป็นนักแสดงน่าจะรุ่งมากกว่า

     

              " น่าเชื่อมาก "

     

              ( เร็วสิ พี่รอฟังอยู่นะ )

     

              " อันนี้เชื่อเลย หูพี่ชานยอลขยายรอฟังมากเลยอ่ะ โห ๆ กางใหญ่แล้วนั่น " คนตัวเล็กพูดแหย่พร้อมยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กล้องและชี้ไปยังหูของอีกคน โดยที่ไม่รู้เลยว่าใบหน้าน่ารักที่ทำเป็นกวน โดนคนปลายสายแคปเก็บไว้ซะแล้ว

     

              ( เดี๋ยวจะโดน )

     

              " อยากฟังหรอ ? "

     

              ( ถ้าเราอยากพูดอีกสักทีน่ะนะ )

     

              " อืมมมมมมมม "

     

              ( แบคฮยอนอาาาา )

     

              " ฮ่า ๆ "

     

         เจ้าของเสียงหัวเราะและยอมเก็บความสนุกไว้ในใจ กระแอมไอหนึ่งครั้งก่อนจะทำท่าทางจริงจังจนคนที่มองอยู่เกือบจะหัวเราะออกมา ก็คนตัวเล็กทำอย่างกับว่ากำลังจะกล่าวสุนทรพจน์อย่างไรอย่างนั้น เก๊กหน้าซะนิ่งเชียว เว่อร์ไปมั้ยนั่น

     

              " เมื่อเช้า .. เราบอกว่า .. "

     

              ( อื้อ )

     

              " บอกว่า "

     

              " พี่ชานยอลหรอวะ "

     

              " อือ พี่ชานยอล .. ถุย " คนตัวเล็กยกมือขึ้นเกาหัวอย่างขำ ๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความหวานซึ้งที่นั่งสบตากันอยู่เมื่อสักครู่ หายวับไปทันทีเพราะเสียงทักของเซฮุน

     

              " อะไรวะ หยาบคาย .. พี่ชานยอล สวัสดีครับ "

     

              ( สวัสดีเซฮุน )

     

              " ดูจากหน้าตาของมึงกับพี่ชานยอลแล้ว .. คาดว่ากูคงมาขัดจังหวะอะไรสักอย่างแน่ ๆ "

     

              " รู้ก็ไปไกล ๆ ได้ละ " พูดพร้อมยกมือเล็กขึ้นดันหลังเพื่อนสนิทให้หลบออกไปจากห้อง แต่คนตัวสูงยื้อตัวเอาไว้ ก่อนจะยกมือขึ้นป้องปากยื่นหน้าไปใกล้กล้องแล้วพูดกับรุ่นพี่ด้วยเสียงเบา ๆ

     

              " ผมว่าพี่ควรหาวันหยุดแล้วกลับมาบ่อย ๆ นะ .. ไอแบคบ่นคิดถึงพี่อยู่ได้ น่ารำคาญมาก ว่าง ๆ ก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปดูนั่งเพ้อบ้าบอ ผมเริ่มกลัวมันแล้วนะเนี่ย "

     

              " มึงพูดอะไรน่ะ หะ "

     

              " เปล่า " คนตัวสูงส่งเสียงตอบอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะเดินหนีออกจากห้องไป ทิ้งให้คนอายุมากกว่าต้องโดนสอบสวนอยู่คนเดียว

     

              " เซฮุนบอกอะไรอ่ะ ทำไมถึงหัวเราะเสียงดังแล้วทำหน้าปลื้มปริ่มขนาดนั้น "

     

              ( เปล่าสักหน่อยนี่ )

     

              " พี่ชานยอลลลลลลลลลลล "

     

              ( คิดถึงพี่มั้ย ? )

     

              " ไม่ "

     

              ( เด็กขี้โกหก นิสัยไม่ดีไม่เล่าให้ฟังแล้วดีกว่า )

     

              " บังคับชัด ๆ เลย "

     

              ( พี่ส่งข้อความไปเราก็ไม่ตอบ .. พี่ไม่ชอบทำตัวเป็นเด็กหรอกนะ ไอสองตัวนั้นชอบล้อ แต่ตอนนี้จะงอนเราแล้วล่ะ L )

     

              " ฮ่า ๆ ดูทำหน้าสิ "

     

              ( L )

     

              " เราไม่ได้ตอบเพราะรู้ว่าเดี๋ยวก็คุยกันอยู่ดี "

     

              ( เดี๋ยวคุยกันก็เลยไม่คิดถึงหรอ ? )

     

              " เปล่า เราแค่อยากพูดให้ฟังมากกว่า เราคิดถึงพี่ชานยอล "

     

         พูดแล้วทำเป็นแลบลิ้นส่งไปให้แก้เขิน ถ้าบอกในเวลาปกติมันก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่นี่อีกคนเล่นมองมาที่เขาไม่วางตาแบบนี้ จะให้อยู่เฉย ๆ ได้ยังไงกันล่ะ ..

     

              " พอใจยังงงงงงงง "

     

              ( ฮ่า ๆ .. มีแรงทำงานทั้งอาทิตย์เลย J )

     

              " ดีมาก ขยัน ๆ ไว้นะน้อง "

     

              ( อนาคตจะได้ทำงานดี ๆ แล้วเลี้ยงเราได้ใช่มั้ย )

     

              " เลี้ยงไม่ไหวหรอก กินเปลือง "

     

              ( เราก็กินน้อยลงหน่อยสิ )

     

              " โธ่ พี่ชานยอลต้องบอกว่า ยังไงก็เลี้ยงไหวสิ จะได้ซึ้ง "

     

              ( อ้าวหรอ ฮ่า ๆ )

     

              " พูดแบบนี้อย่างกับจำใจต้องเลี้ยง "

     

              ( เพราะอยากเลี้ยงต่างหาก ถึงได้บอกให้เรากินน้อยลงไง พี่จะได้เลี้ยงไหว )

     

              " ตอบดีแบบนี้ให้สิบคะแนนเลย "

     

              ( คะแนนแลกเป็นอะไรได้บ้างครับ )

     

              " กลับมาแล้วจะบอกนะครับ J "

     

              ( เจ้าเล่ห์น้อยซะที่ไหนเนี่ย หื้มมมมม )

     

              " ไปนอนเลย เราจะทำงานต่อแล้ว .. ไม่เสร็จสักที "

     

              ( โอเคครับ )

     

              " บ้ายบายครับ "

     

              ( แบคฮยอนอา .. พี่รักเรานะ )

     

         เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบาพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้ามาจูบกล้องและกดวางสายไป ไม่ทันรอให้อีกคนได้ตอบอะไรกลับ แบคฮยอนนั่งกัดริมฝีปากล่างของตัวเองไว้ด้วยความเขิน ก่อนจะบังคับตัวเองให้เลิกนึกถึงเรื่องพวกนั้นสักทีเพราะถ้าขืนมัวแต่สนใจพี่ชานยอลอยู่อย่างนี้ เขาคงไม่มีการบ้านไปส่งแน่ ๆ

     

    .

    50 %

     

         ปาร์คชานยอลยืนทำงานมาราวแปดชั่วโมงได้แล้ว แต่มือหนายังคงถูกใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ อย่างขยันขันแข็ง ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพักเลยสักนิด คนตัวสูงกำลังคิดว่าถ้าได้ยืนทำงานอยู่เงียบ ๆ เหมือนกับทุกวันก็คงดี เพราะตอนนี้เสียงเจื้อยแจ้วข้างใบหูของเขามันชักจะน่ารำคาญขึ้นมาซะแล้ว

     

              " ที่สาขาโซลนะคะ แขกเยอะมาก ๆ เลย ในครัวนี่วุ่นวายไปหมด .. สาขานี้ดีนะคะ ถึงจะห้าดาวเหมือนกันแล้วก็เป็นเกาะท่องเที่ยว แต่ยังดูทำงานกันสบาย ๆ อยู่เลย "

     

              " … "

     

              " แถมอากาศที่นี่ก็ดีอีกต่างหาก ถ้าได้วันว่าง ๆ แล้วออกไปพักผ่อนคงดีไม่น้อยเลย "

     

              " … "

     

              " เอ .. หรือว่าฉันจะย้ายมาฝึกงานที่นี่ดี "

     

         ไม่ได้ฟังเลยสักนิด ชานยอลไม่รู้ตัวว่าเขาปล่อยให้เรื่องที่อีกคนกำลังพูดลอยเข้าหูซ้ายทะลุออกหูขวาไปอย่างเฉย ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนหน้านี้เขาพยายามจะฟังมันแล้ว แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ทำให้รู้สึกเบื่อมากอยู่ดี รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่เด็กสาวคนนั้นทักขึ้นมานั่นแหละ

     

              " พี่คะ พี่ฟังฉันอยู่หรือเปล่า ? "

     

              " … " อา .. ป่านนี้ตัวเล็กจะเข้าเรียนหรือยังนะ ทำไมถึงยังไม่ทักมาอีกล่ะ หรือว่ามัวแต่กินขนมจนเพลินอยู่

     

              " พี่คะ ? "

     

              "" ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ กลับไปคราวนี้เขาคงกอดอีกคนไม่ไหวแล้วแหง

     

              " พี่ .. ยิ้มอะไรน่ะ " หญิงสาวถามพลางชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของคนที่อายุมากกว่า คิ้วที่ถูกวาดขึ้นขมวดเข้าหากันอย่างสงสัยว่าทำไมอยู่ดี ๆ คนตัวสูงถึงได้ยิ้มออกมา ทั้งที่ยังไม่ทันได้เล่าอะไรตลกเลย

     

              " หะ "

     

              " พี่ .. ไม่ได้ฟังฉันเลยหรอคะ ? "

     

              " อ่า .. ฮเยริ พี่ว่าเธอน่าจะไปช่วยห้องเบเกอรี่นะ คนนวดแป้งน้อยน่ะ " พูดอึกอักอย่างรู้สึกผิดแล้วหันกลับมาสับกระเทียมบนเขียงต่อ

     

              " ฉันไม่อยากไปนี่คะ .. ให้ฉันช่วยพี่เถอะ สับกระเทียมฉันถนัดมากเลยนะ ! "

     

              " งั้นเราอยู่สับกระเทียมตรงนี้ได้ใช่มั้ย พี่สองคนจะได้ไปช่วยเขานวดแป้ง " เจ้าของประโยคพูดในขณะที่ขายาว ๆ พาตัวเองมาหยุดยืนข้างเพื่อนสนิท ก่อนจะพาดแขนไปบนไหล่

     

              " จะทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวหรอคะ ? "

     

         นักศึกษาฝึกงานชายทั้งสองคนหันไปสบตาและสื่อสารคำพูดกันผ่านทางสายตา ห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ติดกับสโตร์ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกเว้นว่างไว้เพื่อให้ผู้ช่วยใช้ตัดแต่งวัตถุดิบของเมนูอาหารต่าง ๆ ที่ต้องใช้เป็นจำนวนมาก อย่างที่ชานยอลกำลังสับกระเทียมกองพะเนินอยู่ ก็เพื่อส่งต่อไปให้ครัวร้อนนำไปใส่ในเมนูอาหารต่าง ๆ

     

         แถวนี้จึงไม่ค่อยมีคนมากนัก นาน ๆ จะมีเข้ามาสักคนสองคนเพราะเดินผ่านเข้าไปหยิบของในสโตร์ หรืออย่างมากก็อาจจะมีคนมายืนหั่นหอมใหญ่ หั่นแครอทอยู่ข้าง ๆ 

     

              " ถ้าอย่างนั้นเธอจะเอายังไงล่ะ ? "

     

              " นั่นสิ ไอยอลบอกให้เธอไปช่วยนวดแป้งเธอก็ไม่ไป บอกว่าถนัดสับกระเทียม พอจะให้อยู่สับกระเทียมก็มาคิดว่าพี่สองคนจะทิ้งซะอย่างนั้น " เด็กสาวแสร้งทำสีหน้าสลดลงอย่างเกรงใจ เลื่อนสายตาลงไปมองที่เท้าของตัวเองก่อนจะเอ่ยออกมาเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน

     

              " พี่ชานยอล .. อยู่เป็นเพื่อนฉันหน่อยสิคะ "

     

              " พี่มาฝึกงานในครัวนะ .. แล้วงานมันก็มากเกินกว่าจะมายืนเฝ้าใคร " กล่าวเสียงเข้มเพราะเริ่มรู้สึกไม่พอใจกับความคิดเด็ก ๆ ของอีกคน

     

              " ฉันรู้ค่ะ แต่ว่า "

     

              " เธอควรจะแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวให้ออกนะ " คิมจงอินพูดทิ้งท้ายไว้ ใช้มือหนาที่วางอยู่บนไหล่เพื่อนตบให้กำลังใจเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไปเพื่อปล่อยให้ทั้งสองได้พูดคุยกัน

     

              " "

     

              " เธอ .. "

     

              " ค่ะ ฉันชอบพี่ .. แล้วก็คิดว่าพี่ดูออก " เสียงหวานเอ่ยพลางเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายในฝันของเธออีกครั้งอย่างมีความหวัง

     

              " ก็ .. พอจะดูออก "

     

              " ถ้าอย่างนั้นแปลว่าพี่ไม่สนใจฉันใช่มั้ยคะ ? "

     

              " ต่อให้ไม่ใช่เธอ พี่ก็ไม่สนใจหรอก "

     

              " ทำไมล่ะคะ "

     

              " พี่ .. มีครอบครัวแล้ว "

     

              " อะไรนะ ! พี่โกหกให้มันเนียนกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือยังไง " ฮเยริพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความอารมณ์เสีย พี่ชานยอลเห็นว่าเขาโง่มากหรือยังไงถึงได้พูดอย่างนั้นออกมา

     

              " พี่มีครอบครัวแล้วจริง ๆ นะ "

     

              " หมายถึงมีภรรยาและลูก ? "

     

              " อื้อ "

     

              " ตลกนะคะ "

     

         มือหนายกขึ้นเกาต้นคอเพราะทำตัวไม่ถูก ชานยอลล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงใต้ผ้ากันเปื้อนหยิบไอพอดออกมา กดยุกยิกอยู่สักพักแล้วส่งไปให้คนอายุน้อยกว่าดู หญิงสาวตาเบิกโพลงอย่างตกใจเพราะรูปที่กำลังดูอยู่เป็นรูปที่คนตัวสูงกำลังอุ้มเด็กเล็กคนหนึ่งเอาไว้และที่ข้างกันก็มีคนตัวเล็กกว่านิดหน่อยยืนอุ้มเด็กอีกคนที่หน้าตาเหมือนกันเอาไว้เช่นกัน

     

              นั่นมันบ้ามากเลยนะ !

     

         ฮเยริมองสลับไปมาระหว่างภาพนั้นและคนตรงหน้า ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองแต่รูปนั้นมันก็ดูแฟมมิลี่มากจริง ๆ แถมยังดูน่ารักอบอุ่นมากอีกด้วย แต่ก็อย่างว่าเขาเจอพี่ชานยอลแค่เพียงไม่กี่ชั่วโมงยังชอบเลยแล้วคนอื่นที่เจอมาก่อนจะพลาดได้ยังไง ฮือ เสียดายชะมัด !

     

              " เชื่อหรือยัง ? "

     

              " ขนาดนี้แล้วฉันจะไม่เชื่อได้ยังไง .. เฮ้อ ครอบครัวพี่น่ารักดีนะคะ ดูอบอุ่นมากเลยถึงแม้ว่าเด็กแฝดทั้งสองคนจะหน้าตาไม่ค่อยเหมือนพี่เท่าไหร่ก็ตาม แต่ช่างเถอะ "

     

              " "

     

              " ฉันขอตัวไปช่วยห้องเบเกอรี่นวดแป้งก่อนนะคะ " ว่าแล้วโค้งตัวให้คนอาวุโสกว่านิดหน่อยก่อนจะเดินคอตกออกไป โดยไม่ทันมองคนผิวคล้ำอีกคนที่เดินสวนเข้ามา

     

              " ฮ่า ๆๆ เป็นไงล่ะ กูบอกแล้ว .. นี่ถ้ามึงบอกว่าแบคฮยอนเป็นแค่แฟน แล้วน้องเขารู้อีกว่าแบคฮยอนไม่ใช่ผู้หญิง มึงไม่รอดหรอก "

     

              " รู้ได้ไงวะกัมจง "

     

              " เขาไม่ได้ใสอย่างที่แสดงออกหรอก มึงก็น่าจะดูออก "

     

         แผนที่บอกว่าเขามีครอบครัวแล้วนั่นมันไม่ใช่ของเขาหรอก ไม่ใช่แน่ ๆ ความคิดพวกนั้นไม่เคยลอยมาอยู่ในหัวเขาเลยสักนิด เพราะมันดูบ้ามากเกินไป แต่เป็นเพราะคิมจงอินหันมากระซิบบอกเขาก่อนจะเดินออกจากห้องไปว่าให้ทำอย่างนั้นแล้วจะรอด เขาก็เลยลองเสี่ยงดูทั้งที่ไม่คิดว่ามันจะได้ผล .. แต่ก็อย่างที่เห็น ฮเยริบอกว่าครอบครัวของเขาน่ารักอบอุ่นซะด้วย

     

                ไม่รู้ว่าเขาแสดงเนียน
                หรือฮเยริอินเกินไปกันแน่
    ..


     

         เด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักคนนั้นชื่อฮเยริ จองฮเยริ เป็นหนึ่งในนักศึกษาฝึกงานที่เป็นตัวแทนได้เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับโรงแรมในเครือของแต่ละสาขา ตั้งแต่ได้เจอกันเมื่อเช้าฮเยริก็พูดจ้อไม่หยุดจนเขาเบื่อ และถึงแม้ว่าจะแสดงออกไปหลายต่อหลายครั้งแล้วว่าไม่สนใจ แต่เธอก็ยังไม่ยอมแพ้ไปสักที จนสุดท้ายได้วิธีช่วยของกัมจงนั่นแหละ เด็กคนนั้นถึงได้แยกตัวออกไปจากเขาสักที

     

              " กูไม่คิดว่าจะมีคนเชื่อ "

     

              " รูปนั้นน่ารักจะตาย .. ดูเป็นครอบครัว จนกูอยากให้แบคฮยอนเป็นผู้หญิงขึ้นมาเลย "

     

              " ไม่ใช่ก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ "

     

              " พูดจาแบบนี้แล้วจะอ้วกหวะ " พูดพร้อมใบหน้าแหย ๆ แล้วใช้ศอกดันแกล้งเพื่อนก่อนจะเดินออกไปจากห้องอีกครั้งเพื่อกลับไปทำงานของตน

     

         ชานยอลมองตามเพื่อนสนิทเดินออกไปจนพ้นสายตาและหันกลับมาเตรียมจะหยิบมีดขึ้นมาทำงานต่อ แต่เพราะไอพอดในกระเป๋าสั่นเรียกเขาซะก่อน ความสนใจทั้งหมดจึงหายวับไปอยู่กับมันทันที

     


              แบคฮยอนนี่ : Sent you a photo.

     

              แบคฮยอนนี่ : นี่ เป็นไง เราเก่งมั้ย


     

         นิ้วกดไปที่รูปบนหน้าจอเพื่อขยายให้ใหญ่ขึ้น แถบดาวน์โหลดแสดงขึ้นอยู่ครู่หนึ่ง รูปภาพที่อีกคนส่งมาก็ชัดเจนแก่สายตา สิ่งที่คนตัวเล็กภูมิใจอยากนำเสนอนักหนาจนต้องถ่ายรูปส่งมาก็คือ ชูว์ครีมที่ถูกจัดตัดแต่งเป็นรูปหงส์อย่างสวยงาม

     

         เทอมนี้แบคฮยอนได้ลงเรียนวิชาเบเกอรี่พื้นฐานที่ดูเหมือนว่าจะสนใจมากเป็นพิเศษ สังเกตได้จากการถ่ายรูปส่งมาอวดเขาทุกครั้งที่ได้เข้าเรียน แบคฮยอนดูมีความสุขมากแต่คนตัวสูงไม่แน่ใจในเหตุผลเท่าไหร่ว่าเป็นเพราะอีกคนชอบทำหรือว่าชอบกิน

     


              ชานยอล : สวยนะ

     

              ชานยอล : แต่อาจารย์สอน ก็ทำได้ทุกคนอยู่แล้วนี่นา

     

              แบคฮยอนนี่ : พี่ชานยอลอ่ะ L

     

              แบคฮยอนนี่ : วันหลังเราจะไม่ถ่ายรูปมาให้ดูแล้ว

     

              ชานยอล : ล้อเล่นหรอกนะ :D

     

              ชานยอล : เราบีบสวยออก ขนาดชูว์กำลังดีเลย ถ้าเล็กกว่านี้คงตัดตัวหงส์กับปีกไม่สวยหรอก

     

              ชานยอล : ทำครั้งแรกด้วย เก่งจะตาย

     

              ชานยอล : แฟนใครก็ไม่รู้ J

     

              แบคฮยอนนี่ : คิดว่าพูดจาแบบนี้แล้วจะยกโทษให้ง่าย ๆ หรอ L

     

              ชานยอล : อา .. ถ้าอย่างนั้นทำยังไงดีล่ะ

     

              แบคฮยอนนี่ : วันนี้ไม่ต้องโทรมาเลย

     

              ชานยอล : จริงอ่ะ ?

     

              ชานยอล : พี่ว่าจะถามสักหน่อยว่าอาทิตย์นี้เลือกหยุดวันไหนดี

     

              ชานยอล : ถ้าตัวเล็กงอนแบบนี้ ไม่กลับโซลดีกว่า

     

              แบคฮยอนนี่ : ไม่เอานะ !

     

              แบคฮยอนนี่ : กลับสิ ๆๆ

     

              ชานยอล : วันไหนดีครับ ? J

     

              แบคฮยอนนี่ : วันเสาร์กับอาทิตย์

     

              ชานยอล : เราอยากไปไหนหรอ ?

     

              แบคฮยอนนี่ : ไว้คุยกันเย็นนี้เราจะบอกอีกทีนะ ตอนนี้ต้องไปบีบไส้เอแคลร์แล้ว

     

              แบคฮยอนนี่ : บ้ายบาย

     

              ชานยอล : บาย

     

              แบคฮยอนนี่ : ไม่เหนื่อยนะ สู้

     


         รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนริมฝีปากหยักอยู่แล้วถูกยกขึ้นให้กว้างขึ้นกว่าเดิมเมื่อได้อ่านข้อความที่แสดงอยู่ตรงหน้า มือหนาเก็บไอพอดใส่ลงในกระเป๋าตามเดิม หยิบมีดขึ้นมาและสับกระเทียมบนเขียงตามหน้าที่ของตัวเองต่ออย่างอารมณ์ดี

     

              แหม จะว่าไป ..
              
      กระเทียมมันก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย

     

    .

     

         ร่างเล็กกลิ้งไปมาบนเตียงนอนในขณะที่ถือโทรศัพท์เครื่องแพงแนบหูเอาไว้ เพราะรอสายใครบางคนอยู่ ใครบางคนที่เริ่มทำให้เขาอารมณ์ไม่ค่อยดี ก็โทรออกไปตั้งหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้รับการตอบรับจากปลายสายเลยสักครั้ง ไม่รู้ว่ามัวแต่ทำอะไรอยู่ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ไม่คิดถึงกันบ้างเลยหรือยังไงนะ ! L

     

    ( ฮัลโหล )

     

              " โอโห รับโทรศัพท์ช้ามากเลยยยยยย "

     

              ( เก็บร้านอยู่น่ะสิ )

     

              " บอกแล้วไงให้หาลูกจ้าง "

     

              ( ไม่เหนื่อยสักหน่อย )

     

              " ลืมไปแล้วมั้ง ว่ามีลูก "

     

              ( อ้าว นี่ฉันไม่ได้โสดอยู่หรอกหรอ โถ เผลอให้เบอร์หนุ่มไปแล้วทำยังไงดีล่ะ )

     

              " แม่ "

     

              ( ฮ่า ๆ ว่าไงลูกชาย โทรมามีอะไรสำคัญหรือเปล่า )

     

              " ไม่มีอะไรสำคัญมาก นอกจากคิดถึงแล้วก็จะบอกว่าวันเสาร์นี้จะกลับไปหา พาพี่ชานยอลไปด้วยนะ "

     

              ( จริงหรอ ? ดีเหมือนกัน ไม่ได้เจอหน้าตั้งนานแล้ว .. ตั้งแต่เขามาซื้อดอกลิลลี่วันนั้นก็หายไปเลยนะ )

     

              " เขาไปฝึกงานอ่ะ .. หะ ดอกลิลลี่อะไรหรอ ? "

     

              ( อ้าว นี่เราไม่รู้หรอ ว่าพี่เขามาซื้อดอกไม้ที่ร้านแม่ )

     

         สิ้นเสียงผู้เป็นแม่ คิ้วบางก็ขมวดเข้าหากันพลางนึกย้อนไปถึงวันที่ได้รับดอกไม้จากคนตัวสูง เขาไม่รู้เลยว่าดอกไม้เป็นของที่ร้าน อาจเป็นเพราะมัวแต่สับสนกับเรื่องพวกนั้นอยู่เลยไม่ทันได้สังเกต นี่เขาไปซื้อที่ร้านแม่มาเลยหรอ ?

     

              " เพิ่งรู้นะเนี่ย แสดงว่าแม่เป็นคนบอกความหมายเขาน่ะสิ "

     

              ( ใช่ ลูกเขยฉันน่ารักไม่ใช่เล่นเลยนะ )

     

              " ผมก็ว่าอย่างงั้นแหละ ฮิฮิ "

     

              ( น้อย ๆ หน่อยค่ะลูก )

     

              " ฮ่า ๆ "

     

              ( วันเสาร์เจอกันนะแบคฮยอน .. เดี๋ยวแม่ไปเก็บร้านต่อก่อน จะได้รีบกลับบ้าน )

     

              " ครับ .. คิดถึงแม่น้า "

     

              ( รักลูกจ๊ะ )

     

         หลังจากผู้เป็นแม่กดวางสาย คนตัวเล็กก็ทิ้งโทรศัพท์มือถือลงบนเตียงทันที สายตาเหลือบไปมองเวลาบนนาฬิกาเหนือโทรทัศน์ก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะสองทุ่มแล้ว ซึ่งมันน่าเบื่อเป็นบ้าเพราะเขาไม่มีอะไรให้ทำ เซฮุนก็ไม่อยู่ให้กวนเพราะออกไปเล่นเกมส์กับจงแดและซูโฮ ส่วนคนรักของเขายิ่งไม่อยากจะพูดถึง กว่าจะโทรมาก็คงสามสี่ทุ่มเพราะต้องรอจัดการหน้าที่ตัวเองให้เรียบร้อยซะก่อน

     

    Rr rr r.

     

              " ฮัลโหล ! ทำไมวันนี้โทรมาเร็วจังเลยล่ะ "

     

              ( ไม่ดีหรอ ? )

     

              " ดีสิ แต่เราสงสัยไง "

     

              ( เลิกเร็วน่ะ ก็เลยรีบกลับมาอาบน้ำแล้วก็โทรหาเรา )

     

              " กินข้าวหรือยัง " สบตาถามอีกคนและค่อย ๆ ยันตัวเองขึ้นจากที่นอน ย้ายไปเอนหลังพิงกับหัวเตียงแทน

     

              ( กินแล้วครับ )

     

              " แล้ววันนี้เหนื่อยมั้ยครับ ? "

     

              ( ตัวเล็กกกกกกกกกกกกก )

     

         คนปลายสายตอบประโยคของเขาด้วยการเรียกคำแทนชื่ออย่างงอแง แล้วก้มหน้าลงฟุบไปกับโต๊ะหนังสือของตัวเอง ทำเอาคนที่ฟังอยู่ถึงกับงงว่าเขาเผลอทำอะไรผิดไป

     

              " พี่ชานยอลเป็นอะไรหรือเปล่า ? "

     

              ( เราถามประโยคนั้นแล้วจะมาทำหน้าแบบนั้นไม่ได้หรอกนะ )

     

              " อ้าว ทำไมล่ะ .. เราก็ทำหน้าปกตินี่นา "

     

              ( เรากำลังจะทำให้พี่เกเร ไม่อยากไปทำงานแล้วบินกลับโซลแทน )

     

              " ฮ่า ๆ .. เด็กน้อยนี่นา "

     

         คนตัวเล็กหลุดหัวเราะออกมาอย่างเอ็นดู ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าคนปลายสายอายุมากกว่าก็ตาม ปาร์คชานยอลก็แค่แพ้ใบหน้ากับน้ำเสียงน่ารักที่แสดงถึงความเป็นห่วงของคนรักเท่านั้นเอง

     

              ( คิดถึงเราจัง )

     

              " เราเล่นของใส่พี่ชานยอลแหละ แต่ไม่คิดว่ามันจะได้ผลเร็วขนาดนี้ "

     

              ( จริงหรอ ? ถอนออกบ้างเถอะ พี่ว่ามันมากไปแล้วนะ )

     

              " ฮ่า ๆ "

     

              ( วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้าง กินเอแคลร์กับชูว์ไปจนหมดเลยหรือเปล่า ? )

     

              " หมดเลย ของเซฮุนด้วย "

     

              ( กลับไปนอนกอดคราวนี้ แขนพี่คงโอบรอบตัวเราไม่ได้แล้วล่ะ )

     

              " ไม่ขนาดนั้นสักหน่อย ! L "

     

              ( J )

     

              " เราเก็บไว้ให้พี่ชานยอลด้วยล่ะ แต่เป็นไส้รสกาแฟนะเพราะเราว่ามันหวานน้อยกว่าตัวที่เป็นคัสตาร์ดอ่ะ กินเยอะก็ไม่น่าจะเลี่ยน "

     

              ( ขอบคุณครับ )

     

              ( แบคฮยอนหรอวะ ใช่ป่ะ .. อันย้องงงงงงงง )

     

         มือเล็กยกขึ้นโบกกลับไปให้รุ่นพี่ผิวเข้มที่จู่ ๆ ก็โผล่เข้ามาในกล้อง จงอินหันไปกระซิบอะไรสักอย่างใส่หูเพื่อนตัวเองแล้วหันมายิ้มที่คิดว่าหวานส่งมาให้คนตัวเล็ก ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้คนที่นั่งมองอยู่ได้แต่มองตามไปอย่าง งง ๆ

     

              ( พี่มีเรื่องจะเล่าให้เราฟังด้วยล่ะ )

     

              " หื้อ เรื่องอะไรหรอ ? "

     

              ( อ่า .. วันนี้ที่โรงแรมเขาจัดกิจกรรมพิเศษ รวมตัวแทนนักศึกษาฝึกงานของแต่ละสาขาเป็นกลุ่มแล้วพามาดูงานแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันที่สาขาที่พี่ทำอยู่ )

     

              " อื้อ "

     

              ( แล้วก็มีน้องผู้หญิงคนหนึ่ง .. ชื่อฮเยริ เขาทำตัวแปลก ๆ ตั้งแต่มาเลยแหละ แบบมาชวนคุยทำตัวติดกับพี่ตลอดเวลาจนน่าเบื่อเลย )

     

              " อ่าฮะ "

     

              ( คุยกันไปคุยมาก็รู้ว่า .. )

     

              " เขาชอบพี่ชานยอลหรอ ? "

     

              ( อื้อ .. ชอบไปได้ยังไงก็ไม่รู้ )

     

              " แล้วยังไงต่อ "

     

              ( พี่ก็บอกให้เขาเข้าใจว่าพี่รับความรู้สึกดี ๆ พวกนั้นไว้ไม่ได้ )

     

              " "

     

              ( เพราะว่า .. พี่มีครอบครัวแล้ว )

     

              " หะ ! "

     

         ตาเล็กเบิกกว้างด้วยความตกใจเพราะสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่ ภายในหัวนึกย้อนถึงประโยคนั้นวนไปวนมาซ้ำ ๆ เพื่อแปลความหมายของมัน

     

              ( ไอจงอิน บอกว่าให้บอกอย่างนั้นน่ะสิ )

     

              " ฮ่า ๆ .. จริงหรอ คิดได้ยังไงเนี่ย แล้วเขาจะเชื่อหรือไง "

     

              ( พี่ก็คิดเหมือนเรา แต่เขาดันเชื่อ )

     

              " หะ .. นี่เราต้องตกใจอีกกี่รอบเนี่ย "

     

              ( หลายเลยแหละ .. เขาเชื่อจริง ๆ นะ เพราะพี่เปิดรูปวันที่เราสองคนไปช่วยกันเลี้ยงน้องแฝดให้ข้างห้อง ให้เขาดู เออ แล้วเขาก็เชื่ออ่ะ )

     

              " เห้ย แบบนี้เขาก็คิดว่าเราเป็นผู้หญิงหรอ ? "

     

              ( น่าจะใช่นะ ฮ่า ๆ )

     

         คนตัวสูงหลุดหัวเราะออกมาบ้างเมื่อนึกไปถึงใบหน้าเหวอ ๆ และความเข้าใจผิดของเด็กสาวคนนั้น คงเป็นเพราะในรูปแบคฮยอนหน้าหวานแล้วก็ตัวเล็กมากเมื่อเทียบกับเขา เลยทำให้เป็นสาเหตุของความเชื่อผิด ๆ พวกนั้นเกิดขึ้น

     

              " โอโห ไม่อยากจะนึกภาพตอนตัวเองคลอดน้องแฝดเลย "

     

              ( เราไม่คิดมากเลยหรอ ? )

     

              " เรื่องที่มีผู้หญิงเข้ามาหาพี่ชานยอลหรอ "

     

              ( อื้ม )

     

              " ไม่หรอก .. ก็เจอกันแค่วันเดียวเองนี่ แต่ถ้าเป็นคนที่ฝึกงานด้วยกัน เราคิดมากแน่ L "

     

    ( ถ้าอย่างนั้นน่าจะฝึกงานที่เดียวกัน )

     

              " ทำไมล่ะ อยากให้เราคิดมากหรือไง "

     

              ( พี่อยากเห็นเราหวงพี่น่ะ ไม่เคยเห็นเลย )

     

              " เราไม่คิดว่าพี่ชานยอลจะอยากเห็นหรอก "

     

              ( น่ากลัวหรอ )

     

              " ไม่รู้สิ เรานิสัยไม่ค่อยดีนะ เราอาจจะหนีออกมาเงียบ ๆ โดยไม่ฟังคำอธิบายเลยก็ได้ "

     

              ( ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นมา เราต้องฟังพี่นะ .. เพราะพี่มั่นใจว่าตัวเองมีคำอธิบายที่ไม่ใช่คำแก้ตัวแน่ ๆ )

     

              " เราก็เชื่อพี่ชานยอลตลอดนั่นแหละ "

     

              ( ประโยคนั้น น่ารักนะ J )

     

    " แล้ว .. พี่ชานยอลอยากมีครอบครัวจริง ๆ หรือเปล่า "

     

              ( อยากสิ )

     

              " เราหมายถึง .. มีลูกด้วยน่ะนะ "

     

         ถามด้วยน้ำเสียงที่เบาลงนิดหน่อยเพราะแอบหวั่นใจกับคำตอบ เรื่องนี้มันค่อนข้างละเอียดอ่อนทั้งสำหรับตัวเขาเองและคนรัก ถึงใจจะอยากคบกับพี่ชานยอลไปตลอด แต่ก็แอบอยากปล่อยให้อีกคนไปมีภรรยาและลูกเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์อยู่เหมือนกัน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าพี่ชานยอลต้องเป็นสามีที่ดีแล้วก็เป็นพ่อที่น่ารักมากแน่ ๆ

     

              ( เอาหัวมาให้ลูบหน่อยสิเด็กแสบ )

     

              " "

     

              ( ให้ตอบตามจริงพี่ก็ต้องอยากมีอยู่แล้ว .. ไม่ได้จะพูดเอาใจเราหรอกนะ แต่ถ้าไม่ใช่แบคฮยอนหรือลูกที่มาจากแบคฮยอน พี่ก็ไม่ได้อยากมีหรอก )

     

              " "

     

              ( สองคนก็เป็นครอบครัวได้นะ รู้หรือเปล่าพั้มพ์ ? J )

     

              " เฮ้อ "

     

              ( อ้าว ทำไมเราถอนหายใจอย่างนั้นล่ะ )

     

              " ทำไมเราต้องรักพี่ชานยอลมากแบบนี้ด้วยเนี่ย แย่ชะมัด L "

     

         บ่นกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจแล้วฟุบหน้าลงกับโต๊ะเพื่อซ่อนใบหน้าหวานที่แก้มกำลังเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง คนตัวสูงนั่งมองคนรักด้วยรอยยิ้มที่กว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะพูดตอบกลับไป

     

              ( พี่ก็รักเรามากเหมือนกัน .. จริง ๆ ตั้งใจไว้แล้วนะว่าจะไม่พูดบ่อยเพราะกลัวมันจะดูไม่มีค่า )

     

              " "

     

              ( แต่เราก็ทำให้พี่อดพูดไม่ได้ทุกทีเลย )

     

              " เราชอบฟังจะตายยยยยยย "

     

              ( พี่รักเรานะ )

     

              " อ่าฮะ "

     

              ( พี่รักเรานะ )

     

              " อ่าฮะ "

     

              ( พี่ .. )

     

              " พี่ชานยอล กวนหรือเปล่าเนี่ย หื้มมมมมมม "

     

         ถามออกไปแก้เขินพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ กล้องแล้วหรี่ตาใส่ จนชานยอลชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าใครกันแน่ที่กำลังกวน

     

              ( เราต่างหากที่กวน )

     

              " ไปเตรียมแผนงานของพรุ่งนี้เลย "

     

              ( ก็ได้ )

     

              " วันเสาร์เจอกันนะ J "

     

              ( ครับ )

     

              " เอาแก้มมาใกล้ ๆ กล้องหน่อยสิ "

     

              ( หื้อ )

     

              " ขอหอมที "

     

              ( ทำไมแสบแบบนี้เนี่ย )

     

              " ว้าย คนแก่เขินล่ะ หูแดงด้วยนั่น จุ้บ "

     

         คนตัวเล็กหัวเราะคิกคักไม่หยุดจนกระทั่งกดวางสาย เขาต้องรีบชิงวางก่อนสิเพราะไม่อย่างนั้นมีหวังได้โดนคนปลายสายแกล้งอะไรกลับคืนมาแหง

     

         แบคฮยอนหยัดตัวลุกขึ้นจากเตียงหลังจากตัดสินใจจะเปิดโน้ตบุ๊คเล่นเกมส์แก้เบื่อ แต่พอหย่อนก้นลงบนเก้าอี้เขาก็ต้องหันกลับมาสนใจโทรศัพท์มือถือในมืออีกครั้ง เพราะแรงสั่นแจ้งเตือนข้อความเข้า นิ้วเรียวกดเข้าไปและใช้สายตาอ่านเพียงไม่นานก็เผยรอยยิ้มกว้างออกมาบนริมฝีปากอย่างดีใจ

     

     

     

    มีข่าวดีมาบอกลูกชาย
    พี่โซยูกลับมาวันศุกร์นี้พอดี

    และเขาก็จะมาทานข้าววันเสาร์กับเราด้วย

    เจอกันนะจ๊ะ ..

     

    บยอนฮเยซอน

     

     

     

     

             

     

     

     

     

     

     

     

     

     








     

    _______________

     


    รูปที่นางตั้งดิสไลน์ อิอิ



    ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้วเนอะ ฮ่า
    เอแคลร์อันยาว ชูว์อันสั้นนะแก

     

    แล้วก็ชูว์รูปสวอนที่น้องแบคทำ



    ก็อย่างที่คุณแม่บอกนั่นแหละค่ะ
    แล้วเจอกันนะจ๊ะ 
    :D
    ปาร์คชานนางเพ้อไปแล้ว ช่วยด้วย

    ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ 

    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×