ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    . Special one ♡ ( chanbaek )

    ลำดับตอนที่ #1 : . 00 .

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 5.15K
      26
      11 พ.ค. 58

    . 00 .


     

     


        บยอน แบคฮยอนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยโซล คณะบริหาร สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร

     

    " วันนี้กินอะไรดีวะมึง "


    " ร้านหน้าคอนโดปะ ขี้เกียจไปไกลหวะ "


    " เชฟครับ เรียนเชฟนะครับ ไม่คิดจะทำอาหารแดกเองบ้างหรอครับ "


    " ขี้เกียจจะตายยยยยยยยย "


    " เตาคอนโดเรานี่ใหม่มากเลยนะเว้ยแบคฮยอน "


    " มึงอยากทำ ก็ทำสิครับ กูจะได้กินด้วย "

       

         เซฮุนเป็นรูมเมทของแบคฮยอน เป็นเพื่อนหนึ่งในไม่กี่คนในวิทยาลัยนี้ พอดีอยู่ห้องเดียวกัน รู้จักกัน บ้านอยู่ไกล ต่างคนต่างหาเพื่อนอยู่หอ ก็เลยตกลงมาอยู่ด้วยกันที่คอนโดใกล้ ๆ มหาวิทยาลัย 

     

    " ตกลงว่าไง จะทำอะไรกินมั้ยมึงอ่ะ ถ้าไม่ ก็ออกไปกินร้านหน้าคอนโดกับกู " ผมหันไปถามเซฮุนที่มัวแต่ยืนเล่นโทรศัพท์ ไม่ขยับตัวไปทำอะไรซักที


    " เออ ไปดิ กูก็ขี้เกียจทำ "


    " โถ แล้วมึงจะพูดเพื่อ ? "

       

         แบคฮยอนและเซฮุนเป็นคนโสดทั้งคู่ เซฮุนนี่โสดแบบมีคนคุยอยู่ตลอด แต่ไม่เลือกใคร ส่วนแบคฮยอน เรียกว่าโสดแบบไม่ได้ตั้งใจในทีแรก แต่ตอนนี้ตั้งใจจะโสดแบบจริงจังไปแล้ว เพราะโดนทิ้ง เพิ่งจะทำใจได้ไม่นาน ประสบการณ์การเสียใจที่ผ่านมาทำให้รู้สึกว่า กูอยู่คนเดียวดีที่สุด ชีวิตดีไม่ต้องสนใจใคร อยากทำอะไรก็ทำ มีเวลาเป็นของตัวเอง ทำในเรื่องที่จำเป็นอย่างเต็มที่มากขึ้น

     

    " พรุ่งนี้มีงานอะไรต้องส่งมั้ยวะ "


    " มีพรีเซนต์ภาษาอังกฤษ "


    " ไอสาดดดดด กูอยู่กลุ่มมึงใช่มั้ยเพื่อนรัก มึงทำยัง "


    " จะเสร็จละ " ผมพูดก่อนจะหันไปจ่ายเงินค่าข้าวให้ป้าที่ยกข้าวมาเสิร์ฟผมสองคน หลังจากที่ผ่านไปประมาณยี่สิบนาทีได้ ป้านี่ทำช้าเสมอต้นเสมอปลายเลยนะครับ


    " เยี่ยมเลยเพื่อน เดี๋ยวกูพรีให้ "


    " แน่นอน กูไม่มีทางทำสไลด์แล้วพรีเซนต์ด้วยหรอก "

     

         ก็เพราะโดนทิ้งบวกกับความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากยิ่งขึ้นนั่นแหละเลยส่งผลให้ แบคฮยอนสนใจเรียนขึ้นมาก มากจนได้คะแนนมากที่สุดในห้องไปโดยไม่ได้ตั้งใจ


    .

    " อาทิตย์นี้ทำเมนูอะไรวะ "


    " ไม่รู้หวะ ยังไม่ได้ดู "

     

         แบคฮยอนและเซฮุนกำลังหยิบเสื้อครัวแขนยาวสีขาวมาใส่ พร้อมกับนำผ้ามาผูกที่คอ เพื่อเตรียมเรียนในคาบบ่าย วันนี้เขามีเรียนเดโม่ ซึ่งเป็นคาบที่ให้เราเข้าไปศึกษา เรียนรู้วิธีการทำเมนูอาหารก่อนที่จะต้องลงมือทำเองในคาบที่เข้าครัวจริง ๆ วันถัดไป ถึงแม้คาบนี้จะไม่ได้เข้าไปทำอาหารกับมือ แต่กฎการแต่งกายของวิทยาลัยก็ยังบังคับให้นักศึกษาเข้าเรียนวิชานี้ด้วยการใส่ชุดครัวอยู่ดี

     

    " แบคฮยอน "


    " ครับ " ผมส่งเสียงตอบรับอาจารย์ที่กำลังเรียกชื่อนักศึกษาแต่ละคนเพื่อเช็คการเข้าเรียน


    " อ่ะ  มาเริ่มเลยละกัน อาทิตย์นี้หลายเมนูอยู่ "


    " อ้าว เค้าเปลี่ยนพี่ทีเอทำไมวะ "


    " เออ ช้าสัด เลื่อนกล้องก็มั่วไปหมด " ผมบ่นกับเซฮุนด้วยความรำคาญความช้าและวุ่นวายของพี่ทีเอคนใหม่

     

         พี่ทีเอ คือ รุ่นพี่ที่อาจารย์เรียกมาเพื่อช่วยงานอาจารย์ในขณะที่สอน การทำอาหารหลาย ๆ เมนูพร้อมกัน แน่นอนว่าไม่มีทางที่จะทำคนเดียวได้ ยิ่งเวลามีจำกัดแบบนี้ ยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ทำให้จำเป็นต่อการมีผู้ช่วย

     

    " ทีเอ ขอ strainer หน่อย แล้วก็เอาปลาหมึกนี่ไปหั่นใส่จานส่งไปให้น้องดูด้วย "


    " เอ่อ strainer … อ๋อ " พี่ทีเอยืนงงกับคำว่า strainer นิดหน่อยก่อนจะหันไปหยิบกระชอนส่งให้อาจารย์ อาจารย์เลิกคิ้ว มองการทำงานของพี่ทีเอคนนั้นด้วยท่าทางที่ไม่ค่อยพอใจ คนเป็นเชฟต้องคล่องตัวนะ รู้ยัง 


    " ไหวมั้ยวะ "


    " เออ  จริง ๆ กูก็จำชื่ออุปกรณ์ได้ไม่หมดหรอกนะ แต่เบสิกแบบนี้มันก็ควรจะจำได้ปะวะ "


    " นั่นดิ เรียนปีสามแล้วด้วย น่าจะชินกับอุปกรณ์ได้แล้ว "


    " เออ เห็นแล้วรำคาญ เดี๋ยวลงไปช่วยอาจารย์แทนแม่.งเลย "


    " ใจเย็นครับเพื่อนฮุน "

     

         หลังจากที่อาจารย์สาธิตวิธีการทำเมนูที่พวกเราต้องทำครบหมดแล้ว แน่นอนว่าอาหารที่อาจารย์สาธิตให้ดูก็ต้องมาตกอยู่ในท้องของนักศึกษาอย่างพวกผมเนี่ยแหละ ตอนนี้เพื่อน ๆ ทุกคนถือช้อนกันคนละคัน ยืนรุมโต๊ะเหมือนซอมบี้ใน walking dead ไม่มีผิด แต่อย่าไปว่าเขาเลยครับ เพราะผมก็เป็นหนึ่งในซอมบี้พวกนั้นเหมือนกัน

     

    " โห อร่อยหวะ "


    " ปลาหมึกอย่างนุ่ม "


    " หมูที่ยัดไส้ก็โคตรเวิร์ค นี่ขนาดปรุงไปแค่นิดหน่อยเอง "


    " เออ เด็ดสัด วันศุกร์เราจะทำได้แบบนี้มั้ยวะ "


    " ต้องได้ดิเพื่อน "


    " มึงเป็นฮอต ทุกอย่างอยู่ที่มึง "


    " มึงเป็นบูชเชอร์ มึงก็มีสิทธิ์จะทำพังนะครับ "


    " ทุกหน้าที่ก็สำคัญหมดปะ "


    " เออ แล้วมึงจะมาพูดว่าอยู่ที่กูทำไมล่ะครับคุณโอ "

     

         หน้าที่ในครัว โดยทั่วไปจะขึ้นอยู่กับโรงแรมว่ากำหนดให้มีกี่ฝ่าย แต่ที่วิทยาลัยนี้ แบ่งแบบคร่าว ๆ ซึ่งมีอยู่สามฝ่ายคือ ฮอต โคล และบูชเชอร์ ฮอตคือคนที่มีหน้าที่ทำทุกอย่างที่เกี่ยวกับเตาและความร้อน โคลมีหน้าที่ทำอะไรที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์และของร้อน ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือพวกหั่นผัก ทำสลัด ส่วนบูชเชอร์มีหน้าที่ทำทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเนื้อ

     

    " อาจารย์ ทำไมอยู่ ๆ เอาพี่คนนี้มาเป็นทีเออ่ะ ผมปวดหัวมากเลยเนี้ย " ผมเดินเข้าไปคุยกับอาจารย์ที่นั่งเช็ครายชื่ออะไรซักอย่างอยู่


    " แก้ขัด จงฮยอนมันไม่อยู่ เดินไปเจอเลยลาก ๆ มา ไม่คิดว่าจะอึน "


    " แสดงว่าคราวหน้าก็ไม่ใช่คนนี้แล้วใช่มั้ยครับ "


    " อืม คงไม่ใช่แล้วล่ะ "


    " ค่อยยังชั่ว " เซฮุนเดินเข้ามากอดคอผมแล้วพูดกับอาจารย์


    " งั้นพวกผมกลับก่อนนะครับอาจารย์ "


    " อืม ๆ กลับบ้านกันดีดี "


    " สวัสดีครับบบบบบบบบบบบ " ผมสองคนโค้งให้อาจารย์แล้วเดินไปหยิบกระเป๋า เดินออกจากห้องเพื่อกลับคอนโด สงสัยวันนี้คงไม่ต้องหาข้าวกินแล้วล่ะ กินที่อาจารย์ทำมาซะอิ่มเลย ประหยัดด้วยอร่อยด้วย ชีวิตดีไปอีก ฮิฮิ 


    .

     

         ปาร์ค ชานยอลเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 ของวิทยาลัยโซล คณะบริหาร สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร

     

    " ไปไหนต่อปะวะหรือมึงกลับห้องเลย "


    " เออ เดี๋ยวกลับเลย อยากกลับไปนอน "


    " ไม่ไปกินข้าวด้วยกันก่อนวะ "


    " ขี้เกียจ ไปละมึง "

     

          ปาร์คชานยอลเป็นผู้ชายที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูง ชอบอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียวเพราะมันสะดวกดี แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดตัดขาดออกจากสังคม มีไปสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้างแต่ในเวลาเลิกเรียนแบบนี้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุด ก็น่าจะเป็นการนอน ไม่ใช่หรอ


         แล้วด้วยความที่โลกส่วนตัวสูงนั่นแหละ เลยทำให้เขาพักอยู่ที่ห้องคนเดียวที่คอนโดใกล้ ๆ กับวิทยาลัย ไม่มีเมท ไม่มีใครทั้งนั้น คนเดียวล้วนล้วน ยิ่งเรื่องแฟน ไม่ต้องถามเลย เหตุการณ์ที่โดนทิ้งยังฝังใจไม่หาย บอกตรง ๆ ว่าเข็ด ขออยู่คนเดียวดีกว่า


    " โอ่ยยยยยยยยยยย " ชานยอลล้มตัวลงนอนบนเตียงทันทีที่กลับถึงห้อง และเพราะความเหนื่อยเลยทำให้เขาอยากนอนพักมากกว่าที่จะไปหาอะไรกิน แต่นอนไปได้ไม่เท่าไหร่ ก็ 

     

    Rr rr r.


    " ฮัลโหลครับ "


    ( ชานยอล พรุ่งนี้ตอนเช้าว่างหรือเปล่า )


    " ว่างครับ พรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน "


    ( เออ ดีเลย พรุ่งนี้เข้ามาช่วยอาจารย์เตรียมของหน่อยนะ )


    " ได้ครับ "


    ( ขอบใจมาก )

     

         ไม่รู้ว่าบังเอิญเก่ง เป็นคนคล่องตัว มีน้ำใจ หรือว่างกันแน่ ที่ทำให้เขาได้มีโอกาสไปช่วยงานอาจารย์อยู่บ่อย ๆ จนเป็นที่รู้จักของอาจารย์หลายท่าน วันดีคืนดี ก็อย่างที่เห็นอาจารย์โทรมาตามให้ไปช่วยจัดของบ้าง ไปเป็นทีเอบ้าง แล้วแต่คนจะขาด จะว่าดีมันก็ดีนะ แต่มันก็เหนื่อย เฮ้อ  เอาวะ ถือว่าได้ประสบการณ์ละกัน !


    .


         ผมเอื้อมมือไปคว้านาฬิกาปลุกที่หัวเตียงทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา ตอนนี้หกโมงกว่า ๆ แล้ว ผมน่าจะหลับไปตั้งแต่ประมาณห้าโมงได้ ชั่วโมงเดียวเองแฮะ ตื่นมาแล้วก็ไม่รู้จะทำอะไร ว่าง ๆ เลยตัดสินใจเดินไปเปลี่ยนชุดเพื่อลงไปฟิตเนสข้างล่าง

     

    " อ้าว ชานยอล "


    " อ้าว พี่มินซอก สวัสดีครับ " ผมพูดสวัสดีพี่มินซอกพร้อมกับก้มหัวแสดงความเคารพ พี่มินซอกเป็นรุ่นพี่ที่ผมค่อนข้างสนิท ถึงแม้เขาจะไม่ได้เรียนที่วิทยาลัยเดียวกับผมก็ตาม แต่เพราะมาเจอกันที่ฟิตเนสบ่อย ๆ  พอคุยกันแล้วถูกคอ ก็เลยสนิทกัน


    " เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้เจอหน้าเลยนะชานยอล "


    " พอดีช่วงนี้อยู่ช่วยงานอาจารย์บ่อยหนะครับ "


    " เหนื่อยแย่เลยสิแบบนี้ "


    " ไม่หรอกครับ ผมว่ามันก็สนุกดี "

     

         ผมออกกำลังกายและคุยกับพี่มินซอกไปได้ซักพัก ก็ต้องขอตัวออกมาก่อนเพราะท้องร้องโครกครากด้วยความหิว ก็ตั้งแต่กลับมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยซักนิด แถมยังลงมาฟิตเนสอีก ชานยอลเดินมายืนรอลิฟท์พลางใช้ความคิดในหัวไปด้วยว่าจะทำอะไรกินที่ห้อง หรือออกไปหาอะไรกินข้างนอกดี ยืนรอไม่นานลิฟท์ก็ลงมาถึงชั้นหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเพราะลิฟท์มันคุณภาพต่ำหรือคนข้างในคุยเสียงดังเกินไปกันแน่ เขาถึงได้ยินเสียงคนเถียงกันอยู่ในลิฟท์ตั้งแต่ประตูมันยังไม่ทันได้เปิดแบบนี้

     

    " มึงแม่.งโคตรช้าเลยไอฮุน กูหิวนะ "


    " บ่นมากจังวะ ก็ถ้าไม่ซักผ้าตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วอ่ะ "


    " สมน้ำหน้า จะหมกไว้ทำไมเล่า "


    " พูดมาก ไปไป "

     

         สองคนนั้นยืนเถียงกันจนประตูลิฟท์เปิดออก เซฮุนรีบพูดตัดบทสนทนาแล้วดันแบคฮยอนที่ทำหน้าบูดอยู่ออกจากลิฟท์ ชานยอลหันไปมองตามเด็กหนุ่มสองคนนั้นนิดหน่อย ' ตัวก็เล็กนิดเดียว แต่เสียงดังชิบเป๋ง  ก่อนจะไหวไหล่แล้วเดินเข้าลิฟท์ไป

     

    Rr rr r.


    " ว่า "


    ( มึงงงงงงงงงงงงง กินข้าวหรือยังงงงงงงงง )


    " ถามเสียงธรรมดาก็ได้มั้งไอลู่ "


    ( ธรรมดาก็ไม่ใช่พี่ลู่หนะสิ งิงิ )


    " กูกำลังคิดอยู่ว่าจะกินอะไรดี "


    ( ไม่ต้องคิดแล้ว ออกมากินกับพวกกูเลย ๆ )


    " มึงอยู่ไหน กินอะไรกัน "


    ( อยู่ร้านอูด้ง ร้านเดิม )


    " กินอีกละ ไม่เบื่อหรือไง "


    ( บ่นเป็นคุณลุงอีกแล้วนะมึงอ่ะ ออกมาเลย ๆ กูอยู่กับไอจงอิน )


    " เออ ๆ ก็ได้ "

     

         ยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะกินอะไรดี เพื่อนรักทั้งสองก็ตัดสินใจให้ผมซะเรียบร้อยแล้ว อูด้งก็อูด้งวะ ร้านนั้นก็อร่อยดี อยู่ไม่ไกลด้วย หลังจากตกลงกับตัวเองได้แล้ว ชานยอลก็คว้าโทรศัพท์มือถือกับกระเป๋าสตางค์ก่อนจะเดินออกจากห้อง แล้วไปยังร้านอูด้งทันที


    .

    " ฮัลโหล พิชาน ทางนี้ครับเพื่อน " ลู่หานยืนขึ้นกวักมือเรียกชานยอลทันทีที่เห็นว่าเพื่อนเดินก้าวเท้าเข้ามาในร้าน


    " ไอลู่ ชานยอลมันเห็นแล้ว มึงนั่งเหอะ กูอายชาวบ้าน " คิมจงอินหันไปบ่นใส่ลู่หานทันทีที่มันพูดจบก่อนจะรีบดึงให้นั่งลงด้วยความอาย ที่มันตะโกนเรียกเพื่อนตัวสูงซะเสียงดัง


    " มึงแม่.งเว่อร์ "


    " มึงมากกว่าปะวะที่เว่อร์ "


    " เออ มึงอ่ะเวอร์ไอลู่ " ชานยอลที่เดินมาถึงโต๊ะพอดี ระหว่างที่เพื่อนสนิทสองคนกำลังเถียงกันอยู่ ทำให้เขาได้ยินบทสนทนาเมื่อซักครู่ชัดเจนเลยพูดสมทบไปกับจงอินด้วย เพราะไอลู่มันเว่อร์จริง ๆ จะตะโกนเรียกทำไม กูก็เห็นมึงแล้วมั้ยเพื่อนรัก แค่กำลังเดินไป


    " แค่นี้ก็ต้องว่าด้วย สั่งอูด้งเลย ๆ "


    " เออ ๆ "

     

    ชานยอลมีเพื่อนสนิทอยู่ทั้งหมดสองคนถ้วน สนิทแบบสนิทจริง ๆ มีอะไรก็คุยกันทุกเรื่อง คนหนึ่งเป็นหนุ่มชาวจีน ตัวเล็ก หน้าหวานจนทั้งผู้ชายหรือผู้หญิงที่เจอแทบจะยื่นใบให้มันลาออกจากการเป็นผู้ชายกันเลยทีเดียว ปากก็เอาแต่บอกว่าตัวเองแมน แต่จริง ๆ แล้วลู่หานก็ไม่ได้แมนเลยนะ ออกจะงุ้งงิ้งด้วยซ้ำ รู้สึกเหมือนมีเพื่อนเป็นผู้หญิงแบบที่ไม่เรื่องมากมากกว่า ส่วนอีกคนหนึ่งเป็นหนุ่มเกาหลีคมเข้ม ไม่ใช่หล่อคมเข้มนะครับ ผิวมันหนะเข้ม ( ฮ่า ๆ ) คิมจงอินก็ไม่มีอะไรมาก เป็นเพื่อนปกติทั่วไป พิเศษแค่ตรงที่บางครั้งไม่ต้องพูดอะไร ผมกับมันก็เข้าใจความคิดของกันแล้วซะงั้น ซึ่งผมถือว่ามันดีนะ


    .


              " กลับดีดีนะมึง พรุ่งนี้เจอกัน " จงอินหันมาพูดกับผมตอนที่เราเดินมาถึงหน้าร้าน กำลังจะแยกย้ายกันกลับหอตัวเอง


              " เออ มึงก็ไปส่งไอลู่ให้ถึงที่นะ คนแมนเขากลัวววววว "


              " ไม่ต้องกวนตีนก็ได้มั้ยล่ะ "


              " โทษทีฮะพี่ลู่ "


              " กลับดีดีเหอะมึงอ่ะ "


              " เออบาย เจอกัน "

        

         หลังจากแยกย้ายกับเพื่อนทั้งสองคน ผมก็เดินกลับคอนโดเลย ไม่ได้ไปแวะที่ไหนต่อเพราะความขี้เกียจที่มีมากล้น กลับไปนั่งดูบอลสบาย ๆ ที่ห้องดีกว่า


         ชานยอลเอามือล้วงกระเป๋าหยิบคีย์การ์ดขึ้นมาสแกนเพื่อเปิดประตูเข้าไปที่ล็อบบี้ แล้วเดินตรงไปยังลิฟท์ที่อยู่ชั้นหนึ่งอยู่แล้ว คนตัวสูงเดินเข้าไปก่อนจะเอื้อมมือเตรียมกดปิด แต่ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาซะก่อน

             

    " รอด้วยครับ ไปด้วยยยยยยยยยยยยยย ! "


    " แฮ่ :D " ยืนรอไม่นานคนตัวเล็กก็รีบวิ่งมาพร้อมกับกอดตะกร้าใส่ผ้าที่อบแล้วไว้ที่อก ยิ้มให้คนที่กดลิฟท์รอนิดหน่อยก่อนจะเดินเข้ามา แล้วทำท่าจะปล่อยมือจากตะกร้าที่สามารถใส่คนที่ถือลงไปได้ทั้งตัว เพื่อกดชั้นที่ต้องการจะขึ้น


    " ชั้นไหนครับ เดี๋ยวผมกดให้ "


    " ชั้นหกครับ  ขอบคุณครับ "

     

         ไม่ว่าจะเป็นคนตัวสูงที่เพิ่งกินข้าวอิ่มมาหรือคนตัวเล็กที่ยืนกอดตะกร้าอยู่ ต่างก็ไม่ได้สังเกตด้วยกันทั้งคู่ ว่าผู้ชายที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ตัวเองนั้นเป็นคนที่เดินสวนกันเมื่อตอนเย็น คนที่ยืนซื้อหมูปิ้งข้างกันเมื่อตอนเช้า แล้วก็เป็นคนที่นั่งตรงข้ามกันในห้องสมุดเมื่อวาน แต่เพราะเรียนอยู่ที่เดียวกัน พักอยู่ที่เดียวกัน มันก็เลยดูไม่แปลก


         แต่ใครจะไปรู้ มันอาจไม่ใช่เพียงความบังเอิญธรรมดา

     

     

     

     

     

    _______________
     

    ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
    รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์
     

    O W E N TM.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×