คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : . 03 .
. 03 .
เซฮุนนั่งเอามือท้าวคางไว้บนโต๊ะกระจกใสที่อยู่ในล็อบบี้ของคอนโด พร้อมกับมองแบคฮยอนด้วยสายตา … เบื่อหน่าย เด็กหนุ่มตัวสูงไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของเขาต้องลงมานั่งทำงานที่ล็อบบี้ ทั้ง ๆ ที่งานนั้นไม่จำเป็นต้องอาศัย wifi ของคอนโดด้วยซ้ำ
" ทำไมมึงต้องแบกโน้ตบุ๊คลงมาทำงานข้างล่างด้วยวะ "
" ทำไมเล่า "
" ก็กูไม่เห็นความจำเป็นอ่ะ งานนี้มันไม่ได้ต้องใช้เน็ตไม่ใช่หรอไง "
" เห้ย มันก็ต้องใช้ แต่ใช้น้อยเฉย ๆ "
" หรอ "
" ก็บอกแล้วไม่ต้องตามลงมา มึงก็ไม่เชื่อเองอ่ะ "
" ให้กูอยู่คนเดียวได้ไงวะ กูเหงานะเว้ยยยยยย ! "
แบคฮยอนเหลือบตามองเพื่อนของตัวเองนิดหน่อย ก่อนจะกลับมาสนใจทำงานที่ค้างไว้ต่อ หลังจากนั้นไม่นานเซฮุนก็เริ่มรู้สึกว่า บ่นแบคฮยอนไปก็คงช่วยอะไรไม่ได้ เขาเลยนั่งเล่นโทรศัพท์ไปแบบเงียบ ๆ คนตัวเล็กนั่งทำงานตั้งแต่กลับมาจากวิทยาลัยจนเวลาล่วงเลยมาเกือบสองทุ่มแล้วก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จซักที
" มึง กูหิวแล้วอ่ะ "
" มึงก็ไปหาอะไรกินดิ "
" มึงไม่หิวหรอไง "
" เฉย ๆ หวะ ยังไม่หิว "
" โธ่ ไปกินข้าวกันเถอะแบคฮยอนนนนนนน "
" โธ่ มึงก็ไปกินสิเพื่อน "
" ไม่เอา ไม่อยากไปคนเดียว "
เพราะแบคฮยอนนั่งทำงานหันหน้าเข้าหาประตูทางเข้าของล็อบบี้ เลยทำให้เห็นตลอดว่าใครเข้าใครออก อย่างตอนนี้เขาก็เห็น คนที่เป็นเหตุผล ให้ต้องแบกคอมลงมานั่งทำงานข้างล่างแล้วล่ะ เด็กหนุ่มตัวสูงเดินเข้ามาในล็อบบี้แล้วเดินตรงไปกดลิฟท์ก่อนจะขึ้นไปบนห้อง โดยไม่ได้สนใจสภาพแวดล้อมรอบข้างใด ๆ เลย แบคฮยอนกดเซฟงานแล้วพับโน้ตบุ๊คลงปิด ก่อนจะเอื้อมมือไปเขย่าแขนเซฮุน
" ปะมึง ไปกินข้าวกัน ! "
" หะ … งานเสร็จแล้วหรอ "
" เออ เสร็จแล้ว ไปเหอะ กูหิวววววววว "
" อะไรของมึงวะ เมื่อกี้ยัง … "
คนตัวสูงมองเพื่อนของตัวเองด้วยความมึนงง ก่อนจะโดนฉุดแขนให้ลุกขึ้น ลากไปที่ลิฟท์เพื่อนำโน้ตบุ๊คขึ้นไปเก็บที่ห้องแล้วค่อยออกไปทานข้าว แต่ถึงจะงง เซฮุนก็ยอมทำตามแบคฮยอนอยู่ดี เพราะตอนนี้เขาหิวมากกว่าจะมาอยากรู้อะไรทั้งนั้นแหละ
.
" แบคฮยอน "
" หื้อ "
" จะไปไหนอ่ะ "
" ล็อบบี้ "
" ไปอีกละ เมื่อวานก็แบกโน้ตบุ๊คลงไปนั่งทำงานข้างล่าง "
" ก็คยองซูมันทำงานอยู่ข้างล่าง เลยเรียกกูลงไปนั่งเป็นเพื่อน "
" อ๋อออออออออออ "
" มีอะไรสงสัยอีกมั้ยครับคุณโอ "
" ไม่มีแล้วครับ เชิญครับ "
" ขอบคุณครับ "
ผมพูดพร้อมกับก้มหัวให้เซฮุนด้วยเป็นการกวนตีนที่มันยิงคำถามใส่ผมไม่ยั้ง ก็เข้าใจว่ามันคงดูแปลก ๆ บ้างแหละ เพราะปกติผมลงไปนั่งล็อบบี้ที่ไหนล่ะ กลับมาจากวิทยาลัยก็ขึ้นห้องไปนอนเปื่อยทุกวี่ทุกวัน … แล้วคยองซูก็ไม่ได้ชวนผมลงไปนั่งเป็นเพื่อนหรอก แต่เมื่อกี้คุยกันแล้วมันบอกว่าทำงานอยู่ข้างล่าง ก็เลยเสนอตัวลงไปนั่งเป็นเพื่อน ฮิฮิ
" อันย้องงงงงงงงง "
" แหมะ มาเร็วเคลมเร็วจริง ๆ "
" Sure ! "
" แล้วทำไมวันนี้เกิดจะอยากลงมานั่งเป็นเพื่อนกูล่ะ ปกติเห็นขี้เกียจจะแย่ "
" ว่างอ่ะดิ ไม่มีอะไรทำ "
คยองซูพยักหน้ารับกับสิ่งที่ผมพูด แล้วก็นั่งทำงาน คยองซูเป็นเพื่อนที่ผมรู้จักตอนเรียนปรับพื้นฐานตั้งแต่เข้ามาเรียนที่วิทยาลัยนี้ใหม่ ๆ ถือว่าเป็นเพื่อนคนแรกเลยก็ว่าได้ นิสัยมันกับผมคล้ายกันหลายอย่างเลยทำให้เรายังคุยแล้วก็สนิทกันเหมือนเดิมถึงแม้จะไม่ได้เรียนคลาสเดียวกัน
ถึงผมกับคยองซูจะนั่งอยู่ด้วยกันแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรกันมาก ส่วนใหญ่มันจะนั่งจดจ่ออยู่กับงานมากกว่า ในขณะที่ผมสอดส่องหา คนที่เป็นเหตุผล ให้อยากลงมานั่งล็อบบี้อยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเขากลับมาหรือยัง ตอนที่ผมลงมาก็ทุ่มกว่าแล้ว พี่เขาอาจจะขึ้นห้องไปแล้วก็ได้มั้ง
" แล้วช่วงนี้ว่างแล้วหรอ ถึงลงมาฟิตเนสเกือบทุกวัน "
" ครับ ใกล้จะสอบแล้ว ก็เลยไม่ค่อยมีงานอะไร "
" งั้นไว้วันไหนไปกินสเต็กกันซะหน่อยดีกว่า "
" โห ผมกำลังอยากกินเลย "
" ฮ่า ๆ เดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง "
โต๊ะที่คยองซูนั่งทำงานเป็นโต๊ะที่ตั้งอยู่เยื้องกับลิฟท์ แล้วผมก็นอนทับแขนตัวเองหันไปทางฝั่งนั้นพอดี เลยเห็นผู้ชายตัวเล็กแต่กล้ามโตคนหนึ่งกับผู้ชายตัวสูงที่ผมตั้งใจลงมานั่งรอเขา เดินคุยกันมาจนถึงลิฟท์ก่อนจะกดลิฟท์แล้วขึ้นไป … อยากรู้มั้ยว่าผมจะทำอะไรต่อ ก็วิ่งไปดูสิครับว่าเขาไปชั้นไหน จะรออะไรล่ะ
" เห้ย ไอแบคไปไหน " คยองซูตะโกนถามขึ้นมาตอนที่ผมลุกขึ้นวิ่งมาที่หน้าลิฟท์แล้ว ก็เลยไม่ได้ตอบอะไรมันกลับไป
" ชั้นสาม "
" ทำอะไรของมึงวะ "
" เปล่า มิมีอะไร … กูขึ้นห้องก่อนนะคายองงงงงง "
" เออ โอเค ว่าง ๆ มึงไปเช็คสมองบ้างนะ "
" เหงาได้แต่ไม่ต้องคิดถึงกูมากนะ จุ้บ "
" มึงไปเถอะ กูจะอ้วก "
" ฮ่า ๆ ไฟท์ติ้งงงงงงงง ! "
.
และแล้ววันพุธที่ผมรอคอยก็มาถึง เฮ้ จะว่าไปก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าอยากให้ถึงวันพุธเพราะอยากกินของอร่อย ๆ ฝีมืออาจารย์หรือว่าอยากเจอใครกันแน่ …
" ทำหน้าระรื่นเชียวนะคุณบยอน "
" อะไรรรรรรร ยังไม่ได้ทำเลย "
" วันนี้มึงไม่ต้องเศร้านะ "
" เศร้าเรื่อง ? "
" ก็อาทิตย์หน้าจะสอบแล้ว อาทิตย์นี้อาจารย์สอนแต่ทฤษฎี คนที่มึงอยากเจอเขาอาจจะไม่มาอ่ะดิ "
" เออจริงด้วยหวะ "
" แหนะ แสดงว่ามึงอยากเจอจริง ๆ "
" คิดเองดิ โตแล้ว " ผมตอบเซฮุนพร้อมกับยักไหล่ส่งให้มันแล้วเดินเข้าห้องเรียนเดโม่ไป
พี่เขาไม่มาจริง ๆ ด้วย ก็อย่างที่เซฮุนบอกอาทิตย์หน้าพวกผมต้องสอบปฏิบัติกันแล้ว อาจารย์เลยแค่ทบทวนเทคนิค วิธีการทำของเมนูต่าง ๆ ที่มีสอบให้ ซึ่งมันก็ไม่ได้มีมากมายถึงขนาดต้องมีใครมาช่วย คลาสนี้เลยมีแค่อาจารย์แจซอกคนเดียวเดี่ยว ๆ
.
ผมกำลังรู้สึกว่าตัวเองอาจจะเป็นโรคจิตที่ลงมานั่งล็อบบี้ทุกวันแบบนี้ บางทีมันก็ไม่ได้ตั้งใจนะ แค่นึกถึงเฉย ๆ แต่พอรู้ตัวอีกทีก็ดันกดลิฟท์ลงมาซะแล้ว สงสัยว่าผมจะชอบเขาเข้าจริง ๆ แล้วล่ะ ว่าแต่ทำไมที่ฟิตเนสไม่มีคนเลยล่ะ ปกติเขาต้องลงมาแล้วสิหรือว่าวันนี้จะกลับช้า ในหัวผมคิดไป ขาก็พลางเดินออกมาตามทางออกฝั่งฟิตเนสที่ทะลุไปถึงลานจอดรถ ยืนหันซ้าย หันขวาก็ไม่เห็นวี่แววของใคร เลยตัดสินใจจะกลับขึ้นไปนอนบนห้อง
แต่ระหว่างที่คิดอยู่นั้น สายตาก็พลันเหลือบไปเห็นผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งผลักประตูบันไดหนีไฟออกมา โอ้ะ นั่นพี่เขานี่นา ! ชิบละ ทำไงดีวะ ผมยืนหันซ้ายหันขวาไปมาเพราะไม่รู้จะย้ายตัวเองไปอยู่ตรงไหนดี พอหันไปมองเขาอีกทีก็เหมือนว่าจะมองมาทางนี้ด้วย ผมรีบหันหลังแล้วเดินย้อนกลับไปเพื่อจะเข้าประตู แต่ความคิดหนึ่งก็แว้บเข้ามาในหัว ' นี่มันเป็นโอกาสที่จะได้ทักแล้วนะแบคฮยอน จะหนีไปเฉย ๆ หรอ แถวนี้ก็ไม่มีคนเลยนะ ! ' ฮือ จริงด้วย เอาไงดีวะ
" อ้าวพี่ ทำไมวันนี้ไม่เห็นเข้าคาบเดโม่เลยอ่ะ "
" หะ … อ๋อ ก็วันนี้มันไม่ได้มีอะไรไม่ใช่หรอ "
" อ๋อ เพราะมีแต่ทฤษฎีใช่ปะ " ผมตัดสินใจหันไปยิงคำถามใส่เขาทันทีก่อนที่ความกล้าของตัวเองจะหายไป พี่ชานยอลทำหน้างงนิดหน่อยที่อยู่ ๆ ผมก็เข้าไปทักแบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังตอบคำถามตามปกติ ระหว่างที่ตอบคำถามพี่เขาเดินไปด้วยเลยทำให้ตอนนี้ทั้งผมและเขามายืนอยู่หน้าฟิตเนสซะแล้ว
" อืม "
" เออพี่ ผมมีปัญหาแหละ จะสอบแล้วแต่ผมยังตีมายองเนสไม่ค่อยขึ้นเลย ทำไงดีอ่ะ "
" อืมมม … แล้วตอนที่ตีในห้องเป็นยังไงบ้างล่ะ "
" มันก็ข้นอยู่นะ แต่ตั้งยอดไม่ถึง 10 วิอ่ะ "
" หรอ … ตอนที่พี่สอบพี่เอา Bowl กับ Whip แช่เย็นก่อนใช้นะ มันช่วยได้ "
" จริงดิ "
" อืม ความเย็นมันช่วยให้แข็งตัวเร็วขึ้น "
" แล้วถ้าตอนสอบทำสต็อกปลาก่อน ต้มไข่ กรูตองขนมปัง เบสิกคัดติ้งแครอทแล้วค่อยมาตีมายองอ่ะ ผมเรียงแบบนี้โอเคปะ "
" อืม ก็ประมาณนั่นแหละ … โทษนะ " พี่ชานยอลตอบคำถามผมก่อนจะขอโทษ แล้วยกเท้าขึ้นมาวางตรงที่ผมนั่งอยู่เพื่อผูกเชือกรองเท้า
" ครับ "
" แล้วนี่สอบวันไหน "
" วันศุกร์ครับ "
" ศุกร์บ่ายหรอ "
" ศุกร์เช้า ๆ "
" อ๋อ ก็ลองดูละกัน สู้สู้นะ "
" ขอบคุณครับ :D "
ผมกล่าวขอบคุณแล้วลุกขึ้นเดินเข้ามาในล็อบบี้ รีบกดลิฟท์ ขึ้นห้องทันที โอ้ยยยยย ด้วยความสัตย์จริงเลยนะ ! ผมแทบไม่รู้ตัวเลยอ่ะว่าพูดอะไรไปบ้าง พี่เขาตอบอะไรมาบ้าง มันเบลอ ๆ แบบบอกไม่ถูก ห่างหายจากความรู้สึกแบบนี้ไปนานมาก พอกลับมารู้สึกอีกครั้งแล้วมัน … เขินจังเลยอ่ะ ฮ่า ๆ
" อารมณ์ดีอะไรมาวะ "
" หื้อ :D "
" เป็นบ้าอะไรเนี่ย แบคฮยอน "
" หื้อ เปล่า :D "
" เกิดอะไรขึ้นบอกกูมาเดี๋ยวนี้นะ ! "
" อ้ากกกกก ปล่อยก่อน เดี๋ยวเล่าโว้ย " ผมโวยวายเพราะเซฮุนพูดแล้วเดินเข้ามาล็อกคอ มันไม่ได้เจ็บหรอกนะ แต่มันจั๊กจี้อ่ะ
" อ่ะ เล่า "
" กูไปคุยกับพี่เขามา "
" หะ ! "
" เออ ไปคุยกับเขามา … ตอนแรกกูจะลงไปส่องเฉย ๆ แต่ไม่เจอ กำลังจะขึ้นแล้วแต่พี่เขามาพอดี กูก็เลยเข้าไปคุยอ่ะมึง ฮือ น่ารัก "
" น่ารักอะไรวะ "
" พี่เขาบอก สู้สู้นะ ด้วยอ่ะ กูปลื้มปริ่มมาก "
" มึงเว่อร์มาก … นี่อย่าบอกนะ ว่าที่ลงไปล็อบบี้ทุกวัน "
" เออใช่ กูลงไปส่องเขานั่นแหละ (._.) "
" … "
" ไปไหนอ่ะฮุน ไม่ฟังกูแล้วหรอ เห้ยยยยยยย ! " หลังจากผมบอกว่าลงไปส่องพี่เขา มันก็เดินหนีเข้าห้องนอนไปเลย อะไรหงะ อุตส่าห์จะเล่าแบบละเอียดซะหน่อย แต่ไม่ฟังก็ไม่เป็นไรหรอก พี่เก็บไปฟินคนเดียวก็ได้ ฮิฮิ
.
แบคฮยอนไขกุญแจเปิดเข้ามาในห้อง พร้อมกับเซฮุนที่เดินเข้ามาแล้ววางกระเป๋า กระโดดไปนอนบนโซฟาด้วยความง่วง คนตัวเล็กเก็บกระเป๋าของเพื่อนขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะแล้วเดินไปดันขายาว ๆ ของเซฮุนให้หลบเพื่อเขาจะได้นั่งลงบ้าง
" วันนี้ไม่ลงไปล็อบบี้หรือไง "
" ไม่ลง ลงทุกวัน เขาก็รู้หมดดิ "
" โห ลงไปสามวันละ เพิ่งจะคิดได้ "
" เห้ย อย่าว่ากูดิ ! " ผมไม่พูดเปล่า ใช้มือตีที่ขาเซฮุนไปด้วย
" ไปนั่งที่อื่นเลย กูจะนอน "
" อะไรวะ แม่.งงงงงงง "
ถึงแบคฮยอนจะบ่นที่เพื่อนของเขาพูดแบบนั้น แต่สุดท้ายก็ยอมลุกไปนั่งที่อื่นอยู่ดี คนตัวเล็กไม่รู้จะทำอะไรก็เลยเดินไปล้างจานที่กองอยู่ซะเลย พอไม่ลงไปนั่งรอมันก็แอบรู้สึกแปลก ๆ เหมือนกันแฮะ เฮ้อ … มากไปแล้วมั้ง ความรู้สึกเนี่ย มากไปแล้วมั้งแบคฮยอน
.
" ถ้างั้นวันนี้มึงก็ไปค้างห้องกูเลยละกัน "
" เออดี ๆ จะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมา กูขี้เกียจ "
" แล้วมึงอ่ะ จะนอนเปล่าไอลู่ "
" ไม่นอน … วันนี้กูจะไปแฮงค์เอ้าท์กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนเก่า "
" พรุ่งนี้เรียนเช้านะเว้ย อย่ามัวแต่เพลิน "
" กูรู้หรอกหน่า กูเป็นคนมีความรับผิดชอบ ไม่เหมือนมึงซะหน่อย "
" อ้าว ๆ กวนตีนละไอลู่ "
" ไม่เถียงกันซักวันจะตายมั้ย มึงสองคนเนี่ยยยยย "
" ว่าดำสิมันชอบปากเสียอ่ะ "
" จะนอนก็ไปกลับไปเอาเสื้อผ้าไปมึงอ่ะ "
" เออ ๆ เจอกัน "
ชานยอลพูดจบก็ยกมือบ้ายบายเพื่อนทั้งสองคน ที่ต้องแยกกันตั้งแต่หน้าวิทยาลัยเพราะหอมันสองคนดันอยู่ฝั่งนู้น ต้องข้ามถนนใหญ่ไป แล้วอย่าหวังเลยว่าผมจะไปกับมัน ขี้เกียจจะตาย กลับไปนอนที่ห้องดีกว่าเยอะ
.
ผมเอื้อมมือไปหยิบไอพอดระหว่างที่กำลังดูทีวีอยู่เพราะมีเสียงแจ้งเตือน จะใครล่ะ ก็ไอจงอินเพื่อนที่แสนดีของผมนั่นแหละ มันมาถึงแล้วแต่เข้ามาไม่ได้เพราะล็อบบี้ต้องใช้คีย์การ์ดสแกนก่อนประตูถึงจะเปิด มันก็เลยไลน์มาสั่งผมแบบนี้
อินอิน : ลงมาเปิดประตูดิ้
อินอิน : ไวไวหน่อยเพื่อน
อินอิน : เร็วให้มันเหมือนตอนไปแดกเหล้าหน่อยได้มั้ยวะ
อินอิน : ไอสาดดดดดดดดดด !
จงอินไลน์มาหาผมไม่หยุดไม่หย่อน ผมเปิดอ่านแล้วขำอยู่ซักพักแต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร แล้วลุกเดินออกจากห้องเพื่อลงไปเปิดประตูให้มัน ผมเดินลงมาทางบันไดหนีไฟเพราะห้องผมอยู่ใกล้ แล้วอีกอย่างห้องก็อยู่แค่ชั้นสาม ไม่รู้จะใช้ลิฟท์ไปทำไม เดินซะหน่อยถือว่าออกกำลังกายไปในตัวด้วย
แต่พอลงมาถึงข้างล่างผมเดินมาจนถึงประตูเข้าล็อบบี้ก็ไม่เห็นมันอยู่ ไอพอดก็ไม่ได้หยิบลงมาซะด้วย หรือจะมีคนเข้าออกพอดีมันเลยเข้าไปแล้ว คิดได้ดังนั้นผมเลยสแกนบัตรเดินเข้าไปในล็อบบี้ เดินมากดลิฟท์ขึ้นห้องเผื่อว่ามันจะขึ้นไปแล้ว ระหว่างรอลิฟท์ผมก็หันไปมองรอบข้าง เลยเห็น อ้าว น้องตัวเล็กคนนั้นนี่นา !
" สอบเป็นไงบ้าง "
" อ้าวพี่ วันนี้สอบแล้วนะ " ผมกับน้องเขาหันมามองหน้ากัน แล้วพูดขึ้นมาพร้อมกันพอดี ผมเลยยิ้มนิดหน่อยก่อนจะรอคำตอบจากเขา
" ก็โอเคนะ ตีมายองทัน พอดีพี่ทีเอเขามาช่วยตอนสุดท้ายอ่ะ "
" ทีเอมาช่วยได้ด้วยหรอ "
" ไม่รู้อ่ะ ก็เขาเดินมาช่วย … ตอนผมเข้าห้องไปนะ กำลังจะเอา bowl กับ whip ใส่ตู้เย็นเลยอ่ะ แต่ว่าตู้เย็น … "
" ไอเหี้ย กูหามึงตั้งนาน "
" กูก็หามึงตั้งนาน … กูว่าละว่ามึงต้องอยู่ข้างบน "
" มึงรู้ได้ไง "
" กูเลี้ยงกุมาร "
คุยกับน้องเขายังไม่ทันจบ ลิฟท์ที่ผมกดไว้ก็ดันมาซะก่อน เปิดมาพร้อมเพื่อนผิวคล้ำที่ผมกำลังหาอยู่ด้วย ผมเลยหันไปคุยกับมัน ไม่ได้สนใจน้องเขาเลย ไม่รู้ว่ามันจะดูเสียมารยาทหรือเปล่า ตอนที่ลิฟท์กำลังจะปิดผมหันไปมองน้องเขาอีกที เห็นน้องเขามองมาผมก็เลยยิ้มให้นิดหน่อย อ่า … จะเห็นหรือเปล่านะ ยิ้มให้ช้าไปหน่อย โทษทีนะน้อง
.
" ไม่รู้อ่ะ ก็เขาเดินมาช่วย … ตอนผมเข้าห้องไปนะ กำลังจะเอา bowl กับ whip ใส่ตู้เย็นเลยอ่ะ แต่ว่าตู้เย็น … "
" ไอเหี้ย กูหามึงตั้งนาน "
" กูก็หามึงตั้งนาน … กูว่าละว่ามึงต้องอยู่ข้างบน "
" มึงรู้ได้ไง "
" กูเลี้ยงกุมาร "
โอ้โหเลย ผมนี่โอ้โหเลย พูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำลิฟท์ที่พี่เขากดไว้ก็เปิดออกพร้อมกับเพื่อนของเขา ทำไมทำกับผมแบบนี้ล่ะ นี่ผมคิดไว้ว่าพูดประโยคนี้จบผมจะขอไลน์เขาละนะ ฮือ แล้ววันอื่นมันจะบังเอิญแบบนี้อีกมั้ยอ่ะ แล้วผมจะกล้าแบบนี้อีกมั้ย พี่ด้ามมมมมม ! ทำไมทำแบบนี้ล่ะ ฮือฮือ
ด้วยความโมโหผมเลยลุกขึ้นแล้วดึงปลั๊กที่ชาร์ตแบตโทรศัพท์อยู่หน้าลิฟท์ออก เดินไปกดลิฟท์แรง ๆ เพื่อขึ้นไปโวยวายใส่ไอ้ฮุน บ้าเอ้ย !
" ไอเหี้ยฮุนนนนนนนนนนน ฮือ "
" เห้ย เป็นอะไรวะ " เซฮุนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ได้ยินผมเรียกก็รีบวางโทรศัพท์แล้วลุกขึ้นเดินมาจับไหล่ผมแล้วถามทันที
" ฮืออออออออ "
" ใครทำอะไรมึงเนี่ย "
" กูได้เจอพี่เขาแล้วอ่ะ กำลังคุย กำลังจะขอไลน์แต่เพื่อนเขาดันมาก่อนอ่ะ "
" โห่ ตกใจหมด ไอ้บ้า "
" วันอื่นมันจะได้แบบนี้มั้ยเล่า ! "
" อยู่คอนโดเดียวกัน ตึกเดียวกันแบบนี้ ถ้ามึงพยายามยังไงมันก็ได้อยู่แล้ว "
" เซ็งเลย ไอสึด "
เซฮุนผลักหัวเพื่อนตัวเล็กจนเอียงไปอีกฝั่ง แล้วเดินกลับมานั่งที่โซฟา หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเล่นเหมือนเดิม ปล่อยให้แบคฮยอนยืนกอดอกทำหน้าบูดอยู่หน้าประตูกับเรื่องไร้สาระต่อไป
_______________
ซ้าย whip ขวา bowl นะ
ขอบคุณทุกคนมากนะที่เข้ามาอ่าน
รออ่านคอมเม้นอยู่ด้วยแหละ ยักษ์ ♡
ความคิดเห็น